deleted

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 7 กรกฎาคม 2006.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ศาสนาพุทธบางประเทศ ไม่เชื่อว่า การอุทิศบุญ จะได้ผลจริง หรือผู้รับสามารถรับได้จริง เขาบอกว่าใครทำใครได้ จะอุทิศให้กันไม่ได้

    ส่วนพุทธบางประเทศ เชื่อว่าได้ผลจริง

    -----------------------------------

    ส่วนตัวผมคิดว่า การอุทิศบุญกุศล จะได้รับจริง
    สมุมติเปรียบเทียบนะว่า เงิน เทียบคือ บุญ

    เราทำงาน(ทำกรรม) แล้วได้เงิน(บุญ)มา

    เงินที่ได้มา เราจะใช้เองหรือจะให้กับคนอื่นก็ได้
    การให้เงินคนอื่นก็เหมือนกับ การทำบุญแล้วอุทิศบุญให้กับคนอื่น

    เงินที่ยังไม่ได้ใช้ ก็เก็บไว้ในธนาคารได้ แล้วเบิกมาใช้เองหรือให้คนอื่น ในภายหลังก็ได้

    บุญต่างๆที่เราทำ ก็เหมือนเราฝากเงินไว้ในธนาคาร
    แล้วก็เบิกบุญอุทิศให้คนอื่นก็ได้

    การอธิฐานจิตเวลาทำบุญ เช่น ว่า ถ้าทำบุญนี้แล้วขอให้อย่างนั้นอย่างนี้ ก็เหมือนการถอนเงินจากธนาคารแล้วเอาเงินนั้น มาทำอย่างนั้นอย่างนี้

    ผมเชื่อว่า บุญเมื่อทำแล้ว จะอุทิศบุญเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าบุญนั้นยังไม่ได้ใช้จนหมด


    ถ้าอุทิศ ตอนขณะที่จิตของเราเกิดปิติหรือจิตเป็นสมาธิ จะได้ผลดี
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    การอุทิศส่วนกุศล โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


    [​IMG]


    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3581


    การอุทิศส่วนกุศล

    ผู้ถาม
    หลวงพ่อคะ ลูกทำสังฆทานให้สัมภเวสี ถ้ากลับไปแล้วจะ กรวดน้ำ ให้ได้ไหมคะ....?

    หลวงพ่อ
    คือว่าการอุทิศส่วนกุศล ให้พระพุทธศาสนานี้ไม่มีน้ำ แต่ว่าที่พระเจ้าพิมพิสารทำเป็นองค์แรก เพราะว่า ศาสนาพราหมณ์ เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร ให้คนนั้นแบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป แล้วตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นพระเพณีนิยม เวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ เพราะว่าท่านเพิ่มพบพระพุทธเจ้า ประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง เวลาอุทิศส่วนกุศลจริง ๆ ในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใช้น้ำผีกับเปรตต้องรีบวิ่งกลับ เพราะไม่ได้กินแน่เพราะฉันเคยพบมาแล้ว แต่ไม่มีน้ำนะว่า"อิมินา" เพลินไปยังไม่ทันเลย

    ผู้ถาม
    มีบางคนเขาบอกว่า "กรวดน้ำแบบแห้ง" ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ โบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าคะ...?

    หลวงพ่อ
    เขาพูดได้ยินหรือเปล่า คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า...คนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณพูดหรือเปล่า...ถ้าได้ยินแสดงว่าเขาพูดจริง แต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง การอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ ฉันใช้น้ำวันเดียว วันบวช ว่าไม่ถูกเลย ต้องระวังน้ำหยดอีก ผีไม่ได้กินน้ำ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันไม่เคยใช้น้ำเลย ก็เห็นผีได้รับ แต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้น ถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรนะกินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าอด

    ผู้ถาม
    อ้อ....มิน่าล่ะ หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อยๆ

    หลวงพ่อ
    ใช่มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด
    รวมความว่าเวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้นๆอย่างทำบุญสังฆทานเราก็ตั้งใจว่า

    "การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลนี้จะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่....(บอกชื่อ)..... ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า"

    และตอนที่พระสงฆ์ให้พร นี้ก็ขอเจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว ตั้งจิตปรารถนาเอาตามประสงค์ สมมติว่าท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ พระนิพพาน อันนี้ต้องเผื่อไว้ด้วยว่า หากสมมติว่าเราตายจากชาติ นี้แล้วยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร สมมติว่าเราตายถ้าหากไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก ฉะนั้นการอธิษฐานจิต คือ ตั้งอธิษฐาน เขาเรียกว่า อธิษฐานบารมี พระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า

    "ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้า ยังไม่เข้าถึงพระนิพพานเพียงใดจะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่าไม่มีจงอย่างปรากฏแก่ข้าพเจ้า"
    ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง จะไม่รวยมากก็ช่าง เท่านี้ก็พอแล้ว"

    ผู้ถาม
    เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?

    หลวงพ่อ
    การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ

    ผู้ถาม
    แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ
    ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม
    อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทก็บอกว่า ไม่ยุบ

    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"

    ผู้ถาม
    การแผ่ส่วนบุญกุศลไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ....?

    หลวงพ่อ
    การได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนาท่านก็ได้รับ ถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ ได้รับเหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แต่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหม..... ถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพวุธสับฟันทั้งวัน ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม..?

    ผู้ถาม
    ไม่ได้ค่ะ

    หลวงพ่อ
    อยู่ในแดนเปรต ๑๑ จำพวกไม่ได้รับ แต่ถ้าเป็นพวกที่ ๑๒ คือปรัตทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้มี โอกาสได้โมทนา

    ผู้ถาม
    แล้วผู้สร้างจะได้ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ
    ไม่แน่ ถ้าสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป

    ผู้ถาม
    เป็นไงคะ.......?

    หลวงพ่อ
    คือก่อนจะทำบุญ ก็กินเหล้ากันก่อน พอพระไปก็กินเหล้ากันแล้ว ถ้าหากมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มี บาป มีแต่บุญ ผู้สร้างได้ ๑๐๐% คือบุญนี่จะได้แก่ผู้สร้างก่อน แล้วผู้สร้างอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ถ้าเขามีโอกาสโมทนาก็ได้รับ

    ผู้ถาม
    หลวงพ่อครับ คำว่า เจ้ากรรมนายเวร นี่หมายถึงใครบ้างครับ...?

    หลวงพ่อ
    เจ้ากรรมนายเวร นี้ตัวตนมันไม่มีหรอก มันเป็นเรื่องของกรรมที่เป็น อกุศลกรรม ถ้าบอกว่า เจ้ากรรมนายเวร ก็หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราทำไว้ ตัวจริงที่เราเคยทำ เขาไม่มายุ่งกับเรา หรอก อย่างเราฆ่าปลาตาย ปลาเขาก็ไม่มายุ่งกับเรา แต่ว่ากฏของกรรมมันเล่นงานเรา ถ้าปลามานั่งจองเวรคอยลงโทษเรา แกก็ไม่ต้องไปเกิดละ
    คำว่า เจ้ากรรมนายเวร นี่นะถ้าพูดตามส่วนจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ ถ้าหากเราปฏิบัติถึงขั้นสุกขวิปัสสโก เราจะบอกว่าไม่มีตัว เพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่เตวิชโช ขึ้นไปเขาเห็น ต้อง พูดตามขั้นนะ ถ้าเราว่ากันตามหนังสือก็คิดว่าจะไม่มี

    ผู้ถาม
    แล้วถ้าเราบอกอุทิศส่วนกุศล ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับไหมคะ....?

    หลวงพ่อ
    คือว่าอุทิศไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่าง ๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้วเราไปยั้งมันไม่ได้ แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีมีกำลังเหนือ มันก็กวดไม่ทันเหมือกัน"
    สำหรับคำอุทิศส่วนกุศลที่ใช้อยู่เดี๋ยวนี้ก็ยาวเหมือนกัน แต่ยาวตามท่านบอก บทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรก ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร นั่นหลวงปู่โตมาบอกแล้วก็บทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อนพญายมราชมาบอก
    สำหรับตอนที่สองที่ให้เทวดาโมทนา ท่านบอกว่า "เวลาอุทิศส่วนกุศลน่ะ ขอบอกให้ผมเป็นพยานด้วย" ท่านบอกว่า "ลูกหลานของท่านก็คือลูกหลานของผมและมันก็ไม่แน่นักหรอก บางทีไปอยู่สำนักผมมันอาจจะลืมก็ได้เขาอาจจะนึกถึงบุญไม่ออก ถ้านึกถึงบุญไม่ออก ฉันก็จะได้บอกว่า เขาสั่งให้เป็นพยาน"
    "มันเป็นธรรมดา ถ้าทำทั้งบุญทั้งบาป บางทีกรรมบางอย่างมันปกปิดเวลาถามเรื่องบุญนี่มันนึกไม่ออกถ้านึกไม่ออกก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ตกนรก หากว่าถาม ๓
    เที่ยวนึกไม่ออก ผมจะได้ ประกาศว่า "นี่เขาเคยบอกฉันไว้เวลาทำบุญเขาบอกให้ฉันเป็นพยาน แล้วก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์"

    ผู้ถาม
    ทีนี้การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆ ที่ตายไปแล้ว จำเป็นไหมครับว่าต้องออกชื่อ รู้สึกว่ามีมากเหลือเกิน

    หลวงพ่อ
    ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง ถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ "ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี"เอายังงี้ดีกว่า ถ้าขืนไปไล่ชื่อน่ากลัวจะไม่จบ
    มันมีอยู่คราวหนึ่ง นานแล้ว ไปเทศน์กัน 3 องค์ บังเอิญที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นๆด้วยรวมแล้ว 5 องค์
    ทีนี้ตาทายกเขาอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตาย แล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ พวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่ ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้งผิวพรรณดีขึ้น ไอ้พวกที่มิใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ
    พอเขานิมนต์ขึ้นเทศน์ ตอนลงท้ายเขาถามกันถึงว่า การอุทิศส่วนกุศลทำยังไง องค์ที่มีปากร้ายอยู่สักหน่อย บอกว่า
    "ญาติโยมที่นำอุทิศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนักซิ อย่าลืมว่าการทำบุญแต่ละคราวพวก ปรทัตตูปชีวีเปรตก็ดี พวกสัมภเวสีก็ดี จะมายืนล้อมรอบ อย่างสวดมนต์ "อยัญจะโข" น่ะ พวกบรรดาผีทั้งหลายทั่วบริเวณจะคอยโมทนา แต่ถ้าเราให้แต่ญาติ ญาติก็จะได้ แต่บุคคลอื่นไม่ใช่ญาติจะไม่ได้ ฉะนั้นก็ควรจะให้ต่อๆกันไปคือว่าให้ทั้งหมด "ทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ"
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ขอบคุณมากครับ
     
  4. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ผมคิดว่าคนโบราณผู้ที่สามารถมองเห็นได้ คงจะตระหนักถึงความจริงข้อนี้เช่นกัน
    ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง สาเหตุที่ประเพณีการกรวดน้ำยังมีอยู่ อาจเป็นอุบายในการทำบุญอย่างหนึ่งก็ได้
    บางคนเอะอะอะไรก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนอื่น แต่ลืมทำให้กับตนเอง
    พอตายไปปรากฎว่าบุญไม่พอ จึงต้องชดใช้กรรมแล้วกลับมาเกิดเป็นมนุษย์สะสมบุญใหม่ (หากยังไม่ถึงนิพาน)
    แต่หากมีบุญสะสมอยู่ในสวรรค์เหมือนการฝากธนาคาร ถ้ามีเพียงพอกับความต้องการของตนแล้ว
    ค่อยเบิกบางส่วนให้ผู้อื่นทีหลังได้ ส่วนการอธิฐานในขณะกรวดน้ำทำเพื่อเป็นสัญญากับตนเองให้ระลึกได้ภายหลัง
    ไม่ทราบว่าความคิดเห็นเช่นนี้ ผิดถูกอย่างไรครับ
     
  5. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,385
    ค่าพลัง:
    +22,310
    เราทำบุญตัวเราย่อมได้รับบุญแล้วแน่นอน และถ้าเราอุทิศให้ผู้อื่นไปด้วย จะให้มากเท่าไหร่ ๆ ของเราก็ไม่หมดไปจากธนาคารบุญน่ะคะ ตามที่หลวงพ่อฤาษีได้เคยกล่าวไว้...

    หลวงพ่อ:

    การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม

    อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?

    ท่านอนุรุทก็บอกว่า ไม่ยุบ

    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"

    (verygood)


     
  6. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,385
    ค่าพลัง:
    +22,310
    ส่วนหลวงพ่อเกษม อาจิณณสีโล ท่านก็ได้เมตตาสอนว่า วิธีอุทิศบุญกุศลให้ถึงเขา เราต้องตั้งจิตนึกในทันทีขณะกำลังทำบุญ

    อย่างถ้ากำลังถวายสังฆทาน ขณะกำลังถวาย ก็ให้ตั้งจิตอุทิศขณะนั้นเลย เขาเหล่านั้นที่ได้รับบุญจากเรา ก็จะได้รับกันแบบเต็มๆ ทันที เราไม่ควร "รอ" อุทิศตอนทำพิธีกรวดน้ำ ช่วงนั้นแสงบุญหดหายไปแล้ว บุญเราไปรออยู่บนสวรรค์แล้ว เขาจะไม่ได้รับ ต้องทำทันที อย่ารอ

    และไม่ว่าทำความดีใดๆ ก็ตาม ขณะทำนั้น เป็นบุญ ก็ส่งเลยทันที ทำบ่อยๆ ทุกวัน

    และหากจะ "เบิกบุญ" ที่เรา "เคย" ทำไว้ เพื่ออุทิศให้เขาทั้งหลาย ก็ทำได้เช่นกัน แต่ต้องตั้งจิตขอพึ่งอำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เื่พื่อช่วยเบิกบุญออกมาและอุทิศให้เขาเหล่านั้น

    โมทนาสาธุ ค่ะ ^^
     
  7. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,385
    ค่าพลัง:
    +22,310
    ส่วนพิธีกรวดน้ำ สรุปว่าไม่จำเป็น อยู่ที่จิตของเราต่างหาก

    ไม่มีน้ำ ก็ส่งบุญได้ ทุกที่ ทุกเวลา

    เป็นบุญตอนไหน ตั้งจิตส่งตอนนั้น ทันที..!

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2006
  8. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,385
    ค่าพลัง:
    +22,310
    บุญไม่มีหาย ถูกต้องแน่นอนที่สุดค่ะ กราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯ และ หลวงพ่อเกษมค่ะ

    หลวงพ่อเกษมท่านก็กล่าวถึงเช่นกันว่าหากเป็นบุญที่เราเคยทำไปแล้ว เราสามารถเบิกบุญนั้นๆ มาอุทิศให้ผู้ที่เราต้องการอุทิศให้ได้

    ส่วนประเด็นที่ท่านสอนว่า ในขณะทำบุญ "แสงบุญ" กำลังเจิดจ้าอยู่ขณะนั้น เราควรจะรีบส่งหรืออุทิศบุญทันที ทำแบบนี้ผู้ที่รอรับส่วนบุญอยู่จะได้รับแน่ๆ ชัวร์ๆ ได้เลยทันที แต่ถ้าเรามัวรอช้า "แสงบุญ" จะจางลงๆ ๆ แล้วจะหายวับไปบนสวรรค์ เป็นบุญของเราที่รออยู่บนสวรรค์ (มิได้หายไปไหน)

    แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังเบิกบุญทั้งหลายของเรามาอุทิศได้โดยตั้งจิตขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้บุญของเราถึงแก่ผู้ที่เราตั้งใจจะอุทิศให้

    สาธุค่ะ
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    " จิตใจมนุษย์ ความคิดมนุษย์ วิ่งเร็ว ๗ รอบโลก ต่อ วินาที
    แค่คิด...ก็ถึงแล้ว "
     
  10. chue27

    chue27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,358
    เคยได้ฟังหลวงปู่ท่านเทศน์หลายชุด ท่านบอกว่า
    -การรู้จักจ่ายบุญให้กับสัตว์ในโลกทิพย์ เช่นเทวดา หรือเปรต ผี ฯลฯ ก็คือการประยุกต์ดัดแปลงบุญที่เราทำในชาติปัจจุบันมาใช้เลย ไม่ต้องรอไปใช้ชาติหน้า ในรูปแบบที่ เราส่งบุญให้กับสัตว์ในโลกทิพย์เช่น เทวดาที่รักษาเราอยู่ เทวดาได้รับบุญแล้วมีกำลังพอก็จะช่วยเหลือเกื้อกูลเรา ดังเช่นในพระไตรปิฎกบอกว่า เทวดาได้รับการบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบเหมือนลูกที่เกิดกับตน และ ผู้ใดมีเทวดาเคยเกื้อหนุน ไม่มีอับจน เพียงแต่ผู้คนทุกวันนี้คิดว่าเทวดาต้องอยู่สวรรค์เพียงอย่างเดียว เทวดามีหลายระดับ แต่หลวงปู่ท่านอยากให้ดูแลเทวดาที่อยู่ใกล้ตัว คอยตามรักษาเราบนโลกมนุษย์ก่อน ถ้าเรากลัวขโมยจะขึ้นบ้านก็ไปจ้างยามมาเฝ้าบ้านเราสมมุติว่าให้เงินวันละพัน ยามดีใจ เฝ้าบ้านให้เราสุดใจขาดดิ้นเลย ไปจ้างนายพล นายพัน เค้ามีบุญมีบารมีใช้อยู่แล้ว ไม่ค่อยเดือดร้อนเค้าคงจะมาเฝ้าให้เราหรอก และเวลาบนสวรรค์มันต่างจากโลกมา บางทีเทวดาบนสวรรค์รู้ว่าเราเดือนร้อนแต่คิดว่า เอาไว้พรุ่งนี้จะมาช่วย พรุ่งนี้ของเขาก็อาจจะเป็น 50 ปีมนุษย์ (ชั้น จาตุมหาราช) จะรอเค้าไหมหล่ะ 50 ปีอะ
    -หลวงปู่เกษมเคยเล่าว่า ท่านก็ถามเทวดาว่า พวกเอ็งมีอยู่จริงแล้วทำไมไม่มาให้เห็น หรือปล่อยให้มนุษย์ตายแบบบ้าๆ บอๆอยู่ได้ ไม่เห็นช่วยเลย เทวดาบอกว่า เค้าไม่มีกำลังพอ เพราะไม่เคยได้รับบุญจากมนุษย์เลย ก็เหมือนคนไม่มีข้าวกิน จะเอาแรงที่ไหนไปช่วยชาวบ้าน ดังนั้น ทำบุญปุ๊บก็อย่าลืมอุทิศบุญให้พวกเขาทันทีหล่ะ
     
  11. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,385
    ค่าพลัง:
    +22,310
    ใช่เลยค่ะ คุณ chue27 โมทนาค่ะ
    เราก็ได้ฟังท่านเทศน์มาหลายชุด ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะค่ะ

    โมทนาผู้ช่วยเผยแพร่ทุกท่านด้วยค่ะ โดยเฉพาะคุณ Chayutt

    ตามมาฟังหลวงพ่อเกษม อจิณณสีโล เทศน์ได้ในห้องนี้เลยค่ะสำหรับผู้ที่สนใจ
    http://www.palungjit.org/buddhism/audio/forumdisplay.php?f=2

    (หลวงพ่ออาจจะมีลักษณะการเทศน์ที่ไม่เหมือนใคร ระวังอย่าปรามาสนะคะ บาปหนักค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • R3875-9.gif
      R3875-9.gif
      ขนาดไฟล์:
      7.1 KB
      เปิดดู:
      588
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2006
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    deleted
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2015
  13. nitis

    nitis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +137
    ผมว่าเป็นประเพณีปฏิบัติของไทยนะคับ อีกทั้งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านก็ดำเนินตามขนบธรรมเนียมประเพณี อานิสงค์ผลบุญคงมีอยู่และคงได่แผ่ผลบุญนี้ไปตามจิตปรารถนาของผู้ทำบุญ
     
  14. ตุ๊กตาแก้ว

    ตุ๊กตาแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +3,265
    อนุโมทนาค่ะ เคยทราบมาก่อนบ้างแต่แค่คร่าวๆเท่านั้น ตอนนี้แจ่มเลยค่ะ
    ขออนุญาตบอกต่อนะคะ
     
  15. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +3,843
    ผู้ถาม
    เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?

    หลวงพ่อ
    การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ


    พระอาจารย์ทองอินทร์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่สิม (มรณภาพแล้ว อัฐิเป็นพระธาตุ) ท่านก็เคยบอกเช่นนี้ครับ หลวงปู่สิมท่านก็เคยสอนว่าถ้าใจนิ่งแผ่ส่วนกุศลไปในอากาศได้ เพราะอากาศไปได้ทั่วมากกว่าน้ำเสียอีก
     
  16. wudiman

    wudiman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,333
    อนุโมทนาด้วยคนนะครับ

    อนุโมทนาบุญกับการทำบุญของทุกๆ ท่านด้วยนะครับ ตอนนี้ผม ทำบุญใส่บาตรได้ประมาณ 3 เดือน ไม่ขาด แม้วันเดียวครับ มีความสุขมากครับที่ได้ทำบุญใส่บาตร
     
  17. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    726
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,503
    [​IMG]
     
  18. ธนิตา อาจหาญ

    ธนิตา อาจหาญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    การกรวดน้ำ

    อนุโมทนา ในการรับความรู้ครั้งนี้ ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น(b-smile)
     
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    deleted
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2015
  20. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนาสาธุในกุศลบารมีธรรมของทุกท่านด้วยนะครับ<!-- / message --><!-- sig -->
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...