คลังเรื่องเด่น
-
“ในหลวง ร.๙”ทรงสอน“พุทธศาสนานี้..ปฏิบัติที่ไหน..ปฏิบัติอย่างไร”
“ในหลวง ( ร.๙ ) ” ทรงสอน “พุทธศาสนานี้ ปฏิบัติที่ไหน ปฏิบัติอย่างไร”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระราชศรัทธาปสาทะอันแน่วแน่มั่นคงในบวรพุทธศาสนา
โดยได้เสด็จออกทรงพระผนวช
ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499
ในระหว่างนั้นได้ทรง ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
อย่างเคร่งครัด ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงเล่าถึงพระราชจริยวัตร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระผนวชว่า
ภาพนี้ปลื้มพระองค์ท่านที่สุด ^_^
“...พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะได้ทรงพระผนวชตามราชประเพณีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหามิได้
แต่ทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธา
ที่ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
มิได้เป็นบุคคลจำพวกที่เรียกว่า “หัวใหม่” ไม่เห็นศาสนาเป็นสำคัญ
แต่ได้ทรงเห็นคุณค่าของพระศาสนา
ฉะนั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาสามัญก็กล่าวได้ว่า “บวชด้วยศรัทธา”
เพราะทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา ประกอบด้วยพระปัญญา
และได้ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด...”
และสมเด็จพระสังฆราช ยังได้ทรงกล่าวถึงพระราชจริยวัตร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทางพุทธศาสนา ว่า... -
" บอกให้ไป...ไปไหนก็ได้ นรกที่ไหนก็ได้ ถอยไปห่างๆเลย "
"บอกให้ไป...ไปไหนก็ได้ นรกที่ไหนก็ได้ ถอยไปห่างๆเลย"
มรดกพระดี ตอนที่ 7
ลูกหลานเอย......ก่อนที่หลวงตาจะเล่าให้เห็นอภิญญาบริสุทธิ์ที่พ่อแสดงฝากไว้ในโลกพระพุทธศาสนา อันเป็นมรดกพระดีที่พ่อเมตตามอบไว้ให้พวกเรา หลวงตาอยากจะอวดอะไรสักหน่อย ไม่อวดทนไม่ได้อกแตกตายแน่..คือเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2544 อันเป็นงานทักษิณานุปทานที่วัดเขาวงจัดถวายกุศลให้พ่อของเรา(หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง) และพลอยจัดเสริมแสดงมุทิตาจิตต่อพระครูภาวนาพิลาศไปในตัวด้วยนั้น
งานก็ผ่านไป แต่สิ่งที่ยังทรงสถิตใจหลวงตาไม่อยากสลัดออก ก็คือทั้งท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺญาโณ หลวงพี่อาจินต์ ธมฺมจิตโต และคณะสงฆ์วัดท่าซุงรวม 21 รูป ที่เมตตามาร่วมงานนั้น...ยังไม่ได้พูดถึงท่านเจ้าคุณพระเทพสิริภิมณฑ์ซึ่งมาแทนหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฏกเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี และพี่น้องต่างวัดอีกหลายองค์ ที่มาร่วมงานในวันนั้น ทุกองค์พูดว่า.. " วัดเขาวง สวย สะอาด สงบ "
ความกังวลที่สุมใจหลวงตามา 7 ปีเต็มหลุดหายไป มีความมั่นใจโปร่งใจเข้ามาแทนที่ เพราะเราได้ทำมา.เดินตามแนวทางที่เรา มุ่งมั่นมาตั้งแต่ออกจากวัดท่าซุง... -
พระอาจารย์เล็ก สอนเรื่อง "สิ่งที่ต้องระวังในการทำงานสาธารณประโยชน์"
ความสำเร็จทางการงานไม่ได้สำคัญเท่ากับความสำเร็จในใจ
ความสำเร็จในใจก็คือทำอย่างไรให้เราลด รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของเราได้
งานที่ผ่าน ๆ ไป พวกเราลดความโลภได้แน่นอน เพราะว่าเรื่องของการบริจาคเงิน บริจาคของต่าง ๆ
พวกเราควักอย่างไม่ห่วงหน้าห่วงหลัง ทีนี้ก็เหลือแต่โกรธกับหลงว่าเราลดละได้จริงไหม ?
เวลาทำงานจะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ บางทีอาจจะเกิดจากความเห็นไม่ตรงกันบ้าง เหนื่อยขึ้นมาแล้วคุมอารมณ์ไม่อยู่บ้าง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยบอกว่า ใครก็ตามที่ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้าง
จะมีสารพันปัญหาเข้ามาอยู่เสมอ ถ้าเราสามารถที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จะทำให้เราเข้าถึงธรรมได้เร็ว
เพราะว่าต้องชนอยู่กับของจริงอยู่ตลอด
จากงานต่าง ๆ ที่ผ่านมาก็เหลืออยู่แค่อย่างเดียวว่า สังเกตตัวเองว่าโกรธกับหลงของเราเหลืออยู่แค่ไหน ?
แต่ว่าบางทีก็สังเกตได้ยาก เพราะว่า ปีติขึ้นมาบัง มัวปลาบปลื้มยินดีกับงานที่ตัวเองทำ
ทำกันแบบไม่เหนื่อยไม่หน่าย มีแรงเท่าไรก็ทุ่มลงไป จนลืมนึกถึงเรื่องกิเลสที่ซ่อนอยู่ในใจของตนเองไป
ถ้าจิตไม่ละเอียดจริง... -
วิธีทำน้ำมนต์ และ รัตนสูตร โดย หลวงพ่อฤาษี
วิธีทำน้ำมนต์ และ รัตนสูตร โดย หลวงพ่อฤาษี
วิธีทำน้ำมนต์
บันทึกเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฏาคม ๒๕๐๖ ตรงกับ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ วันนี้เจริญกรรมฐานเวลา ๘.๓๐ น. จิตจับอนาปาฯ และปราโมทย์ในพระนิพพานเป็นอารมณ์ เมื่อภาวะจิต เข้าสู่แดนพระนิพพานพบท่านโมคคัลลาน์ และท่านกัญจายนะ แล้วเข้าไปสู่หน้าห้องๆหนึ่ง มีพระบอกว่าเป็นที่ประทับขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นท่านเสด็จออกรับแล้วทรงนำบาตรมาลูกหนึ่งทรงเทน้ำเก่าในบาตรออกแล้วทรงตักน้ำใหม่ทำน้ำมนต์ คิดว่าท่านจะรดน้ำมนต์ให้ แต่ความจริงกลายเป็นท่านสอนทำน้ำมนต์โปรดคน น้ำมนต์ที่ทำ ห้ามเรียกค่าจ้างรางวัล ให้สงเคราะห์ด้วยอำนาจเมตตา แม้แต่ดอกไม้ธูปเทียนก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น ถ้าเขามีหรือหามาง่าย ก็ให้จัดหามา ถ้ายากก็ไม่ต้อง
ให้เอาน้ำใส่บาตรแล้วเพ่งจิตลงสู่ก้นบาตร ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ในอดีตทั้งหมด แล้วสวด อิติปิโสฯลฯ ทั้งสามห้อง ขณะสวดให้เพ่งจิตลงก้นบาตรแล้วอธิษฐานว่า "ขอให้กระแสน้ำนี้จงซาบซ่านไปทั่ววรกาย กำจัดโรคาพยาธิของมนุษย์ทั้งหลายและสัตว์ให้หายโดยฉับพลัน" แล้วว่า อิติปิโสฯลฯ ต่อไปอีกหลายจบก็ได้ตามความพอใจ... -
ห้องประสบการณ์หลวงพ่อเกษม เขมโก สามารถเข้ามาคุยกันได้ครับ
ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก
ณ ดินแดนถิ่นล้านนา ทางภาคเหนือของประเทศไทย พระอริยะสงฆ์ที่พวกเราทุกคนรู้จักชื่อเสียงคุณงามความดีของท่าน ก็คือ ครูบาศรีวิชัย อริยะสงฆ์องค์แรกของภาคเหนือท่านเปรียบเสมือนประทีปดวงใหญ่ ที่ส่องประกายธรรมไปทั่วทุกสารทิศ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ประกอบคุณงามความดีไว้กับแผ่นดินนี้มากมาย ท่านจึงถูกจัดให้เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวเหนือ
ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอน ของครูบาศรีวิชัยตอนหนึ่ง กล่าวว่าท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่าจะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไปโดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย
เมื่อปี พ.ศ.2455 ได้มีครอบครัวเชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปางหรือเขลางค์นครในอดีตหัวหน้าครอบครัวคือ เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอภรรยาชื่อเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง... -
วันออกพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" จะมีการทำบุญ ตักบาตรเทโว
วันออกพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" จะมีการทำบุญ ตักบาตรเทโว
ความหมาย
วันออกพรรษา คือวันสิ้นสุดระยะการจำพรรษา หรือออกจากการอยู่ประจำที่ในฤดูฝนซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ วันออกพรรษานี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คำว่า"ปวารณา"แปลว่า "อนุญาต" หรือ "ยอมให้" คือ เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกัน ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ในข้อที่ผิดพลั้งล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน ในวันออกพรรษานี้กิจที่ชาวบ้านมักจะกระทำก็คือ การบำเพ็ญกุศล เช่น ทำบุญตักบาตร จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไปบูชาพระที่วัด และฟังพระธรรมเทศนา ของที่ชาวพุทธนิยมนำไปใส่บาตรในวันนี้ก็คือ ข้าวต้ม มัดไต้ และข้าวต้มลูกโยน และการร่วมกุศลกรรมการ "ตักบาตรเทโว" คำว่า "เทโว" ย่อมาจาก"เทโวโรหน" แปลว่าการเสด็จจากเทวโลกการตักบาตรเทโว จึงเป็นการระลึกถึงวันที่ พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรด พระพุทธมารดาในเทวโลก ประเพณีการทำบุญกุศล เนื่องในวันออกพรรษานี้ ทุกวัดในประเทศไทย ก็มีพิธีเหมือนกันหมด จะผิดกันก็เพียงแต่สถานที่ ที่สมมติว่าเป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เท่านั้น
กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันออกพรรษา... -
หลวงปู่ดู่กับในหลวง(ร.๙) (ลูกศิษย์บันทึก)
ธรรมบรรยาย
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อกับในหลวง(ร.๙)
หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ครั้งที่ท่านได้ฟังข่าวในหลวงรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคต ท่านเกิดความสลดสังเวชมากว่าคนไทย หลายคนยังขาดกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อพระเจ้าอยู่หัวท่านคิดอยู่เสมอว่า ทำอย่างไรจะให้คนไทยมีความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ องค์ท่านเองนั้นตั้งแต่บัดนี้จนกระทั่งทุกวันนี้ แม้กาลเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี กิจวัตรอันหนึ่งท่านทำอยู่มิได้ขาด คือ การสวดมนต์ถวายพระพรแด่ในหลวงทุกวันตลอดมา ขอให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมิ่งขวัญคนไทยตลอดไป หลวงพ่อยังได้กล่าวกับผู้เขียนอีกว่าเพราะ พระเจ้าแผ่นดิน (ร.9) ท่านปฏิบัติ (ธรรม) ต่อไปพุทธศาสนาในเมืองไทยจะเจริญขึ้น เพราะท่านเป็นผู้นำ เป็นแบบอย่าง
หนึ่งในสี่
ครั้งหนึ่งหลวงพ่อได้ปรารภธรรมกับผู้เขียนว่า...
" ข้านั่งดูดยา มองดูซองยาแล้วก็ตั้งปัญหาถามตัวเองว่าเรานี่ปฏิบัติได้ 1 ใน 4 ของศาสนาแล้วหรือยัง? ถ้าซองยานี้แบ่งเป็น 4 ส่วน เรานี่ยังไม่ได้ 1 ใน 4 มันจวนเจียนจะได้แล้วมันก็คลาย เหมือนเรามัดเชือกจนเกือบจะแน่นได้ที่แล้วเราปล่อย... -
อานิสงส์กฐินทานในพระไตรปิฏก
เทวดาในหมื่นโลกธาตุสาธุ ส่วนบุญของ ติณณปาละคนเข็ญใจ ได้เปลื้องผ้านุ่งของตนออกมาเข้าส่วนกฐินทาน และต่อไปจะได้สำเร็จพระอรหันต์องค์หนึ่งของพระศรีอริยเมตไตรย์
อานิสงส์กฐินทานในพระไตรปิฏก
......ในครั้งศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอุบัติในโลก มีบุรุษเข็ญใจไร้ญาติพี่น้องทั้งทรัพย์
สินเงินทองก็ขาดแคลนอาศัยเลี้ยงชีพอยู่ในเมืองพาราณสี ไปหาสิริธรรมมหาเศรษฐีมีทรัพย์
๘๐ โกฏิ แล้ววิงวอนขออยู่เป็นลูกจ้าง ท่านเศรษฐีมีความสงสารจึงถามว่ามีความรู้อะไรบ้าง บุรุษเข็ญ
ใจบอกว่า ข้าพเจ้าไม่มีความรู้อะไรเลย มีแต่กำลังกายเท่านั้นท่านเศรษฐีกล่าวว่าถ้าเช่นนั้นเจ้าจง
ไปรักษาหญ้าเราจะให้ข้าววันละหม้อ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา บุรุษก็รักษาหญ้าจนมีชื่อว่า ติณณปาละ อยู่มาวันหนึ่ง ติณณปาละมาคิดว่าตัวเรานี้ ในชาติปางก่อนคงจะไม่ได้ทำบุญกุศลอันใดไว้เลย มาถึงชาติ นี้เราจึงได้ลำบากยากแค้น แม้แต่อาหารจะรับประทานไปวันหนึ่งๆ ก็ทั้งยาก แต่นี้ต่อไปเราจะต้องขวนขวายให้ทานทุก ๆ วัน เมื่อมีความตั้งใจอย่างนี้แล้ว ก็แบ่งอาหารออกเป็น ๒ ส่วน ๆ หนึ่ง ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์... -
" มาตุคาม มหาภัยพรหมจรรย์ " ( หลวงปู่แหวน )
บุพเพสันนิวาสอันเหลือเชื่อของหลวงปู่แหวน
...หลวงปู่ว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง จิตที่เคยควบคุมบังคับให้สงบนิ่งได้ก็เกิดปรวนแปรไป ความคิดคำนึงคอยแต่จะโลดแล่นซัดส่ายไปหาหญิงงามอย่างเดียว ทำให้หลวงปู่แหวนเกิดความหวาดกลัวตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ขืนอยู่ต่อไปอาจจะพ่ายแพ้ต่อกิเลสเมื่อไหร่ก็ได้
ดังนั้น หลวงปู่แหวนจึงตัดสินใจเก็บบริขารทั้งหลายเดินทางกลับประเทศไทยอย่างฉับพลัน ทันที เมื่อข้ามแม่น้ำโขงสู่ผืนแผ่นดินมาตุภูมิแล้วก็มุ่งหน้าขึ้นไปทางอำเภอศรี เชียงใหม่ ระหว่างเดินทางหนี "มาตุคาม" ซึ่งเป็นเนื้อคู่บุพเพสันนิวาสมาแต่ชาติปางก่อน จิตใจของหลวงปู่ยังโลดแล่นไปหาสาวงามเกือบตลอดเวลา เป็นความรู้สึกที่ฟุ้งซ่านที่รุนแรงร้ายกาจสุดพรรณานาทีเดียว
หลวงปู่แหวนเดินทางมาถึงพระบาทเนินกุ่ม หินหมากเป้ง จึงหยุดยั้งอบรมตนอยู่ ณ ที่นี้ และก็เป็นวาสนาของหลวงปู่ที่ได้พบกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านได้ปลีกตัวออกจากหมู่คณะมาบำเพ็ญภาวนาอยู่ในบริเวณนั้นพอดี
หลวงปู่แหวนมีปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านอาจารย์ใหญ่ การได้มาพักอบรมตนอยู่ใกล้กับท่านพระอาจารย์มั่นก่อนเข้าพรรษาปีนั้น... -
ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (กลุ่มหลวงพ่อเงิน)
ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เดี๋ยวจะอัพข้อมูลให้เรื่อยๆ นะครับ
นโม ๓ จบ
อะกะ อะธิ อะธิ อะกะ ธิอะ กะอะ
วันทามิ อาจาริยัญจะ หิรัญญะ นามะกัง ถิรัง สิทธิ ทันตัง มหาเตชัง อิทธิ มันตัง วะสาทะรัง
( สิทธิ พุทธัง กิจจัง มะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ ธัมมัง จิตตัง มะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ สังฆัง จิตตัง มะมะ เงินทองไหลมา นะชาลี ติ ฉิมพลี จะ มหาลาภัง ภะวันตุ เม )
ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” เป็นชาวบ้านบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่อ อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน มารดาของท่านชื่อฟัก เป็นชาวบ้าน จังหวัดกำแพงเพชร ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกันท่านเกิดเมื่อ 6 กันยายน พศ 2351 นามเดิม ชื่อเงิน ในสมัยก่อนยังไม่มีการใช้นามสกุล
เมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงิน อายุได้ 5 ขวบ นายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พา หลวงพ่อเงิน ไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้ จึงได้นำ หลวงพ่อเงิน ไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2363... -
วันลอยกระทง บุญเราพบใจ...
สุขสันต์วันลอยกระทง… พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ กัลยาณมิตรใน Website พลังจิต ทุกๆท่านครับ _/\_
วัน… เพ็ญ เดือนเด่น ด้าว เลอสรวง
ลอย… ล่อง ประดับ ดวง เจิดจ้า
กระ… พริบ วิับวับ ปวง เทพส่ง สุขนา
ทง… นิด ฤทธิ์แรง กล้า แบกเรื้อ โศกลอยฯ
บุญ… เก่า เราก่อนนั้น ชักพา
เรา… ต่าง ทำดีมา บ่มสร้าง
พบ… กันย่อมเคยมี วาสนา หนุนส่ง
ใจ… เรานี้ไม่ร้าง เปี่ยมด้วย ไมตรี
“วันลอยกระทง บุญเราพบใจ” เมื่อบุญให้ผล สิ่งดีๆ คนดีๆ จะเข้ามาในชีวิตเราเอง _/|\_ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจบุญกุศลของทุกๆท่านจงคุ้มครองรักษาทุกๆท่านครับ _/|\_
... ขอให้ COVID-19 และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกทั้งคนชั่ว คนเลว คนโกง คนพาล ภัยอันตรายทั้งปวง และ ความทุกข์ ความเหงา ความเศร้าใจ “ตัวกู ของกู” ของทุกๆท่านจงล่องลอยไปกับสายน้ำเทอญ… บุญรักษาครับ _/\_ -
เสียงธรรม อุบาย“หักอาลัย”ในเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ อ่านโดย สมาชิกพลังจิต
เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน เมื่อสมัยที่เรียนมูลกัจจายน์ที่จังหวัดอุบลราชธานี
ได้มีหมอดูทำนายว่าเนื้อคู่ของท่าน
จะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร
ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระศาสนาแล้ว
จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่งในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่แหวน
เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึกเห็นแต่หน้าของหญิงนางนั้น
ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่านให้หลุดออกจากห้วงนั้น
โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุผลในทีละอย่าง
จนท่านก็ประสบความสำเร็จ เนื้อความในหนังสือที่ยกมากล่าวอ้างนี้ความว่า
วันหนึ่ง หลวงปู่แหวนได้มาพักบำเพ็ญอยู่ที่บ้านนาสอง เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่พอสมควร
พวกชาวบ้านถิ่นนั้นมีแปลกอยู่อย่างคือ
เวลาเห็นพระไปบิณฑบาต พวกเขาจะป่าวร้องกันมาใส่บาตรว่า
“มาเน้อมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว
หาน้ำอ้อยน้ำตาลมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว ท่านชอบของหวาน”
เมื่อได้ยินคนร้องประกาศเช่นนั้น ต่างก็เอาของมาใส่บาตรจนเต็ม
พวกนี้เหมือนกับพวกไทยใหญ่ ไทยใหญ่ถ้าเห็นพระไปบิณฑบาต
เขาจะใส่บาตรด้วยน้ำอ้อยน้ำตาลกับข้าวเช่นกัน พวกเขาถือว่าเจ้บุ๊นไม่กินเนื้อสัตว์... -
ทำไมถึงห้ามตั้งศาลช่วงเข้าพรรษา ?
ถาม : ทำไมถึงห้ามตั้งศาลช่วงเข้าพรรษา ?
ตอบ : เขาเชื่อว่าเทวดาไปจำศีลหมดแล้ว คุณจะเชิญใครมาล่ะ ? แบบเดียวกับ "ย่าเฒ่าผาขาว" ที่ภาคเหนือ ท่านมีหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าต่างๆ ตอนนั้นมี "ไอ้โทน" เป็นหมูป่าเกเร ลงมากินผัก กินข้าว กินข้าวโพดของชาวบ้าน ลุยราบเป็นไร่ๆ เขาก็ต้องไปไล่ยิง แต่ไอ้โทนหนังเหนียวเพราะย่าเฒ่าคุ้มครอง ยิงเท่าไรก็ไม่เข้า พอยิงตูมกระเด็นล้มลงไป ลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งไล่ขวิดคนยิง
กว่าที่ปืนแก๊บจะอัดลูกใหม่ได้ก็นาน ต้องวิ่งหนีกันอุตลุด บางคนมีปืนลูกซองดีๆ ยิงตูมไอ้โทนกระเด็นตกห้วยไป พอโผล่ไปดู ที่ไหนได้..ไอ้โทนวิ่งสวนขึ้นมาก็ต้องเผ่นเหมือนกัน ท้ายสุดเขาไปได้ความลับมาว่า ย่าเฒ่าจะต้องไปจำศีลบนสวรรค์ทุกวันพระ ไอ้พวกระยำก็เลยแหกประเพณีชาวบ้าน ปกติเขาไม่ล่าสัตว์วันพระ เขาก็ออกล่าวันนั้น ไอ้โทนคงถึงที่ตาย โดนยิงตายวันนั้นแหละ
ปกติแล้วไอ้โทนหนังเหนียว วันนั้นเขายิงท่าไหนไม่รู้เข้ารูหูพอดี ถ้าเข้าหูก็ถึงสมองด้วย ย่าเฒ่าไม่อยู่คุ้มครอง เพราะมัวแต่ไปจำศีล
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านวิริยบารมี เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
ที่มา :... -
มีทำบุญอะไรบ้างแล้วโรคลดลง ?
ถาม : มีทำบุญอะไรบ้างแล้วโรคลดลง ?
ตอบ : ไม่มี.. ให้เว้นจากการทำบาปจ้ะ ไม่ใช่ทำบุญแล้วโรคจะลดลง เว้นจากปาณาติบาตทุกชนิด หมั่นแผ่เมตตาบ่อยๆ ชาติต่อไปก็โรคน้อยไปเอง หรือไม่ก็สร้างส้วมถวายวัด จะได้อานิสงส์แบบพระพากุละ
ถาม : ไปช่วยเขาสร้างห้องน้ำ เขาทำบุญกันทั้งศาลาได้แค่สามร้อยกว่าบาท ?
ตอบ : บางทีต่างจังหวัดเขาไม่ค่อยมีกำลังเงิน อาตมาไปอยู่ทองผาภูมิใหม่ ๆ หมู่บ้านมอญยกผ้าป่ามาถวาย มากันหมดหมู่บ้าน ถวายผ้าป่ามา ๒๑๗ บาท เขาทำต้นผ้าป่ามาสวยมากเลย แล้วเอากระดาษตัดเป็นดาวบ้าง เป็นดอกไม้บ้าง ห่อเหรียญบาทมา นับมาได้ ๒๑๗ บาท อาตมาแจกวัตถุมงคลหมดไปหมื่นกว่าบาท เพราะฉะนั้น..บางทีต่างจังหวัดมีแต่แรงงาน ถ้าเราต้องการแรงงานเขามีให้ แต่ว่าเรื่องเงินเขาไม่ค่อยจะมี ก็เลยเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ญาติโยมมีจิตศรัทธามาก ศรัทธาล้นเกินตัวเงินที่ได้ทำบุญมา
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๗
โดย พระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สฺธมฺมปญฺโญ),ดร.
. -
หลวงพ่อปานสอนหลวงพ่อฤๅษีเดินบนน้ำ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
หลวงพ่อปานสอนหลวงพ่อฤาษีเดินบนน้ำ
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
ในคืนหนึ่งฉันคิดว่า ถ้าฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันจะลองฝึก
เดินน้ำดู ว่ามันจะเป็นยังไงการเดินน้ำเดินท่า จะลอง
เดินน้ำดู แล้วก็ลองเดินกลางคืนดึก ๆ ฉันก็เริ่มใช้ปถวีกสิณ
กสิณดินเอาเข้ามาเพ่ง เพ่งจนกระทั่งปรากฏว่าน้ำในแก้วแข็ง
จะเอานิ้วจิ้มลงไปตรงไหน น้ำมีสภาพเหมือนน้ำแข็งทุกอย่าง
มันแข็งเป๋งเหมือนกับหิน ซ้อมอยู่อย่างนี้ ๓ คืน เมื่อ ๓ คืน
แน่ใจแล้ว คืนหนึ่งตอนตี ๒ แล้วก็เดือน ๑๒ เสียด้วยนะ
กำลังหนาวจัด ที่วัดบางนมโคนั่นมันด่านลม ลมหนาวพัดมา
น้ำเป็นคลื่น ความหนาวเย็นสะท้าน
ฉันก็เตรียมจะเดินน้ำ คิดว่าตอนนี้มันหนาวนี่ แล้วดึก ๆ อย่างนี้
หลวงพ่อท่านคงจะไม่ออกไปนอกกุฏิ พระแก่คงจะไม่สู้กับ
ความหนาว ฉันนุ่งผ้าผืนเดียว เตรียมพร้อมที่จะลงน้ำ ไปนั่ง
อยู่ที่โป๊ะหน้าวัดแล้วก็เข้าปถวีกสิณ ประเดี๋ยวเดียวอธิษฐานจิต
เอานิ้วจิ้มลงไปในน้ำ ปรากฏว่าน้ำแข็ง ฉันแน่ใจว่าน้ำแข็งมัน
จะเดินได้แล้วฉันก็ก้าวลงจากโป๊ะ ตอนก้าวลงนี่แหละ บรรดา
ลูกหลานทั้งหลาย การคุมอารมณ์มันไม่ทรงสภาพ สมาธิมัน
เคลื่อน ตอนนี้เอง พอก้าวลงจากโป๊ะ ตัวมีน้ำหนักตัวทาง... -
เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง
กระทู้นี้มีไว้เพื่อแบ่งปันของดี ของรัก ของหวงที่เคยสะสมมา
เป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆที่มีอยู่เพื่อคนที่ต้องการมีของดีๆไว้บูชากับเขาบ้าง โดยไม่รู้ว่าจะหาจากตรงใหนจึงจะเชื่อถือได้ว่าแท้จริงตามมาตรฐานดั้งเดิมแต่ครั้งก่อน และยังได้รับเมตตาแบ่งปันมาจากผู้ใหญ่หลายท่านที่สะสมไว้แบบของแท้ตามมาตรฐานเก่ายุคก่อน มีทั้งราคาแพงและแบบราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป มีตั้งแต่หลักร้อยยันหลักล้าน มีทั้งของที่เลือนหายไปจากวงการนักสะสม ของที่เป็นที่สุดในสายวิชาต่างๆและมีทั้งของชิ้นที่เป็นตำนานวิชาอาคม เพื่อคนใจรักและชื่นชอบในวัตถุมงคล ทุกชิ้นรับประกันตามมาตรฐานที่ถูกต้องตามความจริงยุคก่อน บางชิ้นอาจไม่แท้ในสากลนิยมแต่แท้ในแบบฉบับมาตรฐานยุคเก่า โดยไม่มีเงื่อนไขอื่นๆให้เสียอารมย์ เรื่องเงินสามารถตกลงกันได้โดยไม่ต้องหนักใจหรือเดือดร้อนครอบครัว แบ่งปันให้จองบูชาได้เฉพาะในกระทู้นี้ อยากได้-ต้องการหาของที่ต้องการหรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ siamaraya@gmail.com
ฝากรูป -
ระดับจิตของนักปฏิบัติ โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ระดับจิตของนักปฏิบัติ
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
คนเราก็ต้องอย่างนี้ก่อน ขั้นแรกก็เข้าถึงของหยาบก่อน
ต่อเมื่อจิตละเอียดเข้า ก็จะละของหยาบลงได้ ทุกคนมี
สภาพเหมือนกัน ของละเอียดเป็นสิ่งที่ เห็นได้ยาก
พวกเล่นพระ เป็นพวกที่มีจิตเป็นกุศลเหมือนกัน แต่เป็น
ขั้นกามาวจรสวรรค์ จะไปกะเกณฑ์ให้เข้าถึงธรรมละเอียด
นั้นเห็นจะยังไม่ได้ก่อน จนกว่าจิตจะมีบารมีเข้าถึง
ปรมัตถบารมีเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละเขาจึงจะเห็นธรรม
ที่เป็นปรมัตถธรรม
อารมณ์ของกามาวจรจิตนั้น ยังติดดีอยู่มาก คือต้องการให้
คนอื่นเห็นตนว่าดีว่าเด่น อย่างนี้เป็นอาการของกามาวจร
ยังเข้าหาทางพ้นทุกข์ไม่ได้ สำหรับของรูปาวจรนั้น
มีความประสงค์จะแสดงฤทธิ์ด้วยตนเอง อยากแสดง
ปาฏิหาริย์ต่างๆ ให้คนเห็นเป็นอัศจรรย์ อย่างนี้ก็ยัง
เอาตัวรอดไม่ได้
ต่อเมื่อไรจิตเข้าถึงปรมัตถธรรม คือ มีอารมณ์ละเอียด
มุ่งเหตุมุ่งผล เอาดีด้วยการรักษาอารมณ์ ไม่ถือมงคล
ตื่นข่าว ไม่ฮือตามเขา ถือกฏของกรรมเป็นใหญ่
เมื่อมีสุขก็ไม่ลำพองใจ คิดว่าในโลกไม่มีอะไรจริง
สุขทุกข์ของโลกไม่มีความยั่งยืน เป็นอารมณ์หลอน
เมื่อมีสุข ก็มองเห็นทุกข์ที่จะตามมาในระยะเดียวกัน... -
เสียงธรรม “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” พระเถระของไทย
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
หลวงปู่ศุข วัดคลองมะขามเฒ่า ท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาจากพระอาจารย์ของท่าน
ในด้านวิชาวิทยาคม ทั้งนี้หลวงปู่ศุขยังเป็นพระที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ
และพระวินัยอย่างเคร่งครัด วัตถุมงคลของหลวงปู่ศุข
โด่งดังทางด้าน เมตตามหานิยม
และแคล้วคลาดคงกระพันโดยเฉพาะเรื่องป้องกันเขี้ยวและงา -
ประสบการณ์ การเข้าฌาน 4 ครั้งแรก
เรื่องเก่ามาเล่าใหม่นะครับ เผื่อมีคนยังไม่เคยอ่าน
ยังคงย้ำอยู่เหมือนเดิมนะครับ ว่าไม่ได้รู้อะไรมาก เจออะไรมาก็เอามาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสมัยยังหนุ่มๆเหมือนเคย อยู่นะครับ
ถ้าใครเคยอ่านเรื่องของผมมาบ้างแล้ว จะรู้นะครับว่าผมฝึกสมาธิแบบจับฉ่าย ฝึกเกือบทุกกอง
คือไม่มีครูมาสอนนะครับ ซื้อหนังสือมาอ่านเองที่บ้าน
หนังสือที่เอามาอ่าน แทนที่จะไปเจอเล่มที่ท่านสอนว่า กรรมฐานกองเดียวเอาให้จบก่อน แล้วค่อยไปต่อกองอื่น
ก็ดันไปหยิบเอาเล่มที่ท่านสอนว่า กรรมฐานกองนี้เป็นปฏิปักษ์กับกิเลสกองโน้น กรรมฐานกองโน้นเป็นปฏิปักษ์กับกิเลสกองนั้น
ทีนี้คนมันกิเลสหนาจัด เดี๋ยวตัวนั้นโผล่ เดี๋ยวตัวนี้โผล่ เราก็ว่าไปตามหนังสือเรื่อย กว่าจะรู้ตัวก็หลายกองเข้าไปแล้ว
ยังไงก็ตามตัวที่ผมใช้บ่อยๆ เป็นประจำก็จะมีอยู่ตัวเดียวที่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ตอนที่เอามาเล่าให้ฟังก็เลยเรียก กรรมฐานตัวนี้ว่า กรรมฐานนอกรีต
เนื่องจากว่ามันไม่ได้อยู่ในสารระบบ ของกรรมฐาน 40 วิธี ถึงแม้ว่ามันจะดูคล้ายๆกับ อากิญจัญญายตนฌาน สำหรับผมก็ตาม
ปรกติแล้วเวลาเข้าสมาธิ จะไปแป้ก อยู่แค่ฌาน 3... -
การเทียบบารมี โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
การเทียบบารมี บารมีเขาจัดเป็น ๓ ชั้น บารมีต้น ท่านเรียก บารมีเฉยๆ บารมีตอนกลางท่านเรียก อุปบารมี บารมีสูงสุดท่านเรียก ปรมัตถบารมี
ถ้าคนที่มีบารมีต้นในขั้นเต็ม ท่านผู้นี้จะเก่งเฉพาะทาน กับ ศีล เขาจะทำสะดวกเฉพาะ การให้ทาน กับ การรักษาศีล แต่การรักษาศีลของบารมีขั้นต้นจะไม่ถึงศีล ๘ อย่างเก่งก็มีกันแค่ศีล ๕ ท่านผู้นี้จะไม่พร้อมในการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าชวนในการเจริญสมาธิทำกรรมฐานท่านบอกทำไม่ได้ กำลังใจไม่พอ หรือจะพูดให้ดีอีกนิดท่านบอกว่าไม่ว่างพอ เวลาไม่มี นี่สำหรับคนที่มีบุญบารมีขั้นต้นจะอยู่กันแค่นี้
ถ้ามีบารมีเป็น อุปบารมี เขาเรียกว่า บารมีขั้นกลาง อุปบารมี นี่พร้อมที่จะทรงฌานโลกีย์ บารมีนี้พร้อมเรื่องฌานโลกีย์นี่ทรงได้แน่ ท่านพวกนี้จะพอใจในการเจริญพระกรรมฐาน แล้วก็พอใจในการทรงฌาน แต่ว่าถ้าจะชวนในขั้นบุกบั่นในวิปัสสนาญาณ ท่านจะบอกว่าไม่ไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาธิวิปัสสนาญาณ อาจจะมีบ้างแต่ก็ไม่เข้มแข็งนัก เพราะว่าสมถะกับวิปัสสนาที่แยกกันไม่ได้ ต้องอยู่คู่กัน แต่กำลังด้านวิปัสสนาญาณจะต่ำ จะเข้มแข็งเฉพาะสมถภาวนา แล้วท่านพวกนี้ถึงแม้ว่าจะพอใจในการเจริญกรรมฐาน... -
เทวดาผู้ทรงฌาน มาทดสอบผู้ปรารถนาพุทธภูมิ และวิธีแก้ไข
การต้องถูกพิสูจน์นี่มีน้อยคน ไม่ใช่ทุกคน ท่านที่ถูกพิสูจน์อย่างหนักจริงๆ หนักมาก ก็ต้องเป็นพวกที่มาจากพระโพธิสัตว์ อดีตเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน อยากเป็นพระพุทธเจ้า การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ก็ต้องถือว่าจอมทัพ ท่านที่จะเป็นจอมทัพ ปราบข้าศึกคือ กิเลส ต้องมีความเข้มแข็งมาก
ท่านพวกนี้จะถูกพิสูจน์ด้วยเทวดาชั้นจาตุมหาราช ซึ่งเป็นเทวดาผู้ทรงฌาน แต่เทวดาเขาจะพิสูจน์เรา ก็ต่อเมื่อเราไม่กลัว ถ้าเรายังกลัวอยู่เขาไม่มาหรอก เสียเวลา และท่านพวกนี้ต้องมาจากสายพุทธภูมิ สายสาวกภูมิเขาไม่ลองมากเดี๋ยวเป็นบ้าไปเลย ดีไม่ดีเดี๋ยวเลิก เพราะกำลังใจอ่อนการทดลองของเขาก็ไม่ซ้ำแบบ ถ้าเรากลัวเขาก็เลิก หรือเราไม่รู้จักกลัวเขาก็เลิก คนไม่กลัวจริงๆ นี่เลยบาท
กำลังใจของคนทุกคน อาจสู้กันไปสู้กันมา สู้ให้พ้นความตายเหมือนสู้กับข้าศึก คนเลยบาทคิดสู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าร่างกายนี้นี่จะตายก็ช่างมัน แต่ความดีส่วนหนึ่งต้องเอาให้ได้ ถ้าความดีส่วนนี้เราไม่ได้เพียงใดเราจะไม่ยอมเลิกเด็ดขาด มันจะตายก็ยอม เรียกว่า รักธรรมะยิ่งกว่ารักชีวิต อย่างนี้เขาเรียก "คนเกินบาท" มีกำลังใจเข้มแข็งมาก
บทพิสูจน์ของเทวดา... -
วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ
วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ
1. การเพิ่มพลังบุญแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว
เคล็ดวิชานี้ เป็นของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอนไว้ว่า
-เวลาตื่นเช้ามาขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำให้ท่องว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันใหม่
-ก่อนกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า
-ออกจากบ้าน เห็นคนอื่นเค้ากระทำความดี เป็นต้นว่าเห็นเค้าใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขาด้วย
-เดินผ่านเห็นดอกไม้บูชาพระวางขายอยู่ ก็ให้เอาจิตนึกอธิษฐานขอถวายดอกไม้เหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้พ่อค้า แม่ค้าดอกไม้นั้นด้วย
-เวลาไปไหนมาไหน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมถวายไฟเหล่านั้นบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา
2. การเพิ่มพลังบุญด้วยเงินน้อย แต่ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่
การสร้างบุญที่เป็นมหากุศล อาทิเช่น การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ พระมหาเจดีย์ สร้างยอดฉัตรหรือสร้างศาสนสถานอื่นใดก็ตาม รวมถึงธรรมทานด้วย เพื่อลดวิบากกรรมหนักๆ... -
หลวงตาม้าอธิบายถึงเรื่องการกลับชาติมาเกิดของพระโพธิสัตว์
พอดีได้ไปกราบหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ ศิษย์หลวงปู่ดู่ มา
แล้วได้ถามหลวงตาเรื่องนี้พอดี คิดว่าเป็นอีกเรื่องที่หลายคนยังสับสนและอยากรู้คำตอบว่าทำไม...
คนนู้นก็บอก คนนี้ก็บอก ว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้กลับชาติมาเกิดกันเต็มไปหมด
บางครั้งก็เป็นองค์เดียวกัน ซ้ำกัน หลายคนก็เลยงงไปใหญ่ว่าพระโพธิสัตว์ท่านอวตารแยกร่างลงมาช่วยโลกได้เหรอ ?
วันนั้นพอดีผมถามถึงเรื่องครูบาศรีวิชัยว่า มีหลายคนมากที่บอกว่า
องค์นั้นองค์นี้เป็นครูบาศรีวิชัยมาเกิด แล้วท่านแยกร่างมาเกิดได้ด้วยเหรอ?
ลองมาดูคำอธิบายของหลวงตากันนะครับ (เป็นคำตอบที่เกิดจากการใช้ความจำสรุปเอานะครับ
บางช่วงบางตอนอาจจะขาดๆตกๆหล่นๆไปบ้าง ผมขอกราบขอขมาหลวงตา
และเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งปวงไว้ในที่นี้ด้วย หากผิดพลาดประการใด)
หลวงตาเมตตาอธิบายว่า...
พระโพธิสัตว์ท่านไม่ได้แยกร่างมาเกิด แยกร่างแบ่งร่างไม่ได้ ถ้าจะลงมาเกิด
ก็ลงมาได้แค่องค์เดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นไม่ใช่ แต่เป็นการฝากพลังงานของท่าน
บางครั้งท่านก็จะฝากกระแสของท่านมากับเหล่าเทวดา
ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับท่านที่จะลงมาเกิด
เพื่อให้มาช่วยงานบางประการ ตัวท่านก็เกิดอยู่ที่หนึ่ง... -
เสียงธรรม พระอริยะมองร่างกายอย่างไร, วิธีคิดเรื่องร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของของเรา
ท่านจิตโต เทศน์ที่บ้านตลิ่งชัน
เทศน์เรื่อง พระอริยะมองร่างกายอย่างไร
เทศน์เรื่อง วิธีคิดเรื่องร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของของเรา
เทศน์เรื่อง ร่างกายเป็นเครื่องกั้นความดี เพราะทำให้เกิดนิวรณ์
tamma.homeip.net -- เพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า -
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์
ถาม: ......................................
ตอบ: เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เราสัมผัสได้เองอยู่แล้ว เพราะความรู้สึกของเรามี แต่ว่าให้รับรู้ไว้เฉย ๆ อย่าไปยินดียินร้ายด้วย
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสรุปสั้น ๆ ว่า "อย่าติดในสุขและอย่ากังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ให้ได้ ถ้าวางเฉยในร่างกายนี้ยังไม่ได้ ก็ให้เบื่อร่างกายนี้ให้ได้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม" เรื่องอะไรที่จะขวนขวายแบกเพิ่มไม่ต้องไปหาแล้ว ทำเฉพาะหน้าให้ดีที่สุด แล้วก็ยอมรับกฎของกรรม
ท่านบอกว่าเป็นพระอรหันต์เขาเป็นกันแค่นี้ ไม่เอาเยอะหรอก การยอมรับกฎของกรรมทำยากที่สุด ถ้าคนปัญญาไม่ถึงก็จะยอมรับแบบโง่ ๆ ลูกศิษย์หลวงพ่อชา ซึ่งเป็นพระด้วย พายุฝนตีหลังคากุฏิเปิงไป ท่านก็ปล่อยให้ฝนรั่ว ให้แดดเผาอยู่อย่างนั้น จนหลวงพ่อชาทนไม่ได้
เมื่อท่านไปถึงบอกว่า "คุณ..ซ่อมหลังคาเสียหน่อยสิ"
พระท่านบอกว่า "ผมปล่อยวางแล้วครับหลวงพ่อ"
หลวงพ่อชาท่านบอกว่า "ปล่อยวางแบบควายนะสิ ควายมันทนแดดทนฝนได้มากกว่าคุณอีก"
อะไรก็ตามถ้ายังสามารถแก้ไขด้วยกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังคน กำลังทรัพย์... -
เสียงธรรม หนีนรกตอนที่ ๑ - ๒๔
หนีนรกตอนที่ ๑ - ๒๔ -
เว็บพลังจิต เว็บพลังจิตจะปิดให้บริการตั้งแต่ 28 ธันวาคม เวลา ตั้งแต่ เวลา 22.00 น. เพื่อเปลี่ยนบอร์ดใหม่
สวัสดีครับทุกๆท่าน
เราได้พัฒนาเว็บพลังจิตใหม่ เราจะทำการย้ายข้อมูลเดิมเข้าสู่ระบบใหม่
เว็บพลังจิตจะทำการปิดการโพสต์ในเว็บบอร์ด ตั้งวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 22.00น เป็นต้นไป คาดว่าจะเปิดให้บริการ ในวันที่ 1 มกราคม 2560
ในระหว่างที่ปิดบอร์ด
- ทุกๆท่านยังสามารถเข้าชมเว็บบอร์ดได้ตามปกติ
- สมาชิกจะไม่สามารถโพสต์ และส่ง PM หรือ อัพเดทข้อูลใดๆได้ในระหว่างนี้
เว็บบอร์ดพลังจิตใหม่
1) มีความทันสมัยขึ้น
2) สนับสนุนอุปกรณ์มือถือมากขึ้น (Responsive web design)
3) สนับสนุนและเชื่อมต่อกับ Social network ได้ดีกว่าเดิม
4) มีการจัดการและการนำเสนอข้อมูลได้ดีกว่าเดิม
5) ระบบส่งข้อความส่วนตัวดีกว่าเดิม (PM)
ในเดือน มกราคม 2560 เราจะเปิดรับทีมงานเพิ่ม คือ ทีมธรรมทาน
หลายสิบคนเพื่อช่วยโพสต์บทความธรรมะ
ปี 2560 เป็นปีแห่งการพัฒนาเว็บพลังจิต
เดือนเมษายน ปี 2560 เราจะครบรอบ 14 ปี
ปี 2560 นี้ทั้งปีเราจะโฟกัสพัฒนาเว็บ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดของเรา และเราจะไปกันอย่างรวดเร็ว
ทั้งปี เราจะทำการทดลองและศึกษา สร้างโมเดลเว็บและทีมงาน เพื่อขยายเว็บและเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก... -
สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ”
ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง)
ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา
ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด(หรือองค์พระโพธิสัตว์ที่นับถือ) แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา...
หน้า 3 ของ 395