รำลึก ๑๖ ปี แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อ ก่อนที่หลวงพ่อจะละขันธ์ 5 และหลังละขันธ์ 5 แล้ว

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 27 ตุลาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]


    ก่อนที่ท่านจะละขันธ์ 5 และหลังละขันธ์ 5 แล้ว

    ธรรมะและเหตุการณ์บางตอน ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อ (พระราชพรหมยาน)
    โดย พล.ต.ท.นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน

    เรื่องโดยย่อมีดังนี้ ผมพบหลวงพ่อฤาษี (พระราชพรหมยาน) เมื่อปี พ.ศ. 2517 และยึดท่านเป็นที่พึ่งทางธรรมตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ และได้เป็นหมอประจำองค์ท่านมาตลอดมาจนท่านละขันธ์ 5 มีการประกาศแต่งตั้งให้ผมเป็นหมอประจำตัวท่านที่ซอยสายลม ด้วยวาจาของท่านต่อหน้าคณะศิษย์ของท่านในปีนั้น โดยมี ท่าน อ๋อย (คุณเฉิดศรี ศุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา ) ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและหัวหน้าฆราวาสฝ่ายหญิงของหลวงพ่อรับทราบ ต่อมาก็มีแพทย์อีกหลายท่านมาช่วยดูแลสุขภาพของท่านตามลำดับ จนถึงคณะแพทย์รุ่นสุดท้าย 4 ท่าน คือ คุณหมอจรูญ คุณหมอแสงโสม คุณหมอชนะ และ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>หมอ วัฒนะ ผมรับทราบรายงานจากท่านทั้ง 4 ตลอดมา จนถึงวาระสุดท้ายที่ท่านทิ้งเปลือกของท่านไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2535 เวลา 16. 10 น. แต่ตัวจริงคือจิตหรืออทิสมานกายของท่านไม่เคยตาย เพราะจิตเป็นอมตะ ส่วนร่างกายซึ่งประกอบด้วยธาตุ 4 เป็นสมบัติของโลก ไม่ผู้ใดเอาไปได้<O:p</O:p
    ผมลาออกราชการก่อนครบอายุครบ 60 ปี เป็นเวลา 3 ปี ครึ่ง จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ (ในปี พ.ศ. 2529 ) และมีโอกาสได้อยู่วัดมากกว่าอยู่ที่บ้าน ขณะที่จำพรรษาจะอยู่ที่วัดตลอดพรรษา ในพรรษาสุดท้าย 3 เดือนนี้ มีอยู่หนึ่งเดือนที่ร่างกายของท่านป่วยมาก จนต้องของดไปสอนที่ซอยสายลม ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตของท่าน ท่านคุยกับผมเป็นส่วนตัวว่า งานที่หนักที่สุดของท่านคือการไปสอนพระกรรมฐานที่ซอยสายลมนี่แหละ เพราะหาโอกาสได้พักผ่อนได้น้อยมาก และต้องใช้กำลังสูงมาก เมื่อกลับวัดร่างกายมันย่ำแย่มากทุกที<O:p</O:p
    จุดนี้แหละ เมื่อผมมาพิจารณาหลังจากที่ท่านละขันธ์ 5 ไปแล้ว ผมก็รู้สึกดีใจละเสียใจ คือ มีอารมณ์ 2 (พอใจและไม่พอใจ) ที่ดีใจก็คือ ผมตัดสินใจถูกต้องที่ละโลกธรรม โดยลาออกจากราชการก่อนเวลาอันควร 3 ปีครึ่ง เพื่อเอาเวลานั้นมาสู่โลกุตรธรรม โดยมาอยู่วัดรับใช้ท่านอย่างใกล้ชิด และท่านได้เมตตาสอนธรรมะให้กับผม ทุกวัน แต่เป็นธรรมะที่ท่านยังไม่อนุญาตให้เปิดเผย จึงขอเว้นไว้ก่อน (ไม่มีสมบัติใดที่มีค่าสูงสุดยิ่งไปกว่าพระธรรม)<O:p</O:p
    ส่วนอารมณ์เสียใจหรือไม่พอใจนั้นก็คือ ท่านได้แสดงธรรมให้ผมรู้ว่าท่านจะละสังขันธ์ 5 แล้วนะ เพราะในที่สุด ทุกคนที่เกิดมามีร่างกาย ก็ต้องไม่พ้นจากสภาวธรรมทั้ง 5 นี้ไปได้ (สัทธรรม คือ ปรารถนาไม่สมหวังเป็นธรรมดา ) แต่ความผิดหรือความโง่อยู่ที่ใจผมใจผมมีอุปาทานคิดอยู่เสมอว่า ท่านจะมีอายุ 120 ปีจึงจะละขันธ์ 5 ผมคิดว่าอุปาทานข้อนี้ คงจะมีศิษย์ของท่านอีกจำนวนไม่น้อย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เหตุการณ์ในวันที่หลวงพ่อทิ้งขันธ์ 5 <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (ผมเขียนจากประสบการณ์ ที่เห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู และสัมผัสด้วยมือของตนเอง แล้วจึงนำมาเขียน มิได้เขียนจากคำบอกเล่าหรือเขาว่า ซึ่งขัดต่อหลักพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)<O:p</O:p
    ผมขอเล่าแต่เฉพาะตอนสำคัญๆ หลวงพ่อทิ้งหรือละขันธ์ 5 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2535 เวลา 16.10 น. ผมไปเยี่ยมท่านตามปกติ แต่มิได้เข้าไปในห้องซีซียู ทั้งๆ ที่ผมมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปได้ทุกเวลา เพราะอุปาทานในจิตของผมมันบอกว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะจากไป บวกกับผมพบเหตุการณ์หนัก ในขณะที่ท่านป่วยมากมากๆ มาหลายครั้ง ทั้งที่เมืองไทยและในต่างประเทศ หลวงพ่อท่านก็ไม่เป็นอะไรทุกครั้ง นี่คือความประมาท (ความเลว) ของผม<O:p</O:p
    พอเวลา 15.00 น. เศษผมจึงขอรถกลับบ้าน ถึงบ้านยังไม่ทันดับเครื่องรถยนต์ ก็มีโทรศัพท์ด่วนให้ผมรีบกลับไปโรงพยาบาลศิริราช ผมรีบขับมาประมาณ 20 นาที ก็ตรงไปยังซีซียู พบคุณสุมิตร ผมขับมาประมาณ 20 นาที ก็ตรงไปห้องซีซียู พบคุณสุมิตร มหันตคุณ รออยู่ พูดว่า ลุงหมอ รีบเข้าไปพบหมอวัฒนะด่วน หมอวัฒนะสั่งให้เจ้าหน้าที่ แผนกนิติเวชของโรงพยาบาลศิริราช มาฉีดยากันเน่าให้หลวงพ่อ ผมก็รีบเข้าไปพบท่านและพูดว่า คุณหมอไม่จำเป็นต้องฉีดยาหรอก เพราะ หลวงพ่อท่านเคยพุดกับผมว่า ร่างกายของท่านจะไม่เน่าเปี่อย เหมือนกับหลวงพ่อสด ซึ่งนั่งตายมากว่า 10 ปีแล้ว ท่านนั่งตายเฝ้าวัดของท่าน และท่านก็สามารถเลี้ยงวัดของท่านได้มาจนทุกวันนี้ แต่อาตมาไม่เอาอย่างท่าน เพราะการนั่งสังขารมันเหมื่อย ขอนอนตายดีกว่า แล้วท่านก็หัวเราะชอบใจ<O:p</O:p
    ธรรมที่หลวงพ่อกล่าวนี้ หลวงพ่อมิได้พูดกับผมเท่านั้น ท่านพูดกับศิษย์คนอื่นอีกหลายคน ขอให้คุณหมอมั่นใจเถิด คุณหมอวัฒนะฟังผมพุดหนักแน่นเช่นนั้น ท่านก็เบาใจ พูดว่า ผมเชื่ออาจารย์ เหตุการณ์นี้ มีหมอแสงโสม และ หมอชนะ ว่าขันธ์ 5 ที่หลวงพ่ออาศัยอยู่ มิได้ฉีดยากันเน่าแต่ประการใด จากนั้นหมอวัฒนะก็เปิดผ้าคลุมร่างกายบริเวณหน้าท้องของหลวงพ่อพ่อสิ (ขณะนั้นผิวหนังหน้าท้องของท่านมีจุดสีแดงเป็นหย่อมๆ หลายแห่ง ) ผมเห็นแล้ววิตกว่าร่างกายของท่านจะเน่าเปื่อย ผมฟังแล้วยืนยันว่า ผมขอบรับรองว่าร่างกายของท่านจะไม่เน่าเปื่อยอย่างแน่นนอน คุณหมอวัฒนะจึงหยุดพุด จากนั้นผมให้คุณหมอวัฒนะโทรศัพท์ต่อหน้าผม สั่งแผนกนิติเวรว่าไม่ต้องมาแล้ว นี่คือความจริงเรื่องร่างกายหลวงพ่อมิได้ฉีดยากันเน่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ขอเล่าความสำคัญอีกจุดหนึ่ง คือ ประมาณ 16.30น. ผมมาอยู่ในห้องซีซียู เห็นว่าร่างกายหลวงพ่อนอนหงาย มีผ้าคลุมจากคอลงมาถึงเท้า อยู่บนเตียงที่มีล้อเข็นไปมาได้ มีหมอ 4 คนยืน อยู่ด้านหนึ่ง เมื่อผมเข้าไป สิ่งแรกที่ผมกระทำคือ คุกเข่าลงที่พื้น แล้วกราบที่เท้าของท่าน พร้อมขอขมาพระรัตนตรัยด้วยจิต ขณะนั้นเองผมได้ยินเสียงของคุณหมอทั้ง 4 คน พูดพร้อม ๆ กันด้วยเสียงดังฟังชัดว่า หลวงพ่อยิ้ม ๆๆ แต่ผมเองกลับได้ยินว่า หลวงพ่อฟื้น ๆ จึงรีบลุกขึ้นพุดว่า หลวงพ่อฟื้นแล้วหรือ หมอทั้ง 4 ท่านก็ชี้ให้ผมดูใบหน้าหลวงพ่อ ซึ่งท่านยิ้มอย่างมีความสุข จนถึงมุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นสูงมาก แต่ไม่เห็นไรฟัน นี่คือการยิ้มครั้งแรกของท่านหลังจากละขันธ์ 5<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อีกเรื่องหนึ่งที่ควรเล่า พยาบาลที่เป็นหัวหน้าห้องซีซียู มาขออนุญาตผมพูดว่า อาจารย์ หนูขออนุญาตเอาแป้งไปผัดหน้าของหลวงพ่อได้ไหม หน้าท่านดำ ผมก็อนุญาต เมื่อพยาบาลเอาแป้งเข้าไปจะผัดหน้าหลวงพ่อ (ขณะนั้นผมและคณะหมอคุยปรึกษากันอยู่นอกห้อง คือ อยู่ในห้องโถง ซึ่งมีผู้ป่วยอื่นๆ อยู่หลายเตียง) สักครู่ผมได้ยินเสียงวี๊ดของพยาบาล เธอวิ่งออกมาแล้วพูดว่า อาจารย์คะ พอหนูจะเอาแป้งไปผัดหน้าท่าน หนูเห็นหน้าท่านข่าว ขาวมากเลยไม่ได้ผัดหน้าท่าน ผมและหมอทุกคนรีบเขาไปดูหน้าท่าน ก็ขาวจริงๆ ตามที่พยาบาลบอหก ผมเปิดผ้าคลุมร่างกายของหลวงพ่อออก เพื่อดูผิวหนังบริเวรท้องซึ่งมีจุดแดง ๆ อยู่หลายจุด พอว่าจุดแดง ๆ เหล่านั้นได้หายไปหมดแล้วซ้ำผิวยังขาวเนียนเป็นปกติ จึงเรียกคุณหมอวัฒนะมาดูกับตา และผมให้หมอเอาลูบคลำผิวหนังด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป แต่นี่เป็นของจริง คุณหมอ อุทานว่า เอ๊ะ มันเป็นไปได้อย่างไร ๆ ผมถามว่า คุณหมอหายสงสัยแล้วหรือยังว่าร่างกายของท่านจะไม่เน่าเปื่อย หมอตอบว่า ผมมั่นใจแล้วครับ <O:p</O:p
    ชั่วโมงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หลวงพ่อท่านแสดงฤทธิ์ให้ลูกศิษย์เห็นกับตาถึง 3 อย่าง<O:p</O:p
    1.ยิ้มให้เห็นอย่างชัดเจน<O:p</O:p
    2.ทำใบหน้าที่ดำให้ขาวในพริบตา<O:p</O:p
    3.ทำผิวหนังซึ่งไม่น่าดู หมอเห็นแล้วมีความวิตกกังวล กลับมาเป็นปกติ<O:p</O:p
    ทั้งหมดนี้ คือ สังโฆอัปมาโณ ผมไม่ขออธิบาย เพราะพระธรรมในพุทธศาสนาเป็นปัจจัตตัง หมายความว่า ผู้รู้พระธรรมพึงรู้ได้เห็นได้ เข้าใจได้ สัมผัสได้ด้วยจิตตนเอง เฉพาะตนจะพูด จะเขียนจะอธิบายอย่างไรก็ไม่หายสงสัย หากจิตของผู้นั้นยังปฏิบัติไม่ถึงธรรมข้อนั้นหรือจุดนั้น ถึงเมื่อไหร่ความสงสัยจึงจะหมอไปได้เอง ของใครก็ของมัน กรรมใครก็กรรมมัน ทำแทนกันก็ไม่ได้ เรื่องฤทธิ์ของหลวงพ่อมีอยู่เป็นปกติใน 100 วันที่ผมเฝ้าและติดตามท่านตลอดหากอยากจะทราบก็ขอให้ติดตามเรื่องต่อไปนี้<O:p</O:p
    <O:p



    จากหนังสือ ธรรมะหลวงพ่อ ธรรมะบางตอนของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) และพระอริยเจ้าบางองค์ รวบรวม โดย พล.ต.ท.นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
    [​IMG]
    <O:p

    http://palungjit.org/showthread.php?t=155104</O:p





    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2008
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129

    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ....คุณหมอทั้งหลาย มีกุศลสูงครับที่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้
     
  3. สุคโต

    สุคโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +987
    พระเมตตากรุณาของพ่อยิ่งใหญ่นัก ทั้งตอนที่มีชีวิตอยู่และจากไป
    จะไม่ให้ลูกของพ่อ...รักพ่อได้อย่างไรเล่า ขอกราบแทบเท้าพ่อด้วยเศียรเกล้า [​IMG]
     
  4. แงซาย ชายดอย

    แงซาย ชายดอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +1,314
    โมทนา อย่างยิ่ง ครับ

    ท่านใด ไปบ้านสายลม ในต้นเดือน ไปร่วมฟังธรรม สนทนาธรรมกับคุณหมอ
    ได้ ครับช่วงกลางวัน และมีหนังสือ ที่เขียน โดย คุณหมอ น่าอ่านมากๆครับ
    เป็น ข้อธรรมะล้วนๆ ที่ได้จากสมเด็จท่านและหลวงพ่อรวมถึงพระอริยะอีกหลายองค์

    รีบไปนิพพานกันดีกว่าครับ สาธุ
     
  5. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +1,453
    เวลาอ่านเรื่องพุทธปรินิพพานหรืออรหันตนิพพานแล้วอยากร้องไห้เรื่อยเลย
    คิดถึงและเสียดายโอกาสของพวกเราที่จะได้ใกล้ชิดฟังธรรม
    ขณะเดียวกันก็ดีใจที่พวกท่านจะได้พักผ่อนหมดทุกข์ในกายตลอดไป
     
  6. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...