10 ชนิด ไม้ประดับที่เหมาะแก่การปลูกไว้ในท่ทำงาน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย แมงปอแก้ว, 3 ธันวาคม 2008.

  1. แมงปอแก้ว

    แมงปอแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +139
    1. หมากเหลือง (Areca Palm)
    คุณสมบัติในเรื่องความคงทนต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคาร และการคายความชื่นให้แก่อากาศภายในห้องได้เป็นจำนวนมาก (คายน้ำประมาณ 1 ลิตร ทุก ๆ 24 ชั่วโมง) รวมทั้งความสามารถในการดูดสารพิษจากอากาศได้ปริมาณมาก "หมากเหลือง" ก็เป็นไม้ประดับที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการปลูกภายในอาคารแล้ว ยิ่งบวกกับความสวยงามของใบที่เป็นรูปขนนก หมากเหลืองจึงเป็นไม้ประดับภายในอาคารยอดนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ

    [​IMG]

    2. เดหลี (Peace Lily)
    เป็นไม้ประดับในอาคารที่ฮอตฮิตอีกชนิด เพราะโดดเด่นตั้งแต่ความสวยงามของดอกซึ่งมีลักษณะเป้นช่อสีขาวหรือขาวแกมเหลือง กาบหุ้มช่อดอกมีสีขาวคล้ายดอกหน้าวัว แม้ธรรมชาติของ "เดหลี" จะชอบขึ้นอยู่ตามริมลำธารในป่าฝนเขตร้อน แต่มันก็สามารถปรับตัวได้ดี คือสามารถออกดอกได้แม้นำมาปลูกในอาคาร ที่สำคัญก็ คือสามารถดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮล์ อาซีโตน โตรคลอไรเอทีรีน เบนซีน และฟอร์มาดีไฮด์ได้ในปริมาณมาก
    [​IMG]

    3. พลูด่าง (Heart-Leaf Phildendron)
    คุ้นเคยกันดีสำหรับ "พลูด่าง" ไม้เลื้อยรูปหัวใจสีเขียวสดสลับสีเหลืองนวลที่ชาวไทยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพลูด่างมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการปลูกไว้ภายในอาคาร เนื่องจากสามารถดูดสารพิษจำพวกแอมโมเนีย (ซึ่งถูกปล่อยมาจากเครื่องถ่ายเอกสาร น้ำยาทำความสะอาด และเครื่องถ่ายพิมพ์เขียว) ได้ การดูแลพลูด่างทำได้โดยปลูกไว้ในที่ที่ได้รับแสงสว่างเพียงพอ (ใช้แสงไฟฟ้าแทนได้) เพราะพลูด่างเป็นพืชที่ชอบแสงสว่าง
    [​IMG]
     
  2. แมงปอแก้ว

    แมงปอแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +139
    4. บอสต้นเฟิร์น (Boston Fern)
    เป็นไม้ประดับท่นิยมปลูกในกระถางแขวนหรือในกระถางใช้ประดับตามเสาหิน เนื่องจากมีลักษณะใบขึ้นหนาทึบ ก้านใบแข็งโค้งออกและทิ้งตัวลง ทำให้เมื่อนำมาแขวนหรือใส่กระถางทรงสูงจะดูสวยงามเป็นพิเศษ "บอสต้นเฟิร์น" เป็นไม้ประดับที่ช่วยทำความสะอาดให้แก่อากาศภายในได้ดี สามารถดูดสารพิษได้มาก โดยเฉพาะจำพวกฟอร์มาดีไฮด์ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ภายในอาคารได้อีกด้วย แต่ต้องหมั่นระน้ำให้เสมอ
    [​IMG]

    5. มรกตแดง (Red Emeraid Pildendron)
    เรียกว่าเป็นพันธุ์ไม้เลื้อยในตระกูล Pildendron ที่ดูดสารพิษได้ดีที่สุด สำหรับ "มรกตแดง" ไม้ประดับท่ไพเราะทั้งชื่อ สวยงามทั้งสี (ใบเป็นมันเงาสีเขียวอมแดง) การดูแลมรกตแดงที่ปลูกในอาคารทำได้โดยรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ (อาจใช้กาบมะพร้าวหุ้มไม้ปักไว้ในกระถางพรมน้ำให้ชื้น) และเช็ดใบด้วยผ้าชุบน้ำพอหมาด จะช่วยให้ใบมีสีเขียวเป็นมันดูสวยงาม ถ้าต้องการให้แตกกิ่งก้านสาขามาก ๆ ควรหมั่นเด็ดยอดตั้งแต่ยังเล็ก ๆ อยู่
    [​IMG]

    6. สาวน้อยประแป้ง (Dumb Cane)
    "สาวน้อยประแป้ง" เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกทั้งในอาคารและนอกอาคาร เนื่องจากเลี้ยงง่าย ทน และใบมีลวดลายสวยงาม อีกทั้งยังสามารถดูดสารพิษและฟอกอากาศได้ สามารถปรับ ตัวเจริญเติบโตได้ดีในห้องที่มีความเย็นและสภาพอากาศแห้งแล้ง การที่จะนำสาวน้อยประแป้งเข้ามาตั้งประดับภายในห้องนั้น ระยะแรก ๆ ต้องตั้งเอาไวให้มันเคยชินกับสภาพภายในบ้านก่อนสัก 6-7 วัน จึงเอาเข้าในห้อง เพื่อที่มันจะได้เจริญเติบโตต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก
    [​IMG]

    7. แววมยุรา (Prayer Plamt)
    หากคุณกำลังมองหาไม้ประดับที่เลี้ยงง่ายและสามารถเจริญเติบโตได้ในทุกสภาวะของห้อง ขอแนะนำให้ปลูก "แววมยุรา" เพราะนอกจากมันจะมีใบที่มี ลวดลายและสีสันสวยงามคล้ายหางนกยูงแล้ว แววมยุรายังเป็นไม้ประดับท่ทนทานและปลูกได้ง่าย (แต่ต้องไม่ลืมรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะแววมยุราเป็นพันธุ์ไม้ที่ต้องการน้ำมาก) อีกทั้งยังทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นภายในห้องได้ดี แม้ว่าคุรสมบัติในการดูดสารพิษจะค่อนข้างน้อยก็ตาม
    [​IMG]

    8. เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant)
    ด้วยลักษณะใบที่คล้ายใบหญ้าซึ่งโค้งงอลงด้านล่าง มีต้นอ่อนเล็ก ๆ เป็นกระจุกอยู่ตรงปลายของกิ่งคล้ายแมงมุม เศรษฐีเรือนในจึงเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกในกระถางแขวนกันมากนอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการดูดสารพิษในอาคารได้ดีอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นไม้ประดับที่ดูแลรักษาง่าย รดน้ำเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เนื่องจากเกป็นพืชที่ต้องการความชื้นต่ำ เศรษฐีเรือนใน จึงเป็นไม้ประดับที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบสีเขียว แต่ขี้หลงขี้ลืม (รดน้ำต้นไม้) อย่างยิ่ง
    [​IMG][​IMG]

    9. ยางอินเดีย (Rubber Plant)
    เปี่ยมไปด้วยคุรภาพจริง ๆ สำหรับ "ยางอินเดีย" ไม้ประดับขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นต่างจากไม้ประดับในอาคารทั่วไปเพราะยางอินเดียสามารถเจริญเติบโตได้ดีถึงจะมีแสงน้อย ปลูกง่าย ทนทาน ต้องการน้ำไม่มาก แต่ในทางตรงกันข้ามกลับคายความชื้นได้มาก และที่สำคัญเป็นพืชดูดสารพิษที่ช่วยฟอกอากาศได้อย่างดีเยี่ยม วิธีดูแลให้ใบสวยงามเป็นมันวาวตลอด ทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดเช็ดใบเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น
    [​IMG]

    10. ฟิโลทอง (Golden Pothos)
    ฮอตฮิตไม่แพ้ไม้ประดับภายในอาคารชนิดอื่นเพราะ "ฟิโลทอง" เป็นพืชที่สามารถดูดสารพิษได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสารพิษจำพวกฟอร์มาดีไฮด์ (ซึ่งถูกปล่อยมาจากวัสดุบุผิวและเฟอร์นิเจอร์พาร์ติเคิลบอร์ด พรมสังเคราะห์ กระดาษทิชชู่ และนำยาทำความสะอาด) ได้ พิโลทองเป็นไม้ประดับที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีแดดร่มรำไร จึงควรปลูกลงกระถาง โดยมีหลักให้เลื้อยพ้น ควรระวังไม่ให้มันถูกแดดโดยตรง เพราะจะทำให้ใบไหม้
    [​IMG]

    <CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    ขอบคุณครับ ได้สาระความรู้ดีครับ....^^

    ไม่คิดเลยว่าพลูด่างจะดีแบบนี้ เพราะ แอมโมเนียคือสิ่งที่บริษัทของเฮียต้องใช้ทุกวัน และใช้ในการทำความเย็น
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    คุณเฮียปอฯ อย่าไปใกล้แอมโมเนียนะเจ้าคะ เดี๋ยวระเบิด เพราะเห็นว่ายังมีไฟอยู่ คิก คิก...

    ขอบคุณแม่แมงปอ แก้มป่อง มากเจ้าค่ะ ที่มีสาระดีๆมาฝาก...
     
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    มีที่ แต่ไม่มีใครช่วยปลูก อ่ะ แม่แมงปอ แก้มป่อง มาช่วยหน่อยซี่...
     

แชร์หน้านี้

Loading...