เรื่องเด่น 8 สภาวะทางสมาธิ ที่ทำให้เกิดอิทธิฤทธิ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 1 ตุลาคม 2018.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ดีดดิ้นตีแปลง แบบควบคุมตนเองไม่อยู่ แถลดแถดแถลื่นไหลไปทั่ว จนมั่วไปหมด ลาก "มโนโคตรแมง" มาพันกันจนปลิ้น โคตรมั่ว จน "จิตล้มเหลว" แล้วเสือกมาคุยเรื่อง "ฌาน" อยากดังจนตัวสั่น จนถึงต้อง ลงเฟสบุ๊ค โถไอ้ยัดแมงเอ๋ย ลากเหตุผลแบบ "ถอกกวย" ไปเรื่อย ๆ

    +++ ตอนนี้ "ลากอิสลาม" เข้ามาอีก "ไอ้ยัดแมง Jera" มึงจะลากเอาใครมาอีก ก็ตามความชั่วร้ายของมึง แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ รู้ชัดเจนว่า "มึงผิดทั้งหมด (ยกเว้นคนปัญญาอ่อน)"

    +++ และอีกประการที่ชัดเจนที่สุดคือ "ทุกคนที่เข้ามาอ่าน จะรู้ สันดานของมึงชัดเจนมาก" ว่า ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด มุ่งหน้าแต่ "เอาหัวมุดเหตุผลที่มึง มโนขึ้นมาเองทั้งหมด" แบบเดียวกับ "ไอ้หน้าตัวเมีย ที่มัวแต่เอา หัวมุดผ้าถุุงตลอดเวลา" และนี่คือ "สันดานของ ยุสเซอร์ Jera, ที่แต่ก่อนใช้ชื่อ dota0321"

    +++ การฝึกที่ผิด ย่อมให้ผลออกมาผิด ให้ทุกคนศึกษาเอาไว้เป็น "กรณีตัวอย่าง" ที่ จขกท นี้เป็นอยู่ ให้ตรวจตามลิ้งค์ ที่ผมให้ไว้ในกระทู้นี้ ในสมัยที่ จขกท ยังใช้ชื่อ dota0321 อยู่

    +++ จากนั้นให้เปรียบเทียบกับ จขกท ที่ตอนนี้ให้ชื่อว่า Jera จะสังเกตุพฤติกรรมได้ว่า "เปลี่ยนไปแบบ หน้ามือ สู่ หลังตีน" กันเลยทีเดียว

    +++ ทั้งหมดเกิดจาก "การฝึกที่ผิดมหันต์" ให้อ่านเอาให้ดี ๆ ละเอียด ๆ ก็จะรู้ชัดถึง "ต้นสาย สู่ ปลายเหตุ" ทุกประการได้เอง กระทู้แค่ ไม่กี่หน้านี้ เพียงพอต่อการ "วินิจฉัย" ถึงเหตุที่ทำให้ สันดานเปลี่ยน จาก "คนที่มีโอกาสไปได้ดี กลับกลายเป็นการ ตัดมรรคผลของตนเอง ไปอย่างสิ้นเชิง"

    +++ ให้ทุกคนถือเป็น "บทตรวจสอบ กรณีตัวอย่าง" จากในกรณี dota0321 สู่ Jera จากคนที่ "มีอนาคต สู่ คนที่หมดอนาคต ในทางธรรม" นะครับ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อันนี้เป็นประสบการณ์ของผู้เขียนที่ปฏิบัติแล้วได้อิทธิฤทธิ์เกิดขึ้นมาตามสภาวะที่ตนเองได้ แล้วนำมาถ่ายทอดให้คนอื่นรู้และเข้าใจว่าจะต้องมีลักษณะสภาพแบบนี้ใช่ไหมค่ะ ตนเองก็เคยประสบแต่ละสภาวะนั้นแบบนั้น ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ฤทธิ์อะไรเลย อันเนื่องมาจากยังไม่ชำนาญเป็นวสีก็ได้ แต่...ถึงแม้ว่าบุคคลใดท่านใดที่ฝึกออกมา แล้วได้ฤทธิ์ ตามเหตุปัจจัยที่แต่ละบุคคลได้มา สิ่งนั้นก็เป็นฌานที่เป็นมิจฉาทิฐิ หรือ เรียกว่า ฌานฤาษีค่ะ เพราะอะไร? ฌานฤาษี ใคร ๆ ก็สามารถใด้ จะได้ฤทธิ์มาแบบไหนก็แล้วแต่นิสัยวาสนาของตนได้สั่งสมไว้ ไม่ว่าจะได้ฤทธิ์ด้วยวิธีใดไปตามต่าง ๆ นานาก็เป็นเพียงโลกิยะอภิญญา เพราะว่าบางคนที่ได้มาก็หลงอัตตาไปเสียมาก พระพุทธองค์ไม่ได้เคยปฏิเสธในเรื่องฌาน แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า หากเป็นฌานที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอน คือ อริยสาวกของเรา ตายไปแล้วก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่ถ้าปฏิบัติตามคำสอนคือฌานในพระศาสนา ผู้ที่ได้ฌานนั้น ๆ สามารถที่จะบรรลุนิพพานได้ในชั้นพรหมได้เลย ความแตกต่าง

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=3451&Z=3504&pagebreak=0

    สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจปฐมฌานนั้น และถึงความปลื้มใจด้วยปฐมฌานนั้น ตั้งอยู่ใน
    ปฐมฌานนั้น น้อมใจไปในปฐมฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยปฐมฌานนั้น ไม่เสื่อม

    บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจทุติยฌานนั้นและถึงความปลื้มใจด้วยทุติยฌานนั้น ตั้งอยู่ในทุติยฌานนั้น น้อมใจไปในทุติยฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยทุติยฌานนั้น ไม่เสื่อม

    อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข บุคคลนั้นพอใจ
    ชอบใจตติยฌานนั้น และถึงความปลื้มใจด้วยตติยฌานนั้น ตั้งอยู่ในตติยฌานนั้นน้อมใจไปในตติยฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยตติยฌานนั้น ไม่เสื่อม

    บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจจตุตถฌานนั้น และถึงความปลื้มใจด้วยจตุตถฌานนั้น ตั้งอยู่ในจตุตถฌานนั้น น้อมใจไปในจตุตถฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยจตุตถฌานนั้น ไม่เสื่อม

    และยังทรงตรัสต่อว่า....

    เมื่อกระทำกาละย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่า....... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๔ กัปเป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่าสุภกิณหะ ปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นสุภกิณหะนั้น
    ตราบเท่าตลอดอายุ ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทวดาเหล่านั้นให้สิ้นไปแล้ว ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง

    ส่วน...สาวกของพระผู้มีพระภาคดำรงอยู่ในชั้น........นั้น ตราบเท่าตลอดอายุ ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทวดา
    เหล่านั้นให้สิ้นไปแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นความพิเศษ ผิดแผกแตกต่างกัน ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ คือ ในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่ ฯ

    ฌานฤาษีจะจมอยู่แค่ในภวังค์ แต่จะไปตันแค่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ไม่สามารถดับทุกข์ถาวรได้ พระพุทธองค์จึงให้ออกเข้าฌานเป็นบาทฐานเพื่อมาทำวิปัสสนารู้รูปนาม

    ฌานฤาษีดับเลสได้ในขณะอยู่ในฌานโดยการกดข่มทับกิเลสเอาไว้ออกจากฌานมาไม่นาน อารมณ์ฌานจางกิเลสก็กำเริบเหมือนเดิม

    ฌานพระพุทธเจ้า ทำฌานไปด้วย พิจารณาต้นตอกำเนิดของกิเลสไปด้วย ให้เห็นจริง เบื่อเอง ด้วยตัวเอง ออกจากฌานมาความรู้นั้นก็ยังอยู่ เมื่อเห็นแล้ว เบื่อแล้ว ย่อมละกิเลสได้แม้ออกจากฌาน

    ฌานพระพุทธเจ้าพิจารณาไตรลักษณ์ได้ทั้งแปดฌาน


    ไม่ต้านไม่ตามไม่ติดไม่จม...ฝึกฝนตนให้รู้เท่าทันกระแสจนสามารถยกตนขึ้นมาจากกระแสให้ได้...เหมือนกับบุคคลที่กำลังนั่งอยู่บนฝั่งมองกระแสน้ำที่กำลังใหลไปอยู่ฉะนั้น


    -ฌานฤาษี จิตเพ่งไปจับอารมณ์ภายนอก หรือ เพ่งไปจับบัญญัติมาเป็นอารมณ์ของจิต ไม่ได้เพ่งย้อนเข้ามาข้างในตนเอง คือ ไม่ได้เพ่งย้อนมาจับรูปนาม หรือกายใจ หรือขันธ์ ๕ ของตนเอง มาเป็นอารมณ์ของจิต จึงไม่อาจจะทำลายกิเลสชั้นลึกหรือชั้นอนุสัย(ชั้นสังโยชน์ ๑๐)ได้.....ดังนั้นพวกฝึกฌานฤาษี จึงไม่เห็นพระนิพพาน แต่อาจจะได้อภิญญา ๕ เพราะสามารถข่มกิเลสได้แค่ชั้นนอก(วีติกกมะ) และชั้นกลาง(ปริยุฏฐาน)

    -ฌานของศาสนาพุทธ เพ่งย้อนมาจับรูปนามหรือขันธ์ ๕ หรือกายใจของตนเองเป็นอารมณ์ของจิต จึงสามารถเกิดวิปัสสนาญาณขึ้นมาได้ ซึ่งจะสามารถทำลายกิเลสได้หมดทุกๆชั้นจนเห็นพระนิพพานได้



    รู้ในอารมณ์เดียว อารมณูปนิฌาน
    รู้ในการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ลักขณูปนิฌาน

    ฌานฤาษีเป็นอย่างไร?


    เพ่งอารมณ์บัญญัติอย่างเดียว เมื่อเกิดฌานแล้ว ไม่รู้วิธีออกจากฌาน มาเจริญวิปัสสนา เพ่ง ลักขณูปนิชฌาน

    แม้ชาวพุทธในปัจจุบัน ก็ไม่ค่อยรู้จัก วิธี ลักขณูปนิชฌาน แต่เข้าใจว่า อารัมมณูปนิชฌาน คือ วิปัสสนาญาณ

    อารัมมณูปนิชฌาน การเพ่งอารมณ์ ได้แก่ สมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4

    ลักขณูปนิชฌาน การเพ่งลักษณะ ได้แก่ วิปัสสนา มรรค ผล

    ดังนั้น ถ้าฌานใดที่เพ่งลักษณะ หรือสมาธิใดที่พิจารณาลักษณะที่กำลังเปลี่ยนแปลง(ลักขณูปนิชฌาน) สมาธินั้นชื่อว่าเป็นบาทของวิปัสสนา และเรียกสมาธินั้นว่า จิตตวิสุทธิ ส่วนสมาธิใดที่เพ่งอารมณ์บัญญัติ (อารัมมณูปนิชฌาน) ไม่เพ่งลักษณะ ไม่จัดว่าเป็นจิตตวิสุทธิ

    และ

    ฌานสูตรที่ ๒
    [๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก๔ จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ รูป เวทนา
    สัญญา สังขาร และวิญญาณอันใด มีอยู่ในปฐมฌานนั้น บุคคลนั้นพิจารณาเห็นธรรมเหล่านั้นโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นดังโรค เป็นดังหัวฝีเป็นดังลูกศร เป็นของทนได้ยาก เป็นของเบียดเบียน เป็นของไม่เชื่อฟัง เป็น
    ของต้องทำลายไป เป็นของว่างเปล่า เป็นของไม่ใช่ตน บุคคลนั้นเมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าสุทธาวาส ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอุบัตินี้แลไม่ทั่วไปด้วยปุถุชน ฯ

    อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ รูป เวทนา
    สัญญา สังขาร วิญญาณอันใด มีอยู่ในจตุตถฌานนั้น บุคคลนั้นย่อมพิจารณาเห็นธรรมเหล่านั้น โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นดังโรค เป็นดังหัวฝี เป็นดังลูกศร เป็นของทนได้ยาก เป็นของเบียดเบียนเป็นของไม่เชื่อฟัง เป็นของต้องทำลายไป เป็นของว่างเปล่า เป็นของไม่ใช่ตน
    บุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าสุทธาวาส ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอุบัตินี้แลไม่ทั่วไปด้วยปุถุชน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๔


    หาข้อมูลมาให้พิจารณาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2018
  3. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    --ลาก กับ เปรียบเทียบมันค่อนข้างชัดเจนนะฮะ
    555 ไปชี้ว่าคนอื่นมั่ว ผิด เเต่ตัวเอง ก็สอนมั่วผิดนะฮะ
    ใครผิดไปจากตัวเอง ก็ด่า พอด่าไม่ได้ ก็ขู่
    มันไม่ต่างจากการสอนให้งมงาย เลยฮะ

    --เอิ่ม.. ท่าน อจ. เองคงถอนตัวยากเเล้วหล่ะลูกศิษย์เริ่มเยอะ
    เดี่ยวจะเสียหน้า ต้องเอาชนะในทุกวิถีทาง ขุดกระทู้ ..
    โชว์มั่ว เดี่ยวจะเสียบารมีที่สั่งสมมาหลายปี


    --ที่ยก มาอ้าง.. ก็เพราะไม่ใช่มีคนเดียวที่เป็นเเบบนี้
    เเต่ชุดความรู้เเคบๆ มันก็ชี้คนอื่นว่าผิด ไปทั่ว


    --พยายามยก เล่น Ad hominem อย่างเดียว นี่คงเรียกว่าการ
    คุยด้วยเหตุผล ถ้าผมเล่น ครอบครัว อจ. อบรมสั่งสอนได้มาดีมาก อยู่ใน
    สังคมเเวดล้อมที่ดีมาก เพราะการใช้คำพูดของ อจ. ไม่ได้บอกถึงการได้รับการขัดเกลาทางการเเสดงออก ในสังคมส่วนรวม

    --พฤติกรรม ..ไม่ยอมลงให้ใครมันมีเฉพาะพวกที่สะสมทิฏิจากการยกย่องสรรเสริญนะฮะ
    เพราะกลัวเสียหน้า ไอ้ตัวนี้มันเลยสั่งสมว่าเราจะผิดไม่ได้ ..เถียงจนตัวตาย

    -- ใครต้องการยกย่องอ่ะครับ 55 ที่มาด่ากันผมว่าผมชอบมากกว่านะฮะ ที่เอาชุดความรู้ที่ตัวเองมีมาเเย้ง มาขู่ มาด่า ผมอ่ะอ่านหมด เเละผมไม่ได้บอกว่าตัวเองถูก เเละสมาธิ อิทธิฤทธิ์ มันก็มีทุกที่ ทุกศาสนา เเต่มันมีบางคนอะไร ก็พุทธๆๆ

    --คนที่มีศิษย์คอยยกย่องสรรเสริญตลอด จนอาการเป็นเเบบนี้ มันน่าเป็นห่วงกว่าผมนะครับ
    ไม่รู้ว่าตอนนี้อัตตา ออร่า มันพอกพูนหนากี่เมตรเเล้วนะฮะ
     
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ดีดดิ้นตีแปลง แบบควบคุมตนเองไม่อยู่ แถลดแถดแถลื่นไหลไปทั่ว จนมั่วไปหมด

    +++ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด มุ่งหน้าแต่ "เอาหัวมุดเหตุผลที่ มโนขึ้นมาเองทั้งหมด" แบบเดียวกับ "ไอ้หน้าตัวเมีย ที่มัวแต่เอา หัวมุดผ้าถุุงตลอดเวลา" และนี่คือ "สันดานของ ยุสเซอร์ Jera ในปัจจุบัณ"

    +++ ไม่ว่าใครก็ตาม ที่อ่านมาตั้งแต่ต้น ก็รู้เองว่า "มันไม่เคยพูดให้ อยู่กับร่องอยู่กับรอย เอาเสียเลย"

    +++ ตรงนี้เป็นอาการ "แรกเริ่มของการ เสียสติ" ซึ่งต่อไป มันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เอง ด้วยตัวของมันเอง

    +++ ขี้เกียจ "เสียเวลา" กับไอ้กระทู้ของคน เสียสติ ของยุสเซอร์ Jera อีกต่อไป แค่นี้แหละ หุหุ
     
  5. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    -- เเห่มมีดีเเค่ขู่นะครับ เอาไว้หลอกเด็กให้กลัวเถอะครับ เดี่ยวตกนรกบ้าง เดี่ยวเสียสติบ้าง;)
    ไอ้ขู่ให้คนยอม ให้คนกลัว มันเป็นหลักพื้นฐานก็ความเชื่อโดยขาดปัญญาอ่ะครับ ไอ้เจ้าลัทธิมันไม่พอใจมันก็เเช่งมันก็ด่า เพราะมันทำ ...อะไรไม่ได้ นอกจากขุด..:D

    -- เรื่องที่ตัวเองไม่รู้ดันไม่ยอมรับ ..กลับยกหางตัวเองไปเรื่อย ใครมาขััดกับสิ่งที่ตัวเองยึดว่าถูก
    ก็ดิ้นทำเป็นอยู่ไม่สุข

    -- เครื่องอยู่ของท่าน อจ. วันๆ คงมานั่งตกเเต่งคำ ให้คนเสพอ่ะครับ ไอ้ที่ว่าตัวเองผ่านมาหมด
    555 ผมอ่านละขำ เพราะไอ้ที่ผ่านมาไม่ได้มาช่วยเสริมสติปัญญาให้เเจ่มใสเลยอ่ะครับ
     
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ใช่เลย ใครอ่านมาตั้งแต่ต้น ก็รู้เอง ว่า "ยุสเซอร์ Jera" บิดเบือนธรรมะ ดัดแปลง ดัดจริต ธรรมะ ให้ผิดเพี้ยน

    +++ ตัวอย่าง เอาข้อแรกของไอ้ "มโนโคตรมั่ว" ตัวนี้ก่อน
    +++ อาการเคลิ้ม คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น คือ "สติหายไปเหลือไม่ถึงครึ่ง" มีสติเหลืออยู่ไม่ถึง 50 % น้อยกว่าปกติ ซึ่งช่วงนี้ จิตจะตกอยู่ใน "ภวังค์" โดน ภวังค์ครอบงำจนมิด หากมีอาการ "มโน" เข้ามาแทรกแม้แต่เพียงนิดเดียว ย่อมโดน "มโนหลอน" ได้ทันที และทำให้ผู้ฝึก "เชื่องมงาย" อย่างหัวปักหัวปำ ว่า "มีริด มีผัสพิเศษต่าง ๆ ได้"

    +++ ยุสเซอร์ Jera พยายาม "บิดเบือน" ว่า "สติหาย" จน "สลึมสลือ คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น" นี้ จะมี "ริด" เช่น "ยินเสียงจากมิติอื่น รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ในสถานที่อื่น"

    +++ ทั้ง ๆ ที่ "สติเหลือแค่ระดับนี้" สมควรเตรียมตัว "เรียก รถปอเต็กตึ้ง" มาเตรียมพร้อมได้แล้ว

    +++ นี่คือ "ตัวอย่างข้อแรก" ในการโพสท์เบื้องต้นของ ยุสเซอร์ Jera นอกจากนั้น มันยัง "มโน แบบ สติเหลือไม่ถึงครึ่ง" อีกว่า
    +++ ทั้ง ๆ ที่ เวปนี้ คือ "เวปพลังจิต เวปเพื่อ พระพุทธศาสนา" แต่อาการ "สมองขาด อ๊อกซิเจน" ทำให้เหลือ "สติไม่ถึงครึ่ง" มันเลย "มโน" ว่า นี่เป็น เวปของมัน มันใช้เงินของมันทำ

    +++ ใครก็ได้ "ช่วย" เรียก ปอเต็กตึ้ง เอามันไปส่ง โรงพยาบาล ทีนะ ตอนนี้ "อาการหลอนของมัน" กำเริบแล้ว
     
  7. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    อยู่ดีๆไม่ว่าดี เข้ามาว่าตัวเองซะอย่างนั้นอะนะ ไม่น่าเลยจริงๆ อิอิ

    995633fa7e5b451b19315d80fae4576f.jpg
     
  8. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    -- เว็บที่ผมทำ มี 3 เว็บ เเล้วบทความนี้ผมเขียนเล่นๆ ไว้ที่เว็บของผม koidoo.com ซึ่งก็มีหลายท่านเอาไปเเชร์บนเว็บตัวเองรวมถึงเว็บพลังจิต (เเละท่านเจ้าของโพส ก็ให้เครดิตทิ้งท้ายไว้เเล้ว ว่าเอามาจากไหน) ฉะนั้นอย่าหลอน ว่าผมกล่าวอ้างว่าผมพูดว่าเว็บนี้เป็นเว็บตัวเอง

    -- เเต่ผมเห็นเเล้วอนาถใจมากคนเเถวนี้ ความหนักเเน่นทางใจไม่มีเลย 555 เจอจี้ใจดำ ถึงกับผิดความตั้งใจตัวเอง ที่บอกว่า "พอเเค่นี้" นี่เเหละหนาผลของการพูดเอาธรรมเข้าตัว ให้ตัวเองดูดี ไม่เหมือนท่าน โดเรม่อน เลย

    -- ค่อยๆตีใจความให้เเตก ใส่เเว่นตาก่อนก็ได้ 555 ผมเข้าใจนะ ว่าเป็นพวก low tech ที่พยายามโชว์ว่ามีความรู้นะครับ เเต่เรื่องที่ไม่รู้ก็อย่าไปเเสร้งว่ารู้

    -- ดูเเล้วท่าน อจ. เรื่องที่ถนัด ก็ กล่าวร้ายชาวบ้าน เสกสรรค์ปั้นคำ หลอนไปกับภวังค์ความคิดเดิมๆของตัวเอง สุนัขเวลามันเห็นอะไรที่ไม่คุ้นมันก็เห่าไปทั่ว เพราะมันขาดปัญญาพิจารณา ตอนนี้ผมเริ่มมีสัมผัสพิเศษหล่ะครับ ว่า ท่าน อจ. นี่ระยะสุดท้ายของการหลงตัวหลงตน

    -- ความหนักเเน่นไม่มี ตีธรรมะเข้าตัวเอง กล่าวร้ายทั้งที่ตัวเองไม่มีองค์ความรู้อะไรเลย ขอให้โชคดีนะครับในภพถัดไป
     
  9. Rogulair

    Rogulair Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +53
    ความตั้งใจกับการกระทำมันสำคัญที่ทำให้เกิดผลอย่างไรครับ.
    แล้วจะรู้เอง.
     

แชร์หน้านี้

Loading...