Raw Food Diet อาหารที่เเท้จริงของร่างกายมนุษย์ คือ ผลไม้เเละผักสด

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย หนุกจังเลย, 12 กรกฎาคม 2012.

  1. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958


    [​IMG]

    ขณะนี้ผู้คนบนโลกใบนี้เริ่มตื่นตัวเเละสร้างการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่
    สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา คือ การตัดสินใจเรื่องสุขภาพ

    รากฐานของร่างกายมนุษย์มีอวัยวะที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
    ดังนั้นหลักการทานอาหารของมนุษย์ คือ การทานสิ่งที่มีพลังชีวิต
    การทานอาหารที่ไม่มีพลังชีวิตจึงทำให้มนุษย์ป่วยเเละอ่อนเเอลงอย่างมาก
    ปัจจุบันมนุษย์ป่วยไม่ใช่เพียงเพราะ โรค หรือ ไวรัสนอกกาย
    เเต่มนุษย์ส่วนมากป่วยเพราะ การใช้ชีวิตที่ผิดหลักนาฬิกาชีวิต
    นอนเช้า ตื่นบ่าย ไม่ถ่ายเป็นอาทิตย์ล้วนเป็นพิษผิดหลักสมดุลของร่างกายมนุษย์
    เเละ นั้น คือ สาเหตุของโรคร้ายที่เราไม่ทำตามธรรมชาตินั้นเอง

    การทานอาหารผิดวิถีธรรมชาติมาตั้งเเต่เกิด มนุษย์สร้างวัฒนธรรมเเละประเพณี
    จนทำให้ห่างไกลความเป็นธรรมชาติมานานหลายร้อย หลายพันปี
    เเต่ก่อนหน้านี้ มนุษย์มีความเป็นอยู่ไม่ต่างจากสัตว์บนโลก
    การเจ็บป่วยเเละโรคร้ายน้อยกว่าปัจจุบันเป็นอย่างมาก
    เพราะอาหารที่มนุษย์ทานมีพิษน้อยกว่าปัจจุบัน

    การทานอาหารอะไรเข้าไปจะก่อให้เกิดโรค หรือ สุขภาพเเข็งเเรงอยู่ที่การเลือก
    ยารักษาโรคไม่ใช่ทางออก เเต่ทางเเก้ คือ การเลือกทานอาหารที่ดีต่อตนเอง
    มีคนจำนวนไม่น้อยรู้ความลับนี้จึงกลับคืนสู่ธรรมชาติ
    เลือกทานอาหารสดไม่ผ่านการปรุงสีเเต่งรสเติมกลิ่น เพื่อคืนสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง

    เขาเรียนรู้ว่า ร่างกายมนุษย์จะสร้างเซลล์ทุกชั่วโมง ดังนั้นเมื่อคุณทานอะไรจะสร้างความเป็นคุณขึ้นมา

    ถ้าคุณเอาเเอ๊ปเปิ้ลฝั่งลงดินคุณจะได้ต้นเเอ๊ปเปิ้ล
    เเต่ถ้าคุณเอาพิซซ่า หรือ พาสต้าฝั่งลงดินคุณจะได้เชื้อรา
    ลองคิดกลับกันว่าคุณกินอะไรเข้าไปมันไม่ได้ออกมาทั้งหมด
    เเต่มันจะช่วยสร้างเซลล์ในตัวคุณ เเละ นั้น คือ ต้นเหตุของโรคต่างๆของมนุษย์ปัจจุบัน


    คุณไม่รู้หรอกว่า ปลายิ่งตัวใหญ่เเปลว่ามีสารพิษจากพลังงานนิวเคลียร์มากเท่าตัว
    เนื้อสัตว์ต่างๆ ล้วนหลั่งสารพิษออกมาในขณะที่กำลังถูกฆ่า
    ไม่รวมถึงสารเคมีต่างๆ ที่ถูกกระตุ้นให้หลั่งน้ำนมให้มากขึ้น เนื้อเยอะขึ้น เเละอื่นๆอีกมากมาย
    เเหมเเต่น้ำผลไม้ในกล่องที่เก็บได้ 3 เดือน น้ำผักผลไม้จะหมดวิตามินไปในเพียง 4 วันเท่านั้น

    ตลาดสดของเมืองไทย ที่มีผักเน่าง่าย คือ ทางออกเพื่อสุขภาพ
    เพราะคุณรู้ว่า อาหารเหล่านั้นมันเสีย เเละ เเมลงกล้ามากินเเปลว่า คือ ผักผลไม้ที่ดี

    ถ้าไม่เน่าไม่เสีย สวยงาม เเปลว่า สารเคมีมีอยู่มาก

    ถ้าคุณ คือ คนนึงที่ป่วย หรือ อยู่กับคนที่กำลังป่วยลองเปลี่ยนวิถีการกินดูนะคะ
    การทานผักผลไม้สดเป็นหลักช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างเซลล์ใหม่ สร้างกล้ามเนื้อ
    เเละเพิ่มพลังชีวิตเเละคุณรู้สึกดีขึ้น เป็นอาหารที่ดีต่อเซลล์ ในการล้างพิษ เหมาะที่สุดสำหรับระบบย่อย

    ที่สำคัญคุณต้องกินให้มากกว่าอาหารปกติเพื่อให้หมดความอยากในอาหารที่เป็นพิษกับร่างกาย
    กินเท่าไรไม่อ้วนมีเเต่จะผอมลงเพราะ ไม่สะสมมีเเต่ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้นเเละบ่อยครั้ง
    ยิ่งกิน ยิ่งถ่ายไม่เหมือนอาหารประเภทอื่นที่ต้องใช้เวลาขับออกมาเป็นวัน
    หรือ อาทิตย์สุดท้ายจึงกลายเป็นขยะที่เป็นพิษในกระเเสเลือดก่อให้เกิดสิว กลิ่นปาก กลิ่นตัว เเผล โรคร้ายต่างๆ นั้นเอง

    ถ้าคุณเป็นคนนึงอยากมีสุขภาพที่ดี ผิวสวย หุ่นดี เเละบุคลิกดี ลองกลับคืนสู่วิถีธรรมชาติดูนะคะ

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/wEu22g8OYw8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  2. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    ข้อดีของการกิน คือ ต้องกินเยอะๆเพื่อให้ร่างกายได้รับอาหารพอเพียงเเต่ยิ่งกินยิ่งผอม
    เพราะร่างกายจะเผาผลาญร่างกายตลอดทั้งวัน
    คนส่วนมากจะเลือกทานกล้วย 30 ลูกต่อวัน หวีละประมาณ 30 - 35 บาท

    กล้วยจะมีสารอาหารที่ดีต่อการเผาผลาญ น้ำตาลที่เหมาะสม
    น้ำตาลจากผลไม้จะไม่สะสมเหมือนน้ำตาลที่ผ่านขั้นตอนการปรุงเเต่ง
    กล้วยเหมาะกับกระเพาะอาหารของมนุษย์ที่สุด
    อย่าลืมนะคะว่าบรรพบุรุษเราที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด คือ ลิง
    เเต่มนุษย์บนโลกน้อยคนมากที่จะมีวิถีชีวิตใกล้เคียงกับธรรมชาติ

    กล้วยที่ดีควรจะต้องมีลายจุดดำๆเเบบนี้จะได้วิตามินที่ดีต่อร่างกาย
    เเละย่อยง่ายมากค่ะ


    [​IMG]



    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/Ei0lv8f9GJo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/bwf7BqpB1YI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/IAA3faSMQuM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/olRj2tOV7W4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  3. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    การทานเเคลอรี่จากผักผลไม้จำนวนมากเท่านั้น (ไม่สะสม)
    จะทำให้ร่างกายเเละสมองมีพลังงานมากขึ้น
    ทำให้อารมณ์ดีเเละกระตือรือร้นเพราะทานมากจนเกินกว่าร่างกายจะอยู่เฉยๆได้
    เปลี่ยนจากคนที่เคยเป็นโรคซึมเศร้าเพราะทานน้อย
    สามารถออกกำลังกายหนักๆถึงขนาดวิ่งมาราธอนได้
    การปวดประจำเดือนจะหายไปเเละนอนหลับกลางคืนได้สนิทขึ้น


    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ucHEVNX2c9o" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  4. kwansao

    kwansao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +619
    .
    ก็รู้ทั้งรู้ ว่าอะไรดี อะไรเป็นโทษ
    แต่มันทำไม่ได้นี่ซิ!!
    ของที่มีโทษมาก ก็ยิ่งอร่อยมากด้วย
    ทำไงดีล่ะ?
     
  5. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    ตารางชีวิต ตื่นนอนตอนเช้าจำเป็นต้องดื่มน้ำเปล่า
    หรือ ผสมน้ำมะนาว น้ำใบย่านาง (เพื่อล้างของเสียออกจากลำไส้ใหญ่)

    ตามด้วยทานน้ำผักผลไม้รวมปั่นขวดใหญ่ (เพื่ออิ่มได้ถึงเที่ยง)
    ทานผักผลไม้เป็นกิโลเเต่ละมื้อเพื่อให้อิ่มได้นาน
    จำเป็นจะต้องทานผักเเละผลไม้จำนวนมากเพื่อให้กระเพาะย่อย
    ผักเเละผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายมากสำหรับร่างกาย
    การทานเยอะจะช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีเเละมีประสิทธิภาพ
    บางทีอาจจะถ่าย 5-6 รอบต่อวันเลยก็มีค่ะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/t1aml4seJNg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  6. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    [​IMG]

    วิธีการเริ่มต้นทานผักผลไม้สด

    1. กักตุนผักผลไม้สดให้เต็มบ้านเเทนอาหารทั่วไปอย่ากังวลว่าจะเสียของ

    2. กินให้มากๆ กินเยอะๆ ถึงจะไม่อยากกินเเล้ว ไม่อย่างนั้นจะอยากกินอย่างอื่นเพิ่มเพราะได้รับสารอาหารไม่พอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากผักเเละผลไม้มีเเคลอรี่ที่ต่ำมากเราจึงจะเป็นต้องทานเข้าไปมากๆ เช่น มื้อนึงกิน เเตงโม 1 ลูก, มะม่วง 1 กิโล, กล้วย 1 หวี ฯลฯ คุณจะรู้สึกอิ่มมากเพราะ อาหารเต็มไปด้วยน้ำเเต่ไม่ต้องกังวลร่างกายจะย่อยได้ง่ายมาก

    3.หาเพื่อนรวมอุดมการณ์ที่เป็นเหมือนกัน เมื่อมีคนสนับสนุนคุณจะทำให้คุณทำได้ง่ายขึ้น นัดเจอ พบปะ สังสรรค์กันบ่อยๆ

    4.หาข้อมูลศึกษาเกี่ยวกับการทานอาหารประเภทนี้ว่า ผักผลไม้อะไรที่ให้ โปรตีน เเละ ไขมัน เช่น กล้วย (มีโปรตีน) มะพร้าว (มีโปรตีน/ไขมัน) ถั่วต่างๆ (มีโปรตีน/ไขมัน) เห็ดต่างๆจะให้โปรตีนเเต่กินสดไม่ได้ (ต้องลวกก่อนอย่างน้อย 3 นาที) วิธีกินที่ถูกต้อง คือ 80/10/10 (80%คาร์โบไฮเดรต /10% โปรตีน/10%ไขมัน)

    บางคนกลัวขาด Vitamin B12 ก็ให้ทาน ข้าวกล้อง หรือ ไข่ในตลาดสดดีที่สุด (ของในห้างผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมไม่ดีเท่าไร)

    5. ตั้งเป้า มื้อต่อมื้อ วันต่อวัน อย่าวางเเผนไปไกล ทำเท่าที่ทำได้


    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/hNSTwFISHG8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  7. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    บ้านเรามีของดีอยู่เเล้ว
    ถ้ากินยากก็หาน้ำพริกเเทนน้ำสลัดเเทน
    หรือ ทำขนมจีนเเต่ทานเเต่กับผักเเทน
    เพราะอาหารไทยมีสรรพคุณเป็นยาอยู่เเล้วค่ะ
    เเต่ยาที่ดีที่สุดจะต้องรสจืดนะคะ รสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จะมีผลต่อระบบเลือดทั้งหมด
    กินเค็มร่างกายอมน้ำไม่ดีต่อไต ดูอ้วนง่ายเพราะน้ำ
    กินหวานผิวเสียเป็นสิวง่าย กินเผ็ดมากผิวร้อนเสีย เเละ เเห้งง่าย
    กินเปรี้ยวมากทำให้ท้องร่วง ร้อนใน กระดูกผุ เเผลหายช้าค่ะ

    เพียงเเต่สำหรับคนเริ่มต้นก็เลยต้องหาอาหารมาสร้างจุดดึงดูดกันนิดนึง
    จะได้เกิดไอเดียว่าวันนี้จะทำอะไรกินดีในการเริ่มต้น
    ลองหาผลไม้ที่ชอบที่สุด หรือ อาหารที่ชอบที่สุดที่เป็นผักผลไม้
    เเล้วก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆจะได้ไม่เบื่อค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  8. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    ทานไขมันให้ทานจากผักผลไม้สดที่ไม่ผ่านการกรั่นกรอง
    อาทิตย์นึง กิน สัก 2-3 ครั้ง เพื่อไม่ให้ขาดไขมัน
    ไขมันจากผลไม้ เช่น ถั่วเหลือง มะพร้าว มะกอก ถั่วต่างๆ
    ร่างกายจะนำไปเผาผลาญกินเเล้วดีต่อฮอร์โมนของร่างกาย
    กินสดจากต้น ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เเบบเฉาะเเล้วกินเลย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/9YEfYJVCvhg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  9. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    มื้อเที่ยง 2 คน 35 บาทค่ะ

    [​IMG]
     
  10. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    พวกน้ำพริกกะปิ น้ำพริกต่างๆ รวมถึงน้ำยาขนมจีน มีส่วนผสมของปลา ปลาร้า และกุ้ง จะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?

    พอดีก็กำลังเป็นมังสวิรัติอยู่ แต่หาซื้อกินเองยากมากๆ เลยค่ะ บางทีก็กินพวกปลา หรือ กุ้งบ้างเหมือนกัน >___<

    กินผัก ผลไม้ ดีต่อร่างกายจริงๆ นะคะ อิอิ
     
  11. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958

    จริงๆวิธีทาน คือ การทานผลไม้เเละผักสดนะคะ
    เเต่สำหรับมือใหม่ก็เลยเเนะนำให้ปรับเปลี่ยนที่ละเล็กน้อย ด้วยอาหารพื้นบ้านไทยๆของเรา
    เราไม่ได้เน้นการทานมังสวิรัติเเต่เราทานสิ่งที่ดีกับร่างกายค่ะ
     
  12. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    คนนี้เเนะนำให้ทานเเตงโมทั้งเปลือกเเละเมล็ดด้วยเลย
    เพราะเมล็ด คือ หัวใจในการเพาะปลูก กินเข้าไปด้วยจะมีลูกง่าย
    เหมือนการกินฟักทอง สามารถใช้ทาหน้า ทาผิวบำรุงผิวได้หน้าเด็กด้วยค่ะ
    ผู้ชายคนนี้ป่วยตอน 27 ป่วยจนเข้าป่าเข้าพง สุดท้ายก็กลับคืนสู่วิถีธรรมชาติ
    เขาเปลี่ยนวิถีการกินมานานเเล้ว ปัจจุบันใกล้จะ 50 เเล้วค่ะ
    เขาสอนว่าถ้าจะรักษาโรคต้องรักษาตัวเองเป็นอันดับเเรกค่ะ



    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/GnJvV_gnYck" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  13. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/jlp4IpW1sbs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

    ประเทศที่ดื่มนมมากที่สุดมีประชากรที่มีโรคมากตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็น โรคภูมิเเพ้,โรคหัวใจ,โรคเบาหวาน,โรคความดัน,โรคมะเร็งต่างๆ โรคกระดูกพรุน ฯลฯ นักศึกษาฮาวเวิร์ดได้ทำการตรวจร่างกายผู้คนพบว่า คนที่ดื่มนมวัวมากที่สุด คือ คนที่มีกระดูกอ่อนเเอที่สุด ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต ทำให้คนเกิดอาหารหัวใจวาย เเละ หายใจไม่ออก เมื่อผ่าตัดออกมา ปรากฎว่ามี น้ำสีขาวๆออกมาเเละนั้นก็คือผลึกเเคลเซียม ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์จะนำมาซึ่งไขมันจะเข้าไปอุดตันอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ ชีสเเละน้ำมัน มัน คือ กาวนั้นเอง

    นมวัวมีไขมันที่มากกว่านมมนุษย์มาก ซึ่งเข้าไปรบกวนระบบการไหลเวียนของเลือดทั้งเด็กเเละผู้ใหญ่ เมื่อมนุษย์ดื่มนมวัวเข้าไป โปรตีนจะใช้ได้เพียงครึ่งเดียว ที่เหลือจะกลายมาเป็นโปรตีนสะสมในร่างกาย เเละนั้น คือ สาเหตุของโรคทุกอย่างของมนุษย์ทุกวันนี้ นมวัวไม่ได้เพิ่มเเคลเซียมในร่างกาย เเต่ทำตรงกันข้ามนั้น คือ การเอาเเคลเซียมออกจากร่างกาย ทำให้อ่อนเเอเเละเปราะง่าย เเคลเซียมจากนมวัว ไม่เหมือนกัน เเคลเซียมจากผักใบเขียวต่างๆ เเละนั้น คือ เเหล่งเเคลเซียมที่มนุษย์ควรจะทาน

    ที่เขาทำเป็น เมล็ดป่าน หรือ เราจะทานนมถั่วเหลือง นมถั่วอัลมอนด์ ถั่วบ้านเรา หรือ น้ำนมข้าวโพด น้ำนมข้าวก็ได้นะคะเเล้วเเต่ชอบค่ะ
     
  14. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/5j68TrctjOw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    อายุไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เเก่ลง
    เเต่การเสื่อมของอวัยวะภายใน
    เป็นต้นเหตุเเห่งความชำรุดของร่างกายภายนอก
    ถ้ารู้วิธีการรักษาข้างในการย้อนวัยเป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  15. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    [​IMG]

    ร่างกายประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วน ซึ่งแต่ละส่วนก็มีเวลาในการทำงานแตกต่างกันไป มาดูกันว่า เวลาใดอวัยวะส่วนใดกำลังทำงาน

    01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ

    เวลานี้ควรนอนเพราะตับจะหลั่งสารมีลาโทนิน (Meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งสารมีลาโทนินเป็นประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endrophin) ออกมาด้วย จึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว โดยหน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รองคือ

    1.ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บ จะไม่สวย

    2.ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อย ๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ

    03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด

    เป็นเวลาที่ควรตื่นนอน ลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดและผิวจะดีขึ้น

    05.00-07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่

    เวลานี้จึงเหมาะที่จะขับถ่ายอุจจาระ และควรทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก และดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว หรือดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ 1 แก้ว+น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ+น้ำมะนาว 4-5 ลูก

    07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร

    กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย

    09.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม

    ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อย มักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครง สาเหตุมาจากม้ามกับตับ ผู้ที่มัก นอนหลับในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ

    - ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย

    - ม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไป จะแปรสภาพเป็นไขมัน จึงทำให้อ้วนง่าย

    11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ

    หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ต้องทำให้ใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้

    13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก

    ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อให้ลำไส้ทำงาน โดยลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมอาหาร เช่น วิตามินซี บี โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่

    15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ

    ควรออกกำลังกายหรืออบตัวให้เหงื่อออก กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง หากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ

    17.00-19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต

    ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก

    - ไตซ้าย จะควบคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน

    - ไตขวา จะควบคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว (ผู้ที่มีไตแข็งแรงจะเป็นคนมีอายุยืน เป็นคนกล้า)

    ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ

    การดูแล คือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น กรณีที่อาบน้ำไม่ได้ ให้ใช้วิธีแช่เท้า แต่น้ำควรใส่สมุนไพรที่ถูกโฉลกของผู้ป่วย เช่น ขิง ข่า กระชาย อย่างใดอย่างหนัก

    19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ

    ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือ หัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด ต้องดูเยื่อมหุ้มหัวใจให้แข็งแรง

    21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น

    ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ

    23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี

    ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำจะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม (ถุงน้ำดีจะโยงไปถึงปอด) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ (ผู้ที่ตัดถุงน้ำดีออก เมื่อตรวจด้วยลูกดิ่งจะพบว่าถุงน้ำดีข้น มักมีอาการปวดขา ปวดสะโพก)

    คำแนะจากหนังสือบอกว่า อย่าใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ จะไปดูดน้ำในร่างกาย ควรสวมชุดผ้าฝ้ายดีที่สุด ไม่ควรนอนบนที่นอนสูง ๆ เพราะจะทำให้เสียน้ำในร่างกาย ดังนั้น ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.
     
  16. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/IzxRDsBtXrM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  17. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958
    [​IMG]

    Fava Bean หรือ ถั่วปากอ้ามีสารที่เรียกว่า โปรตีนสูงมาก เเละ มี
    โกรทฮอร์โมนที่มีมากในวัยเด็กช่วยทำให้หน้าเด็ก ช่วยความทรงจำ ช่วยทำให้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง


    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/IMdXEn_PsjI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  18. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    ขอร่วมในการปฏิบัติด้วยจร้า
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
     
  19. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กินทุเรียนวันละ 1ลูกได้ป่าวครับ...ของชอบเลยครับ
     
  20. หนุกจังเลย

    หนุกจังเลย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +958

    จขกท. เพิ่งเริ่มหันมาเลือกกินผักเเละผลไม้ เพราะ ป่วย
    ถึงขนาดสายตามองไม่ชัด เเละ หายใจไม่เต็มปอด
    เลยทำให้ค้นหาวิธีการรักษาตัวโดยธรรมชาติบำบัด
    ตั้งเเต่เจอหมอเเดง อโรคยา หมอเขียว กล้าจน ดื่มฉี่รักษาโรค
    เเละล่าสุดก็มาเจอวิธีการทานอาหารวิธีนี้
    ที่เอวหายเพราะเมื่อก่อน นอนตี 2- ตี 3 ประจำ
    ร่างกายไม่มีโอกาสได้สร้าง โกรทฮอร์โมนเเละเมลาโทนิน
    ซึ่งฮอร์โมน 2 ตัวนี้ สร้างขึ้นเพื่อซ่อมเเซมร่างกาย ทุกส่วน
    การนอนเร็วเป็นหน้าที่เเละจำเป็น ย่ำว่าจำเป็นมาก ถ้าหลับไม่สนิทตั้งเเต่ 3-4 ทุ่ม
    คุณก็จะหมดสิทธิ์ได้รับการซ่อมเเซม น้ำหนักขึ้นง่าย เพราะ ระบบเผาผลาญเสีย
    ตับไม่ได้พักผ่อน ขับของเสีย ทุกอย่างร่วน สุดท้ายก็เเก่ง่าย เจ็บป่วยสารพัดโรค
    เพราะการนอนหลับพักผ่อนเป็นส่วนนึงของหน้าที่ของฮอร์โมนในร่างกาย
    ดังนั้นการที่ จขกท. อ้วนจึงไม่ใช่เรื่องเเปลกเลย ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายก็ไม่ได้ผล
    พฤติกรรมตัวเอง นอนเกือบเช้า ,ไม่ถ่ายก่อน 7 โมง, กินอาหารไม่เป็นเวลา
    เวลาควรนอนกลับมานั่งกิน, ไม่ออกกำลังกาย,อยู่เเต่หน้าจอคอมพิวเตอร์
    กินขนมห่อ,อาหารใน 711, ผักผลไม้เเทบจะไม่เคยเเตะ ฯลฯ เเล้วจะไม่ป่วยได้ยังไง?
    เเต่พอมาศึกษาข้อมูลต่างๆเหล่านี้เเละทดลองด้วยตัวเองสุขภาพดีขึ้นมาก
    ออกกำลังกายเเล้วไม่เหนื่อยหอบ เพราะ อาหารเเละการตื่นนอนทำตามนาฬิกาชีวิตทุกประการ
    การไม่นอน ถือว่าเป็น วิกฤติของชีวิต ยิ่งนอนดึกเท่าไรยิ่งเเก่นี้เรื่องจริง
    เพราะอวัยวะทำงานผิดไปหมด คนไปวัด ปฏิบัติธรรมตามกิจวัตร จะหายป่วยเเข็งเเรง เพราะสาเหตุนี้

    ตอนนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าขอมีชีวิตที่สุขภาพเเข็งเเรงสมบูรณ์
    เเละนี้ คือ สาเหตุของความรู้ทั้งหมดที่มาโพสต์ลงที่นี้
    เพราะอยากให้คนที่ป่วยทดลองกับตัวเอง

    อาการนอนไม่หลับไม่ยาก ถ้าคุณไม่นอนช่วง 3-4 ทุ่ม เเล้วคุณจะไม่ง่วงอีก
    ร่างกายคุณจะตื่นตัวเเละฝันร้าย เพราะ มันเลยเวลาการนอนไปเเล้ว
    ดังนั้นร่างกายคุณจึงทำให้คุณนอนไม่หลับ ลองตั้งใจนอนกลิ้งไปกลิ้งมาช่วง ก่อน 3-4 ทุ่มให้ได้ ถ้าฝึกได้ ร่างกายคุณจะนอนได้เอง
    เเละสุดท้ายอวัยวะทุกส่วนจะซ่อมเเซม เเละนั้น คือ วิธีเดียวที่จะย้อนวัยได้เพียงง่ายๆเเต่มนุษย์น้อยคนจะรู้เรื่องเหล่านี้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...