6 โศกนาฏกรรมของแฟชั่นหรูยุคโบราณ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 20 มกราคม 2010.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,066
    6 Popular Fashion Trends (That Killed People)

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    อันดับ 6 คริโนไลน์(crinoline)<O:p></O:p>
    [​IMG]<O:p></O:p>
    คริโนไลน์(crinoline) เป็นกระโปรงที่สวมแบบสุ่ม (เพื่อให้กระโปรงบานออก) เป็นชุดที่มีกระโปรงบานๆ บานมากบานจนเหมือนสุ่มไก่บ้านเราโดยเขาจะทำเป็นโครงให้มันบานใหญ่ โดยโครงทำมาจากมันทำจากขนม้า, เส้นป่าน หรือเหล็ก ซึ่งมันได้รับความนิยมในหมู่คนชั้นสูงในศตวรรษที่ 19<O:p></O:p>
    [​IMG]<O:p></O:p>
    ทำไมมันถึงน่ากลัว? การออกแบบคริโนไลน์ของมันตอบสนองได้ดีทีเดียวเลยแหละเมื่อมีลมแรงๆ มาพัดอย่างกะทันหัน กระโปรงบานๆ ของเจ้าหล่อนจะถูกพัดเหมือนกับร่ม(กาง)ที่ปลิวของลมนั้นแหละ มีหลายรายถูกลมพัดดันให้ตกจากที่สูง(ที่ออกงานของพวกเธออยู่ที่สูงๆ ทั้งสิ้นนี้) และบางรายเพราะหายใจไม่ออกเพราะลมพัดแรงจนโครงเหล็กรัดตัวเธอจนกระดูกหัก บางรายกระโปรงเกิดไปเกี่ยวกับรถม้าและลากผู้หญิงที่ส่งเสียงร้องกรี๊ดตามท้องถนน แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือกระโปรงนี้ติดไฟง่ายสุดๆ และเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ตายเพราะกระโปรงตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1863 ในSantiago ประเทศซิลี ในอเมริกาใต้ มีคนตายกว่า 2000 - 3000 คน ในขณะไฟไหม้โบสถ์ เมื่อไฟผ้าคลุมหน้าต่างโบสถ์เกิดติดไฟ ผู้คนต่างพยายามหนีตายหาทางออกจากประตู แต่เจ้ากรรม ด้วยความกว้างของกระโปรงบานของเจ้าหล่อนดันไปขว้างติดประตูซะนี้(กระโปรงดันใหญ่กว่าประตู)) แถมเอาออกยากซะด้วยสิเพราะมันทำจากโครงเหล็กนี้น่า ซึ่งมันทำให้ทางออกถูกปิดโดยสิ้นเชิง ที่นี้ก็ลองคิดละกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...ก็ตายยกหมู่สิ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 5 เดอะ คอร์ซิท (The Corset)<O:p></O:p>
    [​IMG]
    เดอะ คอร์ซิท (The Corset) เป็นเสื้อรัดลำตัวสตรี,เสื้อยกทรงรัดรูปของสตรี และชุดชั้นในผู้หญิงที่สวมเพื่อให้สะโพกและหน้าอกเข้ารูปทรง นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1830-1839 สมัยวิกตอเรียนที่ตั้งกฎเกณฑ์ศิลธรรมให้ผู้หญิงต้องสั่ง ไม่สั่งถือว่าผู้หญิงคนนั้นสกปรก ต่ำต้อย ไม่มีมารยาทและไม่มีศิลธรรม และสมัยศตวรรษที่ 19นิยมให้สตรีมีเอวคอดกิ่ว อกตั้ง ทำให้เสื้อนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ทำไมมันถึงน่ากลัว? เนื่องจากการใส่คอร์ซิทต้องรัดแน่นมากๆ แน่นจนทำให้กระดูกผิดรูป หรือเราเรียกว่าเอวคอด ซี่โครงจะเจ็บปวดชา อวัยวะเครื่องในจะถูกเคลื่อนย้ายลงต่ำมาถึงก้น ทั้งเป็นสาเหตุให้การไหลของเลือดภายในผิดปกติ ใน1903 มีผู้หญิงที่ตายทันทีเพราะเสื้อรัดลำตัวสตรีที่เป็นเหล็กกระแทกหัวใจของเธอ แต่กระนั้นแฟชั่นนี้ก็ถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบันมาเป็นชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ออกศึกที่นิยมของสาวๆ ทั้งหลาย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 4 ฟุตบาดดิ้ง (Footbinding)<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ฟุตบาดดิ้ง(Footbinding) เป็นการพันเท้าผู้หญิงให้เป็นรูปดอกบัว เป็นประเพณีปฏิบัติของผู้หญิงจีนโบราณซึ่งเป็นที่นิยมในจีนสมัยศตวรรษที่ 8 โดยมันเริ่มมาจากสมัยก่อนจักรพรรดิ์มีเมียหลายคน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่กับเมียน้อยเหล่านี้มากนัก ทำให้หลายนางแอบไปมีชู้ จักรพรรดิจึงใช้วิธีป้องกันโดยการรัดเท้าเพื่อให้พวกเธอเดินเหินไม่สะดวก ซึ่งต่อมากลายเป็นค่านิยมที่ผู้หญิงในวังต้องวัดเท้า ชาวบ้านก็นึกว่าเป็นแฟชั่นของไฮโซเลยทำตามบ้าง จึงกลายเป็นค่านิยมของจีนในที่สุด โดยเกิดวลีว่า “ผู้หญิงที่เท้าเล็ก ยิ่งเซ็กซี่”<O:p></O:p>
    [​IMG]
    ทำไมมันถึงน่ากลัว? กระบวนการพันเท้านั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 5-6 ขวบ โดยคนเป็นแม่จะใช้วิธี หักนิ้วน้อย ๆ สี่นิ้ว แล้วงอย้อนกลับไปทางด้านหลัง แล้วก็เอาผ้ามาพันเอาไว้ โดยจะพันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนได้เท้าที่เล็กตามต้องการ(บางตำราก็เขียนว่าให้เอาเท้าแช่ปัสสาวะและกระเพาะแพะ) นอกจากนี้ผู้ที่ทำการพันเท้า กล้ามเนื้อตั้งแต่บริเวณสะโพกลงไปจะต้องเกร็งมากในการเดินแต่ละครั้ง เมื่อเยื้องย่างด้วยท่าอ้อนแอ้นแลดูสวยงาม จะเกิดความเจ็บปวดแสนสาหัส ราวเข็มพันเล่มกระหน่ำแทงพวกเธอราวกับขุนนรกโลกันต์ เท้าที่ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา กลิ่นจะเหม็นมากๆ จนเป็นแผลเน่า และเลวร้ายที่สุดคือเธอไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกเกิดมีไฟไหม้บ้าน โจรมาข่มขืนละก็คงแล้วแต่ดวงแหละเพราะหนีไม่ได้...เหอๆ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 3 ฟองตางเก (The Fontange) <O:p></O:p>
    [​IMG]
    ผมทรงฟองตางเก(The Fontange) เป็นการทำเกล้าให้ผมสูงไว้กลางศีรษะ มัดโบเล็กๆ หลายอันด้านหน้า จากนั้นประกบด้วยลูกไม้จีบและมัดมวยผมเป็นแผง 3 - 4 ชั้น วนไล่ขึ้นไปเป็นยอด ด้านหลังกับด้านข้างทิ้งปอยหยิกห้อยและผูกโบว์ยาวซึ่งยิ่งผมสูงยิ่งดีแสดงถึงฐานะ โดยแฟชั่นนี้นิยมในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 -18 <O:p></O:p>
    ทำไมมันถึงน่ากลัว?ทรงผมนี้มันติดไฟง่ายครับ ยิ่งงานราตรีที่มีโคมไฟระยิบระย้ายิ่งติดไฟง่ายไปใหญ่แถมเวลาไฟติดบนหัวของเจ้าหล่อนละก็ตัดยากสุดๆ เพราะหัวเธอเต็มไปด้วยวัสดุติดไฟง่ายทั้งนั้น และจากผมก็จะลามมาถึงคอและหน้าและมือ จากสาวสวยกลายเป็นสุเทพ สีใสทันที ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นกับ Angelique de Fontanges ชู้รักคนโปรดของกษัตริย์อังกฤษคนหนึ่งที่ตายเพราะทรงผมของเธอตัดไปโดนเทียนทำให้หัวของเธอติดไฟ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 2 ลีด เมคอัพ(Lead Makeup)<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    เป็นการทำให้หน้าขาวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของตะกั่ว ว่ากันว่าต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีกในยุคโบราณกว่า2,000 ปีมาแล้ว และนิยมในฝรั่งเศสศตวรรษที่ 14 -19 ซึ่งสังคมนั้นมันชั้นสูงมากๆ แบบใครผิวดำถือว่าเป็นคนไม่มีเงิน(เพราะคนผิวดำมักทำงานหนัก คนผิวขาวไฮโซไม่ต้องทำงาน) ซึ่งคนดังที่ใช้แป้งข่าวทานั้นก็มีสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ <O:p></O:p>
    ทำไมมันถึงน่ากลัว?แน่นอนเพราะมันมีส่วนประกอบของตะกั่ว ซึ่งทางอนามัยโลก จัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอยู่แล้ว โดยลีด เมคอัพเครื่องสำอางโบราณนั้นมี ส่วนประกอบคือตะกั่วขาวผสมกับขี้ผึ้ง ไขมันสัตว์ น้ำมันและไข่ขาว ซึ่งสารตะกั่วนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้เบื่ออาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มึนงง แขนขาชา ตาบอด และหายใจไม่ออก บางครั้งอาจเสียชีวิตได้ หรือถ้าร่างกายสะสมตะกั่วมากๆ อาจเป็นมะเร็งได้<O:p></O:p>
    โดยในปี 1760 Marie Gunning สตรีชั้นสูงชาวไอริชที่มีชื่อเสียงในด้านหน้าขาวของเธอกลายเป็นเหยื่อรายแรกของการใช้สารตะกั่วพิษ และในปี 1878 คุณนาย Madame Rachel,ก็ตายเพราะพิษของตะกั่วที่ทาบนหน้าเช่นกัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 1เดอะ สตีฟ ไฮ คอลล่า (The Stiff High Collar)<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    เป็นคอเสื้อแข็งๆ ใส่เพื่อให้ปกเสื้อสูงขึ้น นิยมใช้กับผู้ชายในศตรรษที่ 19 โดยคอเสื้อจะเป็นสีขาว เวลาใส่ก็เอาชุดเชิ๊ตมาใส่ทับอีกที ทำให้เหมือนเป็นคนขี้โอ่ มีอำนาจ โดยบุคคลสำคัญที่ใส่ก็มี ออสกา ไวลด์Oscar Wildeนักประพันธ์ชาวไอซ์แลนด์
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ทำไมมันถึงน่ากลัว? ที่เยอรมัน, เดนมาร์ก และดัชท์ เรียกเจ้าปลอกคอนี้ว่า"พ่อมือสังหาร father killer " ซึ่งดูรูปร่างคงจะทราบแล้วมั้งว่ามันน่ากลัวยังไง คือมันทำให้ทำให้คนสวมหายใจลำบากและอึดอัดที่ลำคอเพราะมันค่อนข้างบีบรัดคอพอสมควร ซึ่งคนสวมมักเสียชีวิตในขณะใส่ชุดนี้ตอนเวลานอนและพอมันรัดคอคนสวมมักตายเพราะขาดอาการหายใจอย่างไม่รู้ตัว และทำให้เกิดฝีในสมอง เวลากินข้าวก็ผ่านลำคอยากแต่ที่ร้ายสุดๆ คือมันเหมือนกิโยตินแบบพกติดตัวคือในปี 1800 ชายคนหนึ่งหัวขาดเพราะคอเสื้อไปเกี่ยวกับรถขณะวิ่งมาแล้ว<O:p></O:p>
    <SCRIPT type=text/javascript><!--playSound();showPoll();//--></SCRIPT>
     

แชร์หน้านี้

Loading...