Part3: คนหน้าตาไม่ดีกับการบวชพระของเค้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Kar Ma, 10 มีนาคม 2019.

  1. Kar Ma

    Kar Ma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +17
    หลังจากที่ผู้เขียน ความรักดีขึ้นจากการรักษาศีล 8 ก็เริ่มเชื่อในการปฎิบัติมากขึ้น
    เชื่อในศาสนาพุทธมากขึ้น
    สุดท้ายก็เลยอยากลองบวช

    การบวชของผู้เขียนไปบวชที่วัดปฎิบัติ
    บวชอยู่เกือบสามเดือนแล้วก็สึกออกมา

    อย่างไรก็ตาม หลังจากสึกออกมาได้ไม่นาน ประมาณเดือนกว่าผู้เขียนก็เลิกกับแฟน
    คือเค้าเดินออกจากชีวิตผู้เขียน


    ณ วันนั้น ผู้เขียนก็เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมพอสมควร
    เราบวชพระแท้ๆ น่าจะเป็นบุญใหญ่ ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้

    เป็นพระนี้ศีล เยอะกว่าศีล 8 อีกน่าจะบุญเยอะกว่า

    ก็เลยโทรไปถามอ.ท่านนึง ที่มีอภิญญา แล้วถามอ.ว่า มันเรื่องอะไรทำไมถึงต้องเลิกกับแฟน
    อ.ก็เงียบไปแป็ปนึง แล้ว ถามผู้เขียนว่า ตอนบวชนี้ ปฎิบัติเป็นพระ 100%มั้ย ได้ติดต่อกับแฟนมั้ย

    ผู้เขียนก็อึ้งไปสักพัก ก็ยอมรับ ว่ามีติดต่อ
    ผู้เขียนปฎิบัติธรรมก็จริง แต่คุยกับแฟนแทบทุกวัน ในเชิงชู้สาวด้วย

    อ.ก็บอกว่า การบวชเป็นบุญใหญ่ก็จริง มีบุญเยอะก็จริง แต่ ถ้าปฎิบัติไม่ดี ก็กรรมเยอะเช่นกัน
    อ.บอกว่า หากเป็นพระแล้วมีเรื่องกามอารมณ์กับคนรัก ในเชิงชู้สาวกับคนรัก (เยอะ)
    จะเป็นเหตุให้ต้องแยกทางกัน

    ก็ถามอ.ต่อว่า แล้วจะแก้กรรมยังไง อ.ก็บอกว่า ไปรักษาศีล 8
    ผู้เขียนก็ลองปฎิบัติใหม่ ปรากฎว่าก็มีผล แต่มีน้อย
    รอบนี้ทำร่วมสองเดือน แต่เค้าก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา

    ก็เลย โทรไปถามอ.อีก ว่าทำไม
    อ.ก็บอกว่า กรรมมันเยอะเกิน บุญยังไม่พอ
    (ถามว่าถ้ารักษาศีล 8 ต่อจะกลับมามั้ย ก็บอกตรงๆว่าไม่รู้ เพราะไม่ได้รักษาศีล 8ต่อ
    ณ วันนั้นไม่ได้รู้เรื่องกำลังใจ วางกำลังใจไม่เป็น ไม่รู้เรื่องการทำบุญร่วม ก็คงเหมือนกับหลายๆท่านในยุคนี้ ที่คบแฟนเพราะแค่อยากไปเที่ยวกับแฟน )

    ผู้เขียนตอนเป็นพระ คุยกับแฟนแทบจะทุกชั่วโมง เดินจงกรมเสร็จ ก็คุย ว่างก็คุย
    แล้วคุยนี้บางที 18+ (ยอมรับว่าตัวเองระยำ)
    อยู่เฉยๆ ไม่ได้คุยบางทีก็คิดเรื่องระยำ
    สรุปก็เลยเลิกลากันไป

    จะเล่าให้ฟังว่า หลักจากนั้นไม่นาน
    ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกัน
    เพื่อนผู้เขียน(ผู้หญิง) คบกับแฟนมา 10กว่าปี
    วันนึงแฟนไปบวช ผู้ชายสึกออกมาได้ไม่ถึงเดือนก็เลิก
    ส่วนตัวเดาว่า ผู้ชายอาจจะไม่ได้ปฎิบัติเป็นพระจริงเหมือนผู้เขียน
    แล้วก็ลองมาสังเกตุดู จากเพื่อนของเพื่อนบ้าง จากญาติมั้ง เห็นหลายๆคู่เลย ที่เป็นอย่างนี้

    ก็อยากจะแนะนำว่า หากคุณเป็นผู้ชายจะไปบวช
    หรือคุณเป็นผู้หญิง แล้วแฟนคุณจะไปบวช
    ขอให้ตัดสินใจดีๆ

    บวชเป็นเรื่องที่ดีจริง ถ้าคุณพร้อม แนะนำให้ศึกษาความเป็นพระดีๆก่อน เพราะบางทีมันน่าเสียดาย
    บางอย่างไปแล้ว มันไม่กลับคืนมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2019
  2. Kar Ma

    Kar Ma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +17
    ถามว่าเสียดายมั้ยกับการที่เลิกกับคนรักเพราะเรื่องนี้
    ก็บอกตรงๆ ใหม่ๆ บางทีมันมีแว้ปขึ้นมา แอบส่องเฟสเค้ามั่ง
    แต่ทุกวันนี้ผู้เขียนมีคนรักใหม่
    ถ้าเราไปนึกถึงแฟนเก่า มันคงไม่แฟร์สำหรับแฟนปัจจุบันเรา
    เอาง่ายๆเลย คุณจะรู้สึกยังไง ถ้า แฟนคุณ เค้าไปส่องแฟนเก่าเค้า

    ถ้าคุณเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม มันก็คงไม่ต่างอะไรจากการมีชู้
    ใจคุณไปอยู่กับคนสองคน ถ้าภาษาชาวโลก ก็คือ ชู้ทางใจดีๆนี้เอง
    พอคิดได้อย่างงี้ก็เลิกส่อง เลิกสนใจแฟนเก่า

    ความเสียดายทุกวันนี้ไม่มี คิดว่าวันนึงหากต้องตาย ไม่อยากตายด้วยไอเดียที่ว่าเราเป็นคนสองใจ
    แล้วก็รักแฟนใหม่ ไม่อยากทำให้แฟนใหม่เสียใจ เลยไม่ส่อง เลยไม่คิด
     
  3. Kar Ma

    Kar Ma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +17
    เพื่อนผู้เขียนหลายท่านบอกมาว่า เวลาอยู่ในศีล8
    แฟนเก่าจะติดต่อมา


    ตัวผู้เขียนเองก็เคยเป็น (หลังจากเลิกแฟนคนแรกไป จริงๆ คบไปหลายคนอยู่ ก่อนจะมาเจอคนปัจจุบัน)

    หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ถามว่าทำไง
    ถ้าคุณมีแฟนอยู่แล้ว ก็เคลียให้จบ
    บอกไปเลยว่า "มีแฟนอยู่แล้ว" "คุยไม่ได้" "จบไปแล้ว"

    คุณทำให้คนคนนึงคิดถึง เวลาเค้าคิดถึงคุณ เค้าจะทำมาหากินก็ไม่ได้
    จะตัดสินใจในการทำงานก็ไม่ได้ นอนก็นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงคุณ

    ถ้าคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม
    ถ้าคุณเป็นเหตุในเรื่องนี้ คุณว่าตัวคุณเองจะต้องเจอแบบนั้นมั้ย ?

    บางคนอาจจะบอกว่า
    "อ้าว ก็จบไปแล้วนี้ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้พูด ไม่ได้ให้ความหวัง เราผิดหรอ"

    ก็อย่าลืมว่า ช่วงตอนที่คุณคบเค้า คุณอาจจะไปสร้างความหวัง กับเค้า
    บางคนเค้ายังเอาใจไปผูกกับความหวังนั้นอยู่
    แล้วยิ่งสมัยนี้ หนุ่มสาวคบกัน คือมีอะไรกัน มีเพศสัมพันธ์กัน
    (ศีล3ขาด ถ้ายังไม่แต่งงาน ลองเช็คดู)
    กรรมร่วมคุณมีกับเค้าแน่นอน ไม่แปลกหรอกที่เค้ายังจะหวังกับคุณอยู่

    คุณรักษาศีล8 แล้วเค้าพยายามกลับมาสานต่อ
    ก็อารมณ์ประมาณเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้

    ถ้าคุณไม่อยากเจอ คุณก็ไปเคลียซะ
    แล้วเวลาเคลีย แนะนำว่าเคลียให้ขาด
    ไม่ใช่พูดจาสองแง่สองง่าม เค้าคิดถึงคุณต่อ คุณก็ต้องทุกข์แบบที่เค้าทุกข์


    นอนไม่หลับ
    อันนี้เจอมากับตัว ผู้เขียนมีปัญหานอนไม่หลับอยู่พักนึง
    ก็เจออย่างที่เล่าให้ฟัง ปฎิบัติแล้ว คนรักเก่าพยายามมาสานต่อ
    ก็เคลีย เคลียอยู่สองเดือนกว่า ไล่เท่าไรก็ไม่ไป ด่าด้วยคำแรงๆก็ไม่ไป (บอกไปแล้วด้วยว่าผู้เขียนมีแฟนแล้ว)

    ตอนหลังเดินจงกรมแล้วอธิษฐานเอา "ขอให้หลุดพ้นซึ่งกันและกัน"
    อยู่ดีๆวันนึงก็นึก"ประโยค"นึงออกมา ไม่ได้หยาบคายแต่คงแทงใจดำ
    พูดเสร็จเงียบเลย หายไปเลย

    สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังจากนั้นวันเดียว ย้ำว่าวันเดียว
    รู้สึกโล่งมาก เหมือนเกิดใหม่ การหลับดีขึ้นชัดเจน
    (คิดว่าเค้าน่าจะเลิกหวังกับผู้เขียน)

    เคลียเสร็จ ความรักปัจจุบันก็ดีขึ้น ทะเลาะกันน้อยลงกับแฟนปัจจุบัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2019
  4. Kar Ma

    Kar Ma สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +17
    ถอนคำอธิษฐาน
    พอเลิกกับแฟนคนแรก ผู้เขียนไม่ได้เจอแฟนปัจจุบันเลย
    คบอยู่หลายคน แล้วก็ผิดหวัง

    วันนึงได้คุยกับอ.ที่มีอภิญญา ก็ถาม อ.ว่าทำไมผมผิดหวังบ่อยจัง
    อ.ก็เงียบไปสักพักแล้ว บอกว่า ติดเรื่องอธิษฐาน
    อ.ก็บอกว่า เห็นภาพผมอธิษฐานเรื่องความรักกับผู้หญิงคนนึง บ่อยมาก แล้วก็บรรยาย หน้าตาแฟนเก่าผม (ผมสั้นผิวขาว)

    อ.ก็บอกว่า เพราะคำอธิษฐานนั้น เป็นเหตุให้ผม "ไม่ให้ใจ"เต็มร้อยกับใครสักคน

    ก็เป็นเรื่องจริง
    ตอนผมคบกับแฟนคนแรก ผมอธิษฐานบ่อยมาก ว่าขอให้สมหวังในความรักระยะยาว กับเค้า
    นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็อธิษฐาน ผมตั้งใจมาก


    จริงๆมีที่มาอยู่คือ
    ตอนเด็กๆ ผมไปอ่านหนังสือเล่มนึง เป็นหนังสือธรรมมะ
    ผู้หญิงคนนึงอยากได้เพชรชนิดนึงชื่อ ว่า "เพชรตาแมว"
    ถ้าจำไม่ผิดคือผู้หญิงคนนี้ก็ไปคุยกับพระ บอกว่าอยากได้

    พระก็บอกว่าให้ "ปฎิบัติ" หรือเดินจงกรมเอา หากมีบุญเก่า หรือบุญสัมพันธ์นี้แหละ (ผมไม่ชัวคำ) แล้วจะได้เอง

    ผู้หญิงคนนั้นก็ทำไป (เดินจงกรมทุกวัน) ปรากฎว่า อยู่ดีๆ ก็มีคนเอามาให้
    ผมเป็นเด็กตอนนั้นก็เชื่อ

    วันนึงที่บ้านส่งไปคอร์สปฎิบัติธรรม เป็นคอร์ส 7วัน
    ผมอยากได้เครื่องเกมอันนึงมาก (ตอนนั้นอายุ 12)
    ปฎิบัติเสร็จ จะอธิษฐานทุกครั้ง ว่าขอให้ได้ (ผมอธิษฐานทุกวัน)
    พอครบ7วัน ผ่านไปสัก อาทิตย์นึงมั้ง

    อยู่ดีๆ แม่ก็ซื้อเครื่องนั้นมาให้ (รู้สึกเผลอพูดกับแม่ไปว่าอยากได้)

    หลังจากนั้นมา เวลาผมอยากได้อะไร ผมจะเดินจงกรม แล้วอธิษฐานเอา
    เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากอะไรในชีวิตเท่าไร
    ที่เคยขอแล้วจำได้ ก็มีตอนสอบเอ็นทร๊านมหาลัย

    ผมอยากเค้ามหาลัยนึง แต่คะแนนผมไม่ถึง ผมสอบไปแล้วสองครั้ง
    (สอบเรียกว่า SAT มันสอบหลายๆครั้งได้)

    ครั้งที่สามเป็นการสอบครั้งสุดท้ายแล้ว ก่อนสอบสักสองเดือน ผมก็มาเริ่มเดินจงกรมแล้วอธิษฐานเอา ว่าขอให้ได้คะแนน 700 (มันเต็ม 800 / สองครั้งที่สอบได้ไม่เกิน 500)

    ปรากฎว่า พอสอบเสร็จ ประกาศออกมา ผมก็ได้ 700
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็อ่านอย่างหนัก แต่ที่แปลกคือ มันได้ 700เป๊ะ อย่างที่ขอไว้

    เรื่องงาน /ตอนเป็นหนี้
    เดินจงกรม อธิษฐาน แล้วขอเอา ส่วนใหญ่ได้หมด
    เวลาคุณอธิษฐาน ส่วนนึงมันจะโฟกัสขึ้นด้วย คุณจะนึกถึงเรื่องที่คุณอธิษฐานมากขึ้น
    ปัญหาบางอย่างบางทีนึกไม่ออก อยู่ดีๆก็ปิ๊งขึ้นมาระหว่างการเดิน
    บางทีก็ฝัน บางทีก็นั่งๆอยู่ก็นึกออกว่าจะแก้ปัญหายังไง

    ย้อนกลับมาเรื่องความรัก
    อ.ก็บอกให้ผมถอนคำอธิษฐานเอา
    ผมก็ลองดู แต่ปรากฎว่า ก็ยังเป็นปัญหาเรื่องความรักเหมือนเดิม
    ก็เลยถามอ. ใหม่
    อ.บอกว่า ตอนอธิษฐานผมตั้งใจอธิษฐานมาก อธิษฐานบ่อยมาก
    ตอนถอนก็ ต้องถอนบ่อยเช่นกัน
    ก็เลยลองดู
    ทีนี้เริ่มมีผล คือทะเลาะกับคนรักน้อยลง หลังๆมาก็ดีเลย
    ***
    เวลาอธิษฐานอะไรก็ตาม จากประสพการณ์ส่วนตัว
    พอทำไปสักพัก บางทีมันจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า "ทำเพื่ออะไร" แล้วมันจะอยากเลิกทำ

    บางเรื่องที่อธิษฐาน มันไม่ใช่ว่าผมเดินจงกรม หนึ่งอาทิตย์แล้ว มันได้ง่ายๆ
    บางทีทำสองอาทิตย์ สามอาทิตย์
    แต่ผมว่าที่ผมไปต่อได้ คือ ผมเชื่อ
    ผมไม่ได้อ่านหนังสือแล้วเชื่อ มันเกิดกับผมเอง ผมเลยเชื่อ 100%

    เชื่อว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องบุญบาป
    จะได้งาน ก็ต้องใช้บุญ
    จะช่วยคน ก็ต้องใช้บุญ
    จะ ได้เงินก็ต้องใช้บุญ
    ที่สำคัญคือผมทำแล้วมันเกิดผลมาก่อน เกิดตั้งแต่ตอนผมเป็นเด็ก ผมเลยเชื่อมาตลอด

    เขียนมาตั้งใจนานก็อยากให้ทุกคนเชื่อว่า ศาสนาพุทธนี้เป็นเรื่องจริง
    กฎแห่งกรรม บุญบาปเป็นเรื่องจริง
    คุณลองพิสูจน์เอา

    ตอนนี้คุณมีปัญหาอะไร ติดใจมั้ย ? อยากได้อะไรมั้ย ?
    ลองเดินจงกรมทุกวัน แล้วอธิษฐานเอา



    /ตอนผมเดิน ผมเดินสี่ครั้ง ครั้งละยี่สิบนาที
    ตื่นมาหนึ่งครั้ง กินข้าวเช้าเสร็จหนึ่งครั้ง
    ถึงบ้านหนึ่งครั้ง กินข้าวเย็นเสร็จอีกหนึ่งครั้ง

    ถ้าคุณเริ่มปฎิบัติใหม่ คุณเดินวันละครั้งก่อนก็ได้
    แล้วค่อยๆเพิ่มรอบไป
    ตอนผู้เขียนมาเริ่มปฎิบัติเอง ตอนสอบเข้ามหาลัย ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเดินวันละรอบ

    เพิ่มรอบก็ดี แต่คุณต้องอยากทำเอง ถ้าฝืนมาก มันจะทำได้ไม่นาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...