งานบุญอย่าให้มีบาป...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 18 สิงหาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]

    :z8งานบุญอย่าให้มีบาป<O:p</O:p
    การจะบวชลูกบวชหลานเข้าไว้ในพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ คือทำตามประเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัวควายบ้าง เอาสุราเมรัยเข้ามาเลี้ยงกันบ้าง ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายจัดการอุปสมบทกุลบุตรในพระพุทธศาสนา หรือว่าบำเพ็ญกุศลส่วนใดส่วนหนึ่งก็ดี ทำกันตามประเพณีแบบนี้ ก็จะได้ชื่อว่าไม่มีอนิสงส์อะไรเลย <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ทำบาปก่อนแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใดๆ ที่ตนคิดว่าจะทำมันจะไม่ปรารฏ<O:p</O:p
    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระบรมสุคตจึงได้แนะนำไว้ว่า<O:p</O:p
    ในการบำเพ็ญราศี ให้ปรากฏเป็นผลดี ก็ขอให้การนั้นเป็นการบำเพ็ญกุศลจริงๆ<O:p</O:p
    ขอท่านพุทธบริษัทชายหญิง จงเว้นกรรมที่อกุศลเสีย งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ อย่าให้มีปรากฏมี เวลาเริ่มงานขึ้นมาสักทีกรรมใดที่เป็นอกุศล เช่นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็ดี การเลี้ยงสุราก็ดีอย่างนี้จงงดไว้ ตั้งใจเฉพาะการบำเพ็ญกุศลราศีเท่านั้น<O:p</O:p
    ถ้าหากว่าท่านพุทธศาสนิกชนทุกทุกท่าน ได้นำบุตรของท่านเข้ามาอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนาไม่มีสิ่งใดเป็นอกุศล คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตของเราไม่มี การจะเลี้ยงสุราเมรัยก็ไม่มี การบำเพ็ญกุศลอย่างนี้จึงเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง<O:p</O:p
    ทีนี้สมมุติว่า เมื่อลูกชายของท่านบวชเข้ามาแล้วในพุทธศาสนา ถ้าปฏิบัติเลว อันนี้บั่นทอนความดีของบิดามารดาด้วย เพราะอะไร เพราะว่าถ้าปฏิบัติเลวทรามผิดธรรมวินัย เป็นอันว่ากรรมใหญ่ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นแก่บุตรของตน ทีนี้ถ้าหากว่าบุตรของตนปฏิบัติไม่ดี ปฏิบัติไม่ชอบ ไม่ประกอบไปด้วยพระธรรมวินัย ความเดือนร้อนก็เกิดขึ้น นั่นคือต้องถูกบังคับบัญชาลงโทษ ปฏิบัติไม่ชอบ ไม่ประกอบด้วยธรรมวินัย ความเดือดร้อนก็เกิดขึ้น นั่นคือต้องถูกผู้บังคับบัญชาลงโทษ<O:p</O:p
    เมื่อถูกผู้บังคับชาลงโทษแล้ว มักจะไปฟ้องบิดามารดาและญาติของตนว่า ถูกรุกรานจากผู้บังคับบัญชาของตน คราวนี้จะพาพ่อ แม่ พาญาติลงนรก คือตัวลงนรกคนเดียวไม่พอ ไปชวนพ่อ ชวนแม่ ชวนญาติพี่น้องลงนรกด้วย ก็ไปแจ้งกับบรรดาญาติพี่น้อง กับ บรรดาบิดามารดาของตนว่า เวลานี้บรรดาผู้บังคับบัญชาของตนรุกรานด้วยเหตุอย่างนั้น ด้วยเหตุอย่างนี้ ตอนนี้ทำอย่างไร<O:p</O:p
    จิตใจของพ่อแม่เกิดความไม่สบาย ดีไม่ดีโกรธผู้บังคับบัญชาหรือว่าพระผู้ใหญ่ที่ลงโทษ การโกรธ อารมณ์จิตเศร้าหมอง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า<O:p</O:p
    จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคคติ ปาฏิกังขา<O:p</O:p
    ถ้ามีอารมณ์ของเราเกิดความเศร้าหมองขึ้นแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ตายจากความเป็นมนุษย์ก็ไปทุคคติ<O:p</O:p
    ทีนี้สมมุติว่า กุลบุตรที่เข้ามาบวชในพุทธศาสนาปฏิบัติชอบด้วยธรรมวินัย<O:p</O:p
    ความผ่องใสของท่านผู้บวชก็มีขึ้นคือจิตผ่องใส ปราศจากอารมณ์ที่เป็นกิเลส แล้วต่อมาปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ คือเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน จนกระทั่งมีอารมณ์จิตชื่นบาน เข้าถึงปีติ<O:p</O:p
    คำว่าปีติ ในที่นี้ก็หมายถึงความว่า ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรมวินัยอย่างหนึ่ง ยินดีในการเจริญสมถภาวนา วิปัสสนาภาวนา เกิดความชุ่มชื่นในการปฏิบัตินั้น อานิสงส์อันนี้ย่อมเกิดแก่กุลบุตรผู้อุปสมบทบรรชาในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบไว้ว่า <O:p</O:p
    ท่านผู้ใดก็ดี อุปสมบทบรรพชาเข้ามาแล้วในพระพุทธศาสนา วันหนึ่งทำจิตใจว่างจากกิเลสเพียงละหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว<O:p</O:p
    นี่หมายความว่า วันหนึ่งมีเวลา 24 ชั่วโมง เวลานอกนั้นจิตฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ แต่ว่าตอนปฏิบัติพยายามคุมกำลังใจ ไม่พลั้งพลาดออกจากพระธรรมวินัย หรือเวลาใดเวลาหนึ่งก็ตามในวันนี้ทำสมาธิจิตให้เกิดขึ้น จะเป็นอารมณ์สมาธิก็ตาม หรือจิตผ่องใสทางด้านวิปัสสนาญาณก็ตาม วันหนึ่งเพียงชั่วขณะจิตเดียว จิตโปร่งจริงๆ ขณะนิดเดียว นาทีหนึ่งหรืองสองนาทีก็ตาม แต่ว่าทำได้ทุกวันไม่จำกัดเวลา อย่างนี้องค์สมเด็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า<O:p</O:p
    ท่านผู้นั้น บวชเข้าในพุทธศาสนาแม้แต่เพียง 1 วัน ก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวชเข้ามาในพุทธศาสนาตั้ง 100ปี มีศีลบริสุทธ์ไม่บกพร่อง แต่ก็ไม่ได้เลยเจริญสมาธิจิต<O:p</O:p
    ท่านบอกว่า อานิสงค์นี้คูณด้วยกำลังของแสน<O:p</O:p
    นี่ก็หมายความว่า เวลาที่เสวยทิพยสมบัติ เป็นเททวดาก็ดีเป็นพรหมก็ดี ตามกำหนดย่อมมีเสมอกัน คือ 60 กัป หรือบิดามารดาได้คนละ 30 กัป เป็นอันว่าความสุขที่จะพึงได้ และแสงสว่างที่พึงได้ รัศมีกายที่จะปรากฎความเป็นเทวดาย่อมมีผลต่างกัน ท่านผู้เจริญสมาธิคือทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว มีอานิสงส์แห่งความสุขดีกว่า มีรัศมีกายสว่างไสวกว่า<O:p</O:p
    ในเทื่อบุตรชายของท่านที่อุปสมบทบรรพชาเข้ามาพุทธศาสนาทำความประเภทนี้ ท่านจะไปพบผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลใดก็ตามที ที่เขาเห็นบุตรชายของท่านทำความดีบวชเข้ามาแล้วปฏิบัติชอบในระบอบพระธรรมวินัย ทุกคนพรกันสรรเสริญ ทุกคนชื่นใจ ทุกคนมีศรัทธา สำหรับบิดาผู้เป็นญาติผู้ใหญ่ก็พลอยชื่นบานไปด้วย โมทนาความดี อันนี้องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาตรัสว่า<O:p</O:p
    เพราะอาศัยความที่มีความชื่นบาน มีความผ่องใส มีความพอใจ มีธรรมปีติที่อาศัยลูกชายของตนประพฤติดีประพฤติชอบในระบอบพระธรรมวินัย<O:p</O:p
    องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า<O:p</O:p
    จะมีอานิสงส์มาขึ้น<O:p</O:p
    หมายความว่า ถ้าเป็นเทวดาหรือว่าพรหม ก็มีรัศมีกายผ่องใสขึ้น จะเพิ่มความสุขยิ่งขึ้น<O:p</O:p
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย การที่นำลูกชายของท่านบวชเณรก็ดี เข้ามาบวชเป็นพระก็ดีในพระพุทธศาสนา สำหรับท่านบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ให้เขาเกิดมาเป็นคน <O:p</O:p
    องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ย่อมมีอานิสงส์คุ้มแก่ค่าที่ท่านเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเติบใหญ่<O:p</O:p
    ถ้าบังเอิญท่านผู้นั้นมีลูกชายบวชหลายคน ก็จงทราบว่าคนหนึ่งบิดามารดาได้อานิสงส์แห่งการบวชลูกชายในพระพุทธศาสนาเป็นพระคนละ 30 กัป ท่านก็นับไปก็แล้วกัน ถ้าบวชลูกชายเป็นเณรคนหนึ่งในพุทธศาสนาก็มีอานิสงส์คนละ 15 กัป สำหรับบิดามารดา ทีนี้บังเอิญท่านคลอดบุตรมาแล้ว ต่างคนต่างแยกกันหรือตายไปเสียก่อน องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาตรัสว่า อานิสงส์แห่งการอุปสมบทบรรพชา ย่อมมีผลแก่บุคคลผู้ตายแล้ว ถึงแม้ว่าไม่ได้โมทนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ธรรมปฏิบัติ เล่ม 1 หน้า 35-40<O:p</O:p
     
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  4. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ขยันโพทจังเรยน่ะ อิอิ อยากโพทเก่งแบบนี้ ๆ บ้างงงงง
    ขอโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยจ้าาา
     
  5. pornchai009

    pornchai009 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +14
    สาธุ...ขอกราบอนุโมทนาครับ
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    <STRONG>เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    [​IMG]
     
  8. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านหลวงปู่สำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  9. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อนุโมทนาในธรรม ที่นำมามอบให้ทราบ

    เป็นธรรมที่ดีและควรปฏิบัติตามอย่างยิ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...