กฎของกรรม......บุพกรรมของคน 3 คน ตอนที่3

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 16 มีนาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    ภิกษุ 7 รูป อีกพวกหนึ่ง (พวกที่แล้วๆมาสองพวก ไม่บอกจำนวนพระ ) ภิกษุอีกพวกหนึ่งจำนวน 7 รูปไปจากปัจจันตชนบทเพื่อ ต้องการจะเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำว่า ปัจจันตชนบท หมายถึง ประเทศชายแดน อยู่ในป่า ไกลจากความเจริญ
    ในเวลาเย็น ท่านเข้าไปในวัดแห่งหนึ่ง เพื่อจะขออาศัยที่พัก จึงได้ถามว่าที่พักมีไหมขอรับ ปรากฏว่า ที่วัดแห่งนั้น มีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง มีเตียงอยู่ 7 เตียงพอดี พระท่านก็มา 7 องค์ คล้ายๆ กับคนเขาตั้งท่าคอยไว้ เมื่อภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น แลเห็นถ้ำแห่งนั้น ในตอนเวลากลางคืน แผ่นหินเท่าเรือนยอด (เรือนยอด คือ เรือนยอดแหลม เรือนใหญ่ๆ) ได้กลิ้งลงมาปิดประตูไว้
    บรรดาพระภิกษุทั้งหลายเจ้าของถิ่นจึงกล่าวว่า พวกเราให้ถ้ำนี้ถึงแก่ภิกษุอาคันตุกะ หมายความว่า เราให้พระที่เดินทางมา นอนอยู่ในถ้ำนี้ แต่ทว่าก้อนหินก้อนใหญ่นี้ มันมาปิดประตูเสียแล้ว พวกเราจะนำแผ่นหินนี้ออก จึงพากันกันประชุมพวกชาวบ้านบ้าง พระบ้าง ภิกษุสามเณรทั้งหลายบ้าง จากบ้านรวมทั้งหมดด้วยกัน 7 ตำบลด้วยกัน เพราะก้อนหินใหญ่มาก ใช้พยายามอยู่เพื่อจะให้หินนั้นออก หินมันก็ไม่ยอมออกเพราะหินก้อนใหญ่ จะทำอย่างไรๆ มันก็ไม่เขยื้อนออกไปได้ (ใช้คนถึง 7 ตำบล )
    แม้บรรดาพวกภิกษุที่เข้าไปอยู่ภายใน บรรดาพวกภิกษุที่เข้าอาคันตุกะทั้งหลายเหล่านั้น ที่อยู่ข้างใน ก็พยายามเหมือนกัน พยายามเพื่อจะผลักหินให้พ้นออกไป แต่ก็ไม่อาจที่จะให้แผ่นหินนั้นเขยื้อนออกไปได้ ตลอดเวลา 7 วัน
    เป็นอันว่า พระทั้งหลายเหล่านั้น ต้องถูกขังอยู่ 7 วัน ชาวบ้าน 7 ตำบล พระด้วย เณรด้วย และพระที่อยู่ภายใน 7 องค์ ดันกันไป ดันกันมา เพื่อที่จะให้หินก้อนนั้นออก มันก็ไม่ยอมออก เป็นอันว่า พระทั้งหมดข้างใน อดข้าว 7 วัน พระข้างนอกกับชาวบ้าน ก็ทำงานครบ 7 วัน บรรดาพระอาคันตุกะทั้งหลายที่อยู่ในนั้น ก็เกิดความหิวแดดเผาตลอด 7 วัน (การไม่ได้บริโภค 7 วัน ก็ต้องคิด ) ได้เสวยทุกขเวทนาอย่างหนัก
    เป็นอันว่า ในวันที่ 7 หินกลิ้งออกไปเองอย่างแปลกประหลาดไม่มีใครดัน เวลาดันหินไม่ไป แต่พอครบ 7 วัน ไม่มีใครเขาไปผลักดันหินไปเอง บรรดาภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ออกมาแล้ว ต่างคนต่างคิดว่านี้เป็นบาปของพวกเรา บาปประเภทนี้ มันปรากฏขึ้นได้อย่างไร ในชาตินี้กรรมใหญ่เราก็ไม่ได้ทำ เมื่ออยู่กับพ่อกับแม่ อยู่กับบิดามารดา ก็มีความรัก เคารพบิดามารดาทุกอย่าง จะมีการดื้อ การด้านบ้าง ก็เล็กน้อย พอสมควร แต่ทำไมเราจึงต้องมารับบาปกรรม ขนาดอดข้าวอยู่ถึง 7 วัน อดเฉยๆ ก็ไม่เป็นไร ต้องออกแรงดันหินด้วย หินมันก็ไม่ไป
    แต่ว่าเมื่อครบ 7 วันแล้ว ไม่มีใครทำอะไรกับหิน พระข้างนอก คนข้างนอก ก็คิดว่า พระ 7 องค์นั้น แต่แน่ ก็เลยหมดกำลังใจที่จะทำอะไรเขาก็ไม่ทำอะไร เขาไม่ทำงานกัน พระในถ้ำ 7 องค์ ก็หมดแรงันหินด้วย หินนั้นก็เปิดไปมันกลิ้งไปเอง ท่านคิดว่า พวกเราบาปหนัก แต่กรรมประเภทนี้นอกจาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครสามารถรู้ได้หากว่าเราจะได้เข้าไปเฝ้าองค์สมเด็จพระจอมไตร จะทูลถามเรื่องนี้ให้พระศาสดาทรงพยากรณ์
    <O:p</O:p

    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<O:p</O:p
    (พระมหาวีระ ถาวโร ) วัดจันทาราม จ. อุทัยธานี<O:p</O:p

    <O:p

    อ่านจบแล้วอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลด้วยนะครับ<O:p</O:p
    คำอุทิศส่วนกุศล
    โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    วัดจันทาราม(ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี<O:p</O:p

    อิทังปุญญะผะลังผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]เวร ทั้งหลาย</st1:personName> ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้าและเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราชขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดีเสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับ<O:p</O:p
    <O:p
    <O:p</O:p
    http://teporrarit.hi5.com
    <O:p</O:p
    http://buraphatic.hi5.com
    <O:p</O:p
    <O:p></O:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...