All in 1 พระแก้วลิขิตฟ้า บัญชาสวรรค์

สารบัญ 1

 

สารบัญ 2

 

หัวข้อความคิดเห็นที่ #43 นี้ ไม่แนะนำแก่ท่านที่ต้องการงานง่ายๆ เพราะมีความสลับซับซ้อน แม้แต่เป็นเรื่องสีใส transparent ต่างๆ เช่น ใส เขียวใส แดงใส น้ำเงินใส และสีอื่นๆที่ใสก็ตาม ดูเหมือนง่าย แต่หัวข้อนี้ ในภาคปฏิบัติถือว่า ยากส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่ไม่มีเบ้าหลอมแก้วเป็นของตนเอง

หัวข้อความคิดเห็นที่ #43 นี้คือ การเพิ่มความเข้มของสีให้มีมากกว่าที่โรงงานก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อเขาทำมาเสร็จๆ

เนื่องจากโรงงานก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อส่วนมาก เขาทำมาแค่ 3 ระดับความเข้มของสี แต่ละสี เช่น สีเหลืองอ่อน สีเหลืองเข้มปานกลาง และสีเหลืองเข้ม และสีอื่นๆก็ไม่เกิน 3 ระดับทั้งสิ้น เพื่อความง่ายในการผลิต แต่บางครั้งไปเจองานที่บังคับเรื่องความเข้มของสีที่ทางโรงงานไม่ได้ทำมาให้ เราต้องทำเอง มีวิธีดังต่อไปนี้ครับ

 

บน สีเขียวเข้มปานกลาง


ล่าง สีเขียวเข้ม

ผมยกตัวอย่างสีเขียวดังภาพด้านบนนี้ ทางโรงงานของ Gaffer อเมริกาเขาทำมาแค่ 2 - 3 ระดับ แต่ถ้าหากเราพบโจทย์บังคับว่า ต้องให้ได้สีเขียวที่ระดับความเข้มที่ Gaffer ไม่ได้สร้างมาเป็นก้อนๆ แต่ต้องให้ได้ระดับความเข้มนั้นๆ

ติดตามต่อไปครับ

 

1 ต้องมีเบ้าหลอมแก้วขนาดทดลองสี เบ้านี้แล้วแต่ผู้ผลิตเบ้าแต่ละรายมีขนาดไม่เท่ากัน เช่น บางแห่งมี 10 kg 20 kg และ 30 kg แต่บางแห่งอาจมี 15 kg 25 kg และ 35 kg เป็นต้น

 

ยกเลิกความคิดเห็นที่ #45 เนื่องจากยากเกินไปสำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่มีความคุ้นเคยกับโรงงานแก้วเป็นพิเศษ แต่ถ้าหากท่านใดมีความสนิทสนมเป็นพิเศษ จะสอบถามมาก็ได้ครับ

เดี๋ยวผมหาวิธีที่ง่ายกว่าให้ครับ

 

ภาพภายในโรงงานจือปั๋วหลงไท้ แผนกทำแผ่นกลมแบนเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกค้า

zibolongtai แผนกทำแผ่นตัวอย่าง

ขออนุญาตแทรกภาพของโรงงานผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของหลงไท้ เขาใช้เบ้าทดลองสี 3 เบ้าในพื้นที่เบ้าใหญ่ 1 เบ้า ในเบ้าใหญ่ที่มีช่างกำลังม้วนน้ำแก้วนั้น เขากำลังม้วนน้ำแก้วเพื่อไปใส่แม่พิมพ์เหล็ก เพื่อที่จะได้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อแผ่นกลมแบนเป็นตัวอย่างไปเลย เรียกว่าขั้นตอนเดียวจบ และที่เบ้านั้นต้องใช้เบ้าใหญ่เพราะจำนวนแผ่นกลมแบนตัวอย่างต้องใช้จำนวนมาก ส่วนเบ้าสีที่เล็กแปลว่า ยังอยู่ในขั้นทดลองที่ยังไม่แน่นอน

 

กรณีที่ต้องการระดับสีมากกว่าที่โรงงานเขามี เราต้องทำแผ่นกลมแบนขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าเห็น เช่น ถ้าเราต้องการระดับความเข้ม 100 ระดับ เราต้องทำแผ่นนี้อย่างน้อยที่สุด 100 แผ่น แผ่นละสี หรือในกรณีที่ต้องให้แผ่นสีตัวอย่างแก่ลูกค้าไปดูและคงไม่ได้คืนกลับมา ก็ต้องทำสีละ 2 แผ่นขึ้นไป

ถ้าท่านยิ่งเพิ่มระดับความเข้มมาก หรือละเอียดเกินไป ท่านก็จะยิ่งลำบาก ดังนั้นโรงงานผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อส่วนมากในขณะนี้จะทำแค่ 3 ระดับความเข้มต่อสีเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ผมได้เล็งเห็นว่า ถ้าผมไม่พูดถึงเรื่องนี้ หากวันข้างหน้า มีความจำเป็นต้องการเพิ่มระดับความเข้ม สมมุติว่า ต้องเพิ่มเป็น 100 ระดับ ท่านจะได้ทำได้ด้วยตนเอง

วิธีที่ง่ายและไม่ต้องไปง้อโรงงานแก้วเหมือนวิธีด้านบนที่ผมยกเลิกการอธิบายไปนั้น อยู่ด้านล่างนี้แล้วครับ

เตาหลอมและอบไฟฟ้าเตาเดียวกันกับที่เราทำงานนั่นแหละครับ เดี๋ยวผมอธิบายต่อครับ

 

1. ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อสีใสเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็ตาม ท่านต้องใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อสีใสเป็นตัวเจือสีให้จางหรือเข้ม ขึ้นอยู่กับปริมาณของสีใสครับ

ให้นำก้อนสีใสไปทำให้เป็นผงละเอียด ไม่ให้มีสนิมเหล็ก หรือสิ่งเจือปนใดๆเลย ต้องสะอาดจริงๆ ฆ้อนหรือตัวบดละเอียดต้องใช้สเตนเลสสตีล ห้ามมีส่วนที่เป็นเหล็กดำเลย เพราะฝุ่นสนิมจะเป็นตัวแปรที่เลวร้ายครับ

นำฝุ่นละเอียดที่คัดขนาดแล้วบรรจุไว้ในภาชนะที่แห้งสนิท ไม่มีความชื้นเลย

 

2. สมมุติว่า เราต้องการสีเขียวที่ไล่ระดับความเข้มของสีสัก 100 ระดับ ให้นำก้อนแก้วสีเขียวที่โรงงานผลิตเขาบอกว่าเข้มที่สุด นำมาทำเช่นเดียวกับก้อนสีใสทุกอย่างเหมือนกัน

 

3. ยกเว้นก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อสีเรืองแสงในที่มืด อันนี้ผมยอมรับว่า ผมไม่มีความรู้ในสีนี้เลย ดังนั้น ยกเว้นเรื่องสีเรืองแสงนะครับ

 

ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อสีเรืองแสงในที่มืด อาจไม่สามารถเพิ่มระดับความเข้มได้เลยก็เป็นได้ ดังนั้น เฉพาะสีนี้ อย่าไปยุ่งกับเขาครับ

Uranium Glass หรือบางที่เรียกวาสลีนกล๊าส หรืออื่นๆ ความจริงคือแก้วที่ใช้รังสีที่ไม่เป็นโทษชนิดหนึ่ง ทำการหลอมขึ้นรูป อบได้ ขึ้นรูปแล้วเสีย ไม่สวย ทุบทิ้งได้ แต่เศษแก้วไม่ควรทิ้งครับ เพราะต้องเก็บไว้ในภาชนะที่แห้งสนิท อย่าลืมว่า อย่างไรก็มีรังสียูเรเนี่ยมอยู่ ถึงแม้จะไม่เป็นโทษก็ตาม

 

4 แผ่นกลมแบนตัวอย่างระดับความเข้มสีของแก้วนั้น ควรทำเป็นแผ่นกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 - 5 นิ้วขึ้นไป (ยิ่งใหญ่ยิ่งดี) ความหนาแล้วแต่ความหนาของชิ้นงานที่กำลังจะสร้างจริง เช่น ถ้าชิ้นงานหนา 1 นิ้ว แผ่นตัวอย่างก็ควรต้องหนา 1 นิ้วเป็นต้น ถ้าหนา 4 นิ้วก็ต้อง 4 นิ้ว

ในกรณีที่จะหล่อชิ้นงานตันๆซึ่งหนามาก ทำให้ไม่สามารถทำแผ่นให้หนาเท่าได้ ก็ต้องทำแผ่นนี้ให้ใหญ่ขึ้นและหนาที่สุดเท่าที่จะหนาได้ ถึงแม้จะไม่สามารถให้หนาได้เท่าชิ้นงานก็ตาม ความหนามากๆของแผ่นตัวอย่างจะช่วยให้ลดความคลาดเคลื่อนได้

ที่สำคัญ คือท่านต้องอบด้วยช่วงระยะเวลาเดียวกันกับชิ้นงานที่ท่านกำลังจะสร้าง เพราะสีของแก้วบางสี สามารถแปรเปลี่ยนตามระยะเวลาการอบด้วยนะครับ

 

5. เมื่อรู้ขนาดแผ่นตัวอย่างแล้วว่า ต้องทำแผ่นตัวอย่างเป็นรูปร่างอย่างไร ? เช่น อาจเป็นรูปสี่เหลี่ยมก็ได้ หรือแผ่นกลมก็ได้ ความหนาเท่าใด ? ให้นำเอาขี้ผึ้งมาปั้นให้ได้เท่ากับความต้องการ แล้วชั่งน้ำหนักขี้ผึ้งเอาไว้ ผมสมมุตินะครับว่า ขณะนี้แผ่นตัวอย่างที่ปั้นด้วยขี้ผึ้ง มีน้ำหนักของขี้ผึ้งหนัก 1 kg ท่านก็นำ 4.2 คูณ 1 kg ก็จะทราบว่า น้ำหนักของก้อนแก้วจะเท่าใด ในที่นี้คือ 4.2 kg

 

6. นำปูนปลาสเตอร์ที่ทำเป็นแม่พิมพ์มาหล่อเป็นแม่พิมพ์นั้นๆ แล้วรอจนปูนฯแม่พิมพ์แห้งสนิท

7. นำไปอบไอน้ำเพื่อเอาขี้ผึ้งออกจากแม่พิมพ์

ภาพนี้เป็นแม่พิมพ์ทรงสูงนะครับ ส่วนมากที่เราต้องการจะเป็นทรงกลมแบน หรือสี่เหลี่ยมแบน หรือ 6 เหลี่ยมแบน หรือในกรณีที่ชิ้นงานใหญ่และหนาจริงๆ ก็อาจเป็นทรงแผ่นกระดาน กว้าง 6 X 10 นิ้ว หนาเท่ากับชิ้นงาน แต่ถ้าความหนาเกิน 8 นิ้ว ท่านก็ไม่ต้องทำให้หนาเท่าชิ้นงานจริง คงทำไม่เกิน 8 นิ้วนั่นแหละครับ

 

เมื่อยกหม้อนึ่งไอน้ำออก ขี้ผึ้งด้านล่างได้หลุดออกจากแม่พิมพ์ไปหมดแล้ว

 

8 แล้วนำมาวางในเตาหลอมและอบในเตาเดียวกัน ภาพนี้ผมสมมุติเอานะครับ ภาพจริงมันจะเป็นแบนๆมากกว่า

แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีคำถามว่า ถ้าเช่นนั้นเราทำไมไม่หล่อชิ้นงานจริงๆไปเลย คำตอบก็คือ ทำเช่นนั้นก็ได้ครับ หล่อจริงไปเลย เสียก็ช่าง ไม่ดีก็หล่อใหม่ ส่วนมากเขาทำเช่นนั้นในชิ้นงานขนาดใหญ่ๆและจำนวนสร้างน้อยมากๆ

ส่วนแผ่นกลมแบนที่ความหนาประมาณ 1 นิ้วนั้น เพื่อทำไว้เป็นแผ่นตัวอย่างมาตราฐานระดับความเข้มสี 100 สีครับ ซึ่งข้อหลังนี้การทำไว้เป็นมาตราฐานก็ดีกว่าครับ

 

สำรองพื้นที่ 1

 

สำรองพื้นที่ 2

 

สำรองพื้นที่ 3