989พระอภิญญาสายเหนือโลก/เครื่องรางควรค่าแก่การบูชา989

หลวงปู่ท่านอภิญญาจิตสูงมากๆขนาดต้องปิดตัวเองกลัวคนปรามาสจะลงนรก เพราะทำอะไรพิศดาร จากที่หลวงพ่อปานอาจารย์ท่านกำชับไว้
ท่านเป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ ซึ่งมีได้ยากหาได้ยาก เต่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้านี้คือพระดีที่คนตามหากันและนานๆจะได้มานี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มานะครับปกติไม่ทันคนอื่น เด่นแรงโชคลาภโภคทรัพย์ท่านทำให้โดยตรง


เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าพญาเต่าเรือน หลวงปู่บุญศรี ท่านได้เมตตามอบ พระคาถาหัวใจพระปัจเจกพุทธเจ้า (พุทธะ มะอะอุ วิระทะโย) หัวใจพญาเต่าเลือน (นาสังสิโม) ซึ่งมีพุทธคุณเด่นดังนี้. ทางโชคลาภ เรียกทรัพย์ หากินคล่อง
และนอกจากนั้นหลวงปู่ท่านยังเมตตาเขียนอักขระยันต์ครู ลงบนท้องและหลังของพญาเต่าเลือนให้อีกด้วย.
เหรียญในรูปนี้เป็นเนื้อทองเหลืองสตางค์อย่างดี (เนื้อทองสตางค์เป็นเคล็ดในทางโภคทรัพย์)
เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าพญาเต่าเลือน หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ ได้เมตตาอธิฐานจิตให้ 2 วาระ โดยครั้งแรกได้อธิฐานจิตวันที่ 5 ธันวาคม 2539 ครั้งที่สองได้อธิฐานจิตวันที่ 14 ธันวาคม 2539 (เสาร์ ๕)
(ส่วนบล็อคเหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าพญาเต่าเลือนนั้นคณะศิษย์ได้ขออนุญาติทำลายต่อหน้าหลวงปู่)
***ผู้มีตาดีได้สัมผัสบอกว่าในเหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นนี้ ด้านพลังเหมือนคลื่นน้ำทะเลลูกใหญ่พร้อมซัดเข้าฝั่งมีความหนาแน่นในกระแสพลังอย่างมาก
ผนวกกับกระแสดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก มีคุณทางด้านมหาโภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยมหาลาภ โชคลาภ ดึงดูดโชคลาภ
เปรียบเสมือนตาข่ายดักทรัพย์ ทั้งยังเป็นมหาเสน่ห์ มหาอำนาจ มหาสะท้อนหนุนดวงชะตาเสริมบารมี ขจัดอุปสรรค
พร้อมรักษาโรคภัยด้วยการทำน้ำมนต์ ทั้งยังป้องกันภัยอันตราย ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสยและแก้
เป็นมหาอุตกันอาวุธ กันรังสีต่างๆ พร้อมทั้งอธิษฐานขอพรขอลาภ รัศมี 37 เมตร มีเทพรักษาองค์พระ
การปลุกเสกได้รับพระเมตตาจากพระปัจเจกพุทธเจ้ามาสงเคราะห์ สาธุ
***เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์..มีปลัดอาวุโสคนหนึ่งคิดว่าตัวเองหมดสิทธิ์ที่จะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นนายอำเภอคิดว่าคงปล่อยวางแล้ว..ด้วยอายุที่เยอะ.
แต่ก็ได้มีลูกศิษย์หลวงปู่ได้นำเหรียญรุ่นนี้ไปให้ แล้วก็บอกว่าลองอธิษฐานขอบารมีให้ท่านช่วยนะ เมื่อพบทางตัน อับจนหนทาง อธิษฐานขอให้ท่านช่วยได้
ปลัดอาวุโสคนนี้ก็ได้รับเหรียญรุ่นนี้ไว้แล้วก็อธิษฐานขอบารมีให้ช่วยเหลือ ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาก็ได้จริงๆ ได้แบบไม่น่าเชื่อ ได้เลื่อนขั้นเป็นนายอำเภอดั่งที่ตั้งใจไว้.
ญาติๆ พี่ๆ น้องๆ และคนอื่นๆ ต่างคนก็จับจ้องกันว่ามีดีอะไร.ถึงได้เลื่อนขั้นเป็นนายอำเภอ. ปลัดอาวุโสคนนี้จึงบอกว่า เพราะบารมี "เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าพญาเต่าเลือน" นี่ไง สาธุ
พอได้ยินเท่านั้นแหละ..ต่างคนต่างก็ถามชื่อผู้เสกและก็ถามชื่อวัดกันใหญ่ และก็ได้ดั้นด้นตามหากันจนเจอ...มาร่วมทำบุญกันไปเยอะเลยทีเดียว..
.. เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าพญาเต่าเลือนเด่นมากเรื่องโภคทรัพย์ .. (เพราะท่านแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ท่านเคยพูดกับลูกศิษย์ของท่านไว้ว่า "ทำบุญกับหลวงตาเล็กเหมือนทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า)
------------รวมบันทึกโดยลูกศิษย์หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ------------
หลวงพ่อน้อย ก่อนที่จะมาจำพรรษา กับ หลวงปู่ ท่านเล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ ท่านออกธุดงค์ในป่าลึก..ท่านได้ล้มป่วย ร่างกายอ่อนเพลียร์มาก ได้ล้มตัวลงนอน..ท่านนอน สลึมสลือ..เหมือนจะเป็นลม..และอาจถึงแก่มรณภาพ ได้ ก็ ปรากฏว่า มีพระแก่ๆรูปหนึ่ง เดินถือกระป๋องน้ำมา..แล้วได้เมตตา เอาน้ำให้ดื่ม..และได้ เมตตาช่วยดูแลจนกระทั่งอาการดีขึ้น..จากนั้น ท่านได้ถามว่า หลวงพ่ออยูู่วัดที่ไหน ทำไมถึงมาเดินกลางป่าได้..พระหลวงตาแก่ๆ รูปนั้น ได้บอกว่า อยู่ วัดใหม่ แถวๆ พยุหะคีรี นครสวรรค์...เมื่อพระรูปนี้อาการดีขึ้นแล้ว พระหลวงตา ก็ ขอตัวกลับ..กาล ต่อ มา..หลังจากออกมาจากป่า ได้มาตาม หา พระหลวงตาแก่ๆองค์นั้น..จึงได้ พบว่า เป็น หลวงปู่บุญศรี อยู่ที่วัดใหม่ศรีสุทธาวาส นี่เอง
*****สมัยก่อนครั้งที่ผมยังอยู่ ตาคลี ผมได้ฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อฤาษี และได้มาเจอหลวงปู่บุญศรีช่วงปี ๓๙ หลวงปู่ท่านเมตตาเปิดโอกาสให้ผมถามท่านได้เกือบจะทุกเรื่อง.
มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านได้เรียกให้ผมไปบีบนวดท่าน ตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้าของท่าน ตอนแรกผมปฏิเสธ เพราะกลัวบาป กลัวนรกจะกินหัว แต่หลวงปู่ท่านก็เมตตาบอกว่าฉันอนุญาติแล้วไม่เป็นไร.
ผมบีบนวดท่านไปผมก็ถามท่านไปเรื่องปฏิบัติ.. ผมถามท่านว่าหลวงปู่ครับ "สมเด็จองค์ปฐม" เป็นอย่างไรครับ พระมหากัสสปะท่านอยู่ที่ไหนครับ.
พอถวายบีบนวดท่านเสร็จ..หลวงปู่ท่านก็เมตตาบอกว่า.เดียวพาไป หลวงปู่ท่านอภิญญาสูงมาก ท่านให้ผมนั่งหลับตาภาวนา. สักพักดวงจิตผมก็หลุดออกไป.เห็นหลวงปู่ท่านยืนอยู่.ท่านคอยคุมดูแลผมอยู่.แล้วท่านก็พาขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐม
ท่านองค์ใหญ่มาก.ข้างบนสวยงามมากๆ ยังติดตาผมอยู่เลย พอกราบสมเด็จองค์ปฐมเสร็จก็ลาท่านกลับ . หลวงปู่ท่านบอกว่าเดียวพาไปกราบ "พระมหากัสสปะ" ท่านอยู่ที่สิบสองปันนา หลวงปู่ก็เมตตาพาผมไป.
ณ ที่ดินแดนนั้นสวยงามมากๆ หลวงปู่ท่านเมตตากับผมจริงๆ สักพักหลวงปู่ท่านก็พาผมกลับ ผมจดจำภาพนั้นไม่เคยลืม. [หลวงปู่ท่านไม่อยู่แล้วผมก็สามารถเล่าได้ เผื่อเผยแพร่บารมีของท่าน]
...............
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมถามเรื่องพระธาตุกับท่าน หลวงปู่ท่านก็เมตตาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อก่อนท่านก็เคยเรียกพระธาตุมาในอากาศเป็น "พระธาตุพระพุทธเจ้า" ท่านเรียกว่า ๑ กระด้ง เพื่อนำไปใส่พระยืนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แต่ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
พอท่านเล่าให้ผมฟังผมก็มีความอยากจะได้บูชาพระธาตุขึ้นมา..ผมก็กราบเรียนท่านว่าหลวงปู่ครับผมอยากจะขอพระธาตุไว้บูชาครับ.
หลวงปู่ก็เมตตาหยิบแก้วเปล่าใบใหญ่มา ๑ ใบ ผมมองดูข้างในแก้วไม่มีอะไรเป็นแก้วที่ว่างเปล่ามองเห็นทะลุไปอีกด้าน แก้วปิดฝาอยู่ พอหลวงปู่ท่านเปิดฝาขึ้นมา โอ้โห! "พระธาตุเต็มแก้วเลย" เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มากๆ
พระธาตุมาอยู่ในแก้วได้อย่างไร ทั้งที่ผมก็มองเห็นว่าในแก้วใบนั้นว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย "หลวงปู่ท่านมีอภิญญาสูงมาก สามารถเรียกพระธาตุมาในอากาศได้"
หลวงปู่ท่านก็บอกว่าพูนสิน นี่พระธาตุเอาไปทั้งหมดเลย แต่ผมก็เป็นผู้มักน้อย ผมเลยขอท่านมาเก็บไว้บูชานิดเดียวเอง (จะหาพระที่มีอภิญญาบารมีสูงแบบหลวงปู่นี้ยากยิ่งนัก) หากใครที่ได้เคยทำบุญกับท่านถือว่าโชคดีสุดๆ
หลวงปู่ท่านมีพลังจิตที่สูงมาก หลับตาเสกเป่าอะไรเพียง ๓ ครั้ง ก็ขลัง ขนาดเคยมีคนเอาพระหาบท่าพระจันทร์ไปให้ท่านเสก หลวงปู่ท่านหลับตาแล้วเป่า ซ้าย ขวา เพียง ๓ ครั้ง เพียงเท่านี้ ... แล้วผู้ที่นำมาให้เสกได้นำพระไปให้คนที่จับพลังได้จับดูว่าเป็นเช่นไร ปรากฎว่าคนที่จับพลังบอกว่า แรงมากๆ พระองค์ไหนเสก? ... นี่เพียงแค่เป่า ซ้าย-ขวา เพียง ๓ ครั้งนะ
... มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล บนแพโบสถ์น้ำ ที่หน้าวัดใหม่ฯ ถือว่าเป็นพิธีใหญ่ ... คณะลูกศิษย์ และ ชาวบ้านมากันมากมาย เป็นพิธีเสกเดี่ยว บนแพโบสถ์น้ำ ตอนกลางวัน หลวงปู่ท่านหลับตาแล้วปลุกเสกพักใหญ่ ... ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กตะโกนบอกว่า พญานาค พญานาค ๒ ตัว อยู่ที่กลางแม่น้ำ .. ผู้คนในงานต่างแตกตื่น .. และมองไปตามนิ้วเด็กที่ชี้ไปจุดนั้น ...
*****พลังจิตของหลวงปู่ท่านแรงมากๆ ขนาดพญานาคในวังบาดาลยังรับรู้ ยังต้องขึ้นมากราบสักการะหลวงปู่และได้ร่วมพิธีในครั้งนี้ ... ถ้าไม่แน่จริงอย่าหวังเลยว่าพญานาคจะขึ้นมาให้เห็น ... ถือว่าพิธีในครั้งนี้ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ...
... พอเสร็จพิธี ...มีลูกศิษย์ถามหลวงปู่เรื่อง "พญานาค" ท่านไม่ตอบอะไร เพียงแต่ "ยิ้ม" แล้วท่านก็เดินขึ้นฝั่งกลับไปกุฎิทันที ... บอกเลยว่าจะหาพระแบบหลวงปู่นั้นยากแสนยาก .. ส่วนเรื่องพุทธานุภาพวัตถุมงคลของหลวงปู่ไม่ต้องพูดถึง รับรองว่าครบเครื่องทุกด้าน ..
*****มีอยู่ครั้งหนึ่ง โยมตุ้ย อยู่พยุหะนี่แหละ ประเภทใกล้เกลือกินด่าง มีของดีอยู่ใกล้ๆ แต่กลับมองไม่เห็น คือว่าโยมตุ้ยนี้ไม่ค่อยจะนับถือหลวงปู่บุญศรีสักเท่าไหร่.
ผมก็ไม่ทราบได้ว่าเพราะสาเหตุประการใด สมัยก่อนนั้นจะไปตลาดต้องไปทางเรือ แบบพายข้ามแม่น้ำ หรือไม่ก็เดินไป ตลาดพยุหะ จะเรียกกันว่าตลาดหัวแด่น.
โยมตุ้ย จะไปตลาดก็ต้องพายเรือ (เรือหมู) เพื่อจะข้ามฟาก จะไปตอนประมาณเช้ามืด ตีสี่ ตีห้า.
วันนั้นเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน คือโยมตุ้ยพายเรือไปถึงกลางแม่น้ำ อันเวิ้งว้าง ก็ได้เกิดคลื่นซัดเข้าหาเรือของโยมตุ้ย ซัดจนน้ำเข้าเรือเกือบจะเต็มลำเรือ เรือก็จะล่ม.
ด้วยความกลัวตาย และตกใจ โยมตุ้ยจึงอุทานด้วยเสียงดังว่า “หลวงตาศรีๆๆ” ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย.
ความอัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นกับโยมตุ้ยคือ จากน้ำที่เกือบเต็มลำเรือนั้น ปรากฏว่าน้ำได้หายไปหมดเลย คลื่นที่ซัดก็หายไป ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ.
พอรอดจากเรือล่มมาครั้งนั้น จากที่โยมตุ้ยที่ไม่ค่อยนับถือหลวงปู่บุญศรี ก็กลับมานับถือหลวงปู่ท่านอย่างสุดหัวใจเลยทีเดียว.
เวลาไปกราบหลวงปู่ก็มักจะขอของดีจากท่านตลอด หลวงปู่ท่านก็เมตตาหยิบให้ตลอด.....นี่คือความเมตตาของหลวงปู่ครับ สาธุ
*****เรื่องเล่าจากคุณธนสาร เซ้งรักษา (ข้าวหลามหนองมนร้อนๆ)
หลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เรื่องนี้รับฟังจากคุณประภาศรีหรือป้าอี๊ด อดีตประธานมูลนิธิส่งเสริมปฏิบัติธรรมแม่ชีประทุม
.มีนายตำรวจท่านหนึ่งเป็นลูกศิษย์คุณแม่และหลวงตาเล็ก(หลวงปู่บุญศรี)มากราบทำบุญหลวงตาเป็นประจำ.
...มาวันหนึ่งท่านกำลังมากราบหลวงตาเล็กแล้วนึกอยากกินข้าวหลามบ่นกันในรถ พอมาถึงวัดกราบหลวงตาสนทนาสักพัก...
.หลวงตาก็ว่าให้นั่งรอก่อนเดี๋ยวมา แล้วเดินไปหลังกุฏิสัก 5 นาที ท่านกลับมาพร้อมข้าวหลามร้อนๆ 2 มัด.
..ส่งให้นายตำรวจท่านนี้และคณะ ท่านว่าอ้าว! กินซะกำลังร้อน จะได้หายอยากกินพูดก็อมยิ้ม..
นายตำรวจและคณะรับข้าวหลาม 2 มัด ด้วยความงง!
..ที่ งง กว่าคือที่กระบอกมีตรายางปั้ม แม่...หนองมน. ก็ งง เข้าไปว่าข้าวหลามร้อนมีตราหนองมน..
...ใจเค้าคิดว่าใครอุ่นให้ท่านไหม ก็สะกิดกันให้อีกสองคนไปเดินดูรอบๆ กุฏิก็ไม่มีใคร ไม่มีร่องรอยการก่อไฟหรือทำอะไร...
สรุปข้าวหลามหนองมนมาไง ? .. เป็นเรื่องที่อัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณเรื่องเล่าจากคุณธนสาร เซ้งรักษา ครับ
*****เรื่องนี้ เล่าโดย พี่หมู ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ อดีตทำงานที่องค์การเภสัชกรรม ปัจจุบันเกษียนอายุได้ 10 กว่าปีแล้วครับ
เรื่องมีอยู่ว่า พี่หมู ได้เจอ ทหารอากาศ ท่านหนึ่ง ทำงานที่ตาคลี
พี่ทหาร ได้เล่าเรื่องราว น่าอัศจรรย์ให้พี่หมู ฟังว่า เช้าของวันหนึ่ง คุณแม่ ของพี่ทหารอากาศ ได้เล่าความฝัน เมื่อคืน ให้ฟังว่า มีหลวงตาแก่ๆ รูปหนึ่ง มาเตือน ว่า ให้ระวังสังกะสี จะปลิวมาใส่ ให้ระวังให้ดีนะ..แล้ว คุณแม่ ก็ตกใจสะดุ้งตื่น คุณแม่ จึงได้เล่าความฝันนี้ ให้พี่ทหารอากาศ คนนี้ได้ฟัง ถึงหลวงตาแก่ๆ พี่ทหารได้ฟัง ก็ เลยเอะใจ ..พาแม่ไปดู ที่หิ้งพระในห้องนอน
แม่ได้เห็น รูปถ่าย 1 บาน ก็ เลยชี้ว่า หลวงตาองค์นี้แหละ ที่มาเข้าฝันแม่ เมื่อคืนนี้..พี่ทหารเลยบอกว่า เป็น รูปหลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ ..แม่ เลยกราบที่รูปหลวงปู่ แล้วพูดว่า สาธุๆ หลวงปู่คุ้มครองลูกด้วย
ตกเย็น วันนั้น ในหมู่บ้าน เกิดลมพายุ ฝนกระหน่ำ หลังคาสังกะสี ปลิวว่อน..คุณแม่ ของทหารท่านนี้ ก็ เก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่ออกไปไหน ตามคำเตือนในฝัน ก็เลยปลอดภัย......... เหตุการณ์ ยังไม่จบ...คืน ต่อมา หลวงปู่ ได้มาเข้าฝันคุณแม่ อีกครั้ง คราวนี้ ท่านบอกว่า ให้หาพระของท่านมาห้อยติดตัวไว้ ถึงจะพ้นเคราะห์ได้
ตื่นเช้ามา คุณแม่ จึงได้บอกลูกชายทหารว่า ให้เอาพระของหลวงปู่บุญศรีมาให้แม่ด้วย..ลูกชาย ก็ เลยเอาพระของหลวงปู่ไปเลี่ยมที่ตลาดตาคลี..พระยังเลี่ยมไม่เสร็จ
แต่อนิจจา...ตกบ่าย วันนั้น คุณแม่ ท่านพลาด โดนไฟฟ้าช๊อต ถึงแก่กรรมทันที..ยังไม่ทันได้ห้อยพระของหลวงปู่เลย
นี่แหละครับ..ด้วยเมตตาของหลวงปู่บุญศรี ท่านมาเตือน ถึง 2 ครั้ง 2 หน แต่ กรรมที่มาตัดรอน ก็ไม่อาจทำให้ชีวิต ของคุณแม่ทหารรอดพ้นมัจจุราชไปได้.
***** สมัยหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ สมัยนั้นที่มีหน่วยงานนึง สร้างมัจฉานุ และอื่นๆ ผู้สร้างได้ตระเวนเสกวัตถุมงคลชุดนี้ ตามลายชื่อพระ เกจิอาจารย์ อายุ 100 กว่าปี จำนวน 9 รูป วันนั้นผมมีโอกาสจึงได้ถามหลวงปู่ไว้เป็นวิทยาทาน หลวงปู่ครับ พระอายุ 100 กว่าปีทั้งนั้น เก่งทุกรูป ผมถามหน่อยครับ รูปไหนเก่งสุด หลวงปู่ให้คำตอบว่า พระอายุเป็นร้อยจริง จะดูที่เก่งให้ดูที่เส้นผม ว่าดกดำไหม รูปไหนผมดกดำ รูปนั้นนะเก่งที่สุด ขอให้ลองใช้วิจารณญาณของเราดูนะครับ
*****เมื่อ ปี 35 หลวงปู่บุญศรี ไปในงานบำเพ็ญกุศล พระศพของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง.
ในงานนี้ มีเรื่องน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น คือ ท่านแม่ชีปทุม ท่านได้ อาราธนานิมนต์หลวงปู่บุญศรี ไปร่วมในงานนี้ด้วย.
พอหลวงปู่บุญศรี ไปถึงงาน...ท่านก็ ได้นั่งรวม ในแถวของพระภิกษุที่มาในงาน...ท่านแม่ชีปทุม ก็ได้บอก กับ คนที่อยู่ในบริเวณนั้นว่า ว่า วันนี้ มีพระอรหันต์ สหธรรมิก ของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่อยู่ในป่า มาร่วมพิธีด้วย 1 รูป.
ทุกคนต่างก็ พยายาม มองหา พระอรหันต์ รูปนั้น ...ปรากฏว่า สายตาเป็นร้อยๆ คู่ กลับ มองไม่เห็นหลวงปู่ ...แต่กลับ เห็นแต่ เณรน้อย รูปหนึ่ง นั่ง ปะปน อยู่กับพระภิกษุรูปอื่นๆ...สายตา คนนับร้อยๆ คู่...มองไม่เห็นหลวงปู่ เป็นไปได้อย่างไร ???
... ความปรากฏ ขณะที่พิธีการเสร็จสิ้นลง...หลวงปู่บุญศรี ได้ลุกขึ้นสะบัดผ้าจีวร เพื่อจะลุกขึ้น เดิน...พลันทุกคน ก็ได้เห็นหลวงปู่..และได้ วิ่งกรู กันเข้ามาทำบุญ เอาเงินใส่ในย่ามของท่าน..จนย่าม ของท่านล้น ไปด้วยเงินจำนวนมากมาย.
ที่น่าแปลกใจ คือ สามเณรน้อย รูปนั้น หายไปไหน ?????
*แม่ชีประทุม โชติอนันต์ ท่านคือ ผู้ก่อตั้งสำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ศิษย์พระราชพรหมญาน วัดท่าซุง
*****ประสบการณ์ จาก ลูกศิษย์รุ่นเก่า ท่านประสบ มากับตัวเอง..เรื่องมีอยู่ว่า พี่จ่าทหารอากาศคนหนึ่งมาที่วัดหลวงปู่ บอกว่าอยากได้วัตถุมงคลของหลวงปู่ อะไรก็ได้เอาหมดทุกอย่าง ..พระที่วัด ก็บอกว่า ไม่มีหรอกโยม อาตมา ก็มีแค่ติดตัว โยมลองไปถามชาวบ้านแถวนี้ดู..พี่จ่า ก็ ไปถามชาวบ้าน ปรากฏว่าไม่มีใครแบ่งให้เลย...พระที่วัด เลยถามว่า ทำไมถึงอยากได้พระของหลวงปู่นักล่ะ...
พี่จ่า แก เลย บอกว่า " ผมเคยได้ ผ้ายันต์ มาแล้ว เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนมีคนเอาผ้ายันต์ มาถวายให้หลวงปู่ ใส่ถุงใบใหญ่ เห็นหลวงปู่ เอามือตบทีเดียว แล้วแจกเลย ไม่เห็นท่านเสกอะไรเลย " พี่จ่าแกว่า พอได้ผ้ายันต์มา " ผมกลับลพบุรี เลยเอาปืนยิงเลย ปรากฎลูกโม่หลุด และใจไม่ดีเลย จึงอยากได้พระทุกอย่างของหลวงปู่ "
พระที่วัด จึงได้ต่อว่า พี่จ่าไปว่า " คุณปรามาสพระอริยะเจ้ากรรมหนักนะโยม ให้โยม เอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมมาหลวงปู่ ซะนะ "
วันถัดมา พี่จ่า ได้เอาดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบขอขมาหลวงปู่...ทางขึ้นกุฎิเก่าเป็นบรรไดไม้ หลวงปู่ กำลังรับแขกอยู่ 5-6 คน....พอโผล่ขึ้นมาเท่านั้น หลวงปู่ท่านชี้หน้า " เที่ยวนี้ให้อภัยเที่ยวหน้าอย่าทำอีก " พี่จ่า ถึงกับเข่าอ่อนเดินไม่เป็นเลย.
*****คนกรุงเก่าเล่าให้ฟังว่า ผมเคยไปวัดใหม่เป็นการไปครั้งแรกของผมกับน้องที่ทำงาน ตอนนั้นผมไม่รู้จักท่านแต่น้องรู้จักหลวงตาและชวนผมแวะเข้าไปกราบหลวงตาเล็ก
พอถึงวัดใหม่ผมเพลียมากเลยบอกกับน้องว่าขอหลับอยู่ในรถ น้องผมก็ได้ขึ้นไปกราบหลวงตา น้องเล่าว่าตอนกราบท่านเสร็จก็จะลาท่านกลับ หลวงตาท่านเมตตามอบวัตถุมงคลให้
หลวงตาให้วัตถุมงคลมาแล้วบอกว่าเอาไปให้คนขับรถด้วยนะ น้องบอกว่าหลวงตาท่านรู้ได้อย่างไรว่ามีคนอยู่ในรถ หลวงตาท่านละเอียดมาก
ครั้งนี้ผมตั้งใจไปหาท่านคือเอารถไปให้ท่านเจิม หลวงตาท่านก็เมตตาเจิมให้ท่านทำแบบเรียบง่าย เจิมเสร็จผมก็สนทนากับท่านสักพักก็กราบลาท่านกลับ
และผมก็ได้ไปกราบหลวงตาท่านอีกรอบไปกราบท่านและถวายสังฆทาน ตอนนั้นหลวงตาท่านป่วยหนัก พระที่ดูแลท่านก็บอกว่าให้ผมกราบและถวายสังฆทานเสร็จก็ให้กลับเพราะอยากให้หลวงตาพักผ่อนเยอะๆ
แต่หลวงตาท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมเลยมีโอกาสสนทนากับหลวงตา และได้ถามท่านว่าตอนท่านบวชนั้นบวชกันหลายคนหรือเปล่าครับ หลวงตาท่านบอกว่าหลายคนมันนานมาแล้ว
และผมก็ถามต่ออีกว่าพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้หลวงตาคือใคร หลวงตาท่านเลี่ยงไม่ตอบท่่านบอกว่านานมากแล้วโยม ผมถามท่านว่าป่วยนี่เป็นไงบ้างครับ หลวงตาท่านตอบว่ามันก็เป็นแต่สังขารแต่ใจท่านไม่ได้ป่วยด้วย
และผมก็ถามท่านเรื่องเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงตาท่านบอกว่าไม่ได้จัดพิธีใหญ่นานแล้ว แล้วหลวงตาท่านถามผมว่าต้องการอะไรก็บอกมา ผมเห็นว่าท่านป่วยหนักผมเลยตอบท่านไปว่าผมมากราบและถวายสังฆทานครับ
ก่อนผมจะกราบลาท่านกลับ หลวงตาท่านเรียกผมเข้าไปหาใกล้ๆ ผมก็พนมมือก้มหัว แล้วหลวงตาท่านก็ใช้นิ้วจี้ลงบนหัวของผม ตอนที่ท่านเอานิ้วจี้บนหัวของผม ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนไฟฟ้าแรงสูงสปาร์คลงมาบนหัวของผม
ผมดีใจและประทับใจมากๆ ที่หลวงตาท่านเมตตามอบของดีให้กับผม แบบฝังไว้กับตัวเลย ถือว่าเป็นมงคลยิ่ง
จะมีพระสักกี่รูปที่สามารถทำให้เรารู้สึกเหมือนไฟฟ้าวิ่งผ่านจากนิ้วท่านมายังเราได้ บารมีหลวงตาท่านสุดๆ ของจริง
เรื่องที่ผมเล่าให้ฟังนี้เกิดขึ้นในปีสุดท้ายที่ไปกราบท่านก่อนที่ท่านจะมรณภาพจากไป พ.ศ. 2544
(นี่คือสุดยอด "วิชานิ้วเพชร" ของหลวงตา)
-----โดยคนกรุงเก่า-----
***มีอีกเรื่องเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงตา ลูกศิษย์คนนี้บอกว่ามีคนที่แขวนพระของหลวงตาเล่าให้ฟังว่า
มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาได้ขับรถแล้วเกิดหลับใน น่าจะด้วยความเหนื่อยล้า ขับมาอยู่ดีๆ วูบไปเลย
มาตกใจอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงแตรรถฝั่งตรงข้าม เขารีบจอดรถด้วยความตกใจ รถที่ขับมาฝั่งตรงข้ามก็จอด
แล้วบอกว่าผมเห็นพระขับรถ ผมจึงบีบแตรใส่ แต่พอมาดูที่รถไม่มีพระนั่งมาสักองค์ เขาจึงแปลกใจมาก เพราะเขาเห็นพระขับรถจริงๆ
คนที่หลับในรีบขอบคุณเขาเป็นการใหญ่ บอกว่าผมหลับในครับ น่าจะเพราะความเหนื่อยล้า ดีนะที่คุณบีบแตรไม่อย่างนั้นผมคงลงข้างทางไปแล้ว
ศิษย์คนนี้บอกว่า.ในคอของคนที่หลับในแขวนพระของหลวงตาไว้เพียงองค์เดียว รุ่นไหนไม่รู้ แต่คิดว่าของท่านดีทุกรุ่นแหละครับ
ครั้งนี้ด้วยบารมีของหลวงตาได้ช่วยไว้ หลวงตาท่านขับรถให้ สาธุ สาธุ สาธุ (หากเหนื่อยก็พักกันนะครับ ปาฎิหาริย์ไม่ได้มีเสมอไป)
.....
และยังมีอีกเรื่อง ศิษย์คนนี้ได้นำวัตถุมงคลของหลวงตาไปให้ผู้มีตาดีจับพลัง พอได้สัมผัสเท่านั้นแหละ
เขาบอกว่าแรงมากๆ พระองค์นี้เสกพระแบบโบราณ จะหาพระที่เสกได้แบบนี้หายากยิ่งนัก เสกได้ขลังและแรงมาก
เสกตามแบบโบราณ เสกแบบนี้เสกอะไรก็ขลัง แขวนเดี่ยวได้สบาย
(ขอขอบคุณข้อมูลจากทางวัดและลูกศิษย์หลวงปู่ทุกท่านด้วยครับผม สาธุ สาธุ)
..น้อมกราบหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ ด้วยเศียรเกล้า..*
พระคัดสวยบูชาองค์ละ1200ครับ
รับประกันพระแท้100%ครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับขอบคุณครับ

 

เหลือ2องค์ครับ

 

เ

เหลือ1องค์ครับ

 

หมดแล้วครับ

 

โอนเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดตามpmครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ในสายไสยเวทย์ไม่น่ามีใครเกินองค์นี้พลังจิตท่านลึกล้ำยิ่งนัก จากการธุดงค์ตามป่าเขาค่อนชีวิตและศึกษาวิชาอาคมมาแทบทุกชนิดเป็นตำนานแห่งขุนแผนภาคอีสานครับของที่ทันท่านเสกราคาแพงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
เรียกว่าดังจากประสบการณ์คนที่บูชาของท่านขึ้น
เจริญรุ่งเรืองเร็วมาก เมตตามหานิยมแรงจริงๆ
✅#พระปิดตาใบเสมา
หลวงปู่ชื่น วัดตาอี ติคญาโณ จ.บุรีรัมย์
พระปิดตาใบเสมา หลวงปู่ชื่นท่านสร้างจากว่านยา ซึ่งมีคุณวิเศษทางด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ
-ด้านหน้าพระปิดตาสวมมงกุฎพระพุทธเจ้า
-ด้านหลังจะเป็นยันต์สาริกามหาเอิ้ก

เป็นพิมพ์พระปิดตาที่ออกแบบได้สวยงาม ด้านหลังเป็นยันต์นกทึดทือ พุทธสูงทางด้านโภคทรัพย์ โชคลาภ ทำมาหากินคล่อง เงินทองไม่ขัดสน พระดีมีคุณค่าน่าใช้บูชามากครับ ใครที่หาพระปิดตาดีๆไว้แขวนแนะนำรุ่นนี้ครับดีมากสร้างประมาณปลายปี2542 จำนวนการสร้างประมาณ3,000 องค์
หลวงปู่ชื่น ท่านลงมนต์ "สาริกามหาเอิ๊ก" ไว้
เอิ๊กๆๆ คือเสียงหัวเราะ อารมณ์ดี
ท่านว่า..การหัวเราะก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ใช้แล้ว หัวเราะบ่อยๆดี

มนต์เสน่ห์สาริกา จะแผ่ซ่านออกมากับเสียงหัวเราะ
ทำให้เป็นเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ในทางด้านเจรจาค้าขายดี

หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
สมัยเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดกลียุคทั่วโลก ยิ่งประเทศเล็กประเทศน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องรับกรรมหนักเพราะ
ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่ชื่น นิสัยท่านเป็นคนใจบุญ มีความสุขุมลุ่มลึก และมีใจโอบอ้อมอารีชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ๆ พออายุได้ 15 ปี ได้ขอบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งพ่อแม่ไม่ขัดข้อง ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดในหมู่บ้านเกิดของท่าน
หลังจากบวชเณรได้ระยะหนึ่งพอถึงอายุ 20 ปี หลวงปู่ชื่นก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยได้รับฉายาว่า ?ติคญาโณ? เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว หลวงปู่ชื่นได้ศึกษาบทสวดมนต์และบทสวดปาติโมกข์ ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งพรรษาก็สวดพระปาติโมกข์ได้แล้ว นับว่าหาพระที่เก่งเช่นนี้น้อยมาก เพราะการท่องบทพระปาติโมกข์พระบางรูปต้องใช้เวลานานนับ 5 ปี 10 ปี เนื่องจากเป็นบทสวดที่ยาวและยากที่สุดนั่นเอง
หลวงปู่ชื่นสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในพรรษาที่ 3 หลังจากนั้นท่านจึงออกเดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชา ทำให้ท่านได้พบกับครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ อยู่หลายรูป ซึ่งแต่ละอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น โดยเฉพาะฤๅษีที่บำเพ็ญพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้หลวงปู่ชื่น เพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไปอีก?
หลวงปู่ชื่นเป็นพระเถระที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีศีลจารวัตรที่งดงาม ชอบบำเพ็ญกุศลเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่กล้าขึ้น ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสามทำวัตรสวดมนต์ และช่วงค่ำก็เช่นกันท่านจะสวดมนต์มิได้ขาด (นอกจากจะมีกิจนิมนต์และป่วยเท่านั้น)
หลวงปู่ชื่นชอบทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านจึงเป็นที่รักเคารพของศิษย์และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากในขณะนี้?
ได้อาจารย์เก่งวิชาทุกด้าน

หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เป็นศิษย์สาย ?เขากุเลน? ซึ่งเป็นศูนย์รวมเวทวิทยาอาคมชั้นสูง ที่เป็นฉบับแท้ดั้งเดิมของเขมรโบราณ อาจารย์องค์แรกของท่านคือ ?หลวงปู่เอื้อย และหลวงปู่ดี สุวรรณดี? สองปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำ ทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์มากมายเป็นที่เลื่องลือกันมากในประเทศกัมพูชา
หลวงปู่ชื่นได้มองเห็นกาลไกลไปข้างหน้าว่า ?พรเวทวิทยาคม? ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนต่าง ๆ ในอนาคตภายหน้าแน่นอน ท่านจึงมุมานะพยายามขยันศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนสุดความสามารถ ตลอดจนศึกษาการเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มพูนพลังจิตให้แก่กล้าขึ้น
หลวงปู่ชื่นท่านเรียนกรรมฐานควบคู่ไปกับวิชาอาคมจนท่านเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยมีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะหลวงปู่เอื้อยท่านมีเมตตาถ่ายทอดวิชาและเคล็ดลับต่าง ๆ ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น หลวงปู่เอื้อยท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขมร ดังชนิดผู้หลักผู้ใหญ่ในเขมรขณะนั้นยังมอบตัวเป็นศิษย์หลายคน ในเวลาต่อมาเมื่อหลวงปู่เอื้อยมรณภาพลง หลวงปู่ชื่นจึงออกเดินธุดงค์บุกป่าฝ่าดงดิบในดินแดนเขมรเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์อีกมากมาย จนกระทั่งท่านได้พบกับหลวงปู่ดี สุวรรณดี บน ?เขากุเลน? ซึ่งท่านเป็นพระผู้มากด้วยอภิญญาญาณชั้นสูง และเป็นผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมหัศจรรย์เหนือโลกโดยแท้
ด้วยบุญญาบารมีของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ทำให้หลวงปู่ดีรับหลวงปู่ชื่นเป็นศิษย์แล้วจึงพากันออกเดินธุดงค์ไปด้วยกันตามสถานที่ต่าง ๆ ?หลวงปู่ชื่นได้ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคมกับธาตุทั้ง 4 ตลอดจนเกร็ดเคล็ดลับการสร้าง-การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางต่าง ๆ มากมายจากหลวงปู่ดี ทำให้ท่านมีวิชาติดตัวมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้?
หลวงปู่ชื่นได้เมตตาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในการเดินธุดงค์ของท่านให้ฟังว่า ?หลวงปู่ดีท่านนี้เก่งมาก ท่านเชี่ยวชาญพระเวทแทบทุกชนิด ท่านเคยเสกผ้าให้เป็นนกกระยางได้ และเสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตนได้ ทั้งยังรู้ภาษาสัตว์แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านสามารถล่องหนหายตัวและย่นระยะทางได้ ตลอดจนท่านเดินบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย? หลวงปู่ชื่นเล่าว่า หลวงปู่ดีท่านเคยแสดงให้ดูมาแล้ว ท่านเห็นกับตามาแล้วจึงกล้ามาเล่าให้ฟัง ท่านแสดงให้ดูก็เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมสืบต่อกันไปนั่นเอง ?การเรียนวิชาอาคมจะมีฤทธิ์เข้มขลังได้ ต้องประกอบไปด้วยพลังจิตอันเป็นสมาธิแก่กล้าควบคู่กันไปด้วย? หลวงปู่ชื่นกล่าว
หลวงปู่ชื่นเป็นพระที่คงแก่เรียนคือท่านชอบศึกษาค้นคว้าตำรับตำราและวิชาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ หรือวิชาอาคมอะไรท่านจะทดลองสร้างทดลองปลุกเสกอยู่เสมอ เมื่อท่านลองแล้วเห็นว่าดีจริงและใช้ได้ผลดีจริงตามตำรา ท่านก็คัดวิชาวิเศษเหล่านั้นมาสร้างมาปลุกวัตถุมงคลให้บรรดาลูกศิษย์ และลูกหลานท่านให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคลเป็นของวิเศษไว้บูชากัน จากการคัดเลือกพิจารณาตรวจจากหลวงปู่ชื่นแล้วว่า ?ดีจริง-เห็นผลจริง? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ต่อเนื่องเรื่อยมา จนเป็นที่กล่าวขานร่ำลือจากปากของผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นว่ายอดเยี่ยมอยู่ในชณะนี้
ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอนำท่านทั้งหลายได้รู้จักหลวงปู่ชื่น เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้มีโอกาสรู้จักหลวงปู่ชื่นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน และใกล้ชิดหลวงปู่มากขึ้น เพราะลูกศิษย์บางคนอยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีโอกาสเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่ จะด้วยสาเหตุและปัจจัยใด ๆ ก็ตาม ผู้เขียนขอเป็นสื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นการหยั่งความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่ลูกศิษย์ที่มีความเคารพนับถือหลวงปู่ หรือท่านที่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นไว้แล้ว ขอให้รู้ว่าเราทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องค์เดียวกัน เพราะมีวัตถุมงคลที่มาจากการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพื่อช่วยจรรโลงเกียรติคุณของหลวงปู่ชื่นให้แพร่หลายขจรไป ตลอดยั่งยืนนานต่อไปในภายภาคหน้านั่นเอง

พบสหธรรมิกเก่า



เพชรเริ่มทอแสง
หลังจากหลวงปู่ชื่นมาอยู่วัดตาอีแล้วท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิหลังเล็ก ๆ เหมือนพระหลวงตาแก่ ๆ ธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เลยว่าท่านเป็นพระที่มี ?พลังจิต? และมีอาคมเข้มขลังมาก จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มี ?พลังมหัศจรรย์? ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของท่านดีเยี่ยมจริง ๆ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการเนื่องจาก ท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งขาดปัจจัยอยู่อีกมาก อีกประการหนึ่งหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า
ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป?

บูชา2000ครับ
รับประกันแท้ตลอดชีพ

 

วันนี้จะเล่าเรื่อง อานุภาพพุทธคุณล็อกเก็ต ฉลองอายุวัฒนะ 100 ปีหลวงปู่สิงห์โตให้ฟังนะครับ ผมได้ไปกราบขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ให้ท่านพิจารณา อานุภาพแห่งพุทธคุณ ที่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่สิงโต สำนักสงฆ์ป่าทรงธรรม ได้อธิษฐานจิตลงไปในล็อกเก็ตนี้ เมื่อเข้าไปกราบเรียนถาม ครูบาอาจารย์ที่ผมให้ความเคารพนับถืออีกท่านหนึ่ง ล็อกเก็ตนี้มีอานุภาพอย่างไร ท่านได้ตอบไว้อย่างนี้ว่า
ผู้เขียน :
กราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ล็อกเก็ตของหลวงปู่สิงโต ที่หลวงปู่สิงห์โตท่านได้ปลุกเสก มีอนุภาคอย่างไรครับ
ครูบาอาจารย์ :
มีอานุภาพทางโภคทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง และยังมีอานุภาพทางป้องกัน ภัยพิบัติต่างๆสารพัดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
ผู้เขียน :
อันภัยพิบัติข้างหน้า ที่จะเกิดขึ้นนี้มีอะไรบ้างครับ
ครูบาอาจารย์ :
มันพูดยาก มีทั้งภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ และภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ภัยพิบัติที่เกิดจากทางลม ภัยพิบัติที่เกิดจากทางน้ำ ภัยพิบัติที่เกิดจากแสงอาทิตย์ และภัยพิบัติที่เกิดจากความร้อนและโรคระบาดต่างๆ ภัยพิบัติที่มนุษย์ทำ เช่นสงคราม สารเคมีต่างๆ ทุกอย่างมีกรรมทั้งนั้นละจึงประสบพบเจอ
ผู้เขียน :
แล้วของหลวงปู่สิงห์โตที่หลวงปู่สิงห์โตปลุกเสกป้องกันได้ไหมครับ
ครูบาอาจารย์ :
ป้องกันได้ ช่วยได้แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ที่เวรกรรมของคนคนนั้นด้วย
ผู้เขียน :
อานุภาพล็อกเก็ตของหลวงปู่สิงห์โตรุ่นนี้ มีอานุภาพดีอย่างไรบ้างครับ แม่ตอนหลวงปู่ท่านปลุกเสก ท่านปลุกเสกแบบไหนบ้างครับ
ครูบาอาจารย์ :
เอาตามที่ฉันเห็นและฉันสัมผัสได้ ก็แล้วกันนะจริงไม่จริงใช้สติเอานะเชื่อเลยคือโง่ทันที
ผู้เขียน :
สาธุครับ
ครูบาอาจารย์ :
หลวงปู่สิงห์โตท่านนี้ เป็นพระอริยบุคคล ที่สำเร็จอภิญญาสูงเป็นอย่างมาก ท่านมีดวงจิตเป็นประภัสสรกายของท่านใสเป็นแก้วบริสุทธิ์ไปหมดสว่างไสวไปทั่วโลกาธาตุ เวลา ท่านปลุกเสกพระเครื่อง หรือท่านกำหนดจิตแผ่ บารมีลงในสิ่งใดมันจะสว่างไสวไปทั่วบริเวณนั้น ในการปลุกเสกล็อกเก็ตครั้งนี้ก็เหมือนกัน ท่านได้กำหนดจิตของท่านเข้าสู่สมาธิอันเป็นที่สูงสุดในลำดับญาณสมาธิของท่านจากนั้นท่านได้อาราธนา ครูบาอาจารย์ในสายวิชาท่านทุกองค์ ตลอดจนถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ ให้มาปลุกเสกให้มาแผ่บารมี ลงในวัตถุมงคลนี้ ฉันกำหนดเห็นว่า มันเป็นแสงพุ่งออกจากตัวท่าน ไปยังกองวัตถุมงคล แล้วแสงนั้นตีหมุนขึ้นไปข้างบน สว่างไปทั่วพรหมโลก จากนั้นปรากฏเห็นเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เสด็จมายังกองพิธี พร้อมทั้งพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ที่ฉันเห็น สัมผัสได้แน่นอนเลย คือพระมหาสังกัจจายน์ พระโมคคัลลาและพระสารีบุตร และพระมหากัสสปเถระ ยังมีครูบาอาจารย์ในยุคปัจจุบันอีกมากมาย เช่นหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงหลวงพ่อกวย หลวงปู่หมุน หลวงปู่สรวง หลวงพ่อโอภาสี หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าสมเด็จพระพุฒาจารย์โต แต่ยังมีครูบาอาจารย์ที่ขาดฉันไม่รู้จักอีกมากมายเป็นสิบๆองค์ ยังมีฆราวาสที่ท่านเป็นเจ้าของวิชาเป็นเจ้าของผงพุทธคุณ ที่คุณนำมาใส่ในวัตถุมงคลนี้ และเจ้าของวิชาทั้งไลน์มีทั้งระดับเทวดาระดับพรหมระดับผู้ทรงอภิญญานผู้มีฤทธิ์ต่างๆและยังครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์อีกมากมาย นาคครุฑ เทพเทวดาทั้งหลาย ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ทั้งแม่ธรณี และเทพยดาทั้งหมด ที่มาร่วมแผ่พลังลงในวัตถุมงคลนี้ เมื่อหลวงปู่ได้ ท่านได้อาราธนา พระรัตนตรัยครูบาอาจารย์ลงมาหมดแล้ว ท่านจึงทำการปลุกเสกสวดยัด วิชาอาคมที่ท่านได้เล่าเรียนมา โดยท่านเริ่มจากการเข้าสมาธิตั้งธาตุ เรียกธาตุทั้ง 4 อันมีดินน้ำลมไฟจากนั้นท่านเดินเตโชกสิณให้เตโชกสิณครอบคลุมบริเวณวัตถุมงคลนั้น วัตถุมงคลจึงมีรัศมีแผ่ออกมาเป็นสีทอง ด้วยอำนาจแห่งเตโชกสิณ จากนั้นท่านจึง เดินธาตุอาโปกสิณ คือน้ำ เพื่อให้วัตถุมงคลนั้นมีความชุ่มเย็น จากนั้นท่านก็ เดินวาโยกสิณ คือลม มันจะมีลมพัดมาด้วยอำนาจของจิตอำนาจของสมาธิญาณท่าน จากนั้นท่านจึงเดิน กสิณธาตุดิน เพื่อให้วัตถุมงคลนั้น มีอานุภาพ ทางโภคทรัพย์ จากนั้น ท่านปฏิโลมธาตุ คือปั่นธาตุนั้นเอง ด้วยการเพ่งสลับไปสลับมา จนเกิดเป็นแก้วสว่างใส หมุนขึ้นไปข้างบน แตกออกสว่างไสวเหมือนพุตะไลไฟพะเนียง สว่างไสวไปทั่วพรหมโลก ด้วยอำนาจตบะญาณและสมาธิผนวกเข้าอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย จึงโมทนาสาธุการให้ดังกึกก้อง จากนั้นแสงสว่างนั้นได้พุ่งลงสู่กองวัตถุมงคล วัตถุมงคลนั้นก็สว่างไสวไปทั้งทั่วบริเวณนั้น นี่คือตอนท่านพุทธาภิเษกนะแต่อานุภาพของล็อกเก็ตนั้น มีดังนี้

เด่นทางโภคทรัพย์ ทางโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ เพราะเกิดนิมิตเห็นเป็นทรัพย์สมบัติกองเท่าภูเขาเลากา อยู่ในล็อกเก็ตนี้ทุกสี เป็นสมบัติของพระจักรพรรดิ มีจิตของพระเจ้าจักรพรรดิสถิตอยู่ทุกอันสมบัตินี้มีประมาณไม่ได้เลยให้อธิษฐานขอเอาเลย

เด่นทางส่งเสริม ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต บุคคลใดบูชาและระลึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์จะอยู่เย็นเป็นสุขทำกิจการอันใดก็จะมีผู้มาช่วยเหลือชีวิตจะไม่ตกต่ำลำบาก จะมีแต่ความเจริญยิ่งขึ้นไปส่งเสริมให้เป็นผู้มีตบะมีอำนาจเป็นที่เกรงขามต่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและยังเป็นเมตตาต่อผู้อยู่เหนือบังคับบัญชา เป็นที่รักของ คนทั้งหลายและเทวดาทั้งหลายอีกด้วย

เด่นทางด้าน ป้องกันภยันตรายทั้งหลาย ไม่ว่าอันตรายนั้นจะเกิดจาก มนุษย์ก็ตาม ภูตผีปีศาจก็ตาม คุณไสยมนต์ดำก็ตาม ไม่สามารถเข้ามาใกล้ ไม่สามารถเข้ามาทำอันตรายใดๆได้ และยังป้องกัน ภัยพิบัติอันเกิดจากธรรมชาติ โรคระบาดต่างๆ ได้อีกด้วย

ล็อกเก็ตนี้ยังมีอานุภาพสามารถทำน้ำมนต์ รถบ้านรถเลื่อนรถสิ่งไม่ดี แก้เสนียดจัญไรต่างๆ ทางสามแพร่ง เสาตกน้ำมัน บ้านที่ไม่ดูดี มีสุขก็จะทำให้อยู่เย็นเป็นสุขร่มเย็นขึ้น แกทำได้ดีทุกอย่าง แม้แต่เข้าป่าเข้าดงเข้าพงเข้าพี ก็ป้องกันได้สารพัดเหมือนกันแก้ได้สารพัดเหมือนกัน ยังส่งเสริมดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ ไม่ให้เป็น คนดวงตกชะตาขาด ทำให้ดวงชะตารุ่งเรืองและประสบความสำเร็จในชีวิตง่ายขึ้น
ผู้เขียน:
สาธุ
ครูบาอาจารย์ :
ที่ว่ามานั้นถือว่าฉันเล่านิทานให้ฟังก็แล้วกันนะอย่างคิดว่าจริงจังอะไรเลยมันเป็นของธรรมดา ของพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านก็ทำแบบนี้ละในการอธิฐานเสกพระกัน

#ฟังให้เพลินๆนะครับ อย่าเชื่อ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์ในสิ่งนี้ ฟังไปเพื่อประดับความรู้ก็แล้วกัน
ครับ
เครดิตเรื่อง (เก้ามงคลเก้ามรดกครู)

 

หลังจากผมห้อยล็อกเก็ตของท่านยังไม่มีประสบการณ์อะไรครับ การเงินดีขึ้นเห็นชัดและรู้สึกสบายใจอบอุ่นตลอดเวลา
และองค์นี้พระสังกัจจายน์ หลวงปู่สิงโต พลังคล้ายกันคือพระท่านจะเด่นกันภัย แรงมหาโภคทรัพย์เศรษฐีครับ องค์ขนาดห้อยคอค่อนข้างใหญ่สวยมากๆๆครับ อุดด้วยมวลสาร

มาฟังคนจับพลังรุ่นนี้กันครับ
#สวัสดีพี่ๆสมาชิกทุกคนครับ วันนี้ผมมีพระดีๆจะมาแนะนำพี่ๆสมาชิกทุกท่านครับ ซึ่งพระองค์นี้ผมบอกได้เลยว่ามีดีไม่แพ้ล็อคเก็ตแน่นอน ซึ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้นั่นคือรูปหล่อพระสังฆจายน์รุ่นแรกของหลวงปู่สิงโต ผมจะขออนุญาติพิมพ์พุทธคุณแบบกล่าวโดยสรุปรวบรัดว่ามีประการใดบ้างนะครับ เพราะเคยพูดถึงไปหลายๆรุ่นแล้วมาเชิญรับฟังได้เลยครับผม
ปราณกระแสแรงมากนะครับ แผ่รัศมีกว้างหมุนวนจนเป็นพายุลมกระหน่ำซัดออกมาเลย มีการใส่พวกแร่ธาตุทนสิทธิ์ลงไปเยอะมาก และมีการเสกมาหลายวาระพอสมควรทำให้แรงครูบาอาจารย์ที่มาลงไว้ สูงมาก อันประกอบไปด้วยบารมีแห่งพระรัตนตรัย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมจนถึงปัจจุบันและพระอรหันต์ทั่วทุกดินแดนแห่งพระนิพพานเลยครับ พระสายเหนือโลกมากมายมาร่วมเสก มีกระแสพลังแผ่ออกมารุนแรงมากครับหมุนล้อมไปด้วยอักขระเลขยันต์มากมาย ท่านได้เสกด้วยวิชาอาคมและปั่นธาตุหมุนธาตุเต็มกำลังอัดถ่ายเทพลังงานลงไว้เต็มแม็คมาก และมีกระแสญาณบารมีของพระรัตนตรัยแผ่สว้างจ้าไปทั่วทุกดินแดน ในสามแดนโลกธาตุ เสกลงหนักไม่แพ้ล็อคเก็ตเลยครับ และมีการผ่านพิธีมาหลายพิธีมากด้วย พลังญาณสูงมาก มีญาณเทวดาที่เป็นถึงพญานาคราชปกปักรักษาคุ้มครองคนบูชาอย่างดีเลยครับ
อานุภาพ
เป็นที่สุดอีกหนึ่งรุ่นในเรื่องมหาโภคทรัพย์ เสริมให้คนห้อยเกิดความมั่งคั่งร่ำรวย ดั่งมหาเศรษฐี อัฟระดับยกสถานะคนห้อยให้สูงขึ้นมา เด่นในเรื่องมหาอำนาจในการปกครองคนหมู่มาก เสริมวาสนาและบารมีแก่คนห้อย ให้ลูกน้องเกิดความเกรงอกเกรงใจเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี เสริมแนวบริษัทใหญ่ๆให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วย มากไปด้วยโภคทรัพย์ให้ประสบการณ์ความสำเร็จดังปรารถนาทุกประการ
เป็นการอัฟเกรดธุรกิจใหญ่ๆให้เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดีและนอกจากนั้นยังช่วยเสริมการค้าขาย ให้ขายดิบขายดีขึ้นด้วย ให้คนติดตามอุดหนุนเยอะๆทั้งค้าขายแบบหน้าร้านและค้าขายทางออนไลน์ สุดแล้วแต่จะอธิษฐานหรือบอกกล่าวขอพร เพราะมีญาณพญานาคชั้นสูงปกปักรักษาอยู่และหนุนนำคนบูชาให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปคอยช่วยเหลือซับพอร์ตเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันภัยได้สารพัดรูปแบบไม่ไห้ภัยอันตรายต่างๆเข้ามากล่ำกลายคนห้อยได้ตามสไตล์การเสกของหลวงปู่สิงโต
ถือว่าเป็นของดีอีกหนึ่งรุ่นที่น่าติดตามและน่านำมาห้อยบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตมากๆครับใช้ได้หลายทางสุดแล้วแต่จะอธิษฐานขอพรตามประสงค์
#ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
บูชา590ครับ

 

จองครับ

 

รับมราบครับ

 

ขออนุญาตจองฉากแดง ครับ

 

จองฉากเขียว

 

ได้ครับ

 

รับทราบครับ

 

พระพุทธชินราช ญสส.ปี 2543

หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ร่วมปลุกเสก ปี 2543..

."ญสส" พระนามย่อ สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 มีพระเมตตาคุณประทานพระอนุญาตให้จัดสร้าง สิ่งมงคลสักการะพระพุทธชินราช ...พิธีมหาพุทธาภิเษกสมโภชน์ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก ในปี 2543 ณ วิหารพระพุทธชินราช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2543 พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคุณทั่วประเทศ นั่งบริกรรมปลุกเสก 4 ผลัด ผลัดละ 21 รูป รวม 84 รูป นานถึง 12 ชั่วโมง พิธีกรรมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณจารย์ รายนามพระคณาจารย์ 84 รูป ร่วมอธิษฐานจิต

รายนามพระคณาจารย์ 84รูปที่ร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
1.หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
2.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
3.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
4.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
5.หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
6.หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
7.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
8.สมุห์อวยพร วัดดอนยายหอม
9.หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส
10.หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
11.หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ
12.หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
13.หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์
14.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
15.หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
16.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
17.หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
18.หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
19.หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพตคีรี
20.พระมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
21.หลวงปู่ธีร์ วัดมิ่งเมือง
22.หลวงพ่อสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา
23.หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
24.หลวงพ่อเขียว วัดระเว
25.หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
26.หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม
27.เจ้าคุณจวบ วัดระฆังโฆสิตาราม
28.หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
29.เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
30.หลวงพ่อสมพงษื วัดใหม่ปิ่นเกลียว
31.หลวงพ่อเฉิลม วัดพระญาติการาม
32.หลวงพ่อพูลทรัพ์ วัดอ่างศิลา
33.หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
34.หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
35.หลวงปู่รอด วัดสันติกาวาส
39.ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เป็นต้น

* วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ..
" ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจายขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไปของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสองครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน
บูชา550ครับ

 

พระยุคต้นหายากครับ องค์นี้ติดแบงค์เสกเยอะมาก
พระสังกัจจายน์ รุ่น "ทวีโชค" ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ปี 2542
พุทธลักษณะองค์พระสังกัจจายน์นั่งหน้าตรง มือข้างขวาถือถุงเงิน และมือข้างซ้ายถือถุงทอง ด้านหลังองค์พระมีชื่อครูบากฤษดา
บูชา750ครับ

 

จองบูชา
ล็อกเก็ตฉากเขียวหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์หลวงปู่สอ พันธุโล ปี2549 บูชา550 ค่าส่ง50