ประวัติหลวงปู่คำคะนิง ภาคพิสดาร ๕ (ตอนเมืองใต้พิภพและมนุษย์นาคา)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 10 ตุลาคม 2008.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี
    บุกเมืองพญานาคและท่องนรก (๕)
    โดย สิทธา เชตวัน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ๐ เมืองใต้พิภพ

    ไปเรื่อยๆ 3 วัน 3 คืน ไม่ได้ฉันข้าวน้ำอะไรเลยแต่ไม่รู้สึกหิวโหยอ่อนเพลียแต่ประการใด กลับมีแต่ความรู้สึกอันสดชื่นเบิกบานร่างกายกระชุ่มกระชวยผาสุก อุโมงค์และคูหาถ้ำน้อยใหญ่ที่พญางูใหญ่นำเที่ยวดูชมล้วนงามรุ่งเรืองตระการตา ทำให้เพลิดเพลินเจริญใจจนลืมเวล่ำเวลาที่ผ่านไปไม่รู้ตัว

    จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำสายหนึ่งไหลเอื่อยอยู่ใต้พิภพน้ำไม่ลึกมองเห็นกรวดทรายสีต่างๆ ระยิบระยับอยู่ใต้ขึ้นน้ำที่ใสกระจ่างปานกระจกพญางูใหญ่เลื้อยปราดลงไปในแม่น้ำแล้วหายวับไปจะว่ามุดน้ำหนีไปก็ไม่ใช่เพราะจับตาดูอยู่ เป็นการหายไปเฉยๆคล้ายแสงไฟดับยังงั้นแหละ

    แต่พอหลวงปู่คำคะนิงขึ้นถึงฟากฝั่งตรงข้ามก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่ามีรอยมนุษย์เพิ่งขึ้นจากน้ำไปใหม่ๆ รอยนั้นเปียกน้ำอยู่ แต่ไม่เห็นตัวคน

    พลันหลวงปู่คำคะนิงก็ล่วงรู้ได้ด้วยญาณว่า แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ขวางกั้นด่านชั้นในเข้าสู่เมืองพญานาคใต้พิภพเมื่อพวกพญานาคหรืองูใหญ่เลื้อยลงสู่แม่น้ำนี้แล้วจะกลายร่างจากงูใหญ่เป็นร่างมนุษย์ไปในบัดดล

    แน่แล้วพญางูผู้นำทางจะต้องเป็นเจ้าของรอยเท้ามนุษย์เปียกน้ำ ท่านจึงออกเดินสะกดรอยนั้นไปแต่เพื่อป้องกันหลงทางในตอนขากลับ จึงได้เก็บเอาก้อนหินมาวางไว้เป็นเครื่องหมาย

    เดินไปได้ไม่ไกลก็เห็นคูหาถ้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลเพดานถ้ำอยู่สูงลิ่วเป็นรูปโค้งคล้ายท้องฟ้าจำลองแสงสว่างรุ่งเรืองสดใสคล้ายอาบด้วยละอองสีทองทำให้จีวรย้อมฝาดของหลวงปู่กลายเป็นสีทองเข้มไหลออกไปสุดสายตาเป็นแสงสว่างสีชมพูอ่อนๆ สลัวหมอกมัวมองไม่ทะลุ

    ภายในคูหาถ้ำแห่งนี้มีพระมหาเจดีย์องค์ใหญ่สูงลิบลิ่ว เป็นทองคำทั้งแท่งสุกปลั่งอร่ามพร่างพราย ชวนให้ตะลึงลาน รอบๆองค์มหาเจดีย์ทองคำมีพระพุทธรูปทองคำตั้งเรียงรายไว้เป็นชั้นๆ มากมายสุดคณานับแต่ละชั้นทำด้วยหินผลึกสลักลายทองคำลวดลายละเอียดยิบกระถางธูปและเชิงเทียนตั้งเรียงราย ตัว กระถางเป็นสีมรกตจางใสโตขนาดช่วงแขนโอบ

    ภายในกระถางบรรจุไว้ด้วยทรายทองคำเต็มสำหรับปักธูปซึ่งจุดส่งควันกรุ่นมีกลิ่นหอมตลบอบอวลชื่นใจ เชิงเทียนเป็นมณีแดง เทียนที่จุดมีทั้งเทียนขาว เหลืองแดง

    ถัดออกไปเป็นกำแพงแก้วล้อมรอบพระมหาเจตีย์กำแพงแก้วฝังไว้ด้วยเพชรเม็ดใหญ่ๆตามลวดลายกนกส่องแสงวุบวับเป็นประกายดุจดวงดาวนับหมื่นนับแสนดวงมาประดับไว้ ณที่นั้น

    นอกกำแพงแก้วออกไปเป็นมหาวิหารคดและพระอุโบสถสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวประดับลวดลายด้วยเส้นลายทองคำฝังแก้วเจ็ดประการงามรุ่งเรืองวิจิตรพิสดารน่ามหัศจรรย์

    หลวงปู่ไม่ได้ฝันไปนะ ไม่ได้เข้าฌานถอดกายทิพย์ไปแต่ไปด้วยร่างกายแก่เฒ่าของปู่นี้แหละ หลวงปู่ยังเข้าไปโอบกอดพระมหาเจดีย์ทองคำเลยเป็นทองคำจริงๆ เนื้อแน่นหนาทึบเย็นเหมือนน้ำ หลวงปู่ดูละเอียดหมดยังได้จุดธูปเทียนในภาชนะแก้วทองสักการะเลยหลวงปู่คำคะนิงกล่าวยืนยันเป็นถ้อยคำแข็งแรง

    ๐ มนุษย์นาค

    หลวงปู่พบพระสงฆ์องค์เจ้าหรือเปล่าครับข้าพเจ้าถาม

    ไม่มีพระเณร เงียบมากเงียบจนกระทั่งหลวงปู่ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดังตึก ๆ หลวงปู่เดินเที่ยวดูหมดไม่มีพระเณรเลยสักองค์จริงๆกุฏิหินอ่อนสีขาวหลังคาเป็นแก้วประพาฬปลูกไว้เรียงรายหลายสิบหลังปิดประตูหน้าต่างเงียบ คล้ายเป็นวัดร้างหลวงปู่กล่าว

    วัดนี้ไปอยู่ในถ้ำได้อย่างไรครับ

    มีผู้สร้างขึ้นไว้ไม่ใช่มนุษย์บนโลกสร้าง แต่ เป็นมนุษย์นาคสร้าง

    มนุษย์นาค

    ก็พญานาคนั่นแหละ ที่นี่เป็นเมืองบาดาลของพวกพญานาคพวกเขานับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน พญานาคเป็นสิ่งมีชีวิตเร้นลับเป็นกึ่งสัตว์เดรัจฉานและกึ่งเทพเจ้า มีมหิทธานุภาพมากสามารถจำแลงกายเป็นชายหนุ่มละหญิงสาวสวยงามได้ ชอบทำบุญสร้างกุศลในพุทธศาสนา

    ในคัมภีร์มหาวรรคกล่าวว่า

    พญานาคตนหนึ่งมีศรัทธาที่จะบวชในพระพุทธศาสนาจึงเนรมิตบิดเบือนกายเป็นมนุษย์แล้วได้บวชเป็นพระภิกษุสมความปรารถนา ครั้นอยู่นานมา พระคุณเข้าท่านประมาทเผลอตัวรูปนิมิตก็กลับกลายเป็นพญานาคอย่างเดิม

    สมเด็จพระพุทธองค์ทรงทราบจึงมีพระพุทธฎีกาโปรดประทานนามว่า ชื่อว่าสัตว์เดรัจฉานมีชาติอันต่ำช้าแล้วห้ามมิให้บวชในพระพุทธศาสนา
    ความในมหาวรรคมีเพียงแค่นี้

    แต่ต่อมาท่านพระอรรถกถาจารย์บางท่านได้เขียนอธิบายขยายความไว้ว่า

    พญานาคที่ปลอมเป็นมนุษย์บวชพระนั้นได้กราบวิงวอนพระพุทธองค์ขอให้ผู้ที่จะบวชต่อไปใช้คำว่า นาค ในเวลาบวชเถิดซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงยินยอมตามคำขอร้องนั้น

    หลวงปู่ว่าเป็นไปได้ที่พวกพญานาคสร้างวัดทองคำประดับด้วยแก้วมณีอันมีค่านี้ไว้สักการะบูชาเพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงพระรัตนตรัย

    หลวงปู่ทำไมไม่อยู่จำพรรษาที่นั่นล่ะครับ

    อยู่ไม่ได้เพราะหลวงปูแค่ขออนุญาตเขาเข้าไปดูชมให้เป็นบุญหูบุญตาเท่านั้น

    นอกจากวัดที่หลวงปู่เห็นแล้วมีอะไรอีกครับ

    หลวงปู่เดินดูชมบริเวณวัดจนทั่วแล้วก็เลยไปทางสระใหญ่มีดอกบัวสีต่างๆขึ้นเต็ม ดอกบัวส่งกลิ่นหอมชื่นใจมาก มีสนามหญ้าสีเขียวตัดเรียบมีสวนดอกไม้กว้างสุดสายตา แล้วก็มีทางเดินปูลาดด้วยแผ่นแก้วสีขาวหม่นๆ

    สองข้างทางเป็นต้นไม้ทั้งดอกทั้งใบสีแปลกๆ ลูกผลยั้วเยี้ยเลยก็เลยเดินเข้าไปตามทางนี้ รู้สึกกว่ากลิ่นหอมของดอกไม้รุนแรงยิ่งขึ้นหอมจนฉุนกึ้กขึ้นจมูกเลย หลวงปู่รู้สึกวิงเวียน


    จากหนังสือโลกทิพย์ ฉบับที่ 11 ปีที่ 2 เดือนมีนาคม 2526
    กรุณาติดตามตอนต่อไปครับ (ตอนเหล็กไหล)
    http://palungjit.org/showthread.php?t=154547

    ขอเชิญทุกท่านได้โมทนาบุญผ้าป่า ๓ กองบุญร่วมกันครับ
    http://palungjit.org/showthrea...=158315&page=3

    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เพียงท่านแวะชมและโมทนาท่านก็จะได้บุญได้กุศลตามกำลังใจของแต่ละท่าน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2008
  2. จ่าราญ

    จ่าราญ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอคุณมากครับตื่นเต้นมากเลยผมติดตามอ่านตลอด
    ขออนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...