.oO เรื่องสั้น ปั้นแต่ง Oo.

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 22 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เรื่องที่ ๔๙

    สายน้ำ อัมพวา

    [​IMG]



    เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แมงปอแก้วสมาชิกพลังจิตผู้ห่างหายไปจากเว็ปได้ชวนสร้อยฟ้ามาลากับพี่สาวของสร้อยฟ้ามาลาไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ที่ดอนหอยหลอด แต่ก่อนนั้นก็ชวนไปซื้อดอกกุหลาบสีแดง ๙๙๙ ดอกแล้วก็พวงมาลัยนับสิบพวง ธูปหอมกลิ่นสุพรรณิการ์ที่ตลาดดอกไม้ ก็ปากคลองตลาดนั่นแหล่ะ อิ อิ พูดให้ งง เล่น


    [​IMG]

    งานนี้ดอกไม้เต็มรถเลย ก็ดีนะกลิ่นหอมคละคลุ้งรถไปหมด ดอกไม้อัดเต็มฝากระโปรงรถด้านหลัง แล้วก็ที่นั่งหลังอีกหนึ่งที่ สงสัยว่าทำไมซื้อดอกไม้เยอะจัง ได้ความว่าไปแก้บน ขอกรมหลวงฯ ไว้ว่า ขอให้ได้ย้ายที่ทำงาน พอขอปุ๊บ วันรุ่งขึ้นมีหนังสือมาจากหน่วยงานกลางพิจารณาให้โยกย้ายได้ ก็เลยได้ย้ายที่ทำงานสมใจ จึงนำดอกกุหลาบแดงมาถวาย งานนี้ต้องตื่นแต่ไก่ยังไม่โห่ ไปเดินตลาดดอกไม้แต่รุ่งสาง เพื่อซื้อดอกไม้นี่แหล่ะ ด้วยว่าตลาดดอกไม้หรือปากคลองตลาดนี้หาที่จอดรถไม่ใช่ง่าย


    [​IMG]

    กุหลาบเยอะ หิ้วกลับรถไม่ไหว ต้องใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก

    ขับไปแถวๆ ด้านหลังกรมที่ดิน ได้ที่จอดรถริมถนน ขณะจอดก็มีผู้หญิงรูปร่างท้วมมากผิวดำแดงอายุเลยวัยกลางคนมาโบกรถให้ ทีแรกนึกขอบคุณ แต่พอลงจากรถได้ก็ขอคิดค่าที่จอดรถ ๖๐ บาท อ้าวนี่ริมถนนหลวงนะ เป็นเจ้าของถนนหรือไง จะไม่ให้ก็ไม่ได้ ท่าทางนักเลงน่าดู เดี๋ยวรถเป็นอะไรไปไม่คุ้มเลย เฮ้อออออ ทำไมเป็นอย่างนี้นะ......
    [​IMG]
    ซื้อดอกไม้เสร็จพวกเราก็เดินทางมุ่งสู่จังหวัดสมุทรสงครามโดยใช้เส้นทางลอยฟ้าบรมราชชนนี มาลงสุดทางเข้าพุทธมณฑลสาย ๔ มุ่งสู่ถนนพระราม ๒ มาโผล่แถวๆ มหาชัย แต่ด้วยความยังเช้าอยู่ เลยแวะทานอาหารในปั๊ม ปตท. มีครัวของปั๊มด้วย ทำอย่างหรูหรา ต่างคนต่างสั่งอาหารจานเดียว สร้อยฟ้าฯ สั่งข้าวผัดอเมริกัน แมงปอแก้วสั่งข้าวผัดน้ำพริกปลาสลิดพี่สาวสร้อยฟ้าฯ สั่งอะไรไปจำไม่ได้ พอทานเสร็จเช็คบิลออกมา ปรากฏว่าจานละ ๗๕ บาท ส่วนสร้อยฟ้าแพงกว่าเพื่อน ๙๙ บาท บวกกับค่ากาแฟ ๒ แก้ว โกโก้ ๑ แก้ว ให้แบงค์ ๕๐๐ ไป ทอนมาไม่ถึงร้อย ๕๕๕๕ ข้าวมื้อนี้จะอิ่มได้ทั้งวันไหมเนี่ยะ... ทุกที่กินข้าวผัดอเมริกันจานละไม่ถึง ๕๐ บาท..... รู้งี้เข้าแมคโดนัลข้างๆ ดีกว่า....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    อ่ะทานอาหารเสร็จสรรพ พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ดอนหอยหลอด ถึงศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ประมาณเก้าโมงเช้าก็ช่วยกันหอบดอกกุหลาบขึ้นศาลกันสามเที่ยวถึงจะหมด แต่พอขึ้นไปแล้วแจกันไม่พอ เพราะว่ามีอีกคนที่นำดอกไม้มาถวายเหมือนกัน ทางลุงผู้ดูแลศาลก็เลยบอกว่า งั้นไม่ต้องแกะออกให้วางถวายเลย ให้ใส่แค่แจกันเดียว


    [​IMG]

    พอไหว้และถวายดอกไม้เสร็จแล้ว พี่สาวกับแมงปอแก้วก็ไปเดินช้อปอาหารทะเลแถวๆ นั้น ส่วนสร้อยฟ้าฯ ขี้เกียจ ก็เดินเล่นดูทะเลตอนน้ำลง เห็นคนลงไปจับหอยหลอดกัน บางคนเดินลงไปไม่สวมรองเท้าเห็นแล้วหวาดเสียว นึกถึงตอนก่อนที่เคยมาเห็นเด็กถูกหินบาดที่เท้า เพราะหินที่วางไว้แถวๆ ตลิ่งกันคลื่นนั้นจะมีเปลือกหอยคมๆ อยู่ในหินด้วย มันก็จะบาดเท้าถ้าเดินไม่ระวัง......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เมื่อซื้ออาหารทะเลเสร็จแล้ว พวกเราก็เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปแวะตลาดเพื่อซื้อแป้งหอม ลิปสติก แล้วอะไรอีกก็ไม่รู้หลายรายการ ที่ไม่รู้เพราะไม่ได้ลงไปซื้อกับเขาด้วย นั่งคอยอยู่ในรถ เมื่อซื้อเสร็จพวกเรามุ่งหน้าสู่วัดภุมรินทร์กุฎีทอง เป็นแห่งที่สองที่แมงปอแก้วจะไปแก้บน บนไว้หลายที่เหมือนกันนะเนี่ยะ.... ก่อนถึงวัด พวกเราแวะปั๊ม ปตท. เพื่อทำภาระกิจ จุด จุด จุด และซื้อขนมกิน สร้อยฟ้าฯ ก็ล็อครถด้วยริโมทเหมือนอย่างที่ทำจนเคยชินเป็นประจำก่อนจะเดินไปไหน แต่พอกลับมาที่รถอีกครั้ง ตายหล่ะหว่า กดรีโมท เซ็นทรัลล็อคไม่ทำงาน เข้ารถไม่ได้ เริ่มรนแล้วสิ กด กด กด รถไม่ยอมเปิด เลยใช้กุญแจไขรถ รถก็โวยวายขึ้นมาดังสนั่น ทำไงดี ทำไงดี โวยวายไม่หยุดด้วย ก็เลยเข้าไปนั่งในรถ แล้วก็กดรีโมท อืมม ปลดล็อคได้แระ สรุปว่าแบตเตอรี่รีโมทอ่อน ตอนนี้ก็ใช้กุญแจล็อครถอย่างเดียวแล้ว ไม่กล้ากดรีโมท.....

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ตอนแรก งง แมงปอแก้วอยู่ว่าวัดภุมรินทร์กุฎีทอง มีที่บนตรงไหน นึกไปนึกมา อ้อ ก็องค์หญิงสาวิตรีแม่นางไม้ที่เสาบนเรือนไทยนั่นเอง ขับรถมาถึงวัดประมาณเกือบสิบโมงเช้า จะไปไหว้พระในพระอุโบสถเสียหน่อย แต่ตอนนี้โบสถ์ไม่เปิดเลยได้แต่ไหว้พระอยู่นอกโบสถ์ เนื่องจากสร้อยฟ้าฯ เคยมาที่วัดแห่งนี้แล้ว ขอยกข้อมูลจากกระทู้เก่ามาเล่าใหม่นะจ๊ะ.....


    [​IMG]


    วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
    เดิมมีชื่อว่าวัดภุมรินทร์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองปากคลองประชาชมชื่นฝั่งตะวันตกตรงข้ามอุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัยตำบลสวนหลวงอำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงคราม สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๕โดยนางพุ่มหรือนางสาวพุ่มพงษ์พิทักษ์เป็นผู้สร้างจึงเรียกว่าวัดภุมรินทร์นอกจากนางสาวพุ่มพงษ์พิทักษ์แล้วก็มีนายแจ้งนางชมพงษ์พิทักษ์เป็นผู้ร่วมบริจาคทรัพย์สร้างด้วยนางสาวพุ่มเป็นบุตรตรีนายเหล็งพงษ์พิทักษ์เกี่ยวเนื่องเป็นวงศ์ญาติกับตระกูลอัศเวศน์และนาคสวัสดิ์นางภู่พงษ์พิทักษ์ภรรยานายเหล็งมารดานางสาวพุ่มเป็นคนนครปฐมเป็นเถ้าแก่โรงหีบอ้อยประวัติวัดภุมรินทร์ก็เกี่ยวเนื่องอยู่ในสามตระกูลนี้


    [​IMG]

    ส่วนคำว่ากุฎทองมาจากที่ในวัดมีกุฎีเป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ปิดลวดลายทองสวยงามกุฎีทองหลังนี้ตามประวัติเล่าว่า เศรษฐีบิดาของคุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑)ให้สมภารวัดบางลี่ตรวจดูดวงชะตาคุณนาค สมภารทำนายว่าจะได้เป็นพระราชินีเศรษฐีบิดาคุณนาคจึงให้คำมั่นว่า ถ้าเป็นจริงจะสร้างกุฎีทองถวายให้วัดบางนาลี่น้อยและยังมีเครื่องใช้ส่วนพระองค์ถวายไว้ที่วัดนี้จำนวนมาก


    วัดภุมรินทร์กุฎีทองอำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงครามนี้แต่เดิมมีวัดบางลี่ตั้งอยู่ใกล้กันสองวัดวัดหนึ่งอยู่ริมฝั่งน้ำตอนเหนือเมื่อล่องเรือไปตามลำน้ำแม่กลองจะถึงวัดนี้ก่อนเรียกว่าวัดบางลี่บนอีกวัดหนึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำ เรียกว่าวัดบางลี่ล่างต่อมาวัดบางลี่ล่างเจริญรุ่งเรืองจึงเรียกว่าวัดบางลี่ใหญ่ส่วนวัดบางลี่บนซึ่งตั้งอยู่บนหัวคุ้งข้อศอกถูกกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งพังลงเรื่อยๆพระอธิการเกียเจ้าอาวาสวัดภุมรินทร์จึงรื้อย้ายกุฎีวัดบางลี่น้อยมาสร้างที่วัดภุมรินทร์โดยเพิ่มช่อฟ้าใบระกาใหม่ทั้งหลังเพื่อใช้เป็นที่สวดมนต์เมื่อวัดบางลี่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังทลายหายไปวัดภุมรินทร์จึงอยู่ปากคลองบางลี่แทนด้วยเหตุที่เป็นวัดที่ได้นำกุฎีทองของวัดบางลี่น้อยมาสร้างรวมไว้วัดภุมรินทร์จึงได้มีชื่อเรียกในเวลาต่อมาว่าวัดภุมรินทร์กุฎีทอง



    [​IMG]

    ในวัดภุมรินทร์กุฎีทองยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า ๓๐๐ ปีเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปางมารวิชัยนามว่าพระพุทธรัตนมงคลหรือหลวงพ่อโตและยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประดิษฐานอีกด้วย


    ภายในกุฎีทองปัจจุบันยังปรากฏลวดลายจิตรกรรมอยู่บนเพดานและตามฝาผนังซึ่งเป็นลวดลายที่เก่าแก่ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑ส่วนเสาภายในตัวกุฎีทองนี้ยังคงหลงเหลือเสาเรือนดั้งเดิมอยู่เพียงเสาเดียวและเสาต้นนี้เป็นเสาที่พิเศษเพราะเป็นเสาไม้ตะเคียนเป็นที่สิงสถิตของนางไม้ นามว่า “องค์หญิงสาวิตรี” ซึ่งสามารถอธิษฐานขอโชคขอลาภได้


    [​IMG]



    พอแก้บนเสร็จแล้ว จากนั้นก็พากันเดินไปปล่อยปลาที่ริมตลิ่ง ตอนปล่อยปลาลงแม่น้ำ เห็นมีปลาใหญ่ผลุบขึ้นมา แล้วปลาที่พึ่งปล่อยจะถูกปลาใหญ่กินไหมเนี่ยะ แล้วถ้าถูกกิน คนปล่อยปลาจะบาปไหมเนี่ยะ....????
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ปล่อยปลากันเสร็จแล้ว แมงปอแก้วก็ให้ไปวัดหลวงพ่อนิลมณี เอ ชื่อจริงๆ ชื่อว่าวัดอะไรนะ จำได้แต่ชื่อหลวงพ่อ นึกๆๆๆๆ ก่อน อ๋อ วัดบางกุ้ง.... แต่ไม่ได้ไปแก้บนกับหลวงพ่อนะ ไปแก้บนกับแม่นางไม้ เจ้าหญิงมณฑาทิพย์ หรือเจ้าหญิงจันทร์จ้าว ซึ่งอยู่ด้านหลังโบสถ์ปรกโพธิ์..... ก็ขอยกข้อมูลเดิมมาให้อ่านกันอีกครั้งน๊า.........

    [​IMG]


    วัดบางกุ้ง
    เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทรสงครามตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปีพ.ศ. ๒๓๐๘กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จึงทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้งเมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” กองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้งโดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตกหลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ.๒๓๑๐ ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง


    เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้วโปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้งจึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” ในปี พ.ศ.๒๓๑๑หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ ๘ เดือนกองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่ากรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป และต่อมาในปีพ.ศ.๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกกองทัพเรือนำทหารไปออกศึกที่บางแก้วเมืองราชบุรีในระหว่างการเดินทางได้หยุดกองทัพพักพลเสวยพระกระยาหารที่วัดกลางค่ายบางกุ้ง

    หลักฐานโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนปัจจุบันถูกต้นไทรขึ้นปกคลุมทั้งหลังหน้าบันของพระอุโบสถมีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย


    [​IMG]


    ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลายสลักจากหินทรายแดง แสดงปางมารวิชัย ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ฝาผนังของพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปพระพุทธเจ้า และภาพพุทธประวัตินอกจากนี้ยังมีสระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดความกว้างประมาณ ๕ เมตร ความยาว ๗เมตร ที่ขอบสระมีกำแพงเตี้ยกั้น และกรุด้วยอิฐถือปูนลักษณะสอบลงไปตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระอุโบสถกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดบางกุ้งเป็นโบราณสถานของชาติในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๐ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙


    ที่วัดบางกุ้งนี้มีศาลอยู่ทางด้านหลังโดยมีชื่อว่า "ศาลนางไม้เจ้าจอม" หรือศาลขององค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์จ้าว)ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ มีคนให้ความเคารพนับถือกันมาก


    ศาลมีประวัติความเป็นมาดังนี้
    ศาลนางไม้เจ้าจอม วัดบางกุ้ง (ข้อมูลนี้ได้มาจากนิตยสารมิติหลอน เล่าโดยร.ศ. หญิงพจน์ฤดีข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข)

    เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๑ บริเวณวัดเป็นป่ารกร้างพระวินัยธร องอาจอาริโย ได้เดินธุดงค์มาที่บริเวณวัดบางกุ้งปักกลดปฏิบัติธรรมอยู่ข้างอุโบสถหลวงพ่อนิลมณีหรืออุโบสถปรกโพธิ์ซึ่งเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานฐานท่านได้เดินสำรวจบริเวณวัดซึ่งทราบมาบ้างว่าวัดนี้เคยเป็นค่ายทหารจีนบางกุ้งสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานีมาก่อนยามดึกขณะเจริญกรรมฐานมักจะเกิดนิมิตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดไทยโบราณมากราบไหว้หลวงพ่อนิลมณีหน้าอุโบสถปรกโพธิ์เป็นประจำมีลักษณะผอมสูงผมยาวใบหน้างาม แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครต่อมาไม่นานเสาคานที่หน้าอุโบสถหล่นตกลงมาพิงอยู่ข้างอุโบสถคืนนั้นเองท่านได้นิมิตเห็นผู้หญิงชุดไทยคนเดิมมาบอกให้นำไม้ท่อนนี้มาไว้ที่หลังอุโบสถแล้วให้สร้างศาลด้วยท่านก็ทำตามโดยให้ชาวบ้านช่วยกันนำไม้มาไว้หลังอุโบสถแล้วสร้างศาลให้ตามคำขอร้องและนำไม้ท่อนนั้นแกะสลักเป็นรูปหน้าผู้หญิงไม่มีแขนขาไว้ภายในให้ชื่อว่า “ศาลนางไม้เจ้าจอม” ผู้คนให้ความเคารพนับถือกันมากเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารแก่ผู้คนอยู่เสมอ



    [​IMG]


    ต่อมาพระวินัยธรฯได้ฟื้นฟูวัดบางกุ้งร่วมกับประชาชนจนเป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งผู้หญิงแต่งกายชุดไทยโบราณมาปรากฏในนิมิตอีกได้บอกว่าเป็นองค์หญิงนามว่า “องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า)”ต้องการให้สลักรูปองค์หญิงจากไม้ต้นโพธิ์ซึ่งมีอายุประมาณ ๑๐๐ปีโดยขอร้องให้แกะสลักทั้งองค์ หลังจากนั้นท่านได้ปรึกษาหารือญาติโยมหาช่างแกะสลักโดยนายช่างคิดราคาค่าแรง ๘๐,๐๐๐ บาทเมื่อตกลงราคากันแล้วพอช่างจะลงมือแกะสลักกลับไม่รู้ว่าจะแกะสลักเป็นรูปองค์แบบใดเพราะไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาองค์หญิงมณฑาทิพย์มาก่อนทำให้แกะสลักไม่ได้เมื่อการเป็นดังนี้ท่านเจ้าอาวาสจึงลงมือแกะสลักเองทั้งที่ไม่เคยแกะสลักไม้รูปใดๆมาก่อนเลย การแกะสลักไม้เป็นรูปคนไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ท่านได้ใช้ความพยายามอย่างสูงแกะสลักแบบที่เห็นองค์หญิงในนิมิตเหมือนมีอำนาจอย่างหนึ่งมาดลบันดาลให้แกะได้สำเร็จ สลักอักษรไว้ที่ฐานว่า “องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์จ้าว)”


    ภายหลังพระวินัยธร องอาจอาริโย พบหนังสือ “กฎแห่งกรรม” ของคุณ ท.เลียง พิบูรณ์เข้าโดยบังเอิญพบเห็นเรื่องราวขององค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) เกิดเมื่อปีพ.ศ.๒๒๙๑ เช่นเดียวกับที่เคยนิมิตเห็นน่าจะเป็นองค์เดียวกัน มีเนื้อหาดังนี้ “องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) เกิดเมื่อปลายปีกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๒๙๑เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างสมัยพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด)กับพระเจ้าสุริยามรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์)องค์หญิงเป็นบุตรตรีของกรมหลวงบวรวังในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์บ้านเมืองมีเหตุเดือดร้อนมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงผู้ใดประจบสอพลอผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่ทั้งที่ไร้ความสามารถผู้ครองแผ่นดินได้แต่ลุ่มหลงและเสพสุขในกามาหากใครมีบุตรีต้องนำตัวมาถวายใครขัดขืนจะถูกประหารชีวิตเหลืออยู่ก็แต่กรมหลวงบวรวังในที่ท่านไม่ยอมข้องเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใดไม่คบค้าสมาคมกับใครเมื่อบุตรีเติบโตเป็นสาวให้แต่งตัวเป็นชายพร้อมทั้งข้าทาสบริวารที่เป็นหญิง ๓๐๐ คนเป็นชายอีก ๑๖ คน จัดให้ฝึกอาวุธเรียนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว เช่น ฟันดาบกระบี่กระบอง หมัดมวย ตำราพิชัยสงคราม องค์หญิงเชี่ยวชาญอาวุธตลอดจนเวทมนตร์คาถามีความสามารถด้านวิชาอาคมยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนเมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกพม่ายกกองทัพประชิดเมืองผู้เป็นบิดาสั่งให้บ่าวไพร่ต่อเรือใหญ่ ๓๐ ลำ เรือเร็ว ๑๐ ลำ เรือแจว ๒๐ ลำพร้อมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารอุปกรณ์การก่อสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ลงด้วยอาคมพร้อมเรือคุ้มกันองค์หญิงซึ่งแต่งกายเป็นชายเยี่ยงชายชาวบ้านธรรมดาหลบหนีออกจากกรุงตอนกลางคืนแต่บิดามิได้มาด้วย กองเรือได้ล่องน้ำมาเป็นระยะเวลา ๓ วันพบกองเรือพม่าบรรทุกกระสุนดินดำจึงสั่งให้พลพรรคเข้าโจมตีตอนเวลาดึกจึงเกิดไฟลุกโชติช่วงฆ่าทหารพม่าซึ่งกำลังหลับเพราะเมามายแทบหมดสิ้นจนรุ่งเช้าพม่าส่งกำลังติดตามองค์หญิงสั่งให้กองกำลังหลบตามป่าชายฝั่งแล้วร่ายเวทมนตร์กำบังพรางตาจนพม่าพ้นไปกองเรือหนีเล็ดรอดไปได้อย่างปลอดภัย แล้วหาทำเลสร้างเมืองเล็กๆ อยู่


    เมื่อคราวศึกบางกุ้งองค์หญิงได้คุมกำลังเข้าช่วยรบพม่าเป็นสามารถจนได้รับชัยชนะเมื่อสิ้นอายุขัยดวงวิญญาณยังผูกพันกับวัดบางกุ้งยังคงวนเวียนอยู่ที่ศาลคอยแผ่บารมีให้ความช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนที่มาขอพึ่งพา



    [​IMG]

    เรื่องความเป็นมาขององค์หญิงมณฑาทิพย์นับว่าพิสดารมากความศักดิ์สิทธิ์ของศาลองค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์จ้าว)เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไปใครมีเรื่องทุกข์ร้อนอย่างไรมาบนบานในสิ่งที่ต้องการมักไม่ผิดหวังเป็นต้นว่าเรื่องหน้าที่การงาน การสอบเข้างาน การสอบเรียน และทางด้านโชคลาภมีคนได้เลขไปเสี่ยงโชคแล้วรวยมีปรากฏอยู่เสมอแต่อย่าบนเรื่องเกณฑ์ทหารนะใครไปบนให้ช่วยแน่นอนรับรองถูกชัวร์เพราะท่านชอบทหารที่มีเลือดนักสู้เต็มตัวเมื่อมีชีวิตอยู่


    องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) จึงได้ชื่อว่า “เจ้าหญิงผู้หาญกล้า” รักชาติยิ่งชีพ แม้ร่างกายสูญสลายแต่วิญญาณแห่งความรักชาติยังคงอยู่ตราบนิรันดรควรแก่การสรรเสริญยิ่ง

    จะมีใครว่า ว่าสร้อยฟ้าฯ นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ไหนอ่ะ.....ไม่รู้หล่ะ เล่าต่อ....

    เมื่อแก้บนเสร็จขณะนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว แต่ยังไม่หิวสงสัยข้าวเมื่อเช้าคงจะพาให้อิ่มได้ทั้งวันจริงๆ เสียแล้วมั้ง....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ตอนนี้หมดโปรแกรมแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งวัน คิดไม่ออกขับรถได้สักพัก แมงปอแก้วเกิดความคิดไปล่องเรือไหว้พระกันดีกว่า เอาแล้วไงล่องเรืออีกแล้วเหมือนเมื่อ ๒ ปีที่แล้วเลย ล่องเรือไหว้พระ ๑๐ วันที่จังหวัดนนทบุรี ก็วันนี้เป็นวันเกิดแมงปอแก้วด้วย ทีแรกนึกว่ามาแก้บนในวันเกิดอย่างเดียว แต่ก็ดีได้ทำบุญไหว้พระด้วย แล้วจะล่องที่ไหนถ้าไม่ใช่แม่น้ำแม่กลอง แล้วตรงไหนเขามีบริการล่องเรือไหว้พระกันหล่ะ ก็ตรงตลาดน้ำอัมพวาไง พอไปถึงตลาดน้ำ หาที่จอดรถได้ ก็เดินตรงไปบริเวณใกล้ๆ คลอง จะมีบริการเรือไหว้พระค่าบริการคนละ ๕๐ บาท วันธรรมดา จะไป ๕ วัด ถ้าวันหยุดจะไป ๗ วัด เรือหนึ่งลำนั่งได้ประมาณ ๑๒ – ๑๕ คน วันนี้เป็นโปรแกรม ๕ วัด ลืมบอกว่า วันนี้แดดดีมากเหงื่อท่วมหน้าดำอีกแล้ว


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    วัดแรกที่จะไปล่องเรือนี้ ชื่อว่าวัดท้องคุ้ง

    วัดท้องคุ้ง

    ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๐ ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๓๑๐ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง เดิมทีมีชื่อว่า “วัดราชบูรณะ” ได้บูรณะครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๙ โดยพระอธิการฉาย เจ้าอาวาสในสมัยนั้นร่วมกับหม่อมคุ้มและชาวบ้านในละแวกวัดในคราวบูรณะวัดครั้งนั้นชื่อวัดยังไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อยังคงใช้ชื่อว่าวัดราชบูรณะอยู่แต่ด้วยวัดตั้งอยู่ติดกับฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นท้องคุ้งของแม่น้ำแม่กลอง ผู้ที่ซึ่งอาศัยและสัญจรผ่านไปมาจะมองเห็นวัดนี้ได้แต่ในระยะไกล ด้วยเหตุนี้จึงเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า “วัดท้องคุ้ง” จนถึงปัจจุบัน


    [​IMG]

    พระประธานในอุโบสถ ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อวัดท้องคุ้ง” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นพระปางมารวิชัยขัดสมาธิราบหน้าตักกว้าง ๒.๕๖ เมตร สูง ๔.๖๑เมตรบางคนก็เรียกว่า “หลวงพ่อโต” บางคนเรียกว่า “หลวงพ่อดำ” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ประจำวัดท้องคุ้ง หลวงพ่อโตองค์นี้คาดว่าด้านในอาจเป็นพระพุทธรูปสำริดเนื่องจากในช่วงหนึ่งมีการรบติดพันกับพม่าข้าศึกเกรงว่าพวกทหารพม่าจะเข้ามาพบและนำเอาพระพุทธรูปล้ำค่ากลับประเทศพม่าจึงได้มีการซ่อนอำพรางเอาไว้



    [​IMG]

    อย่างที่บอกไว้ตอนต้นๆ ว่าไม่ได้วางแผนจะมาล่องเรือไหว้พระ จึงไม่ทราบว่าวัดแต่ละวัดที่จะไปไหว้พระนั้นมีวัดไหนบ้าง จึงไม่ทราบว่าวัดท้องคุ้งมีอะไรที่เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งบ้าง ได้แต่ไหว้แต่พระในพระอุโบสถประกอบกับการลงเรือไหว้พระต้องทำเวลานิดนึงก็เลยไม่ได้เดินดูบริเวณวัด... แต่เมื่อมาหาข้อมูลในการเขียนกระทู้กลับพบว่ามีเสนาสนะอีกหลายอย่างที่น่าสนใจอย่างยิ่ง หากมีโอกาสในวันหน้าจะมาขยายความอีกครั้ง….
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    อ่ะ ลงเรือไปกันต่อ....ขอเล่าเรื่องเรือนิดนึง...ที่นั่งในเรือที่พวกเรานั่งกันนั้นอยู่ค่อนไปทางหัวเรือ เมื่อเรือแล่นด้วยความเร็ว หัวเรือแหวกระแสน้ำและโต้กับคลื่นในแม่น้ำ ทำให้น้ำกระเซ็นขึ้นมาโดนหน้าโดนตาต้องใช้หมวกมาบัง แต่ก็ยังไม่วายที่จะเข้าลูกตา ตอนนี้คันหน้าคันตาไปหมด กลับไปถึงบ้านวันรุ่งขึ้นไม่รู้ตาจะแดงหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนี้ควรจะพกแว่นกันแดดมาด้วยก็น่าจะดี....แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้หน้าดำแขนดำอีกแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ....มาพูดถึงวัดที่สองของการล่องเรือดีกว่า วัดเกษมสรณาราม ไม่รู้จักอ่ะไม่คุ้นเลย... อย่างนี้ต้องโทษตัวเอง เพราะวัดนี้มีพระดังแต่ดันไม่รู้จักเสียนี่ คิดอีกทีก็โทษไม่ได้อีกอ่ะ เพราะสร้อยฟ้าฯ ก็ไม่ได้รู้จักและไม่ได้สนใจวงการพระเครื่อง(หาทางแก้ตัว) เมื่อหาข้อมูลของวัดเก่าๆ แถบลุ่มน้ำแม่กลองนี้ เป็นที่น่าเสียดายอยู่หลายอย่าง ประการแรกคือ ประวัติความเป็นมาต่างๆ ของแต่ละวัดหายาก ไม่ค่อยละเอียด ทั้งที่วัดแถบนี้เป็นวัดเก่าโบราณอายุย้อนไปถึงช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาก็หลายวัด ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ก็หลายวัด แต่ประวัติกลับเลือนราง ประการที่สอง ศิลปะ สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การลงสี ลวดลายหน้าบรรณ ปูนปั้น จิตรกรรมฝาผนัง ต่างๆ มีคุณค่าทางศิลปะแต่ขณะนี้ทรุดโทรม พังทลาย ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม วิหารวัดบางที่ที่แปลกตาจะไปดูที่อื่นก็มีไม่เหมือน เริ่มบ่นอีกแล้ว ท่านผู้อ่าน ทนๆ หน่อยนะ อิ อิ.... อ่ะย้อนกลับมาเรื่องไหว้พระวัดเกษมสรณารามต่อกันดีกว่า...


    วัดเกษมสรณาราม(วัดบางจาก)

    ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๐ ตั้งอยู่เลขที่ ๔๐ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายมีเนื้อที่ขนาด ๘ ไร่ ๒ งาน ๑๖ ตารางวา

    เดิมที่วัดเกษมสรณารามชื่อว่า “วัดใหม่ตาเพชร” เนื่องจาก “นายเพชร” เป็นผู้บริจาคที่ดินในการสร้างวัดต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดเกษมสรณาราม” ตามบัญชาของ สมเด็จพระสังฆราช(จวน อุฎฐายี) เมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๖แต่เหตุผลที่เปลี่ยนชื่อไม่มีหลักฐานปรากฏแล้วชื่อว่า วัดบางจาก มาจากไหน อ่ะ งง.... หาข้อมูลไม่เจอ....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    พระอุโบสถสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๐ ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมล้อมรอบเขียนด้วยสีฝุ่นผสมยางไม้ เป็นเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระเจ้าสิบชาติและที่ประตูด้านหน้าของอุโบสถ ๒ บาน และประตูด้านหลังของอุโบสถ ๑ บานก็มีภาพเขียนด้วยเช่นกัน แต่จากการนำชมภายในของพระอุโบสถของพระอาจารย์(พระสงฆ์) ผู้บรรยาย ท่านบอกว่า ลวดลายจิตรกรรมฝาผนัง และประตูพระอุโบสถ มีอายุอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๓ โดยสังเกตได้จากลายลงรักปิดทองบนบานประตู



    [​IMG]


    แต่จากข้อมูลที่ได้มา เห็นว่า สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ นั่นคือ สมัยรัชกาลที่ ๕ เอาหล่ะสิ ข้อมูลตีกันเองแล้ว มาลองพิจารณาดูข้อมูลของพระประธานประจำอุโบสถพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๓๕๐ ก็หลังตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้เพียง ๒๕ ปี อ้าว พระประธานพร้อมพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรถูกสร้างขึ้นก่อนสร้างพระอุโบสถเหรอ เริ่มมึนแล้วอ่ะ ข้อมูลไหนถูกกันแน่หล่ะนี่ หรือว่า พ.ศ.การสร้างพระอุโบสถจะผิด จาก ๒๔๔๐ เป็น ๒๓๔๐ จะเป็นไปได้ไหม ???



    [​IMG]


    ข้อมูลบางแห่งก็บอกว่าพระอุโบสถถูกสร้างในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา บางแห่งก็บอกว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ แต่ทว่าตอนปลายกรุงศรีอยุธยาก็นิยมสร้างเป็นแบบโบสถ์มหาอุตม์ใช่ป่าว... ยังไงหล่ะทีนี้ แล้วโบสถ์สมัยอยุธยาตอนปลายก็จะมีเจดีย์อยู่ด้านหลังโบสถ์ใช่ป่าว ถ้าเป็นอยุธยาตอนต้นตอนกลางก็จะมีเจดีย์อยู่หน้าโบสถ์ใช่ป่าว แล้วฐานโบสถ์ก็จะเป็นแบบท้องช้าง ท้องสำเภาใช่ป่าว ตรงส่วนนี้ถ้าสร้อยฟ้ามาลาเข้าใจผิด เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน ทักท้วงได้นะ เพราะที่ได้เรียนมาก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วอาจจะผิดเพี้ยนไป....แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัว สร้อยฟ้าฯ เชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงรัชกาลที่ ๑ ...



    [​IMG]


    ภายในพระอุโบสถยังประดิษฐาน พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ฝีมือสมัยชียงแสน หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว สูง ๑๗ นิ้วครึ่ง เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สร้อยฟ้ามาลาไม่เคยเห็น...




    ศาลาเอนกประสงค์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓
    ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓
    หอสวดมนต์สร้างเมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๘
    กุฏิสงฆ์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๙
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    มารู้จักพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของวัดกัน
    ประวัติความเป็นมาของ “พระหลวงปู่อ้น”
    “หลวงปู่อ้น” มีนามเดิมว่า “หม่อมราชวงศ์ อ้นอิศรางกูร” ท่านรักสันโดษ อุปสมบทที่วัดระฆังโฆษิตาราม เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดระฆังฯ รับใช้และศึกษาวิปัสสนากรรมมัฏฐานและเวทมนต์ต่างๆ อยู่กับ“สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)หลวงปู่อ้นเป็นศิษย์รุ่นอาวุโสของสมเด็จพระพุฒาจารย์ต่อมาท่านได้ไปอยู่ที่วัดปรกคลองวัว หรือวัดปรกสุธรรมาราม อำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงคราม ต่อจากนั้นท่านได้ไปอยู่ที่ “วัดบางจาก”

    ในช่วงที่ท่านอยู่ที่วัดบางจากนั้นท่านได้สร้างพระเครื่องไว้แจกจ่ายให้กับผู้ที่เคารพนับถือในตัวท่านและยังได้นำลงกรุไว้ด้วยถึงสองแห่งด้วยกัน คือ ที่วัดเกาะลอย อำเภอวัดเพลงจังหวัดราชบุรี และวัดปรกคลองวัว หรือวัดปรกสุธรรมาราม อำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงคราม อายุพระของท่านคาดว่าสร้างในราวปี พ.ศ.๒๔๘๐กว่าๆ

    พระเนื้อผงของหลวงปู่อ้น วัดบางจาก ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงครามเป็นพระเครื่องเก่าแก่ ตามประวัติหลวงปู่อ้นสืบค้นค่อนข้างยากทราบแต่เพียงว่าท่านบวชและติดตามท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร เล่าสืบกันมาว่า หลวงปู่อ้นท่านติดตามท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาแวะเยี่ยมหลวงพ่อหรุ่น วัดช้างเผือก หลวงปู่เอี่ยม วัดบางจาก และหลวงปู่อ่วม วัดไทรหลวงปู่อ้นท่านเห็นว่าเมืองสมุทรสงครามเหมาะแก่การที่จะเจริญธรรมได้ครั้นภายหลังท่านจึงกราบลาท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เดินทางมาพำนักอยู่ที่แม่กลองในพรรษาแรกๆ ท่านไปอยู่ที่วัดปรกราษฎร์รังสฤษดิ์เมื่ออยู่ที่วัดนี้ท่านก็ได้สร้างพระเนื้อผงขึ้นบ้างแล้วเมื่อปลุกเสกเสร็จท่านก็แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านและส่วนหนึ่งท่านก็ได้บรรจุไว้ที่วัดปรกนั่นเอง

    ครั้นต่อมาในพรรษาที่สองนับตั้งแต่มาอยู่ที่แม่กลองท่านก็ย้ายมาอยู่ที่วัดบางจาก และท่านก็ได้สร้างพระเนื้อผงไว้ที่วัดบางจากซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่สร้างไว้ที่วัดปรกฯโดยหลวงปู่อ้นท่านได้ให้ลูกศิษย์แกะแม่พิมพ์ด้วยหินมีดโกนพระที่ท่านสร้างในครั้งนี้มีอยู่หลายพิมพ์ คือ พิมพ์สมเด็จหลังประทุน พิมพ์ประคำรอบและพิมพ์เล็บมือ เป็นต้น

    เนื้อหาของพระและผงวิเศษต่างๆสันนิษฐานว่าท่านคงสร้างตามสูตรของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน ในเรื่องคุณวิเศษนั้น เด่นทางด้านเมตตามหานิยมเป็นเลิศเนื้อของพระวัดบางจากนั้น ถ้าถูกสัมผัส เนื้อของพระจะหนึกนุ่มแบบที่เรียกว่าเนื้อจัดพระวัดบางจากนับว่าเป็นพระเก่าที่น่าบูชามากองค์หนึ่งอายุของการสร้างก็เก่าแก่เป็นร้อยปีขึ้นไป

    หลวงปู่อ้นท่านเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่พูดจาไพเราะ มีเมตตาธรรมสูง ว่ากันว่าท่านสำเร็จกสิณ มีพลังจิตสูงส่งท่านหยิบจับอะไรก็ขลังไปหมดเวลามีผู้มาขอน้ำมนต์ท่านเพียงเพ่งอาโปกสิณแวบเดียวก็ใช้ได้แล้วหลวงปู่อ้นท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบางจากประมาณสี่พรรษา ท่านก็จากวัดบางจากไปเพื่อแสวงหาโมกธรรมความหลุดพ้นโดยที่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านไม่มีใครทราบเลยว่าท่านไปอยู่แห่งใดหรือจำพรรษาอยู่ที่วัดใด และมรณภาพเมื่อไหร่ท่ามกลางความอาลัยอาวรณ์ของลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านในแถบนั้นเป็นอันมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    วัดเกษมสรณารามเป็นวัดที่ได้รับการพัฒนาและบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันแต่ขณะนี้พระอุโบสถกำลังมีปัญหาคือ ฐานรากพระอุโบสถไม่ได้ใช้เสาเข็มแต่ใช้อะไรไม่รู้ถมอัดทำฐานรากอัดให้แน่น(อันนี้พระอาจารย์เล่าให้ฟังแต่จำไม่ได้ว่าใช้อะไรถม)

    [​IMG]

    แต่ด้วยโบสถ์อยู่ใกล้แม่น้ำ เมื่อหน้าน้ำหลากก็จะถูกน้ำท่วม และมีการซึมของน้ำที่พื้นโบสถ์ ทำให้ตอนนี้โบสถ์เริ่มจมลงไปในดิน โดยจากเดิมฐานโบสถ์จะมีบันได ๒ ขั้น บันไดก็จมหายไปเรียบร้อยแล้ว พื้นโบสถ์เสมอกับพื้นดินและมีแนวโน้มจะจมลงไปเรื่อยๆ ด้วยฐานรากที่เคยอัดแน่นได้ยุบสลายลงไป


    [​IMG]

    ส่วนน้ำที่ซึมขึ้นมาตามพื้นโบสถ์ลามไปถึงผนัง ภาพจิตรกรรมฝาผนังเลยเลอะเลือนหายไปเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของฝาแต่ละด้าน ตรงนี้พระอาจารย์ได้บอกว่า ถ่ายรูปได้เต็มที่จะใช้แฟลตก็ได้ ก่อนที่ภาพจะหายไปหมดเพราะกรมศิลปากรยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน สร้อยฟ้าฯ ถ่ายรูปไม่เปิดแฟลตอยู่แล้วไม่ชอบใช้ แต่ใจคิดว่ากว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานก็คงไม่มีอะไรเหลือให้บูรณะได้แล้ว


    [​IMG]

    ก็เข้าใจอยู่ว่า โบราณสถานในประเทศมีเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การบูรณะแต่ละที่แต่ละแห่งต้องใช้ทุนสูง ใช้กำลังคน ใช้ช่างที่มีฝีมือมากๆ เลยทำให้โบราณสถานต่างๆ ไม่ได้รับการบูรณะ หรือบูรณะไม่ทันการณ์ เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง..... วัดแห่งนี้ก็ได้ดูแต่พระอุโบสถอย่างเดียว ด้วยเวลาจำกัด และไม่ทราบเหมือนเดิมว่าวัดแห่งนี้มีอะไรบ้าง.... ว่าจบแล้วก็ลงเรือไปวัดที่สามกันต่อ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    วัดบางเกาะเทพศักดิ์
    ตั้งอยู่บ้านบางเกาะ หมู่ที่ ๕ตำบลแควน้อย อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายวัดมีเนื้อที่ ๑๗ ไร่ ๑ งาน ๘๙ ตารางวาทิศเหนือจดลำแม่น้ำแควน้อย ทิศใต้ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจกที่ดินชาวบ้านมีที่ธรณีสงฆ์เนื้อที่ ๓ไร่ ๒งาน ๔ตารางวา เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.๒๓๐๐ ไม่ทราบนามผู้สร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.๒๓๒๐ ในสมัยโบราณชื่อว่า “วัดเกาะกาหลง”ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดบางเกาะกรรณิการาม” ใกล้ๆ กับวัดนี้มีวัดร้างอบู่วัดหนึ่งชื่อว่า “วัดจำปาศักดิ์”ในปี พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รวม ๒ วัดเข้าด้วยกันแล้วเปลี่ยนเป็นชื่อ “วัดบางเกาะเทพศักดิ์”

    เสนาสนะต่างๆ ในวัด ประกอบด้วย


    [​IMG]

    พระอุโบสถ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๔เมตรเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดิษฐานหลวงพ่อศรีสมุทร

    ศาลาการเปรียญ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๔ เมตรเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

    ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๒๗ เมตร สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๕๒๐เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

    หอสวดมนต์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๖ เมตรสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

    กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๓ หลังเป็นอาคารไม้

    วิหาร กว้าง ๗ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

    ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒หลังสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก

    วัดบางเกาะเทพศักดิ์
    เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่สำคัญ เพราะเคยเป็นสนามรบในสมัยที่สมเด็จพระเจ้าตามสินมหาราชได้ยกทัพมายึดค่ายบางกุ้งคืนจากพม่า ซึ่งวัดบางเกาะเทพศักดิ์สามารถติดต่อกับค่ายบางกุ้งโดยทางน้ำเพียงแม่น้ำแควน้อยคั่นกลางเท่านั้น


    [​IMG]

    ภายในวัดตรงบริเวณพระวิหารทรงมณฑปด้านหน้ามีป้ายบอกว่าหลวงพ่อพระพุทธนาคน้อย ภายในมีรอยพระพุทธบาทจำลอง อายุราว ๘๐ ปี และยังมีภาพจิตรกรรมเขียนเพดานโดยชาวมอญ เป็นลายมงคลจักรวาล เทวดาประจำนพเคราะห์ ฝาผนังเป็นภาพพุทธประวัติ มีเจดีย์หงสาวดี เจดีย์จุฬามณี เขียนขึ้นสมัยรัชกาลที่ ๒


    [​IMG]



    [​IMG]

    นอกจากนั้นยังมีพระพุทธวรญาณ สุมงคลวิหาร ซึ่งสร้างจากหินอ่อนเป็นส่วนใหญ่ภายในประดิษฐานพระพุทธวรญาณ หลวงพ่อบ้านแหลมองค์จำลอง ซึ่งมีความสวยงามมาก.....


    [​IMG]


    [​IMG]

    ตรงข้อมูลที่ได้มานี้ ที่จริงมีความสับสนหลายที่เกี่ยวกับชื่อหลวงพ่อในพระอุโบสถ หลวงพ่อในวิหารทรงมณฑป และหลวงพ่อในวิหารหินอ่อน เพราะข้อมูลที่หามาได้บอกว่า หลวงพ่อพระพุทธวรญาณ เป็นพระประธานในโบสถ์ หลวงพ่อพระศรีสมุทร เป็นหลวงพ่อที่อยู่ในวิหารหินอ่อน แต่จากภาพถ่ายป้ายหน้าวิหารหินอ่อนเขียนว่า พระพุทธวรญาณ สุมงคลวิหาร นั่นหมายความว่า พระพุทธรูปที่อยู่ในวิหารหินอ่อนก็คือ พระพุทธวรญาณหน่ะสิ งั้นหลวงพ่อศรีสมุทรก็ต้องเป็นพระประธานในโบสถ์สิ...


    ส่วนหลวงพ่อพระพุทธนาคน้อยองค์นี้ประดิษฐานอยู่ตรงไหนสร้อยฟ้าฯ ยังหาไม่เจอ เห็นแต่ป้ายหน้ามณฑป แต่ภายในมณฑปมีรอยพระพุทธบาทอยู่ตรงกลาง มุมทั้งสี่ด้านก็มีพระพุทธรูปประจำอยู่ เลยไม่ทราบว่าพระพุทธนาคน้อยคือพระพุทธรูปองค์ไหน......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขณะนี้ล่องเรือไหว้พระมาได้สามวัดแล้ว เกิดอาการ งง กับข้อมูลไปสองวัด แล้ววัดที่สี่กับวัดที่ห้าจะ งง ต่ออีกหรือเปล่า ต้องคอยอ่านกันต่อไป การเขียนเรื่องแต่ละเรื่องไม่ใช่ง่ายในแง่ของข้อมูลที่ต้องหามาจากหลายๆ แห่ง หามาได้ก็ต้องอ่าน พิเคราะห์ กลั่นกรอง ทุกครั้งที่เขียนต้นฉบับกระทู้ก็เขียนไปก็ดูภาพไปว่าใช่หรือไม่ใช่ ด้วยว่าภาพหลายๆ ครั้งได้ช่วยเก็บรายละเอียดของเนื้อหาที่จะเขียนเป็นการสอบข้อมูลไปอีกทางหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าที่สร้อยฟ้าฯ เขียนมาหรือเรียบเรียงมานั้นจะถูกต้องทุกอย่าง ก็อาจจะมีผิดบ้าง แต่พยายามทำให้ข้อมูลถูกต้องที่สุด และถ้าถามว่ากระทู้ที่เขียนผ่านๆ มาร่วมๆ เกือบ ๕๐ กระทู้ เขียนอะไรไปจำอะไรได้บ้าง ขอตอบว่า จำไม่ค่อยได้เลย.... เพราะมันเยอะไปหมด ๕๕๕+





    ไปลงเรือไหว้พระกันต่อดีกว่า วัดที่สี่ลองทายดูกันดีไหมว่าจะเป็นวัดอะไร ให้เวลาทาย


    ...................................................
    ...................................................
    ...................................................
    ...................................................
    ...................................................






    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    [​IMG]

    ก็จากข้อมูลข้างต้น วัดบางเกาะเทพศักดิ์เคยเป็นสนามรบอยู่ใกล้ๆ กับวัดบางกุ้งที่ได้เป็น Unseenin Thailand ตรงที่มีโบสถ์ปรกโพธิ์ ฉะนั้นการล่องเรือไหว้พระก็คงหนีไม่พ้นในการนำชมวัดที่มีจุดเด่นและจุดสนใจอย่างมากเช่นนี้ แต่เมื่อเช้าพวกเราได้มาแล้วหล่ะ ก็กลายเป็นมาซ้ำวัดไปจึงขอข้ามเนื้อหาในส่วนของวัดบางกุ้งนี้ ระหว่างที่คอยเพื่อนร่วมทางลงเรือขึ้นไปไหว้พระนั้น พวกเราก็ไปหาไอติมกะทิแล้วก็น้ำทานไปพลาง ตรงจุดนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายสองโมงแล้ว และตอนนี้ก็เริ่มหมดแรงเดิน ไม่ใช่เพราะหิวข้าวนะ แต่โดนแดดเผาเหงื่อโชกหิวแต่น้ำเลยรู้สึกเพลีย หมดแรง....



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ได้นั่งพักอยู่ตรงที่วัดบางกุ้งประมาณครึ่งชั่วโมง สมาชิกในเรือค่อยๆ ทะยอยกันเดินกลับมาครบแล้ว ลงเรือเดินทางไปกันต่อ ตอนนี้นั่งเรือย้อนกลับทางเดิม ผ่านปากคลองตลาดน้ำอัมพวา แล้วเรือก็มาจอดที่หน้าวัดบางนางลี่ใหญ่ เป็นวัดที่ห้าและวัดสุดท้ายของการล่องเรือไหว้พระ.... เรามารู้จักวัดบางนางลี่ใหญ่กัน......

    วัดบางนางลี่ใหญ่
    ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองตรงข้ามที่ทำการอำเภออัมพวา เลขที่ ๕๑หมู่ที่ ๓ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงคราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๙ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๑ แปลง เนื้อที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ๒๔ ตารางวา

    [​IMG]

    วัดแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๓อยู่ในสมัยสุโขทัย เป็นวัดที่เก่าแก่มากจึงไม่ปรากฏหลักฐานการก่อสร้างที่ชัดเจนและไม่ทราบนามผู้สร้าง เดิมเสนาสนะบางส่วนได้ชำรุดทรุดโทรมเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ให้อยู่ในสภาพพร้อมเหมาะแก่การจำพรรษาของพระสงฆ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ วัดบางนางลี่ใหญ่ เดิมมีอยู่ ๒ วัดมีชื่อเรียกตามตำบลที่ตั้งอยู่ คือตำบลบางนางลี่ต่อมาชื่อตำบลได้เปลี่ยนไปเป็นตำบลสวนหลวง ชื่อวัดยังอยู่ดังเดิม วัดบางนางลี่ใหญ่และวัดบางนางลี่น้อยตั่งอยู่ไม่ห่างกันนักวัดบางนางลี่น้อยอยู่ปากคลองบางนางลี่ด้านบนหรือด้านเหนือ ส่วนวัดบางนางลี่ใหญ่ตั่งอยู่ปากคลองบางนางลี่ล่างหรือด้านใต้ หลังวัดบางนางลี่น้อย คือวัดภูมรินทร์กุฎีทองต่อมาวัดบางนางลี่น้อยได้พังลงน้ำหมดไปแล้วและได้ย้ายสิ่งสำคัญของวัดบางนางลี่น้อยไปรวมกับวัดภูมรินทร์กุฎีทอง

    มีหลักฐานจากพระอุโบสถถึงการหาอายุของวัด คือสร้างมาแต่ครั้งสุโขทัย พระอุโบสถสร้างแบบสำเภาซึ่งต่อมาสมัยอยุธยานิยมสร้างเรียนแบบสุโขทัย ประตูเข้าอุโบสถมีด้านหน้าประตูเดียวเรียกกันว่า "โบสถ์มหาอุตม์" หมายความว่าเข้าแล้วไม่ออก บวชแล้วไมสึกโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภา หมายความว่า เป็นยานพาหนะ พาสัตว์โลกข้ามโอฆสงสารสู่นิพพานคือ เมืองแก้ว ที่ประดิษฐานพระประธานทำเป็นคูหาถ้ายืนที่หน้าอุโบสถจะมองเห็นพระประธานเพียงพระศอ ต้องนั่งลงจึงจะเห็นพระพักตร์ บานหน้าต่างทำเป็นช่องเล็ก ๆ ด้านละ ๓ ช่อง พัทธสีมา ๒ ใบซ้อนแสดงว่าได้ผูกอีกครั้งหนึ่ง สมัยลังกาวงศ์ปัจจุบันได้สร้างอุโบสถใหม่แล้ว


    [​IMG]

    อาคารเสนาสนะต่างๆ ในวัดประกอบด้วย
    พระอุโบสถ มีความกว้าง ๖ เมตร ยาว ๙ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย พระประธานในพระอุโบสถเป็นองค์เดิมที่เคยประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังเดิมมีคำลำลือว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์มาก.... ตรงนี้สร้อยฟ้าฯ เคยเห็นบางวัดที่สร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่เล็กไม่สะดวกต่อการปฏิบัติศาสนกิจ แต่เมื่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ก็สร้างพระประธานใหม่ด้วย แล้วก็ปล่อยพระประธานหลังเก่าไว้กับพระอุโบสถหลังเก่าที่ทิ้งปิดไว้เฉยๆ จนทรุดโทรม บางแห่งถ้าที่ดินวัดมีที่น้อยก็จะทุบพระอุโบสถหลังเก่าทิ้ง ในระหว่างนั้นก็อัญเชิญพระประธานในพระอุโบสถมาไว้ในศาลาชั่วคราว เมื่อพระอุโบสถหลังใหม่เสร็จ ก็สร้างพระประธานองค์ใหม่ แล้วก็ปล่อยพระประธานองค์เก่าไว้ในศาลาแล้วก็สร้างศาลาใหม่อีกที คิดแล้วรู้สึกยังไงไม่รู้.....

    [​IMG]

    ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๒๙ เมตรสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๓เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย

    หอสวดมนต์ กว้าง ๗ เมตร ยาว ๑๙ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๑เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

    กุฎีสงฆ์ จำนวน ๗ หลังเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้

    พระพุทธรูปและสิ่งสำคัญต่างๆ ของวัด
    พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรแกะสลักด้วยไม้ตะเคียนสูงประมาณ ๑๙๓ เซนติเมตร มีนามว่า “หลวงพ่อตะเคียน” ลงรักปิดทองเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เล่ากันว่าท่านลอยน้ำมาเป็นที่นับถือของประชาชนทั่วไป มีงานสมโภชปิดทองในแรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ของทุกปีมาแต่โบราณ

    พระพุทธรูปสานด้วยหวายลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้างประมาณ ๒ ศอกเศษสูง ๒ ศอกเศษ นามว่า”หลวงพ่อสาน”เป็นพระเก่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและดินสังเวชนียสถาน

    หลวงพ่อบ้านแหลมจำลองปางอุ้มบาตร

    ธรรมาสน์สวดพระอภิธรรมของหลวง พระนั่งสวด ๔ รูปและบุษบกสำหรับสวดพระอภิธรรมของเก่าปัจจุบันฝากไว้ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ลงเรือไหว้พระครบห้าวัดแล้ว บวกกับอีก ๑ วัดที่ไปโดยรถยนต์ เป็นว่าวันนี้ไหว้พระทั้งหมด ๖ วัดกับอีก ๑ ศาลกรมหลวงฯ ตอนนี้ต้องลงเรือกลับไปยังตลาดน้ำอัพวา แต่ทว่าขณะนี้เป็นช่วงน้ำลง เรือที่บรรทุกผู้โดยสารมาจำนวน ๑๐ กว่าคนเข้าไม่ได้เสียแล้ว จึงต้องถูกปล่อยที่ท่าเรือฝั่งตรงข้ามของวัดบางนางลี่ใหญ่ ก็คือท่าเรืออเนกประสงค์ เป็นท่าเรือข้ามฟาก ที่จริงถูกปล่อยให้ขึ้นท่าเรือนี้ก็ดีนะ ได้เดินดูตลาดอีกฝั่งนึงด้วย ตอนนี้พี่สาวกับแมงปอแก้วเริ่มบ่นว่าหิว จึงชวนกันไปหาอะไรทานที่ริมตลิ่งตรงที่เรือจอดขายของเยอะในตลาดหล่ะ...



    [​IMG]

    สร้อยฟ้าฯ ก็สั่งผัดไทมาทาน แต่ทานอะไรไม่ลง หิวแต่น้ำ ก็สั่งชาดำเย็นมา ดื่มไปได้ครึ่งแก้ว พะอืดพะอม..... ก็คงจะเป็นดั่งว่า วันนี้อาหารเช้ามื้อเดียวก็คงจะเพียงพอ อิ อิ..... วันนี้หมดวันแล้วกลับบ้านดีกว่า......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.962211/[/MUSIC]


    ........................................................


    สุดท้ายนี้ ขอสุขสันต์วันเกิดจ้า แมงปอแก้ว มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดในทางที่ดีที่เป็นบุญที่เป็นกุศลขอให้สมความปรารถนาทุกประการ กุศลและผลแห่งบุญที่แมงปอแก้วได้ทำในครั้งนี้ขอส่งผลให้สิ่งที่แมงปอแก้วได้ตั้งใจอธิษฐาน จงสำเร็จทุกประการ


    ......................................................





    สุดท้ายจากการที่ได้ไหว้พระ ๖ วัด สักการะพระบรมสารีริกธาตุ
    และทำบุญในครั้งนี้ กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำ
    ข้าพเจ้าขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
    คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์
    ถวายเป็นส่วนในพระราชกุศลพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช
    สมเด้จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
    สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
    สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนี พระพันปีหลวง
    พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัชดา
    พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์
    พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตน์นารีนาค กรมขุนอัครวรราชกัญญา
    พระราชชายาเจ้าดารารัศมี
    เจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
    เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาล
    ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย
    คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ
    พระพิรุณ พระยายมราช นายนิรบาล
    พระสยามเทวาธิราช
    หลักเมือง เสื้อเมือง ทรงเมือง
    ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงเบื้อบนที่สุดพรหมมา
    เบื้องล่างตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษยโลก
    โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล
    เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า
    เจ้ากรรมนายเวร
    บริวารของข้าพเจ้า
    สัตว์โลก วิญญาณโลก และวิญญาณทุกดวงในสถานที่ที่ข้าพเจ้าได้ไปเยือน




    ด้วยกุศลนี้คำว่าไม่มีจงไม่บังเกิดแก่ข้าพเจ้า
    จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้า
    และศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ
    ได้สดับรับฟังคำสั่งสอนของพระองค์ทุกภพทุกชาติ
    ให้ข้าพเจ้าได้ละอายและเกรงกลัวต่อบาป
    หมดซึ่งกิเลสและตัณหา
    จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด



    ........................................




    ที่มาของข้อมูล





    วัดเกษมสรณาราม
    www.banplatabtimresort.com/index.asp?autherid=125&ContentID=10000024&title=%C7%D1%B4%E0%A1%C9%C1%CA%C3%B3%D2%C3%D2%C1+-+%C7%D1%B4%BA%D2%A7%A8%D2%A1&bttcol=True

    หลวงปู้อ้น



    วัดบางเกาะเทพศักดิ์
    www.maeklongnewways.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C.html
    samutsongkhramculture.com/index.php?c=showitem&item=254
    www.bloggang.com/mainblog.php?id=aumteerama&month=22-08-2011&group=12&gblog=20
    th-th.facebook.com/media/set/?set=a.365827660096374.92921.344173108928496&type=1

    วัดบางนางลี่ใหญ่
    www.maeklongnewways.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88.html
    work.m-culture.in.th/album/36574



    ภาพโดย สร้อยฟ้ามาลา
    เรียบเรียงเรื่องราวโดย สร้อยฟ้ามาลา



    .......................






    [​IMG]





    ..............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เก็บภาพมาฝาก


    [​IMG]

    ศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
    ดอนหอยหลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...