Soul Contract - พันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 14 กันยายน 2021.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    **Soul Contract - พันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ**

    Lightbeing-1.jpg
    (Credit the picture from internet)

    มันแปลกมากๆที่ข้อความจากต่างมิติทุกๆจ้าว ที่สื่อสารมาถึงมนุษย์ที่เป็นผู้รับสาส์นทุกคนบนโลกในช่วงเวลานี้ ซึ่งก็คือในยุคพลังงานใหม่นี้ จะตรงกันหมดทั้ง 100% เต็ม ไม่มีผิดเพี้ยนกันเลยแม้แต่น้อย ในเรื่องเกี่ยวกับ Soul contract นี้

    และมิหนำซ้ำ จากหนังสือของ Dolores Cannon ชุด The Convoluted Universe ที่ผมอ่านมาแล้ว 3 เล่มนี้ ก็ยังมาช่วยเน้นย้ำความตรงกันทั้ง 100% ให้อีกครั้งหนึ่งด้วย

    ทั้งๆที่ข้อมูลที่เธอนำมาเขียนเป็นหนังสือชุดนี้ ได้มาจากการสะกดจิตบำบัดแบบระลึกชาติของเธอ ตลอดระยะเวลา 40 ปี ซึ่งก็หมายถึง ข้อมูลพวกนี้มาจากผู้ที่ถูกสะกดจิตจำนวนหลายพันคนทั่วโลกนั่นเอง!

    นี่แหละที่ผมบอกว่ามันน่าแปลกหละครับ เพราะว่าข้อมูลมันมาตรงกันได้ยังไง ถ้ามันไม่มีความเป็นจริงอยู่ในนั้นเลยจริงๆ แม้ว่าบางส่วนของมันอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ศาสนาสอนเอาไว้ก็ตาม

    Soul Contract หรือพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ ก็คือ แผนการที่จิตวิญญาณของเราแต่ละคน ได้ทำเอาไว้ตั้งแต่ก่อนการลงมาเกิดในโลกมนุษย์นี้ ว่าจะลงมาเกิดเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้าง

    ซึ่งรายละเอียดของพันธะสัญญาที่ว่านี้ ก็จะรวมถึงว่าจะมาเกิดเป็นลูกใคร แต่งงานกับใคร มีลูกมีหลานเป็นใครบ้าง และจะมาทำอาชีพอะไร และจะมาทำภารกิจอะไรบนโลกใบนี้บ้าง และก็จะตายเมื่อไหร่ และด้วยวิธีการไหนด้วย!

    และเจ้าพันธะสัญญาทางจิตวิญญาที่ว่านี้ พวกเราทุกคนที่ลงมาเกิดบนโลกใบนี้ ก็จะมีกันทุกคนเลยนะครับ ไม่ยกเว้นใครเลย และในขั้นตอนการวางแผนเพื่อทำพันธะสัญญาที่ว่านี้นั้น จิตวิญญาณของเราก็ได้มีการปรึกษาหารือและตกลงร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมาก่อนแล้วด้วย

    ซึ่งก็ได้แก่ ผู้ที่จะมาเป็นพ่อแม่, พี่น้อง, คู่สมรส และลูกหลานของเราด้วย ซึ่งทุกๆคนได้มีส่วนร่วมร่างพันธะสัญญานี้ร่วมกันมาก่อนแล้ว ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง

    เพราะว่ามนุษย์ทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตหลากมิติ ดังนั้น เราจึงมีตัวตนของเรา ที่อยู่ในหลากหลายมิติ ในขณะเดียวกันนั่นเอง

    ดังนั้น ณ.โลกของจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นมิติทางพลังงานที่อยู่เหนือช่องว่างและกาลเวลานั้น ตอนนี้ และในขณะนี้เลย จิตวิญญาณของเรา ก็ยังอยู่ที่นั่นอยู่ แม้ว่าในขณะเดียวกันนี้ จิตวิญญาณของเรา ก็เชื่อมต่ออยู่กับกายเนื้อของเราในขณะเดียวกันนี้ด้วย

    ประเด็นที่ผมอยากหยิบเอามาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ "จิตวิญญาณของเรา จะให้ความสำคัญกับพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณนี้มากๆๆ" ดังนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะให้การเกิดมาในภพชาตินี้ของเรา ไม่เสียเวลาเปล่า

    ดังนั้น ทันทีที่ถึงเวลาแล้ว ถ้าเวอร์ชั่นที่เป็นมนุษย์โลกนี้ของเรา ยังมัวหลงระเริง หรือมัวเมา หรือยึดติดกับสิ่งของทางโลกอยู่ จนไม่อาจขยับตัวออกมาทำภารกิจที่ได้วางแผนเอาไว้ได้เลยหละก็ เขาก็จะมีวิธีการจัดการของเขาหลายวิธีการ

    ซึ่งในหนังสือของ Dolores ที่ผมอ่านเจอนี้ เขาก็ยกตัวอย่างมาให้หลายวิธีการนะครับ เช่น:

    1).ส่งสัญญาณต่างๆมาบอกเรา ผ่านทางสัญชาตญาณหยั่งรู้ของเราเอง ดังนั้น ถ้าเราเปิดใจรับฟัง และถ้าเรามีความสั่นสะเทือนที่สูงมากพอที่จะรับสัญญาณพวกนั้นได้หละก็ เราก็จะทำตาม หรือคล้อยตามอย่างง่ายดาย

    2).ส่งสัญญาณมาให้ ผ่านทางปรากฎการณ์ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ หรือที่เรียกว่า Synchronicity ซึ่งก็จะออกแนว บังเอิญได้ไปเจอคนโน้นคนนี้ หรือได้ไปในที่โน้นที่นี้ แล้วได้ทำภารกิจอะไรบางอย่าง อะไรแบบนั้น

    3).ส่งสัญญาณเตือนมาให้ทราบ ผ่านทางความเจ็บป่วยของร่างกายเนื้อ ซึ่งจริงอยู่เรื่องการเจ็บป่วยมันมีสาเหตุมาจากกรรมก็ได้, มาจากการขาดสมดุลอย่างแรงของกาย-จิตใจ-อารมณ์ของเราอย่างรุนแรงก็ได้ด้วย

    แต่มันก็มาจาก "การสะกิด" หรือการกระทุ้งจากจิตวิญญาณของเราเองก็ได้ด้วย ซึ่งวิธีการนี้เขาจะใช้ก็ต่อเมื่อ ข้อ 1 และ 2 ข้างบนนั้น ใช้ไม่ได้ผลแล้ว ดังนั้น เลยต้องใช้ไม้เรียวกันแล้ว อะไรแบบนั้น!

    กรณีนี้ส่วนมากมักจะเกิดจากการที่จิตวิญญาณของเรา อยากให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรบางอย่าง ที่ไม่ดีไม่งาม หรือไม่ถูกไม่ต้อง ต่อตัวเอง และ/หรือต่อผู้อื่น

    4).ใช้ไม้โหดเลย เพื่อพยายามเปลี่ยนทิศทางชีวิตของเรา ให้หันมาถูกทาง เพื่อที่จะได้ทำภารกิจซะที!!

    เช่น ถ้าเราเป็นคนที่ลงมาเกิดแล้วไม่ยอมทำภารกิจของตัวเองที่ตั้งใจลงมาทำซะที เพราะกำลังเพลิดเพลินกับกามคุณทางโลกอยู่ หรือว่าเรามัวแต่ลุ่มหลงในการบำรุงบำเรอความสุขทางโลกให้ตัวเองอยู่ จนอาการหนักมากๆแล้ว

    เขาก็อาจจะ "ตัด" ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีทางโลกออกไปจากเราเลย เพื่อให้เรากลับมาอยู่ในจุดที่ "ต้องเริ่มต้นใหม่หมด" เพราะถ้าเราไม่มีอะไรจะให้เราลุ่มหลงหรือยึดติดแล้วหละก็ เราก็จะได้เริ่มต้นทำภารกิจได้ซะทียังไงหละครับ

    ซึ่งวิธีการตัดที่ว่านี้ก็อาจจะผ่านทางการล้มละลาย หรือการเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ หรือการเกิดเหตุเภทภัยทางธรรมชาติ ที่ทำให้เราต้องสูญเสียทุกอย่างไป อะไรแบบนั้นเป็นต้น

    อีกกรณีหนึ่งที่ก็โหดน่าดูเลยก็คือ ตัวอย่างของลูกค้าคนหนึ่งของเขา (เขานี่หมายถึง Dolores Cannon นะครับ คือคนที่ทำการสะกดจิตให้ลูกค้า) ที่สมัยหนุ่มๆเคยถูกคนร้ายหลายคนรุมแทงจนเกือบตาย จนต้องคลานออกมาหาคนช่วยส่งโรงพยาบาล จึงรอดมาได้

    คำอธิบายของจิตวิญญาณก็คือ คนกลุ่มนั้นหนะ เป็นเพื่อนๆของเขาเองตั้งแต่สมัยที่อยู่ในโลกของจิตวิญญาณ ที่อาสาลงมาช่วยเขา ให้หันเหทิศทางชีวิตมาสู่เส้นทางแห่งภารกิจซะที เพราะเขาได้ใช้วิธีการอื่นๆในการสะกิดมาจนหมดทุกวิธีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล ก็เลยต้องขอให้เพื่อนๆมาช่วยจัดการให้แบบนี้แหละ

    5).สุดท้าย..ถ้าไม่ฟังกันเลยจริงๆ ก็จะพากลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง

    ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าดูๆแล้วภพชาติที่ลงมาเกิดอยู่นี้ คงเสียเวลาเปล่าๆแน่ๆเลย เพราะว่าเวอร์ชั่นที่เป็นมนุษย์ของเรานี้ มันไม่มีวี่แววที่จะหันมาทำภารกิจเลย!

    หรือ สถานการณ์ หรือเงื่อนไขในชีวิตที่เกิดขึ้นจริงของร่างมนุษย์นี้ บีบบังคับให้เราไม่สามารถที่จะทำภารกิจได้จริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายของจิตวิญญาณทุกๆดวงที่เกี่ยวข้อง

    ดังนั้น จิตวิญญาณก็เกรงว่าคงเสียภพชาติไปเปล่าๆแน่เลย ก็เลยต้องพากลับไปก่อนระยะเวลาที่เคยกำหนดไว้ ซึ่งก็คือ จะมีเหตุให้เราตายจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันสมควรนั่นเอง แล้วก็ค่อยกลับมาเกิดใหม่ เพื่อมาเริ่มต้นทำภารกิจใหม่อีกครั้งหนึ่ง

    ** Free will หรือทางเลือกเสรี**

    ดาวเคราะห์โลกของเรา เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี ที่ทุกคนมีเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ จักรวาลจะไม่ตัดสินชี้ถูกผิดเรา

    แต่ว่า..เพราะว่าดาวเคราะห์โลกของเราเป็น "มหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้แห่งหนึ่งในจักรวาลแห่งนี้" ดังนั้น มันจึงมีกฎและระเบียบของมันอยู่หลายอย่าง เช่น

    - อยู่ภายใต้การลืมเลือน ว่าตัวเองเป็นใคร และลงมาเกิดที่นี่ทำไม? เพราะว่านี่คือการสอบ ดังนั้น จึงต้องลืม

    - อยู่ภายใต้กาลเวลาแบบเป็นเส้นตรง ที่จะมีอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ทั้งๆที่ในระดับจักรวาลแล้ว กาลเวลาไม่มีอยู่จริง เพราะมันเป็นเพียงโปรแกรมๆหนึ่งในมิติที่ 3-4 ของเราเท่านั้น

    - อยู่ภายใต้ความเป็นทวิภาวะ หรือ ความเป็นขั้ว คือ..มีดี-มีชั่ว, มีสูง-มีต่ำ, มีทุกข์-มีสุข ทุกอย่างจะคู่กันเป็นคู่ๆไป อะไรแบบนั้น

    - อยู่ภายใต้กฎแห่งการกระทำ หรือ กฎแห่งกรรม หรือ Law of Cause & Effect ซึ่งก็หมายถึง อยากทำอะไรก็ทำได้เต็มที่เลยนะลูก แต่ว่า..ผลของการกระทำนั้น ลูกก็ต้องรับผิดชอบเองด้วยนะจ๊ะ..อะไรแบบนั้นครับ

    ดังนั้น นี่แหละจึงเป็นสาเหตุให้ พวกเราส่วนใหญ่บนโลกต้องวนเวียนกันกลับมาเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันอยู่นี่แหละครับ เพราะว่าเราไปทำผิดกติกากับคนอื่นๆไว้เยอะแยะนั่นเอง เลยต้องกับมาแก้กันอยู่เนี่ยแหละ จนกว่าจะหมดหนี้กรรมต่อกัน

    แต่ว่า..การเกิดหนี้กรรมที่ว่านี้ ก็จะแตกต่างจากที่ในศาสนาสอนอยู่บ้างนะครับ เพราะถ้าในแง่ศาสนาสอนนั้น อะไรๆก็จะเป็นกรรมไปหมดใช่ไหมหละครับ แต่ในข้อความจากต่างมิติพวกนี้จะไม่ใช่แนวนั้น และการชดใช้กรรม มันก็ไม่ใช่ในแบบที่ศาสนาสอนอีกด้วยนะครับ แม้จะมีบางส่วนที่ตรงกันอยู่บ้างก็ตาม

    **ความขัดแย้ง และ ความสอดคล้อง ระหว่าง Soul Contract กับ Free will**

    1).เราจะบอกว่าพรหมลิขิตมีจริงก็ใช่ จะบอกว่าไม่มีจริง ก็ใช่ เพราะว่า Soul contract เป็นแต่เพียงแผนการคร่าวๆที่ร่างเอาไว้เท่านั้นเอง ส่วนการจะทำจริงหรือไม่ อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่การทางเลือกเสรีของมนุษย์โลกเอง

    แต่มนุษย์โลก ก็เป็นผู้สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองขึ้นมาจริงๆ เพราะเราเนรมิตด้วยความคิดและอารมณ์ของเรา และเราดึงดูดสิ่งต่างๆเข้ามาด้วย Vibration ของเราเอง

    2).ถ้าจะบอกว่ามนุษย์โลกมี Free will ก็ถูก แต่ถ้าจะบอกว่าไม่มี Free will ก็ถูกอีก..แต่ถ้ามนุษย์มี Free will จริงๆแล้ว ทำไมจิตวิญญาณต้องคอยจัดการ หรือเรียกว่าบังคับเลยก็ได้..ให้เราต้องทำตามความประสงค์ของเขาด้วยหละ?

    คำตอบก็คือ เพราะว่าเวอร์ชั่นที่เป็นมนุษย์นี้ของเรา เป็นภาค หรือ ส่วนหนึ่งของตัวตนรวมทั้งหมดของเรา ที่เป็นภาคพลังงานที่อยู่ในหลากหลายมิติ เหนือช่องว่างและกาลเวลา ดังนั้น สิ่งใดที่เกิดขึ้นกับเรา จึงเกิดขึ้นกับพวกนั้นด้วย

    ดังนั้น เมื่อใดที่เราทำตัวเป็นเชื้อโรค หรือเป็นมะเร็งมาทำร้ายตัวเองหละก็ จิตวิญญาณของเรา ซึ่งเป็นเหมือนร่างกายทั้งร่างของเรา ก็ต้องคอยจัดการและดูแลสุขภาพให้กับส่วนรวมเป็นธรรมดา อาจจะโดยการชำระล้างเรา อะไรแบบนั้นเป็นต้น

    หรือยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆอีกอย่างก็คือ มันจะคล้ายๆการออกกำลังกาย หรือฝึกโยคะนี่แหละครับ ที่เราต้องการทำท่านั่งฉีกขา 180 องศาให้ได้ ดังนั้น เราก็เลยต้องฝึกให้กร้ามเนื้อขาและสะโพกหลายส่วนยืดหยุ่นจนถึงจุดนั้นให้ได้

    ดังนั้น ขาและสะโพกของเรา ก็เลยต้องเจ็บตัวหน่อยเป็นธรรมดา เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมทั้งร่าง เพราะว่าถ้าจะมายึดเอาตาม Free will ของขาซึ่งไม่อยากยืดอยู่แล้วนี่ ก็คงจะไม่ต้องบรรลุเป้าหมายอะไรแล้วหละครับ

    3).จริงอยู่ฟังดูแล้ว เหมือนจิตวิญญาณของเรานี้ ช่างโหดเหี้ยม และไร้ความเมตตาสิ้นดีเลย ใช่ไหมครับ?

    แต่ว่าจิตวิญญาณของเรา ก็คือผู้ที่ส่งพลังชีวิตมาหล่อเลี้ยงกายเนื้อของเราไว้ และถ้าไม่มีเขา เราก็ตายสถานเดียว ไม่มีข้อยกเว้นเลย

    และดังนั้น จิตวิญญาณของเรา จึงรักและทะนุถนอมเรามาก และเขาจะทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องเรา ให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อที่จะได้ทำภารกิจได้อย่างยอดเยี่ยมต่อไป

    และอีกอย่างหนึ่ง..เรื่องการลงมาเกิด และการตายจากไปของร่างมนุษย์ในมิติที่ 3 นี้ ในมุมมองของจิตวิญญาณ ที่อยู่เหนือช่องว่างและกาลเวลาแล้ว ไม่มีอะไรซีเรียสเลย

    เพราะว่า..การตายก็แค่การเปลี่ยนสภาวะ หรือแค่การถอดเสื้อตัวหนึ่งออก เพื่อเตรียมตัวจะไปใส่เสื้อตัวใหม่เท่านั้นเอง เพราะคนที่ใส่ก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ อะไรแบบนั้นนะครับ

    4).อีกอย่าง..ในมุมมองของจักรวาลแล้ว ไม่มีสิ่งไหนที่เรียกว่า "ดี" หรือ "ชั่ว" เลย เพราะว่ามันคือสิ่งเดียวกัน ที่อยู่คนละขั้วของความเป็นทวิภาวะ หรือ Duality เท่านั้นเอง

    เพราะฉะนั้น ต่อให้เราเป็น "คนดี" ซักแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเรายังไม่สนใจจะทำภารกิจของตัวเองซะทีหละก็ มัวแต่นั่งแช่-นอนแช่อยู่ใน comfort zone อยู่หละก็ เราก็มีสิทธิ์ที่โดนจิตวิญญาณของตัวเอง "จัดหนัก" ให้ได้เหมือนกันนะครับ ฮิฮิ

    **แล้วภารกิจของเราคืออะไร?**

    ในยุคพลังงานใหม่นี้..เพราะความที่โลกกำลังจะเปลี่ยนมิติของตัวเองจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5 อยู่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากจักรวาลด้วย

    ดังนั้น จักรวาลเลยส่งอาสาสมัครลงมาเกิดมากมายในยุคสมัยนี้ ซึ่งเท่าที่ครายออนเคยบอกเอาไว้เมื่อปี ค.ศ. 2010 ก็คือราวๆ 350 ล้านคน หรือ 0.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มาจากดวงดาวและมิติที่มีวิวัฒนาการสูงๆแล้วทั้งนั้น

    ดังนั้น ภารกิจหลักๆของพวกเขาส่วนใหญ่แล้วก็จะเกี่ยวข้องกับการช่วยยกระดับพลังงานของโลกขึ้นทั้งสิ้นเลย โดยผ่านทางการยกระดับพลังงานของตัวเองขึ้น และโดยการช่วยกระตุ้นหรือปลุกให้คนอื่นๆตื่นขึ้นมาด้วย อย่างที่ผมกำลังทำอยู่นี้, และโดยการดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสั่นสะเทือนของกาย-ใจ-ความคิดที่สูงๆด้วย

    และก็ด้วยวิธีการอื่นๆอีกมากมาย แต่ผมยังไม่อยากสาธยายในที่นี่นะครับ เพราะบทความมันยาวมากแล้ว แต่เอาง่ายๆคือ..ในแต่ละวันให้เราหัดหยุดนิ่ง และอยู่ในความสงบบ้าง แล้วฟังเสียงจากข้างในตัวเอง จากนั้นก็ให้ลองคล้อยตามไป ว่ามันมีแรงบันดาลใจให้เราทำอะไรบ้าง จากนั้นก็ให้ลงมือทำเลย!

    ซึ่งภารกิจของเรา ส่วนใหญ่แล้วมันก็จะเป็นอะไรที่เรารักและชอบทำ หรือถนัดอยู่แล้วนั่นแหละครับ ที่ทั้งได้ประโยชน์ต่อตัวเอง และประโยชน์ต่อโลกด้วย และเราเองก็อาจจะหาเลี้ยงชีพได้ด้วย และมีความสุขที่ได้ทำด้วย อะไรแบบนั้น มันจะไม่ใช่อะไรที่เราจะต้องมาฝืนทำเลย เพราะมันจะออกมาจากข้างในของเราเอง

    ให้ฝึกใช้ใจนำทางแทนสมองนะครับ และให้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า..การยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นคืองานที่สำคัญและเร่งด่วนเป็นอันดับต้นๆของชีวิต แล้วก็ให้มุ่งมั่นตามนั้นจริงๆ แล้วทุกๆอย่างก็จะตามมาเองครับ

    ทั้งหมดนี้..แน่นอนว่ามันมีประเด็นที่ขัดแย้งในความคิดของเราอยู่มากมาย ซึ่งก็รวมทั้งตัวผมเองด้วย (แม้ว่าส่วนใหญ่ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วก็ตาม) ดังนั้น ก็อย่าคิดมากนะครับ ให้อ่านผ่านๆไปซะก่อน แล้วค่อยไปขบคิดพิจารณากันดูอีกที อย่าเพิ่งรีบตัดสินว่าผิดหรือถูกซะก่อนนะครับ

    เล่าสู่กันฟังครับ

    Chayutt Naowarat
    15/05/20
    ..............................
    #Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
    temp_hash-5b2a256136d0e513ecac26433db8d45a-jpg-jpg-jpg.jpg
    #เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
    #ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2021
  2. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +433
    ก็ยังค้นหาอยู่ครับ ว่าชาตินี้เกิดมาเพื่อภารกิจอะไร?

    :rolleyes:
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** สัจจะ ****

    สัจจะ คือ สัญญาใจ
    เป็นสัญญาที่ทำขึ้นไว้กับตนเอง

    สัญญาใจ ...
    เมื่อประกาศไปแล้ว
    สัญญาทำ...
    เมื่อทำสำเร็จไปแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...