A เป็นคนยังไงกันแน่ ?

มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ผิดหรือเปล่าที่ทำอย่างงี้
มีผู้ชายคนนึงสมมุติว่าเขาชื่อ A คนขี้เหร่ระดับเอ็ดดี้เรียกพี่ละกันเขาเล่น msn คุยกับสาวคนนึง
สมมุติชื่อ B ตัวจริงน่ารักมากเขาเล่นอยู่ทุกวันเป็นเวลาประมาณ 3เดือนทั้งสองเริ่มรู้สึกสนิทกัน
คุยแก-ข้า กันได้ เหมือนเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองต่างสั__า

กันว่าจะไม่คุย msn กับคนอื่นนอกจากกันและกันความไว้ใจเริ่มก่อตัวทั้งสองแลกเบอร์กันเพื่อโทรหากัน
คุยกันทางโทรศัพท์และเล่น msn เป็นปกติตลอดเวลาจนทั้งสองสั__าว่าเป็นแฟนกันโดยเห็น
กันแค่รูปถ่ายเท่านั้น นานพอควร
ทั้งสองนัดเจอกัน และชวนกันเดินเล่นเที่ยวระหว่างทางขณะที่เดินกันมี กลุ่มคนกลุ่มนึงยืนแจกใบ

สติ๊กเกอร์ คล้ายๆองค์กรอะไรองค์กรหนึ่งช่วยเหลือเด็กยากไร้ทำนองนี้ ซึ่งจะถือแจกคนทั่วไปให้รับ
A ไม่อยากให้ B รับ ขณะเดินผ่าน A พยายามจับไหล่ B แล้วก็โอบพร้อมกับกดแขน B ไม่ให้ไปหยิบ
สติ๊กเกอร์นั้น พอผ่านมา A ปล่อยมือออกโดยไม่รู้และไม่ได้คิดว่า B จะรุ้สึกยังไง
B พูดออกมาว่า โอบไหล่ทำไม
A พยายามบอกแค่ว่าไม่อยากให้ไปหยิบสติ๊กเกอร์
B แย้งออกมาแค่ว่า แค่บอกก็น่าจะพอแล้ว
A ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ การโอบไหล่ผิดด้วยหรือ กับ B ที่เคยคุยใน msn ว่าเป็นแฟน
แต่ก็อย่างว่าการเจอกันครั้งแรก แต่ดันมาโอบไหล่เขามันก็น่าจะผิด แต่ A ก็ยังยืนยันว่ามันก็เรื่องธรรมดา
A ยังคงทำเป็นปกติ เดินเกาะไหล่ B ไปเรื่อยโดยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในสายตา B
ทุกอย่างดำเนินไปภายใน 1 วัน
A โทรไปหา B ช่วงเย็นหลังจากกลับบ้านกันแล้ว
ถามเกี่ยวกับเรื่องที่ A ทำในวันนี้ว่ามันผิดปกติหรืออย่างไรที่ไปทำอย่างนั้นกับ B
B บอกแค่ว่ารู้สึกงงๆ ที่ A ทำแบบนี้ไม่นึกว่า A จะทำ กับแฟนคนเก่าของ B หรือไม่ว่าใครก็ตาม
ยังไม่กล้ามาทำกับ B แบบนี้เลย
A เริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำไปไม่ดี แต่มาขอโทษตอนนี้
B ก็ไม่รับฟังอะไรแล้ว และก็ไม่อยากมาเจอ A อีก
สิ่งที่ A ทำ มันเป็นอย่างไรมันเกินไปจนไม่น่าให้อภัยอย่างนั้นหรือ
A พยายามบอกว่ามันไม่ใช่เป็นการฉวยโอกาสหรือคิดอะไรที่เกินเลยสักนิด
B บอกแค่ว่าตะโกนบอกทั้งโลกก็ไม่มีใครเชื่อ อย่ามาแกล้งโง่กันเลย

เสียงโทรศัพท์ทั้งคู่ถูกตัดลง
A พยายามโทรไปอีกแต่ก็ไม่ติด
ทุกทีที่ออนเอ็ม A พยายามหาทางคุยกับ B แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
เหมือน B ค่อยๆถอยห่างออกไปจาก A
A รู้สึกตัวว่าสิ่งที่ทำไปไม่ควรทำกับ B ไม่ว่าจะสนิทกันแค่ไหนก็ตามไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือเพื่อน
ตอนนี้ A รู้สึกแค่ว่า A คงทำเกินไปสนิทกับใครง่ายไปโดยไม่ดูความรุ้สึกคนอื่น
บอก B ไปก็สายแล้ว เนื่องจาก B ไม่รับฟังอะไรแล้ว
A รู้สึกแค่ว่าขอให้ B เจอใครดีๆสักคน ที่เขารัก B จริง
และอย่างที่ B คิดก็คือ ไม่เป็นคนฉวยโอกาสอย่าง A


เรื่องนี้มันยังไม่จบแค่นี้หรอก หุหุ
เอาแค่ว่าตอนเนี่ยะคุณคิดว่า A เป็นคนยังไง
บอกก่อนนา A ไม่ใช่ผม
เชื่อกันหน่อยสิ
เฮ้อ...

 

ช่วยด้วย

ใครช่วยลบกระทู้นี้หน่อยสิ โฮๆๆ
B เขาเข้ามาเห็นแล้วอ่ะ จ๊ากก...ก....

 

อิอิ ..

 

B แน่ๆเลยมาทำหัวเราะ ไหนบอกว่าตอบกระทู้ในพลังจิตไม่เป็นไง

 

.

 

ทดสอบ

.

 

อืมมม...ยังไม่รู้เลยว่า A เป็นคนยังไง แต่ A แต่งงานไปแล้วรึเปล่าหนอ (b-ng)

 

โห...ใครไปขุดกระทู้นี้ขึ้นมานี่
เอาล่ะ ไหนๆ ขุดมาแล้ว นายฉิมอยากรู้ใช่ป๊ะ

ก่อนอื่นยายขอบอกนะคะว่า

ความสัมพันแบบฝังแนบแน่นทางการคุยกันแบบไร้สาย แบบไม่เคยเจอกันตัวเป็นๆ เนี่ย แค่ตัวหนังสือ แค่การเห็ฯภาพ(ตัวจริงบ้าง เอาภาพปลอมมาบ้าง) ยังงัยๆ มันก็ทำให้ใจเริ่มติดใจ เริ่มผูกพัน เริ่มเข้าข้างตัวเองว่า

มีความสุขจังที่ได้เจอคนๆ นี้ (แม้ว่าบางทีนะจ๊ะเค้าก็คุยกะคนอื่น ใช้ชื่ออื่นเหมือนกัน แต่บอกเราว่า คุยกะเราคนเดียวน๊า)

คนเรานะตอนแรกๆ ก็หวังว่าคู่ที่เราคุยด้วยนี่น่ะ เพอร์เฟค ออกงานวัดไม่อายใครแน่ แต่พอเจอตัวจริง มันก็แบบว่า เออ...เอ้อ...อะไรกันนี่...

แต่ด้วยความที่มันเกิดความความผูกพันทางความรู้สึกลึกๆ บ้างแล้ว มันก็เลย มองผ่านเรื่องรูปลักษณ์ไปเสียละมัง บางคนพอเจอปั๊บไม่ใช่เปค ก็แสดงอารมณ์แท้ออกมาเลย แล้วแต่ว่าคุยกันแบบไหนมาก่อน

(เดี๋ยวมานะคะ ขอตัวคุยเรื่องงานกับชาวรัสเชียก่อน เผื่อมีรายได้เพิ่ม กำลังเร่งหาทรัพย์ใช้หนี้กองทุนหมู่บ้าน ธ.ก.ส. และจิปาถะ๗

แหะๆ

 

B จะหน้าตาแบบนี้รึเปล่าหนอ (b-malang)


<img src="http://palungjit.org/attachments/a.101293/"</img>

 

หน้าตาหิวกระหาย เหวอ

 

เป็นกระทู้ของผมเมื่อปี 2004 เลยนะครับนั่นน่ะ

ว่าแล้วก็มาอัพเดท ตอนนี้ผมแต่งงานกับคนคนนี้ไปแล้วล่ะครับ น้อง B นี่ล่ะครับ จะมีน้องตัวเล็กแล้วครับอีกไม่กี่อาทิตย์นี้ก็จะคลอดออกมาลืมตาดูโลกแล้วล่ะ 555