ความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดสุริยุปราคา

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 21 กรกฎาคม 2009.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    130
    ค่าพลัง:
    +64,028
    [​IMG]


    ความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดสุริยุปราคา

    ในอดีตคนไทยเชื่อว่าระหว่างเกิดจันทรุปราคา มียักษ์ชื่อราหูกำลังอมดวงจันทร์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชื่อว่ากบกินเดือน จึงมีการส่งเสียงดังขับไล่ยักษ์ให้คายดวงจันทร์คืนออกมา ชาวจีนเชื่อว่ามังกรมาอมดวงจันทร์เอาไว้ คืนพระจันทร์แดง

    เมื่อดวงจันทร์เข้าอยู่ในเงามืดทั้งหมด เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง แสงที่เหลือไปปรากฏบนดวงจันทร์ขณะนั้น คือแสงที่หักเหผ่านบรรยากาศบริเวณขอบของโลกไปตกบนดวงจันทร์ ทำให้ดวงจันทร์มีสีแดงอิฐ หรือคล้ายสีทองแดงมัว ๆ
    สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ในสมัยโบราณ โดยเฉพาะสุริยุปราคาเต็มดวงเพราะคนในสมัยนั้น ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสุริยุปราคาที่แท้จริง การได้เห็นท้องฟ้ามืดมิดไปชั่วขณะทั้งๆ ที่เมื่อครู่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ ต่างก็เกิดความเกรงกลัวคิดว่าเป็นการลงโทษจากพระเจ้าหรือเทพยดาเบื้องบน การปฏิบัติที่แสดงความเคารพบูชาของมนุษย์ที่มีต่อปรากฏการณ์นี้จึงเกิดขึ้น โยมีแนวความคิดและการปฏิบัติแตกต่างกันไปตังอย่างเช่น

    คนจีนในสมัยโบราณคิดว่า สุริยุปราคา หรือจันทรุปราคาเกิดจากมังกรไล่เขมือบดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ จึงต้องจุดประทัดและตีกลองไล่เพื่อให้มังกรคายดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ออกมา

    ส่วนคนไทยในสมัยโบราณ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเกิด "คราส" หรือ "สุริยคราส" (คราส แปลว่า กิน) ก็มีความเชื่อที่เกิดจากเทพองค์หนึ่งชื่อ "ราหู" เกิดความโกรธที่พระอาทิตย์และพระจันทร์ฟ้องร้องพระอิศวรว่า พระราหูกระทำผิดกฎของสวรรค์ คือแอบไปดื่มน้ำอมฤตที่ทำให้ชีวิตเป็นอมตะ พระอิศวรจึงลงโทษโดยตัดลำตัวราหูออกเป็น 2 ท่อน พระราหูจึงทำการแก้แค้นโดยการไล่ "อม" พระอาทิตย์และพระจันทร์ ดังนั้นเมื่อเกิดสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาครั้งใดผู้คนก็จะช่วยกันตีเกราะเคาะไม้ ตีปี๊บ หรือส่งเสียงดังๆ เพื่อขับไล่พระราหูให้ปล่อยดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เสีย นอกจากนี้คนไทยในสมัยโบราณยังเชื่ออีกว่า สุริยุปราคานำความโชคไม่ดีหรือลางร้ายมาสู่โลกเช่นเดียวกับการมาของดาวหาง

    ความเชื่อแบบนี้ดำเนินมาเป็นเวลานานนับร้อยๆ ปีจนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นคว้าและศึกษาถึงการเกิดปรากฏการณ์นี้ และได้อธิบายให้เห็นว่าสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติตามปรกติ และมนุษย์สามารถคำนวนได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเมื่อใด ที่ไหน และกินเวลานานเพียงใด

    ขอบคุณบทความ.วิกิพีเดีย<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    สุริยุปราคา ๒๒ ก.ค. เหตุใดจึงไม่ควรดู

    ในวิชาโหราศาตร์ ครูบาอาจารย์แต่โบราณห้ามหนักหนาว่าอย่าดู อย่ามอง ด้วยเหตุว่า ขณะที่เกิดคราสหรือเงาบดบังพระอาทิตย์นั้น ด้วยเหตุที่พระอาทิตย์เป็นศุภเคราะห์ใหญ่มีความหมายถึง กษัตริย์ ผู้นำ ทหาร ตำรวจ ผู้มีชื่อเสียง ชื่อเสียง เกรียติยศ เมื่อถูกบดบังต้องคราส มนุษย์ทุกคน ทุกดวงชะตาย่อมต้องมีพระอาทิตย์อยู่ในดวงเป็นดาวสำคัญเมื่อต้องคราสในราศีใดเจ้าชะตาย่อมต้องได้รับความเสียหายตามแต่พื้นชะตาของแต่ละคน การไปมองดูนั้นเปรียบเหมือนกับการยอมรับหรือการที่ออกไปยืนตากฝนเมื่อฝนตก ใครที่พื้นดวงดีก็เหมือนคนแข็งแรงอาจไม่เจ็บไข้(แต่ก็เปียกปอนแน่นอน) หากใครที่สุขภาพไม่ดีนักก็ย่อมเจ็บไข้ได้ป่วย
    เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือไม่ดูไม่มอง เหมือนกับการที่เราไม่ออกไปยืนตากฝน นั้นแล
     
  3. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    ผมมาสรุปให้หลังจากสุริยุปราคา ผ่านไปแล้ว
    ผมยืนยันว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติครับ แต่ผลที่กระทบนั้นวิทยาศาสตร์ก็อธิบายได้ไม่ทั้งหมด เปรียบได้ดังเรื่องที่ พระอรหันต์นั้นเมื่อนิพพานแล้วกระดูกจะตกผลึกเป็นพระธาตุก็เป็นเรื่อง ธรรมชาติ แต่วิทยาศาสตร์ก็หาข้ออธิบายไม่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าปฏิเสธในสิ่งที่เรายังไม่รู้ เพราะโบราณมานิทานเรื่องปลากับเต่า บอกว่า เต่าเล่าให่ปลาฟังว่าเหนือน้ำนั้นมีสิ่งต่างๆมากมาย ปลาไม่ยอมเชื่อเพราะว่าตนนั้นขึ้นไปเหนือน้ำไม่ได้ (เหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนพิสูจน์ไม่เป็น) เพราะฉะนั้น นักปราชญ์จะทำตัวเป็นชาครึ่งถ้วยเสมอเปิดรับแต่ไม่งมงาย ฟังไว้หาวิธีแก้ไข ไม่ใช่ปฏิเสธอย่างเดียว

    เมื่อผ่านปรากฏการณ์ตามธรรมชาติมาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าเมืองหลวงของไทย ได้รับการช่วยเหลือจากธรรมชาติ(สิ่งศักดิ์สิทธิ์) เพราะท้องฟ้าส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ปิดคือมีฝนตกในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ไม่ต้องอาเภทรุนแรง(แต่ก็คงไม่เบา)

    ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ไม่ดูถูกผู้อื่นไม่ปรามาศว่าร้ายผมเกินไป
     
  4. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอแสดงความคิดเห็นเล็กน้อยค่ะ พอดีเกิดความคิดขึ้นมาในวันที่เกิดสุริยคราส ว่าในเรื่องการเกิดสุริยคราสนั้น พระอาทิตย์โดนบดบังแสงแม้แต่เรื่องราวก็ดูไม่ค่อยดีนัก แต่ที่แปลกคือว่า วันนั้นฟ้าปิดในช่วงที่เกิดสุริยคราสทำให้มองไม่เห็นปรากฏการณ์นี้ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองเลยว่า ระบบคงไม่ต้องการให้เราดูจึงมองไม่เห็น แถมในวันที่ไปทำวัตรเย็นที่วัด เริ่มสวดมนต์เวลา19:00. ฝนก็ตกหนักทันที่ ที่เริ่มสวดมนต์ฝนตกหนักมากเหมือนชะล้างอะไรบางอย่าง เมื่อสวดมนต์นั่งสมาธิเสร็จสิ้น ในเวลา 21:00น ฝนก็หยุดตกเช่นกัน เหมือนการชำระล้างได้เสร็จสิ้นแล้ว เออหนอ ... เข้าข้างตัวเองอยู่ไม่น้อยเชียวเรา
     
  5. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    วันนั้นผมเกือบเข้าโรงพยาบาลเลยครับ เพราะไม่ทราบว่าเกิดสุริยุปราคา
     
  6. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อ้างอิง:ศิษย์ธรรมเทพ
    สุริยุปราคา ๒๒ ก.ค. เหตุใดจึงไม่ควรดู
    <!-- google_ad_section_start -->ในวิชาโหราศาตร์ ครูบาอาจารย์แต่โบราณห้ามหนักหนาว่าอย่าดู อย่ามอง ด้วยเหตุว่า ขณะที่เกิดคราสหรือเงาบดบังพระอาทิตย์นั้น ด้วยเหตุที่พระอาทิตย์เป็นศุภเคราะห์ใหญ่มีความหมายถึง กษัตริย์ ผู้นำ ทหาร ตำรวจ ผู้มีชื่อเสียง ชื่อเสียง เกรียติยศ เมื่อถูกบดบังต้องคราส มนุษย์ทุกคน ทุกดวงชะตาย่อมต้องมีพระอาทิตย์อยู่ในดวงเป็นดาวสำคัญเมื่อต้องคราสในราศีใดเจ้าชะตาย่อมต้องได้รับความเสียหายตามแต่พื้นชะตาของแต่ละคน การไปมองดูนั้นเปรียบเหมือนกับการยอมรับหรือการที่ออกไปยืนตากฝนเมื่อฝนตก ใครที่พื้นดวงดีก็เหมือนคนแข็งแรงอาจไม่เจ็บไข้(แต่ก็เปียกปอนแน่นอน) หากใครที่สุขภาพไม่ดีนักก็ย่อมเจ็บไข้ได้ป่วย
    เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือไม่ดูไม่มอง เหมือนกับการที่เราไม่ออกไปยืนตากฝน นั้นแล<!-- google_ad_section_end -->
    เมื่อผ่านปรากฏการณ์ตามธรรมชาติมาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าเมืองหลวงของไทย ได้รับการช่วยเหลือจากธรรมชาติ(สิ่งศักดิ์สิทธิ์) เพราะท้องฟ้าส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ปิดคือมีฝนตกในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ไม่ต้องอาเภทรุนแรง(แต่ก็คงไม่เบา)
    .............................................................................................
    นับว่าเป็นโชคและดวงของประเทศครับที่ ประมาณ 70-80 % ท้องฟ้าปิด ทำให้พลังของคราสถูกปิดบัง อ่อนกำลังไป ส่งผลให้ประเทศชาติ ไม่มีปัญหาร้ายแรงต่อไปได้ เพียงอย่าตั้งตนอยู่ในความประมาท ขอให้ทุกคนรักสามัคคี สวดมนต์ อุทิศุญกุศลให้แก่ประเทศชาติของเราเป็นประจำครับ สาธุ สาธุ สาธู บุญแล้วที่เกิดเป็นคนไทย
     
  7. พรปู่

    พรปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +277
    ดีจังที่ปรากฎการณ์นี้ สามารถได้ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องการเรียงตัวของโลก ดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ มิฉะนั้น จะมีความเชื่อแตก ย่อย ไปมากกว่านี้ อีกอนันต์
     
  8. ขันห้า

    ขันห้า มาเที่ยวเดี๋ยวก้กลับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +10
    ความเชื่อต้องฟังหูไว้หู ถ้าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ แต่ผมเชื่อว่าพี่วีระชัยฝันแม่นนะ งวดนี้ฝันเห็นเลขอะไรครับ บอกน้องบ้างนะครับ
     
  9. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    หลังจากสุริยุปราคาผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ ประเทศจีนอันเป็นเป็นประเทศต้องคราสคือจุดที่พระอาทิตย์ดับสนิท ก็เกิดโรคห่า(กาฬโรค)
    ที่แจ้งให้ทราบนั้นก็อย่าตกใจใดๆ ให้สร้างกุศลสวดมนต์ไหว้พระคุ้มครอง พระพุทธานุภาพสว่างลบแสงตะวันอยู่ทุกเวลานาที
    ที่สำคัญประเทศไทยได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องคราส ท้องฟ้าปิดตลอดปรากฏการณ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...