เมื่อโดนเพ่งโทษก็ต้องรู้ว่า ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นมี 2 ประเภท คือมิจฉาทิฏฐิ๑ และสัมมาทิฏฐิ๑ การชวนต่อล้อต่อเถียงเป็นของผู้มิจฉาทิฏฐิ...
ปล่อยวาง...ไม่ใส่ใจ...ศึกษามงคล38...ตั้งตนไว้ชอบ...หูตากว้างไกล...ผ่อน...ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ...ใจ...สติ...ปัญญา...เข้าหาสมณะ...ทาน ศีล สมาธิ...
จะทะเลาะกันไปทำไมครับ นัดทานข้าวกันเป็นแฟนกันให้มันรู้ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ อ้อ ผมขอคาราโอเกะนะ ปรึกษาขันธ์ โอ๊ทธิเดชว่าไง *_*
คุณอินทรบุตรคุณก็ไปว่าคุณเตชพโล ความจริงปฏิบัติจนถึงขั้นดูการเกิด-ดับ มันก็สูงอยู่นา ดูด้วยสติและปัญญา จะไหวเอนก็ปัญญา ดูความเกิดดับของกิเลส...
ฝากดูเรื่องศีลลัพพรตปรามาสด้วยนะ ทำอะไรให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าคิดมาก ฟังเพลงบ้าง ทำสมาธิ ไม่ทิ้งการเรียน...
ผมตามดูจิตแล้วมันทรงตัว จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ จะว่าเบื่อก็ไม่ใช่ จะว่าหลงก็ไม่ใช่ มันเป็นจิตที่มีสภาวะเป็นใจ เลยว่างมาแล้ว...
สติปัฐฐาน 4 กาย พิจรณาดูกาย เวทนา พิจรณาดูเวทนา จิต ตามดูจิต ธรรม พิจรณาขันธ์ 5 เป็นอนัตตา สอบถามว่า ที่กล่าวมาเป็นมรรค แล้วผลจะสรุปลงที่ตรงไหน?
สติ...เป็นบรมธรรม จะทำอะไรเราต้องมีสติ พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ปฏิบัติอานาปานสติ คือมีสติตามรู้ลมหายใจเข้า-ออก จะคิด พูด ทำอะไรเราต้องมีสติ...
มีสติ...ตามดูลมหายใจเข้า-ออก
จิตนั้นเดิมเป็นธรรมชาติที่ผ่องใส อาศัยกิเลสที่จรมาจิตจึงเศร้าหมอง จิตของคนเราโดยทั่วไปก็มีทั้งเศร้าหมองและผ่องใส...
อริยสัจจ์ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ผู้ใดปฏิบัติตามเป็นทางพ้นทุกข์ 1.ทุกข์ คือความไม่สบายกาย-ไม่สบายใจ ควรกำหนดรู้ 2.สมุทัย...
ผู้ปฏิบัติธรรมก็ดี พระเณรก็ดี เมื่อฟังหรืออ่านบทธรรมของใคร มีจิตอิจฉาริษยา ความอิจฉาริษยานั้นไม่ดีเลย เคยดูตัวเองหรือเปล่าว่าเลวขนาดไหน...
มรรค 1 เดียวของพระโสดาบันคือ "สติ"! สติตั้งที่ใจ ไม่ใช่ที่จิต...
การหลุดพ้นก็ต้องผ่านอัตตาและอนัตตาก่อนครับ อัตตามันอยู่ที่ภาวะจิต เป็นกันทุกคน เมื่อภาวนาถ่ายถอนกิเลสจึงรู้ว่า นี้รูป นี้เวทนา นี้สัญญา นี้สังขาร...
กินไอติมก็เป็นอุปกิเลส
ถ้าได้ฌาณ 4 ก็อนุโมทณาด้วย ขอณุญาิติสอบถามในกระทู้นี้ ท่านใดรู้ช่วยตอบด้วย ถามว่า ฌาณเป็นโลกียะธรรมหรือโลกุตตระธรรม?(เข้าได้แต่ไม่รู้).....
เมื่อเกิดทุกขเวทนาทางใจ ควรตามดูจิต ดูด้วยความมีสติ ดูแล้วกำจัดทุกข์ด้วยสมาธิปัญญาจิต (การปฏิบัติทางจิต).....
เกิดมาไม่เคยสนทนาธรรมกับพระอรหันต์ ก็จะเป็นเอง
คนธรรมดาไม่รู้วิสัยพระโสดาบัน พระโสดาบันไม่รู้วิสัยพระสกิทาคามี พระสกิทาคามีไม่รู้วิสัยพระอรหันต์ พระอรหันต์ไม่รู้วิสัยพระโพธิสัตว์...
จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้...พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้รักพระราหุลเท่าพระเทวทัต สงครามภพชาตินั้นยิ่งใหญ่นัก...อย่ารู้น้อย..........
หัวเราะหรือเสพความสุขมันก็จิตตัวเดียวกันนี้แหละ แยกทำไม มันหัวเราะมันร้องไห้ได้เพราะมีผัสสะ ผัสสะทำให้เกิดเวทนา นั่น...
ขันธ์ 5 เป็นอนัตตา พิจรณาแยกแต่ละอย่างในวิปัสสนากรรมฐาน ให้เห็นเป็นไตรลักษณ์
ช้่าก่อน ก่อนไปเรื่องจิตเอาใจให้ประเสริฐ ให้ปรกติก่อนได้ไหม หมั่นทำบุญให้ทานได้ความสุขใจ รักษาศีลได้สิริมงคลและความสุข การเป็นพระโสดาบัน รักษาศีล5...
กินเหล้านิพพานไม่ได้ คุณสมบัติผู้ที่จะเป็นพระโสดาบันคือไม่กินเหล้า เหล้าเป็นน้ำเปลี่ยนิสสัย ทำให้คนกลายเป็นคนไม่ดี กินเหล้าจิตใจหยาบกระด้าง...
การปฏิบัติธรรมนั้นถ้ายังไม่ได้ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้ดูจิตหรอก เอาแค่ง่ายๆอย่างทานกับศีลทำได้หรือเปล่า อย่างที่เคยบอก...
อานาปานสติ
การพิจรณาความเกิด-ดับ ดูที่องค์สมาธิ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา
จิตเป็นผู้รู้ มีความเป็นกลาง ไม่เป็นอนัตตาเพียงส่วนเดียว ไม่เป็นอัตตาเพียงส่วนเดียว ท่านเรียกธรรมอัพยากฤติ จิตเป็นความสมดุลในธาตุขันธ์ มีดวงเดียว...
การปฏิบัติธรรมในทางพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าท่านสอนให้ดำริออกจากกาม กามเป็นของร้อน เป็นขวากขวางทางนิพพาน...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา