@ล็อกเก็ตฉากทองรองจัมโบ้ รุ่น สามบูรพาจารย์ ***บรรจุพระธาตุวรรณะสูง เกศาในตะกรุดแก้ว@น.75ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย punnapak, 1 มิถุนายน 2014.

  1. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    จัดส่งพัสดุEMSให้แล้วนะคะ^^

    รหัส EL 2899 2397 6 TH
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ^^
     
  2. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    รายการที่ 19 ล็อคเก็ตหป.มั่น บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น และมวลสารครูบาอาจารย์

    ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หมายเลข ๙๐
    (เลขมหามงคล)
    บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น
    บรรจุอังคารธาตุพ่อแม่ครูอาจารย์ ดังนี้
    1 อังคารธาตุหลวงปู่ชอบ
    2 อังคารธาตุหลวงปู่สิม
    3 อังคารธาตุหลวงปู่เหรียญ
    4 อังคารธาตุหลวงตามหาบัว
    5 อังคารธาตุหลวงปู่อ่อนสา
    6 อังคารธาตุหลวงปู่หล้า
    7 อังคารธาตุหลวงปู่ผาง
    8 อังคารธาตุหลวงปู่เพียร

    พร้อมทั้งข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์
    ติดจีวรและฝังตะกรุงเงิน 3 ดอก

    จำนวนการจัดสร้างเพียง 300 องค์ หายากค่ะ
    องค์นี้เลขมงคลพร้อมทั้งอัดแน่นด้วยมวลสารค่ะ
    จัดสร้างเป็นรุ่นแรก โดยวัดหนองน้ำขุ่น จ.บุรีรัมย์




    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า โดยคุณrunkey^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2014
  3. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    รายการที่ 20 ล็อคเก็ตหป.มั่น บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น พร้อมมวลสารครูบาอาจารย์

    ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หมายเลข ๙๑
    บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น
    บรรจุอังคารธาตุพ่อแม่ครูอาจารย์ ดังนี้
    1 อังคารธาตุหลวงปู่ชอบ
    2 อังคารธาตุหลวงปู่สิม
    3 อังคารธาตุหลวงปู่เหรียญ
    4 อังคารธาตุหลวงตามหาบัว
    5 อังคารธาตุหลวงปู่อ่อนสา
    6 อังคารธาตุหลวงปู่หล้า
    7 อังคารธาตุหลวงปู่ผาง
    8 อังคารธาตุหลวงปู่เพียร

    พร้อมทั้งข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์
    ติดจีวรและฝังตะกรุงเงิน 3 ดอก

    จำนวนการจัดสร้างเพียง 300 องค์ หายากค่ะ
    องค์นี้อัดแน่นด้วยมวลสารค่ะ
    จัดสร้างเป็นรุ่นแรก โดยวัดหนองน้ำขุ่น จ.บุรีรัมย์



    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    บูชาแล้วค้า โดยคุณพิภพ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2015
  4. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    ประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กำเนิดในสกุลแก่นแก้ว บิดาชื่อคำด้วง มารดาชิ่อจันทร์ เพียแก่นท้าว เป็นปู่นับถือพุทธศาสนา เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนหัวปี ท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวดำแดง แข็งแรงว่องไว สติปัญญาดีมาแต่กำเนิด ฉลาดเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ได้เรียนอักษรสมัยในสำนักของอา คือ เรียนอักษรไทยน้อย อักษรไทย อักษรธรรม และอักษรขอมอ่านออกเขียนได้ นับว่าท่านเรียนได้รวดเร็ว เพราะ มีความทรงจำดีและขยันหมั่นเพียร ชอบการเล่าเรียน ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรมและปฏิปทา
    เมื่อท่านอายุได้ ๑๕ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักบ้านคำบง ใครเป็นบรรพชาจารย์ไม่ปรากฏ ครั้นบวชแล้วได้ศึกษาหาความรู้ทางพระศาสนา มีสวดมนต์และสูตรต่างๆ ในสำนักบรรพชาจารย์ จดจำได้รวดเร็ว อาจารย์เมตตาปราณีมาก เพราะเอาใจใส่ในการเรียนดี ประพฤติปฏิบัติเรียบร้อย เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ เมื่อท่านอายุได้ ๑๗ บิดาขอร้องให้ลาสิกขาเพื่อช่วยการงานทางบ้าน ท่านได้ลาสิกขาออกไปช่วยงานบิดามารดาเต็มความสามารถ
    ท่านเล่าว่า เมื่อลาสิกขาไปแล้วยังคิดที่จะบวชอีกอยู่เสมอไม่เคยลืมเลย คงเป็นเพราะอุปนิสัยในทางบวชมาแต่ก่อนหนหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง เพราะติดใจในคำสั่งของยายว่า “เจ้าต้องบวชให้ยาย เพราะยายก็ได้เลี้ยงเจ้ายาก” คำสั่งของยายนี้คอยสกิดใจอยู่เสมอ

    ครั้นอายุท่านได้ ๒๒ ปี ท่านเล่าว่า มีความยากบวชเป็นกำลัง จึงอำลาบิดามารดาบวช ท่านทั้งสองก็อนุมัติตามประสงค์ ท่านได้ศึกษา ในสำนักท่านอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระ วัดเลียบ เมืองอุบล จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับอุปสมบทกรรมเป็นภิกษุภาวะในพระพุทธศาสนา ณ วัดศรีทอง(วัดศรีอุบลรัตนาราม) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พระอริยกวี (อ่อน) เป็นพระอุปัชฌายะ มี พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาย์ และพระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ พระอุปัชฌายะขนานนามมคธ ให้ว่า ภูทตฺโต เสร็จอุปสมบทกรรมแล้ว ได้กลับมาสำนักศึกษาวิปัสสนาธุระ กับ พระอาจารย์เสาร์ กันตศีลเถระ ณ วัดเลียบต่อไป
    เมื่อแรกอุปสมบท ท่านพำนักอยู่วัดเลียบ เมืองอุบลเป็นปกติ ออกไปอาศัยอยู่วัดบูรพาราม เมืองอุบลบ้าง เป็นครั้งคราว ในระหว่างนั้น ได้ศึกษาข้อปฏิบัติเบื้องต้น อันเป็นส่วนแห่งพระวินัย คือ อาจาระ ความประพฤติมารยาท อาจริยวัตร แล้อุปัชฌายวัตร ปฏิบัติได้เรีบยร้อยดี จนเป็นที่ไว้วางใจของพระอุปัชฌาจารย์ และได้ศึกษาข้อปฏิบัติอบรมจิตใจ คือ เดินจงกลม นั่งสมาธิ สมาทานธุดงควัตร ต่างๆ

    ในสมัยต่อมา ได้แสวงหาวิเวก บำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่างๆ ตามราวป่า ป่าช้า ป่าชัฎ ที่แจ้ง หุบเขาซอกห้วย ธารเขา เงื้อมเขา ท้องถ้ำ เรือนว่าง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงบ้าง ฝั่งขวาแม่น้ำโขงบ้าง แล้วลงไปศึกษากับนักปราชญ์ในกรุงเทพฯ จำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวนาราม หมั่นไปสดับธรรมเทศนา กับ เจ้าพระคุณพระอุบาลี (สิริจันทเถระ จันทร์) ๓ พรรษา แล้วออกแสวงหาวิเวกในถิ่นภาคกลาง คือ ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ นครนายก ถ้ำไผ่ขวาง เขาพระงาม และ ถ้ำสิงโตห์ ลพบุรี จนได้รับความรู้แจ่มแจ้ง ในพระธรรมวินัย สิ้นความสงสัย ในสัตถุศาสนา จึงกลับมาภาคอีสาน ทำการอบรมสั่งสอน สมถวิปัสสน าแก้สหธรรมิก และอุบาสกอุบาสิกาต่อไป มีผู้เลื่อมใสพอใจปฏิบัติมากขึ้น โดยลำดับ มีศิษยานุศิษย์แพร่หลาย กระจายทั่วภาคอีสาน
    ในกาลต่อมา ได้ลงไปพักจำพรรษาที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ อีก ๑ พรรษา แล้วไปเชียงใหม่กับ เจ้าพระคุณอุบาลีฯ (สิริจันทรเถระ จันทร์) จำพรรษาวัดเจดีย์หลวง ๑ พรรษา แล้วออกไปพักตามที่วิเวกต่างๆ ในเขตภาคเหนือหลายแห่ง เพื่อสงเคราะห์สาธุชนในที่นั้นๆ นานถึง ๑๑ ปี จึงได้กลับมา จังหวัดอุบลราชธานี พักจำพรรษาอยู่ที่ วัดโนนนิเวศน์ เพื่ออนุเคระาห์สาธุชนในที่นั้น ๒ พรรษา แล้วมาอยู่ในเขตจังหวัดสกลนคร จำพรรษาที่ วัดป่าบ้านนามน ตำบลตองขอบ อำเภอเมืองสกลนคร (ปัจจุบันคือ อำเภอโคกศรีสุพรรณ) ๓ พรรษา จำพรรษาที่ วัดหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอเมืองพรรณานิคม ๕ พรรษา เพื่อสงเคราะห์สาธุชนในถิ่นนั้น มีผู้สนใจในธรรมปฏิบัติ ได้ติดตามศึกษาอบรมจิตใจมากมาย ศิษยานุศิษย์ของท่าน ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยังเกียรติคุณของท่าน ให้ฟุ้งเฟื่องเลื่องลือไป



    หลวงปู่มั่น มรณภาพใน พรรษาสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ท่านมีอาการไข้ไอเรื้อรังมาตลอด ท่านได้บอกให้ศิษย์ทั้งหลายให้ทราบว่า การเจ็บป่วยของท่านครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ลมหายใจที่จะรอวันตายไปเท่านั้น เช่นเดียวกับไม้ที่ตายยืนต้น แม้จะรดน้ำพรวนดินเพื่อให้ผลิดอกออกใบ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ รออยู่พอถึงวันโค่นล้มลงจมดินเท่านั้น
    ข่าวการอาพาธของท่านได้แพร่กระจายออกไป ใครทราบข่าวไม่ว่าพระภิกษุสามเณรหรือฆราวาส ก็หลั่งไหลพากันมาเยี่ยมมิได้ขาดสาย
    อาการอาพาธของหลวงปู่มั่นเริ่มหนัก ขึ้นเป็นลำดับ พระภิกษุสามเณรในวัด ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาไม่ได้พากันนิ่งนอนใจ จึงได้จัดเวรคอยดูแลหลวงปู่มั่นบนกุฏิของท่าน 2 รูป และใต้ถุนกุฏิ 2 รูปมิได้ขาด ในช่วงนี้เองพระพวงก็ได้สลับผลัดเปลี่ยนกับพระภิกษุรูปอื่นๆ คอยปรนนิบัติหลวงปู่มั่นโดยตลอด

    พอออกพรรษา ครูบาอาจารย์พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ในที่ต่าง ๆ ก็ทยอยมาเยี่ยมท่านมากขึ้นเป็นลำดับ อาการของท่านก็หนักเข้าไปทุกวัน ศิษยานุศิษย์รุ่นอาวุโสอาทิ หลวงตามหาบัว หลวงปู่กงมา หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่เทศน์ หลวงปู่อ่อน ได้เรียกประชุมบรรดาศิษย์ทั้งหลาย เพื่อเตือนให้ทราบถึงอาการของท่าน และแจ้งให้ทราบว่าหลวงปู่มั่น ท่านได้ดำริที่จะให้นำตัวท่านไปที่สกลนคร ไม่อยากมรณภาพที่นี่ เพราะจะทำให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายที่นี่ต้องตายไปด้วย เนื่องจากจะต้องมีคนจำนวนมากมาร่วมงาน จะต้องฆ่าสัตว์เป็นอาหาร
    เดิมทีเดียวบรรดาญาติโยมบ้านหนอง ผือมีความประสงค์ว่าจะให้ท่านมรณภาพที่นี่ พวกเขาจะเป็นผู้จัดการศพเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยากจนเพียงไรก็ตาม แต่ด้วยความเคารพในหลวงปู่มั่นจึงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงปู่มั่นแต่โดย ดี

    บรรดาญาติโยมก็ได้ช่วยกันเตรียม แคร่เพื่อหามท่านจากวัดป่าบ้านหนองผือไปสกลนคร โดยได้แวะพักระหว่างทางที่วัดป่าดงภู่ เป็นเวลา 9 วัน บรรดาญาติโยมในจังหวัดสกลนคร อาราธนานิมนต์ท่านเดินทางต่อ ก่อนเดินทางได้นำแพทย์ไปฉีดยาให้หลวงปู่มั่นเพื่อระงับเวทนา เมื่อฉีดยาเสร็จก็นำท่านขึ้นรถไปต่อยังวัดป่าสุทธาวาส อ.เมืองสกลนคร ระหว่างการเดินทางท่านไม่รู้สึกตัวเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ เที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง (ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน 2492) ในคืนนั้นท่านก็มรณภาพอย่างสงบ ยังความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายทั้งพระและฆราวาส นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของพุทธศาสนิกชนไทย

    พระพวงติดตามคณะไป ด้วย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกับพระรูปอื่นๆในการดูแลหลวงปู่มั่น ตลอดการเดินทางจวบจนวาระสุดท้ายของหลวงปู่ นับเป็นอีกครั้งในชีวิตของพระพวงที่อยู่ในช่วงเหตุการณ์สำคัญของพระ เถรานุเถระที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งองค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    รายการที่ 21 ล็อกเก็ตหลวงปู่มั่น วัดป่าดาราภิรม ย์ ปี2557 สิ่งมงคลที่ไม่ควรพลาดนะคะ

    ล็อกเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    วัดป่าดาราภิรมย์ ปี2557
    สุดยอดมวลสารที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งค่ะ


    มวลสารมงคลที่ติดหลังล็อกเก็ตพระอาจารย์มั่น
    1 อัฐิครูบาอาจารย์โดยเฉพาะหลวงปู่ดุลย์อตุโลได้รับมอบมาจากลูกศิษย์ท่านพร้อมกับอังคารมาผมอีกหนึ่งโถ<o:p</o
    2.เทียนชัยที่หลวงพ่อประสิทธิ์ปุญญมากโรจุดที่วัดศรีมุงเมือง<o:p</o
    3.กระดาษทิชชูซับโลหิตธาตุ (เลือด) หลวงพ่อประสิทธิ์ปุญญมากโรตอนหลวงพ่อจำพรรษาออยู่ที่โป่งน้ำร้อน<o:p</o
    4.สายสินธ์ที่องค์หลวงตามหาบัวจับอธิฐานทำน้ำมนต์คราวเปิดวิหารบรรจุอัฐิหลวงปู่มั่น. วัดเจดีย์หลวง<o:p</o
    5.ไม้กุฏิพระอาจารย์มั่นที่วัดป่าโนนภู่สกลนคร<o:p</o
    6.ตะกรุดตะกั่วรีดจากพระเชียงแสนตะกั่วสนิมแดงแผ่นตะกั่วจารและอธิฐานจากครูบาอาจารย์<o:p</o
    7.ไม้ถูฟันขี้โยชานหมากของครูบาอาจารย์หลายรูปรวมทั้งชานหมากของท่านพ่อลีหลวงปู่แหวน<o:p</o
    8.ปฐวีธาตุพลอยเสกของหลวงปู่คำพันธ์หลวงพ่อประสิทธิ์<o:p</o
    9.ผ้าอาบน้ำของหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญญมากโรเป็นผ้าผืนที่หลวงพ่อใช้มานานกว่า10ปี<o:p</o
    ทุกองค์โรยเกศาครูบาอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นเกศาท่านเจ้าคุณอุบาลีพระอาจารย์มั่นสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน) ครูบาศรีวิชัยหลวงปู่ดุลย์หลวงปู่เทสก์ท่านพ่อลีสมเด็จพระญาณสังวรหลวงปู่แหวนหลวงปู่สิมหลวงปู่ขาวหลวงปู่สามหลวงตามหาบัวหลวงพ่อพุธหลวงปู่ทองพูลหลวงพ่อประสิทธิ์ฯลฯ

    มวลสารที่บรรจุหลังล็อกเก็ต
    ๑.เกศาหลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่บุญมี โขติปาโล หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านเจ้าคุณนรรัตราชมานิตย์ สมเด็จพระญาณสังวร หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญมากโร หลวงปู่ทองบัวตันติกโร หลวงปู่มหาโสกัสโป พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรีจันททีโป) หลวงพ่อเปลี่ยนปัญญาปทีโปพระราชภาวพินิจ (หลวงพ่อสนธิ์อนาลโย) หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม หลวงปู่สังข์สังกิจโจ หลวงพ่อคูณ สุเมโธ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (รักษ์เรวโต) สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (หลวงปู่มานิตถาวโร) พระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์กุสโล) พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) หลวงปู่ลี กุสลโธโร หลวงปู่คำพอง ติสโส หลวงปู่มหาปราโมช ปราโมชโช
    ๒. ผงอัฐิหลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณโก หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโมหลวงปู่รักษ์ เรวโต หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่จันทร์ กุสโล หลวงปู่ทองอินทร์ กุสลจิตโตหลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน หลวงปู่กาวงศ์โอฑาวัณโณ
    . พระกรุเศษพระกำแพงเนื้อดินเศษพระสกุลลำพูนเนื้อดินเศษพระเชียงใหม่เนื้อดินพระสุโขทัยเนื้อดินเศษพระซุ้มอรัญญิกพิษณุโลกเนื้อดิน
    ๔. ผงที่ใช้ผสมเป็นมวลสารได้แก่ผงไม้กุฏิพระอาจารย์มั่นผงไม้กุฏิหลวงปู่เสาร์ผงอังคารครูบาอาจารย์ผงพระวัดโรงธรรมสามัคคีผงแป้งเสกหลวงปู่บุดดาถาวโรดินสังเวชนียสถานแห่งดินเจดีย์๑๒ราศีดินพระธาตุเจดีย์หลวงกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดเจดีย์หลวงกระเบื้องวิหารหลวงวัดเจดีย์หลวงผงเสกหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญมากโรผงสมเด็จหลวงปู่นาควัดระฆังผงสมเด็จหลวงปู่หินวัดระฆังผงพระกรุวัดอัมพวันของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (...เจริญ) ผงพระปิดตาเจ้าคุณวิเชียรวัดเครือวัลย์ผงพระปิดตาเจ้าคุณศรีวัดอ่างศิลาผงพระพ่อท่านคล้ายผงพระหลวงปู่ทวดผงพระกำลังแผ่นดินผงพระโพธิจักรท่านพ่อลีผงสมเด็จเจ้าคุณนรรัตราชมานิตย์ผงพระสมเด็จเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตวัดเทพศิรินทร์ผงพระปิดตาหลวงปู่เหมือนวัดกำแพงผงพระปิดตาหลวงปู่เกลี้ยงวัดเนินสุทธาวาสผงศิลาน้ำแม่ชีบุญเรือนผงปฐวีธาตุเจ้าคุณนรผงปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ผงปฐวีธาตุหลวงพ่อประสิทธิ์ผงพระสมเด็จวัดแก่งตอยหลวงปู่คำพันธ์ผงพระวัดวิเวกผงยาหลวงปู่เพิ่มผงพระสมเด็จ๑๕๐ปีท่านเจ้าคุณอุบาลีผงดินจากพระสกุลลำพูนผงดินจากพระกำแพงเพชรผงเสกอาจารย์นองผงพระของขวัญวัดมหาธาตุปี๐๖อาจารย์ทิมเสกผงพระหลวงปู่ทาบกระบกก้นผึ้งผงพระสมเด็จวัดป่าชัยวันผงพระชุดสิทธัตโถปี๑๗ผงพระชุดพิธี๗๐๐ปีเชียงใหม่ผงพระชัยวัฒน์เนื้อผงวัดสุทัศน์ปี๘๔ผงพระหลวงพ่อสละวัดประดู่ทรงธรรมผงพระสมเด็จหลวงพ่อแพผงเกสรดอกไม้บูชาพระผงธูปจากวัดสำคัญต่างผงพระธรรมจักรอาจารย์จวนผงพระหลวงปู่บุญมารุ่นผงพระรุ่นปฏิหารย์วัดศรีเมืองผงพระผงเจ้าใหญ่อินทร์แปลงปี๑๕ผงพระนางพญาหลวงพ่อวิริยังค์ปี๑๐ผงที่ผ่านจากการอธิฐานจิตจากครูบาอาจารย์สมเด็จพระมหาวีรวงศ์วัดสัมพันธวงศ์ครั้งพระอุดมญาณโมลีครั้งหลวงปู่มหาโสกัสโป๒ครั้งหลวงปู่บุญพินกตปุญโญ๑ครั้งหลวงปู่ท่อนญาณธโรครั้งหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญมากโร๒ครั้งหลวงปู่สังข์สังกิจโจครั้งหลวงพ่อเปลี่ยนปัญญาปทีโปครั้งหลวงพ่อโสวัจอาจาโรครั้งหลวงปู่บุญหนาธมมทินโน๑ครั้งหลวงปู่ทองสิริมังคโล๑ครั้งหลวงพ่อไพโรจน์วิโรจโนครั้งพระราชภาวนาพินิจครั้งพระวิมลศีลาจารย์๑ครั้งผงอุดล็อกเก็ต๑๔๐ปีพระอาจารย์มั่นวัดป่าดาราภิรมย์ผงอุดล็อกเก็ตสองอริยะสงฆ์วัดปป่าดาราภิรมย์ผงอุดล็อกเก็ตนวสิริสันติมงคลวัดสันติธรรมผงอุดล็อกเก็ตเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ผงพระผงปักกลดหลวงพ่อประสิทธิ์
    ๕. ผงตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ชินราชอินโดจีนพระพุทธกัมมัฏฐานพระชัยผมหวีฐานพระโบราณพระร่วงนั่งสุโขทัย
    ๖. ไม้ถูฟันหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญมากโรหลวงพ่อไพโรจน์วิโรจโนหลวงปู่อว้านหลวงปู่คำพองขันติโกหลวงปู่ท่อนญาณธโร
    .จีวรหลวงปู่จันทร์กุสโลหลวงปู่เทสก์เทสรังสีหลวงปู่บุญมีโชติปาโลหหลวงพ่อพุธฐานิโยหลวงปู่สิมพุทธาจาโรหลวงปู่แหวนสุจิณโณหลวงปู่ฝั้นอาจาโร
    .มวลสารส่วนเฉพาะของหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญญมากโรวัดป่าหมู่ใหม่ - ชานหมาก,ขี้โย,แร่ดูดทรัพย์,ปฐวีธาตุ,ทิชชูเช็ดเลือด,ไม้ถูฟัน,เกศา,ผ้าอาบน้ำฝนหลวงพ่อใช่มา๑๐ปี,จีวร
    . ส่วนใช่ทำตะกรุดอุดหลังล็อกเก็ตตะกรุดดังกล่าวได้นำเศษพระเชียงแสนตะกั่วสนิมแดงพระร่วงนั่งตะกั่วสนิมแดงพระตะกั่วพระอาจารย์ฝั้นเหรียญนาคปรกวัดป่าท่าสุดเนื้อตะกั่วหลวงพ่อประสิทธิ์อธิฐานเหรียญท้าวเวสสุวรรณเนื้อตะกั่วแผ่นจารตะกั่วหลวงปู่สังข์สังกิจโจแผ่นตะกั่วอธิฐานจากครูบาอาจารย์หลายรูปทั้งหมดได้นำมาหลอมแล้วรีดทำตะกรุด

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า โดยคุณrunkey



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2014
  6. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    รายการที่ 22 ล็อคเก็ต ๙ มงคล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สร้างน้อย หายากค่ะ

    ล็อคเก็ต ๙ มงคล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    บรรจุมวลสารอันเป็นมงคล ๙ อย่าง
    ด้านหลังบรรจุมวลสารดังต่อไปนี้
    1. พระธาตุจากประเทศอินเดีย
    2. เกศาหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    3. เกศาหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    4. เกศาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    5. เกศาหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
    6. เกศาหลวงพ่อแบน ธนากโร
    7. เกศาหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
    8. เกศาหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ
    9. ทรายอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือน

    พร้อมติดไม้กุฏิหลวงปู่มั่น และจีวรครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นค่ะ

    สร้างถวายบูชาคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ จำนวน 130 องค์

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    บูชาแล้วค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2015
  7. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    จัดส่งพัสดุEMSให้คุณสมชาติแล้วนะคะ^^

    จัดส่งล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้คุณสมชาติแล้วค้า^^

    รหัสEMS EL 3529 6067 8TH
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _0GIF_2.png
      _0GIF_2.png
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      102
  8. trex2553

    trex2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +103
    สอบถามราคาครับ
     
  9. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    แจ้งราคาทางPMแล้วนะคะ

    คุณ trex2553
    คุณสหัส

    ขอบพระคุณมากๆค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมรายการ^^
     
  10. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    วันนี้วันพระ ^_^

    วันนี้วันพระ ทำบุญ รักษาศีล สวดมนต์ เจริญภาวนา กันนะคะ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. hinojanlan

    hinojanlan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2013
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +27
    รายการที่ 21 ล็อกเก็ตหลวงปู่มั่น วัดป่าดาราภิรม ย์ ปี2557 สอบถามราคาครับ
     
  12. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    แจ้งราคาทางPMแล้วนะคะ คุณ khachin ^^

    ขอบพระคุณมากๆนะคะ ที่เข้ามาเยี่ยมชมรายการค่ะ^^
     
  13. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้คุณสมชาย แล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL 2901 3286 4TH
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ^^
     
  14. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    รายการที่ 23 ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พร้อมมวลสารครูบาอาจารย์

    ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รุ่น1 หมายเลข ๑๔๙
    บรรจุอังคารธาตุพ่อแม่ครูอาจารย์ ดังนี้
    1 อังคารธาตุหลวงปู่ชอบ
    2 อังคารธาตุหลวงปู่สิม
    3 อังคารธาตุหลวงปู่เหรียญ
    4 อังคารธาตุหลวงตามหาบัว
    5 อังคารธาตุหลวงปู่อ่อนสา
    6 อังคารธาตุหลวงปู่หล้า
    7 อังคารธาตุหลวงปู่ผาง
    8 อังคารธาตุหลวงปู่เพียร


    พร้อมพลอยเสกครูบาอาจารย์
    ติดจีวรและฝังตะกรุงเงิน 3 ดอก


    จำนวนการจัดสร้างเพียง 300 องค์ หายากค่ะ

    จัดสร้างเป็นรุ่นแรก โดยวัดหนองน้ำขุ่น จ.บุรีรัมย์

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    บูชาแล้วค่ะ โดยคุณต้น^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2015
  15. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    ประวัติหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอริยสงฆ์ แห่งเมืองเลย

    <TABLE width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

    ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
    พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม มีชาติกำเนินในสกุลแก้วสุวรรณ เดิมชื่อ บ่อ เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ตรงกับวันพุธขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีฉลู ณ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

    โยมบิดาชื่อ มอ โยมมารดาชื่อ พิลา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน เป็นชาย 2 คน เป็นหญิง 2 คน มีชื่อเรียกกันตามลำดับคือ
    1. ตัวท่าน บ่อ แก้วสุวรรณ
    2. น้องสาว ชื่อ พา แก้วสุวรรณ
    3. น้องสาว ชื่อ แดง แก้วสุวรรณ
    4. น้องชายสุดท้อง ชื่อ สิน แก้วสุวรรณ

    ทั้งน้องสาวและน้องชาย รวม 3 คนนี้ปัจจุบันถึงแก่กรรมไปตามกาลเวลาหมดแล้ว

    โยมบิดามารดาเล่าให้ท่านฟังว่าบรรพบุรุษต้นตระกูลของท่านนั้น เดิมมีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ที่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย มีอาชีพหลักคือการทำนา แต่โดยที่พื้นที่เป็นภูเขาเป็นส่วนใหญ่การทำนาต้องอาศัยไหล่เขา ยกเดินเป็นขั้นบันไดเป็นชั้นๆ ไปจึงจะปลูกข้าวได้ แม้จะลงแรงทำงานหาเลี้ยงกันอย่างไม่ยอมเหนื่อยต้องทำไร่ตามดอยเพิ่มเติมแต่ก็ไม่ค่อยพอปากพอท้อง โดยเฉพาะบางปีถ้าฝนแห้งแล้ง ข้าวไม่เป็นผล พืชล้มตายก็อดยากแร้นแค้นจึงได้คิดโยกย้ายไปแสวงหาถิ่นทำกินใหม่ ซึ่งจะเป็นที่ราบลุ่มอันไม่เป็นที่ดอยที่เขาเช่นแต่ก่อน

    ตระกูลของท่านพากันอพยพหนีความอัตคัดฝืดเคือง มาหภูมิสำเนาใหม่ ผ่านหุบเหวภูเขาสูงของอำเภอด่านซ้าย ผ่านป่าดงพงทึบของภูเรือ ภูฟ้า ภูหลวง ได้มาพบชัยภูมิใหม่เหมาะ คือที่บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง ยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่าใกล้หุบห้วย เหมาะแก่การเพาะปลูกจึงช่วยกันหักร้างถางป่าออกเป็นไร่นาสาโท คงยึดอาชีพหลักคือการทำนาเช่นเดิม

    ณ ที่บ้านโคกมนนี้เอง ที่เด็กชายบ่อ บุตรชายคนหัวปีของสกุลแก้วสุวรรณได้ถือกิเนิดมาเป็นประดุจพญาช้างเผือกที่มีกำเนิดจากกลางไพรพฤกษ์ ทำให้ชื่อป่าที่เกิดของพญาช้างเผือกนั้นเป็นที่รู้จักขจรขจายไปทั่วสารทิศ...ฉันใด หลวงปู่ก็ทำให้ชื่อ "หมู่บ้านโคกมน" บ้านที่เกิดของท่านเป็นที่รู้จัก เป็นที่จาริกแสวงบุญของบรรดาชาวพุทธทั่วประเทศ ... ฉันนั้น

    ชีวิตตอนเป็นเด็กของท่าน นับว่ามีภาระเกินวัยด้วยเกิดมาเป็นบุตรหัวปี ต้องมีหน้าที่ช่วยบิดามารดาทำการงานในเรือกสวนไร่นา พร้อมทั้งต้องทำหน้าที่พี่ใหญ่ดูแลน้องๆ หญิงชายทั้งสามด้วย

    บ้านโคกมนในปัจจุบันนี้ แม้ว่าผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจะคุยให้เราฟังว่า มีความเจริญขึ้นกว่าเมื่อเจ็ดสิบปีก่อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในสายตาของเราชาวกรุงก็ยังเห็นคงสภาพเป็นบ้านป่าชนบทอยู่มาก ดังนั้นหากจะนึกย้อนกลับไปสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กเล็กอยู่ ณ ที่นั้น บ้านเกิดของท่านก็คงมีลักษณะเป็นบ้านป่าเขาที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง สมาชิกทุกคนในครอบครัว ต้องช่วยกันตัวเป็นเกลียว โดยไม่เลือกว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่ต้องไถ หว่านปักกล้า ดำนา เด็กๆ ก็ต้องเลี้ยงควาย คอยส่งข้าวปลาอาหาร เด็กโตหรือลูกหัวปีอย่างท่าน ก็ต้องช่วยในการไถ ปักกล้า ดำนาด้วยขณะเดียวกันก็ต้องคอยดูแลน้องๆ กลับจากทำนา ก็ต้องช่วยกันหาผักหญ้า หน่อหวาย หน่อโจด หน่อบง หน่อไม้ รู้จักว่ายอดอ่อนของต้นไม่ชนิดใดในป่าในท้องนาควรจะนำมาเป็นอาหารได้ เช่น ยอดติ้วใบหมากเหม้า ผ้าดระโดน...

    โดยมากเด็กชายบ่อจะพอใจช่วยบิดามารดา ทางด้านเรือกสวนไร่นามากกว่ากล่าวคือ จะช่วยเป็นภาระทางด้านเลี้ยงควาย ไถนา เกี่ยวข้าว หาผักหญ้า แต่ด้านการหาอาหารที่ต้องเกี่ยวเนื่องด้วยชีวิตผู้อื่น เช่น การจับปู ปลา หากบ เขียด มาเป็นอาหารประจำวันอย่างเด็กอื่นๆ นั้น ท่านไม่เต็มใจจะกระทำเลย ยิ่งการเล่นยิงนก กระรอก กระแต ที่เด็กต่างๆ เห็นเป็นของสนุกสนานนั้น ท่านจะไม่ร่วมวงเล่นด้วยอย่างเด็ดขาดพูดง่ายๆ ท่านไม่มีนิสัยทาง "ปาณาติบาต" มาแต่เด็กนั่นเอง

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่มีจิตโน้มน้าวไปสู่ธรรมตั้งแต่ยังเด็กกล่าวคือ เมื่อท่านมีอายุได้ 14 ปี ได้มีพระธุดงค์กรรมฐานองค์หนึ่งจาริกไปปักกลดรุกขมูลอยู่ที่วัดบ้านตระครูแซ ใกล้บ้านท่านพระธุดงคกรรมฐานองค์นั้นมีชื่อว่า พระอาจารย์พา เป็นศิษย์องค์หนึ่งของ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านเป็นพระที่มีจริยาวัตรที่นุ่มนวล และเคร่งครัดในธรรมวินัย คนในหมู่บ้านรวมทั้งมารดาและญาติผู้ใหญ่ของหลวงปู่จึงมีความเลื่อมใสศรัทธาพากันไปปรนนิบัติอุปัฏฐาก ถวายกัปปิยะจังหันอยู่มิได้ขาดตัวท่านเองก็พลอยติดตามโยมมารดาไปด้วย ในฐานะที่เป็นเด็กชายแรกรุ่น วัยกำลังใช้กำลังสอย จึงได้รับหน้าที่มอบหมายให้คอยปฏิบัติรับใช้พระ ประเคนของ ล้างบาตรให้พระอาจารย์ทุกวันราวกับว่าพระอาจารย์พาจะตั้งใจไปโปรดเด็กชายน้อย แห่งสกุลแก้วสุวรรณโดยเฉพาะ ท่านจึงปักกลดอยู่ใกล้หมู่บ้านนานพอดู จนกระทั่งเด็กชายน้อยเกิดความรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกับท่านอาจารย์พาเป็นอย่างดี ท่านสอนให้เด็กชายรู้จักของควรประเคน และไม่ควรประเคน เวลาว่างก็เมตตาสอนหนังสือให้บ้างและอบรมการสวดมนต์ภาวนาให้บ้าง จิตของเด็กชายน้อยจึงโน้มน้าวไปสู่ทางธรรมมากขึ้นทุกทีจนในที่สุดเมื่อพระอาจารย์พาเห็นนิสัยอันสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ฝักใฝ่ในทางธรรมของเด็กชายน้อยผู้นี้ "บ่มได้ที่" แสดง "นิสัยวาสนา" แต่ก่อนอย่างเพียงพอแล้ว ท่านก็ออกปากชวนไปบวชด้วย

    "บวชกับเราไหม"

    เด็กชายน้อยแห่งสกุลแก้วสุวรรณก็ตอบคำเดียว...สั้นๆ อย่างไม่ลังเลเยว่า

    "ชอบครับ"

    ท่านถามย้ำ "บวชกับเราแน่หรือ" "ชอบครับ" เป็นคำตอบยืนยันอย่างเด็ดเดี่ยว ท่านจึงให้ไปขออนุญาติมารดาผู้ปกครองก่อน

    เมื่อหลวงปู่ไปขอลามารดา เพื่อจะตามพระอาจารย์ไปออกบวชมารดาทั้งประหลาดใจและตกใจระคนกัน

    -- ประหลาดใจ...ที่บุตรชายน้อยมีความคิดอาจหาญ เด็ดเดี่ยว...ใจคอจะทิ้งบ้าน ทิ้งอ้อมอกแม่อันอบอุ่น ทิ้งญาติพี่น้องไปได้หรือ

    -- ตกใจ...ที่ในวัยเพียงเท่านี้ บุตรชายน้อยจะต้องจากบ้านเดินทางไปถิ่นทางไกลอันลำบากยากแค้นลำเค็ญ เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตร

    อย่างไรก็ดีท่านก็ยังพออุ่นใจได้บ้างว่า บุตรชายน้อยของท่านคงจะได้รับความคุ้มครองดูแลจากท่านอาจารย์พาเป็นอย่างดี

    แต่ที่จะไม่ให้ห่วงหาอาลัยเลยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งมารดาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ลูกของท่านจะมีความตั้งใจแน่วแน่มั่นคงแค่ไหน จึงถามย้ำแล้วย้ำอีก

    "จะบวชไหม"

    "จะบวชแน่หรือ"

    ทุกครั้ง...ไม่ว่าจะเป็นคำถามจากมารดาก็ดี จากญาติผู้ใหญ่ผู้ทราบเรื่องก็ตกใจ มาช่วยกันซักไซ้ไล่เรียง...ก็ดี ทุกครั้งจะได้รับคำยืนยันอย่างหนักแน่นมั่นคงจากเด็กชายน้อยว่า

    "ชอบครับ" ทุกคราวไป

    ดังนั้น ในเวลาต่อมา ชื่อ "เด็กชายบ่อ" จึงกลายเป็น "เด็กชายชอบ" ด้วยประการฉะนี้

    เมื่อท่านมีอายุอย่างเข้า 19 ปี ท่านพระอาจารย์พาก็จัดการดูแลให้ผ้าขาวศิษย์รัได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านนาแก บ้านากลาง อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ด้วยเป็นวัดใกล้บ้านกับที่ลุงของท่านผู้เป็นพี่ชายโยมมารดา มีหลักฐานบ้างช่องอยู่อัฐบริขารนั้นโยมมารดาและยายช่วยกันจัดหาให้ด้วยความศรัทธา

    ท่านใช้ชีวิตระหว่างเป็นสามเณรอยู่ถึง 4 ปีกว่า โดยท่านอาจารย์พามิได้หวงแหน ให้ศิษย์ศึกษาอบรมอยู่กับท่านแต่ผู้เดียว ท่านได้ให้ศิษย์รักออกไปศึกษาธรรมกับครูบาอาจารย์ตามสำนักต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้มีความรู้แตกฉานกว้างขวางขึ้น หลวงปู่จึงได้มีโอกาสไปกราบเรียนข้อปฏิบัติกับพระอาจารย์องค์อื่นๆ บ้าง เช่น พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณฺโณ วัดโยธานิมิต เป็นอาทิ

    ครั้นท่านมีอายุครบ 23 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดสร่างโศกซึ่งปัจจุบันมีชื่อว่าวัดศรีธรรมาราม อำเภอเมืองยโสธร ซึ่งขณะนั้นยังเป็นอำเภอหนึ่งอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ยังมิได้ตั้งขึ้นเป็นจังหวัดยโสธร เช่นทุกวันนี้

    หลวงปู่บวชเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2467 มีพระครูวิจิตรวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌายะ พระอาจารย์แดง เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐานสโม"

    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านมิได้มีนิสัยสนใจทางการศึกษาด้านปริยัติธรรมมากนัก แม้การท่องปาฏิโมกข์นั้น ท่านใช้เวลาเรียนท่องถึง 7 ปี จึงจำได้หมด

    "รู้ความ แต่ไม่ได้ท่องจำ" ท่านเล่า

    เมื่อกราบเรียนถามว่าเหตุใดหลวงปู่จึงใช้เวลานานนัก ท่านก็ตอบอย่างขันๆ ว่า "นานๆ ท่องเถื่อ (ครั้งหนึ่ง บางทีก็ 2 เดือน ท่องเถื่อหนึ่ง บางทีก็ 3 เดือนท่องเถื่อหนึ่ง"

    "ในใจภาวนามากกว่า"

    ท่านสารภาพว่า ท่านดื่มด่ำในการภาวนามากท่านใช้คำบริกรรม "พุทโธ" อย่างเดียว มิได้ใช้ "อานาปานสติ" หรือกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ควบคู่กับพุทโธเลย

    สิ่งที่ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น

    สิ่งที่ไม่เคยรู้ ก็ได้รู้

    สิ่งที่เป็นของสาธารณแก่ปุถุชนธรรมดาก็กลับปรากฏขึ้น

    เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง..!

    ท่านเล่าว่า จิตของท่านรวมลงสู่ความสงบได้โดยง่ายมากและเกิดความรู้พิสดาร การนี้เริ่มปรากฏแก่ท่าน ตั้งแต่ขณะที่ท่านยังเป็นสามเณรอยู่ ท่านสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่แปลกลึกลับได้ดีเกินกว่าสายตามนุษย์สามัญจะรู้เห็นได้ ได้ล่วงรู้ความคิดความนึกในจิตใจของผู้อื่น

    ไม่ได้นึกอยากเห็น ก็เห็นขึ้นมาเอง

    ไม่ได้นึกอยากรู้ ก็รู้ขึ้นมาเอง

    รวมทั้งการรู้เห็นสิ่งแปลกๆ เช่น พวกกายทิพย์ คือ เทวบุตร เทวธิดาอินทร์พรหม ยมยักษ์ นาค ครุฑ...หรือ การรู้วาระจิตคนอื่น ที่เขาคิด เขานึกอยู่ในใจก็สามารถได้ยินชัด...

    สิ่งเหล่านี้...แรกๆ ท่านก็ทั้งตกใจ ทั้งประหลาดใจ แต่เมื่อเป็นมาระยะหนึ่งได้รู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือภาพนิมิตก็ระงับสติได้ มีสติว่านี่เป็นเรื่องพิสดาร แต่ไม่ควรจะให้ความสนใจมากนัก

    นี่เป็นเหตุหนึ่งที่เมื่อได้บวชเป็นภิกษุแล้ว ท่านก็บากบั่นมุ่งมั่นต่อไปในแดนพุทธอาณาจักรอย่างไม่ย่อท้อ

    ครูบาอาจารย์ก็ช่วยให้ความมั่นใจว่า เมื่อท่านเป็นผู้มีนิสัยวาสนาทางนี้แล้ว ก็ควรจะเร่งทำความพากความเพียรต่อไป ไม่ควรให้ความสนใจต่อสิ่งที่เป็นเหมือน "แขกภายนอก" เหล่านี้อย่านึกว่าตนเป็นผู้วิเศษ ผู้เก่งกล้าอะไร ผู้ใดมีวาสนาบารมี สร้างสมอบรมมาอย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น เปรียบเสมือนการปลูกต้นผลไม้ หากเรานำเอาเมล็ดมะม่วงมาเพาะ ปลูก ลงดิน รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย บำรุงต้นไม้นั้นไป วันหนึ่งก็จะออกดอกออกช่อให้ผลเป็นมะม่วงจะกลายเป็นมะปรางหรือมะไฟก็หามิใช่ หรือผู้ที่ไม่เคยเพาะเลียงมะม่วง ไม่เคยปลูกมะม่วง แต่จะนั่งกระดิกเท้ารอให้เกิดต้นมะม่วง มีผลมะม่วงขึ้นมาเอง ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน

    ท่านเป็นผู้มีวาสนาบารมีธรรมสร้างสมอบรมมาแต่บรรพชาติ จิตจึงเกรียงไกร มีอานุภาพแต่ก็ควรจะประมาณตนอยู่เพราะความรู้สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของผู้กระทำความเพียรภาวนา นักปราชญ์จะไม่มัวหลวงงมงายอยู่กับความรู้ภายนอก อันเป็นโลกียอภิญญา จุดมุ่งหมายปลายทางของปวงปราชญ์ราชบัณฑิตนั้น อยู่ที่การกำจัดอาสวกิเลสที่หมักดองอยู่ในกมลสันดานของเราให้หมดไป สิ้นไป โดยไม่เหลือแม้แต่เชื้อต่างหาก

    หลวงปู่ได้น้อมรับคำสั่งสอนเตือนสติของครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพ แม้หมู่พวกเพื่อนๆ จะมีความเกรงใจท่านอยู่มาก แต่ท่านก็มีความเสงี่ยม เจียมตัวอยู่มิได้นึกเห่อเหิมอวดตัดแต่ประการใดระยะแรกๆ ท่านเต็มไปด้วยความระวังตัว ด้วยไม่แน่ใจว่าบางครั้งภาพที่ปรากฏให้ท่านเห็นนั้นจะมีผู้อื่นเห็นเหมือนกับท่านหรือไม่ หากเขาปรากฏให้ท่านเห็นเพียงผู้เดียว การทักทายปราศรัยหรือสนทนาก็อาจทำให้ถูกมองเหมือนเป็นคนบ้าคนประหลาดพูดคุยคนเดียวก็ได้ ท่านจึงเป็นผู้เงียบสงบ ไม่ค่อยพูดคุยสุงสิงกับใครมากนักด้วยได้ใช้ภาษาใจได้อย่างเป็นประโยชน์มากกว่า อย่างไรก็ดีต่อมาท่านก็ชำนาญในการนี้มากขึ้น จนรู้ได้ทันทีว่าเป็นนิมิตหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกันนั้นท่านก็คิดหมายมาดว่า ท่านจะต้องเร่งโอกาสความเพียรพยายามต่อไปโดยไม่ประมาท

    หลวงปู่บวชแล้วถึง 4 ปี จึงได้มีโอกาสพบ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ...!!!

    ความจริง พระอาจารย์พา อาจารย์องค์แรกผู้พาท่านออกดำเนินทางธรรมโดยให้เป็นผ้าขาวน้อยเดินรุกขมูลไปกับท่าน จนกระทั่งเป็นธุระให้ท่านบวชเณร...ก็เป็นศิษย์องค์หนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ท่านเคยเคารพเลื่อมใสพระอาจารย์พา อาจารย์ของท่านมากและอดคิดแปลกใจไม่ได้ที่ท่านพระอาจารย์พา เล่าให้ฟังถึงท่านพระอาจารย์มั่นอาจารย์ของท่านด้วยความเคารพเทิดทูนอย่างสูงสุด

    ท่านว่าพระอาจารย์พาเคร่งครัด ในเรื่องข้อวัตรปฏิบัติมากอยู่แล้ว

    แต่ท่านพระอาจารย์พา บอกว่าท่านพระอาจารย์มั่นเคร่งครัดในเรื่องข้อวัตรปฏิบัติมากที่สุด

    ท่านว่าพระอาจารย์พา ฉลาดรอบรู้ในการเทศนาธรรมมากอยู่แล้ว

    แต่ท่านพระอาจารย์พากล่าวว่า ท่านพระอาจารย์มั่นอาจารย์ของท่าน ฉลาดรอบรู้ในการเทศนาธรรมได้กว้างขวางพิสดารมากที่สุด

    ท่านว่า พระอาจารย์พา อ่านใจคนได้มากอยู่แล้ว

    แต่ท่านพระอาจารย์พายืนยันว่า ท่านพระอาจารย์มั่นอาจารย์ของท่าน อ่านใจคนดักใจคนรู้จิตคนได้ทุกเวลา ทุกโอกาสมากที่สุด

    ท่านพระอาจารย์มั่นเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบซึ่งในสมัยนี้ยากจะพบ "พระ" ผู้เป็น "พระ" อันประเสริฐ ผู้เป็นนาบุญอันเลิศ ยากจะหานาบุญใดมาเทียบได้

    ควรที่ผู้สนใจใฝ่ทางธรรมอย่างเธอนี้จะไปกราบกรานขอถวายตัวเป็นศิษย์

    ครั้นหลวงปู่ได้ฟังก็อดคิดแปลกใจไม่ได้ว่าในโลกปัจจุบันนี้ยังจะมีบุคคลผู้ประเสริฐเลิศลอยเช่นนี้อยู่อีกหรือ แต่เมื่ออาจารย์ของท่านบอกไว้ ท่านก็จดจำไว้ คอยสำเหนียกฟังข่าวท่านพระอาจารย์มั่นอยู่ตลอดเวลา

    และต่อมาเมื่อปรารภกับใคร กิตติศัพท์กิตติคุณของท่าน พระอาจารย์มั่นก็ดูจะเป็นที่เลื่องระบือมากขึ้น ท่านจึงคอยหาโอกาสจะเข้าไปกราบถวายตัวเป็นศิษย์อยู่ตลอดเวลา

    ระหว่างที่มารดามาถวายจังหันหรือฟังเทศน์ที่วัดก็ดี หรือเมื่อ "พระ" ได้ไปเทศน์โปรดที่บ้านก็ดี หลวงปู่ก็ได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณโยมมารดาผู้เป็นบุพการีของท่านเป็นปกติ

    พรฺหมาติ มาตาปิตโร ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร
    อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ ปชาย อนุกมฺปกา
    มารดาบิดา ท่านว่าเป็นพรหม เป็นบูรพาจารย์
    เป็นผู้ควรบูชาของบุตรและเป็นผู้อนุเคราะห์หมู่สัตว์

    หลวงปู่ได้ให้ความอนุเคราะห์ท่านผู้เป็นพรหม เป็นครูอาจารย์คนแรก เป็นผู้ควรบูชาของท่านตามควรแก่สมณเพศวิสัย โดยช่วยเทศน์กล่อมเกลาให้จิตของโยมมารดาเพิ่มพูนศรัทธาบารมีในพระพุทธศาสนา แต่แรกโยมมารดาได้มารักษาศีลแปดอยู่ด้วยที่วัดก่อนสุดท้ายครั้นเมื่อศรัทธาปสาทะของท่านเพิ่มพูนมากขึ้น เห็นทางสว่างทางด้านศาสนาโยมมารดาก็ปลงใจสละเพศฆราวาสโกนผมบวชเป็นชี

    โยมมารดาของท่านพบความสุขสงบ รู้จักทางภาวนากระทั่งบอกหลวงปู่ไม่ต้องเป็นห่วงท่าน ท่าน "รู้" แล้วให้พระลูกชายธุดงค์เที่ยววิเวกไปได้ตามใจ

    ธรรมโอวาท
    หลวงปู่มักจะเทศน์เรื่อง ไตรสรณคมน์หรือศีล 5 มากกว่าธรรมข้ออื่น ซึ่งดูเผินๆ เหมือนเป็นหญ้าปากคอก แต่ท่านว่านี่แหละคือ รากฐานของการบำเพ็ญเพียรภาวนาถ้าไม่มีฐานไม่มีศีลรองรับ ก็ยากจะดำเนินความเพียรได้ เพราะ

    อาทิ สีลํ ปติฎฺฐา จ กลฺยาณญฺจ มาตฺกํ
    ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
    ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
    เป็นประมุขของธรรมทั่วไป เพราะฉะนั้นความชำระศีลให้บริสุทธิ์

    หลวงปู่จะเทศน์ เป็นวลีสั้นๆ ประโยคสั้นๆ แต่ก็เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง ถ้าปฏิบัติได้ ปฏิบัติจริง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ และพิจารณาได้ พิจารณาจริง พิจารณาถูก พิจารณาตรง พิจารณาชอบ
    ...แน่นอน มรรคผลนั้นคงอยู่แค่เอื้อมนั่นเอง
    เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง
    พิจารณาตน วางตัวเจ้าของ
    จิตตะในอิทธิบาท 4 เอาใจใส่
    มรณานุสฺสติ
    ให้พิจารณาความตาย...
    นั่งก็ตาย
    นอนก็ตาย
    ยืนก็ตาย
    เดินก็ตาย

    ปัจฉิมบท
    คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ได้กล่าวไว้ในคำแถลงหนังสือชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2535 ว่า "เราเคยซาบซึ้งแก่ใจมานานแล้วว่าเมตตาของท่านใหญ่หลวงเพียงไร แต่ระห่างการรวบรวมต้นฉบับที่ต้องกราบเรียนซักถาม เพื่อสอบทานรายละเอียดในชีวิตของท่านก็ยิ่งซาบซึ้งเป็นที่ประจักษ์แก่ใจผู้เขียนมากยิ่งขึ้น

    ไม่ว่าจะเป็นชีวิตระหว่างวัยเด็ก วัยรุ่น เริ่มบวช เริ่มธุดงค์ประสบการสิ่งลึกลับหลวงปู่ได้เมตตาตอบข้อซัก แม้ริมฝีปากของท่านจะลำบากในการเปล่งเสียงลิ้นของท่านจะลำบากอย่างยิ่งในการเปล่งคำพูด แต่ท่านก็ยิ่งด้วยเมตตาธรรม เมตตาของท่านไม่มีประมาณจริงๆ"

    อันเมตตาของหลวงปู่ที่ไม่มีประมาณนั้นได้แผ่ออกสู่ลูกศิษยานุศิษย์ผู้ประพฤติธรรมพวกเราทั้งหลายซึ่งยังเวียนว่าย วกวนอยู่ในโลกใบกลมๆ ใบนี้หากจะรับเมตตาที่หลวงปู่แผ่ออกมาแล้ว พวกเราก็จะต้องปรับเครื่องรับให้ตรงกับเคลื่นที่หลวงปู่แผ่ออกมาเพื่อที่จะรับกันได้ ศิษย์ผู้ปฏิบัติชอบ ตามหลักคำสอนของหลวงปู่ คงจะได้รับความบันดาลใจและความสงบเยือกเย็นและด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและบารมีของพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโน คงจะดลบันดาลให้ต่างมีความสุข ความเจริญ ความรุ่งเรือง ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งทางโลกและทางธรรม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2014
  16. jsp

    jsp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +936
    ขอราคาล็อกเก็ตครับ
     
  17. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้คุณ ปุณยนุชค่ะ^__^

    รหัสEMS EL2193 3490 2TH
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ^^
     
  18. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    นมัสการ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต อายุ 100 ปี ณ สวนทิพย์ค่ะ

    สวัสดี วันพระใหญ่นะคะ
    วันนี้ได้มีโอกาสไปกราบ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ณ สวนทิพย์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มาค่ะ หลวงปู่ให้พร(แทบจะไม่มีเสียง)แต่พวกเราก็ปลิ้มปิติอย่างมากค่ะ(น้ำตาจะไหล)
    ท่านเป็นพระสายหลวงปู่มั่น ที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ค่ะ
    และได้ร่วมบุญทอดกฐินเป็นครั้งแรกของที่นี่ด้วยค่ะ
    ขอนำบุญทั้งหมดทั้งมวลมาให้แด่ท่านทั้งหลายนะคะ...สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้คุณสมชาติ แล้วนะคะ^_^

    เลข EL4178 9689 1TH


    ขอบคุณมากค้า ​
     
  20. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,284
    ค่าพลัง:
    +704
    จัดส่งพัสดุEMSเรียบร้อยค้า^^

    จัดส่งพัสดุให้คุณrunkeyแล้วค้า
    เลข EL1992 0172 3TH
    ขอบคุณมากค่ะ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...