ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพแจกของถิ่นทุรกันและผู้ประสบภัยหนาวภาคเหนือ

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย พระดาบสน้อย, 15 พฤศจิกายน 2008.

  1. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    เจริญพร
    เนื่องด้วยช่วงนี้ทางภาคเหนือของประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ คือ ภัยหนาว ทางคณะผู้ดำเนินการจึงรวมตัวกันเพื่อรวบรวมสิ่งของต่างๆเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยหนาว ทางคณะผู้ดำเนินการจะนำสิ่งของต่างๆที่ได้รับบริจาคไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย บ้านปางสา อ.แม่จัน จ.เชียงราย ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒ และทางคณะผู้ดำเนินการได้เดินทางไปแจกในปีนี้เป็นปีที่ ๒ แล้ว หากท่านผู้ใดมีความประสงค์จะร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค หรือปัจจัยติดต่อได้ที่
    พระมหาจรูญโรจน์ ทีปงฺกโร 0814935256 หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขา ย่อยฟอร์จูนทาวน์ เลขที่ 629-2-02195-8 ชื่อบัญชี พระมหาจรูญโรจน์ ช่อปทุมมา แจกของถิ่นทุรกันดารและผู้ประสบภัย
    และท่านใดที่ต้องการเดินทางไปร่วมแจกของทางคณะมีตารางกำหนดการดังนี้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในวันที่ 30 ธ.ค. 51 โดยรถตู้ ในเวลา
    3 ทุ่ม
    วันที่ 31 ธ.ค. 51
    7.00 น. กราบหลวงปู่ครูบาดวงดี
    วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
    10.00 น. กราบหลวงปู่สิม
    วัดถ้ำผาปล่อง
    11.00 น. ทานอาหารกลางวัน
    13.00 น. ออกเดินทางไปเชียงราย
    15.00 น. ถึงวัดป่าปฐมพุทธาราม
    เชียงราย กราบสมเด็จองค์
    ปฐมปางพระวิสุทธิเทพ
    พักผ่อน
    17.00 น. ทานอาหารเย็น
    18.00 น. ขึ้นพระธาตุจอมกิตติ
    19.00 น. หาที่พัก
    22.00 น. สวดมนต์ นั่งสมาธิรับปีใหม่
    24.00 น. พักผ่อน
    วันที่ 1 มกราคม 2552
    6.30 น. เดินทางขึ้นพระธาตุดอยตุง
    7.00 น. ทานอาหารเช้า
    8.00 น. บวงสรวงที่พระธาตุดอยตุง
    9.00 น. เดินทางไปแจกของ
    ที่บ้านปางสา อ.แม่จัน
    10.00 น. เริ่มการแจกของแก่
    นักเรียนและชาวบ้าน
    11.30 น. ทางคณะจะทำก๊วยเตี๋ยว
    เลี้ยงเด็กนักเรียนและ
    ชาวบ้าน
    14.30 น. เดินทางไปที่
    วัดพระธาตุห้าดวง
    17.00 น. ทานอาหารเย็น
    18.30 น. ถึงวัดพระธาตุห้าดวง อ.ลี้
    จ.ลำพูน กราบ
    สมเด็จองค์ปฐม
    หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี
    ท่านแม่ศรี
    20.00 น. พักผ่อน
    วันที่ 2 ม.ค. 51
    6.30 น. เดินทางไปวัดถ้ำป่าไผ่
    หลวงปู่มหาสิงห์
    8.00 น. ทานอาหารเช้า
    9.00 น. เดินทางไปกราบ
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศา ฯ
    11.00 น. ทานอาหารกลางวัน
    12.00 น. เดินทางกลับ
    15.00 น. เข้าวัดท่าซุง
    16.30 น. เดินทางเข้ากรุงเทพฯ
    17.30 น. ทานอาหารเย็น
    21.00 น. ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
    ท่านที่สนใจเดินทางไปร่วมบุญกับทางคณะผู้ดำเนินการมี ค่าใช้จ่ายคนละ 2,500 บาท รวมค่าอาหาร หากเหลือปัจจัยจะนำเข้าบัญชีแจกของเพื่อแจกของในครั้งต่อๆไป และทางคณะจะทำบัญชีสรุปยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดลงในเว็ปเมื่อแจกของเสร็จเรียบร้อยแล้ว
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008
  2. punyawat

    punyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +183
    อนุโมทนาด้วยครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
    _____________
    "...กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง..."

    -------------------หลวงปู่โต พรหมรังสี--------------------
     
  3. onlyone

    onlyone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +4,577
    มีใครสนใจร่วมเดินทางกันมั้ยคะ
     
  4. onlyone

    onlyone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +4,577
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=message align=left colSpan=2>
    [​IMG]


    พระครูสุภัทรสีลคุณ (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท)
    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ (สมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล) หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 เดือนเมษายน พ.ศ. 2449 หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ 7 และมีน้องสุดท้องชื่อแม่นิน
    เมื่อหลวงปู่อายุได้ 11 ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาเจ้าฯได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า "กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน" นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาเจ้าฯได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่ยังเด็ก

    หลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้าน ไม่กี่วันต่อมา บิดาก็นำขันข้าวตอกดอกไม้ พร้อมกับนำตัวเด็กชายดวงดีไปถวายฝากตัวเป็นศิษย์(ขะโยม)ในท่านครูบาโปธิมา ซึ่งเป็นอธิการวัดท่าจำปี ใกล้ๆบ้านนั่นเอง ครูบาโปธิมาก็ได้พร่ำสอนหนังสือของทางการบ้านเมืองสมัยนั้น หลังจากสั่งสอนเด็กชายดวงดีจนพออ่านออกเขียนได้ ท่านครูบาโปธิมาก็ย้ายจากวัดท่าจำปีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ห่างจากวัดท่าจำปีไปเล็กน้อย ท่าครูบาสิงหะ เจ้าอาวาสท่านต่อมาได้ให้เด็กชายดวงดีศึกษาเป็นขะโยม(เด็กในวัด) อยู่กับคณูบาสิงหะได้ไม่นาน ครูบาสิงหะก็มรณภาพ คงเหลือสามเณรสิงห์แก้วดูวัดท่าจำปีแทนและทำหน้าที่สั่งสอนลูกศิษย์ไปด้วย หลังจากทำบุญประชุมเพลิงครูบาสิงหะแล้วสามเณรสิงห์แก้วก็ลาสิกขาจึงทำให้วัดท่าจำปีร้างรกไม่มีเจ้าอาวาสติดต่อกันถึง ๓ ปี ในขณะที่วัดร้างรานั้น หลวงปู่หรือเด็กชายดวงดีขณะนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลวัดอย่างที่เคยปฏิบัติมา เช่น ปัดกวาดกุฏิวิหาร จัดขันดอกไม้บูชาพระ ตักน้ำคนโท(น้ำต้น)ถวายพระพุทธรูปตลอดเวลา

    ต่อมาคณะศรัทธาวัดท่าจำปี ได้อาราธนานิมนต์ท่านครูบาโสภามาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกอีกตำแหน่งด้วย ทำให้วัดท่าจำปีเกิดความสำคัญขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านครูบาโสภณจะเป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว ท่านยังเป็นพระสหธรรมมิกที่มีอายุพรรษารุ่นราวคราวเดียวกันกับม่านคณุบาศีลธรรมศรีวิชัย มีผู้คนเคารพนับถือมากมายถึงกับขนานนามท่านว่า "ตุ๊เจ้าตนบุญตนวิเศษแห่งล้านนา" จริงๆ เพราะท่านมีบุญญาอภินิหารปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือถึงเหตุการณ์ต่างๆอย่างไม่ลดละตราบจนทุกวันนี้
    ครั้นหลวงปู่ดวงดีบรรพชาเป็นสามเณรแล้วโดยมีท่านครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌายะบรรพชา ได้ไม่กี่วันก็ส่งตัวเข้ามาในเมืองเชียงใหม่ อยู่จำพรรษาและช่วยเหลือท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย คอยปฏิบัติพัดวีตามอาจาริยวัตรที่ครูบาอาจารย์ในยุคสมัยนั้นสั่งสอน ไหว้พระสวดมนต์ นั่งกรรมฐาน บูชาขันดอกไม้ และช่วยเหลืองานก่อสร้างต่างๆ ซึ่งในขณะนั้นท่านครูบาเจ้าศริวิชัยต้องเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อสร้างสรรค์บูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ วัดวาอารามต่างๆทุกจังหวัดในภาคเหนือ เมื่อหลวงปู่ดวงดีอายุครบ 21 ปี จึงได้กลับไปนมัสการพระอาจารย์ท่านครูบาโสภาที่วัดท่าจำปีเพื่อปรึกษาเรื่องอุปสมบทเป็นพระภิกษุ จากนั้นท่านครูบาโสภาจึงได้เดินทางไปขออนุญาตกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เรื่องส่งมาจำพรรษาอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเหมือนเดิม

    ในขณะที่หลวงปู่อยู่จำพรรษากับท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยนับตั้งแต่เป็นสามเณรใหม่ ๆนั้นและเดินทางปฏิบัติเล่าเรียนอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านอายุได้ 28 ปี เป็นช่วงที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ข้องกล่าวหาต่างๆนาๆ เช่นการบุกรุกป่าสงวน ซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผีบุญ จนถึงกับถูกจับส่งตัวไปตัดสินความที่กรุงเทพฯ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต เมื่อคณะสงฆ์ในเขตปกครองแขวงบ้านแมง (อ.สันป่าตอง) ขอลาออกจากการปกครองเมืองเชียงใหม่ถึง 60 วัด ท่านครูบาโสภาวัดท่าจำปี ท่านครูบาปัญญา วัดท่ากิ่งแลหลวง ก็ถูกไต่สวนจนต้องนำคณะศิษย์หนีหนีไปแสวงบุญก่องสร้างวิหานพระพุทธบาทฮังฮุ้ง ในเขตประเทศพม่าจนไม่ยอมกลับมาอีกเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทาง คงค้างแต่ท่านครูบาขาวปีทำหน้าที่ดูแลวัดสิงห็ และเป็นหัวแรงในการก่อสร้างวัดวาอารามที่ค้างไว้

    ลุ พ.ศ. 2480 - 2481 ท่านครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพที่วัดจามเทวี เมื่ออายุได้ 61 ปี 5 เดือน กับ 21 วัน ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ดวงดีอายุได้ 32 ปี หลวงปู่ได้เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ติดตามครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวปีมาสร้างวิหารวัดท่าจำปี

    ลุ พ.ศ.2484 ขณะพลวงปู่อายุได้ 35 ปี หลังจากถวายพระเพลิงปลงศพท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเสร็จแล้วนั้น ท่านครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวได้เชิญอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยส่วนที่เป็นกระโหลกเท่าหัวแม่มือส่วนหนึ่งหลวงปู่นำมาเก็บรักษาสักการะบูชาจนถึงทุกวันนี้ หลวงปู่ได้อยู่ช่วยครูบาอภิชัยผ้าขาว สร้างอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิธาติของท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยทั้งที่วัดสวนดอกและวัดหมื่นสารแล้ว ก็รับขันดอกนิมนต์จากคณะศรัทธาป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไปสร้างวัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย เนื่องจากอารามอยู่ในป่าดง เหมาะที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานซึ่งถูกกับจริตวิสัยของหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่อยู่ปฏิบัติกรรมฐานที่วัดนี้นานถึง 7 ปี ท่านครูบาโสภาก็ขอให้หลวงปู่ลงมาก่อสร้างวัดท่าจำปีต่อจากท่าน เนื่องจากวัดท่าจำปีมีศรัทธาญาติโยมน้อยเพียง 20 หลังคาเรือนเท่านั้น
    หลวงปู่เดินทางกลับมาก่อสร้างวัดท่าจำปี ขณะนั้นอายุได้ 42 ปีได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกจากท่านครูบาโสภาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลวงปู่จะมีตำแหน่งหน้าที่ทางการคณะสงฆ์ก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ในระหว่างที่มาดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านครูบาโสภา หลวงปู่ก็มิได้สร้างแต่เฉพาะวัดท่าจำปีเท่านั้น ทุกวัดในละแวกเดียวกันหลวงปู่ก็ช่วยเหลือเป็นแรงสำคัญไม่ว่าถนนหนทาง อุโบสถ วิหาร เจดีย์ สะพาน หรือแม้แต่โรงเรียน โรงพยาบาล หลวงปู่ก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง แม้กระทั่งวัดในเขตอำเภอสันป่าตอง หรือต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จนไม่สามารถนำมาบรรยายได้ทั้งหมด

    ที่มา http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=628

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2008
  5. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    ท่านที่สนใจจะเดินทางไปด้วย

    ;43;42มีคนสนใจจะเดินทางไปกับทางคณะแล้วครับ....
    ตอนนี้ทางคณะได้รวบรวมรถ มีกระบะ ๒ คัน รถโยมติดตามอีก ๑ คัน รถตู้ ๑ คัน หรืออาจจะต้องเพิ่มรถอีก ๑ คนครับโยม...ถ้าสนใจติดต่อได้ที่ 081-4935256 ค่ารถต้องลดเป็น 2,500 บาท นะครับ
     
  6. yindee1917

    yindee1917 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +211
    อยากไป
     
  7. onlyone

    onlyone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +4,577
  8. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    " การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง "






    ขอบอกบุญต่อด้วยจ้า บริจาคอวัยวะที่ http://www.organdonate.in.th/
    บริจาคดวงตาที่ http://www.eyebankthai.com/
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ <!-- / sig -->

    <!-- / message --><!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  9. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,839
    หลวงพี่กลับเกาะพระฤษีตอนไหน จะเอาเสื้อผ้าฝากไปด้วยเจ้าค่ะ อนุโมทนาจ้า

    อยากไปด้วย แต่ว่าต้องดูกระเป๋าก่อนว่าพอมีค่าน้ำมันรถไหม อิอิ...อย่าคิดว่ามีบ้านหลังใหญ่ จะมีเงินเน้อ
     
  10. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    ;k03ขอโมทนากับทางนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานที่ช่วยหาของบริจาคแก่ทางคณะของเรา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. chodchoi

    chodchoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,288
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
    กราบขอขมาและอโหสิกรรมด้วยครับ สาธุ
     
  12. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
  13. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    ท่านใดที่ต้องการเดินทางไปกับทางคณะกรุณาติดต่อกับทางคณะก่อนวันที่ 15 ธันวาคม 51 ที่เบอร์ 0814935256;aa40และการเดินทางขึ้นรถตู้ที่ปั้ม ปตท. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2008
  14. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระธาตุดอยตุง

    พระธาตุดอยตุง ปูชนียสถานสำคัญของล้านนาอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวล้านนา โดยเฉพาะชาวเมืองเชียงรายมาแต่โบราณ ขณะนี้ประดิษฐานอยู่บนเทือกเขานางนอนซึ่งมีความสูงถึง ๒ , ๐๐๐ เมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ ๔ , ๐๐๐ ฟุต โดยตั้งอยู่ในเขตตำบลห้วยใคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ( คำว่าดอยตุงนี้ หากเขียนตามวิธีการปริวรรตแล้วจะเป็น
     
  15. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    บรรยากาศที่วัดป่าปฐมพุทธาราม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     
  16. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="29%" height=342>[​IMG]

    จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา เป็นผลให้พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุองค์สำคัญและเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยน้อย อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เกิดรอยร้าวในส่วนองค์พระธาตุ รวมทั้งในส่วนยอดฉัตรและยอดปลีหักพังลง

    ผู้เขียนจึงขอนำเรื่องราวความเป็นมาของพระธาตุจอมกิตติ มาเล่าสู่กันฟังไว้ ณ ที่นี้

    พระธาตุจอมกิตติเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสน และเป็น ๑ ในพระธาตุ ๙ จอม อันมีพระธาตุจอมผ่อ พระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุจอมแว่ พระธาตุจอมจ้อ พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุจอมจันทร์ พระธาตุจอมสัก ซึ่งเป็นปูชนียสถาน ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดเชียงราย

    ตามตำนานได้กล่าวถึงการสร้างพระธาตุจอมกิตติไว้ว่า พระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระชาวมอญ ได้ไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ลังกา และเมื่อเดินทาง มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่แคว้นโยนก ก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองลังกา มาถวาย พระเจ้าพังคราช ผู้ครองแคว้นโยนกในขณะนั้น ซึ่งได้โปรดให้พระเจ้าพรหม พระราชโอรส อัญเชิญไป ประดิษฐานบนดอยน้อย หรือดอยจอมกิตติ พระเจ้าพรมจึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์สูง ๖ วา ๒ ศอก กว้าง ๓ วา เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ พ.ศ.๑๔๘๓ พร้อมกับขนานนามพระเจดีย์องค์นี้ว่า “พระธาตุจอมกิตติ”

    อีกราว ๕๐๐ กว่าปีต่อมาคือใน พ.ศ.๒๐๓๐ พระเจ้าสุวรรณคำล้านนา ได้โปรดให้หมื่นเชียงสงบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุจอมกิตติ โดยการสร้างพระเจดีย์ครอบองค์เดิมที่เหลือเพียงซากอิฐ หลังจากนั้นในปี พ.ศ.๒๒๓๗ เจ้าฟ้าเฉลิมเมือง เจ้าเมือง เชียงแสนในขณะนั้น ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุขึ้นอีกครั้ง
    ....

    จากนั้นในปี พ.ศ.๒๕๐๐ กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะปฏิสังขรณ์ โดยการเสริมความมั่นคง และเสริมส่วนที่ชำรุดเท่านั้น พร้อมทั้งประกาศขึ้น ทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ

    ครั้นถึงราว พ.ศ.๒๕๑๑ กรมศิลปากรก็ได้ทำ การบูรณะอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนั้นทำได้เพียงการเสริมความมั่นคง และเสริมส่วนที่ชำรุดหลุดร่วงไป

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธียกยอดฉัตร เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙

    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้เกิดแผ่นดินไหว เป็นเหตุให้รอยแยกแตกขององค์เจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลานั้น ขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับโครงสร้างส่วนยอดและลายปูนปั้นก็หลุดร่วงแตกลงมากขึ้นเช่นเดียวกัน และองค์พระธาตุก็เกิด การทรุดเอียงลงด้วย

    ในปี ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีมีมติให้บูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ วัด และศาสนสถานทั่วประเทศที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ ๖๐ ปี ขึ้นไป เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี ๒๕๔๙ ซึ่งมีพระธาตุจอมกิตติรวมอยู่ด้วย ดังนั้นในปี ๒๕๔๙ กรมศิลปากรจึงได้สร้างฐานรากเพื่อยึดรอบองค์พระธาตุ รวมทั้งรอยแตกใต้ฐาน อย่างไรก็ตาม ในปี ๒๕๕๐ นี้กรมศิลปากรก็จะลงมือบูรณะพระธาตุจอมกิตติอีกครั้งหนึ่ง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั่นเอง

    พระธาตุจอมกิตติเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา ที่มีส่วนผสมแบบอยุธยา ประกอบด้วยส่วนฐานเขียงรองรับฐานบัวย่อมุมไม้สิบสอง และชุดฐานบัวรองรับองค์ระฆัง ๓ ฐาน ในส่วนของฐานบัวย่อมุมประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนในซุ้มจระนำ ๔ ทิศ ในส่วนขององค์ระฆังมีเส้นคาดอก ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา เหนือขึ้นไปเป็นชุดดอกบัวรองรับปล้อง ไฉนและปลียอด ซึ่งประดับฉัตร ๙ ชั้น

    มีความเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้พระธาตุจอมกิตติและตั้งจิตอธิษฐาน จะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศ มีผู้คนสรรเสริญ

    พระธาตุจอมกิตติ ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๐ โดยพระครูสังวรสมาธิวัตร ปัจจุบันมีพระครูวิกรมสมาธิคุณเป็นเจ้าอาวาส

    (จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 79 มิ.ย. 50 โดย เก้า มกรา)

    ที่มา
    http://palungjit.org/showthread.php?t=81668

    สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ ยกฉัตร "พระธาตุจอมกิตติ" 18 ก.พ. นี้


    โดย นายเว็บ - โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 10th, 2008
    Tagged: แวดวงชาวพุทธ
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานยกฉัตรพระธาตุจอมกิตติ 18 ก.พ.นี้ สำนักช่างสิบหมู่ เผยพลอยที่ประดับยอดฉัตรหายไปก่อนแผ่นดินไหว พร้อมเสริมนิล-โกเมนแทนที่ ด้านวิศวกรรมชี้ โครงสร้างหลังบูรณะสามารถทนแผ่นดินไหวได้มากกว่า 7 ริกเตอร์
    จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 ส่งผลให้พระธาตุจอมกิตติ ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุจอมกิตติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ยอดฉัตรหักลงมา รวมถึงองค์พระธาตุมีรอยร้าวเป็นจำนวนมาก คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในขณะนั้น ได้สั่งการให้กรมศิลปากรเร่งดำเนินการบูรณะ ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ และสำนักช่างสิบหมู่ ได้บูรณะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 08.50 น. กรมศิลปากรกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานประกอบพิธียกยอดฉัตรพระธาตุจอมกิตติ เพื่อให้การบูรณะพระธาตุจอมกิตติมีความสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี


    ที่มา
    http://www.phrathai.net/node/535

    <!-- / message -->
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2008
  17. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    <CENTER>[​IMG] <!--a href="attachment.php?attachmentid=4703&d=1165020958" target="_blank">[​IMG]</a--> </CENTER><CENTER>[​IMG] </CENTER><CENTER>[​IMG] </CENTER><CENTER>วัดพระธาตุห้าดวง อ. ลี้ จ. ลำพูน</CENTER>

    วัดพระธาตุห้าดวง - ข้อมูลทั่วไป

    วัดพระธาตุห้าดวง (เวียงเจดีย์ห้าหลัง) ตั้งอยู่ที่ตำบลลี้ สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 106 ห่างจากที่ว่าการอำเภอลี้ประมาณ 2 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าเป็นบริเวณเวียงเก่าลี้ เพราะมีซากกำแพงและคูเมืองตั้งเป็นแถว วัดนี้เป็นที่ตั้งของหมู่เจดีย์
    5 องค์ ตามตำนานกล่าวว่าพระนางเจ้าจามเทวี กษัตริย์ครองเมืองหริภุญไชย ได้ยินข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่ามีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏเห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เสด็จมาดูด้วยพระองค์เอง เวลากลางคืนจึงได้ทอดพระเนตรเห็นแสงสว่างจากดวงแก้วทั้ง 5 ดวง ลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง จึงได้สอบถามความเป็นมาก็ทราบว่า คือพระเมโตธาตุ (น้ำไคลมือ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าที่เคยล้างพระหัตถ์ และน้ำก็ไหลผ่านปลายนิ้วทั้ง 5 ลงพื้นดิน พระนางจึงเกิดศรัทธาสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบกองดินทั้ง 5 กองไว้ และในวันที่ 20 เมษายน ของทุกปี จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุห้าดวง
     
  18. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    ทางคณะจะส่งของที่ญาติโยมร่วมบริจาคมาในครั้งนี้ขึ้นไปพักไว้ที่สำนักงานของป่าไม้บ้านปางฝาก่อนหนึ่งรอบ..........
     
  19. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    [​IMG]
    ก่อตั้งขึ้นตามประราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width=770 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    ประวัติการตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดาร
    (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงนิมนต์หลวงพ่อพระราชพรหมยานเข้าเฝ้าที่วังสวนจิตร)
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=720 align=center border=0><TBODY><TR><TD>...........สำหรับเรื่องในพระราชฐานในวันนั้น มีเรื่องหนึ่งพระองค์ทรงมีพระราชปรารภเรื่องการตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้
    ยากจนใน ถิ่นทุรกันดาร ทรงตรัสถามว่า หลวงพ่อจะตั้งศูนย์สักศูนย์ได้ไหม พ่อก็สงสัยจึงได้ทูลถามพระองค์ไปว่า
    "จะตั้งศูนย์อะไร" พระองค์ทรงบอกว่า ตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารภาคเหนือ ตามความจริงเรื่อง
    ภาคๆ นี้รู้สึกคนทั้งหลายมาวิ จารณ์กันเอง โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้ตั้งให้เป็นคณะกรรมมาธิการ
    และลงท้ายว่าถ้าเหนืออย่างเดียว คนทั้ง ประเทศจะเห็นว่าพระองค์อคติภาคอื่นทำไมจึงไม่ตั้ง ขอให้ตัดคำว่าเหนือ
    ออกเสีย

    ..........ความจริงตามความรู้สึกหลวงพ่อคิดว่าไม่มีความเสียหาย หรือว่าถ้าทรงตั้งภาคเหนือ ถ้าเราเขียนป้ายไปว่า
    ภาคเหนือ และเราก็ไปสงเคราะห์ทุกภาค ก็จะเห็นว่าน้ำพระทัยของพระมหากษัตริย์ของคนไทยตั้งศูนย์ไว้เฉพาะ
    ภาคเหนือไว้เป็นเขต ก็ยังสามารถจะก้าวไปสู่จุดต่างๆ ที่ไม่ใช่ภาคเหนือ ที่ไม่ใช่เขต

    ........เป็นการแสดงความกว้างขวางของน้ำใจ แต่ความจริงสำหรับภาคอื่นพ่อทราบอยู่แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระ
    เจ้าอยู่หัวทรงมีคนแทนพระองค์อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ขอยกไป ประเดี๋ยวจะสะเทือนใจกรรมาธิการพิเศษ เป็นอันว่าเมื่อ
    พระองค์ทรงมีพระราชปรารภอย่างนั้น พ่อก็ทูลพระองค์ว่า วัดกว้างขวางพอตั้งศูนย์ได้ แต่เงินไม่มี พระองค์ก็ตรัส
    ว่าเงินมี แล้วก็พระราชทานเงินมาแสนบาทต่อมาเมื่อบรรดาประชาชนทั้งหลายเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่
    หัวทรงไว้วางพระราชหฤทัยในพ่อ ตลอดจนกระทั่งบรรดาลูกทั้งหลายด้วย ก็ช่วยกันสละทรัพย์ตามกำลังศรัทธาเป็น
    เงินบ้าง เป็นข้าวบ้าง ปลาบ้าง เกลือบ้าง กะปิบ้าง เป็นผ้าผ่อน ท่อนสไบบ้าง ทั้งหมดคิดแล้วสิ่งที่ได้รับเข้ามาใน
    ศูนย์เวลานี้เกินเงินหนึ่งล้านบาท

    ..........เพราะการออกแจกแต่ละคราวก็ใช้เงิน คิดค่าของ คราวหนึ่งหลายแสนบาท ถ้าจะคิดค่าทั้งหมดกันจริงๆ ผล
    ที่ศูนย์ได้รับจากวัตถุทุกอย่างคงจะเกินกว่าสิบล้านบาทอันนี้ก็เป็นน้ำใจของบรรดาลูกทั้งหลายและบรรดาทั้งพุทธ
    บริษัทมีจิตเมตตาปราณีในคนไทยด้วยกัน ซึ่งมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้นำที่ดีที่สุดที่พ่อเห็นมา

    ..........แล้วต่อมาก็ปรากฏว่าท่านพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ก็ได้สงเคราะห์แก่พ่อช่วยในศูนย์นี้ ให้ข้าวสารพัน
    กระสอบ พืชผักสำหรับปลูก น้ำมันสำหรับทอดผัก และก็น้ำตาล เป็นอันว่าศูนย์ของเราหรือว่าศูนย์ของพระบาท
    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีคนเห็นด้วยมาก และก็เต็มใจที่จะร่วมมือด้วย นอกจากนั้นท่านผู้มีศรัทธา ช่วยพาหนะ
    เรื่องพาหนะเป็นเรื่องใหญ่มาก ลองเช่าเขาไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนใช้เวลากี่วันนัก เช่ารถโดยสารไปสองคันจะ
    ต้องจ่ายเงินค่ารถโดยสารถึง ๒๘,๐๐๐ บาท และก็ค่าใช้จ่้ายอย่างอื่นทั้งหมด รวมแล้วทั้งค่ากน ค่าอะไรต่ออะ
    ไรต่างๆ ไม่ใช่ค่าแจกเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สิ้นเงินไปทั้งหมดถึง ๓๓,๐๐๐ บาทเศษ

    ..........แต่พ่อเองก็จ่ายเงินจริงๆ เพียง ๑,๐๐๐ บาทเศษ เท่านั้น เพราะทั้งหมดนั้นบรรดาลูกรักทั้งหลายของพ่อ
    ช่วยกันสละตามกำลังศรัทธาเป็นเงินจำนวนถึง ๓๒,๐๐๐ บาทเศษ เหลืออีกพันบาทเศษพ่อเป็นผู้จ่าย ลูกสละ
    เวลาการงานด้วย สละแรงงานด้วย สละทรัพย์สินช่วยคนยากจน และก็ช่วยกันเสียสละค่าพาหนะด้วย

    ..........ความน่ารักของลูกของพ่อทุกคนอย่างนี้ พ่อคิดว่า พ่อจะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว คนอื่นเขาจะทำงานเพื่อพ่อ
    อย่างการสร้างวัด ทั้งๆที่วัดอยู่ในเขตของเขา เวลาไปบอกเขามาช่วยทำเขาคิดเป็นค่าแรงงาน ดีไม่ดีทำไปทำ
    ไปขอขึ้นแรงงาน ความจริงวัดเป็นประโยชน์สำหรับเขาในเขตนั้น แต่ว่าเขาไม่ได้เห็นน้ำใจของพ่อ ไม่ได้คิดว่า
    สิ่งนี้เป็นสาธารณประโยชน์ เขาคิดว่ามันเป็นสมบัติของพ่อ เขาจึงเรียกค่าแรงงาน

    ..........แต่สำหรับลูกของพ่อทุกคนนั้นจ่ายเงินเป็นค่าสงเคราะห์คนจนด้วย จ่ายเงินเป็นค่าพาหนะด้วย เสียสละ
    เวลาการงาน บางคน ก็ต้องลาการงานไป เจ้านายเขาเกลียดน้ำหน้าแล้วก็มี แล้วก็เสียสละเงินค่าพาหนะอีก
    ทั้งนี้พ่อเห็นว่าพ่อเป็นคนที่มี บุญที่สุดที่ลูกของพ่อทุกคนเป็นคนดี

    สำหรับเทปหน้านี้มันหมดเสียแล้วนี่ลูก รอฟังหน้าหลังต่อไป สวัสดี....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. พระดาบสน้อย

    พระดาบสน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +2,414
    ตอนนี้มีปัจจัยเข้ามาในบัญชีแจกของประมาณ ๒๐๐๐ บาทแล้วครับ[​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...