ทำไมต้องชำระหนี้สงฆ์ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 30 กรกฎาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]



    การชำระหนี้สงฆ์


    <TABLE width="100%" border=1><TBODY><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    ทำกรรมอะไรถึงลง อเวจี คะ........?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">

    อเวจีนี่ทำกรรมหนักมากมันจึงจะลง ก็มีอนันตริยกรรม อาจิณกรรม ขโมยของสงฆ์ ของสงฆ์ นี่แตะนิดเดียว ลงอเวจีเลยนะ แม้แต่เศษเล็ก ๆ


    (เรื่อง อนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ยุให้สงฆ์แตกกัน เป็นต้น พระยายมมาบอกหลวงพ่อว่า "ทุกคนอย่าได้ทำเด็ดขาด ท่านช่วยไม่ได้เลย" ส่วน อาจิณกรรม เช่น แม่ครัวทุบหัวปลา แกงเป็นประจำ เป็นต้น สำหรับ ขโมยของสงฆ์ หลวงพ่อได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้)

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    มีญาติพระเจ้าพิมพิสาร เป็นทายกในตอนต้นก็ดี ซื่อตรงต่อการบุญการกุศล แต่มาตอนกลาง ๆ มือถึงท้ายมือไม่ค่อยดี เริ่มหยิบแล้วทีแรกก็เป็น ทายก ต่อมาก็เลย


    เป็น ทายัก ของอะไรดี ๆ ก็ยังเอาไปเสียบ้าง เอาไว้ให้ลูกให้เมียเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตนเสียบ้าง ของที่เขาจะถวายสงฆ์ เขาตั้งใจจะทำอาหารถวายสงฆ์ เนื้อ ดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง แกงดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง บางทีไม่ยกของสด ไอ้ของที่สำเร็จรุปที่เขาไม่ทันจะถวายพระ ก็ยักเอาไว้เสียบ้าง ญาติของพระเจ้าพิมพิสารเป็นทายักแบบนี้ ตายแล้วลงนรกสิ้นระยะเวลา ๑ กัป พ้นจากนั้นแล้ว ก็มาตก ยมโลกียนรก คือผ่าน นรกบริวาร ๔ ขุม แล้วก็มาตกยมโลกีนรกตามลำดับมาเป็น เปรต ๑๑ จำพวก สุดท้ายก็เป็น เปรตพวกที่ ๑๒ สมัยพระพุทธเจ้าของเรานี้ จำไว้ด้วยนะ ของสมบัตินิดหนึ่งน่ะ แม้จะเป็นก้อนดินก้อนหนึ่ง กระเบื้องหัก ๆ ก้อนหนึ่งก็ตาม ถ้าเราถือเอาเข้าบ้านด้วย อาการของขโมย เสร็จ สะเด็ดไม่เหลือ ลูกหมากรากไม้ที่มีอยู่ในวัด เราจะไปขอเด็กขอพระไม่มีประโยชน์ ของสงฆ์สงฆ์ต้องประชุมกัน เมื่อประชุมกันแล้วตกลงกันว่ายังไง ต้องปฏิบัติตามนั้นขายหรือให้ใครต้องปฏิบัติตามนั้นนะแม้แต่ ดอกไม้บูชาพระ ก็เหมือนกัน ถ้าท่านผู้ปลูกยังมีชีวิตขอเฉพาะท่านได้ ถ้าท่านผู้ปลูกตายไปแล้วหรือสึกไปแล้ว อันนี้เป็นของสงฆ์ ต้องเป็นเรื่องของสงฆ์วินิจฉัย ไม่ใช่พระองค์ใดองค์หนึ่งเป็นผู้ให้ หรือไปขอเก็บเด็กวัดอันนี้ไม่ถูกต้อง ลงอเวจี
    และอีกเรื่องหนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็น กา แย่งข้าวในขันที่เขานำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้วกรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายไปแล้วไปลง อเวจี แล้วแถมมาเกิดเป็น เปรต


    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    หลวงพ่อครับ คนที่กินข้าวที่พระอนุญาติแล้ว ทำไมถึงตกนรก และพระที่ให้ก็ต้องตกนรกด้วยครับ....?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">ถ้าอาหารที่พระให้ต้องเป็นของญาติโยมที่ถวายเฉพาะองค์นั้น ไม่มีโทษแน่ แต่ที่เป็นอย่างนี้ต้องเป็นอาหารที่เขาถวายเป็นส่วนกลาง คือเป็นของสงฆ์ ของสงฆ์นั้นพระองค์ใดองค์หนึ่งไม่มีสิทธิ์ให้ นอกจากสงฆ์จะประชุมตกลงให้พระองค์นั้นเป็นผู้จ่ายแทนสงฆ์ ตัวอย่างของสงฆ์เช่น อาหารวันพระ ที่มีข้าวใส่บาตรเหลือมากๆ แล้วทายกใส่ถ้วยเอาไปกินบ้าน โดยที่คณะสงฆ์ไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างนี้ แม้แต่เจ้าอาวาสเองยังไม่มีสิทธิ์ให้ต่มลำพัง
    บางทีกินอาหารที่พระฉันเหลือ ถ้าพระอนุญาติแล้วไม่มีโทษ(สำหรับโยมที่ไปในงาน ทางวัดเขาตั้งใจเลี้ยงก็ไม่เป็นไร) แต่บางท่านก็หยิบของที่พระฉันแล้วเอามาเฉยๆ บางท่านก็ขอเอาดื้อๆ ให้หรือไม่ให้ก็ตาม ออกปากขอแล้วยกไปเลย พระยังไม่ทันอนุญาติ ท่านทายกประเภทนี้ ท่านช่วยยกคนที่กินกับท่านลงอเวจีแบบสะดวก เมื่อจะขอต้องดูว่าอาหารมากไหม ถ้ามากจนเหลือเฟือ ก็ขอให้พระท่านให้ตามความพอใจของท่าน เพราะท่านอาจมีกังวลนำอาหารไปให้ใครก็ได้ ที่ท่านมีภาระต้องเลี้ยง ถ้าถือเอาตามความพอใจก็ต้องถือว่าแย่งอาหารจากพระมีโทษ 100 เปอร์เซ็นต์

    และอาหารถวายพระพุทธรูป ก็เหมือนกัน อาหารประเภทนี้ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อล่อให้ทายกลงอเวจีสะดวกสบายมาก อาหารที่เขานำมาวัด เขาตั้งใจถวายพระสงฆ์ การนำไปถวายพระพุทธรูปนั้นเป็นความดี เพราะเป็นพุทธานุสสติด้วย เป็นพุทธบูชาด้วย แต่อาหารประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มาก เพราะพระพุทธรูปไม่ได้ฉัน ท่านจะฉันหรือไม่ฉันก็ตาม อาตมาคิดว่าทายกทายิกาไม่มีสิทธิ์จะกิน หลายวัดหรือส่วนใหญ่ ทายกมักจะเอาอาหารดีๆ และมากๆ ไปทุ่มเทถวายพระพุทธรูป

    เมื่อพระฉันเสร็จแล้ว ต่างก็ยกเอามากิน ตอนนี้ไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง ต้องเอาไว้ถวายพระตอนเพลจึงจะถูก ทายกทายิกาจะกินได้เฉพาะอาหารที่เหลือเป็นแดนจากพระฉันเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์สถาปนาตนเองเป็น ลูกศิษย์พระพุทธรูป แต่ประการใด

    รวมความว่า ของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือของในวัดทุกประการที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัดเศษไม้ที่คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็กๆน้อยๆบ้าง จงอย่าคิดว่าไม่มีบาป แม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน เว้นไว้แต่ดอกไม้ผลไม้ที่พระหรือท่านผู้ใดปลูกในวัด ถ้าท่านเจ้าของยังอยู่ในเขตวัดนั้นและท่านอนุญาติ อย่างนี้เอามาได้ไม่บาป ด้วยท่านเจ้าของมีสิทธิ์สมบูรณ์ให้ได้ รับมาได้ไม่มีโทษ ถ้าท่านผู้ปลูกออกไปจากวัดนั้นหรือตายไปแล้ว ของนั้นเป็นของสงฆ์โดยตรง ไปเอามามีโทษตามกำลังบาป ขโมยของสงฆ์

    และอีกประการหนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่มีสภาพเป็นวัด กับที่ของสงฆ์ที่เป็นไร่นาไปแล้ว ไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าเราไปนำมานิดเดียวแม้แต่หญ้าต้นเดียว เขาถือว่า เป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก สมัยหลวงพ่อปาน ท่านก็แนะนำให้คน ชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาทสลึงสองสลึง บางคนไม่มีเงืนเอามาทำงานแทน ทำอะไรก็ได้ไม่บังคับ คือ ดายหญ้าก็ตามไม่เอาค่าแรง


    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    หลวงพ่อครับ พระเครื่อง ที่เขาไปขโมยมาแล้วเราเอามาห้อยคอ อย่างนี้จะบาปไหมครับ.....?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    เดี๋ยวก่อน พูดเรื่อง พระเครื่อง ก่อนพระที่คุณห้อยน่ะ ไม่มีเครื่อง หรอก พระเครื่องต้องอย่าง ฉันนี่เดินได้ วิ่งได้ ใช่ไหม.......อย่างนั้นเขาไม่เรียกพระเครื่อง เขาเรียก พระห้อย

    เขาขโมยมาจากใครล่ะ.......?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    ก็ไม่ทราบแน่ครับ อาจจะขโมยเจาะกรุมาก็ได้ครับ

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    เสร็จ ไอ้นี่พังแน่

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    อย่างนี้จะบาปไหมครับ......?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    รับของโจรมันก็บาปซิ

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    แต่ถ้าเราไม่ทราบนี่คงไม่เป็นไรนะครับ

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    เราไม่ทราบก็บาป เราทราบก็บาป ไอ้บาปนี้เขา แปลว่าชั่ว คนไปขโมยมาจากกรุ กรุมันเป็นของสงฆ์ ลักษณะของอาการมันเป็นของชั่ว ถ้าเราเอาของชั่วมาอยู่กับเราก็ชั่วด้วย อย่างใน มงคลสูตร ข้อหนึ่ง ท่านบอกว่า "อเสวนา จ พาลานัง" อย่าคบคนพาล ถึงแม้นตัวราจะไม่พาล ถ้าเราเดินกับคนพาลเขาก็คิดว่าพาลไปด้วย" และท่านก็มีข้อเปรียบเทียบ ท่านบอกว่า

    "ใบตองนี่ ไอ้ความเน่าของเนื้อสัตว์มันจะไม่ซึมลง แต่ว่าถ้าเราเอาใบตองห่อของเน่า แล้วเอา ของเน่าทิ้งไปแต่กลิ่นเน่าเหม็น มันยังติดใบตองอยู่" "ทีนี้การรับของโจร ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ ก็ต้องถือว่าเราร่วมมือด้วยโดยไม่เจตนา ก็ต้องเอาเหมือนกัน"

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    ของหนูก็มีพระที่ขโมยมาเหมือนกันค่ะ เป็นพระบูชาแต่ว่าอยากเอาไว้ที่บ้านเอาไว้บูชา ถ้าเราชำระหนี้สงฆ์จะได้ไหมคะ.......?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    ทีนี้วิธีชำระหนี้สงฆ์ เขาให้มีค่าเสมอของเดิมนะ เสมอของเดิมหมายความว่า ไม่ใช่พระรุ่น แบบนี้ เหมือนกับอย่างเขาเล่นกันนะ เขาไม่ใช้นะ ไปดุว่าที่ร้านเจ๊กหน้าตักขนาดนี้เขาขายเท่าไร แล้วเอาเงินไป ชำระหนี้สงฆ์ตามราคานั้น ถ้ามากกว่านั้นไม่เป็นไรนะ เท่านั้นก็ใช้ได้ เอาไปวัดใดวัดหนึ่งขอชำระหนี้สงฆ์ ขอมอบ เงินจำนวนนี้และขอเอาพระไปบูชา ก็เท่านี้แหละ เป็นอันว่าไม่มีอะไรผิด (ใครก็ตามได้รู้อย่างนี้ก็ใจเสียแล้ว เวลาไปเอามาไม่รู้เท่าไหร่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็มีคนหัวดี กล้าถามหลวงพ่อว่า ถ้าจะชำระหนี้สงฆ์ทั้งหมด ตั้งแต่ที่เคยทำมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันนี้ จะทำอย่างไร เราจึงได้รู้เรื่องการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ขึ้นมา)



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์
    <TABLE width="100%" border=1><TBODY><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    แล้วเรื่องพระชำระหนี้สงฆ์มีความเป็นมาอย่างไรครับ...?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ฉันไปที่ศรีราชา ญาติโยมเขาถาม เรื่องพระชำระหนี้สงฆ์ ถ้าหลายๆ ชาตินี้เราไม่รู้เอาอะไรมาบ้าง ถามว่าจะทำอย่างไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พอตอบไม่รู้ก็เห็นพระท่านลอยมา ท่านบอก "ถ้าจะชำระให้ครบถ้วน เป็นเงินเท่าไรก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 4 ศอก" พระหน้าตัก 4 ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้วๆ มาถือเป็นการหมดกันไป"


    ฉันพูดแล้วก็กลับมาวัด ต่อมาพวกนั้นก็มาถามใหม่ว่า "สร้างพระองค์เดียวได้คนเดียวหรือกี่คน" ฉันก็ไม่รู้อีกซิ ก็นึกถึงท่าน ท่านก็มาใหม่ ท่านบอกว่า ฺ"ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ" หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่า ถ้าสร้างใหม่อีกนะ สร้างหนี้ใหม่ต่อเป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ


    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    ถ้าหากว่าเรามีสตางค์น้อยๆ แล้วถวายพระจะได้ไหมครับ....?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    ถ้าเรามีสตางค์น้อยๆ ก็ใส่ซองเขียนหน้าซองว่า "ชำระหนี้สงฆ์"คือว่าไม่ได้จำกัด ทำไปเรื่อยๆ ให้ใจสบาย บาทสองบาทตามกำลังที่พึงทำได้ เขาไม่ได้เกณฑ์ว่าจะสร้างพระ หลวงพ่อปานท่านทำอย่างนี้มาก่อน เรื่องสร้างพระนี่เขาถามก็บอก ท่านมาบอกอัตรานี้โละกันเลยนะ คือไม่ใช่จะเกณฑ์ให้ไปสร้างพระเพราะทุไม่พอใช่ไหม เราก็ทำไปเรื่อยใจสบาย มีสตางค์รับเงินเดือนมาที่ ทำ 5 บาท ใส่ซองถวายพระบอก "ขอชำระหนี้สงฆ์" ท่านไม่รู้ท่านใช้ผิด ท่านลงนรกเอง ไม่ต้องห่วง ถ้าไปกินเป็นส่วนตัวละเรียบร้อย เงินชำระหนี้สงฆ์มันมีค่ากว่าเงินสังฆทานและวิหารทาน ถ้าไปใช้เป็นส่วนตัวไม่ได้ ต้องใช้เป็นส่วนกลาง อันตรายกับพระ แต่ช่างเถอะ ถ้าบวชแล้วอยากโง่ให้ลงนรกไป ใช่ไหม...."



    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    ถ้ามีญาติโยมเอาเงินไปถวายพระ แต่ก็เอาเงินไปปลูกบ้านบ้าง ให้ญาติโยมไปออกดอกออกช่อบ้าง อยากทราบว่าผลบุญที่ลูกได้ทำแล้ว จะมีอานิสงส์สมบูรณ์แบบหรือไม่เจ้าคะ...?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    เขาถวายเป็นของสงฆ์ใช่ไหม เขาถวายเข้าไปในวัดใช่ไหม แล้ววัดไม่ได้ทำอะไร แต่คนในวัดเแาไปปลูกบ้าน เงินนั้นไปที่อื่นใช่ไหม เขาถวายอานิสงส์ มันได้ตั้งแต่ถวาย มีอานิสงส์ครบถ้วน นั่นเขาครบ 100 เปอร์เซ็นต์เลยนะ คนอื่นเอาไปใช่ไหม อย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ อานิสงส์มันได้ตั้งแต่เริ่มให้ ยิ่งให้ก็ยิ่งอานิสงส์หนักขึ้นเวลาให้ต้องให้ด้วยตนเองใช่ไหม ขณะที่พระรับก็เกิดธรรมปิติอิ่มใจ อานิสงส์มันเพิ่ม แต่ว่าคนที่นำเอาไปใช้พิเศษคนนั้นลงอเวจีแน่



    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    โอ้โฮ...หนักถึงขนาดนั้นเลยหรือครับหลวงพ่อ.....?

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    ยังเบานะ ถ้า 2-3 คราว ลงโลกันต์

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">ผู้ถาม</TD><TD width="87%">
    นี่ดีนะที่สึกออกมาก่อน ไม่งั่นไปอยู่ใต้พระเทวทัตแน่ๆ

    </TD></TR><TR><TD align=left width="13%">หลวงพ่อ </TD><TD width="87%">
    ใต้พระเทวทัตน่ะไม่มีความทุกข์นะ ความทุกข์มันอยู่แค่อเวจี ต่ำกว่าอเวจีก็ไม่ถึงโลกันต์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1
     
  2. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message -->​

    <!-- / message -->
     
  3. เเมคมวย

    เเมคมวย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +79
    กราบนมัส หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ด้วย กาย วาจา ใจ
     
  4. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    กำลังหาอ่านเลยจ้าน้องบลู มีคนเค้าสงสัยเรื่องทำไมต้องชำระหนี้สงฆ์ ได้กระทู้ของน้องมาแก้ข้อสงสัย ไว้ว่างๆคุยกันนะ
     
  5. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    555 มีคนที่รู้จักสงสัยเหมือนกันครับ ไว้ทำผ้าคริสตัลเสร็จคงต้องชำระหนี้สงฆ์ครั้งใหญ่เลย
     
  6. ดวงตายมฑูต

    ดวงตายมฑูต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +10
    อนุโทมนาครับ
     
  7. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    ขอเชิญชวนท่านที่ต้องการชำระหนี้สงฆ์มาร่วมทำบุญสร้าง "พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมเพื่อชำระหนี้สงฆ์" เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์ รายละเอียดติดตามอ่านได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้


    http://palungjit.org/showthread.php?t=119095



    .
     
  8. ดุสิตบุรี

    ดุสิตบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +273
    เรื่องบางเรื่องเราอาจมองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อย แต่เรื่องที่เกี่ยวกับพระศาสนา แม้แต่เล็กน้อยก็มองข้ามไม่ได้ ทรัพย์ที่ถวายในพระศาสนา ถวายเป็นสังฆทานของสงฆ์โดยทั่วกัน หาเจาะจงสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งไม่ เราจะหยิบจะใช้ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากสงฆ์ส่วนใหญ่ตามพระบรมพุทธานุญาตเสียก่อนครับ

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  9. tanutda

    tanutda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +6
    ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ
    แล้วกรณีที่เราชำระหนี้สงฆ์แทนคนอื่นได้ไหมค่ะ อย่างเช่น แทน พ่อ แม่ พี่ น้องนะค่ะ
     
  10. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    [​IMG]
     
  11. namsompun

    namsompun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,365
  12. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    ชำระหนี้สงฆ์ และทำบุญทุกอย่าง...ทุกครั้งที่ไปวัดท่าซุงค่ะอนุโมทนาค่ะ
     
  13. iilliiiillii

    iilliiiillii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...