Science Film : เป็นพยานการฟื้นคืนชีวิตหลังภูเขาไฟ “เมานท์ เซนต์ เฮเลนส์” ระเบิด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 23 พฤศจิกายน 2010.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>Science Film : เป็นพยานการฟื้นคืนชีวิตหลังภูเขาไฟ “เมานท์ เซนต์ เฮเลนส์” ระเบิด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>23 พฤศจิกายน 2553 12:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000165332&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภูเขาไฟเมานท์ เซนต์ เฮเลนส์ ระเบิดเมื่อ 30 ปีก่อน กวาดล้างสิ่งมีชีวิตที่ขวางทางลาวาและเถ้าถ่านเป็นวงกว้าง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เจ้าหนูโกเฟอร์ช่วยคืนชีวิตให้ป่าโดยไม่รู้ตัว </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>การขุดๆ ของเจ้าหนู ช่วยพรวนดินไปในตัว</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วในวันธรรมดาๆ ของฤดูใบผลิ ที่กำลังเริ่มต้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ สัตว์น้อยใหญ่เริ่มมีชีวิตชีวาหลังฤดูหนาวอันยาวนาน แต่ฉับพลัน “เมาท์ เซนต์ เฮเลนส์” ภูเขาไฟที่สงบนิ่งได้ระเบิดและกวาดล้างสิ่งมีชีวิตเบื้องล่างจนราบเป็นหน้ากลอง และยากจะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตใดจะหลงเหลือกลางเถ้าถ่านเหล่านั้นได้

    แผ่นดินไหวกว่า 5 ริกเตอร์ในช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ค.ของฤดูใบไม้ผลิทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ.1980 ตามมาด้วยการระเบิดครั้งรุนแรงของภูเขาไฟเมานท์ เซนต์ เฮเลนส์ (Mount St. Helens) ที่ฝุ่นก๊าซร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 300-500 องศาเซลเซียสได้ทำลายพื้นที่ป่าไปกว่า 370 ตารางกิโลเมตร เถ้าถ่านภูเขาพุ่งด้วยความเร็วสูงไปถึงทะเลสาบสปิริต (Spirit Lake) ที่อยู่ใกล้เคียง อุณหภูมิน้ำสูงขึ้นจนกลายเป็นบึงเดือด ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดมีเพียงแค่จุลินทรีย์เท่านั้นที่อยู่รอดได้ ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นพื้นที่เสียหายเทียบเท่าเมืองซอลต์ เลค ซิตี ของสหรัฐฯ

    ผ่านไป 3 ทศวรรษหลังการระเบิดครั้งรุนแรงของภูเขาไฟ ชีวิตใหม่ได้เริ่มต้นอีกครั้ง และภาพยนตร์ “ภูเขาไฟเมานท์ เซนต์ เฮเลนส์ - ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์” (Mount St. Helens: Life From Zero) จากออสเตรีย ได้พาเราย้อนไปหาสาเหตุการกลับมาของสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินที่ครั้งหนึ่งปกคลุมได้เถ้าถ่านภูเขาไฟและเต็มไปด้วยไม้สนที่ล้มตายระเนระนาดจากอำนาจการทำลายล้างของแรงภูเขาไฟระเบิด และทางการสหรัฐฯ ได้สงวนพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาวิจัยและจำกัดการเข้าถึง

    ในภาพยนตร์ ชาลี คริสซาฟูลลี (Charlie Crisafulli) นักนิเวศน์วิทยาจากหน่วยบำรุงรักษาป่าสหรัฐฯ ของสถานีวิจัยแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ (Pacific Northwest Research Station) และ ยอน เมเยอร์ (Jon Major) นักอุทกวิทยา จากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ (U.S. Geological Survey: USGS) ใช้เวลาร่วม 30 ปี ติดตามการฟื้นคืนของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ และพวกเขาได้พบกองดินที่อยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาออกไป 5 กิโลเมตร และเค้าลางของสิ่งมีชีวิตก็ปรากฏ

    กองดินดังกล่าวเป็นผลงานของหนูโกเฟอร์ (Gopher) ตัวเล็กๆ ที่อาจไม่ได้รับรู้ถึงหายนะภัยเช่นสิ่งมีชีวิตอื่น เจ้าหนูตัวจิ๋วมีชีวิตอยู่ได้ด้วยรากไม้ใต้ดินและซากต้นไม้ที่เหลืออยู่ เจ้าสัตว์ฟันแทะใต้ดินนี้คุ้ยดินไปตามประสา และพฤติกรรมนี้เองได้ช่วยปรับสภาพดินให้แก้พืช ไม่นานพืชตระกูลถั่วปรากฏขึ้นและช่วยตรึงไนโตรเจนและคาร์บอนไว้ในดิน จากนั้นดอกไม้หลากสีก็เริ่มปรากฏบ้างและหมู่แมลงก็ตามมา เมื่อมีแมลงก็มีนกที่มาล่าแมลง

    ผ่านไปหลายสิบปี เค้าลางชีวิตที่ฟื้นจากความตายชัดเจนขึ้น และเหล่ากวางเริ่มย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ในทุ่งโล่งกว้าง และขยายขนาดฝูงมากขึ้นเรื่อยๆ กีบเท้าของฝูงกวางช่วยกระทบดินและหินแข็งให้แตกละเอียด ฝนและหิมะช่วยคลุกเคล้าธาตุอินทรีย์ลงไปในดินที่แตกละเอียด ช่วยให้หญ้าเกิดขึ้นได้ และเป็นวิธีทางธรรมชาติที่เหล่ากวางจะผืนหญ้าไว้กิน

    ส่วนทะเลสาบที่ไม่เหลือสิ่งมีชีวิต ที่มองเห็นด้วยตาเปล่าเริ่มมีปริมาณออกซิเจนมากขึ้นหลังการระเบิดได้ 3 ปี และทะเลสาบที่เคยขุ่นมัวก็ใสขึ้นเรื่อยๆ พร้อมมกับปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้น และสาหร่ายเริ่มปรากฏ ผ่านไป 10 ปีหลังหายนะ คุณภาพดีขึ้นมาก และเริ่มมีสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นตัววัดคุณภาพน้ำ ท่อนไม้ที่ลอยระเกะระกะอยู่เหนือผิวน้ำกลายเป็นตัวช่วยให้สิ่งมีชีวิตฟื้นคืนได้เร็วขึ้น เพราะหน้าหนาวท่อนไม้เหล่านั้นช่วยป้องกันไม่ให้ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้คือ ปลาเทร้าท์สีรุ้งมาอยู่ในแหล่งน้ำแห่งนี้ได้อย่างไร

    สิ่งมีชีวิตเริ่มฟื้นคืนผืนป่า แต่นักวิทยาศาสตร์รู้ดีว่าเม้าท์ เซนต์ เฮเลนส์ยังไม่สงบ พวกเขาติดตั้งเซนเซอร์รอบปากปล่องภูเขาไฟ เพื่อวัดการสั่นสะเทือนและตรวจจับความเคลื่อนไหว สำหรับเตรียมพร้อมการระเบิดครั้งต่อไป เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่รู้ภูเขาไฟจะระเบิดขึ้นเมื่อไหร่และรุนแรงแค่ไหน หากแต่ความเสียหายครั้งล่าสุดนี้ “หนูโกเฟอร์” และ “พืชตระกูลถั่ว” คืออัศวินที่เรียกคืนชีวิตกลับมา

    ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดฉายในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 16-30 พ.ย.53 โดยติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เอกมัย (ท้องฟ้าจำลอง กรุงเพทฯ) วันที่ 23 พ.ย. รอบเวลา 13.00 น., อุทยานวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ วันที่ 24 พ.ย.รอบเวลา 13.30-15.00 น. , องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) วันที่ 28 พ.ย. รอบเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    *****************

    ชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ได้ที่
    - โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัตนาธิเบศร์ โทร.0-2589-7321
    - ศูนย์ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) โทร.0-2392-1773
    - อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โทร.0-2564-7000 ต่อ 1489
    - หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ศาลายา นครปฐม โทร.0-2482-2013-14 ต่อ 111
    - องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โทร.0-2577-9999 ต่อ 2108,2109
    - จตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. อาคารจามจุรี สแควร์ โทร.0-2160-5356
    -อุทยานการเรียนรู้ TK Park ณ สถาบันเกอเธ่ และสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ โทร. 0-2264-5963

    ทั้งนี้ สามารถรับชมภาพยนตร์ได้ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Science Film Festival 2010 in Four Countries!�-�Goethe-Institut�

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    มาอ่านค่ะ.................
     

แชร์หน้านี้

Loading...