Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 21 พฤศจิกายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages.......3 of

    [​IMG]
    ปู พื้นกันไปพอสมควรแล้วครับ กับ SM ที่เค้าสร้างและซ่อนไว้ในที่ต่างๆ น่าทึ่งและน่าสยดสยองพอสมควรเลยนะครับ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องครับ และโพสต์นี้เราจะกลับไปดู SM ที่ถูกซ่อนไว้ในอารยธรรมเก่าแก่ของโลก คือ อารยธรรมมายัณ (Mayan..click!) ในห้วงเวลา 2,000 BC. หรือ 4,010 ปีมาแล้วครับ (2,000BC+2,010Christ) ถ้ามองเห็นความเชื่อมโยงแล้วอาจจะทำให้ความน่าทึ่งและความน่าสยดสยองเพิ่ม ขึ้นมาอีกในระดับหนึ่งครับ โดยเรามาดูที่สถาปัตยกรรมของเค้าครับว่าเค้าซ่อนอะไรไว้บ้างลองดูภาพนี้ครับ


    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!

    ทีนี้ เราเน้นลงมาดูที่ฐานทั้ง 2 ด้าน ของสถาปัตยกรรมนี้กันครับ ทั้งสองด้านจะเป็นรูป "Mayan King" หรือกษัตริย์ของมายัณในชุดทรงเต็มยศ แต่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์กลับมาหมอบอยู่ที่ฐานเพื่อรองรับอะไรบางอย่างที่ อยู่เหนือขึ้นไปบนยอดสุดครับ เราลองมาเน้นดูที่ฐานกันให้ชัดๆ ในรูปต่อไปนี้ครับ

    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!


    หาก ใครมีพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ลองหยิบมาเปิดดูที่พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 29 ข้อที่ 15-16 ปริศนาของไบเบิ้ลในบทตอนนี้พยายามสื่อถึงเจ้าสิ่งนี้ครับ แต่เนื่องด้วยในฉบับภาษาไทย แปลความคลาดเคลื่อนมาก ทำให้ยากต่อความเข้าใจจึงทำให้การตีความผิดเพี้ยนไปในที่สุด เพราะในไบเบิ้ลภาษาอังกฤษฉบับคิงเจมส์ (KJV) key words ที่สำคัญที่สุดในท่อนนี้คือคำว่า " UPSIDE DOWN " หรือ "การกลับหัว" ครับ


    29:15 วิบัติแก่ผู้ที่พยายามซ่อนแผนงานของเขาไว้ลึกจากพระเยโฮวาห์ ซึ่งการกระทำของเขาอยู่ในความมืด ผู้ซึ่งกล่าวว่า "ใครเห็นเรา ใครจำเราได้"


    29:15 Woe unto them that seek deep to hide their counsel from the LORD, and their works are in the dark, and they say, Who seeth us? and who knoweth us?
    [​IMG]
    29:16 แน่นอนความวิปริตของ เจ้าจะถือว่าช่างปั้นเท่ากับดินเหนียว และสิ่งที่ถูกสร้างจะพูดเรื่องผู้สร้างมันว่า "เขาไม่ได้สร้างข้า" หรือสิ่งที่ถูกปั้นขึ้นจะพูดเรื่องผู้ปั้นมันว่า "เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย" อย่างนี้หรือ


    29:16 Surely your turning of things upside down shall be esteemed as the potter's clay: for shall the work say of him that made it, He made me not? or shall the thing framed say of him that framed it, He had no understanding?
    [​IMG]

    ภาพ ต่อไปเราจะมาดู SM ที่พวกเค้าซ่อนไว้ โดยวิธีการ "กลับหัว" ในลักษณะเดียวกันกับโลโก้ของ "Starbucks" ครับ แล้วเราก็จะได้รูปต่อไปนี้

    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!​

    พอจะเห็นรูปหรือเค้าโครงของอะไรบ้างหรือ ยังครับ ถ้ายังไม่เห็น ผมจะเน้นให้เห็นโดยใช้วงรี และสี่เหลี่ยมดังภาพด้านล่าง โดยวงรีกลางภาพจะเป็นส่วนของหัว สี่เหลี่ยมกลางภาพจะเป็นส่วนของลำตัว และสี่เหลี่ยมด้านขวาจะเป็นส่วนของปีกนั่นเองครับ

    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!​

    SM หรือ Subliminal Messages ที่เค้าซ่อนไว้ในสถาปัตยกรรมโบราณชิ้นนี้ก็คือ "Devil" หรือ "Fallen Angel" หรือเป็นสัญลักษณ์ของ "ซาตาน" นั่นเองครับ
    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!! ​

    และทั้งหมดนี่คือ SM ที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมของอารยะธรรมมายัณในสมัย 4,010 ปีที่แล้ว เราคงพอจะเห็นครับว่าอารยธรรมต่างๆ ของโลกถูกอิทธิพลของความชั่วร้ายเหล่านี้ครอบงำมาตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา หากท่านใดยังคงสงสัยถึงที่มาของพวก Fallen Angel หรือพวกเทวดาตกสวรรค์ที่มาแผ่อิทธิพลบนโลกมนุษย์ใบนี้ตั้งแต่ครั้ง ดึกดำบรรพ์ ลองดูโพสต์เก่าๆที่ผมเขียนไว้ในเรื่องเหล่านี้ครับ



    พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 1...click
    พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 2...click
    พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 3...click


    ที่ ผ่านไปเป็นอารยะธรรมของมายัณ ซึ่งยังมีอีกหลายชิ้นมากที่ซ่อน SM ในลักษณะนี้ไว้ครับ แต่หลังจากที่อารยะธรรมนี้ล่มสลายไปแล้ว ก็จะไปต่อกันที่อียิปต์ คือในช่วง 1300 B.C. หรือ 3,310 ปีนับจนถึงวันนี้ แล้วเราจะไปดูกันครับว่าพวก Fallen Angel หรือซาตานกลุ่มนี้ไปแผ่อิทธิพลอะไรไว้อีกในอิยิปต์ และจะเป็นที่มาของคำว่า Alien หรือพวกต่างด้าว(โดยรากศัพท์) และกลายมาเป็นมนุษย์ต่างดาวในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอิทธิพลและต้นแบบของการสร้างปิระมิดจากอียิปต์จนมาอยู่บนธนบัตรดอล ล่าสหรัฐในที่สุด โพสต์ต่อไปครับ.......


    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!
    ....."The Gold War phrase II" by Jimmy Siri
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages.......2 of

    เรา ลองมาดู SM ที่ฮอลลีวูดซ่อนไว้ในการ์ตูนฟอร์มยักษ์ต่างๆ ที่ถูกส่งออกไปฉายทั่วโลก โดยเฉพาะค่าย Disney ที่กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่น่าจะเป็นเด็กครับ แต่.......
    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/jGnnaP5ePHs&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/jGnnaP5ePHs&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>

    Beauty and the Beast
    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/bZDyL316x0E&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/bZDyL316x0E&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>

    Pocahontas

    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/p4piZV5wPrw&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/p4piZV5wPrw&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>
    Aladin

    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/p4piZV5wPrw&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/p4piZV5wPrw&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>
    Lion King
    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/1Xm1V-9xfjU&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/1Xm1V-9xfjU&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>

    The Hunchback of Notre Dame

    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/GoWRtsGP-nA&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/GoWRtsGP-nA&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>
    ซึ่งยังไม่นับรวมกับการ์ตูนอีกสารพัดซีรี่ ย์ที่ออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวีในอเมริกา ที่สื่อถึงเรื่อง Ritual หรือพิธีกรรมการบูชาซาตาน เซ็กส์ และความลามกสกปรกในรูปแบบต่างๆ ทั้งยังแอบแฝงไว้ในสื่อโฆษณา โลโก้ เครื่องหมายการค้า การตั้งชื่อแบรนด์ดังระดับโลกต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งแฝงไปด้วย SM แทบทั้งสิ้น ถ้าเรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดหรือรู้ว่าใครเป็นเจ้าของธุรกิจเหล่านี้แล้วเรา จะเข้าใจครับว่ามันไม่น่าจะใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างถูกสร้างและปลูกฝังมานานนับศตวรรษจนทำให้เราไม่สามารถมองเห็นใน สิ่งเหล่านี้ เพราะมันกลายเป็นวิถีของโลกใบนี้ไปแล้วนั่นเอง

    [​IMG]
    Note : ไพ่อีกใบจากเกมส์ไพ่อิลลูมินาติ ก็คือ "Tidal Wave" หรือจะเรียกว่า "ซุปเปอร์ซึนามิ" ก็ได้ครับ เป็น ไพ่อีกใบที่จะทำงานร่วมกับไพ่ใบที่แล้วครับ คือจะเป็นผลจากการทำงานของไพ่ Atomic Monster ที่จะสร้างอำนาจการทำลายล้างอย่างมหาศาลด้วยความสูงของคลื่นจากทะเลซึ่งสูง เท่ากับตึกหลายชั้นครับ ประมาณว่าไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อยเพราะยังก็แทบจะหนีไม่ทันถ้าไม่มีระบบการ เตือนภัยที่ดีพอ ถ้าลองกลับไปดูหนัง 2012 อีกซักรอบโดยดูฉากที่คลื่นยักษ์ซัดเข้าถล่มนิวยอร์คและทำเนียบขาวแล้ว ประกอบกับโพสต์ต่อๆไปที่ผมจะอธิบายในเรื่องนี้ จะเข้าใจได้ครับว่ามันไม่ไกลเกินสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงเลยครับ


    ผม เริ่มชักสงสัยแล้วครับว่าซึนามิที่เกิดขึ้นทางชายฝั่งอันดามันอาจจะไม่ใช่ แผ่นดินไหวใต้ทะเลอย่างที่เราเข้าใจครับ เทคโนโลยีที่เข้าข่ายถ้าไม่เป็น HAARP ก็อาจจะเป็นการทดลองเจ้า Atomic Monster ก็เป็นได้ครับ และทั้งหมดนี้เค้าก็จัดไว้ให้อยู่ในเกมส์ไพ่อิลลูมินาติทั้งหมดแล้ว คำถามก็คือ "เมื่อไหร่" เท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2010
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    Subliminal Messages.......1 of

    หรือแม้แต่ในการ์ตูนครับ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการสะกดจิตรูปแบบหนึ่ง เพราะข้อความที่ซ่อนไว้โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไปทางความลามก สกปรก และความชั่วร้าย ซะเป็นส่วนใหญ่ นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าต้องซ่อนมันไว้นั่นเองครับ


    บาง ท่านอาจจะเคยเห็นเรื่อง " Subliminal Messages " ผ่านตามาโพสต์ นี้เราจะมาดูกันเรื่อง Subliminal Messages หรือก็คือการซ่อน "ข้อความ" หรือ "ความหมาย" บางอย่างไว้ในรูปภาพ สื่อสิ่งพิมพ์ เพลง ภาพยนตร์ บ้างแล้วจากหลายๆ ที่ นั่นเป็นการดีครับ จะถือว่าท่านพอจะมีพื้นฐานในเรื่องนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่จะขอบอกก่อนครับว่าบทสรุปของโพสต์นี้อาจจะไกลเกินกว่าที่ท่านหรือมนุษย์ จะจินตนาการไปถึงครับ เพราะ SM ที่ผมจะพาท่านย้อนเวลากลับไปในอดีตหลายพันปีที่ผ่านมากลับไปดู SM ที่ซ่อนไว้ในอารยธรรมโบราณ คือ อารยธรรมมายัณ และอียิปต์ และเราจะไปเจาะอนาคตกับ SM อีก 1-2 เหตุการณ์ ที่อาจจะเป็น " Life Changing Events " หรือเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของมนุษย์และประวัติศาสตร์โลกเลยที เดียว


    และ เรื่อง SM นี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยกลุ่ม Globalists หรืออิลลูมินาติ ในธุรกิจต่างๆ เพื่อการล่อลวงมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ให้หลงไหลในสิ่งต่างๆที่เค้าต้องการให้เป็น


    โพสต์ นี้จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลึกและยากต่อการเข้าใจครับ จะมีบางส่วนที่ไปเชื่อมโยงกับคัมร์ภีร์ไบเบิ้ลที่ยากต่อการตีความหรือเข้าใจ ได้ในอดีตหลายพันปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ "ไบเบิ้ลฉบับภาษาไทย" แม้แต่เป็นฉบับคิงส์เจมส์(ที่ผมเคยแนะนำไป)เองก็ตาม ปัญหาของไบเบิ้ลไทยก็คือ แปลคลาดเคลื่อนในหลายๆจุดครับ ซึ่งทำให้อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจว่าผู้เขียนสื่อถึงอะไรกันแน่ แล้วผมจะยกตัวให้เห็นครับ เพราะฉะนั้นจึงต้องเป็น "การอธิษฐานและการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ทรงเปิดเผย" ในเรื่องต่างๆ เท่านั้นที่จะทำให้เราเข้าใจในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้ และเรื่อง SM นี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เปิดเผยโดย "พระเจ้า" ผ่านผู้รับใช้ของพระองค์ และผมนำเอาองค์ความรู้เหล่านั้นมารวมกับสิ่งที่ผมได้รับรู้มา จนมาเป็นเรื่องที่ผมจะเขียนนี้ในที่สุด


    อ่าน ถึงตรงนี้แล้วอาจจะทำให้หลายๆ ท่านที่ไม่ใช่ "คริสเตียน" งงครับ ว่าผมหลุดโลกไปแล้วหรือกำลังพูดถึงอะไร หรือแม้แต่จะเป็นพี่น้องคริสเตียนเองก็ตาม อ่านและศึกษาตามไปเรื่อยๆ ครับ แล้วท่านจะเข้าใจว่าที่่ผมกำลังจะเขียนทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นองค์ความรู้ที่ มีอยู่ในโลกใบนี้ ที่จะทำให้มนุษย์อย่างเราๆ เข้าใจและรู้เท่าทันเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะฉะนั้นผมจะไม่คาดหวังให้ทุกท่านที่ได้อ่านเข้าใจในสิ่งที่ผมเขียน ทั้งหมด เพราะฉะนั้นต้องอาศัย "การอธิษฐานและการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ทรงเปิดเผย" ครับ แล้วท่านจะเข้าใจในที่สุดครับ ว่าทำไมผมถึงกล้าพูดว่า "ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นองค์ความรู้ที่มีอยู่ในโลกใบนี้"


    เอา ล่ะครับ เรามาเริ่มปูพื้นฐานกันก่อนเพื่อจะช่วยให้ทุกท่านเข้าให้ได้มากที่สุด ผมจะใช้คลิปวีดีโอของยูทูป เพื่อให้เร็วและง่ายต่อการเข้าใจ คลิปแรกนี้จะบอกและอธิบายถึง SM ที่ถูกซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ เพื่อใช้ในการล่อลวงมนุษย์กันระดับโลกครับ

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/Ng6hQfGzQig&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>​



    คลิป นี้จะเป็น SM ที่เค้าซ่อนไว้ในเพลงของนักร้องชื่อก้องโลก จากโลกตะวันตก ซึ่งเจ้าของค่ายเกือบทั้งหมดก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ กลุ่ม Globalist และอิลลูมินาติ ที่ครอบงำวงการนี้อยู่แทบทุกอณูนั่นเอง จนถึงขั้นว่า "Do or Die" คือจะทำไม๊ ถ้าไม่ทำก็ตาย อย่าง John Lennon, Tupac, Michael Jackson และอีกหลายคนที่พยายามต่อต้าน เพราะฉะนั้นเพลงของศิลปินดังๆ ทั้งหลายในระดับโลก ก็เป็นเครื่องมือที่จะเผยแพร่ SM เหล่านี้ให้พวกเราโดยที่เราไม่รู้ตัวนั่นเอง


    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/Yv1BiRkZ_Tg&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>​


    [​IMG]เอาละ ครับโพสต์แรกของเรื่องนี้เอาเท่านี้ก่อน อย่าให้งงไปมากกว่านี้เลยครับ ก่อนที่จะไปต่อกันในโพสต์ที่ 2 ผมจะทิ้งปริศนาไพ่ใบหนึ่งจากเกมส์ไพ่อิลลูมินาติไว้ให้ครับ ไพ่ใบนี้จะเป็นไพ่ที่ทำนายเหตุการณ์หนึ่งในอนาคตที่จะพลิกประวัติศาสตร์โลก และจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงยิ่งกว่า 911 คือจะมีผู้คนที่อาจจะต้องสังเวยชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสนคนจากเหตุการณ์นี้ โดยส่วนตัวผมเพิ่งจะตีไพ่ใบนี้แตกครับ แล้วความคิดและความรู้สึกที่มีคือ "เซ็งมากครับ" จะทำกันขนาดนี้เลยเหรอ.......หลังจากที่เข้าใจแล้ว หลายๆ ท่านอาจจะคิดเหมือนกับผมก็ได้ครับ


    Note : คลิกที่ไพ่เพื่อดูภาพขยายได้ครับ และข้อความที่อยู่ใต้ภาพคือ "Disaster! This is an Instant Attack to Destroy any Coastal Place. It does not require an action. Its Power is 16 against a Huge Place, 20 against any other Place, but 24 against Japan or California. If the attack succeeds, the Target is Devastated. If it succeeds by more than 6, the target is destroyed. Or play at any time to give +10 to any attack to destroy the Robot Sea Monsters or the Nuclear Power Companies"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  4. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    ซ่อนไว้ก่อน ถึงเวลา ก็จะเปิดเผย
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เราคิดว่า มันเป็นการสะกดจิตนะ
    คือในสื่อต่างๆ เขาจะซ่อนรูปหรือข้อความหรือสัญลักษณ์
    เผยแพร่ให้คนทั่วไปซึมซับไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้ตัว
    มันจะออกแนว เซ็กส์ ความรุนแรง ความตาย ความหยาบกระด้าง หรืออะไรก็แล้วแต่
    ที่คนทำสื่อต้องการจะทำเพื่อชักนำ สะกดจิต ชี้นำ ชักจูงให้คนทั่วไปรู้สึกและทำตาม
    อย่างที่พวกเขาต้องการ โดยที่คนรับข้อมูลไม่รู้ตัวเลย มันลงลึกถึงจิตใต้สำนึกแบบไม่รู้ตัว
    เหมือนคนที่ดูหนังรุนแรงก็ซึมซับความรุนแรง คนดูสื่อลามกอนาจารก็จะฝักใฝ่หมกมุ่นอยู่
    แต่ในเรื่องนั้นๆ คนดูหนังน้ำเน่าดราม่าก็จะหลงอยู่ในโลกอารมณ์ที่หลงไหลไปตามเนื้อ
    เรื่องที่เขาต้องการให้คนเป็น สื่อพวกนี้มันสะกดจิตและชักนำความคิดคนหมู่มากให้ไหล
    ตามที่เขาต้องการ ปั่นหัวคน ทำให้คนติดนิสัยและทำตามที่เขาล่อลวงไว้

    ถ้าใช้ในทางที่ดี ทำให้คนเข้าหาศีลธรรม สร้างนิสัยให้คนเป็นคนรักดี มีมานะพยายาม
    ทำแต่เรื่องดีๆ มันก็สะกดจิตให้คนทำความดีได้ แต่ส่วนใหญ่คนที่ทำสื่อมันพาไปไหนกัน
    ก็พิจารณาดูเอาแล้วกัน สื่อทีวี สื่อโฆษณา หนังสือ นวนิยาย มันพาคนไปทางต่ำหรือ
    ทางสูง การที่เรารู้เท่าทันเรื่องพวกนี้ ก็คือให้เราระวังตัว อะไรที่เรารับรู้บ่อยๆ มันจะกลาย
    เป็นนิสัยถาวรของเรา ถ้าอะไรก็ตามมันติดเป็นนิสัยแล้วจะถอนยาก
    เราต้องใช้สติสัมปชัญญะ เลือกสิ่งที่ดี และงดเสพสิ่งที่เป็นอันตรายกับตัวเราเองด้วย
    เป็นการเตือนกันไว้ ตัวเราเสพอะไรบ่อยๆเราก็มีแนวโน้มจะถูกสะกดจิตไปทางนั้น ยกเว้น
    ว่าจะมีสติรู้เท่าทันมัน มันก็จะครอบงำเราไม่ได้ ต้องดูตัวเองและรู้จักตัวเองให้มาก
    จะได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ให้โดนอื่นสะกดจิต ปั่นหัว ชักจูง ไปสู่ทางต่ำ ทางแห่งความหน้ามืด
     
  6. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870
    ช่อง DMC ก็เลยพยามยามทำสื่อแห่งแสงสว่างไง

    นำเสนอแต่เรื่องสร้างสรรค์ เรื่องบุญๆ สวรรค์

    ต้องทำให้น่าสนใจ สนุกๆ ให้มีความคิดแง่บวก

    ไม่งั้นถ้าทำแบบเดิมๆ เด็กก็ไหลไปทางแห่งความมืด

    คำขวัญของ DMC ก็คือ DMC ช่องนี้ช่องเดียว DMC The only one

    เพื่อสะกดจิตให้คนไปสู่แสงสว่าง

    แต่คนส่วนใหญ่ก็จะมองแค่ว่า หูย...ดูดิ อู้ฟู่ถึงขนาดมีช่องทีวีเป็นของตัวเอง

    มันจึงตอบคำถามว่าทำไมต้องระดมเงินบริจาคมากมาย

    เพราะถ้าจะมีช่องโทรทัศน์มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายมาก

    เพื่อแข่งกับสื่อส่วนใหญ่ที่มีแต่ข่าวแง่ลบ แล้วกดจิตใจเราให้หมองมัว
     
  7. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870
    มีอยู่ครั้งนึงชอบมาก ที่หลวงพ่อเล่าถึงคนที่ตกนรก

    ท่านเล่าได้สักพักก็บอก ไม่เอา พอละ เรจะไม่ทุกข์ทรมานไปกับเขา



    ผมรู้ถึงเจตนาท่านได้ว่า ท่านจะไม่อยากให้คนดูต้องใจหมอง
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พูดถึง DMC เราก็กลัวนะ เพราะ เข้าข่าย สะกดจิต ในความเห็นของเรา
    มันเป็นความเห็นส่วนตัว ถ้าใครไม่ชอบใจ เราก็ขออภัยละกัน
    เพราะเราคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น
    เราศรัทธาในทางแห่งความเป็นอิสระแห่งความคิด free will ความมีสติสัมปชัญญะ
    ไม่นิยมเป็นทาสทางความคิดของผู้ใด ขออยู่ให้พ้นทางแห่งความหลงทุกประเภท
    เรายินดีในหนทางนั้น อิสระภาพ ไม่เป็นทาสใคร ถ้าจะหลงผิด คิดผิดเอง ก็ไม่เป็นไร
    ยังไงก็ขอเป็นทาสของตัวเราเองดีกว่าเป็นทาสของคนอื่น เราคิดแบบนี้นะ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553



    Subliminal Messages.......6 of


    โพสต์นี้เราจะยังอยู่กับภาพหินแกะสลักของฟาโรห์กันอีกซักหน่อยครับ จริงๆ แล้วยังมี SM ที่ซ่อนไว้ในภาพอีกมากพอสมควร แต่ผมจะนำเสนอเฉพาะจุดที่สำคัญๆ เพื่อให้เราเห็นภาพของโลกใบนี้ได้อย่างชัดเจนขึ้น และภาพสุดท้ายที่ผมจะนำเสนอในส่วนนี้คือภาพของ "งู" ที่ถูกซ่อนไว้ครับ และบริเวณมี่ปลายดินสอชี้อยู่ก็คือหัวของ "งู" ตัวใหญ่ครับ


    [​IMG]
    [​IMG]


    และทั้งหมดที่นำเสนอไป ก็คือ SM หรือ Subliminal Messages ที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักของอิยิปต์โบราณครับ ด้วยสาเหตุที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี่เอง เป็นคำตอบที่พี่น้องคริสเตียนหลายคนสงสัยว่าทำไมในชีวิต "คริสเตียน" ของเรา จึงต้องมีการ "Reborn" หรือการเกิดใหม่เป็นครั้งที่ 2 ก็เพื่อทิ้งตัวตนเก่าที่มีเชื้อของความบาปที่ตกทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล เพราะคงเป็นการยากที่จะบอกว่าเราสืบเชื้อสายมาจากไหน แต่อย่างนึงที่เรารู้คือ เรามีพระวิญญานของพระเจ้าผู้ทรงสร้างอยู่ในตัวเราแล้วครึ่งนึงครับ


    พระองค์จึงพร้อมเสมอที่จะรอรับเรากลับไปเป็นสิ่งที่เรา "เคยเป็น" นั่นก็คือ มนุษย์ "ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน" ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาน ตามเจตนาการทรงสร้างของพระองค์ ด้วยการ "Repent" หรือการ "กลับใจ" ทิ้งความเป็นตัวตนสิ่งเก่าๆ ของเราทั้งหมดที่เคยทำมา แล้ว "เริ่มต้นใหม่" ครับ กลับมาเกิดใหม่ด้วย "พระวิญญานบริสุทธิ์" ที่แท้จริงของพระเจ้า เริ่มต้นในแนวทางของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ ในลักษณะของ "ความเชื่อและการปฏิบัติ" คือเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ลงมาไถ่ชีวิตเราจากความบาปผิด โดยการ "สละชีวิต(อันปราศจากความบาปผิดใดๆ)ของตนเอง" เพื่อชดใช้ความผิดแทนมวลมนุษย์ทั้งปวง


    2 โครินธ์ 5 : 17

    5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น

    5:17 Therefore if any man be in Christ, he is a new creature: old things are passed away; behold, all things are become new.


    ( อยากฝากสิ่งนึงไปถึงพี่น้องคริสเตียนครับคือ หากมีใครบอกคุณว่า ขอแค่ให้เชื่อเท่านั้นแล้วจะรอด ผมขอยืนยันว่านั่นผิดครับ เพราะชีวิตคริสเตียนคือการ "กลับใจและเปลี่ยนแปลง" เปลี่ยนแม้กระทั่งสิ่งที่คุณคิดว่าคุณไม่สามารถที่จะเปลี่ยนหรือเลิกสิ่งเหล่านั้นได้ ทิ้งความบาปผิดทั้งปวงที่เราเคยทำหรือมีส่วนร่วม โดยเฉพาะความบาปผิดที่เราไม่ได้กระทำแต่ต้องมีส่วนร่วมรับความผิดนั้น หรือความผิดบาปที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ แล้วเริ่มต้นใหม่ใน "เส้นทางตรงและทางเดียว" ของพระเจ้าครับ )


    และในตอนต่อๆไปของ Subliminal Messages ผมจะเขียนถึง SM " สะท้านโลก " ที่ซ่อนอยู่ในธนบัตรดอลล่าสหรัฐ ทั้งในอดีตและอนาคตครับ ซึ่งอาจจะเป็น "การเริ่มต้น" ของการสิ้นสุดของอีกหนึ่งอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้ ณ เวลานี้ นั่นก็คือ "ประเทศสหรัฐอเมริกา" อย่างที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ลครับว่า "หินที่วางซ้อนทับกันหรือมหาวิหารจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้" แล้วมหาวิหารหรือปิระมิดแห่งโลกยุคนี้ก็อยู่ในนี้แล้วครับ

    [​IMG]

    หมายเหตุ : หากท่านใดมีธนบัตรดอลล่าสหรัฐชนิด $10, $20 และ $50 เก็บรวมรวมไว้ในมือก่อนเลยครับ เพราะท่านจะได้อรรถรสในการรับชมมากกว่าปกติครับ



    โพสต์โดย What's going on in America

    วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages.......5 of


    ในโพสต์ที่แล้วเป็น "ความน่าสะอิดสะเอียน" หรือ SM เพียงบางส่วนที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักที่ประดิษฐานอยู่ใน "พระวิหาร" ที่ต้อง "ถูกทำลายลง" จนต้องกลายเป็น "ความรกร้างว่างเปล่า" ครับ


    มัธธิว 24 : 1-2
    การพยากรณ์ถึงการทำลายพระวิหาร (มก 13:1-13; ลก 21:5-19)
    24:1 ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร
    Olivet Discourse: Destruction of the Temple (Mark 13:1-13; Luke 21:5-19)
    24:1 And Jesus went out, and departed from the temple: and his disciples came to him for to shew him the buildings of the temple.

    24:2 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้"
    24:2 And Jesus said unto them, See ye not all these things? verily I say unto you, There shall not be left here one stone upon another, that shall not be thrown down

    มัธธิว 24 : 15
    ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
    24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิด "การรกร้างว่างเปล่า" ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
    The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
    24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand :)


    ลองมาดูที่ภาพของฟาโรห์กันบ้างครับ เพราะเค้าได้ซ่อนสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน "กว่า" ไว้ เรียกได้ว่าอาจจะเหนือกว่าจินตนาของเราๆ ท่านๆ ครับ เริ่มจากส่วนหัวของฟาโรห์ครับ ผมจะค่อยๆ เน้นเข้าไปทีละภาพครับ เพื่อให้เห็น "The Fallen Angel" ซึ่งก็คือเอเลี่ยนนั่นเองครับ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]


    คงจะเห็นภาพส่วนหัวของเอเลี่ยนได้อย่างชัดเจนในภาพนี้ครับ


    [​IMG]

    ส่วนต่อไปก็ เรามาดูครับเจ้าเอเลี่ยน หรือ "The Fallen" ตนนี้ได้ "สมสู่" กับบุตรมนุษย์ โดยในภาพที่ 3 จะสื่อถึงอวัยวะเพศ "ชาย" และในภาพที่ 4 จะสื่อถึงอวัยเพศ "หญิง" ของบุตรมนุษย์


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]





    ปฐมกาล 6 : 2 และ 6 : 4
    6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
    6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.

    6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
    6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.

    อีกทั้งยังซ่อนภาพ "การสมสู่" ไว้อย่างชัดเจนครับ รูปนี้คงต้องใช้การสังเกตุมากหน่อยครับ จะเป็นภาพของผู้หญิงกำลังก้มมาข้างหน้าในขณะที่กำลัง...อยู่ ภาพต่อไปจะเห็นชัดเจนขึ้นครับ

    [​IMG]


    1 & 2 คือ สะโพกทั้ง 2 ด้าน ของผู้หญิง
    3 คือ ส่วนหัวคือผม หน้าผาก ลงมาเป็นใบหน้าและปาก
    4 คือ ผมที่ยาวลงมาถึงพื้น
    5 คือ หน้าอก
    6 & 7 คือขาทั้ง 2 ข้างที่ยื่นไปด้านหลัง

    [​IMG]

    และทั้งหมดทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นนี้ก็สิงสถิตย์อยู่ในร่างของฟาโรห์ ซึ่งเป็นบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดของโลกในยุคนั้น เป็นไปตามพระวัจนะที่พระคำภีร์เขียนไว้ทุกประการในห้วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา........


    ลองกลับไปค้นดูหนังซักเรื่องนึงสิครับ คือเรื่อง "สตาร์เกท" เค้าพยายามบอกเราแล้วในหนังเรื่องนั้นครับ

    ปฐมกาล 6 : 4
    6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
    6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.

    แปลกไม๊ครับที่มนุษย์เรายังคงตามหาเอเลี่ยน หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยรู้เลยว่า อสูรตนนี้เป็นส่วนหนึ่งและแอบแฝงอยู่ในร่างกายของมนุษย์เรามาตลอดหลายพันปี รู้สึกไม๊ครับว่าทำไมหลายๆ ครั้งที่เราทำอะไรลงไปโดยสัญชาติญาน เราสร้างบาป ทำความผิดอยู่ตลอดเวลาโดยตัวเราเอง และบางสิ่งบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อตัวเราโดยที่เราก็ไม่เข้าใจว่าเราทำไปทำไมหรือทำไปได้อย่างไร ส่วนที่ซ่อนอยู่นี่แหละครับคือ "ด้านมืด" ของมนุษย์ที่ยากต่อการอธิบาย ความโลภ ความโกรธ ความหลง การเอารัดเอาเปรียบ กิเลส ตัณหา การทำลายล้าง ความอยากในรูปแบบต่างๆ มันฝังอยู่ในตัวเราครับ

    เราทำผิดได้เสมอโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอน แต่การทำความดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ยากแสนยาก เพราะครึ่งหนึ่งของร่างกายและจิตวิญญานของมนุษย์มีความบาปผิดผสมอยู่นั่นเองครับ


    มาถึงตอนนี้คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมไบเบิ้ล ถึงต้องใช้คำว่า "ความน่าสะอิดสะเอียน" และความน่าสะอิดสะเอียนนี้แหละครับที่จะนำไปสู่การทำลายพระวิหาร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาพระวิหารที่มี "ปิระมิด" เป็นสัญลักษณ์ ก็ได้ถูกทำลายลงไปทีละอาณาจักรตามกาลเวลา และที่สำคัญตาม "ความบาปผิดและความเสื่อมทราม" ของจิตใจมนุษย์ในอาณาจักรนั้นๆ




    โพสต์โดย What's going on in America โพสต์เมื่อ <A class=timestamp-link title="permanent link" href="http://jimmysiri.blogspot.com/2010/11/subliminal-message5-of.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2010-11-22T20:15:00+07:00>8:15 หลังเที่ยง</ABBR> 2 comments [​IMG][​IMG]





    Subliminal Messages.......4 of


    [​IMG]
    เรื่อง SM นี่คงจะทำให้เรามองเห็นอะไรที่ซ่อนตัว มีอิทธิพลและเป็นทำงานอยู่เบื้องหลังจิตวิญญานของมนุษย์ในยุคนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีครับ และในทุกอริยะธรรมจะมีเรื่องที่เป็นปริศนาที่ทิ้งไว้มาจนถึงวันนี้ เช่น เรื่องของศิลาจารึกหรือภาพเขียนสีบนผนังหินที่เขียนเล่าเรื่องราวของ มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะแตกต่างออกไปจากที่มนุษย์เราเป็น มีเขาบ้าง มีปีกบ้าง ลอยอยู่บนฟ้าบ้าง และกลายไปเป็นเจ้าผู้ครองอริยะธรรมนั้นในที่สุด เพราะฉะนั้นเป็นการยากจะปฏิเสธครับว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีจริง แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ มากกว่านั้น อีกเรื่องคือสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคนั้นๆ ซึ่งเครื่องไม้ เครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ใช้สร้างแทบจะพูดไม่ได้เลยว่าเป็นผลงานของมนุษย์ที่อยู่ในช่วงเวลาหรือในอริยะธรรมนั้นๆ


    [​IMG]
    ตอนนี้เราจะมาดู SM ที่ล้ำลึกชุดนึงครับที่ซ่อนไว้ในภาพหินสลักบนกำแหงของพระวิหารย์แห่งหนึ่งของฟาโรห์ในประเทศอิยิปต์ เป็นภาพสลักของฟาโรห์อเคเนตัน (Akhenaten) และราชินีเนเฟอติติ (Nefertiti) ....link และในภาพสลักนี้แหละครับมีการซ่อน SM หรือ "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้พยากรณ์ไว้อย่างมากมาย ทั้งสิ่งที่เราเรียกว่าเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตต่างภิภพ และการกำเนิดของมนุษย์พันธุ์ผสม มนุษย์ยักษ์หลายเผ่าพันธุ์พันธ์ที่กระจายไปสร้างอริยะธรรมต่างๆทั่วพื้นภิภพ


    และทั้งหมดต่อไปนี้ครับ คือการเปิดเผยถึงสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ใน ดาเนียล 9:23 มัธธิว 24:15 มาระโก 13:14 และลูกา 21:20


    มัทธิว 24:15

    ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
    24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิดการรกร้างว่างเปล่า ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
    The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
    24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand :)




    ซึ่งเมื่อสิ่งนี้ถูกเปิดเผยแล้วก็จะเป็นการเริ่มต้นของ "ความทุกข์เวทนาครั้งยิ่งใหญ่" หรือ The Great Tribulation ที่กำลังจะมาถึงนั่นเองครับ


    24:6 ท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงเรื่องสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง
    24:6 And ye shall hear of wars and rumours of wars: see that ye be not troubled: for all these things must come to pass, but the end is not yet.



    24:7 เพราะประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อสู้ราชอาณาจักร ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและโรคระบาดอย่างร้ายแรงและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ
    24:7 For nation shall rise against nation, and kingdom against kingdom: and there shall be famines, and pestilences, and earthquakes, in divers places.

    24:8 เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก
    24:8 All these are the beginning of sorrows.


    24:9 ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆจะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา
    24:9 Then shall they deliver you up to be afflicted, and shall kill you: and ye shall be hated of all nations for my name's sake.


    24:10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน
    24:10 And then shall many be offended, and shall betray one another, and shall hate one another.


    24:11 จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
    24:11 And many false prophets shall rise, and shall deceive many.


    24:12 ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไป
    24:12 And because iniquity shall abound, the love of many shall wax cold.


    24:13 แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด
    24:13 But he that shall endure unto the end, the same shall be saved.

    [​IMG]
    คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยายความละเอียดสูง (ขนาด 2592x1944)



    มาดูกันที่จุดแรกคือภาพใบหน้าของราชินีเนเฟอร์ตีติที่ด้านบนขวาครับ

    [​IMG]


    ซึ่งถ้าเรานำภาพมากลับหรือมาเปลี่ยนมุมดู เราจะห็นเป็นภาพส่วนหัวของแกะที่ "ตาย" แล้ว ซึ่งในทางพระคัมภีร์ "แกะ" ก็คือพวกเราหรือมนุษย์นั่นเอง อย่างที่เราเคยได้ยินคำว่า "Lambs of God" ครับ แกะที่ตายแล้วก็คือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างได้สูญพันธุ์หรือได้สิ้นสุดไปแล้วนั่นเองครับ





    [​IMG]



    ทีนี่เราลองเอาภาพด้านบนมากลับหัวดูอีกครั้งครับ


    [​IMG]

    ลองมือปิดส่วนที่อยู่ด้านขวาของภาพ แล้วภาพที่เราจะได้คือภาพใบหน้าส่วนหัวของ Devil หรือภาพปีศาจกำลังยิ้มให้กับเราครับ โดยดินสอกำลังชี้ที่ตา


    [​IMG]


    ในขณะที่อีกครึ่งนึงก็ยังคงเป็นแกะที่มีลักษณะเหมือนครึ่งคนครึ่งแกะ




    [​IMG]

    SN ที่ซ่อนอยู่ก็คือ "แกะ" หรือ "มนุษย์" ที่มาจากการทรงสร้างของพระเจ้าได้ตายลงหรือสูญสลายไป แต่ได้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นคือ "ครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร" นั่นเองครับ ส่วนการเกิดและที่มาของเผ่าพันธุ์ใหม่นี้ก็ซ่อนอยู่ในภาพนี้เช่นเดียวกันครับ


    [​IMG]


    อสูรกายที่เกิดขึ้นก็คือ "มนุษย์ยักษ์" ที่อยู่ในตำนาน โดยมีการจารึกและบอกเล่าเรื่องราวจากเกือบทุกอริยะธรรมทั่วโลก โดยมีการบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ปฐมกาล 6:1-7



    ความชั่วของมนุษยชาติ
    6:1 ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน
    Wickedness of Man
    6:1 And it came to pass, when men began to multiply on the face of the earth, and daughters were born unto them,

    6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้า (Fallen Angel หรือกลุ่ม The Watcher) เห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
    6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.

    คำเตือนของพระเจ้าถึงการพิพากษา
    6:3 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะเพียงแค่ร้อยยี่สิบปี"
    God's Warning of the Coming Judgment
    6:3 And the LORD said, My spirit shall not always strive with man, for that he also is flesh: yet his days shall be an hundred and twenty years.

    6:4 ในคราวนั้นมีพวก***มนุษย์ยักษ์***บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
    6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.

    6:5 และพระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วของมนุษย์มีมากบนแผ่นดินโลก และเจตนาทุกอย่างแห่งความคิดทั้งหลายในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายอย่างเดียวเสมอไป
    6:5 And GOD saw that the wickedness of man was great in the earth, and that every imagination of the thoughts of his heart was only evil continually.

    6:6 พระเยโฮวาห์ทรงโทมนัสที่พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์บนแผ่นดินโลก และกระทำให้พระองค์ทรงเศร้าโศกภายในพระทัยของพระองค์
    6:6 And it repented the LORD that he had made man on the earth, and it grieved him at his heart.

    6:7 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "เราจะทำลายมนุษย์ที่เราได้สร้างมาจากพื้นแผ่นดินโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์และสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศ เพราะว่าเราเสียใจที่เราได้สร้างพวกเขามา"
    6:7 And the LORD said, I will destroy man whom I have created from the face of the earth; both man, and beast, and the creeping thing, and the fowls of the air; for it repenteth me that I have made them.



    ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการ "ชำระล้าง" โลกมนุษย์ในรอบแรกด้วย"น้ำ" นั่นก็คือสาเหตุและที่มาของเหตุการณ์ "น้ำท่วมโลกและเรือโนอาห์" ที่ถูกบันทึกไว้นั่นเองครับ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=oPpKnwh3AvE"](หลักฐานการค้นพบเรือโนอาห์ซึ่งถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้ ที่ความสูง 14,000 ฟุต บนเทือกเขาอารารัต ในประเทศตุรกี...Click )[/ame]

    คำถามก็คือวันนี้โลกของเราใบนี้กำลังเดินไปสู่จุดเดิมคือความผิดบาปเต็มล้นโลก "อีกครั้ง" แล้วหรือยัง ถ้าถามผม ผมคงจะตอบได้ว่ามัน Over Due หรือเกินจุดนั้นมานานมากแล้ว และถ้าการ "ชำระล้าง" จะต้องมาถึงอีกครั้งก็ไม่น่าจะแปลกอะไร จริงไม๊ครับ???


    ภาพการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์(บางส่วน)ในที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกในศตวรรษที่ผ่านมา



    <TABLE class=tr-caption-container style="MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto; TEXT-ALIGN: center" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=tr-caption style="TEXT-ALIGN: center"></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG][​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]






    โพสต์โดย What's going on in America




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  10. ChainQLel2

    ChainQLel2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +618
    เปิดตาเปิดใจ แล้วใช้จิตมอง แล้วจะเข้าใจเอง
     
  11. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870
    ไหนเค้าว่าภาพกระดูกยักษ์พวกนี้เป็นรูปตัดต่อ
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    มหาภารตะ ภาคสาม "มหาสงคราม"

    <!-- Main -->มหาภารตะ
    ภาคสาม “มหาสงคราม

    หนังสือเล่มที่ 5-10 เล่าถึงสงคราม 18 วัน ระหว่างฝ่ายปาณฑพกับฝ่ายเการพ
    ....คัดมาบางส่วน เห็นว่าบางข้อความเข้ากับยุคสมัยนี้มากเลย...
    เหตุการณ์หลังสงคราม

    หนังสือเล่มที่ 11-18 บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังสงคราม และคำสอนของภีษมะ
    หลังสงคราม เมื่อกฤษณะลงจากรถม้าศึก รถนั้นระเบิดไฟลุกท่วมสิ้น ร่างแฝงของกฤษณะเท่านั้นที่รักษาอาวุธสวรรค์ไว้จากการทำลายตั้งแต่ต้น กฤษณะเปิดเผยว่า ทวยเทพเห็นด้วยกับสงครามครั้งนี้ เพื่อผ่อนคลายภาระอันยิ่งใหญ่ของโลก (เหมือนกับ ทรอย) ทุรโยธน์ คือร่างทรงของกาลี จ้าวแห่งยุคที่สี่

    ยูธิษฐิระ รายงานยอดความสูญเสียได้หกล้านศพ ท้าวเธอตื่นตระหนกกับความสูญเสียมโหฬารเช่นนั้น จึงมีช่วงวิกฤติส่วนตนคล้ายกับอรชุนก่อนยุทธนาการ ท้าวเธอไม่ประสงค์ขึ้นครองราชย์ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้อำนาจและความรุนแรงมากขึ้น ทรงเห็นว่าชีวิตเป็นความเจ็บปวดทรมานเสียเอง เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์มักแสวงหาอำนาจและความมั่งคั่งทางวัตถุ แต่ไม่เคยพึงพอใจเลย บุคคลผู้ซึ่งได้รับรางวัลทองคำและรางวัลดินโคลนต่างก็มีความสุขที่สุดเท่าเทียมกัน ส่วนคนอื่นกลับโน้มน้าวท้าวเธอว่าต้องครองราชย์ และทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์

    ยูธิษฐิระ เห็นยุคต่อไปที่กำลังมาถึง “ข้าฯ เห็นยุคหนึ่งที่กำลังมาถึง ในยุคนั้นกษัตริย์ป่าเถื่อนปกครองโลกที่แตกสลายเสื่อมทราม ในโลกนั้นมนุษย์มีแต่ความยากลำบาก เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และอ่อนแอ อายุขัยสั้น ผมหงอกตั้งแต่อายุสิบหก สมสู่กับสัตว์ หญิงกลายเป็นโสเภณีไปหมดทำรักด้วยปากอันตะกละหิวกระหาย แม่วัวผอมแห้ง ต้นไม้แคระแกร็น ไม่มีดอกอีกต่อไป ไม่มีความบริสุทธิ์ใดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป ผู้คนเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานมักใหญ่ไฝ่สูง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ยุคกาลี ยุคแห่งความมืดมนอนธกาล” ละคร

    มะ ถามว่า ทำไมยุธิษฐิระ ถึงได้คิดและมาละได้เอาป่านฉะนี้เล่า เฉกเช่นบุรุษผู้ป่ายปีนต้นไม้ขึ้นไปตีรังผึ้ง แต่ปฏิเสธการลิ้มรสน้ำผึ้งรวงนั้น หรือบุรุษผู้อยู่บนเตียงกับสตรี แต่ปฏิเสธการร่วมรัก เทราปที สงสัยความเป็นลูกผู้ชายของยุธิษฐิระ ว่าเป็นแต่เพียงบัณเฑาะก์ผู้มุ่งแสวงหาความสงบและหลีกเลี่ยงความรุนแรงเท่านั้น อรชุนตรัสว่า การปฏิเสธขึ้นครองราชย์จะเป็นแต่เพียงสาเหตุให้เกิดความโกลาหลอลหม่าน และก่อกรรมมากมายมหาศาลอันเลวยิ่งให้ยุธิษฐิระไปชดใช้ในชาติหน้าที่เกิดมาในวรรณะต่ำต้อยเท่านั้นเอง เราควรยอมรับบทบาทของเรา ขึ้นอยู่กับว่าในชีวิตนี้เราอยู่ที่ไหน กล่าวคือ บิดามีภาระหน้าที่ผูกพันอยู่กับครอบครัวของตนเมื่อบุตรยังเยาว์ เฉกเช่นเดียวกับกษัตริย์ต้องครองราชย์เสียก่อน แล้วบั้นปลายของชีวิตจึงอาจสละโลกไป แต่การกระทำเยี่ยงนั้นเสียแต่เนิ่นเป็นพฤฒิการณ์ของความเห็นแก่ตัว

    ขณะกำลังถึงแก่มรณกรรม ภีมะ บอก ยุธิษฐิระว่า ในยุคที่สี่ (ยุคปัจจุบันของเรา) “ธรรมะกลายเป็นอธรรมะ และอธรรมะเป็นธรรมะ” ภีมะ กล่าวต่ออย่างค่อนข้างขัดแย้งกันว่า “หากใครสู้รบกับการใช้กลโกง บุคคลก็ควรสู้รบกับเขาด้วยกลโกง แต่หากใครสู้รบตามกฎกติกา บุคคลก็ควรตรวจสอบเขาด้วยธรรมะ… บุคคลควรเอาชนะความชั่วร้ายด้วยความดี ความตายพร้อมด้วยธรรมะดีกว่าชัยชำนะด้วยการกระทำเลว”

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ludwig&month=05-10-2007&group=20&gblog=4
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2010
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages.......7 of


    ถ้าผมจะบอกว่าภาพของการทำนายเหตุการณ์ช๊อคโลกโดยการก่อการร้ายและการระเบิดครั้งสำคัญๆ ทั้งหมด 5 ครั้ง ของสหรัฐถูกซ่อนเป็น SM ไว้ในกระเป๋าสตางค์ของคุณเอง คุณจะเชื่อไม๊ครับ???


    ในปี 1994 ธนบัตรชนิด 20 ดอลล่ารุ่นใหม่ ได้ถูกออกแบบพิมพ์และแพร่กระจายสู่มือประชาชนคนอเมริกัน และหลังจากนั้น 7 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ช๊อคโลก คือเหตุการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ของโลก ซึ่งก็คือเหตุการณ์ 911 ในปี 2001 นั่นเองครับ


    หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ไม่นาน ก็มีการค้นพบภาพบางอย่างที่ดูคล้ายกับ Aftermath หรือภาพเหตุการณ์หลังการชนของเครื่องบินเข้าที่ตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ตีพิมพ์อยู่บนธนบัตรชนิดนี้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยการนำธนบัตรชนิด $20 มาพับให้เป็น "ปิระมิด" แล้วคว่ำหัวของรูปดังกล่าวลง

    ***โปรดสังเกตุและเปรียบเทียบกลุ่มควันที่อยู่บนยอดตึกของทั้งสองภาพ จะอยู่ในจุดเดียวกันครับ***


    [​IMG][​IMG]





    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/dPtn-glZfc4?fs=1&hl=en_US&rel=0&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>

    ไม่เพียงเท่านั้น หากเรานำธนบัตรใบเดียวกันนี้กลับหลังเพื่อดูอีกด้านหนึ่ง เราจะได้เห็นภาพบางอย่างที่ดูคล้ายกับ Aftermath หรือภาพเหตุการณ์หลังการชนของเครื่องบินเข้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือ เพนตากอน อยู่บนธนบัตรชนิดนี้อย่างไม่ผิดเพี้ยนอีกเช่นกัน

    ***โปรดสังเกตุและเปรียบเทียบตำแหน่งของกลุ่มควัน และบริเวณหน้าต่างด้านข้างของทั้งสองภาพ จะอยู่ในจุดเดียวกันครับ***



    [​IMG]
    [​IMG]


    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/Co4wPKeuQUY?fs=1&hl=en_US&rel=0&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>


    คำถามคือทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นความบังเอิญหรือไม่??? หรือ "Subliminal Messages" ในธนบัตรนี้ได้ถูกซ่อนไว้เมื่อนานมาแล้ว??? ยังจำได้ไม๊ครับว่าธนบัตรชนิด $20 นี้เป็นธนบัตรรุ่นใหม่ที่จัดพิมพ์ขึ้นในปี 1994

    ทีนี้เราลองมาดูความต่างระหว่างธนบัตรรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ โดย 2 ใบด้านบนจะเป็นธนบัตรรุ่นใหม่ที่มองจากด้านหน้าและด้านหลัง และ 2 ใบที่อยู่ด้านล่างจะเป็นธนบัตรรุ่นเก่าที่มองจากด้านหน้าและด้านหลังเช่นกันครับ



    [​IMG]


    เมื่อเราเอาธนบัตรชนิด 20 ดอลล่ารุ่นเก่า มาทำในลักษณะเดียวกันคือพับให้เป็นรูป "ปิระมิด" แล้วคว่ำหัวลง เราจะได้เห็นภาพบางอย่างที่ดูคล้ายกับ Aftermath หรือภาพเหตุการณ์หลังการก่อวินาศกรรมวางเบิดตึกที่ทำการเอฟบีไอ หรือ Federal Building ณ เมืองโอคลาโฮม่าซิตี้ รัฐโอคลาโฮม่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 1995 เวลา 9.02 น.(มีการประทับลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐานคือ 9+2=11) จึงมีการเรียกชื่อเหตุการณ์นี้ว่า "OKBomb" เพราะการก่อวินาศกรรมครั้งร้ายแรงกับที่ทำการรัฐบาลนี้เกิดขึ้นที่รัฐโอคลาโฮม่านั่นเองครับ


    [​IMG]
    [​IMG]



    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/VMrYeMTXifc?fs=1&hl=en_US&rel=0&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>


    ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบภาพทั้ง 2 ภาพนี้ในรายละเอียดอีกครั้งครับ โดยให้สังเกตุวงสีแดงที่ด้านซ้าย เราจะเห็นส่วนของ "หน้าต่าง" ของตึกที่เหลืออยู่หลังจากการระเบิด ซึ่งก็ดูคล้ายกันมันมากครับ และที่วงสีเหลืองด้านขวา ก็คือซากของตึกที่เหลือจากการระเบิดซึ่งก็ดูคล้ายกันอีกเช่นกันครับ



    [​IMG]
    [​IMG]


    และทั้งหมดนี้จะเป็นความบังเอิญหรือไม่ ขอให้ทุกท่านเป็นผู้ตัดสินครับ และผมยังมีอีก 2 เหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ในลักษณะของ SM แบบนี้ ที่ปรากฏอยู่ในธนบัตรอีก 2 ใบ ที่ "ยังไม่เกิดขึ้น" ครับ และเหตุการณ์นั้นก็ไปตรงกับคำพยากรณ์ต่างๆ จากผู้พยากรณ์หลายๆคน ถึงเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตกับประเทศนี้ ซึ่งความรุนแรงและความเสียหายจะหนักหนาสาหัสกว่าเหตุการ 911 และ OKBomb อย่างมากมายมหาศาล และจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิงครับ ไม่เท่านั้น หนึ่งในสองเหตุการณ์ในอนาคตนั้นยังเป็นไปปรากฏอยู่ในไพ่ 2 ใบในเกมส์ไพ่อิลลูมินาติอีกต่างหาก ก็ยิ่งทำให้ความชัดเจนมากขึ้นไปอีก ในโพสต์ต่อไปครับ...



    โพสต์โดย What's going on in America
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages.......8 of

    นาน มาแล้วในช่วงทศวรรษที่ 80-90 ถ้าถามเด็กวัยรุ่นในอเมริกาและในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกว่าศิลปินเพลงคนไหนหรือใครที่เป็นที่ชื่นชอบหรืออยากนำมาเป็นแบบ อย่างมากที่สุด คำตอบก็คือ "มาดอนน่า" ครับ และมาในทศวรรษที่ 90 ก็เป็นของราชาเพลงป๊อปไมเคิล แจ๊คสัน หรือ King of Pop นั่นเอง พอขึ้นสหัสวรรษใหม่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบริตนี่ สเปียร์ และมาวันนี้ที่กำลังร้อนแรงที่สุดและเป็นที่ไฝ่ฝันของวัยรุ่นอเมริกันและอีก มากมายทั่วโลกคงจะหนีไม่พ้น "เลดี้ กาก้า" ครับ


    ราย ชื่อนักร้องชื่อดังก้องโลกทั้งหลายที่ผมกล่าวมานั้น เป็นตัวแทนของ "อิลลูมินาติ" ทั้งหมด โดยที่เค้าได้ซ่อน SM ไว้ในทุกชิ้นงานของพวกเค้าเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นปกเทป ปกซีดี โปสเตอร์ คอนเสิร์ต มิวสิควีดีโอ เนื้อหาของเพลงทั้งแบบการเล่นปกติ และการเล่น Reverse หรือเล่นกลับหลัง และ SM เกือบทั้งหมดก็สื่อถึง "การบูชาลัทธิซาตาน" ไว้อย่างชัดเจนแทบไม่ต้องตีความใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลักษณ์และผลงานเพลงของพวกเค้าทุกคนถูกส่งให้ขึ้นไปอยู่ ใน Top Chart ในระดับโลกแทบทั้งสิ้นครับ


    และ มาถึงยุคนี้ซึ่งเป็นยุคของ เลดี้กาก้า, เจซี หรือ ริฮานน่า ก็แทบจะไม่เป็น SM อีกต่อไปเพราะทำกับแบบตรงไปตรงมาและเปิดเผย โดยเฉพาะเลดี้กาก้านี่อาการหนักมากครับ.......
    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/XCvmQ2xrYDQ&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>


    และ นี่ก็เป็นการสัมภาษณ์เลดี้กาก้า โดยสถานี BBC ของอังกฤษ ซึ่งเค้าก็แสดงตัวตนออกมาหมดครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักร่วมเพศ เซ็กส์ การแสดงสัญลักษณ์หรือ SM ต่างๆออกมาอย่างชัดเจน ในช่องทีวีชั้นนำโดยไม่มีการเซนเซอร์ใดๆ (ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราคงโดนถล่มและครับ) ซึ่งคนทั่วไปดูก็อาจจะไม่เข้าใจ หรืออาจจะแค่งงๆ ครับ แต่หลายๆ ท่านที่นี่คงเห็นเหมือนกับที่ผมเห็นครับ โดยเฉพาะในนาที่ที่ 1:10
    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/ZxHTtNWdAns&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>





    และในนาทีที่ 1:10 ของการสัมภาษณ์เธอก็ยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์บางอย่างครับ


    [​IMG]


    และ นี้ก็เป็นอีกหลายๆ ตัวอย่างของอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกา ที่ถูก "อิลลูมินาติ" ครอบงำและเป็นเจ้าของไว้โดยสิ้นเชิง หรือจะเรียกว่า "Illuminati Music Industry" ก็ว่าได้ครับ
    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/9xyhCP4CmJ4&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/j8VIDBs_TX4&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/RR3NWgsr6oY&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/HJKd4jD1JDE&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/rYH9ERjqYYM&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    แต่ หลังจากที่ไมเคิล แจ๊กซั่นกลับใจ และเริ่มออกห่างจาก "อิลลูมินาติ" งานเพลงในชุดต่อๆ มาหลังจาก BAD และ Thriller ก็เริ่มเปลี่ยนทิศทาง โดย SM ที่อยู่ในเพลงทั้งหมด ไปในทิศทางที่ดีต่อโลกและสังคมมนุษย์ เช่น Heal the World เป็นต้น จนมาในยุคปลายของไมเคิล ความนิยมที่เคยมีจากแฟนเพลงทั่วโลกตกลงอย่างน่าใจหาย เพลงกลับขายไม่ค่อยได้ เหตุผลก็เพราะสื่อทั้งหมดในเครือของอิลลูมินาติไม่ผลักดันไมเคิลเหมือนใน อดีตที่ผ่านมา อย่าว่าแต่ Top Chart เลยครับ แค่ชื่อเพลงและอัลบัมก็แทบไม่การเปิดตามสถานีต่างๆ แต่กลับกระหน่ำตีไมเคิลในกรณีของ Child Abuse หรือการลวนลามเด็กชาย และนำเสนอข่าวเรื่องราวที่ไม่ดีและในแง่ลบทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ "ร่วง" ตามระเบียบครับ

    หลัง จากนั้นไมเคิลก็ตอบโต้กลับด้วยการเปิดเผยตัวตนหรือความเป็นอิลลูมินาติโดย การซ่อน SM ไว้ในเนื้อเพลงในผลงานในชุดต่อๆมา ที่กระแสฟีเวอร์ไม่เท่ากับในอดีตที่ทำเป็น "ภูตผีปีศาจ" อีกแล้วครับ โดยเฉพาะเพลง "They Don't Care About Us" ซึ่งยิงใส่กลุ่มอิลลูมินาติเต็มๆ อีกทั้งยังเดินสายให้สัมภาษณ์เปิดโปงในกิจกรรมต่างๆ ในระยะหลังๆ จนเสียชีวิตในที่สุด และเป็นที่รู้กันวงในครับว่าเป็นการ "ฆาตกรรม" โดยการ "วางยาพิษ" ในอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งออกมาจากบทสัมภาษณ์ของเค้าเองและจากครอบครัวก่อนการเสียชีวิต ว่ามีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มในเรื่องดังกล่าว

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/N90DxUzCpBQ&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    และ ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนการเสียชีวิตของไมเคิล ในช่วงต้นปี 2009 ในการอธิษฐานก่อนการซ้อมเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ไมเคิลอาจจะรับรู้อะไรมาบางอย่าง และได้ทิ้งปริศนาไว้ในลักษณะ "คำเตือน" ครับ คือ "We have four years to make it right or else it's irreversable. Then we're done" ซึ่งแปลความได้ว่า "เรามีเวลาอีก 4 ปี เพื่อจะทำให้มันถูกต้อง หรือไม่มันก็ไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับมาได้อีก พวกเราจบ " ซึ่งอีก 4 ปีที่จะถึงนับจากปี 2009 ก็คือปี "2012".......อีกแล้วครับ

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/6vn8cVoK70M&rel=0&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 width=640 height=390 type=application/x-shockwave-flash allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

    โพสต์โดย What's going on in America
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages 9 of......." เรื่องของโนอาห์ "


    ในโพสต์นี้ผมจะเริ่มพูดถึง Subliminal Messages "สะท้านโลก" ครับ เพื่อจะให้เรามองเห็นภาพ และเข้าใจในเรื่องนี้ ผมจะหยิบยกเนื้อหาบางส่วนของหนังสือเล่มหนึ่งที่เราใช้อ่านนอกเวลาเรียนตอนที่เรายังเป็นเด็กครับ โดยหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งหรือคัดลอกมาจากบางส่วนของไบเบิ้ล นั่นก็คือเรื่องของ "โนอาห์" นั่นเองครับ และเรื่องของโนอาห์ที่อ่านและเข้าใจได้ง่ายนี่แหละครับ ที่จะบอกเราว่าควรที่จะทำอะไรใน "ช่วงเวลาที่เหลืออยู่" เราลองย้อนกลับไปดูเรื่องราวของโนอาห์ อาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่ ที่เราเคยอ่าน "แต่ไม่เคยเห็น" ก็ได้ครับ


    ปฐมการ 6 : โนอาห์ต่อนาวา

    6:9 ต่อไปนี้คือพงศ์พันธุ์ของโนอาห์ โนอาห์เป็นคนชอบธรรมและดีรอบคอบในสมัยของท่าน และโนอาห์ดำเนินกับพระเจ้า
    6:10 โนอาห์ให้กำเนิดบุตรชายสามคน ชื่อเชม ฮาม และยาเฟท
    6:11 ดังนั้นมนุษย์โลกจึงชั่วช้าต่อพระพักตร์พระเจ้า และแผ่นดินโลกก็เต็มไปด้วยความอำมหิต
    6:12 พระเจ้าทอดพระเนตรบนแผ่นดินโลก และดูเถิด แผ่นดินโลกก็ชั่วช้า เพราะว่าบรรดาเนื้อหนังได้กระทำการชั่วช้าบนแผ่นดินโลก
    6:13 พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า "ต่อหน้าเราบรรดาเนื้อหนังก็มาถึงวาระสุดท้ายแล้ว เพราะว่าแผ่นดินโลกเต็มไปด้วยความอำมหิตเพราะพวกเขา และดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก
    6:14 เจ้าจงต่อนาวาด้วยไม้สนโกเฟอร์ เจ้าจงทำเป็นห้องๆในนาวา และยาทั้งข้างในข้างนอกด้วยชัน
    6:15 เจ้าจงต่อนาวาตามนี้ นาวายาวสามร้อยศอก กว้างห้าสิบศอก และสูงสามสิบศอก
    6:16 เจ้าจงทำช่องในนาวา และให้อยู่ข้างบนขนาดศอกหนึ่ง และเจ้าจงตั้งประตูที่ด้านข้างนาวา เจ้าจงทำเป็นชั้นล่าง ชั้นที่สองและชั้นที่สาม
    6:17 ดูเถิด เราเองเป็นผู้กระทำให้น้ำท่วมบนแผ่นดินโลก เพื่อทำลายบรรดาเนื้อหนังใต้ฟ้าที่มีลมปราณแห่งชีวิต และทุกสิ่งบนแผ่นดินโลกจะตายสิ้น
    6:18 แต่เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า และเจ้าจงเข้าอยู่ในนาวา ทั้งเจ้า บุตรชาย ภรรยาและบุตรสะใภ้ของเจ้าพร้อมกับเจ้า
    6:19 เจ้าจงนำสัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกชนิดอย่างละคู่เข้าไปในนาวาเพื่อรักษาชีวิต
    6:20 นกตามชนิดของมัน และสัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน สัตว์เลื้อยคลานตามชนิดของมัน อย่างละคู่จะมาหาเจ้าเพื่อรักษาชีวิตไว้
    6:21 เจ้าจงหาอาหารทุกอย่างที่กินได้ และสะสมไว้สำหรับเจ้า และมันจะเป็นอาหารสำหรับเจ้าและสัตว์ทั้งปวง"
    6:22 โนอาห์ได้กระทำตามทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่ท่าน ดังนั้นท่านจึงกระทำ

    6:9 These are the generations of Noah: Noah was a just man and perfect in his generations, and Noah walked with God.

    6:10 And Noah begat three sons, Shem, Ham, and Japheth. 6:11 The earth also was corrupt before God, and the earth was filled with violence.
    6:12 And God looked upon the earth, and, behold, it was corrupt; for all flesh had corrupted his way upon the earth.
    6:13 And God said unto Noah, The end of all flesh is come before me; for the earth is filled with violence through them; and, behold, I will destroy them with the earth.
    6:14 Make thee an ark of gopher wood; rooms shalt thou make in the ark, and shalt pitch it within and without with pitch.
    6:15 And this is the fashion which thou shalt make it of: The length of the ark shall be three hundred cubits, the breadth of it fifty cubits, and the height of it thirty cubits.
    6:16 A window shalt thou make to the ark, and in a cubit shalt thou finish it above; and the door of the ark shalt thou set in the side thereof; with lower, second, and third stories shalt thou make it.
    6:17 And, behold, I, even I, do bring a flood of waters upon the earth, to destroy all flesh, wherein is the breath of life, from under heaven; and every thing that is in the earth shall die. 6:18 But with thee will I establish my covenant; and thou shalt come into the ark, thou, and thy sons, and thy wife, and thy sons' wives with thee.

    6:19 And of every living thing of all flesh, two of every sort shalt thou bring into the ark, to keep them alive with thee; they shall be male and female.
    6:20 Of fowls after their kind, and of cattle after their kind, of every creeping thing of the earth after his kind, two of every sort shall come unto thee, to keep them alive.

    6:21 And take thou unto thee of all food that is eaten, and thou shalt gather it to thee; and it shall be for food for thee, and for them.
    6:22 Thus did Noah; according to all that God commanded him, so did he.

    ปฐมกาล 7 : โนอาห์ ครอบครัวของเขา และบรรดาสัตว์เข้าไปในนาวา

    7:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสแก่โนอาห์ว่า "เจ้าและครอบครัวทั้งหมดจงเข้าไปในนาวา เพราะว่าเราเห็นว่า เจ้าชอบธรรมต่อหน้าเราในชั่วอายุนี้7:2 เจ้าจงเอาสัตว์ทั้งปวงที่สะอาดทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละเจ็ดตัว และสัตว์ทั้งปวงที่ไม่สะอาดทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละคู่
    7:3 นกในอากาศทั้งตัวผู้และตัวเมียอย่างละเจ็ดตัวด้วย เพื่อรักษาชีวิตไว้ให้สืบเชื้อสายบนพื้นแผ่นดินโลก
    7:4 เพราะว่าอีกเจ็ดวันเราจะบันดาลให้ฝนตกบนแผ่นดินโลกสี่สิบวันสี่สิบคืน และสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงที่เราสร้างมานั้นเราจะทำลายเสียจากพื้นแผ่นดินโลก"
    7:5 โนอาห์ได้กระทำตามทุกสิ่งที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแก่ท่าน7:6 เมื่อน้ำท่วมบนแผ่นดินโลกโนอาห์มีอายุได้หกร้อยปี
    7:7 โนอาห์ทั้งบุตรชาย ภรรยาและบุตรสะใภ้ทั้งหลายจึงเข้าไปใน
    นาวาเพราะเหตุน้ำท่วม
    7:8 สัตว์ทั้งปวงที่สะอาดและสัตว์ทั้งปวงที่ไม่สะอาดและฝูงนกและบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินโลก
    7:9 ได้เข้าไปหาโนอาห์ในนาวาเป็นคู่ๆทั้งตัวผู้และตัวเมีย ตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้แก่โนอาห์
    7:10 ต่อมาอีกเจ็ดวันน้ำก็ท่วมบนแผ่นดินโลก
    7:11 เมื่อโนอาห์มีชีวิตอยู่ได้หกร้อยปี ในเดือนที่สอง วันที่สิบเจ็ดของเดือนนั้น ในวันเดียวกันนั้นเอง น้ำพุทั้งหลายที่อยู่ที่ลึกใต้บาดาลก็ลุ่งขึ้นมา และช่องฟ้าก็เปิดออก
    7:12 ฝนตกบนแผ่นดินโลกสี่สิบวันสี่สิบคืน
    7:13 ในวันเดียวกันนั้นเองโนอาห์และบุตรชายของโนอาห์ คือเชม ฮาม และยาเฟท ภรรยาของโนอาห์ และบุตรสะใภ้ทั้งสามได้เข้าไปในนาวา
    7:14 เขาเหล่านั้นและสัตว์ป่าทั้งปวงตามชนิดของมัน และสัตว์ใช้งานทั้งปวงตามชนิดของมัน และบรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน และนกทั้งปวงตามชนิดของมัน คือบรรดานกทุกชนิดที่มีลักษณะแตกต่างกัน
    7:15 สัตว์ทั้งปวงที่มีลมปราณแห่งชีวิตได้เข้าไปหาโนอาห์ในนาวาเป็นคู่ๆ
    7:16 สัตว์ทั้งปวงที่เข้าไปนั้นได้เข้าไปทั้งตัวผู้และตัวเมียตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาแก่ท่าน และพระเยโฮวาห์ทรงปิดประตูให้ท่าน

    น้ำท่วม

    7:17 น้ำได้ท่วมแผ่นดินโลกสี่สิบวัน และน้ำก็ทวีมากขึ้นและหนุนนาวาให้สูงเหนือแผ่นดินโลก
    7:18 น้ำไหลเชี่ยวและทวีมากยิ่งขึ้นบนแผ่นดินโลก และนาวาลอยบนผิวน้ำ
    7:19 น้ำไหลเชี่ยวทวีมากยิ่งขึ้นบนแผ่นดินโลก และน้ำก็ท่วมภูเขาสูงทุกแห่งทั่วใต้ฟ้า
    7:20 น้ำไหลเชี่ยวท่วมเหนือภูเขาสิบห้าศอก
    7:21 บรรดาเนื้อหนังที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินโลก ทั้งนก สัตว์ใช้งาน สัตว์ป่า และสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลก และมนุษย์ทั้งปวงก็ตายสิ้น7:22 มนุษย์ทั้งปวงผู้ซึ่งมีลมปราณแห่งชีวิตเข้าออกทางจมูก สิ่งสารพัดที่อยู่บนบกตายสิ้น

    7:23 สิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่บนพื้นแผ่นดินโลกถูกทำลาย ทั้งมนุษย์ สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และนกในอากาศ และทุกสิ่งถูกทำลายจากแผ่นดินโลก เหลืออยู่แต่โนอาห์และทุกสิ่งที่อยู่กับท่านในนาวา
    7:24 น้ำไหลเชี่ยวบนแผ่นดินโลกเป็นเวลาหนึ่งร้อยห้าสิบวัน


    Noah, His Family and Animals Enter the Ark
    7:1 And the LORD said unto Noah, Come thou and all thy house into the ark; for thee have I seen righteous before me in this generation.

    7:2 Of every clean beast thou shalt take to thee by sevens, the male and his female: and of beasts that are not clean by two, the male and his female.
    7:3 Of fowls also of the air by sevens, the male and the female; to keep seed alive upon the face of all the earth.
    7:4 For yet seven days, and I will cause it to rain upon the earth forty days and forty nights; and every living substance that I have made will I destroy from off the face of the earth.

    7:5 And Noah did according unto all that the LORD commanded him.
    7:6 And Noah was six hundred years old when the flood of waters was upon the earth.
    7:7 And Noah went in, and his sons, and his wife, and his sons' wives with him, into the ark, because of the waters of the flood.
    7:8 Of clean beasts, and of beasts that are not clean, and of fowls, and of every thing that creepeth upon the earth, 7:9 There went in two and two unto Noah into the ark, the male and the female, as God had commanded Noah.
    7:10 And it came to pass after seven days, that the waters of the flood were upon the earth.
    7:11 In the six hundredth year of Noah's life, in the second month, the seventeenth day of the month, the same day were all the fountains of the great deep broken up, and the windows of heaven were opened.
    7:12 And the rain was upon the earth forty days and forty nights.
    7:13 In the selfsame day entered Noah, and Shem, and Ham, and Japheth, the sons of Noah, and Noah's wife, and the three wives of his sons with them, into the ark;
    7:14 They, and every beast after his kind, and all the cattle after their kind, and every creeping thing that creepeth upon the earth after his kind, and every fowl after his kind, every bird of every sort.
    7:15 And they went in unto Noah into the ark, two and two of all flesh, wherein is the breath of life.
    7:16 And they that went in, went in male and female of all flesh, as God had commanded him: and the LORD shut him in.

    The Flood

    7:17 And the flood was forty days upon the earth; and the waters increased, and bare up the ark, and it was lift up above the earth.
    7:18 And the waters prevailed, and were increased greatly upon the earth; and the ark went upon the face of the waters.
    7:19 And the waters prevailed exceedingly upon the earth; and all the high hills, that were under the whole heaven, were covered.
    7:20 Fifteen cubits upward did the waters prevail; and the mountains were covered.
    7:21 And all flesh died that moved upon the earth, both of fowl, and of cattle, and of beast, and of every creeping thing that creepeth upon the earth, and every man:
    7:22 All in whose nostrils was the breath of life, of all that was in the dry land, died.
    7:23 And every living substance was destroyed which was upon the face of the ground, both man, and cattle, and the creeping things, and the fowl of the heaven; and they were destroyed from the earth: and Noah only remained alive, and they that were with him in the ark.
    7:24 And the waters prevailed upon the earth an hundred and fifty days.

    ปฐมกาล 8 : น้ำลดลงและนาวาค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต

    8:1 พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตและสัตว์ใช้งานทั้งปวงที่อยู่กับท่านในนาวา และพระเจ้าทรงทำให้ลมพัดมาเหนือแผ่นดินโลก และน้ำทั้งปวงก็ลดลง8:2 น้ำพุทั้งหลายที่อยู่ใต้บาดาลและช่องฟ้าทั้งปวงก็ปิด และฝนที่ตกจากฟ้าก็หยุด8:3 น้ำก็ค่อยๆลดลงจากแผ่นดินโลก และล่วงไปร้อยห้าสิบวันแล้วน้ำก็ลดลง8:4 ณ เดือนที่เจ็ดวันที่สิบเจ็ดนาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต8:5 น้ำก็ค่อยๆลดลงจนถึงเดือนที่สิบ ในเดือนที่สิบ ณ วันที่หนึ่งของเดือนนั้น ยอดภูเขาต่างๆโผล่ขึ้นมา8:6 ต่อจากนั้นอีกสี่สิบวัน โนอาห์ก็เปิดช่องในนาวาที่ท่านได้ทำไว้นั้น8:7 ท่านปล่อยนกกาตัวหนึ่ง ซึ่งมันบินไปมาจนกระทั่งน้ำลดแห้งจากแผ่นดินโลก8:8 ท่านจึงปล่อยนกเขาตัวหนึ่งด้วยเพื่อจะรู้ว่าน้ำได้ลดลงจากพื้นแผ่นดินโลกหรือยัง8:9 แต่นกเขาไม่พบที่ที่จะจับอาศัยอยู่ได้เพราะน้ำยังท่วมทั่วพื้นแผ่นดินโลก อยู่ มันจึงได้กลับมาหาท่านในนาวา ดังนั้นท่านจึงยื่นมือออกไปจับนกเขาเข้ามาไว้ด้วยกันในนาวา8:10 ท่านคอยอยู่อีกเจ็ดวัน ท่านจึงปล่อยนกเขาไปจากนาวาอีกครั้งหนึ่ง8:11 ในเวลาเย็นนกเขาก็กลับมายังท่าน ดูเถิด มันคาบใบมะกอกเทศเขียวสดมา ดังนั้นโนอาห์จึงรู้ว่า น้ำได้ลดลงจากแผ่นดินโลกแล้ว8:12 ท่านคอยอยู่อีกเจ็ดวัน และปล่อยนกเขาออกไป แล้วมันไม่กลับมาหาท่านอีกเลย8:13 ต่อมาปีที่หกร้อยเอ็ดเดือนที่หนึ่งวันที่หนึ่งของเดือนนั้นน้ำก็แห้งจากแผ่น ดินโลก โนอาห์ก็เปิดหลังคาของนาวาและมองดู ดูเถิด พื้นแผ่นดินแห้งแล้ว8:14 ในเดือนที่สองวันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนนั้นแผ่นดินโลกก็แห้งสนิท8:15 พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า8:16 "จงออกไปจากนาวา ทั้งเจ้า ภรรยา บุตรชาย และบุตรสะใภ้ทั้งหลายของเจ้า8:17 จงพาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่ด้วยกันกับเจ้า คือบรรดาเนื้อหนัง ทั้งนก สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลานทั้งปวงที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลกให้ออกมา เพื่อพวกมันจะทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลก และมีลูกดกทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลก"8:18 โนอาห์จึงออกไป พร้อมทั้งบุตรชาย ภรรยา และบุตรสะใภ้ทั้งหลายที่อยู่กับท่าน8:19 สัตว์ป่าทั้งปวง บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน นกทั้งปวง และทุกสิ่งที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลกตามชนิดของพวกมันออกไปจากนาวา

    Flood Ends and Ark Lands on Mount Ararat
    8:1 And God remembered Noah, and every living thing, and all the cattle that was with him in the ark: and God made a wind to pass over the earth, and the waters asswaged;
    8:2 The fountains also of the deep and the windows of heaven were stopped, and the rain from heaven was restrained;
    8:3 And the waters returned from off the earth continually: and after the end of the hundred and fifty days the waters were abated.
    8:4 And the ark rested in the seventh month, on the seventeenth day of the month, upon the mountains of Ararat.
    8:5 And the waters decreased continually until the tenth month: in the tenth month, on the first day of the month, were the tops of the mountains seen.
    8:6 And it came to pass at the end of forty days, that Noah opened the window of the ark which he had made:
    8:7 And he sent forth a raven, which went forth to and fro, until the waters were dried up from off the earth.

    8:8 Also he sent forth a dove from him, to see if the waters were abated from off the face of the ground;
    8:9 But the dove found no rest for the sole of her foot, and she returned unto him into the ark, for the waters were on the face of the whole earth: then he put forth his hand, and took her, and pulled her in unto him into the ark.
    8:10 And he stayed yet other seven days; and again he sent forth the dove out of the ark;
    8:11 And the dove came in to him in the evening; and, lo, in her mouth was an olive leaf pluckt off: so Noah knew that the waters were abated from off the earth.
    8:12 And he stayed yet other seven days; and sent forth the dove; which returned not again unto him any more.
    8:13 And it came to pass in the six hundredth and first year, in the first month, the first day of the month, the waters were dried up from off the earth: and Noah removed the covering of the ark, and looked, and, behold, the face of the ground was dry.
    8:14 And in the second month, on the seven and twentieth day of the month, was the earth dried. 8:15 And God spake unto Noah, saying, 8:16 Go forth of the ark, thou, and thy wife, and thy sons, and thy sons' wives with thee. 8:17 Bring forth with thee every living thing that is with thee, of all flesh, both of fowl, and of cattle, and of every creeping thing that creepeth upon the earth; that they may breed abundantly in the earth, and be fruitful, and multiply upon the earth.
    8:18 And Noah went forth, and his sons, and his wife, and his sons' wives with him:
    8:19 Every beast, every creeping thing, and every fowl, and whatsoever creepeth upon the earth, after their kinds, went forth out of the ark.

    (หากเป็นความเชื่อหรือศาสนาอื่นๆก็ให้ปรับตามหลักคิดหรือหลักความเชื่อของแต่ละท่านครับ)
    ประเด็นก็คือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและสิ่งนั้นจะเลวร้ายขนาดไหน "คนดี คนชอบธรรมและดำเนินชีวิตในพระเจ้า" จะอยู่รอดได้เสมอครับ พระเจ้าทรงมาเตือนโนอาห์ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาถึง " 50 ปี " เพื่อให้เตรียมการต่างๆ ทรงนำและบอกทุกอย่างกับโนอาห์แม้กระทั่งว่าต้องทำอะไร อย่างไรและเมื่อไหร่ "เพื่อให้อยู่รอด" ในวันแห่งความยากลำบากนั้น และ "เพื่อรักษาชีวิตไว้ให้สืบเชื้อสายบนพื้นแผ่นดินโลก"


    สภาพแวดล้อมของโลกเราวันนี้ก็ไม่ต่างจากตอนนั้นครับ คือเมื่อจิตใจมนุษย์ตกต่ำจนถึงขีดสุด เต็มไปด้วยความชั่วช้าและความอำมหิต ทำลายโลก ธรรมชาติ ผืนดินที่ให้กำเนิดหรือแม้แต่ชีวิตมนุษย์ด้วยกันเองมานับพันปี ด้วยเหตุนี้ในยุคของโนอาห์ "การชำระล้างโลก" จึงต้องเกิดขึ้นครับ ตลอดเวลาแห่งการเตรียมความพร้อมของโนอาห์ เค้าพยายามร้องเตือนเรื่องนี้กับเพื่อนบ้านและคนทั่วไปอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เค้าได้รับกลับมาจากคนเหล่านั้นคือเสียงหัวเราะ เยาะเย้ยและถากถางว่าโนอาห์เป็นเพียงคนบ้าหรือเสียสติไปแล้ว


    แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึง.......จึงมีเพียงโนอาห์ ครอบครัว และสัตว์น้อยใหญ่ที่อยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์มาจนทุกวันนี้แหละครับ ตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์มนุษย์ บ่อยครั้งที่เราทอดทิ้ง "พระเจ้า" ความดีงาม และความชอบธรรม แต่พระเจ้ากลับไม่เคยทอดทิ้ง "คนของพระองค์" แม้แต่ครั้งเดียวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาแห่งความยากลำบาก.......แล้วเราจะได้เห็นกันในโพสต์ต่อไปครับ


    โพสต์โดย What's going on in America
     
  16. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    มีถึง ตอน 9 แล้วเหรอ เนี่ย ชัดเจนสุดๆ
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คนที่เชื่อในทางพระพุทธศาสนา ก็ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ มีศีล5 เป็นอย่างน้อย
    และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็จะรอดพ้นจากภัยในกึ่งพุทธกาลได้เหมือนกัน
     
  18. cef-a31

    cef-a31 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +315
    มาตามอ่านอีกเหมือนเดิม ^ ^
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages 10 of.......คำพยากรณ์ 1

    ตอนแรกคิดว่าจะค่อยๆ เรียบเรียงและเขียนเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ สบายๆครับ จนกระทั่งเมื่อเช้ามาเปิดเครื่องก็มีเรื่องแผ่นดินไหวหลายที่หลายจุดทาง Midwest หรือภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่งมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาเร่งครับ ที่รู้สึกอย่างนั้นเพราะว่าเรื่องที่ตั้งท่าว่าจะเขียนหรือบอกเล่าต่อไปนี้ก็คือ "ความเป็นได้" ของการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงอีกครั้งหนึ่งของโลกที่ภาคตะวันตกของสหรัฐ ที่ความรุนแรง 8.xx ริกเตอร์หรือสูงกว่า พูดง่ายๆว่าร้ายแรงกว่าที่เฮติมากครับ

    โดยข้อมูลทั้งหมดผมได้รวบรวมไว้แล้วครับ จนเมื่อวานนี้เอง คลิกเข้าไปที่บล๊อก บล๊อกๆ หนึ่งเข้าโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นงานแปลและเขียนโดยคุณ 1p2m...link (ถ้าท่านมาอ่านอยู่ ณ ที่นี่ก็ขออนุญาตินำมาเผยแพร่เลยนะครับ) ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือเคยอ่านมาก่อนครับ ซึ่งข้อมูลในบล๊อกนั้นกลับจะมาทำให้เนื้อหาที่ผมกำลังคิดจะเขียนสมบูรณ์มากขึ้นครับ คือในตอนแรกผมคาดกว่าถ้าเหตุการณ์นี้จะเกิดจะเกิดขึ้นตอนไหน และทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ อย่าเพิ่งตกใจอะไรไปนะครับ ก็คือบางเดือนปี 2011 คือ "รู้ปีแต่ไม่รู้เดือน"


    จนมาอ่านคำพยากรณ์ต่อไปนี้แหละครับที่เขียนภาพอธิบายได้ออกมาเป็นฉากๆ จากคำพยากรณ์ของนาย Chuck Youngbrandt ที่ได้พยากรณ์ไว้เมื่อ 37 ปีก่อน คือในปี 1973 ในตอนสรุปเค้าบอกว่าเค้ารู้เดือนครับคือ "เดือนกรกฏาคม" ของปีหนึ่งในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเป็นปีไหน ผมก็เลยลองคาดการณ์เล่นๆ ว่า หรือจะเป็น เดือนกรกฏาคมปี 2011 เราลองมาดูกันต่อครับว่าทำไมและอย่างไร

    ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมามีการพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ จากผู้พยากรณ์หลายๆคนออกมาอย่างต่อเนื่องครับ เกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ สงครามและการล่มสลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเค้าเหล่านั้นสามารถมองเห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนหลายๆครั้ง แต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่และเมื่อไหร่ โดยเกือบจะทุกคนกล่าวว่า "พระเจ้า" เป็นผู้มาเปิดเผยและเตือนเค้าเหล่านั้นให้บอกสิ่งเหล่านี้กับคนอเมริกันและชาวโลกครับ สิ่งที่น่าแปลกคือมีหลายๆ คำพยากรณ์ที่ตรงกันทั้งที่ต่างยุคต่างสมัยหรือเป็นระยะเวลาที่ห่างกัน 10-30 ปี และเค้าเหล่านั้นกลับได้รับคำเตือนในสิ่งที่คล้ายๆ กัน มีหลายกรณีที่มีการพูดถึงในสิ่งที่เค้าไม่เข้าใจเพราะยังไม่มีเทคโนโลยีหรือสิ่งเหล่านั้นในยุคสมัยของผู้พยากรณ์นั่นเอง



    มีหลายคนกล่าวหาพวกผู้พยากรณ์เหล่านี้ว่า เป็นเพียงเรื่องตลก ไร้สาระและไม่อาจเป็นจริงได้ แต่ ณ วันนี้สำหรับผม.......คำตอบคือ ที่ผ่านมามันยังไม่ถึงเวลาครับ ผมจะนำคำพยากรณ์บางส่วนที่เด่นๆ ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ลองมาดูกันครับว่าเค้ามองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตกันอย่างไรบ้างครับ


    ข้อสังเกตุ : ขอเน้นย้ำนะครับว่าทั้งหมดคือคำพยากรณ์เท่านั้น และผมไม่มีความประสงค์หรือสร้างความตื่นตระหนกด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้นขอให้เวลาและตัวของท่านผู้อ่านเองจะเป็นผู้ตัดสินครับ***

    นิมิตแผ่นดินไหวชิคาโกโดย Chuck Youngbrandt

    ในปี 1973 พระเจ้าได้ให้นิมิตแก่ข้าพเจ้าเกี่ยวกับแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีแถบตะวันตกกลาง (Midwest) ของอเมริกา มีศูนย์กลางที่ชิคาโก อิลลินอยส์ ที่จะเกิดขึ้นในวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคมในอนาคต แผ่นดินไหวทำลายล้างนี้จะนำมาสู่การโจมตีอเมริกาด้วยนิวเคลียร์จากรัสเซีย จีน และญี่ปุ่น เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 นิมิตนี้ข้าพเจ้าเห็นเครื่องบินเจ็ตใหญ่มากลำหนึ่งที่บินอยู่ในเส้นทางบิน ได้ลงที่สนามบิน โอแฮร์ ทางตอนเหนือของชิคาโก (หลังจากแผ่นดินไหว) และเมื่อทะเลสาปมิชิแกนคำรามพ่นน้ำออกมากวาดเมืองมันจะเป็นกำแพงน้ำสูงกว่า 100 ฟุต และเครื่องบินเจ็ตลำใหญ่ก็ติดเครื่องเต็มกำลังอีกครั้ง จนมีควันไหม้พุ่งออกมาจากเครื่องยนต์เพราะนักบินได้ตื่นกลัวอย่างเสียสติที่ จะนำเครื่องขึ้นหนีกำแพงน้ำที่จะมาทำลายชิคาโก

    ข้าพเจ้างุนงงมากในตอนนั้น (วันที่ 2 กรกฎาคม) เนื่องจากเครื่องบินที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นใหญ่มากเท่าตึกสองชั้น ไม่เหมือนที่ข้าพเจ้าเคยเห็นมากก่อน (ในปี 1973 เครืองบินจัมโบ้เจ๊ตยังไม่มี เพราะกำลังออกแบบสร้างอยู่)

    ในขณะที่เครื่องบินจัมโบ้เจ็ต (747-400) ที่มีห้องสองชั้นด้านหน้าของเครื่องบินดู “คล้าย” กับที่ข้าพเจ้าเคยเห็นในปี 1973 ที่เป็นรุ่นใหม่ A3XX อย่างที่เคยเห็นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2000 (ออกข่าวเช้าของดัลลัส ในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน เครืองแอร์บัส 2F เป็นเครื่องบินเจ็ทยักษ์ไอพ่นสีเขียวอ่อน) “คือ” สูง 2 ชั้นและดูคล้ายกับที่ข้าพแห็นในนิมิตปี 1973 มาก

    ข้าพเจ้าได้ตามสังเกตุดูในขณะที่พวกเขายังเพิ่งเริ่มต้นพัฒนา เพราะการติดตามพัฒนาการนี้เป็นหนทางเดียวที่จะบอกเราว่าเรากำลังเข้าสู่ “ช่วงเวลานั้น” เมื่อเครื่องบินแบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว จากข่าวนี้ที่มีหัวข้อว่า AEXX เครื่องบินเจ็ตซุปเปอร์จัมโบ้พร้อมที่จะนำมาใช้บินในปี 2005

    นิมิตแผ่นดินไหวนี้ได้มาถึงข้าพเจ้าตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 5 กรกฎาคม 1973 ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เห็นสิ่งนี้หรือเพราะอะไรจึงได้เห็นนิมิตนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนโน้ต และทำเป็นไฟล์ไว้ และพยายามจะลืมมันเสียแต่ก็ไม่สำเร็จ

    สิ่งแรกคือข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่ชิคาโก และเห็นบริเวณทั่วทั้งแถบตะวันตกกลางและตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา และเห็นซากปรักหักพังมีไฟคุกรุ่นจากการโดนระเบิดนิวเคลียร์ และเมื่อมองไปที่แถบตะวันตกกลาง ก็ได้เห็นชิ้นก้อน โคลนแห้ง ของซากหักพังทุกที่ อย่างไรก็ตาม เมืองเล็ก ๆ จำนวนมากในเมืองใหญ่ก็ยังไม่ถูกทำลาย ข้าพเจ้าเห็นผู้คนบาดเจ็บจำนวนมากถูกนำเข้าโรงพยาบาล ความสับสนและความกลัวเข้ามากลืนกินแผ่นดินนี้

    และทันใดนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นกองกำลังรัสเซียเคลื่อนผ่านยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้ามายังอเมริกา ยุโรปตะวันตกต้องยอมให้ผ่านเพราะกลัว เนื่องจากพระวิญญาณพระเจ้าได้ตรึงเขาไว้ทำให้พวกเขาอยู่ในความกลัวต่อการนี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นอะไรอีกนอกจากเครื่องบินบรรทุกลำใหญ่ของอเมริกาได้ตกลงที่ อ่าวแห่งหนึ่งในชายฝั่งตะวันออกจมโคลนลงไปครึ่งลำ และทันใดนั้นก็เห็นการบุกรุกเข้ามาที่อ่าวเดลาแวร์ และตลอดชายฝั่งของเวอร์จิเนีย

    เริ่มต้นนิมิต

    มันเป็นวันที่บรรยากาศสดใสอบอุ่น ช่วงสายเวลาประมาณ 10:30 ข้าพเจ้ากำลังนั่งอ่านพระคัมภีร์ที่เฉลียงในช่วงพักดื่มกาแฟ ข้าพเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวตลอดช่วงเช้า มีอาการกระวนกระวายโดยไม่มีเหตุผล ความตึงเครียดทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกกระวนกระวายที่อยากจะพักสงบในพระวจนะพระเจ้าเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยข้าพเจ้าได้ ขณะที่อ่านอยู่นั้นชั่วครู่ก็มีบางสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้น แสงอาทิตย์ก็สว่างไปทั่วห้องอย่างฉับพลันดูเหมือนจะสว่างกว่าปกติ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สังเกตุอะไรและอ่านพระคัมภีร์ต่อไป และก็ได้ชำเลืองดูไปข้างนอกอีกครั้งและเห็นสิ่งแปลกประหลาดบางสิ่ง แม้ว่าข้าพเจ้าจะเห็นปุยเมฆอย่างชัดเจนในท้องฟ้า แต่ในเวลาเดียวกันก็เห็นท้องฟ้าใสปราศจากเมฆที่ดูสว่างกว่าแสงอาทิตย์เสีย อีก และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงแหลมดังมาก เป็นเสียงแตก ๆ ที่น่ากลัว และรู้สึกว่าพื้นดินเคลื่อนไหวข้างใต้ข้าพเจ้า ตึกต่าง ๆ รอบก็เอนไหวโยกไปมาและกำแพงตึกก็ปริแตกออกมาบางส่วน และข้าพเจ้าได้ยินดังลั่นจากข้างล่าง มันคือแผ่นดินไหว

    ข้าพเจ้ามองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ โคมไฟห้อยบนกำแพงก็หลุดตกมาที่พื้น ในขณะที่กำแพงแกว่งเองไปมา หน้าต่างของตึกสูง 2 ชั้นก็แตกระเบิดมีเศษกระจกเป็นพันชิ้นหลุดออกมาในขณะที่กรอบหน้าต่างบิด เบี้ยวไป ต้นเสาหลักภายนอกรอบ ๆ ประตูก็หักลงในทันที กำแพงแตกพังลงเสียงดังอย่างมาก เป็นเสียงแตกปะทุ ชิ้นส่วนเพดานสูงประมาณ 4 ฟุตจากพื้นก็ถล่มมาที่เก้าอี้ ทุกสิ่งแกว่งไปมาอย่างรุนแรงจนข้าพเจ้าเดินไปไหนไม่ได้ ข้าพเจ้าได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งร้องกรี๊ด ข้าพเจ้าประหลาดใจที่อาคารยังทรงตัวอยู่ได้ในขณะที่พื้นดินเคลื่อนที่อย่าง รวดเร็วและรุนแรง และทันใดนั้นมันก็หยุด ข้าพเจ้าสั่นหัวด้วยความเชื่อเมื่อมองดูไปรอบ ๆ เห็นเศษซากหักพังและมีฝุ่นควันปกคลุมวันอันสดใสไป ต่อมาข้าพเจ้ามองเห็นเพียงเฉลียงที่นั่งอยู่ก่อนนั้นไม่เป็นอะไรเลยเหมือน ไม่มีแผ่นดินเกิดขึ้น รู้สึกงงงวยและพยายามลืมมันเหมือนเป็นแค่จินตนาการ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้กับสิ่งที่พบเจอนี้ ข้าพเจ้าก็กลับไปทำงานต่อ

    ประสบการณ์ก็เป็นเหมือนหลาย ๆ เรื่องที่ถูกเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในวันแรกและหลายวันต่อมา ในหลาย ๆ พื้นที่ หลาย ๆ เวลา พระเจ้าได้เปิดเผยต่อข้าพเจ้าอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแผ่นดินที่จะเกิดครั้ง แล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสไม่มีเมฆ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงแตกแหลมน่ากลัว ร้ายกาจอย่างมาก และที่เกิดมานั้นก็เช่นกัน มันเกิดการเคลื่อนของแผ่นดินอย่างรวดเร็วและทันทีทันใด ในเวลานั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไร ไม่เข้าใจอย่างมาก คิดว่าไม่ได้เห็นและได้ยินแต่แผ่นดินไหวอย่างเดียวแต่ก็รู้สึกรับรู้ว่าคน อื่น ๆ คิดว่ามันคืออะไรด้วยในเวลานั้น ข้าพเจ้ายังได้กลิ่นแปลก ๆ ในอากาศ ขณะที่วันผ่านไปและความลับก็ถูกเปิดเผยขึ้น ข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกช๊อคและกลัวขึ้นเมื่อทุกสิ่งถูกเปิดเผยออกมาตลอดช่วง เวลานั้น และจะบอกพวกเขาและท่านในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์บอกข้าพเจ้า

    ในเวลาอาหารเที่ยงในวันเดียวกันนั้น ทุก ๆ คนก็กำลังรับประทานอาหารในขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่โต๊ะ โต๊ะอยู่ถัดจากหน้าต่างที่หันหน้าไปทิศตะวันออก มองไปทิศใต้จะเห็นทะเลสาปเล็ก ๆ เรียกว่าทะลสาป โอฮาร่า ผ่านตึกคู่กันที่สร้างอยู่รอบ ๆ หน้าทะเลสาป ไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อยของอาคารคือถนน ไตรสเตท โทลเวย์ และทางตะวันออกโทลเวยร์คือโรงงาน ซีร๊อก และมีบางสิ่งดูเหมือนอาคารเก็บน้ำที่มีชื่อว่าซีร๊อก ตั้งอยู่เลยโรงงานซีร็อกไปก็เป็นป่า และมันก็เริ่มอีกครั้ง นับแต่เริ่มวันมาก็เกิดสิ่งนี้ไปทั้งวันนั้น คือเริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส ท้องฟ้าไร้เมฆ และแผ่นดินไหวแตกทิ่มแทงพื้นดิน

    และนั้นก็ทำให้ตึกทั้งหมดเริ่มเคลื่อนที่ ข้าพเจ้าเห็นการแตกและขยายตัวจากที่หนึ่งของอาคารมายังที่ ๆ ข้าพเจ้าอยู่ในชั่วพริบตา ผนังปูนฉาบแตกปะทุและโน้มตัวพังลงมาในขณะที่กำแพงโค้งตัวลงมา พื้นที่ยื่นอยู่ก็ทรุดตัวลงไปประมาณห้าหรือหกฟุต ทำให้เฟอร์นิเจอร์และตู้เอกสารเลื่อนไถลลงไป อีกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดและรู้สึกวิตกกลัวถึงการไหวที่อื่นด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าของแผ่นดินที่พลิกตลบไปมา และสังเกตุได้ว่าการเคลื่อนไหววิ่งจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเฉียงเหนือ ข้าพเจ้ามองออกไปที่หน้าต่างเห็นอาคารเก็บน้ำชื่อซีร๊อกแกว่งไปมา และฐานก็เคลื่อนจนอาคารล้มลง ทันใดนั้นก็เห็นเปลวไฟพุ่งออกมาจากอาคารในขณะที่อาคารเก็บน้ำยักษ์กระแทกลง ที่หลังคาอาคารซีร๊อก ในชั่วขณะหนึ่งแผ่นดินก็หยุดไหวและข้าพเจ้าก็หยุดชะงักด้วยความเงียบสงัดที่ จะมีไปตลอดวัน ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ เหลืออยู่แม้กระทั่งนก กลุ่มควันลอยขึ้นจากอาคารซีร๊อกเหมือนแท่งเสาสีดำ น้ำในทะเลสาปโอฮาร่ากระฉอกสาดออกมาจากทะเลสาปเป็นคลื่นยักษ์และก็ไหลกลับไปที่เดิม

    ข้าพเจ้ารู้ว่านี่เป็นอีกครั้งที่เป็นนิมิตเกี่ยวกับเหตุการณ์อนาคต คือแผ่นดินไหวใหญ่ ในเวลานี้ความรู้สึกของข้าพเจ้าก็ถูกสะกดด้วยสิ่งที่ได้ประสบ แต่ใครที่ข้าพเจ้าจะบอกเล่าได้ ใครจะเชื่อสิ่งนี้ นี่คือประเด็นเพราะข้าพเจ้าได้เห็นแต่เพียงผู้เดียวและไม่เข้าใจถึงจุด ประสงค์ของนิมิตนี้

    มันเป็นเวลาบ่าย 3 โมงในวันเดียวกัน อีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส ในช่วงนี้นิมิตเริ่มต้นที่จุดสุดท้ายของครั้งก่อน การทำลายล้างเกิดขึ้นกับทุกที่ ข้าพเจ้าสามารถรู้สึกได้อย่างจริงจังว่ามันจะเป็นวันที่เงียบสงัดไปทั้งวัน และความเงียบก็สิ้นสุดด้วยเสียงคำรามที่น่ากลัวที่ต่างออกไปทำให้เสียวไปถึง กระดูกสันหลัง ข้าพเจ้าหันหลังกลับไปมองที่หน้าต่าง และได้เหลือบมองข้ามไปยังพื้นที่ที่พังถล่มเหนือป่าไปยังอาคารซีร๊อก ที่นั่นมีต้นไม้ตั้งยืนต้นอยู่ ข้าพเจ้าเห็นในระยะไกลว่ามีกำแพงน้ำยักษ์สีน้ำเงินใส กำลังเคลื่อนที่ไปทิศตะวันตก มันดูเหมือนไม่ได้วิ่งมาที่ข้าพเจ้าอยู่แต่ดูเหมือนเคลื่อนที่จากตะวันตกไป ทิศใต้ ใช่แล้ว กำแพงน้ำยักษ์พุ่งไปที่ ๆ ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ใน เดสเพลน อิลลินอยส์ กำแพงน้ำมาจากทะลสาปมิชิแกน ดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่า ช่างเลวร้าย ทำให้ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น นี่เป็นจุดแรกที่ข้าพจะต้องระลึกไว้ว่าข้าพเจ้าจะได้เป็นพยานเกี่ยวกับ การทำลายล้างชิคาโกด้วยแผ่นดินไหวใหญ่และตามมาด้วยกำแพงน้ำยักษ์ถล่ม

    หลังจากนั้นข้าพเจ้าขับรถจาก เดสเพลน ไปวิลล่าพาร์ค อิลลินอยส์ ขณะที่ขับไปมุ่งไปที่ ไตรสเตท โทลเวย์ ก็ได้เห็นคลื่นระลอกแผ่นดินไหวทำลายบ้านและถนนพังอย่างชัดเจน ถนนทางลอดใต้ก็พังถล่ม ต้นไม้โค่นล้มถอนรากออกมาอยู่ทุกที่ทุกแห่ง ไตรสเตท โทลเวยร์ นั้นวิ่งจากทิศใต้ไปยังสนามบิน โอแฮร์ และออกไปถึงทางลอดใต้ โอเอซิส ที่อยู่ใกล้ ๆ อีกครั้งที่จะเริ่มต้นด้วยใจจดจ่อ แผ่นดินพลิกเคลื่อนเสียงคำรามเหมือนครั้งก่อนและข้าพเจ้ามองออกไปประมาณ 300 ฟุต เหมือนจะมีชิ้นส่วนของหินแกรนิตขนาดใหญ่จากใต้พื้นดินหรือวัตถุที่คล้ายกัน นี้พุ่งทะลุโผล่ที่ถนน ไตรสเตท และทะลุกวาดไถไปจนถึงทางลอด โอเอซิส

    มันพุ่งทะลุขึ้นมาจากดินสูงถึง 20-30 ฟุตสูงกว่าเพดานของทางโอเอซิส กำแพงหินนี่ดูจะเหมือนตึกสูงสี่หรือห้าชั้นเลย ร่องหินยักษ์เหล่านี้พุงทะลุขึ้นไปอากาศดูเหมือนจะมีแนวเอียงจากตะวันออกไป ตะวันตกในการเคลื่อนตัว และเคลื่อนที่ไป ๆ มา ข้าพเจ้ารู้ว่าทิศใต้ของแนวร่องหินนี้ฐานพื้นดินจะอยู่ต่ำกว่าทิศเหนือมาก ข้าพเจ้ารู้ได้ดังนั้นทันทีว่านั้นคือแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว

    ตอนที่กำแพงหินเหล่านี้พุ่งขึ้นมาที่ถนน ไตรสเตทไปถึง โอเอซิส มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากทำให้ข้าพเจ้าตะลึงอย่างมากทำให้ต้องเหยียบเบรค ย่างกระทันหันเพื่อหลบแท่งกำแพงหินนี้ก่อนที่จะนึกได้ว่ามันเป็นเพียงนิมิต เท่านั้นไม่ใช่เหตุการณ์จริง เมื่อผ่าน โอแฮร์ และโอเอซิส แล้วก็ไปทิศใต้ตามถนน ไตรสเตท ก็จะพบสะพานขาด ข้าพเจ้าเห็นได้ชัดเจนว่ามันพังทะลายสิ้นเพราะแผ่นดินไหว ไม่ว่าทิศไหนก็เห็นแต่ไฟลุกลาม ท่อควันสีดำพวยพุ่ง บ้านและโรงงานพังทะลาย การทำลายล้างช่างยิ่งใหญ่เกินบรรยายได้ ข้าพเจ้าได้มาถึงตึก 15 ชั้นแห่งหนึ่งที่ยังคงทรงตัวอยู่ในทิศตะวันออกของไตรสเตท คือโรงแรมของสนามบิน โอแฮร์ แห่ง นอร์ทเลค ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำเคลื่อนมาเหนือเมืองและถล่มตึก 15 ชั้นนี้ โดยกำแพงน้ำสูงกว่าเพดานโรงแรมนี้

    ในนิมิตของอนาคตนั้น ข้าพเจ้ายังเห็นเครื่องบินที่กำลังมาลงจอดที่สนามบินโอแฮร์ ในช่วงเวลาที่กำแพงน้ำปรากฎตัวขึ้นมา นักบินก็สังเกตุเห็นมันด้วย และมีกลุ่มควันสีดำที่ข้าพเจ้าเห็นออกมาจากเครื่องยนต์เจ๊ตที่เผาไหม้ ข้าพเจ้ารู้ได้ว่านักบินได้พยายามเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้นออกไป ข้าพเจ้าประหลาดใจว่าเครื่องบินจะไปลงจอดที่ไหน ข้าพเจ้าก็คิดถึงเมือง มิลวากี้ และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้เห็นเมืองนี้ถูกน้ำท่วมและกำลังถูกทำลาย ข้าพเจ้าก็นึกถึงเมือง เซนต์หลุย และได้เห็นน้ำท่วมไปทั่วเมืองทุกสิ่งจมน้ำสิ้น คือในทันทีที่ข้าพเจ้าเริ่มนึกถึงสถานที่ใดก็จะเห็นภาพการทำลายล้างจริงใน อนาคตที่จะเกิดกับที่นั่น และก็รู้ได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ใด ๆ ที่ผ่านมา ที่จะเทียบเคียงกับสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดกับเราในอนาคตได้

    ข้าพเจ้าสังเกตุว่ากำแพงน้ำนั้นพุ่งลึกเข้ามาถึงศูนย์กลางของชิคาโกและพุ่ง เป็นปลายเรียวเลยไปถึงทิศใต้ก็หยุด และเลยไปทิศเหนือด้วยแต่มันไม่ลึก ข้าพเจ้าสังเกตุได้ว่าทางยกระดับและทางลอดใต้จะพังทลาย มีซากหักพังถล่มเป็นทับถมก้อนปิดเส้นทางถนนขาดจากกันในหลาย ๆ ที่และการจราจรก็หยุดชะงัก การหนีจากแผ่นดินไหวเพื่อรอดชีวิตนั้นดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

    และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เห็นพื้นที่ของ ลูป ในนิมิตดูจากเงาที่ทอดลงมาก็ได้ดูเหมือนเป็นเวลาเที่ยงวัน ข้าพเจ้าเห็นการจราจรพลุ่กพล่านในย่านดาวทาวน์ แต่ว่าความสนใจของข้าพเจ้าอยู่ที่ชั้นล่างของตึกใหญ่แห่งหนึ่ง และอีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแผ่นดินไหว รถยนต์จำนวนมากก็ปลิวไถลจากถนนเข้าไปยังตึกต่าง ๆ อย่างแรงเพราะแผ่นดินเคลื่อน เสียงประสานที่น่ากลัวพร้อม ๆ กันทั้งเสียงดังลั่นเอี๊ยด เศษกระจาย เสียงครูดเต็มไปทั่วเหมือนกับเสียงของเสาของเรือใหญ่ที่แล่นอยู่กลางพายุ และตึกสูงระฟ้าก็โยงเอนไปมา ตึกยักษ์ก็เริ่มเลื่อนไถลออกจากตัวฐานประมาณ 20 ฟุตจากทางเดินแต่น่าทึ่งที่มันไม่พังลงมา อิฐ หิน แก้ว และเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ตกลงมาที่ถนนข้างล่างคล้ายลูกเห็บที่ลมพายุพัดมา และเมื่อแผ่นดินไหวหยุด ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนจำนวนมากพูดว่า “โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” หลายคนรอหน่วยกู้ภัยมาช่วย แต่ไม่มีใครขอบคุณพระเจ้าเลย

    ทันใดนั้นภาพที่ข้าพเจ้าเห็นก็เปลี่ยนไปอยู่หน้าทะเลสาป หลังจากแผ่นดินไหวหยุด น้ำในทะเลสาปมิชิแกนก็หยุดนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว และนอนแน่นิ่งสงบอย่างกับป่าช้า ในทันใดน้ำนิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะเขย่าหรือสั่นไหวในขณะที่มองดูอยู่ ระดับน้ำก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงแล่นของน้ำอย่างรวดเร็วพุ่ง หายไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เหลือทิ้งไว้เป็นบ่อโคลนที่ต่าง ๆ

    ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านไปในวันนั้น เป็นเวลาเท่าใดข้าพเจ้าไม่ทราบมากได้ จากจุด ๆ ที่อยู่สูงแห่งหนึ่งที่ถนนใน ลูป ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่ากลัว แสงอาทิตย์หายไปหมดสิ้นและทุกสิ่งถูกกลืนกินด้วยความมืด ต่อมาข้าพเจ้าเห็นภาพทางอากาศของพื้นที่ดาวทาวน์ของชิคาโก เมื่อกำแพงน้ำจากทะเลสาปมิชิแกนได้พัดมาถล่มเข้าไปที่ ลูป อย่างแรงแบบไม่น่าเชื่อ แต่ตึกระฟ้าต่าง ๆ ยังคงทรงตัวอยู่แต่มันตั้งยันคลื่นน้ำเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มบิดตัวทรุดลงมาอย่างช้า ๆ และหายไปสิ้นในน้ำที่พัดวนอยู่ ข้าพเจ้าเห็นภาพนี้ติดตรึงชัดเจน ตึกทางตอนเหนือของ ลูป (มีส่วนผ่านแนวรอยเลื่อน) ดูเหมือนจะปลอดภัย กำแพงน้ำนี้ไม่ใช่คลื่น ไม่ใช่คลื่นน้ำขึ้นน้ำลง ไม่ใช่ปลายยอดคลื่น แต่มันคือน้ำทั้งหมดของทะเลสาปมิชิแกนที่เคลื่อนมาทั้งก้อนไปทางทิศใต้โดย ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ รุนแรงน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทุก ๆ สิ่งในทิศทางที่น้ำเคลื่อนไปจะถูกบดขยี้ทำลายล้างอย่างหมดสิ้น แม้ว่าน้ำจะสูงกว่าตึก 15 ชั้น (ใช้ทางด่วน ไอเซนโอเวอร์ เป็นจุดศูนย์กลางวัด) แต่ความลึกของระดับน้ำก็ลดลงอย่างเร็วในทิศที่เคลื่อน โดยไป 12 ไมล์ทางใต้และเหนือ แต่จุดที่ตื้นที่สุดที่ข้าพเจ้าเห็นก็ถึงประมาณ 20 ฟุต

    นับแต่ปี 1973 เรารู้ว่าแผ่นดินไหวที่จะเป็นเหตุเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน และเปลี่ยนเมืองหลายเมืองให้เป็นเส้นทางเดินของน้ำที่จะไหลท่วม ขณะที่พื้นที่ทิศเหนือของแนวรอยเลื่อนบางพื้นที่จะถูกยกสูงกว่าระดับน้ำ พระเจ้าให้ข้าพเจ้าเห็นเมือง คัลลูเม็ต อิลลินอยส์ ฮัมมอนด์ อินเดียน่า ชิคาโกตะวันออก และพื้นที่อื่น ๆ แถวปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่จะต้องไปอยู่ใต้ระดับน้ำถึง 60 ฟุต ที่ส่วนปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่ข้าพเจ้าเห็นแต่ผืนน้ำใหญ่โต ไม่มีตึกโผล่เหนือน้ำเลย วันที่ 5 กรกฎาคม 1973 ใน เดสเพลน ข้าพเจ้าเห็นน้ำระดับน้ำพุ่งขึ้นมาเหนือป้ายบอกความเร็วบนถนน บัลลาด และระดับน้ำตรงนั้นดูเหมือนจะลึกอย่างน้อย 5 ฟุตหรือลึกกว่า สะพานคอนกรีต ไตรสเตท บนถนน บัลลาด จะพังอย่างรวดเร็วในขณะที่น้ำซัดไปทิศใต้ตรงนี้เป็นเนินบน ไตรสเตท หรือถนนที่อยู่สูงกว่าน้ำ

    4 กรกฎาคม 1973

    ขณะที่ข้าพเจ้าขับรถไปตะวันออกบนทางด่วน ไอเซนโอเว่อร์ อีกครั้งที่ได้เห็นคลื่นระลอกแผ่นดินไหวตามมา รถยนต์ต่าง ๆ ก็ชนกันกองสุมเป็นกอง ส่วนทางออกลาดชันต่าง ๆ ไม่พังลงมาก็ถูกปิด สะพานต่าง ๆ ก็พังลงทุกที่ มันเป็นวันที่อบอุ่นและคนขับรถก็บีบแตร (ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรจากความวุ่นวายนี้ได้) และทันใดนั้นกำแพงน้ำก็ปรากฎในทิศตะวันอก คนบางคนก็ตะลึงแน่นิ่ง แต่ส่วนใหญ่จะรีบวิ่งหนีไปมาหรือหาที่ซ่อน มีชายคนหนึ่งออกจากรถและคุกเข่าอธิษฐาน เขาเป็นคนเดียวที่ฉลาดเพราะเขาจะได้พบกับพระเจ้าเมื่ออธิษฐาน น้ำได้พุ่งโอบล้อมพวกเขาทั้งหมด บ้านต่าง ๆ ถูกบดขยี้จนไม่มีอะไรเหลือในทันที ถนนคอนกรีตและราดยางก็ถูกเลาะออกมา พื้นถนนถูกกวาดหายไปในเวลาสั้น และต่อมาข้าพเจ้าได้เห็นพื้นดิน 10 ถึง 20 ฟุตถูกชะล้างพัดไปในทันที

    บริเวณสุสานใกล้ ๆ ข้าพเจ้าเห็นแท่งหินหลุมศพที่เป็นคอนกรีตเลอะสกปรก และโลงศพมีก้อนดินอยู่ภายในก็ถูกพัดลากไปอย่างรวดเร็วโดยแรงของน้ำ และน้ำก็เคลื่อนมาเหนือข้าพเจ้าและภาพที่เห็นก็เปลี่ยนไปอยู่เหนือน้ำ ก็ได้เห็นชายคนที่คุกเข่าอธิษฐาน ลอยขึ้น ๆ ลง ๆ บนผิวน้ำเหมือนจุ๊กค๊อกและไม่เป็นอะไร พระเจ้าได้ช่วยชายผู้นี้ที่อยู่ท่ามกลางการทำลายล้างเพราะเขาวางใจในพระเจ้า

    และทันใดนั้นหลังจากแผ่นดินไหวที่น่ากลัวในแถบตะวันตกกลาง ข้าพเจ้าเห็นคณะประกาศกิตติคุณ พวกพระ ผู้อาวุโส และคริสเตียนที่ปฏิเสธคำพยากรณ์ คนเหล่านี้ดูเหมือนคนที่ตายแล้ว ความเข็มแข็งของพวกเขาหายไปสิ้น หลายคนล้มหน้าลงพื้นร้องไห้ขอให้พระเจ้ายกโทษให้พวกเขา

    ในช่วงแรกของนิมิต ข้าพเจ้าเป็นผู้สังเกตุที่อยู่ในความตะลึง ยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น แต่วันที่ 4 กรกฎาคม 1973 ความจริงของหายนะในอนาคตนี้ก็ได้มาสัมผัสจิตใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดถึงคนทุกคนที่จะถูกทำลายและข้าพเจ้ากลั่วจนตัวสั่นที่ได้เห็นการ ล้มตายจำนวนมาก ดังนั้นในครั้งแรกนับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ข้าพเจ้าก็ได้เข้าหาพระเจ้าและถามว่า “โอ้ พระบิดา มันจะเกิดขึ้นจริงหรือ? จะหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?” ในชั่วขณะที่อธิษฐานนั้น ข้าพเจ้าก็ได้ถูกพระวิญญาณพระเจ้าพัดมาแตะต้องและได้มองเห็นเมืองชิคาโกทั้ง เมือง และฑูตสวรรค์ของพระเจ้าได้วางมือบนข้าพเจ้า เบื้องล่างที่ข้าพเจ้าเห็นคือมือของพระเจ้าที่ช่วยคนจำนวนมากที่วางลงไปยัง เมืองและทะเลสาป และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสั่งมาพูดว่า “นี่คือสิ่งที่เราจะทำถ้าเด็ก ๆ ของเราหันกลับมาหาเรา”

    ต่อมาข้าพเจ้าจำได้ว่าตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ไม่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ใด ๆ ที่เคยเกิดกับมนุษย์โดยปราศจากการเตือนในครั้งแรกจากผู้พยากรณ์ของพระเจ้าเลย และบัดนี้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ข้าพเจ้าได้เห็นชายแก่ผิวสีคนหนึ่งถือระฆัง ในมือกำลังเดินทางไปยังพี่น้องคนผิวดำ สั่นกระดิ่งและเรียกร้องให้ทุกคนกลับใจ ชายแก่ก็ถูกคนด่าแช่งและถ่มน้ำลายใส่ ข้าพเจ้าเห็นเขาร้องไห้เพื่อประชาชนที่จิตใจแข็งกระด้าง และที่แห่งหนึ่งก็มีแก๊งวัยรุ่นอันธพาลก็มาล้อมรอบเขาและตั้งใจจะฆ่าเขา กลุ่มฑูตสวรรค์ก็ปรากฎรอบ ๆ เขาและพวกแก๊งก็หนีไปด้วยความกลัว คนเหล่านั้นไม่สามารถฆ่าเขาได้เพราะเขาได้ทำพันธกิจในการเตือนคน ในเวลานี้ จิตใจข้าพเจ้าก็เป็นเช่นกับเขา แม้พันธกิจที่เขาทำช่างยากเย็น แต่ก็ได้รางวัลตอบแทนคือข้าพเจ้าได้เห็นหลายคนกลับใจจากบาปของตน

    แม้ว่าข้าพเจ้าไม่เคยเห็นตัวจริงของเขา แต่ในนิมิตนั้นชายแก่ผิวดำนี้มีจุดเด่นเมื่อปรากฎ เขามีศรีษะเกือบล้านแม้จะมีผมขาวแซมด้านข้างและด้านหลังของศรีษะบ้าง เขามีผิวสีโกโก้ ตาสีน้ำตาล และเต็มด้วยใจดีและความรัก และเขาเป็นตัวแทนสำแดงของพระคริสต์นั่นทำให้เขาเป็นผู้เข็มแข็ง อ่อนโยนและน่าประทับใจ ใบหน้าของเขาน่ารักน่ามอง ตลอดปีของเขาเต็มไปด้วยการอวยพรจากพระคริสต์ เขาสวมเสื้อคลุมสีเทาอ่อน ในมือขวาถือกระดิ่งทองเหลืองและไม้เท้าในมือซ้าย และมีพระคัมภีร์สีดำเล่มเก่า ๆ ผูกติดไว้ด้วยเชือก แม้ว่าเขาจะแก่และเดินช้า แต่เสียงใส ชัดเจน และดัง ข้าพเจ้าได้ยินเขาพูดว่า “มือแห่งพระพิโรธของพระเจ้าจะมายังพวกท่าน จงหันกลับจากความบาปของท่าน และกลับใจก่อนที่การลงโทษของพระเจ้าจะมายังท่านในไม่ช้าและทำลายท่านเนื่อง จากความชั่วร้ายที่ท่านเดินอยู่ ฟังสิ่งนี้ที่มาจากพระเจ้าของท่าน…” และเป็นดังนั้น และจะเป็นต่อไป จนบัดนี้ข้าพเจ้ารู้และเห็นผู้พยากรณ์จำนวนมากกำลังนำการเตือนครั้งสุดท้ายมา บางคนถูกฆ่า บางคนบาดเจ็บ เมื่อคำเตือนได้ส่งออกไป ผู้ใดได้ยินก็เฝ้าระวังคำเตือนนี้

    วันที่ 3 และ 4 กรกฎาคม 1973

    หลังจากกำแพงน้ำได้เข้ามาท่วมเมืองและกวาดไปสิ้น ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นบางสิ่งดูเหมือนเป็นการไหลของน้ำที่ไม่สิ้นสุดอย่างต่อ เนื่องไปทิศตะวันตก เพราะข้าพเจ้าได้เห็น เซนต์หลุย เป็นหนองน้ำและจมน้ำหมดสิ้นจากกระแสน้ำที่พัดไปทั่ว ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าน้ำนั้นน่าจะเชื่อมต่อกับแม่น้ำมิสซิปซิปปี้ตรงไหนสัก แห่ง และเคลื่อนลงไปทิศใต้ เนื่องจากแม่น้ำมิสซิปซิปปี้เอ่อท่วมล้นตลิ่งอย่างมาก อีกครั้งที่ได้เห็นน้ำทะลักไปทิศใต้หลายวัน ข้าพเจ้าตามดูไม่ทันว่ามันเคลื่อนไปยาวเท่าไรแต่รู้ว่ามันกว้างขึ้น ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นทะเลสาปมิชิแกนทั้งหมดจะเหือดหายไปหมด ห่างไกลออกมาจากเมืองไปยังทิศใต้ข้าพเจ้าเห็นพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำ และไม่ถูกน้ำยกเว้นแผ่นดินไหวทำลาย และหลายปีหลังจากนิมิตครั้งแรกนี้ก็สามารถระบุได้ว่าของชิคาโกแถวชานเมือง ของวูดริจ คือพื้นที่หนึ่งที่จะเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดที่ไม่ถูกน้ำท่วม ข้าพเจ้าเห็นท่อระบายน้ำที่ต่าง ๆ และมีน้ำพัดเหนือท่อและภายในท่อด้วย ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นอาหารกระป๋องจำนวนมากที่ฉลากหลุดออกแต่ไม่เสียหายจมอยู่ ในน้ำและโคลน

    ข้าพเจ้ายังได้เห็นศพ ทั้งมนุษย์และสัตว์ลอยน้ำทุกที่ เศษซากศพที่กระจายเป็นชิ้นมีอยู่เต็มในพื้นที่ภัยพิบัติ แต่ยังดีที่ศพเหล่านี้ส่วนมากจะถูกฝังในกระแสของโคลนที่ไหลใต้น้ำ เมื่อน้ำลดลงข้าพเจ้าเห็นหลายศพติดอยู่ตามกิ่งไม้หรือรากของต้นไม้ไปทั่ว พื้นที่ที่พังทลาย น้ำจะลดจริง ๆ หลังจากแผ่นดินไหวแท้จริงผ่านไปแล้วเราจะเห็นจะทะเลโคลนและเกาะแก่งลี้ภัย มากมาย และกลิ่นเหม็นคาวคลุ้งของเนื้อที่เปื่อยย่อย พืชผักที่เปื่อยย่อยสลายและน้ำนิ่งเน่าเหม็น อากาศชื้นแฉะต่าง ๆ ล้วนยากจะทนได้

    เกือบในทันทีทันใดหลังจากความเลวร้ายที่สุดของการทำลายล้างผ่านไป ในนิมิตข้าพเจ้าได้เห็นเครื่องบินอเมริกาบินข้ามหัวเราไปทิ้งเสบียงโดยร่ม ชูชีพที่ต่าง ๆ ให้ผู้รอดชีวิตที่ติดค้างอยู่ ต่อมาเครื่องบินก็หยุดบินไม่มาอีก ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม

    หลังจากน้ำท่วมได้พื้นที่ต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นผู้รอดชีวิตโผล่ออกมาจากน้ำ บ้างเป็นผู้ใหญ่และเด็กจำนวนมาก มีคนเจ็บและเปลือยกายครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดอยู่รวมกันและอยู่ในอาการช๊อค พวกเขาได้ถูกรับไว้โดยชุมชนคริสเตียนต่าง ๆ และได้เสื้อผ้า การดูแลให้ที่อาศัย ข้าพเจ้าไม่ทราบชัดเจนนักในเวลานั้น แต่วันนี้รู้ว่าชุมชนหรือที่พักพิงเหล่านั้นถูกจัดหามาจากสิ่งต่าง ๆ ที่พังทลาย และจะมีการรวบรวมประชาชนโดยคริสเตียนที่ได้จัดเตรียมล่วงหน้า เมื่อข้าพเจ้าเห็นเด็ก ๆ จำนวนมาก ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แต่แปลกใจว่าเด็กอายุสามหรือสี่ขวบรอดชีวิตจากน้ำได้ อย่างไรแต่ผู้ปกครองนั้นไม่รอด พระเจ้าบอกข้าพเจ้าภายหลังว่า “เพราะพวกเขายังไร้เดียงสา”

    ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นคนอื่น ๆ โผล่ออกมาจากกลุ่มผู้รอดชีวิต พวกคนเหล่านั้นที่ต่อมาข้าพเจ้าขอเรียกว่าเป็น “กองโจรปล้นสะดม” พวกคนเหล่านี้หวังจะหาทรัพย์สินที่จะหาได้จากศพต่าง ๆ จะเอาแหวน ทองและเครื่องเพชรพลอยแม้กระทั่งฟันทอง พวกนี้มีอาวุธและจะมายังชุมชนที่รอดชีวิต จะใช้กำลังบังคับ ข่มขืน ทรมานและฆ่าคนอื่นตามที่พวกเขาต้องการ ไม่มีรัฐบาลหรือตำรวจที่จะเข้ามาดูแล พวกคนเหล่านี้จะทำตามสัญชาติดิบของตน ข้าพเจ้านึกถึงทันทีและตอนนี้ว่าคริสเตียนเหล่านั้นจำเป็นต้องตระเตรียมใน การป้องกันตนเอง

    จากที่ข้าพเจ้ารู้นั้นดูเหมือนจะบอกให้รู้ว่าเกือบหนึ่งปีก่อนที่กองทัพจะเข้ามา และเมื่อพวกทหารมาถึงก็พบเห็นประชาชนมีหนวดเครารุงรัง อ่อนล้า สกปรก หิวโซและเสื้อผ้ารุ่งริ่ง พวกกองทัพจะเข้ามาปลดอาวุธพวกโจรโดยเร็วและฆ่าพวกนี้ทั้งหมดทันทีเมื่อเห็น และก็เคลื่อนกำลังต่อไป ลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้ข้าพเจ้างงตอนที่ได้นิมิต ข้าพเข้าไม่เข้าใจว่าทำไมกองทัพอเมริกาถึงเดินทางด้วยเท้า ทำไมพวกเขาถึงเดือดดาลนัก ทำไมพวกเขาถึงยิงพวกโจรทิ้งในทันทีโดยไม่ไต่สวนทางกฎหมาย

    ข้าพเจ้ามองอยู่เหนือชิคาโกบริเวณพื้นที่ที่น้ำลดแล้วและมีโคลนแห้ง และก็ประหลาดใจคือทะเลสาปมิชิแกนหายไป มีเพียงแอ่งทะเลสาปเนินเขาแห่งหนึ่งเหลืออยู่ให้มองเห็นได้ โคลนแห้งเกาะอยู่ทุกที่กระจายไปทั่วอย่างกว้างขวางของพื้น ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองใหญ่ กระดูกสีขาว ๆ ของศพคนที่ตายมานานโผล่ในหลาย ๆ ที่ ความสูญเสียของคนที่ตายนั้นมากเกินกว่าจะประมาณได้ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีหญ้า มีเพียงความตายเงียบสงัด ไปทางทิศเหนือข้าพเจ้าเห็นซากปรักหักพังของอาคาร ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ว่าที่ไหนก็ถูกทิ้งร้างด้วยโครงซากของบ้านและตึก ที่พังทลาย

    ข้าพเจ้ามาถึงข้อสรุปเกี่ยวกับหายนะในอนาคตนี้ว่า จากสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับอนุญาติให้เห็นนี้ในหลาย ๆ วันของเดือนกรกฎาคม 1973 วันแห่งแผ่นดินไหวนี้จะเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆอากาศอบอุ่น แผ่นดินไหวจะโจมตีในช่วงสาย ๆ ใกล้ ๆ เที่ยง ข้าพเจ้าแน่ใจว่ามันจะเกิดในเดือนของฤดูร้อน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าจำไม่ลืมคือเราควรจะสังเกตุดูพวกนก เมื่อเราเห็นมันอพยพไปนั้นแผ่นดินไหวก็ใกล้จะเกิดแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกว่าหายนะนี้จะโจมตีในช่วงปลายสัปดาห์แต่ก็ยังไม่แน่ใจใน เรื่องนี้ พระเจ้าไม่ได้บอกวันเวลาที่แน่นอนตายตัวแก่ข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้ารู้ว่ามันใกล้แล้วแต่ก็ยังไม่ถึงเวลา ข้าพเจ้าสังเกตุได้ว่าหลังจากน้ำท่วมและพื้นแผ่นดินแห้งแล้ว พื้นที่ทั้งหมดจะปกคลุมไปด้วยความตายอันเยือกเย็น ไม่มีลมพัด ความร้อนและกลิ่นเหม็นคลุ้งทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นความเศร้าสลด มีผู้รอดชีวิตเล็กน้อยที่ซ่อนตัวในห้องเพื่อหนีจากกลิ่นเหม็นคลุ้ง ความเงียบจะน่ากลัวอย่างยิ่ง ดูเหมือนราวกับว่าทั้งโลกนี้หยุดหายใจทีเดียว

    ในวันที่ 5 กรกฎาคม 1973 ข้าพเจ้าไม่สามารถทนรับนิมิตได้อีกและร้องต่อพระเจ้าว่าเอามันไปจากข้าพเจ้า และพระเจ้าก็ได้นำมันไปจากข้าพเจ้า ต่อมาข้าพเจ้าก็กลับมาหาพระเจ้าอีกและถามว่าเมื่อไรสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ข้าพเจ้าได้รับนิมิตของเลข 17 โดยตัวเลขเกิดมาจากสิ่งที่ดูเหมือนปุยเมฆสีขาว ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามันจะหมายถึง 17 วัน หรือสัปดาห์ หรือปี หรือศตวรรษ ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ นับแต่ปี 1973 ผ่านมาพระเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ให้เรามีความเข้าใจที่ลึกขึ้นเกี่ยวกับหายนะโดยตลอด วันนี้เรารู้ว่าชิคาโกจะเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวและมีรัศมีทำลายล้าง ประมาณ 300 ไมล์ เราเชื่อว่ามันจะเป็นแผ่นดินไหวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เมืองต่าง ๆ จะพินาศราบเรียบโดยแผ่นดินไหวนี้ ทั้งชิคาโก อิลลินอยส์ เซนต์เปาโล มินนิโซต้า มิลวากี้ วิสคอนซิน เซนต์หลุย มิสซูรี่ หลุยวัลลี่ เคนตั๊กกี้ อินเดียนาโปลิส อินเดียน่า ดีทรอยส์ มิชิแกน โทเลโด เคลบแลนด์ โคลัมบัส และซินซิเนติ โอไฮโอ และเมืองแคนซัส มิสซูรี่ ออนตาริโอตอนเหนือ แคนาดาและบางส่วนของคิวเบกตอนใต้ แคนาดาจะถูกทำลายโดยน้ำจากทะเลสาปใหญ่ในขณะที่มันไหลย้อนกลับเหมือนที่มัน เป็นกำแพงน้ำกวาดชิคาโกและพื้นที่ต่าง ๆ พระเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สำแดงว่าเสียงของการแตกร้าวของพื้นดินหรือ รอยเลื่อนจะรุนแรงจนทำให้กระจกหน้าต่างที่อยู่ใน เดส มอยเนส ไอโอวา ที่ห่างจากชิคาโก 316 ไมล์แตกละเอียด เมื่อแผ่นดินไหวโจมตีชิคาโกประชาชนจะถูกน๊อคล้มลงกับพื้น ในดีทรอยส์ต้นไม้จะถูกขุดออกมาจากพื้นดินใน เซนต์หลุย มิสซูรี่ ที่ห่างจากชิคาโก 269 ไมล์ เสียงแผ่นดินแตกนี้จะได้ยินไปไกลถึง เดนเวอร์ โคโลราโด จะว่าไปแล้วทั้งทวีปจะถูกเขย่าทั้งหมดก็ได้


    ข้อ สังเกตุ : ขอเน้นย้ำนะครับว่าทั้งหมดคือคำพยากรณ์เท่านั้น และผมไม่มีความประสงค์หรือสร้างความตื่นตระหนกด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้นขอให้เวลาและตัวของท่านผู้อ่านเองจะเป็นผู้ตัดสินครับ***

    โพสต์โดย What's going on in America
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Subliminal Messages 11 of.......คำพยากรณ์ 2

    เรา จะยังอยู่กับเรื่องคำพยากรณ์กันอีกซักหน่อยครับ ก่อนที่จะถึงตอนจบของเรื่อง "Subliminal Messages" ในอีก 2-3 โพสต์ข้างหน้า ที่ผมจะนำเสนอ SM ของการทำลายล้างครั้งใหญ่อีก 2 เหตุการณ์ ที่ซ่อนอยู่ในธนบัตรอีก 2 ใบของสหรัฐ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง จะเป็นเหตุการณ์ที่จะพลิกประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ไปอีกหน้าหนึ่งทีเดียวครับ


    ใน คำพยากรณ์ที่แล้วมีบางส่วนที่ผู้พยากรณ์กล่าวถึงเรื่อง "สงครามโลกครั้งที่ 3" และการล่มสลายของ "สหรัฐอเมริกา" ที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ดังนั้นผมจะนำคำพยากรณ์ในส่วนที่เหลือมาใส่ไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดครับ โดยผมจะแบ่งเป็น 2 โพสต์ โดยในโพสต์ที่ 2 (หรือ Subliminal Messages 12) จะลงไปในรายละเอียดของสงครามโลกครั้งที่ 3 หากท่านไม่สนใจในรายละเอียดก็ข้ามไปในโพสต์ที่ 13 ของเรื่องนี้เลยครับ

    หมายเหตุ : ขอเน้นย้ำนะครับว่าทั้งหมดคือคำพยากรณ์เท่านั้น และผมไม่มีความประสงค์หรือสร้างความตื่นตระหนกด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้นขอให้เวลาและตัวของท่านผู้อ่านเองเป็นผู้ตัดสินครับ***


    การบุกอเมริกาหลังแผ่นดินไหวชิคาโก สงครามโลกครั้งที่ 3 และการล่มสลายของอเมริกา
    INVASION OF THE USA : Chuck Youngbrandt, 1977
    โดย ชัค ยังก์แบรนท์ ปี ค.ศ.1977 แปลโดย 1p2m

    กลางปี 1977รอยเลื่อนแผ่นดินไหวชิคาโก อิลลินอยล์

    ช่วง กลางปี 1977 ข้าพเจ้าได้พบพี่น้องในพระคริสต์ที่ได้บอกเล่าบางสิ่งในช่วงที่เขาทำงาน ก่อสร้างในชิคาโก เป็นงานตอกเสาเข็มสร้างฐานรากของอาคารมารินา พวกเขาได้พบรอยเลื่อนแผ่นดินแตกที่มีแนวพาดจากตะวันออกไปตะวันตก ข้าพเจ้าตกตะลึงอย่างมากเพราะเคยรู้เรื่องรอยเลื่อนนี้ในปี 1973 ซึ่งต่อกับรอยเลื่อนที่พวกเขาบอกข้าพเจ้า


    กลางปี 1977 นิมิตแผ่นดินไหวชิคาโก พวกเราได้พบและพูดคุยกับคริสเตียนจำนวนมากที่ได้รับนิมิตเกี่ยวกับแผ่นดิน ไหวทำลายล้างชิคาโก หรือนิมิตของกำแพงน้ำยักษ์พัดกวาดเมืองชิคาโก นักประกาศคนหนึ่งบอกว่าช่วงกลางปี 1977 เขาอยู่ในชิคาโกขณะกำลังอธิษฐานนั้นก็ได้รับนิมิตเป็นภาพของตึกที่เขาอยู่ และกำแพงตึกก็แตกร้าว ทุกสิ่งพังทลายลงมา เขาได้ยินเสียงดังปึงปัง และเห็นท่อน้ำแตกออกอย่างรุนแรง ต่อมาเขาได้ยินเสียงคลื่นน้ำและทันใดนั้นก็มีกระแสน้ำพัดถล่มกำแพงตึกด้าน ทิศตะวันออก เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่บางคนที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็แนะนำเขาให้มาพบเรา และเขาก็มา สิ่งที่กระแทกเขานั้นเหมือนกับกำแพงน้ำพัดมาซึ่งมีแรงดันสูงเข้ามาในท่อน้ำ ในเมืองขนาดทำให้ท่อน้ำแตกได้

    Vision Of The Invasion Of The United States Of America
    นิมิตเกี่ยวกับการบุกอเมริกา

    ชัค ยังก์แบรนท์ ประมาณวันเวลาว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ชิคาโก และหลังจากนั้นไม่นานก็จะมีการบุกรุกขึ้นอเมริกา วันที่ 28 มีนาคม เฝ้าาดูเหตุการ์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ วันที่ 3 มิถุนายน 67 วันหลังจากเหตุการณ์ใหญ่ที่เขย่ารัฐต่าง ๆ
    วันที่ 5 มิถุนายน วันหนึ่งในฤดูร้อน ตอนเที่ยงวัน แถบตะวันตกกลางจะถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เท่า ที่เคยมีมา หลังจากแผ่นดินไหวจะเกิดน้ำท่วมกลายเป็นทะเลสาปใหญ่ บาง อย่างยังไม่พังทลาย ชุมชนคริสเตียนทั้งหมดดูเหมือนเป็นเกาะท่ามกลางทะเลแห่งการทำลายล้าง ผู้รอดชีวิตต่างตื่นตระหนก คริสเตียนหลายคนบาดเจ็บ ต้องรักษาตนเองและหิวอาหาร ในตะวันตกกลางหลังจากแผ่นดินไหวผู้รอดชีวิตส่วนมากเป็นเด็ก แผ่นดินไหวทำลายเมืองชิคาโก อิลลินอยล์ และแถบตะวันตกกลาง (นี้จะเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ข่าวสารจะถูกเตือนไปทั่ว) และหลังจากนั้น 37 วัน รัสเซีย จีน และญี่ปุ่น จะบุกโจมตี ใครก็ตามที่อยู่ภายในพื้นที่ที่มีฐานทัพอากาศ ฐานทัพเรือ หรือฐานยิงขีปนาวุธ ควรรีบออกมาจากพื้นที่เหล่านี้ พระเจ้าจะเตือนเรา ส่วนใหญ่มาทางฑูตสวรรค์ และผู้ที่ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ที่ได้รับข่าวสารจากพระคริสต์โดยตรง เรา(อเมริกา)จะไม่สามารถหรือไม่มีทางชนะสงครามนี้ได้เลยเพราะพระเจ้าได้ ต่อสู้กับชนชาติ(อเมริกา)นี้ เราต้องถ่อมใจและยอมรับความพ่ายแพ้ถูกยึดครองดินแดน คนจำนวนมาก


    วันที่ 4 สิงหาคม ฑูตสวรรค์ของพระคริสต์ได้เตือนเด็ก ๆ(หมายถึงคนทั่วไป) ให้หนีออกมาจากเมืองต่าง ๆ
    วันที่ 11 สิงหาคม รัสเซียและจีนจะโจมตีอเมริกาด้วยเทอร์โมนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ

    ฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 21 เดือนตุลาคม สงครามภายใน
    ทหารราบ 132,427 นายจะบุกขึ้นฝั่งตะวันออกที่หาดสลอเทอร์ อ่าวเดลาแวร์ และรุกอย่างรวดเร็วสู่ทางหลวงที่ 13 ขึ้นตามแนวคาบสมุทรไปยังวิลมิงตัน เมืองเดลาแวร์ แต่หลายชั่วโมงก่อนหน้านั้น กองกำลังติดอาวุธใหญ่กลุ่มหนึ่งจะขึ้นฝั่งเวอร์จิเนียด้วยความกล้าเพื่อ สร้างความสับสน กองกำลังนี้จะกระจายข้ามไปยังชานเมืองและสร้างความพินาศ ทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยไฟทำลายล้างไปทั่ว กองกำลังนี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหัวหน้ากองทัพของอเมริกาออกจากหาด สลอเทอร์ ซึ่งเป็นจุดหลักของการขึ้นฝั่ง หมอกหนาทึบและการปฏิบัติการอย่างยอดเยี่ยมของกองกำลังรัสเซีย ประมาณ 48 ชั่วโมงก่อนหน้าที่กองทัพอเมริกาจะรู้ว่าหาดสลอเทอร์นั้นคือจุดหลักของการ บุก

    ที่ หาดสลอเทอร์ ทหารราบรัสเซียจะรุกชายฝั่งอย่างรวดเร็วข้ามไปยังเมืองเล็ก ๆ ของมิลฟอร์ด เดลาแวร์ จากจุดนี้รถถังและรถบรรทุกกองพลและปืนใหญ่เคลื่อนที่ได้ก็ยังคงเต็มเนื่อง แน่น จากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเคลื่อนที่อย่างเร็วไปที่ทางหลวงที่ 13 เข้าสู่โดเวอร์ เมืองหลวงของเดลาแวร์ภายในชั่วโมงเดียวโดยไม่มีการยิงต่อสู้ จากนั้นที่ใกล้ ๆ รอยเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 301 และ 40 อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองวิลมิงตัน เดลาแวร์ กองรถถังอเมริกา (M60) จะปะทะกับกองรถถังรัสเซียสะเทินน้ำสะเทินบน (T-62) ที่นำฝูงมา

    วันที่ 23 ตุลาคม ทหารอเมริกาประมาณ 1.8 ล้านนายจะเข้าต่อสู้ต้านกองกำลังรัสเซียที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รอบ ๆ เมืองวิลมิงตัน เดลาแวร์ แม้ว่ากองกำลังอเมริกาจะต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและไม่ยอมแพ้ แต่กองกำลังรัสเซียก็ยึดที่มั่นของตนไว้ได้จนทำให้ขวัญของคนอเมริกาเสียไป หนึ่งสัปดาห์หลังจากการต่อสู้อย่างหนักหน่วง กองกำลังรัสเซียจำนวนมากมหาศาลจะเริ่มการบุกอย่างคาดไม่ถึงสู่จุดศูนย์กลาง กองกำลังอเมริกาจนกระจัดกระจายไป และบุกทะลุทะลวงสู่ชานเมือง ความโกลาหลวิตกวุ่นวายจะกวาดต้อนกองทัพอเมริกาด้วยกองกำลังทิ้งระเบิดจำนวน มาก ความพินาศกำลังเข้ามา รัสเซียจะบุกไปทิศตะวันตกขณะที่กองทัพอเมริกาส่วนหนึ่งจะถอนกำลังจากการ ป้องกันวอชิงตันดีซี


    แต่ จุดประสงค์ของรัสเซียไม่ใช่วอชิงตันดีซี แต่เป็นฟิลาเดเฟีย เพนซิลวาเนีย และก็ขึ้นไปทางทิศเหนือ กองทัพรัสเซียจะโอบล้อมฟิลาเดเฟียและรอใกล้ ๆ กองทัพอเมริกาที่มีประมาณ 1 ล้านคน รัสเซียทำการขนกองกำลังทางอากาศและยุทธปกรณ์ตามมาเป็นจำนวนมาก การป้องกันของอเมริกาจะล้มเหลวอย่างรวดเร็วภายใต้การกดดันอย่างต่อเนื่องจา กรัสเซีย ส่วน วอชิงตันดีซี จะถูกผ่านเลยไป

    การ ต่อสู้อย่างสุดกำลังของกองกำลังอเมริกาก็เริ่มเชื่องช้าเนื่องจากเห็นว่า ไม่สามารถหยุดยั้งการรุกคืบหน้าของรัสเซียได้ และกองกำลังทิศใต้ก็ถูกทำลายลง รัสเซียและเยอรมันตะวันก็รุกอย่างรวดเร็วผ่านเวอร์จิเนียไปสู่นอร์ทแคโรไล น่า หน่วยกองกำลังพิทักษ์ชาติก็ต่อสู้อย่างยิ่งยวดในทิศใต้ทำให้กองกำลังรัสเซีย ช้าลง และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวหฤโหด สเบียงถูกตัดขาดทำให้กองกำลังรัสเซียก็หยุดชะงักในแถบภูเขาอัลปาเชี่ยน ช่วงกลางระหว่างพิตส์เบิร์กและแฮริสเบิร์ก รัสเซียได้หยุดอยู่ที่ทิศใต้ซึ่งผ่านเมืองฟอร์เรนต์เล็กน้อย แถบเซาท์แคโรไลน่าเพื่อรวบรวมกำลังและเสบียง ชายฝั่งตะวันตก หนึ่งเดือนหลังจากการบุกของรัสเซียด้านชายฝั่งตะวันออก


    จีนและญี่ปุ่นพร้อมด้วยการช่วยเหลือของกองทัพเรือรัสเซีย จะบุกชายฝั่งตะวันตกตลอดแนวโดย มีจุดหลัก ๆ 3 จุด จุดแรกคือกองกำลังจีนจะขึ้นฝั่งที่อ่าววิลล่าปา ในวอชิงตัน จุดที่สองกองกำลังใหญ่จะขึ้นฝั่งแถว ๆ ตอนใต้ของซานฟรานซิสโก และจุดที่สาม จีนและญี่ปุ่นจะขึ้นฝั่งตอนใต้ 5 ไมล์ใกล้เขตแดนเม็กซิโกแถว นอร์ทบาจา แคลิฟอร์เนีย การป้องกันชายฝั่งตะวันออกจะขาดไปเพราะกองกำลังทางอากาศและภาคพื้นดินถูกส่ง ไปยังชายฝั่งตะวันออก เป็นการยากอย่างมากที่จะควบคุมกองกำลังจีนและญี่ปุ่นที่มาหลายทิศทาง


    นิมิต ซานฟรานซิสโก ทหารจีนไม่ได้รับคำสั่งให้มีเชลย ดังนั้นพลเมืองและทหารอเมริกันจำนวนมากจะต้องถูกฆ่าในขณะที่กองทหารจีนได้ทำการบุกเข้ามา พระเจ้าบอกข้าพเจ้าว่าได้เตือนคริสเตียนจำนวนให้ออกไปจากซานฟรานซิสโกไปยัง ทิศเหนือและตะวันออก แต่พวกเขาไม่สนใจคำเตือนของผู้พยากรณ์และนั่นทำให้พวกเขาต้องอยู่ในพื้นที่ เวลาที่มีการบุกรุกและต้องตกอยู่ในพื้นที่ที่มีกองกำลังจีนที่ล้อมรอบและถูก ตัดขาดจากกองกำลังอเมริกาจากส่วนกลาง กองกำลังจีนแข็งแกร่งมากพอที่จะกดดันกองกำลังอเมริกาให้อยู่แต่ตะวันออกและ ในเวลาเดียวกันก็วางกับดักทหารและข่มขวัญพลเมืองไปด้วย

    คริสเตียนจำนวนมากมารวมกันอธิษฐานและของการช่วยเหลือจากพระเยซู พระเจ้าได้ให้ข้าพเจ้าเห็นนายพลดาวเดียวคนหนึ่ง ชื่อว่า จอห์น เป็นพวกคริสเตียนกลุ่มคาริสเมติก พระเยซูได้บอกกับจอห์นให้กล่าวว่า “เรียกพวกทหารมารวมกันและอธิษฐาน” นายพลจอห์น สั่งหน่วยทหารที่เหลืออยู่ประมาณ 5,200 คนหลังจากการต่อสู้อย่างหนักไม่กี่สัปดาห์ และสั่งให้ถอนกำลังให้ถอยออกมา 30 ไมล์จากตะวันออกไปยังแนวป้องกันใหม่

    ข้าพเจ้า เห็นนายพลจอห์น พูดกับทหารที่อยู่เต็มห้อง โดยยืนบนโต๊ะในอาคารแห่งหนึ่งที่เขาได้บัญชาการอยู่ เขากล่าวว่า “เหตุที่สงครามนี้เกิดขึ้นเพราะว่าเราได้ถอยห่างจากการเชื่อฟังพระเจ้า ข้าพเจ้าของสั่งให้ทุกคนไม่ว่าท่านจะเป็นคริสเตียน ยิว หรือเป็นอะไรก็ตาม ให้คุกเข่าและอธิษฐานต่อพระเยซูเพื่อขอการช่วยเหลือ ” มีนายพันคนหนึ่งได้คัดค้านว่า เขาไม่ได้เชื่อในพระเยซู และพวกเขาควรจะสนใจที่สงคราม นายพลจอห์นพูดเสียงดังชัดว่า “ถ้าทหารคนใดไม่เชื่อฟังคำสั่งนี้จะต้องถูกนำตัวออกไปและถูกยิง” ทุกคนจึงเงียบและทุกคนจึงคุกเข่าลงและอธิษฐานต่อพระเยซู


    พระ เยซูบอกกันนายพลจอห์นว่า “จอห์น , เราได้มอบชัยชนะเหนือทหารจีนแก่ท่านเพราะเห็นแก่เด็ก ๆ ของเรา จงสั่งกองกำลังออกไปยังสนามรบและร้องเพลงสรรเสริญพระเยซู ไว้ชีวิตและปฏิบัติต่อทหารจีนที่ยอมแพ้อย่างดี แต่ถ้าเขาต่อสู้ก็อย่าให้พวกเขามีชีวิตต่อไป”
    คำสั่งของจอห์นสร้างความตกตะลึงกับทหารเหล่านั้น เขากล่าวว่า “พระเยซูได้มอบชัยชนะแก่พวกเราแล้ว และเราจะบุกโจมตีโดยพระเจ้า” มีบางสิ่งอยู่ในจิตวิญญาณของเขา ใบหน้าหลายคนมีหวัง คำสั่งได้ถูกส่งไปและเป็นการสื่อสารที่ไม่เชื่อไปยังฐานต่าง ๆ ที่หน่วยต่าง ๆ กำลังเครียดและเหนื่อยล้าที่ขาดการสนับสนุนทางอากาศและปืนใหญ่ และต้องพบกับกองกำลังจีนประมาณ 2 แสนคน


    กอง กำลังทั้งหมดเคลื่อนที่ไปตามถนนสายหลักเป็นกลุ่มเดียว เคลื่อนย้ายตรงไปยังกองกำลังจีนซึ่งดูเหมือนกำลังไปฆ่าตัวตาย เครื่องบิน MIG โผ่ลมาในอากาศและยิงจรวดโจมตี แต่ไม่ความสูญเสียเกิดขึ้น ยิงปืนใหญ่ของจีนก็ยิงเป็นแนวป้องกันแต่ก็ไม่มีผลอะไร กองกำลังได้โจมตีกองกำลังของจีนจากแนวด้านหน้าซึ่งทำให้กองกำลังจีนเสียขวัญ ยิงปืนและอาวุธต่าง ๆ และก็วิ่งหนี ภายในไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็เข้าจับทหารจีนได้มากกว่า 1 แสนคนแต่ส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายเกือบหมดไม่มีหน่วยใดเหลืออยู่ และได้ปลดปล่อยพวกคริสเตียนที่ติดอยู่ในพื้นที่ นายพลจอห์น ได้พูดอย่างดุดันว่าพระเยซูได้บอกเขาว่าให้แจ้งกับพวกเขาว่าให้ขึ้นเหนือและ ตะวันออก


    และพระเยซูได้บอกกับจอห์นหลังจากสงคราม “จอห์น ,เราได้มอบประชาชาตินี้ไว้ในมือพวกเขา แต่เราจะไม่ละทิ้งเด็ก ๆ ของเรา” นับแต่ครั้งแรกมานั้น กองกำลังจีนก็จะไม่สนใจต่อคำสั่งให้ฆ่าทหารและพลเรือน


    นาย พลจอห์น เป็นทหารแห่งการอธิษฐาน เมื่อเขาอธิษฐานก็จะสร้างปัญหาให้กับกองกำลังที่บุกรุกเข้ามาที่จะต้องจ่าย ราคาสูงยิ่งสำหรับพวกเขา แต่จริง ๆ แล้วเขาดำเนินชีวิตเพื่อจะได้เห็นคำสัญญาของพระเจ้าที่จะเป็นจริงหลังจาก เสร็จสิ้นงาน

    The General War
    สงครามโดยทั่วไป

    หลังจากกองทัพอเมริกาได้เข้าสู่แถบภูเขาอัลปาลาเชี่ยนเพื่อต่อต้านกดดัน รัสเซีย และไปยังแถบภูเขาร๊อกกี้เพื่อต่อต้านกองกำลังจีนและญี่ปุ่น ก็เข้าสู่สภาวะยุติสงครามชั่วคราวอันเนื่องจากฤดูหนาวหฤโหด โดยทั้งสองก็พักเพื่อซ่อมแซมความเสียหาย รัฐบาลอเมริกาได้เริ่มต้นเกณฑ์ทหารจำนวนมาก ตั้งแต่เด็กอายุ 15 ปีจนถึงผู้ใหญ่อายุ 55 ปี และคริสตจักรก็ไม่เรียกร้องให้คนในชาติอธิษฐานและกลับใจอีกด้วยแต่เรียกร้อง ให้เข้าสู่สงครามและต่อสู้ ผู้มีอำนาจในคริสตจักรก็ท้าทายให้คนอเมริกันเอาชนะสงครามนี้โดยกล่าวว่า “พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา” จริง ๆ แล้วแม้พระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแต่เราจะไม่สามารถชนะสงครามนี้ได้เลย เพราะพระเจ้าได้ต่อสู้ชนชาตินี้


    พระ เยซูได้บอกให้เราเตือนพวกท่านว่าโดย ปกติแล้วผู้ที่ต่อสู้จะต้องต้องตาย นั้นเราควรยอมแพ้และใช้ชีวิตเพื่อรับใช้พระคริสต์ นี่คือกฎปกติ แต่ในทุก ๆ กรณีแล้วเราต้องค้นหาด้วยการอธิษฐานด้วยใจเพื่อจะได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ พระเจ้าต้องการให้เราทำ การต่อต้านกฎของผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมานั้นคือการไม่รักษากฎหมาย ดังนั้นเราต้องกลับมาหาพระเจ้าในการอธิษฐานในเรื่องที่เราถูกแจ้งผ่านทางพี่ น้องของเรา อันดับแรกการโจมตีจากการบุกรุกด้วยนิวเคลียร์ไปสู่การล่มสลายของสหรัฐ ชัยชนะทางทหารเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราถูกมอบไว้ในมือของกองกำลังคอมมิวนิสต์ที่บุกเข้ามา การต่อต้านผู้บุกรุกด้วยความหวังว่าจะชนะก็เหมือนกับการต่อต้านพระประสงค์ พระเจ้า ไม่มีหนทางจะชนะไม่ว่าจะมองจากด้านไหน


    ต่อมาก็คือ ทั้งพวกพ่อและแม่ก็เก็บตัวลูกของตนไว้ที่บ้านไม่ออกมาร่วมกับกองทัพ ไม่มีอาสาสมัครเพื่อเป็นกองกำลัง และถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ปกครองโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์ ก็ไม่ควรจะทำอะไรที่จะให้ตัวเองต้องมีส่วนร่วมกับกองกำลังที่บุกเข้ามา อย่ายกมือต่อสู้กับชาวบ้านแม้จะกลัวตาย

    ถ้าคุณถูกเกณฑ์ไปก็ควรไปที่โบสถ์เพื่ออธิษฐานและแสวงหาพระเจ้า ถ้าพระเยซูเห็นชอบกับการเกณฑ์นี้ก็จงไป ทหารที่เป็นคริสเตียนยังคงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอและถืออดอาหาร และไปโบสถ์เป็นประจำ คุณต้องพยายามอย่างเต็มที่ทั้งทางกายและจิตวิญญาณในการร่วมกับกองกำลังถ้า พระเยซูส่งคุณไป ถ้าหน่วยของคุณถูกตัดขาดก็ให้พยายามกลับมาที่ฐาน ถ้าเป็นเป็นไปได้ก็ไปยังหุบเขา หรือป่า หรือภูเขา และต่อสู้ต่อไปแม้ว่าจะพ่ายแพ้แล้วในความเป็นจริง หรือกล่าวว่าอย่ายอมแพ้ ไม่มีสนธิสัญญาสันติหรือยอมแพ้ใด ๆ สงครามจะดำเนินต่อไปและชนะในที่สุด ถ้าคุณยอมแพ้และไม่สามารถหนีไปหลบซ่อนได้ ให้รู้ว่าพระเจ้าอยู่กับท่าน นึกถึง โรม 8:28

    จะ มีบางคนควรหลีกเลี่ยงการเข้ากองกำลังทหาร แต่บางคนก็ไม่ควร บางคนควรจะต่อสู้ต่อไป และบางคนก็ควรยอมแพ้ ในบางกรณีเราต้องจำไว้ว่าเราเป็นกายของพระคริสต์ที่ต่างกันและต้องถ่อมใจของ เรา แสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเราในการอดอาหารและอธิษฐาน เชื่อฟังพระเยซูเหนือความรู้สึกของเขาและเหนือคำสั่งของมนุษย์


    พลเมือง จะถูกแนะนำให้ไม่ต่อต้านผู้บุกรุก อธิษฐานสำหรับการปกป้องจากพระเจ้าต่อครอบครัวของท่าน บ้านของท่าน และให้ความรักของพระเยซูเป็นกำแพงล้อมรอบคุณ ง่ายที่จะตายเพื่อพระคริสต์แต่ะไม่ง่ายที่จะมีชีวิตเพื่อพระคริสต์ รับการทรงเรียกและมีชีวิตเพื่อรับใช้พระเจ้า ทั้งผู้ที่เป็นทหารและไม่ใช่ เมื่อทหารรัสเซียได้โจมตีต่อการป้องกัน อย่ายอมแพ้ต่อกองกำลังที่โจมตี พวกเขาไม่ได้รับคำสั่งให้มีเชลยแต่จะฆ่าทุกคนที่ยอมแพ้

    The Arm Of Flesh Will Fail
    ทหารฝ่ายเนื้อหนังจะพ่ายแพ้

    พระเยซูได้แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นนิมิตของสมรภูมิใหญ่และบอกว่า “ทหารฝ่ายเนื้อหนังจะพ่ายแพ้ในที่สุด” นั่นคือตลอดช่วงเวลาที่พระเจ้าได้แสดงต่อข้าพเจ้า หลังจากฤดูหนาวหฤโหดได้เข้ามาแล้ว ก็มีการรวบรวมกองกำลังที่เหนื่อยล้า และขยายเส้นทางเสบียง มีการเดินหน้าต่อต้านกองกำลังอเมริกาทุก ๆ แนว ขณะที่ฤดูหนาวสร้างความลำบากต่ออเมริกาก็สร้างความลำบากต่อรัสเซีย ยุโรปตะวันออก จีน และญี่ปุ่นด้วย ขณะที่ข้าพเจ้ามองเห็นอเมริกา ก็ได้เห็นฮีโร่คนหนึ่งพยายามจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้สังคมของเรากลับมา ในเมืองเล็ก ๆ ต่าง ๆ ที่ไม่ถูกทำลาย โรงงานและโกดังต่าง ๆ เริ่มเปิดออกและเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้งสติปัญญา ความรู้ แหล่งข้อมูล ต่าง ๆ ก็ถูกนำมารวมกันเพื่อผลิตอาวุธทันสมัยจำนวนมาก รถถังชนิดใหม่ ปืนใหญ่ เครื่องบินรบ จรวด กระสุน และอาวุธเล็ก ๆ ต่าง ๆ นำออกมาที่ศูนย์ฝึกที่น้ำท่วมและกองทัพใหม่ ๆ เริ่มรื้อฟื้นสิ่งต่าง ๆ ด้านการฑูตก็ได้พยายามดึงยุโรปตะวันตกเข้าสู่ความขัดแย้งกับรัสเซีย

    แต่ ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยและสิ้นหวังที่จะหาประโยชน์อันใดไม่ได้ รัสเซียที่ร่วมมือกับจีนแดงและญี่ปุ่น รัสเซียยังคงมีกองกำลังด้านยุโรปตะวันตกและชายแดนจีน กองกำลังของเราได้ประเมิณว่ารัสเซียไม่สามารถนำกองกำลังทหารมาที่อเมริกาได้ มาก โดยไม่ต้องกังวลถึงกองกำลังป้องกันชายแดนตนเอง ประธานาธิบดีและกองกำลังก็เห็นโอกาสที่จะขับไล่กองกำลังรัสเซียออกไปจากทวีป ได้ ทุกสิ่งขึ้นกับการบุกยึดเมืองฟิลาเดเฟียที่พังพินาศ ซึ่งรัสเซียใช้เป็นฐานหลักในการขนเชื้อเพลิง และวางอาวุธโธปกรณ์หนัก ฟิลาเดเฟียถูกเปลี่ยนให้เป็นเมืองท่าสำหรับเสบียง ถ้าอเมริกาสามารถยึดได้ กองทัพรัสเซียจะหมดเชื้อเพลิง ปืนใหญ่และสนับสนุนเสบียงที่จำเป็นจะถูกกำจัดออกไปโดยง่าย


    ขณะที่ข้าพเจ้ามองดูก็เห็นการสร้างกองกำลังต่าง ๆ และรถถัง ที่อยู่แนวหลังได้ขยายตัวออกมาจากครึ่งทางระหว่างพิตส์เบิร์กและแฮริสเบิร์ก ทางใต้ผ่านเพนซิลวาเนีย เวอร์จิเนียตะวันตกและเวอร์จิเนีย กองกำลังก่อตัวขึ้นอย่างสม่ำเสมอตลอดพื้นที่แนวหน้า หลายเดือนผ่านไป หุบเขาและป่าไม้เป็นที่อาศัยของกองกำลังอเมริกา รถถัง ปืนใหญ่ และจรวด มันเป็นช่วงปลายฤดูหนาวใกล้ฤดูใบไม้ผลิ กองทัพอากาศอเมริกาปรากฎตัวต่อต้านกองทัพอากาศรัสเซียจนทำให้รัสเซียหวาด กลัวที่จะบิน และกองทัพอากาศอเมริกาก็ข่มขวัญในเขตน่านฟ้าของตน เมื่อวันหนึ่งมาถึงในตอนเช้าที่ยังคงมืดอยู่ ในป่าที่สงบเงียบของหุบเขาในเพนซิลวาเนียและเวอร์จิเนียตะวันตก กองกำลังนับล้านของอเมริกาพร้อมรถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธพิเศษต่าง ๆ ก็เคลื่อนอย่างรวดเร็วอย่างรีบเร่ง เวลาดูเหมือนหยุดโดยที่ข้าพเจ้ามองไม่ทันในนิมิต แต่ความรู้สึกคือ “จงไปจัดการมัน”

    หมอก จาง ๆ อยู่เหนือยอดไม้ในขณะความมืดเริ่มจางหายไป และก็ดูเหมือนกับว่ากลางคืนก็เปลี่ยนเป็นกลางวันในทันที โดยมีปืนใหญ่และจรวดถูกยิงออกมาเป็นพัน ๆ ไปยังแนวป้องกันของรัสเซีย หุบเขาเหมือนกับติดไฟและเสียงดังสนั่นการเขย่าจากการยิงปืนใหญ่จากแนว ป้องกัน ทหารนับล้านที่เกรียดกราดทำให้กองกำลังรัสเซียตกตะลึง หลุมกว้างเป็นร้อยไมล์ถูกขุดขึ้นตามแนวป้องกันของรัสเซียและทหารอเมริกาก็ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเข้าสู่กองทัพรัสเซีย บดขยี้กวาดกองทัพรัสเซีย กองกำลังสำรองรัสเซียถูกเรียกมาจากพื่นที่ที่ยังมีเหลืออยู่ส่วนหนึ่งจากเขต หนาวบนฝั่งตะวันออกให้เข้ามาต่อต้านกองกำลังอเมริกา การวิเคราะห์ของฝ่ายอเมริกานั้นถูกคือรัสเซียไม่มีกองกำลังสำรองเหลือ และพวกเขาต้องนำกองทัพมาจากรัสเซีย แต่ก็เสี่ยงต่อประเทศตนเองหรือโอกาสที่จะถูกขับออกจากอเมริกา สิ่งที่เราไม่รู้คือผู้ที่มีอำนาจในยุโรปตะวันตกผู้หนึ่งได้รับประกันต่อ รัสเซียว่าจะไม่มีการแทรกแซงโดยยุโรปตะวันตก

    กองทัพ อเมริกากลุ่มหนึ่งมีเป้าหมายที่จะยึดวอชิงตันดีซีกลับมา และฟิลาเดเฟียด้วย ซึ่งเป็นภารกิจอันดับแรก กองกำลังอเมริกาได้ต่อต้านรัสเซียอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้กองทัพรัสเซียร่อย หล่อลง กำลังพลของรัสเซียเริ่มอ่อนแอ พวกเขาเคยมีมากกว่า แต่ย่ำแย่ กำลังถูกทำลายและเริ่มถดถอยตลอดเวลา แต่ในทันใดนั้นพระเจ้าทรงเคลื่อนบนพวกเขา ณ ที่ ปรัสเซีย เพนซิลวาเนีย ที่พวกเขาเริ่มหยุดถอยกองกำลังและหันกลับมายืนหยัดตรึงอยู่ ผลที่ตามมาของการรบนั้นยากจะบรรยาย ทหารอเมริกาโจมตีกองกำลังรัสเซียเหมือนคลื่นน้ำ และบ่อยครั้งที่การต่อสู้นั้นอยู่ใกล้กันมาก แต่แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างไรกองกำลังรัสเซียก็ยังคงยึดที่มั่นไว้ได้ และนี้เป็นการขนส่งกำลังพลทางอากาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์


    รัสเซีย ได้ขนกำลังพลทางอากาศจากรัสเซียมาที่อเมริกาจำนวนมหาศาล การต่อสู้ของกองกำลังอเมริกาก็ต้องล้มเหลวต่อการพยายาม จากนั้นมาทำให้กองกำลังอเมริกาต่อสู้ด้วยความเสียสติ กองกำลังฝ่ายเนื้อหนังพ่ายแพ้ในที่สุด


    วันที่ 14 พฤษภาคม กองกำลังต่อต้านรัสเซียก็ตรึงกำลัง และเริ่มต้นทำลายวอชิงตันดีซีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ คนจำนวนมากตายและจำนวนมากก็เป็นเชลย วันที่ 14 พฤษภาคม รัสเซียจะเริ่มการบุกใหญ่ซึ่งจะทำให้ลดจำนวนกองกำลังอเมริกาที่อยู่ตรงจุด เชื่อมระหว่างกองกำลังจีนและญี่ปุ่นในแถบตะวันตกกลางของแคนซัส มิซซูรี่ และไอโอวา ไม่มีการเจรจายอมแพ้ ประเทศอเมริกาจะ สูญสิ้นไปในฤดูร้อนด้วยสงครามเกือบทั้งหมด และ แผ่นดินไหว ความอดอยาก โรคระบาดที่ฆ่าคนอเมริกันประมาณ 197 ล้านคน (โดยประมาณ)

    ชาวอเมริกันทุกคนจะหนีไปยังแคนาดาและตายที่นั่นเมื่อสงครามได้เข้ามายังแคนาดาในเวลาต่อมาด้วย ในสงครามผู้บุกรุกจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แก๊สพิษ และอาวุธชีวภาพในการต่อสู้ รัสเซียจะไม่ใส่ใจต่ออาวุธชีวภาพเมื่อมันถูกใช้กลับมายังพวกเขา

    เอาละครับนี่เป็นบางส่วนบางตอนของคำพยากรณ์ในเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 และการล่มสลายของอเมริกา
    โดย ชัค ยังก์แบรนท์ เมื่อปี 1979 หรือ 37 ปีมาแล้ว

    ใน นิมิตหรือคำพยากรณ์นี้เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินของสหรัฐครับ สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ขั้วหนึ่งของสงครามก็คือสหรัฐ ในขณะที่อีกขั้วหนึ่งก็คือ จีน รัสเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชาติเจ้าหนี้ของสหรัฐทั้งหมดในเหตุการณ์จริง ณ ปัจจุบัน ไล่เรียงตามลำดับกันมาเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพยากรณ์นี้ได้ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1973 หรือ 37 ปีมาแล้ว


    คำถาม คือ ทั้งหมดเป็นความบังเอิญหรือไม่ หลายๆ ท่านที่ตามอ่านบล๊อกนี้มาตั้งแต่ต้นคงจะมีคำตอบแล้วนะครับ แต่สำหรับท่านที่เพิ่งจะมีโอกาสเข้ามาอ่าน ผมกำลังจะบอกว่า เรื่องทั้งหมดนี้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตมีการ "วางแผน" และ "จัดรูป" มาตลอดไม่ต่ำกว่า 140 ปีแล้วครับ และทั้งหมดนี้ก็ถูกเรียกว่า New World Order หรือการจัดระเบียบโลกใหม่ ซึ่งกำกับการแสดงทั้งหมดโดย "กลุ่มอิลลูมินาติ" และอีกหลายๆ กลุ่มในเครือข่ายเดียวกัน


    ฟัง แล้วไม่น่าเชื่อใช่ไม๊ครับ...ลองหาหนังสืออ่านซักเล่มสิครับ คือ "ปฏิบัติการมารครองโลก" หรือ Pawn in the Games ในชื่อภาษาอังกฤษ ซึ่งผมเคยเขียนเกี่ยวกับหนังสือเล่มดังกล่าวไว้บ้างครับ จะเป็นเรื่องโดยย่อ ในโพสต์ของเดือนเมษายนของปีนี้ครับ หรือ Click ที่นี่ เพื่อไปสู่เรื่องดังกล่าว และนี่คือบางส่วนบางตอนที่ผมเขียนไว้ในโพสต์วันที่ 27 เมษายน...click ของปีนี้ครับ.......




    "สงคราม โลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นโดยการใช้ตัวแทนของพวกอีลูมินาติ สร้างความขัดแย้งขึ้นระหว่างพวกไซออนนิสต์กับผู้นำโลกมุสลิม สงครามจะถูกกำกับให้ดำเนินไปในลักษณะที่อิสลาม (โลกอาหรับรวมทั้งมุสลิม) และพวกไซออนนิสต์ (รวมทั้งรัฐอิสราเอล) จะทำลายกันเอง ขณะเดียวกันกับที่ชาติต่างๆ ที่เหลืออยู่จะถูกบังคับให้ต่อสู้กัน จนอ่อนแอลงในทุกๆ ด้าน จะกล้าปฏิเสธไหมว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ในตะวันออกใกล้ ตะวันออกกลาง และตะวันออกไกลในขณะนี้มิได้เป็นไปตามแผนดังกล่าวที่วางเอาไว้


    วันที่ 15 สิงหาคม 1871 ไพค์บอกมาสซีนีว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 3 สิ้นสุดลง พวกที่ต้องการจะครอบครองโลก จะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายหายนะครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยมีมา คำพูดของพวกเขาหาอ่านได้จากจดหมายของพวกเขา ในห้องสมุดพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ"


    โพสต์โดย What's going on in America
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...