ขอเชิญร่วมบริจาคหนังสือธรรมะ(สมทบโครงการห้องสมุดในโรงเรียน เพื่อน้องๆ)

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย magic_storm, 8 มกราคม 2010.

  1. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    จอมดาบผู้เหี้ยมโหด....กับคนโคตร....มหาบุรุษ...จากป่าหิมพานต์

    [​IMG]
    จอมดาบผู้เหี้ยมโหด....กับคนโคตร....มหาบุรุษ...จากป่าหิมพานต์

    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..ขอให้ทุกดวงจิตทุกดวงใจ..ไปให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์....เนื่องในวันสงกรานต์...กล่าวคือหยั่งลงสู่อมตะมหานิพพาน
    ขอใจทุกดวงมีสุขปราศจากทุกข์
    ดวงจิตเกิดปัญญาญาณ

    [​IMG][​IMG][​IMG]


    หลังจากใช้มือฟอกของหอม...เกล้ากระผมปฐมฌาณ..ก็จะขอยอยก..เรื่องราวอันมีมาแต่หนหลัง..ของผู้เดินถึงฝั่งแห่งนิรทุกข์(กล่าวคือผู้ลอยบาปได้)...ยกขึ้นเหนือหัว...แล้วเหลือแต่พนมหัตถ์..ซาดซัด.....แสงประทีปแห่ง..เรื่องราว...ที่จะส่องใจทุกดวง..พ้นห่วงแห่งวัฏฏวน....ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม.....ขอให้พนักงาน..ช่วยซูมกล้อง...ดึงภาพ..ท่านปาริโสทยักษ์มาใกล้ๆ...หน่อย...เห็นทุกคนแล้วนะขอรับ..ขณะนี้ท่านผู้เป็นจอมแห่งเพชฌฆาต..กำลังฟื้นสติ...งัวเงีย...พลิกตัว...
    หลังจากอ่อนระโหยโรยแรง...ด้วยพิษแผล.นอนสลบ.มาหลายราตรี...และวันนี้ได้ครบเจ็ดวันตามที่..บนบานต่อพ่อเจ้าไทร(เจ้าพ่อ)....ท่านปาริโสทยักษ์..ชำเลืองดูบาดแผล......ถึงกับอุทานว่า..อัศจรรย์จริง..อัศจรรย์จริง..และอัศจรรย์(คือพูดไม่หยุดขอรับ....ก็เลยต้องและ)..ด้วยความปิติ.ในความเมตตาแห่งมหาเทพเจ้าพ่อไทร..ที่ให้ความช่วยเหลือ..ในคราวตกยาก...

    คือขณะนี้ตามภาพที่ปรากฏบนจอนั้น..ทุกท่านก็จะ..เห็นเหมือนเกล้าฯ..เลยใช่ไหมขอรับ..ว่าแผลได้แห้ง..และได้หายไปในที่สุดและหายภายใน ๗ วันเสียด้วย.... ท่านปาริโสทยักษ์จึงสำคัญไปว่า..ด้วยอานุภาพแห่งเทวดา ..ก็เลยกราบขอบพระคุณในอุปการะ..ของมหาเทพเป็นการใหญ่..และด้วยความสำนึก..ต่อท่านผู้ทรงคุณ...ท่านจอมหฤโหด..ก็เลยรำพึงในใจว่าเราก็หน่อเนื้อ..เชื้อชายชาญ..ชาติกษัตริย์ขัตติยราช.ตรัสแล้วไม่คืนคำ.เราจะต้องพลีกรรมต่อรุขเทวา...เพื่อสนองคุณ..
    [​IMG](ภาพของท่าน..เหม เวชกร)

    .ท่านผู้ชมที่เคารพขอรับ..เแทบไม่น่าเชื่อขอรับ..ว่า..ท่านผู้นี้จะมีเครื่องหมายของคนดี..คือกตัญญูรู้คุณต่อผู้ให้ความช่วยเหลือ...อันที่จริงเทวดาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือนะขอรับ...แต่เกิดจากการร่างกายซูบซีดเพราะอดอาหาร(.แผลก็เลยแห้งและหาย.)...คงจะเกิดเหตุยุ่งละซิท่าน...สำคัญผิดอย่างมหันต์..ขนาดนี้...เห็นที..ภาพต่อไปคงจะเห็นเป็น..สีเลือด..ของกษัตริย์..ทั้งร้อยหนึ่งพระองค์เป็นแน่แท้..แต้มทาบทาลง...ยังภาคพื้นปฐพี...เพราะขณะนี้ท่านผู้ทรงกตัญญูก็ได้ถือดาบเดินจากไป....ห้าสี่สามสองหนึ่งเปลี่ยนภาพ...

    .เปลี่ยนเป็นภาพ.งานอนุโมทนาบุญขอรับ..ขอกราบเรียนเชิญ...ท่านบุญญสิกขา...ท่านธรรมวิวัฒน์...ท่านธรรมภูติ...ท่าน..magic strom..ท่านdoctorfeet.ท่านluxury..ท่าน..kengkenny...ท่าน..เพียงพบ..ท่าน...ลูกท่าน..ท่านwasana js ท่าน...0atitaya0....และท่าน...ANUWAT รวมทั้งท่าน Pinnacle.,nisanat,ท่านธรรมภูติ,ท่าน buetiful soul ^^..เอาแค่นี้ก่อนขอรับ...และกราบนิมนต์ท่านอาจารย์ญาณวโร..เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ด้วยขอรับ..ประกาศอนุโมทนาบุญกับมหาอุบาสกผู้ใจบุญ..จากเมืองบั้งไฟใหญ่..ขอรับ

    คือท่าน..[​IMG]ธนัช เชื้อศุภโรบล [​IMG]ชาวเขตเทศบาลสี่..อ.เมือง..จังหวัดยโสธร(ส่งหนังสือมารอบที่สาม)..ถ้างั้นเกล้าฯขออัญเชิญเทพเจ้าแห่งนักปราชญ์และความสำเร็จมาสถิตข้างท่านด้วยขอรับ.ท่านจะได้ประสบความสำเร็จในสิ่งปรารถนา.ต่อจากนั้นขออัญเชิญท่าน..ช่วยไปสถิตทุกรายชื่อที่มี...อยู่ในเรือนธรรมแห่งนี้ด้วยขอรับ

    .เรื่องราวอันเป็นอมตะ....มหากาพย์แห่งชีวิตของ..ท่านผู้เหยีบสามโลกสะเทือน....ยังคงต้องดำเนินต่อไปขอรับ..เพราะขณะนี้ท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีเลือด....ในน่านฟ้าสีเลือด..จะมีผู้ใด..มาต้านทาน...ท่านอัคครมหา..หฤโหด..ได้หรือไม่(สุดยอดแห่งความโหด)...

    อานิสงค์ในการสร้างมหากุศลในครั้งพระกัสสปพุทธเจ้าจะเป็นเช่นไรยังไม่ได้กล่าว

    โปรดอดใจรอ....
    [​IMG][​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา

    หลังจากใช้มือฟอกของหอม...เกล้ากระผมก็จะน้อมอัญเชิญ...ชูยกเรื่องราว..อดีตชาติของพระผู้นิรทุกข์กับโคตรมหาบุรุษ..ขึ้นเหนือเศียร..ก่อนจะเหลือเพียง..พนมหัตถ์...แล้วซาดซัด...รัตติกาล...แหวกม่านธรรม ...พนักงานอย่าพึ่งเปลี่ยนภาพใหม่..ให้ดึงภาพเก่ากลับมาที่ต้นไทรและเรียกท่านปาริโสทย้กษ์...กลับมากินอาหารด้วย..เพราะองค์ท่านอดอาหารมาเจ็ดวันแล้ว..เดี๋ยวจะเป็นลม..หน้ามืดไปเสียก่อน(เพราะร่างกายขาดกลูโคส)....เอาหละ!...เมื่อท่านกินอาหารอิ่มแล้ว..ให้ถือดาบไปตามล่ากษัตริย์...ตามใจท่าน..

    ห้าสี่..สอง...สาม..หนึ่งเริ่ม......ภาพที่ท่านเห็นในขณะนี้เป็น..สำนักตักกศิลา.ศูนย์กลางแห่งศิลปวิทยา..แต่ครั้งอดีต..และครั้งกระนั้น...ได้มีกษัตริย์..มาศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก(มากเกินร้อย)..ในสำนักอาจารย์ทิศาปาโมกข์..และในจำนวนนั้นก็มีท่าน...สุทัสสีทัต..แห่งเมืองพาราณสี.(หรือปาริโสทยักษ์)รวมอยู่ด้วย.... และในเหล่ากษัตริย์นั้น...ท่านปาริโสทยักษ์สนิทกับองค์ชายแห่งแคว้นกุรุ..เป็นพิเศษ..และองค์ชายผู้นี้...มีคุณลักษณ์แตกต่างจากองค์ชายทั่วไปคือ...มีพระพักตร์ดังดวงจันทร์(มีลักษณาการรูปงามยิ่ง) เรียนเก่ง.และเชี่ยวชาญในศิลปศาสตร์.อีกต่างหาก...และเล่าเรียนจบก่อนผู้อื่น..จนได้รับความไว้วางใจ..ให้สอนหมู่เพื่อนแทนอาจารย์....องค์ชายท่านนี้มีนามว่า..พระมหาสัตว์..ห้า..สี่สามสอง..หนึ่ง เปลี่ยนภาพขอรับ....

    [​IMG]
    ณ...ต้นไทร กลางป่าใหญ่...ขณะนี้ไม่เงียบเหงาเหมือนก่อนอีกแล้ว...เพราะเต็มไปด้วยเสียงโหยหวน..ของเหล่ากษัตริย์จำนวนหนึ่งร้อยพระองค์ร้องควญคราง...ด้วยความทุกข์ทรมานแสนสาหัสอย่างน่าอนาถ..เพราะถูกท่านถูกผู้เป็นจอมเพชฌฆาต....ตอกฝ่าพระหัตถ์..ร้อยเถาวัลย์..ผูกติดกับรากไทร.ห้อยโหนระโยงระยางเต็มไปหมด..ทุกพระองค์มีนิ้วของฝ่าพระบาทพอได้จรดพื้น...พอลมพัดผ่านก็กวัดแกว่งไปมากับสายลม...ดูแล้วช่างน่าเวนาใจยิ่งนัก..สาเหตุที่ท่านปาริโสทยักษ์..ทำแบบไม่ปราณี..เพราะคิดว่ายังไงก็จะต้องฆ่าทำพลีกรรมอยู่แล้ว...การจับองค์ราชาครั้งนี้...ท่านปาริโสทยักษ์ทำได้ง่ายดาย..เกินมนุษย์ธรรมดาจะทำได้..เนื่องจาก..ท่านได้เรียนมนต์อันมีชื่อว่าปทลักษขณจากยักษ์..เกลอเก่าในอดีตเพิ่มเติม..ทำให้วิ่งเร็ววิ่งทน(วิ่งทีไรทำลาย...สถิติโลกขอรับ)..วิ่งได้เหมือนลมพัด.ท่านจึงสามารถจับกษัตริย์ได้ภายในเจ็ดราตรี..ขณะนี้ท่านผู้เหี้ยมโหด..กำลัง.....นั่งถากหลาว...ข้างกองไฟ...ด้วยอาการร่าเริง.(ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่...ภูมิใจในผลงาน)..เตรียมบวงสรวงเทวดา...ทำพลีกรรม..ด้วยเลือดในลำคอของกษัตริย์..และจะพันลำต้น..ด้วยลำใส้ให้ตระการตา..โดดเด่น..


    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป...หนึ่งร้อยพระเศียรขององค์ชายผู้รูปงามจะขาดกระเด็นหรือไม่..เลือดในลำคอของกษัตริย์..จะไหลท่วมพื้นป่าหรือประการใด.....คืนนี้เกล้ากระผมปฐมฌาณขอน้อมกราบกรานผู้อ่านทุกท่านทุกคน..หากมีเวลาโอกาสอำนวย..จะมาใหม่ขอรับ
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    มีสถานการฉุกเฉิน...เกิดเหตุไม่คาดฝันที่สำนักสงฆ์...ทุ่งแสงเจริญ...เกล้าฯขอความช่วยเหลือจากหน่วยทางอากาศโปรด..กระโดดร่มและดิ่งพสุธา..ไปที่หน้าห้าด้วยขอรับ.เมื่อไปถึงโปรดไต่ถามท่านธรรมวิวัฒน์ว่าเกิดเหตุอะไรแน่..อยากรู้อย่าช้าขอรับ......เมื่อรู้เรื่องเรียบร้อยแล้ว..ให้ไปทำบุญเนื่องในงานสงกรานต์ใส่บาตรพระ..สักแห่งใกล้ๆ..หน้าหกนี้แหละ..ท่านบุญญสิกขา..ท่านนิมนต์พระมา....ส่วนขากลับก็เกล้าฯได้ส่งหน่วยพิเศษ...โรยตัวไปรับแล้วนะขอรับ..ด้านล่าง(มาแบบผาดโผน...ก็ต้องกลับแบบผาดโผน)
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา

    เรื่อง..จอมดาบผู้เหี้ยมโหด..กับ..คนโคตร..มหาบุรุษ..จากป่าหิมพานต์....นั้น..เป็นเรื่องที่ทรงคุณค่า...และสูงส่งยิ่ง..เพราะเรื่องนี้จะนำไปสู่บทอมตะธรรมที่จะถอนความเมา(อันมีราคะเป็นต้น)..และหยั่งจิต..หยั่งใจของทุกดวง..เข้าสู่อมตะมหานิพพาน
    (คำนี้มีปรากฏตามบทธรรม)...

    การดำเนินเรื่องมาถึงกลางเรื่องและเข้มข้น!..ขึ้นทุกขณะ...ท่านที่เป็นสมาชิกชาวพลังจิต..ก็จะทราบดีทุกคนว่า..เกล้าฯกำลังเขียนถึงใคร..เรื่องอะไร......ตัวแสดงแทนทุกชื่อ..เมื่อแปลความหมายออกมาแล้ว..ล้วนแต่เป็นชื่อที่มีมาแต่ดั้งเดิม..(ย้ำเป็นชื่อดั้งเดิม)..เกล้าฯมิบังอาจ...เอาชื่อ...ผู้ทรงอานุภาพ..ดุจแสงตะวัน..มาเขียนให้ตลกล้อเล่นก็หามิได้..เพราะด้วยเดชแห่งศีลของท่าน..จักทำให้เกล้าฯพินาจได้.....และตามที่อรรถกถาจารย์เขียนไว้...ยาวมาก..เกล้าฯคัดเอาเฉพาะกะทิ...มาตัดเป็นภาพ..
    วรรค..บริษัท แคกาลิสท์ อัลลาย แอนธ์ ประเทศไทยจำกัด
    เรื่องที่เกล้าฯกำลังเขียนนี้มิได้เขียนเอาความสนุก...แต่ต้องการเสนอบทธรรมอันเป็นอมตะ..เมื่อครั้งสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า...และกฎแห่งกรรม..ของพระอหรหันต์ขีณาสพ..และชื่อของท่าน..หากบอกออกไป..ก็จะสะเทือน..สะท้านไปทั่วชมพูทวีป..และสามโลกธาตุขอรับ...ด้วยความปรารถนาดีของเกล้าฯต่อทุกท่านที่ยังไม่เคยรับรู้เรื่องราว...ก็เลยใส่ระหัสชื่อของท่านไว้(อันที่จริงระหัสนั้นก็คือชื่อของท่านทุกตัวแสดง..ทุกท่านลองนำไปตรึกดีๆก็จะรู้เอง).....เกล้าฯไม่อยากให้ท่านที่ยังไม่รู้...ไปอ่านมาล่วงหน้า...เพราะตามอรรถกถาเขียนไว้ลึกซึ้ง...กลัวท่านผู้มาใหม่(ที่ไม่ใช่สมาชิกพลังจิตนะขอรับ)..จะหยั่งไม่ถึง..กลัวเรื่องราว..ดีๆ....จะถูกมองข้าม....และภาพต่อไป..จะเป็นภาพชี้ชะตา...ว่าปฐพี..จะถูกทาบทา...ด้วยเลือดในลำคอ....ใส้จะถูกร้อยเป็นมาลัย..หรือ..หลาวจะเสียบเสียดแทง..ได้หรือไม่...จะอย่างไร


    ...ห้าสี่สามสองหนึ่ง..เกล้าฯจะกลับมาอีกแน่นอนขอรับ...ขอกราบขอบพระคุณผู้ร่วมบุญทุกท่าน...ที่ให้ความเมตตาต่อชาวเรือนธรรม..ตลอดถึงผู้ผ่านแวะ...ตามที่ปรากฏ...อยู่ทุกหน้าภายในเรือนธรรมขอรับ.....คำถามคืนนี้มีว่า.คำว่าปาริโสทยักษ์...เมื่อแปลและตีความเป็นชื่อดั้งเดิม..จะได้ชื่อว่าอะไร...
    คลิ๊ก..นิดๆ(คิดหน่อยๆ)..

    http://palungjit.org/posts/3165553
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2010
  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ร่วมบริจาคหนังสือธรรมะ จำนวน 10 เล่ม เพื่อใช้ในการจัดตั้งห้องสมุดธรรมะ
    ส่งไปที่ จ.หนองคาย


    [​IMG]
     
  3. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    เรือนธรรม..ของดรับบริจาค...พร้อมๆกับฉากอวสาน..ของจอมดาบ

    [​IMG]
    จอมดาบผู้เหี้ยมโหด....กับคนโคตร....มหาบุรุษ...จากป่าหิมพานต์

    คือมหากาพย์แห่งชีวิต......อันน่าสยดสยอง...ขนหัวลุก..ก่อนจะนำไปสู่เรื่องราว..ของบทธรรมอันตรึงใจ.ที่สุดแสนวิจิตร....ที่ทุกท่านไม่เคยสดับที่ใดมาก่อน....
    และจะถอนความเมาของทุกดวงจิตดวงใจ..หยั่งลงสู่อมตะมหานิพพาน..
    ของพระกัสสปทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า...นั้นคือเรื่องราวแต่หนหลัง..ขององค์พระอรหันต์ขีณาสพ...เมื่อครั้งท่องเที่ยว...อยู่ในสังสารวัฏฏ์...(กล่าวคือทะเลทุกข์)ของพระมหาเถระ.
    คือเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย...จากพระโอษฐ์ของ..องค์พระสัพพัญญุตญาณ...
    แห่งวัดเชตวันมหาวิหาร...กรุงสาวัตถี
    .
    ฉากที่แล้ว...ถึงตอน..ท่านปาริโสทย้กษ์ก่อกองจิตกาธาน..นั่งถากหลาว...เริงร่าใจที่จะได้..บั่นเลือดในลำคอ..ของเหล่าองค์ชายมากกว่าร้อย..ให้พวยพุ่งเต็มท้องฟ้า...เพื่อพลีกรรมเซ่นสรวง..เทวดา..
    ...เอาหละ....เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป


    ห้าสี่สามสองหนึ่ง......เริ่ม..ภาพที่ทุกท่านกำลังชมอยู่นี้เป็น..รุกขเทพยดา..ที่ต้นไทรใหญ่..กำลังแอบซุ่มดู..ท่านปาริโสทยักษ์อยู่ห่างๆ..พรางอุทานในใจ...ว่า....ความผาสุขแห่งแผล..ของท่านเรามิได้มีส่วนช่วยสักนิดหนึ่งเลย...เห็นทีเหล่ากษัตริย์จะต้องถึงกับความฉิบหาย...ว่าแล้วจึงไปขอความช่วยเหลือจากท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่....แต่ท่านเหล่านั้น.ตอบว่ามืดมน..อัปจนที่จะช่วย...เทพเจ้าไทรผู้เอื้ออารีย์...จึงดั้นด้นไปหา..มหาเทพ


    [​IMG]

    จอมสวรรค์ชั้นตาวติงสา(ดาวดึงส์)....ท่านท้าวสักกะเทวราช..ส่ายหน้า..พร้อมตรัสว่า..เกินจะช่วยได้ในหนทาง..เห็นจะมีแต่ท่านผู้หนึ่ง...ซึ่งเป็นจอมมเหสักข์เลิศกว่า..สักกสเทวพิภพ...คือพระโอรสของพระเจ้าโกรัพยะ แห่งพระนครอินทปัต แคว้นกุรุ ท่านคือพระมหาสัตว์..พร้อมกันนั้นได้
    ตรัสแนะอุบายให้..(จะไขให้ทราบทีหลัง)

    วรรค...[​IMG]วัฒนา[​IMG] มั่นคง[​IMG] (ท่านส่งมารอบสามขอรับ...เกล้าฯรับกับมือ)..

    อปรภาคสมัย...อย่างงนะขอรับ..(หมายความว่า..เวลาต่อมา)..เทพเจ้าไทรหลังจากทราบอุบายแล้วก็กลับมายังอรัญญิกเสนาสน์.(คือเสนาสนะป่า)ต้นไทรใหญ่ของตัวเองขอรับ...แค่นั้นยังไม่พอ..ท่านได้นฤมิตเพศ...คือแปลงเพศ...เป็นบรรพชิต....ไปสถิต..เยื้องกาย.จงกรม..ใกล้ๆ...ท่านผู้เปรี่ยมล้นด้วยความปราณีอยู่ที่ศูนย์......

    วรรค..[​IMG].วัฒนา[​IMG] มั่นคง [​IMG]
    763 หมู่ 1 ต.บางแค อ.บางแค กทม


    และแล้วความดีใจ...จนออกนอกหน้า......ก็เกิดขึ้น...เมื่อท่านปาริโสทยักษ์....ถือดาบ...วิ่งไล่..ไม่เว้นแม้แต่..สมณะ....ด้วยคิดว่า...บรรพชิตก็คือกษัตริย์....เราจักจับบรรพชิตนี้ทำพลีกรรมให้เต็มจำนวน ๑๐๑ ว่าแล้วก็มิชักช้าลังเล...ลุกขึ้นถือดาบ..วิ่งตามไป แม้สิ้นระยะ ๓ โยชน์ก็มิอาจทันได้..


    [​IMG]
    ภาพนี้ไม่ทราบเจ้าของ.............

    . เหงื่อไหล...จนโทรมกาย ..ครุ่นคิดว่า...แต่ไหนแต่ไร...ช้าง... ม้า... รถก็ดี วิ่งแล่นไปอยู่ เรายังวิ่งไล่ตามจับมาได้....เหตุใดไฉนหนอ..มาวันนี้ .....แม้เราออกกำลังวิ่งอยู่....จนสุดกำลัง ก็ยังมิสามารถ..จะจับองค์ท่านบรรพชิต..ได้แม้ปลายขน...ทั้งๆองค์ท่านก็ จาริกไปโดยปกติ(มิตื่นตกใจแต่อย่างไร) มีเหตุอะไรหนอ..ท่านปาริโสทยักษ์ครุ่นคิด..(คิดหนัก.).ใช้เล่ห์อุบายร้องกล่าวให้ท่านผู้ประพฤติพรหมจรรย์หยุด..แต่องค์ท่านบรรพชิต...บอกว่าเราหยุดแล้วในธรรมของตนไม่ได้เปลี่ยนนามและโคตร

    แต่ท่านพระราชา..ผู้เป็นจอมประชาชน..นั้นยังไม่หยุดในโลก.เพราะเคลื่อนจากอัตภาพนี้แล้ว..ก็ไปอบาย.และแล้วการใช้อุบาย..ย้อนอุบายก็เกิดขึ้น..ท่านเทพยดาจำแลงร้องบอกว่า..มหาบพิตร....โปรดเชื่ออาตมา...มือของท่านนั้นชุ่มไปด้วยเลือดและหยาดน้ำตาของประชาราษฎร์(มือเปื้อนเลือด)..หากเมื่อวันใดกายแตกดับ..ท่านคงจะได้ไปทัศนาจร..พักผ่อนทัศนาการ..สิ้นความสุข...
    ไร้สนุกสนาน..เพราะสถานที่ที่ท่านจะได้ไปคือ..มหาอเวจีนิรยสถาน(วิมานเพลิง)...
    ผิว.(อ่านว่า...ผิว่า)หากแม้น..พระองค์...สามารถจับ..พระมหาสัตว์แห่งแคว้นกุรุ....มาบวงสรวงบูชายัญ..แก่เทพยดาได้..พระองค์จะได้หลับไหล..บรรทม..ในทิพยวิมาน...แดนสุขาวดี.(วิมานทอง)
    กล่าวจบ..บรรพชิตจำแลง..ก็กลายเพศเป็น..เทวดา...หยุดยืนโชติช่วงชัชวาลย์..ดุจอาทิตย์อุทัยในกลางหาว.และ.แล้วการทักทายสนทนาก็บังเกิด..จึงรู้ที่ไปที่มาว่าคนกันเอง...ญาติธรรม..ที่ประจำอยู่ในต้นไทร..ท่านผู้เหี้ยมหาญก็ดีใจ..ที่ได้เห็นผู้ทรงคุณ..(.เข้าใจผิดมิยอมเลิกรา..ขอรับท่าน)...พร้อมกันนั้นได้เอ่ย..อาสภิวาจา(คือวาจาแสดงความองอาจขอรับ)..ว่าเกล้าฯ...อ๊ะ..ท่านเทวราช..อย่าได้วิตกด้วยเหตุแห่ง..พระมหาสัตว์เลย...ขออัญเชิญท่าน..จงวางใจ..สราญรมณ์...ในต้นไทรเถิด...ว่าแล้วก็แลตาม..รุกขเทวา..แสดงแสงวับๆ..ดับหายไป....พร้อมๆกับพระอาทิตย์อัสดงคต

    [​IMG]

    .เรื่องราวกำลังเข้มข้น.....เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปเกล้าฯจะต้องกลับมาใหม่แน่ๆ...ขอรับ...
    เกล้าฯฉายในระบบจินตนาการไร้ขีดจำกัด..(โปรดจินนาการขอรับ)..

    [​IMG]ภาพนี้เป็นของท่าน..เหมเวชกร.ขอรับ


    คืนนี้ขอให้ทุกท่านช่วยถอดระหัสคำว่า...สุทัสสีทัต...ว่ามาจากอะไร...บอกใบ้ให้ง่ายๆ...คำว่าสุทัสสี...คำนี้..มาจากชั้น..สุทธาวาส...

    วรรค.........ขอให้พนักงานช่วยหยุดเครื่องฉายไว้ก่อน.คือมีมหาอุบาสิกาผู้รูปงาม..และใจบุญ.....ผ่านแวะมาทำบุญ..และท่านได้เมตตาต่อชาวเรือนธรรมด้วยขอรับ....ขอให้พี่น้องชาวเรือนธรรมอันเป็นที่เคารพของเกล้าฯ..ทุกท่านทุกคน...โปรดลุกขึ้นยืนให้การต้อนรับท่านด้วยความเคารพด้วยขอรับ..ชื่ออันลือนามของท่านคือท่าน...Add Wassana...ผู้สิริโฉม..สะค้าน(ชื่อสมุนไพร)โสภา..กำลังยึนดมดอกพฤกษา..อยู่กลางไพร..สวยอัศจรรย์..(สวยสั่งได้) ท่าทางท่านคงจะชอบสำรวจโลก.....ฉะนั้นเกล้าฯขอความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวเรือนธรรม...ช่วยส่งดอกไม้นาๆชนิดให้ท่านดมหน่อยขอรับ...ส่วนดอกอุตพิด..อย่าหักมาเสียหละ!~และอย่าลืมหา..น้ำปานะให้ท่านดื่มด้วยขอรับ...ท่านแวะมาปฏิบัติจิตวิเวกใจ...เรือนธรรมสัญจร..ขอรับ..ยังไม่มีป่าช้า..คงอีกหลายวันเกล้าฯจะย้ายป่าช้าและมหานรกมาใว้...ขอให้ท่านผู้มาเยือน..อดใจรอ...

    วรรค..[​IMG]Add [​IMG]Wassana[​IMG]...ท่านคือมหาอุบาสิกาผู้ใจบุญ.ถิ่นลุ่มแม่น้ำมูล.เมืองนักปราชน์.ขอรับ..(ชาวจังหวัดอุบลราชธานี).เกล้าฯได้รับแล้ว..(กับมือ).มหาธรรมทานของทุกท่าน.....เปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา..จะเท่าใดไม่มีคำว่าน้อย

    กอปรด้วยท่าน....มหาอุบาสิกา..ผู้ใจบุญนาม...[​IMG] ประไพ[​IMG] จันดี...[​IMG]
    593/38 ม.เทพานิเวศน์ ถ.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ...
    และ..ท่านมหาอุบาสกอุบาสิกาจาก...
    .[​IMG]หจก.สินไทยเคมีภันฑ์และการค้า[​IMG]
    815 ถ.ราชวงศ์ แขวง/เขต สัมพันธวงศ์ กทม[​IMG]
    .....เกล้าฯขอความช่วยเหลือ..จากเหล่าทวยเทพ..จงมาพิทักษ์..ทุกท่านที่ร่วมบุญด้วยขอรับ...มหาธรรมทานของทุกท่านเปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา..จะเท่าไรไม่มีคำว่าน้อยขอรับ


    และวันนี้เกล้าฯ...ได้ไปพบเห็นการกระทำรุนแรงต่อ...สตรีเพศแม่..ผู้บอบบาง..และเด็กตัวน้อยๆ..จึงขอร้องบอกกล่าว.ป่าวประกาศ.ต่อท่านผู้องอาจ..อาชาไนย..ทั้งหลายว่า..โปรดหยุดทำร้าย.เด็ก.และสตรี..ด้วยขอรับ
    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]
    โปรดดูด้วยความสงสาร..และพิจารณากัมมัฏฐาน...ปลงอสุภะ..(กายานุปัสนาสติปัฏฐาน)

    วรรค.....เกล้าฯขอน้อมจิต..น้อมใจ..กราบขอบพระคุณท่าน.[​IMG].Bloodtelia[​IMG]..ด้วยขอรับ...ที่สาดซัด....สายวารี..มาที่เรือนธรรม...ขอชาวเรือนธรรมทุกท่าน..โปรดลุกขึ้นยืน...ให้การต้อนรับท่านด้วยความเคารพด้วยขอรับ...และช่วยรีบจัดหาน้ำปานะ..อันเลิศรสให้ท่านด้วยขอรับ...ท่านมาปฏิบัติธรรม..แต่ป่าช้าอดใจรอ..นะขอรับ

    สถานการณ์ฉุกเฉิน!...โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง!...เกล้าฯได้รับแจ้ง....ว่ามีการเจอไข่พญานาคอยู่ในมหาสมุทร..จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยฉลามขาว...ผู้ชำนาญในการประดาน้ำช่วยไปงมหาด่วนด้วยขอรับ....หากไม่ทราบตำแหน่งลองถาม...ท่าน OatitayaO ท่านจะทราบดี(หน้าหก.รู้แล้วอย่าชักช้า)..ต่อจากนั้นให้ไปอนุโมทนาบุญ..กับท่านAdd Wassana ในงานอนุโมทนาบุญ...และพร้อมกันนี้เกล้าฯได้ส่งเรือ..ไปรับทุกท่าน..หลังเสร็จภาระกิจแล้วขอรับ
    [​IMG]


    กราบขอบพระคุณเจ้าของภาพ..ทุกท่าน...ที่มีส่วนในการเผยแพร่ธรรมขอรับ..เกล้าฯพบภาพนี้กลางทุ่งนา(ว่อนเน็ต)
    [​IMG]

    ปลาที่ปล่อย...ด้านบน..น่าจะเป็นญาติกับตัวที่กำลังถ่ายทำตามภาพ..ขอรับ
    [​IMG]
    ชื่อภาพ....สงบ....สมถะ....เรียบง่าย...

    ...ล่าสุดเมื่อ..สามสี่วันที่ผ่านมา...เกล้าฯค้นเจอทางลัดตัดผ่านเรือนธรรมอีกเส้นทางคือคำว่า...เรือนธรรมปฐมฌาณ..และปฐมฌาณคนโบราณโคตรนรก...รวมทั้งกับ..(ลองมองหา..ตามไพรป่า...ละแวกดง)....ว่าจะไม่เอ่ย...แต่ก็เกรงว่าตาจะบอด...(ที่แกล้งทำไม่เห็น.)..เกล้าฯเป็นลูกคนยากหลานคนจน...ไม่มีอะไรตอบแทนผู้ทรงคุณ..นอกจาก.
    ทั้งสิบนิ้วของ.เกล้าฯขอน้อมจิตน้อมใจ...กราบแทบเท้า..ทุกท่านที่ได้เมตตาต่อเรือนธรรม...
    ตลอดถึงท่าน[​IMG]ธรรมวิวัฒน์[​IMG].[​IMG]
    ..และท่าน...รวมทั้งท่าน...และก็ท่าน....ตามที่เอ่ยรายชื่อมานั้น...ต้องกราบขอบพระคุณ...ทุกท่านทุกคน ..เลยขอรับ.ที่มีส่วนช่วยเผยแพร่ธรรม..และ..เกล้าฯคืนนี้ขอความช่วยเหลือจาก..ท่านซินแสช่วยชี้....ตำแหน่งแห่งความรุ่งเรือง....ในการสร้างน้ำพุด้วยขอรับ....


    ตัวอย่าง...ล่วงหน้า
    ครั้งนั้น พราหมณ์ชื่อว่า นันทะ นำเอาคาถาชื่อว่า สตารหา ๔ คาถา ล่วงหนทาง ๑๒๐ โยชน์ แต่พระนครตักกศิลา ถึงพระนครนั้นแล้ว พักอยู่ที่บ้านใกล้ประตูพระนคร เมื่อดวงอาทิตย์อุทัย จึงเข้าไปสู่พระนคร เห็นพระราชาเสด็จออกทางประตูด้านทิศตะวันออก จึงเหยียดมือออกถวายชัยมงคล พระผู้ทรงมเหสักข์เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรทิศอยู่ ได้เห็น มือที่เหยียดออกของพราหมณ์ผู้ยืนอยู่ ณ ประเทศอันสูง ทรงไสพระยาช้าง เสด็จเข้าไปใกล้พราหมณ์

    เมื่อจะตรัสถาม ได้ตรัสพระคาถาว่า
    ชาติภูมิของท่านอยู่แคว้นแดนไหน ข้าพเจ้าขอถามท่านพราหมณ์ ท่านมาด้วยต้องการประโยชน์อะไร จงบอกความประสงค์นั้น ท่านปรารถนาอะไร ข้าพเจ้าจักให้สิ่งที่ท่านปรารถนาในวันนี้.

    ลำดับนั้น พราหมณ์นั้นจึงทูลท้าวเธอเป็นคาถาว่า
    ข้าแต่พระจอมธรณีมหิศร พระคาถา ๔ พระคาถา มีอรรถอันลึกวิเศษนัก เปรียบประดุจสาคร ข้าพเจ้ามาในพระนครนี้ ก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ ขอพระองค์จงทรงสดับพระคาถา อันประกอบด้วยประโยชน์อย่างยอดเยี่ยม...

    พราหมณ์ทูลดังนั้นแล้ว ทูลต่อไปว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า..ผู้เป็นจอมประชาชน.. คาถาชื่อว่า สตารหา ๔ พระคาถานี้ พระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าทศพล.......ทรงแสดงไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาว่า พระองค์ทรงเป็นบัณฑิต...ไม่อิ่มในคำสุภาษิต..และธรรมวารีรส. จึงมาเพื่อแสดงแก่พระองค์.

    วรรค... พระราชามีพระหฤทัยโสมนัส ตรัสว่า ท่านอาจารย์ ท่านมาดีแล้ว แต่ข้าพเจ้าไม่อาจจะกลับจากที่นี่ได้ วันนี้ ข้าพเจ้าจักมาสรงเศียรโดยคลองแห่งผุสสนักษัตรฤกษ์ วันพรุ่งนี้ ..จักมาฟัง..ขอท่านอย่าได้หน่ายแหนง...

    แล้วทรงตรัสสั่งอำมาตย์ว่า ท่านทั้งหลายจงให้การต้อนรับ..ท่านพราหมณ์..อย่างสมเกีรติ..ไปจัดที่นอนให้แก่พราหมณ์ ที่เรือนหลังโน้น จงจัดอาหารอันปราณีตและผ้านุ่งด้วย.ต่อจากนั้น. แล้วถ่องแถ่ว(แนวเป็นระเบียบ)....วิถีสถลราชมรรคา(เดินเที่ยวชมแบบสะบาย)...แลราชาริกนิวาสนฐาน(เสด็จสำรวจอุทยาน)..

    พระราชอุทยานนั้นแวดล้อมด้วยกำแพงสูง ๑๘ ศอก ช้างยืนเรียงต่อๆ กัน แวดวงเป็นหลั่นๆ ไป ต่อนั้นออกไปเป็นขบวนม้า ต่อออกไปก็เป็นขบวนรถ ถัดไปเป็นขบวนนายขมังธนู ถัดไปเป็นขบวนคนเดินเท้า ตั้งล้อมวงเป็นลำดับกันดังนี้แล..

    มหัจจโยธาเสนามาตย์บริพาร(มีข้าราชบริพารอำมาตย์..ไพร่พลและทหารตามบูชา) พลนิกายได้บันลือลั่น ดุจมหาสมุทรที่กำเริบ...ราวกับเสียงคลื่นในสีทันดร..มหาสาครในห้องยุคันธรบรรพต...(สีทันดรชื่อทะเล ๗ แห่งขอรับ...ทะเลเหล่านี้อยู่ระหว่างเขาพระสุเมรุกับเขายุคนธร)..
    วรรค..อ่าองค์ราชันย์ผู้เป็นจอม...มเหสักข์และ.เรือง.ศักดาเดช..ที่เอ่ยมานั้นคือ..พระมหาสัตว์....แห่งแคว้น..กุรุ

    ...เกล้าขอให้ทุกท่านลองสดับดูสักสักหนึ่งคาถาก่อน..ขอรับ...เริ่ม....ฟ้าและแผ่นดินไกลกัน ฝั่งข้างโน้นของมหาสมุทร เขาก็กล่าวกันว่าไกล ข้าแต่พระราชา ธรรมของสัตบุรุษและธรรมของอสัตบุรุษทั้งสองนี้ ท่านกล่าวว่า ไกลกันยิ่งกว่านั้นแล. (มี๔คาถา..หากท่านได้สำผัสทุกทุกอักขระ...จะสำเร็จอมตะมหานิพพาน)

    ชมก่อนล่วงหน้า เรามิได้คิดถึงตัวเอง มิได้คิดถึงลูกเมีย มิได้คิดถึงทรัพย์สมบัติ มิได้คิดถึงบ้านเมือง แต่ธรรมของสัตบุรุษที่ท่านประพฤติกันครั้งโบราณ เราผลัดต่อพราหมณ์ไว้ คิดถึงเรื่องธรรมข้อนั้นแล.
    การนัดหมาย เราตั้งอยู่ในฐานะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ได้ทำไว้กับพวกพราหมณ์ในแคว้นของตน การนัดหมายนั้นต่อพราหมณ์ผู้ประเสริฐ เราจักเป็นผู้รักษาความสัตย์กลับมา.



    ไขระหัสคำว่า...สุทัสสี...คือชื่อ..พระพรหม..ชั้นสุทธาวาส..ขอรับ...เมื่อ..นำคำว่าสุทัสสีมารวมกับคำว่า..ทัต...ก็คือ..พรหมทัต.
    หรือสุทัสสีทัต..เป็นการใส่ระหัสขอรับ.....(เมื่อท่านทราบองค์ราชา...ก็จะรู้ที่มาของเรื่องทั้งหมด...ขอรับ...แต่ยังไงก็ตามเกล้าฯจะกลับมาเขียน..ที่เขียนค้าง...ให้เรียบร้อย)
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา....ขอกราบเรียนเชิญชาวเรือนธรรมผู้ใจบุญทุกท่าน...
    โปรดร่วมกันปฏิสังขรณ์..บูรณะ..สถานที่.ปฏิบัติธรรม.อันศักดิ์สิทธิ์.กับ.
    ท่านธรรมวิวัฒน์
    คลิ๊กนิดๆ..(คิดๆหน่อย)......

    [​IMG]

    http://palungjit.org/posts/3165553
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2010
  4. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    อานิสงค์แห่งบุญ..เมื่อครั้งถวายทานแด่พระกัสสปทศพล

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..ก็ได้รับความเมตตาจิตจากทุกท่าน.หลายๆท่าน.ทุกคน..หากจะนำมาเอ่ย..นฤโฆษณาการ.ผู้ที่ให้การช่วยเหลือคืนนี้ถึงรุ่งสาง.หรือสามปี....ก็ไม่แน่ว่าจะเอ่ยจบขอรับ(สาเหตุ..ก็เอ่ยชื่อเดิมๆนั้นแหละ...กลับไปกลับมา) เนื่องจากเกล้าฯเห็นว่าพอสมควรแก่เวลา..ก็เลยของดรับบริจาค..ขอรับ​

    แต่งานเผยแพร่ธรรมของเกล้าฯและชาวเรือนธรรมก็ยังดำเนินการอยู่เรื่อยๆ...แต่การขอรับบริจาคท่ามกลางมหาชน..ขอกล่าวคำว่างดขอรับ..

    สิ่งใดที่เกล้าฯประกาศออกไป..อาทิ..จะนำหนังสือไปมอบให้...โรงเรียนบ้านป่าสามโรงเรียน...คือโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนบ้านนาแวง..บ้านปงคอม..บ้านหนองตอ..ทั้งสามแห่งนี้เกล้าได้ประกาศต่อมหาชนเพียงวันเดียวแล้วลบออก..ก็ไม่ลืมที่จะทำตามที่ประกาศ....คือเป็นหนังสือสำหรับแจกขอรับ....คือได้มาจากหลายๆท่าน...ทางเรือนธรรมไม่ใช่สถานที่กักหนังสือธรรมมะ(ไว้กินหน้าหนาว)..เปิดเทอมจึงจะนำไปส่งมอบขอรับ(ที่นำมากล่าว..มิใช่ใคร่จะรบกวนขอรับบริจาคดอกขอรับ..เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่า...เรือนธรรมจะไปนำความสัตย์กลับมาขอรับ)

    วรรค....โดยเจตนาคือต้องการให้เกิด..ประโยชน์แก่มหาชนหมู่มาก..สิ่งไหนสมควรแจกก็แจกขอรับ...ส่วนที่ทรงคุณค่ามีจำนวนจำกัดก็คงรักษาไว้ที่เรือนธรรมอย่างดี..ขอรับ

    ส่วนท่านหมอเวช..ที่เดินทางไกลมายืมหนังสือ..(ร่วมยี่สิบกิโลเมตร)
    เกล้าฯเห็นตัวจริง(เสียงจริง)แล้วขอรับ(ตอนกลับบ้าน)..ท่านเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการกระจายธรรม...เพราะทุกครั้งที่ท่านยืมไปอ่านจะมีชาวบ้าน..ละแวกท่านมาขออ่านเป็นจำนวนมาก

    ส่วนการเผยแพร่ธรรม ล่าสุดคุณพ่อคำผิว สุวรรณ์ ได้บรรจุหนังสือที่เห็นว่าเขามีไว้เพื่อแจกฝากให้คุณ พัน โพธิ์ขี ไปเผยแพร่ทางบ้านตำแย ต.ท่าโพธิ์..เขตอำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด...ร้อยกว่าเล่ม.งานบุญใหญ่พระมาร่วมเกือบร้อยรูป..เป็นที่ปิติว่า...ชาวบ้านและพระสงฆ์..ได้มาขอรับ...โดยเฉพาะชาวบ้านบางท่านอ่านไปเจอข้อคำที่โดนใจ..ยกมือใส่หัวเป็นระยะ...ขอรับ

    ส่วนที่ทางเรือนธรรมได้กระจายธรรมทาน...ให้ครอบคลุมหลายจังหวัดมากที่สุดคืองานฌาปณกิจ..พระเถระบ้านนาแวง...งานนี้เป็นงานพระของพระสุปฏิปันโณ สายพระป่า ซึ่งเรือนธรรมได้เอาหนังสือ...ไปกระจาย..สาดซัดสายธรรมได้หลายจังหวัดเพราะมีสาธุชน...ที่ศรัทธา..มาร่วมงานหลายพื้นที่มิอาจระบุได้..ส่วนใหญ่..จะเป็นหนังสือเล่มเล็กๆสำหรับแจกอาทิฝ่าความจนคนเหนือดวง...ประมาณนี้แหละขอรับ(ชาวบ้านป่าเขตนั้นแตกตื่น..เพราะการแจกหนังสือ..เป็นสิ่งที่หายาก.คือ.หาเห็ดหาง่ายกว่า)

    วรรค...ต่อไปเป็นธรรมมะ...ของเกล้าฯที่จะสาดกลับคืน..แด่ทุกท่าน.ผู้ให้ความเมตตาต่อชาวเรือนธรรมขอรับ
    [​IMG]


    ทศางคุลีหัตถ์(ทั้งสิบนิ้ว)...ของเกล้ากระผมปฐมฌาณ..ขอน้อมจิตน้อมใจ..ประณตน้อม..อัญชลีกร..วันทนาการ..วันทา..อภิวาท..คารวะน้อมสักการ..อะไรที่เกี่ยวกับกราบๆใหว้ๆ...หากยังนึกไม่ออกบอกไม่ได้ก็ขอยกมาหมด..เพื่อเชิดชูบูชาธรรม..ขององค์พระสัพพัญญุตญาณ..แห่งวัดเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี..ที่ได้ตรัสครั้งแต่บุพพาภิโยคอันพระพุทธองค์..ได้ศึกษามาแต่ปุเรภพ(คือครั้งอดีตเมื่อสั่งสมบารมี)...หลังจากใช้มือฟอกของหอม..ก็คงเหลือแต่พนมหัตถ์..แล้วสาดซัด...นฤโฆษศัพท์...ย้ำธรรมเภรี...ให้ตรีโลกธาตุ...กัมปนาท..กัมปนาการ..แหวกม่านธรรม....ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม


    อปรภาคสมัย...ท่านปาริโสทยักษ์....หรือองค์ราชาผู้มีนามว่าพระพรหมทัต(สุทัสสีทัตระหัสที่ถูกถอด)....แห่งกรุงพาราณาสี... เพลานี้ดึกสงัดได้แหงนพระพักตร์ ทัศนาการ อัมพราประเทศ(แหงนหน้าดูท้องฟ้า)..ในอดีตท่านคือปราชน์ผู้เชี่ยวชาญในวิชาเวทางศาสตร์ ก็รู้ว่าวันพรุ่งจะเป็นผุสสนักษัตรฤกษ์ (ฤกษ์ดีในเดือนยี่) ซึ่งพระมหาสัตว์จะทรงเสด็จลงสรงสนานในพระราชอุทยาน จึงเร่งรุดมิรอช้า...แอบซ่อนตัวในสระโบกขรณี.ตั้งแต่ตอนปฐมยาม..เพลานั้นยังไม่มีการระวังป้องกันอารักขา..


    วรรค...คือใช้ใบบัวปิดศีรษะ..แอบซุ่มอยู่ในน้ำ...และด้วยอานุภาพ..เมื่อครั้งได้สั่งสมบุญมาแต่กาลก่อน..ทำให้มีหมู่ปลาและเต่ามาว่ายวนรอบๆ...ขอรับ


    วรรค...เป็นเพราะด้วยอานิสงค์บุญครั้งที่ได้ทำกับพระกัสสปทศพล
    ..คือถวายสลากภัตรน้ำนมครั้งนั้น..จึงทำให้องค์ท่านมีกำลังมาก
    ..เกินใคร..จะเทียบเทียม..(เกล้าฯ....เคยสดับมาว่าท่านเกิดครั้งใดก็มีกำลังเหมือนช้างสาร เจ็ดเชือกก็มิปาน)
    (ที่ใส่ระหัสใว้..คืออดีตชาวนาได้ถวายเข้ายาคูหน้าหกขอรับ)..


    ด้วยความชำนาญในด้านยุทธศาสตร์และยุทธวิธี...ท่านปาริโสทยักษ์จึงจับพระมหาสัตว์ไปได้โดยง่ายคือยกขึ้นนั่งบนบ่าแล้ววิ่ง..
    .ด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า..ฝ่าแหวกวงล้อมกองอารักขา..อย่างห้าวหาญ...พักเดียวก็ล่วงหนทางได้สามโยชน์เหลียวมองหน้าหลังไม่มีใครติดตาม.

    .แต่รู้สึกมีหยดน้ำตาใหลลงผ่านเกศา...ถึงหน้าอกจึงดำริว่าขึ้นชื่อว่าสัตว์ไม่กลัวตายย่อมไม่มี.แม้แต่..พระมหาสัตว์..ยังร้องให้จึงกล่าวคาถาว่า

    ท่านผู้มีความรู้ มีปัญญาเป็นพหูสูต คิดเหตุการณ์ได้มาก ย่อมไม่ร้องไห้ การที่พวกบัณฑิตเป็นผู้บรรเทาความเศร้าโศกผู้อื่นได้ นี่แหละเป็นที่พึ่ง อย่างยอดเยี่ยมของนรชน เหมือนอย่างเกาะเป็นที่พำนักของคนที่ต้องเรือแตกในมหาสมุทร ฉะนั้น.
    พระมหาสัตว์ พระองค์คิดถึงอะไร ตนหรือญาติ หรือลูกเมีย หรือข้าวเปลือกทรัพย์สิน เงินทอง หรือ..ท่านโกรัพยะผู้ประเสริฐสุด หม่อมฉันขอฟังถ้อยคำของพระองค์.

    พระมหาสัตว์ตรัสว่า

    เรามิได้คิดถึงตัวเอง มิได้คิดถึงลูกเมีย มิได้คิดถึงทรัพย์สมบัติ มิได้คิดถึงบ้านเมือง แต่ธรรมของสัตบุรุษที่ท่านประพฤติกันครั้งโบราณ เราผลัดต่อพราหมณ์ไว้ คิดถึงเรื่องธรรมข้อนั้นแล.
    การนัดหมาย เราตั้งอยู่ในฐานะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ได้ทำไว้กับพวกพราหมณ์ในแคว้นของตน การนัดหมายนั้นต่อพราหมณ์ผู้ประเสริฐ เราจักเป็นผู้รักษาความสัตย์กลับมา.


    ต่อจากนั้นพระมหาสัตว์ได้เอ่ยให้ท่านปาริโสทยักษ์ปล่อย..เพราะยังไม่ได้สดับธรรมหากแม้นสมประสงค์แล้วจะกลับมาใหม่


    วรรค...ท่านผู้ชมที่เคารพขอรับ..ท่านปาริโสทยักษ์ไม่เชื่อ..ขอรับพร้อมทูลพระมหาสัตว์ว่า..

    คนผู้มีความสุข หลุดออกจากปากของมัจจุราชแล้ว จะมาสู่มือของศัตรูอีก ข้อนี้ข้าพเจ้ายังเชื่อไม่ได้หรอก ข้าแต่ท่านโกรัพยะผู้ประเสริฐสุด พระองค์จะไม่เข้าใกล้ข้าพเจ้าอีกกระมัง.

    พอพระองค์พ้นจากเงื้อมมือของปาริโสทยักษ์....เสด็จไปถึงพระราชมนเทียรของพระองค์ เพลิดเพลินด้วยกามคุณารมณ์ พระองค์ได้ชีวิตอันเป็นที่รักจิตสนิทใจ พระองค์จักกลับมาหาข้าพเจ้าได้อย่างไร.

    พระมหาสัตว์ได้ทรงสดับดังนั้น เป็นดุจพระยาไกรสรราชสีห์ ไม่หวาดหวั่น ตรัสตอบว่า

    คนที่มีศีลบริสุทธิ์ มุ่งปรารถนาความตาย คนผู้มีธรรมลามกที่นักปราชญ์ติเตียน ไม่พึงปรารถนาชีวิต นรชนคนใดพึงกล่าวคำเท็จ เพราะเหตุแม้แห่งของรักอันใด ของรักอันนั้น ไม่รักษานรชนคนนั้นจากทุคติได้เลย.
    แม้ถึงลมจะพึงพัดภูเขามาได้ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จะพึงตกในแผ่นดินได้ แม่น้ำทั้งหมดจะพึงไหลทวนกระแสได้ ถึงอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็พูดเท็จไม่ได้จริงๆ นะพระราชา.

    วรรค..คำว่าปาริโสทยักษ์...ให้ตัดคำว่ายักษ์ออก(คืออดีตชาติของพระราชาที่เคยเกิดเป็นยักษ์ขอรับ)...เหลือแต่คำว่า..ปาริโสท..

    เมื่อเห็นว่าท่านปาริโสท..ไม่ทรงเชื่อ...จึงตรัสว่าจะจับหอกดาบสาบานก็ได้..แต่ท่านปาริโสท..คิดว่าพระมหาสัตว์เป็นกษัตริย์ไม่ควรทำอย่างนั้น ....แต่ขออุปมา..ขึ้นชื่อว่าอ้อยเข้าปากช้าง...มีอยู่หรือช้างจะยอมคาย....เสือคาบเนื้อ...ด้วยความหิว...มีอยู่หรือ...จะยอมปล่อย...เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร...โปรดอดใจรอ...หลังจากลำดับภาพ....ให้ง่าย..และรวบรัดในหมู่ผู้ใจร้อน..ต้องการรู้เรื่องเร็ว.จบแล้ว..ก็จะอัญเชิญ..
    ที่มา..ของเรื่อง...และทุกอย่าง..ที่จะสื่อให้ทางบ้านได้ศึกษาอย่างละเอียด.ในกาลต่อไป.​

    คำว่า...ปาริโสท...ระหัสนี้เมื่อถอดออกมา...พยัญชนะจะอยู่ครบ...แต่จะทำให้ชาวบ้านชาวเมืองทั่วชมพูทวีป...แตกตื่น!โกลาหล...เด็กร้องให้!..ผู้ใหญ่นอนผวา!~...

    [​IMG]

    (เกล้าฯ...จะมาใหม่ศุกร์หน้า.มาถอดระหัส....พร้อมจะอัญเชิญ.ลำนำ..ที่ร้อยเรียงแห่งพระอรรถกถาจารย์.ที่เขียนไว้อย่างวิจิตร..ของ..ปราชน์โบราณ..มาให้ชมขอรับ..ขอรับ..

    อนึ่ง....เรื่องที่เกล้าฯอัญเชิญมานี้เป็นเรื่องที่สมาชิกพลังจิต...รู้ดีอยู่แล้วขอรับ..นับแต่ทราบองค์ราชาขอรับ.ส่วนการรับบริจาคของดนะขอรับ...เพราะรู้สึกว่าได้รับความเมตตาพอสมควรแล้วขอรับ.)

    หลักในการถอดระหัส.คำว่าปาริโสท.ใช้หลักปริศนาคำทายอาทิเช่น...อะไรเอ่ย..มาหนึ่งตัวเห็นพอเลือนลาง...มาสองตัว(มากๆ)ไม่เห็นอะไรเลย.

    (ถ้าหากท่านตอบได้...ก็ถอดระหัส..ปาริโสท..ได้ขอรับ)​


    ตัวอย่างเหตุการณ์ล่วงหน้า..ลองทัศนาการสดับดูขอรับ(สำนวนแห่งพระอรรถกถาจารย์แต่แตกต่างแค่ระหัสชื่อขอรับ)​




    ลำดับนั้นพระมหาสัตว์ตรัสว่า
    กัลยาณธรรมหลายอย่าง เราได้ทำแล้ว ยัญที่ไพบูลย์ บัณฑิตสรรเสริญ เราก็ได้บูชาแล้ว ทางปรโลกเราก็ได้ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว ผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรม ใครเล่าจะกลัวตาย. กัลยาณธรรมหลายอย่าง เราได้ทำแล้ว ยัญที่ไพบูลย์ บัณฑิตสรรเสริญ เราได้บูชาแล้ว เราไม่เดือดร้อนที่จะไปสู่ปรโลก ดูก่อนท่านปาริโสท...ท่านจงบูชายัญ กินเราเถิด

    วรรค.....
    พระชนกและพระชนนี เราก็ได้บำรุงแล้ว ความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เราก็ได้ปกครองแล้วโดยธรรม ทางปรโลกเราก็ได้ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว คนที่ตั้งอยู่ในธรรม ใครเล่าจะกลัวความตาย. พระชนกและพระชนนี เราก็ได้บำรุงแล้ว ความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เราก็ได้ปกครองแล้วโดยชอบธรรม. เราไม่เดือดร้อนที่จะไปสู่ปรโลก ดูก่อนท่านปาริโสท...ท่านจงบูชายัญ กินเราเถิด

    อุปการกิจในพวกญาติและมิตร เราก็ได้กระทำแล้ว ความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เราก็ได้ปกครองแล้วโดยธรรม ทางปรโลก เราก็ได้ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว คนที่ตั้งอยู่ในธรรม ใครเล่าจะกลัวต่อความตาย อุปการกิจในพวกญาติและมิตร เราก็ได้กระทำแล้ว ความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เราก็ได้ปกครองแล้วโดยธรรม เราไม่เดือดร้อนที่จะไปสู่ปรโลก ดูก่อนท่านปาริโสท...ท่านจงบูชายัญ กินเราเถิด

    วรรค..ท้ายสุด..พระมหาสัตว์ได้เอ่ยอาสภิวาจา(วาจาที่แสดงความองอาจ)...ตอกย้ำอย่างไม่เกรงมัจจุราช.ว่า
    ทานเราก็ได้ให้แล้วเป็นอันมากแก่คนจำนวนมาก สมณพราหมณ์ เราก็ได้อุปถัมภ์ให้อิ่มหนำแล้ว ทางปรโลกเราก็ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว คนที่ตั้งอยู่ในธรรม ใครเล่าจะกลัวต่อความตายทานเราก็ได้ให้แล้วเป็นอันมากแก่คนจำนวนมาก สมณพราหมณ์ เราก็ได้อุปถัมภ์ให้อิ่มหนำแล้ว เราไม่เดือดร้อนที่จะไปสู่ปรโลก ดูก่อนท่านปาริโสท...ท่านจงบูชายัญ กินเราเถิด

    ณ..อรัญญิกเสนาสน์ป่าไทร...นอกจากพระมหาสัตว์แล้ว..ในเวลานี้..ได้มีทุกสรรพเสียง.คือเสียงทรงพระกรรแสง.ของเหล่าราชา..ที่โดนตอกพระหัตถ์หนึ่งร้อยพระองค์..สลับเสียงร้องควรครางด้วยความเจ็บปวด..สุดแสนทรมาน...เป็นภาพที่น่าเวทนาใจยิ่งนัก บางพระองค์ก็หิวกระหาย....เต็มกำลัง..จิตอ่อนแรง..เพราะถูกจับตอกมือมาหลายวัน.ขณะนี้พระพักตร์แต่ละองค์หมองเศร้า..น้ำตาเอ่อไหล........

    อับจนสิ้นหนทาง..ห้อยระโยงระยาง..ใต้ต้นไทร....อย่างไร้หวัง....ยืนซึมรอความตาย.....แม้พระอัสสุชลธาราจะเจิ่งนอง...ไหลหลั่ง...ร้องเรียกหา...ผู้ที่ตนรักดุจดวงใจ..ปริ่มว่าใจจะขาด..แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ซึ่งความหวัง...โอ้หนอ...อนิจจา.....ชีวิต....หนอชีวิต..ของ.ผู้เป็นจอมประชาชน.....กลับมืดมน.....ไร้หนทาง..หากจะอุปมาไปก็เหมือนพระอาทิตย์กำลังอัสดงคต..แต่.กองจิตกาธานขณะนี้ยังลุกโพล่ง....ท่านผู้เหี้ยมโหดได้กระทำการอย่างไร้ปราณีด้วยเพราะคิดว่ายังไงก็ต้องฆ่าฉีกเนื้อ.เถือหนัง..อยู่ดี..หลังจากสิ้น..พลีกรรม.เซ่นสังเวยเทวดา​




    [​IMG]
    ภาพ.....ซาบซึ้งในรสแห่งพระธรรมขอรับ(ฟังทีไรซาบซึ้ง..จึงขอให้งด..)
    [​IMG][​IMG]ชื่อภาพอุเบกขา.ปล่อยวาง
    ฉายแวว..ว่าจะเป็นปราชญ์อรรถกถาจารย์แน่ๆ...ในวันหน้า

    ........พระจอมมุนี...แห่งป่า..อิสิตนมฤคทายวัน..ทรงตรัสสรรเสริญ..การตีสนิทใกล้ชิดกับความตาย.คือการเจริญมรณัสสติกัมมัฏฐาน.เป็นอย่างยิ่ง......(เกล้าฯเคยสดับมาว่า..พระพุทธองค์ทรงรำลึกถึงความตายทุกขณะจิต)
    หลายต่อหลายครั้ง(หลายครั้งหลายหน)..มาแล้วที่เกล้าฯเอ่ยถึงผี...หรือเอาป่าช้ามาลง...โดยจุดมุ่งหมายมิใช่..สิ่งใดอื่น...
    .เกล้าฯขอกราบเรียนเชิญทุกท่าน...โปรดร่วมกันสบตากับความตาย(ระลึกถึงความตาย).เงี่ยโสตสดับ.อมตวิจิตรคีตศิลป์อันโหยหา..เผื่อบางที..บางท่านอาจหวนรำลึกถึงวันวาน...ที่ท่านเคยได้รับไออุ่น...ของใครสักคนที่รักท่านปานดวงตา....แต่เพลานี้...ท่านมิอาจย้อนเวลาได้อีกแล้วขอรับ
    คลิ๊กเบาๆ...รับรองจะตรึงจิต..ทุกดวงใจ (ได้โปรดคลิ๊กก่อน...แล้วค่อยอ่าน...ข้อคำข้างล่างได้โปรดเถอะขอรับ)

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=S3SwEW851KE&feature=player_embedded"]YouTube- ?????????? - ???????????[/ame]

    ชื่อ..คลิบ..ขอน้อมจิต..น้อมใจ..รำลึกถึงผู้สนิทที่ชิดใกล้..คุ้นเคยและเป็นอันที่รักยิ่ง....วันที่ท่านได้จากไป...เหมือนดังว่าโลกทั้งโลกได้หยุดหมุน.ราวประหนึ่งว่าท่านได้ฉุดคร่าดวงใจ..ของ.ผู้อยู่ข้างหลังไปด้วย....สรรพเสียง...สำเนียง...ที่พร่ำรำพัน...เหมือนประหนึ่งว่า...จะตอกย้ำ...คุณงามความดี............ที่มิอาจลบได้ด้วยกาลเวลา....แม้จะสุดเศร้าเสียดาย...ร้องให้เรียกหา.....จนน้ำเลือด..หลั่งทา..แทนหยดน้ำตาที่หลั่งริน...ก็มิอาจกู่เรียกกลับมาได้..โอ้เอ่ยดวงใจ...ความพลัดพราก...ท่านคือนายผู้เหี้ยมโหด....และช่างทารุณ.โหดร้ายเสียนี้กระไร.ไร้ปราณี...แม้นจะกู่ร้อง.....สุดเสียงเพรียก......ร่ำเรียกหา......ปริ่มว่าใจจะขาด..กลับคงแต่ได้ยิน...แต่สุรเสียงที่เงียบหาย.......พอได้คิดว่าจะแทนคุณผู้การุณ.......ดุจดังประหนึ่งแผ่นดินและแผ่นฟ้า...ก็สายจนเกินการ..โอละหึก..โอ้..น้ำตาเจ้าข้าเอ๋ย....หลั่งไหลไปเถิด..หลั่งไหลไป....ให้สาแก่ใจ..เผื่อดวงจิตดวงใจ....ของเจ้า...จะได้รู้สึกดี...กับชีวีที่ไร้หวัง.......

    (ขอกราบขอบพระคุณทุกแหล่ง..ที่มา....ที่เกล้าฯได้นำมาใช้ในการเผยแพร่ธรรมขอรับ)
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
    .กองจิตกาธาน....คำว่านี้..หมายถึงกองไฟ..ที่ใช้สำหรับ..เผาศพแต่เพียงเท่านั้น..ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2010
  5. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ผู้อยากไปพระนิพพานต้องอ่านให้เจอ... ๔ พระคาถา...

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา....ได้ประกาศของดรับบริจาคไปแล้วขอรับ.....คำพูดที่กล่าวคือสัจจะ..ท่านจะไม่พบถ้อยคำที่เป็นการขอรับบริจาคอีกต่อไปอีกแล้ว...แต่ถ้าหากถามว่า....เกิดมีผู้ใจบุญอยากสร้างธรรมทานและร่วมกระจายธรรม...แล้วส่งหนังสือบริจาคไป..ทางเรือนธรรมจะทำยังไง....ก็ขอกราบเรียนตามตรงว่า...พระธรรมสถิตอยู่...ณ..ที่แห่งใด.....แสดงว่า...พระพุทธองค์และเหล่าพระสาวกย่อมจาริกวิเวกอยู่...ณ...สถานที่แห่งนั้น...เมื่อเหล่าพระอรหันต์ขีณาสพ..และพระพุทธองค์จาริกผ่านมา...การที่เรือนธรรม.ซึ่งเป็นอุบาสก..อุบาสิกา..จะเพิกเฉย..หรือไม่แสดงอาการนอบน้อมลุกขึ้นต้อนรับ...ด้วยความปลื้มปิติยินดี....หามีไม่...และหลังจากเกล้าฯ..ประกาศงดรับบริจาคไปแล้ว...ก็ยังมีมหาอุบาสก..และมหาอุบาสิกา..ร่วม.อัญเชิญพระธรรมนำมาสถิต...ดังต่อไปนี้ขอรับ
    ท่านมหาอุบาสกผู้ใจบุญและทรงมเหสักข์..ศักดาเดช..จากเมืองสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่นาม..อันลือชื่อของท่านคื[​IMG]พ.ต.ท รัชพล เกลี้ยงอุทธา[​IMG] 101/99 ถ.โพธิ์ร้าง อ.เมือง จ.สุรินทร์...
    และอีกท่านคือ..[​IMG]ท่านอาจารย์นันทภร โสภะ...วิทยากรอบรมจากยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย..ได้ฝากให้ท่านอุทัยวรรณ....[​IMG]ทำบุญมาเป็น..ซี.ดี.จำนวนหนึ่งชุด.ทั้งสองท่านที่เอ่ยถึงนั้นเป็นชาว...กทม. ขอรับ..(ท่านอุทัยวรรณนี้คือผู้บริจาครายแรกในการก่อตั้ง.และบริจาคหลายครั้ง.ขอรับ..)
    [​IMG]


    อนึ่ง...ทางเรือนธรรมยังไม่ได้เอ่ยชื่อผู้ร่วมบุญอีกสามท่านเพราะเห็นว่าเป็นสหธรรมิกคุ้นเคย...และท่านคงไม่เข้ามาอ่าน...แต่เมื่อได้คิดตามปราชญ์...อาจารย์..เคยนิยม..การเที่เกล้าฯจะเพิกเฉย..หาควรไม่ความดีของคนอื่นแม้มีน้อยก็ต้องกล่าวให้มากๆ..บัณฑิตว่าอย่างนั้นขอรับ..

    ด้วยเหตุฉะนี้..เกล้าฯจึงขออ้างเอ่ยเพื่อเชิดชูบูชาคุณ...คือท่าน[​IMG] ถวัลย์ บุญรอด(คุณปิ๊ก)และคุณ เปิ้ล(ภรรยา)[​IMG]...(เจ้าของกิจการให้เช่ารถเบนซ์แยกอโศก)ทั้งสองท่านนี้ได้ช่วยบริจาคเงินในงานเผยแพร่ธรรม...เมื่อครั้งเปิดโรงธรรม...จำนวน..สองพันบาท..และ.ก่อนหน้านั้นท่านเคยให้ชีวิตในเส้นทางธรรมอุปถัมภ์ในการบวชของเกล้าฯด้วยขอรับ..ร่วมบริจาคสองหมื่นบาทขอรับ(เป็นเรื่องบุญกรรมแต่ปางหลัง.ที่เคยเกื้อกูลกันมา.ขอรับ..เพราะเกล้าฯกับท่านเพียงนานๆเห็นกันครั้ง..ญาติเกล้าฯส่วนใหญ่เป็นชาวนาขอรับ..มิรวยขนาดนี้..).รวมทั้ง..[​IMG]อาจารย์ นันทภร โสภะ [​IMG]ห้าพันบาทรวมทั้งได้บริจาคหนังสือให้กำลังใจในการเผยแพร่ธรรมจำนวนหนึ่งขอรับ(เจ้าของคลีนิกดอกเตอร์ฟีทและวิทยากรเผยแพร่ธรรมที่ยุวพุทธ)...และยังมีอีกหลายท่านที่ร่วมอุปถัมภ์อุปสมบท...หากเอ่ยไปเกรงขากรรไกรจะค้างคางจะแข็ง...คือแปดปีก็เอ่ยชื่อไม่หมด..เพราะเหตุใดหรือ.(เหตุผลเดิม..ขอรับชื่อเดิมๆ..เอ่ยซ้ำๆคล้ายเครื่องเสียงตกร่อง)

    และยังมีมหาอุบาสกผู้ใจบุญอีกท่านหนึ่ง...ชื่ออันลือนามของท่านคือ [​IMG]คุณรุ่ง กิจไธสง[​IMG] เจ้าของกิจการร้านจิวเวลรี่..อยู่ชั้นหนึ่งโลตัสบางกระปิ...ตรงข้ามเดอะมอลล์บางกระปิ...ท่านผู้นี้เป็นสหธรรมิกและอาจหาญในทางธรรม..และเป็นหนึ่งในทีมผู้ร่วมเผยแพร่ธรรม...คอยให้กำลังใจและอยู่เบื้องหลังในการเผยแพร่ธรรมของเกล้าฯเสมอมาขอรับ

    วรรค...ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านทุกคน..ขอรับ.เพี่อไม่ให้สาเวเลีย...เสียเวลา...ขอเชิญเงี่ยโสตะ..สดับธรรมะ.ณ โอกาสนี้

    [​IMG]
    หลังจากใช้มือฟอกของหอม...เกล้ากระผมปฐมฌาณ..ขอน้อมจิตน้อมใจ...ประณตน้อม..สัการะ...คารวะอภิวันท์..ต่อทุกท่าน.ทุกคน.อิสรชน..ตลอดจน...วณิพก...กระยาจกพเนจร...ต่อจากนั้นก็ขอน้อม....ยอยกอัญเชิญ...เรื่องราว...คราวหนหลัง..ของพระสัพพัญญู...มาเชิดชูพระธรรมขึ้นใส่เหนือหัว...แล้วก็คงแต่เพียงพนมหัตถ์...แล้ว..สาดซัด..ปณามคาถา...อุโฆษณาการ..แหวกม่านธรรม...ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม......


    วรรค...ขอถอดกุญแจปริศนาคำทายหน่อยขอรับ....เพื่อไข...คำว่าปาริโสท..

    คำที่ถามไว้คืออะไรเอ่ยมาหนึ่งตัวเห็นพอเลือนลาง..มาสองตัว(มากๆ)ไม่เห็นอะไรเลย

    ..คำว่า...มาหนึ่งตัวเห็นพอเลือนลาง มาสองตัว(มากๆ)..ไม่เห็นอะไรเลยนั้น..คำตอบก็คือ..จักษุอันธการ ..งงไหมขอรับ..
    ถ้างง..เกล้าฯขอขยาย...มาหนึ่งตัว..ก็คือมัวหนึ่งตา...ถ้าหากมาสองตัว...ก็ย่อมหมายถึงมัวสองตาขอรับ...ถ้าหากมาสองตัวมัวสองตามากๆ...ก็ย่อมมองไม่เห็นอะไรเลย..คำตอบก็คือคนตาบอด..ขอรับ


    แล้วคำว่า..ปาริโสท.(อ่านว่าปาริโสทะ)....คำนี้ให้ผวนเฉพาะคำหน้า...เหลือไว้เฉพาะตัว ท คำว่า ปาริโส ก็คือ โปริสา ต่อจากนั้นให้เอาตัว ท มาตามหลังก็จะได้คำว่าโปริสาท.มนุษย์กินคน

    [​IMG]
    ลำดับนั้น...ดวงประทีปชวาลา...ยังคงลุกโชน...ไปด้วยเปลวอัคนีการ...จากกองจิตกาธาน..และเหล่าพระมหากษัตริย์...ยังคงถูกตอกพระหัตถ์ตรึงใว้....ที่ใต้ต้นไทร...อย่างน่าอนาถ...เวทนาใจ....ไร้หวัง

    วรรค...ความเดิม...พระมหาสัตว์ได้ร้องขอ..ให้ท่านโปริสาท..ปล่อยชั่วคราว..แล้วจะนำคำสัตว์กลับมา..เมื่อเสร็จกิจสดับธรรมจากท่านพราหมณ์....ฟังต่อขอรับ

    เมื่อเห็นว่าท่านโปริสาท..ไม่ทรงเชื่อ...จึงตรัสว่าจะจับหอกดาบสาบานก็ได้..ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้บังเกิดในตระกูลกษัตริย์...แต่ท่านโปริสาท..คิดว่าพระมหาสัตว์เป็นกษัตริย์ไม่ควรทำอย่างนั้น..รำพึงครุ่นคิดว่า.หากผิว่าเราปล่อยท่านไปหากแม้นท่านไม่กลับมาแล้วไซร้...เราก็เป็นกษัตริย์เราจะเอาเลือดในลำแขนของเรานี้แหละ..พลีกรรมต่อพฤกษเทพ(เจ้าพ่อไทร)

    แล้วท่านโปริสาทก็ปล่อย...พระมหาสัตว์เสด็จนิวัติพระนคร...เพื่อไปสดับธรรมจากนันทพราหมณ์... ลำดับนั้น ในเวลาที่พระโพธิสัตว์อาราธนาแล้ว พราหมณ์จึงฟอกมือทั้งสองด้วยของหอม นำเอาคัมภีร์อันเป็นที่น่ารื่นรมย์ออกจากถุง จับขึ้นสองมือแล้วทูลว่า
    บัดนี้ ขอมหาบพิตรจงทรงสดับคาถา ชื่อว่าสตารหา ๔ คาถา ตามที่พระกัสสปทศพลทรงแสดงไว้ อันจะถอนความเมามีความเมาด้วยราคะเป็นต้นให้สร่าง ให้สำเร็จอมตมหานิพพานนี้.

    พราหมณ์กล่าวคาถาชื่อว่า สตารหา ๔ คาถา ตามที่พระกัสสปทศพลทรงแสดงไว้อย่างนี้แล้ว ได้นั่งนิ่งอยู่ พระมหาสัตว์ได้ทรงสดับดังนั้น มีพระหฤทัยโสมนัสว่า การมาของเรามีผลหนอ ทรงพระดำริว่า คาถาเหล่านี้ไม่ใช่ภาษิตของพระสาวก ไม่ใช่ภาษิตของฤาษี ไม่ใช่ภาษิตของกวี แต่เป็นภาษิตของพระสัพพัญญู จะควรค่าเท่าไรหนอ


    พราหมณ์กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ได้คาถาละร้อยกหาปณะ เพราะฉะนั้น คาถาเหล่านี้จึงได้นามว่า สตารหา. ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ตรัสกะพราหมณ์นั้นต่อไปว่า ท่านอาจารย์ไม่รู้ราคาของภัณฑะที่ตนถือเที่ยวไป ตั้งแต่นี้ คาถาเหล่านี้จงชื่อว่า สหัสสารหา ดังนี้ แล้วตรัสพระคาถาว่า

    คาถาเหล่านี้ชื่อว่า สหัสสารหา ควรพัน ไม่ได้ชื่อว่า สตารหา ควรร้อย ท่านจงรับทรัพย์สี่พันโดยเร็วเถิดพราหมณ์

    วรรค..คำว่าพระมหาสัตว์นั้นหมายถึงสัตว์ที่มีคุณอันยิ่งใหญ่หรือพระโพธิสัตว์..พระมหาสัตว์ที่เกล้าฯเอ่ยถึงอยู่นี้.มีนามว่า..สุตโสม..ขอรับ


    ตั้งแต่พระโพธิสัตว์เสด็จไป ท่านโปริสาทก็มิได้ใส่ใจในการกลับมาเพราะเห็นว่าเป็นพระสหาย...และแล้วพระมหาสัตว์ก็กลับมายังความโสมนัส..ปิติใจ..แก่ท่านโปริสาทยิ่งนัก..ที่จะได้พลีกรรมต่อเทวดา..เมื่อมาถึงพระองค์ได้เชื้อเชิญให้ท่านโปริสาทรีบเคี้ยวตนกินเสีย...


    [​IMG]

    วรรค...ลำดับนั้นท่านโปริสาทรู้สึกตกใจ...ครุ่นคิดในใจว่า..อะไรหนอจึงทำให้พระมหาสัตว์อาจหาญ...หรืออาจเป็นเพราะสตารหาคาถา..ทำให้อาจหาญยิ่งคิดยิ่งอยากจะฟังจึงพระคาถา..เผื่อจะได้ไม่เกรงต่อความตายบ้าง จึงกล่าวคาถาว่า

    การกินของข้าพเจ้าที่มีหวังได้ ไม่หายไปไหนเสีย ทั้งจิตกาธารนี้ ก็ยังมีควันอยู่ มังสะที่ให้สุกบนถ่านที่หมดควัน ชื่อว่าให้สุกดี ข้าพเจ้าขอสดับคาถาชื่อว่าสตารหา เสียก่อน

    พระมหาสัตว์จึงตรัสข่มเพื่อให้ท่านโปริสาทได้ละอายว่า..

    ดูก่อนท่านโปริสาท ท่านเป็นคนประพฤติไม่ชอบธรรม ต้องจำจากแคว้น ก็เพราะเหตุแห่งท้อง ส่วนคาถาเหล่านี้ ย่อมกล่าวสรรเสริญธรรม ธรรมและอธรรมจะลงรอยกันได้ที่ไหน. คนที่ประพฤติไม่ชอบธรรม ทำกรรมที่ร้ายแรง มีฝ่ามือนองด้วยเลือดเป็นนิจ ย่อมหาสัจจะมิได้ ธรรมจักมีแต่ที่ไหน ท่านจะทำอะไรด้วยการสดับ.



    ท่านโปริสาทถูกพระมหาสัตว์ตรัสข่มขี่อย่างนี้ มองไม่เห็นอุบายที่จะโต้ตอบ เป็นอย่างอื่นได้ เมื่อจะให้พระมหาสัตว์รับบาปบ้าง จึงได้กล่าวคาถาว่า

    พระองค์พ้นจากมือของโปริสาทแล้ว ไปถึงพระราชมณเฑียรของตน ทรงอภิรมย์ด้วยกามคุณแล้ว ยังมาถึงมือของโปริสาทผู้เป็นศัตรูอีก พระองค์เป็นผู้ไม่ฉลาดในขัตติยธรรมเสียเลยนะพระราชา.

    [​IMG]

    พระมหาสัตว์ได้ทรงสดับดังนั้น ตรัสว่า ดูก่อนสหาย อันคนที่ฉลาดในขัตติยธรรม ควรเป็นเช่นตัวเรา นี้แหละ เพราะเรารู้จักขัตติยธรรม แต่มิได้ปฏิบัติอย่างที่ท่านกล่าว แล้วตรัสคาถาว่า

    ชนเหล่าใด เป็นผู้ฉลาดในขัตติยธรรม ชนเหล่านั้น ต้องตกนรกเสีย โดยมาก เพราะฉะนั้น เราจึงละขัตติยธรรม เป็นผู้รักษาความสัตย์กลับมาแล้ว ดูก่อนท่านโปริสาท ท่านจงบูชายัญ กินเราเสียเถิด.


    ท่านโปริสาทกล่าวว่า
    ปราสาทราชมณเฑียร แผ่นดิน โค และม้า สตรีที่น่าอภิรมย์ทั้งกาสิกพัสตร์ และแก่นจันทน์ พระองค์ยังได้ในพระนครนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์ทรงเห็นอานิสงส์อะไรด้วยความสัตย์.

    ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์ตรัสพระคาถาว่า
    รสเหล่าใดบรรดาที่มีอยู่ในแผ่นดิน ความสัตย์ย่อมดีกว่ารสเหล่านั้น เพราะสมณพราหมณ์ที่ตั้งอยู่ในความสัตย์ ย่อมข้ามฝั่งแห่งชาติและมรณะเสียได้.

    ต่อจากนั้นพระมหาสัตว์ได้กล่าวพระคาถาตามตัวอย่างที่เกล้าฯนำมาให้ดูล่วงหน้า...เชื้อเชิญ..ให้ท่านโปริสาท..รีบกินพระองค์เสีย..เพราะพระองค์ได้ทำกิจที่ควรทำเรียบร้อยแล้ว....

    ท่านโปริสาทได้ฟังแล้วรู้สึกตกใจกลัวคิดว่า พระเจ้าสุตโสมมหาราชนี้เป็นสัตบุรุษ พร้อมด้วยความรู้ แสดงธรรมอันไพเราะ ถ้าเราจะกินเธอเสีย แม้ศีรษะของเราก็จะต้องแตกออกเป็น ๗ เสี่ยง หรือจะถูกแผ่นดินสูบ จึงทูลว่า ข้าแต่พระสหายสุตโสมเอ๋ย พระองค์เป็นคนที่ข้าพเจ้าไม่ควรกิน แล้วกล่าวคาถาว่า

    บุรุษผู้รู้อยู่ จะพึงกินยาพิษ หรือจับอสรพิษที่มีฤทธิ์รุ่งโรจน์ มีเดชกล้า ได้หรือ บุคคลใดพึงกินคนที่กล่าวคำสัตย์ เช่นกับพระองค์ ศีรษะของบุคคลนั้น จะต้องแตกออกเป็น ๗ เสี่ยงแน่.

    ต่อจากนั้นท่านโปริสาทจึงอ้อนวอนขอฟังธรรม เมื่อจะทูลอ้อนวอนพระมหาสัตว์ จึงได้กล่าวคาถาว่า
    นรชนได้ฟังธรรม ย่อมรู้จักบุญและบาป ใจของข้าพเจ้าได้ฟังคาถา จะยินดีในธรรมได้บ้าง.



    ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ทรงดำริว่า บัดนี้ ท่านโปริสาทต้องการจะฟังธรรม เราจะแสดงดังนี้แล้ว ตรัสว่า ดูก่อนสหาย ถ้าเช่นนั้นท่านจงตั้งใจสดับให้ดี ครั้นเตือนท่านโปริสาทให้เงี่ยโสตสดับแล้ว ตรัสสรรเสริญพระคาถา..เมื่อเหล่าเทวดาได้ยินก็สาธุการเสียงโกลาหล และทรงแสดงธรรมแก่ท่านโปริสาท..คือตรัสพระคาถาอันจะถอนความเมาซึ่งมีราคะเป็นต้นให้สร่าง.. ซึ่งมีชื่อว่าสตารหาคาถา ของพระกัสสปทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

    วรรค...ก่อนทุกท่านสดับถ้อยคำ..อันเป็นอมตะธรรม..ขอให้ตั้งจิตสำรวมใจ....ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม

    [​IMG]

    ดูก่อนมหาราช การสมาคมกับสัตบุรุษคราวเดียวเท่านั้น การสมาคมนั้น ย่อมรักษาผู้สมาคมนั้น การสมาคมกับอสัตบุรุษแม้มากครั้ง ก็รักษาไม่ได้

    พึงคบกับสัตบุรุษ พึงทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษ เพราะรู้สัทธรรมของสัตบุรุษ ย่อมมีความเจริญ ไม่มีความเสื่อม.

    ราชรถที่เขาทำให้วิจิตรเป็นอย่างดี ยังคร่ำคร่าได้แล แม้สรีระก็เข้าถึงความชราได้เหมือนกัน ส่วนธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไม่เข้าถึงความชรา สัตบุรุษกับสัตบุรุษด้วยกันนั่นแลย่อมรู้กันได้.

    ฟ้าและแผ่นดินไกลกัน ฝั่งข้างโน้นของมหาสมุทร เขาก็กล่าวว่า ไกลกัน ดูก่อนพระราชา ธรรมของสัตบุรุษ และของอสัตบุรุษ ท่านก็กล่าวว่า ไกลกันยิ่งกว่านั้นอีก.


    ท่านโปริสาทได้ฟังก็ปลื้มใจเหมือนได้ฟังจากตรงหน้าพระพักตร์ของพระสัพพัญญูจึงตรัสกล่าวว่า

    ข้าแต่พระสหายผู้เป็นจอมประชาชน คาถาเหล่านี้มีประโยชน์ มีพยัญชนะดี พระองค์ตรัสไพเราะ ข้าพเจ้าได้สดับแล้วเพลิดเพลินปลื้มใจ ชื่นใจ อิ่มใจ ข้าพเจ้าขอถวายพระพร ๔ อย่างแด่พระองค์.

    วรรค...หมายความว่าท่าน...ท่านโปริสาท..ให้พระมหาสัตว์ขอพรได้ ๔ อย่างขอรับ
    ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ตรัสว่า ท่านจักให้พรอะไร เมื่อจะตรัสรุกรานท่านโปริสาท ได้ตรัสพระคาถาว่า

    ดูก่อนพระสหายผู้มีธรรมอันลามกพระองค์ไม่รู้สึกถึงความตายของพระองค์ ไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เป็น ประโยชน์และหาประโยชน์มิได้ ทั้งนรกและสวรรค์ เป็นผู้ติดอยู่ในรส ตั้งอยู่ในทุจริต จักให้พรอะไร. ข้าพเจ้าพึงบอกพระองค์ว่า จงให้พร แม้พระองค์ให้พรแล้ว จะกลับไม่ให้ก็ได้ ความทะเลาะวิวาทนี้อยู่ในอำนาจของพระองค์ ใครจะเข้ามาเป็นบัณฑิต วินิจฉัยชี้ขาดได้.


    ลำดับนั้น ท่านโปริสาท ดำริว่า ท่านสุตโสมนี้ไม่เชื่อเรา จึงกล่าวคาถาว่า

    คนเราให้พรใดแล้ว จะกลับไม่ให้ ไม่ควรให้พรนั้น ดูก่อนสหาย ขอให้พระองค์จงทรงมั่นพระทัยรับพรเถิด แม้ชีวิตของหม่อมฉันก็จะสละถวายได้.

    [​IMG]

    วรรค....ท่านผู้ชมที่เคารพ พระมหาสัตว์ทรงพระดำริว่า ท่านโปริสาทกล้าพูดหนัก เธอจักทำตามถ้อยคำของเรา เราจักรับพร แต่เราจักขอพรว่า ท่านอย่ากินเนื้อมนุษย์เป็นข้อแรก เธอจักลำบากเกินไป เราจักรับพร ๓ อย่างอื่นก่อน ภายหลังจึงรับพรข้อนี้ แล้วตรัสพระคาถาว่า

    พระอริยะกับพระอริยะ ย่อมมีศักดิ์ศรีเสมอกัน ผู้มีปัญญากับผู้มีปัญญา ย่อมมีศักดิ์ศรีเสมอกัน ข้าพเจ้าพึงเห็นท่านเป็นผู้หาโรคมิได้ตลอดร้อยปี นี้เป็นพรข้อที่หนึ่ง หม่อมฉันปรารถนา
    ส่วนท่านโปริสาท..เมื่อได้ฟังข้อแรก..ก็มีใจชื่นบาน กับถ้อยคำที่พระมหาสัตว์ตัดลวงให้ดีใจ..ในความห่วงใยแห่งพระสหาย...

    ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์จึงตรัสต่อไปว่า
    พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นกษัตริย์ ได้นามบัญญัติว่า มุทธาภิสิตเหล่าใด ในชมพูทวีปนี้ พระองค์อย่ากินพระเจ้าแผ่นดินเหล่านั้น นี่เป็นพรข้อที่สอง หม่อมฉันปรารถนา.

    วรรค..ชมต่อขอรับ...

    พระมหาสัตว์ตรัสคาถานี้ว่า
    กษัตริย์ ๑๐๑ พระองค์ที่ถูกพระองค์จับร้อยพระหัตถ์ไว้ มีพระพักตร์นองด้วยพระอัสสุชลกันแสงอยู่นั้น ขอพระองค์จงปล่อยให้กลับไปสู่แคว้นของตนๆ นี้เป็นพรข้อที่สาม หม่อมฉันปรารถนา.

    ทั้งสามข้อนั้นท่านโปริสาทได้ฟังก็..ถวายพระพร..มิให้ติดขัด...ฟังต่อขอรับ

    อปรภาคสมัย....เมื่อพระโพธิสัตว์จะทรงรับพรข้อที่สี่ จึงได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
    รัฐมณฑลของพระองค์เป็นช่อง เพราะนรชนเป็นอันมากหวาดเสียวเพราะภัย หนีเข้าที่ซ่อนเร้น ขอพระองค์จงเว้นจากเนื้อมนุษย์เสียเถิด นี้เป็นพรข้อที่สี่ หม่อมฉันปรารถนา.

    พอฟังการขอพรข้อที่สี่เท่านั้นแหละขอรับ..ท่านโปริสาทถึงกับประหารหัตถ์(ปรบมือขอรับ)..หัวเราะ.แล้วทูลว่านั้นเท่ากับชีวิตของหม่อมฉัน..ขอพระองค์จงขอพรข้ออื่นเถิด....

    เมื่อเห็นว่าท่านโปริสาท..ทรงไม่ยอม..จึงตรัสพระคาถา..ว่า
    ดูก่อนพระองค์ผู้เป็นจอมประชาชน คนเช่นพระองค์มัวคิดอยู่ว่า นี้เป็นที่รักของเรา ทำตนให้เหินห่างจากความดี จะไม่ได้ประสบสิ่งที่รักทั้งหลาย ตนแลประเสริฐที่สุด ประเสริฐอย่างยอดเยี่ยมทีเดียว เพราะคนมีตนอบรมแล้ว ภายหลังจะพึงได้สิ่งที่รักทั้งหลาย.


    ท่านโปริสาท...เมื่อได้สดับ..แล้วรู้สึกหวาดหวั่น..อับจนปัญญา..ที่จะหาเหตุผล..ยกมาอธิบายได้.จะขัดการให้พรคงจะไม่สำเร็จ.จึงได้แต่..อัสสุชลธารา..เจิ่งนองร้องให้..เพื่อขอชีวิต..

    ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์ตรัสว่า
    คนใดมัวรักษาของรักอยู่ว่า นี่เป็นที่รักของเรา ทำตนให้เหินห่างจากความดีแล้ว เสพของรักทั้งหลายอยู่ เหมือนนักเลงดื่มสุราที่เจือด้วยยาพิษฉะนั้น คนนั้นจะได้ทุกข์ในเบื้องหน้า เพราะความประพฤตินั่นแล.
    ส่วนบุคคลใดในโลกนี้ รู้สึกตัวละของรักได้ เสพอริยธรรม แม้ด้วยความฝืนใจ เหมือนคนเป็นไข้ดื่มโอสถ ฉะนั้น บุคคลนั้นจะได้สุขในเบื้องหน้า เพราะความประพฤตินั่นแล.

    และท้ายสุดพระมหาสัตว์ยังตรัสอีกว่า..ท่านไม่รักษาคำสัตย์บอกว่าจะให้พร ๔ ข้อแล้วไม่ให้..และยกตนเองถูกยกให้เป็นอาจารย์..ตอนศึกษาอยู่ตักกศิลานคร....และได้กล่าวว่าท่านไม่ควรจะทำลายผู้มีคุณ...ท่านโปริสาท..ลุกขึ้นถวายบังคมพระบาท..ถวายพรข้อนั้น.ต่อจากนั้นได้ทำการแก้มัดพระราชาทั้งหนึ่งร้อย..ที่ถูกตอกตรึงอยู่ใต้ต้นไทร..ให้ได้รับอิสระ..และพระมหาสัตว์ได้ชักชวนท่านโปริสาท..เสด็จนิวัติพระนครกรุงพาราณสี..(เสด็จกลับ)......แล้วไปเข้าเจรจากับเสนาบดีและพระราชา(ผู้เป็นโอรสของท่านโปริสาท)...ให้ระลึกถึงคุณ..ของพระราชา..เมื่อพระโอรสและชาวเมือง..ได้สดับถ้อยคำที่กินใจ..อุปมาอุปไมย..เกินวิสัยที่ผู้ใดจะโต้แย้งเช่นนั้นจึงยอมรับ..ให้เข้ากลับครอบครองราชสมบัติตามเดิมขอรับ.

    [​IMG]

    อมตะธรรมอันทรงคุณค่าควรต่อการจดจำที่พระมหาสัตว์ตรัสสอน.ชาวเมืองและพระโอรสให้ระลึกถึงคุณท่านโปริสาท.คือ อย่างไรโปรดตั้งใจจดจำให้ดีๆ...ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม

    พระราชาที่เอาชนะคนซึ่งไม่ควรชนะ ไม่ชื่อว่าเป็นพระราชา เพื่อนที่เอาชนะเพื่อน ไม่ชื่อว่าเป็นเพื่อน ภรรยาที่ไม่กลัวเกรงสามี ไม่ชื่อว่าเป็นภรรยา บุตรที่ไม่เลี้ยงมารดาบิดาผู้แก่แล้ว ไม่ชื่อว่าเป็นบุตร.


    ที่ประชุมไม่มีสัตบุรุษ ไม่ชื่อว่าเป็นสภา คนพูดไม่เป็นธรรม ไม่ชื่อว่าเป็นสัตบุรุษ คนที่ละราคะ โทสะ โมหะ พูดเป็นธรรมนั่นแล ชื่อว่าเป็นสัตบุรุษ.


    บัณฑิตอยู่ปะปนกับพวกคนพาล เมื่อไม่พูด ก็รู้ไม่ได้ว่าเป็นบัณฑิต แม้พูดก็ต้องแสดงอมตธรรม จึงจะรู้ได้ว่าเป็นบัณฑิต.

    พึงกล่าวธรรมให้กระจ่าง พึงยกธงของพวกฤาษี พวกฤาษีมีสุภาษิตเป็นธง
    ธรรมแลเป็นธงของพวกฤาษี.

    [เกล้าฯต้องกราบขออภัย.ต่อทุกท่านที่ใช้อุบายธรรมชักชวนคนดูหนัง..อันที่จริง..เกล้าฯต้องการนำเสนอธรรมอันวิจิตร..เชิดชูพระพุทธองค์ครั้งสั่งสมสัจจบารมีไม่เกรงกลัวต่อความตาย....เอาพระยามัจจุราชติดหน้าผาก..เดินเข้าหาแดนประหาร.....ท่านโปริสาทนั้น...ในสมัยพระพุทธเจ้าของเรา..ท่านได้สั่งสมบารมี..เกิดใหม่..แล้วหยั่งจิตหยั่งใจ..ลงสู่อมตะธรรม ..ชื่อของท่านคือท่าน..องคุลีมาล..
    [​IMG]

    พระอรหันต์ขีณาสพ..ขอรับ(ข้อมูลในการบรรยายธรรมครั้งนี้..จาก.....๘๐พระอรหันต์...ที่เผยแพร่โดย..ธรรมสภา...ห้องหนังสือ.เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา...และเคยฟังคำบรรยาย..เรื่องราวครั้งแรกจากศูนย์เผยแพร่ธรรมมะของวัดธรรมกาย...จึงทำให้จำได้ชัดว่าควรจะย่อและสกัด...คัดสรร...เรื่องราวส่วนไหนมานำเสนอ...และที่สำคัญ..ศึกษา..และขอความช่วยเหลือจาก....84000....
    เกล้าฯ...ขอกราบขอบพระคุณ...ทุกแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้เผยแพร่ธรรม...ขอรับ
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
    หมายเหตุ:มีบางคำพูดบางทีบางท่าน..อาจไม่เข้าใจ..ขอขยาย..ตาม..โบราณาจารย์..หน่อยขอรับ..คำว่าอุโฆษณาการ..หมายถึงคำกล่าวสรรเสริญ....อิสรชนคือชนผู้เป็นใหญ่.....นฤโฆษนาการคือกล่าวประกาศ.....นฤโฆษศัพท์คือส่งเสียงดังๆ....ตรีโลกธาตุก็หมายถึงสามโลกขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2010
  6. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนากับญาติโยมทุกท่าน

    ตามที่อาตมาได้เดินทางไปร่วมเปิดเรือนธรรมบ้านคุณโยมศักดิ์ศร สุวรรณ ที่จ.หนองคาย อาตมาขอเสนอว่ายังไม่ควร งดรับบริจาคหนังสือธรรมะ จากผู้ที่มีใจศรัทธรา ควรเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนได้สร้างเรือนธรรมต่อไป ฝากบอกไปถึงโยมพ่อคำผิวว่า ถ้ามีหนังสือส่งไปมากให้นำไปมอบให้วัดในอำเภอบึงกาฬต่อไป จะได้สร้างปัญญาทั่วทั่งอำเภอต่อไป ขอเจริญพร พระจิรวัฒน์ ญาณนวโร ถ้ามีโอกาสช่วงออกพรรษา อาตมาจะเดินทางไปเยี่ยมเรือนธรรมของคุณโยมศักดิ์ศร อีกสักครั่งเเละจะนำ เสื้อผ้าสมุดปากกาดินสอไปเเจกเด็กๆเเละคนเฒ่าคนเเก่ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2010
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ใช่ครับน่าจะรับไปเรื่อยๆ หากว่ามีมากก็บริจาคกระจายต่อไปยังที่อื่นๆเขาต้องการอีก เพราะธรรมหาได้จำกัดที่สิ่งใดเลยครับ มองให้เห็นประโยชน์ในหลายแง่ของการกระทำสิ่งนี้ อย่าหยุดทำเลยครับ ถ้ามีโอกาสได้ทำ อยากขอให้ทำต่อไปอย่างที่บอกครับ มันมีประโยชน์และอานิสงค์มาก มากกว่าที่ใครหลายคนคิด และธรรมจะกระจายไปสู่ทุกที่ทุกสถานตราบเท่าที่ธรรมนั้นจะไปได้ครับ
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  8. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ทั้งสิบนิ้ว..ขอน้อมจิต..น้อมใจ..สักการ..คารวะ..อภิวันท์

    [​IMG]
    เกล้าฯขอน้อมจิต..น้อมใจ..น้อมรับฟัง..ท่านอาจารย์ ญาณวโร และท่าน kengkenny..ตลอดถึงทุกท่าน..ด้วยจิตคารวะยิ่ง....และจะน้อมนำไปปฏิบัติ...เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์...ประดา...ประเสริฐ.ประสพ...ประสุข..ประสาน....ประกอบ...
    เอนก...อนึ่ง..ประการ...ประทัง...ประเทศ....ประเทือง


    เกล้าฯขอกราบเรียน..ต่อท่านอาจารย์ญาณวโร...และท่าน.kengkenny ตลอดท่านผู้ใจบุญทุกท่าน...ว่าโดยเจตนารมณ์ของการก่อตั้งเรือนธรรมนั้น..ก็เพื่อที่จะกระจัดกระจายธรรม..ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...ขอรับ...แต่เหตุผลที่ประกาศงดนั้น...ก็เพียงแต่คิดว่าจะงดในสถานที่พลังจิตแห่งนี้....เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน..ญาติธรรมจนเกินควร........แต่เมื่อท่านอาจารย์และท่านทั้งหลาย..เห็นว่าควรเปิดรับบริจาคเรื่อยๆ..เกล้าฯก็น้อมนำทุกถ้อยคำขึ้นใส่หัว.....เพื่องานเผยแพร่ธรรม..จะได้ไม่หยุดชงัก.....ขอรับ
    [​IMG]

    เรือนธรรมมีเป้าหมายกระจายธรรมอันทรงคุณค่า...ของท่านผู้ใจบุญฝากส่งมา..สู่สถานศึกษายุวชนตัวน้อยๆ...ตลอดถึงทุกท้องถิ่นเท่าที่จะมี..จะเป็น...ไปได้.... แต่ในความเป็นจริงเกล้าฯได้เอ่ยออกไปแล้วว่าจะไม่ขอ ....เกล้าฯก็มิอาจขอกับทุกท่านได้ขอรับ...เกล้าฯคิดมานานแล้วขอรับ.....หากแม้นทุกท่านจะเมตตา...ร่วมสร้างมหาธรรมทานอันยิ่งใหญ่....เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..ยังรอคอย..ขอรับ

    ล่าสุด..คุณพ่อคำผิว สุวรรณ์

    แจ้งกล่าวเล่า..ให้รับทราบว่า...หนังสือที่จะนำไปจัดเป็นห้องหนังสือธรรม..ขนาดมินิห้องสมุด....ในสามโรงเรียนคือโรงเรียนบ้านปงคอม..... โรงเรียนบ้านหนองตอ...
    .และโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านนาแวงขอรับ...ตาม.ที่แจ้งไว้ได้บรรจุใส่ลังเรียบร้อยแล้ว..ขอรับ..รอเด็กเปิดเทอมก่อน..ขอรับ...คุณพ่อท่านจะนำไปมอบ...

    อนึ่งในการสร้างชั้นวางหนังสือ..ตู้ที่สองได้ติดต่อให้ช่าง...มาดำเนินการแล้วขอรับ


    ล่าสุดได้มีมหาอุบาสิกาผู้ใจบุญ..เมตตาจิตฝากมาร่วมบุญคือ[​IMG]พนักงาน..บริษัท..โนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์ค [​IMG]188/119 หมู่บ้านใหม่...หมู่ 3 ถ.เทพารักษ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ




    ท่านที่สองเป็นมหาอุบาสิกาผู้ใจบุญนาม [​IMG]คุณ พิมพ์ภัทรา รุ่งสุข [​IMG]100/4 ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    [​IMG]


    [​IMG][​IMG]
    มหาแห่งธรรมทาน..ของทุกท่านเปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา..จะเท่าใด..ไม่มีคำว่าน้อย..ขอรับ


    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา...ขอกราบพระคุณทุกภาพ...ทุกแหล่งที่มา..ที่ใช้ในการเผยแพร่ธรรม..ขอรับ
    คลิ๊กๆ

    http://palungjit.org/forums/พระศาสดาสอนจิตตหัตถ์-[.4/B]231632.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2010
  9. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    น้อมอนุโมทนากับทุกท่าน น่าติตตามอ่านมากค่ะ เหมือนอ่านหนังสือ เหมือนเป็นกวีเขียนหนังสือเลยนะคะพี่ปฐมญาณ
     
  10. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ขออนุโมทนาประกาศ...ให้ตรีโลกธาตุ...กัมปนาท..กัมปนาการ

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา...ประจำนคร..นาคาพิภพ..หนองคาย
    ขออนุโมทนาประกาศ...กับมหาอุบาสก...เมือง..บั้งไฟล้าน..ถิ่นยโสธร
    นามกร..ของท่านมหาอุบาสกผู้ใจบุญท่านนี้มีสมมุตินาม...
    ตามความเป็นจริงว่า.....

    ท่าน[​IMG] ธนัช เชื้อศุภโรบล.[​IMG]

    .ขออนุญาติ..บอกสถานที่ห้องแห่งหน่อยขอรับ
    บ้านเลขที่ 15 ซ.เทศบาลสี่
    เขตเทศบาลสี่
    อ.เมือง..จังหวัดยโสธร....ท่านส่งมาครั้งที่4...ขอรับ...

    เนื่องจากเกล้าฯมิได้เขียน..ธรรมบรรณาการ..เทศนาโวหาร..แต่อย่างใด
    จึงขอกล่าวถึงสถานที่อยู่...เพื่อเชิดชูบูชา..ผู้ร่วมบุญ.ขอรับ

    วรรค..ยโสธร.เมืองบั้งไฟโก้...แตงโมหวาน...หมอนขวานผ้าขิด..แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ(คำขวัญประจำจังหวัด)

    การจุดบั้งไฟ..นั้นมีมาแต่ครั้งปู่สังกะสา..ย่าสังกะสีขอรับ..คือโบร่ำโบราณสุดๆ....การจุดในแต่ละปี..มีคติว่า..จุดเพื่อขอฝน
    จากองค์ท่านพยาแถน....ผู้เป็นใหญ่...ในแดนเทวดา..สักกสเทวภิภพ.(พระอินทร์.ขอรับ)

    .แต่ทุกวันนี้..ความเชื่อดังกล่าว..อาจลางเลือน.ด้วยวิทยาการทางวิทยาศาสตร์..ขอรับ...

    แต่ชาวอีสานก็ยังรักในขนบธรรมเนียม...ประเพณี..ของปู่ย่า..ตายาย..

    บั้งไฟที่ใช้จุดที่ขึ้นชื่อก็มี..บั้งไฟหมื่น...บั้งไฟแสน..บั้งไฟล้าน...บั้งที่ใช้..จะทำมาจาก..ลำไม้ไผ่(ดั้งเดิม)..แต่โลกได้วิวัฒนาการ
    ..สมัยใหม่จึงมีบั้งที่ทำจากท่อเหล็ก..เรียกเลาเหล็ก..ทำมาจากท่อปะปาพลาสติกเรียกเลาพลาสลอน..ขอรับ

    นอกนั้น..ก็เป็นลูกบั้งไฟ...ลูกบั้งก็ทำได้หมดขอรับ..อะไรที่จะพอทำได้..ฝาน้ำปลา.ขวดโคลิดอน.
    ฝาเครื่องดื่มชูกำลัง...นอกจากนี้ยังมีอีกมากแล้วแต่ใครจะประยุกต์ขอรับ...อนึ่ง..ถ้าบั้งไฟชนิดไหนไม่มีหาง..เขาเรียกบั้งตะไล..ขอรับ

    งานบุญบั้งไฟคือความภาคภูมิใจของชาวอีสาน..เป็นมูลมังหรือมรดกอีสาน..นิยมจัดทำกันในถิ่นนี้.และจัดได้ยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งคือชาวเมืองยศ.สวน.พระยาแถน..ยโสธร..ขอรับ.ยิ่งใหญ่ระดับโลก..ถ้าใครใคร่อยากไปทัศนาจร..พักผ่อนทัศนาการ..หาความสุขสนุกสำราญ..
    ..ก้อ..อาทิตย์ที่สอง..ของเดือน..พฤษภาคม..ของทุกปี
    เกล้าฯขอรับรองว่า...ทุกท่านจะม่วน..สนุกหลาย...ขอรับ

    (แต่อย่าไปม่วนใกล้ที่จุดบั้งไฟเน้อ..อันตรายแฮงๆ..ให้อยู่ห่างๆเด้อ!)

    ต่อไปเป็นภาพจากสำนักงานการท่องเที่ยว...จังหวัดอุบลราชธานี..เผยแพร่ภาพงานที่ยโสธร..ชักชวนให้คนไปเที่ยวขอรับ


    [​IMG][​IMG]
    อันนี้...ขบวนแห่..ขอรับ .....................................................................อันนี้ขบวนหาบ(แห่ขอรับ)
    [​IMG][​IMG]
    อันนี้บั้งไฟกำลังทะยานออกจาก...ฐานจุด..ชนวน .......................อันนี้คำว่าซุมภาษาท้องถิ่นแปลว่าพวก.ขอรับ....(แห่ขอรับ)




    [​IMG][​IMG]
    ภาพการประดับ..ประกวดขวนแห่บั้งไฟ...ขอรับ.........................ดังไกลระดับโลกชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจ..ขอรับ
    [​IMG]
    ภาพนี้..ได้อัญเชิญมาจาก..ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสานจุฬาลงกรณ์.....
    โพสท์โดย..ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์..ต้องกราบขอบพระคุณด้วยขอรับ..ท่านผู้ไร้วรยุทธ์

    วรรค...งานบุญบั้งไฟยโสธร....คือหนึ่งในความภาคภูมิใจ..ในวัฒนธรรม..ของชาวอีสานทั่วภูมิภาค..ขอรับ

    และอีกท่านหนึ่งเป็นมหาอุบาสิกาชาวเมืองฟ้า..เมืองอมร..กรุงเทพมหานคร..ขอรับท่าน
    ท่านผู้ใจบุญท่านนั้นคือ...
    ท่าน[​IMG] เพ็ญนิตย์ วงเกีรติทิพย์[​IMG]
    บ้านเลขที่ 18/85 ซ.พระรามเก้า 43 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง...(สำหรับชื่อ.ของท่านหากผิดประการใดต้องกราบ..ขออภัย..ด้วยขอรับ..ท่านสามารถแจ้งให้ถูกต้องที่เบอร์
    085-760_4175..คุณพ่อคำผิว..ขอรับ)

    วรรค...สวนหลวง ร.๙ จะมีงานช่วงปลายเดือนพฤษจิกายน
    ถึงต้นเดือนธันวาคม..ขอรับ..ช่วงนี้จะมีการจัดงาน..และจะมี.ดอกไม้หลายหลากพรรณ..บานสะพรั่ง.งดงามตระการตา.
    น่าไป..เที่ยวมากขอรับ



    [​IMG]
    ภาพนี้โพสท์..โดยคุณจุ๊.จาก www.eZyTrip.comหลานใครน๊า..ถ้าไม่ใช่หลานท่านเจ้าของภาพ..ขอกราบขอบพระคุณด้วย..ขอรับ
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    เกล้าฯต้องขอกราบ..ขอบพระคุณทุกภาพทุกแหล่งที่มา..รวมทั้งผู้ให้การช่วยเหลือ...ในการเผยแพร่ธรรม..ทุกท่านขอรับ..
    มีท่าน.และท่าน..รวมทั้งท่าน..และก็ท่าน......ตลอดถึงท่าน.....ตามที่เอ่ยนามมานั้น...ขอกราบพระคุณด้วยขอรับ....

    อนึ่ง..ท่านที่ส่งหนังสือมา...โปรดพิจารณาและวงเล็บนิดหนึ่งด้วยขอรับว่า...บริจาคเพื่อการใด
    ๑.บริจาคเพื่อแจกแก่มหาชนหมู่มาก..
    ๒.บริจาคเพื่อนำไปสร้างห้องหนังสือ..ธรรมมะให้แก่โรงเรียน..ในท้องถิ่นกันดาร
    ๓.บริจาค..เพื่อประชาชนที่มาหยิบยืม..ที่ห้องหนังสือเรือนธรรม..แสงทางแห่งปัญญา
    ๔.ถวายวัด...ในท้องถิ่นกันดาร

    หากท่านไม่ระบุมา..ทางเรือนธรรมก็จะพิจารณา..ตามที่เห็นว่าจะสมควรมากน้อยเพียงไร..ขอรับ..

    เกล้าฯขอกราบเรียนต่อผู้ร่วมบุญด้วยคำสัตย์จริงว่า...สถานที่..ของเรือนธรรมตั้งอยู่นั้น(ต.นาสวรรค์)..

    วรรค....ถือว่าเจริญพอสมควรตามประสาชนบท..ฟังต่อ..ขอรับ
    เนื่องจากเป็นสถานที่มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่นหลายพันหลังคาเรือน...มีโรงเรียนมัธยม..มีตลาดตอนเย็น(แบบฉบับบ้านป่า)
    .
    แต่ถ้าหากห่างจากเรือนธรรมออกไป...สักสี่ห้ากิโลแล้ว...หมู่บ้านเหล่านั้นล้วนแต่เป็นบ้านป่า..อยู่ในป่าในดง..ไปมาลำบากไม่ค่อยมีรถโดยสาร.เป็นถิ่นกันดาร..ยากจน.ขอรับ....

    ด้วยเหตุประการฉะนี้แหละ..ขอรับ...การหาเห็ด..จึงหาง่ายกว่าหาพระธรรม.

    วรรค....อีกประการหนึ่งสถานศึกษานั้น..เป็นแหล่งปลูก...เพาะ.ว่านกล้า
    .และเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ....ทางโรงเรียนถิ่นเกล้าฯนี้..เขานิยมให้นักเรียนไปรักษาศีลอุโบสถ..ฟังธรรม..ช่วงเข้าพรรษา
    เกล้าฯเห็นความตั้งใจ..ของครูอาจารย์...ผู้เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์...จึงอยากส่งเสริม..เท่าที่จะพอจะมีจะเป็น...ขอรับ

    วรรค..เกล้าฯขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าใจเจตนา....และพยายามช่วยเหลือ...ด้วยนาๆ ประการ

    ..การเผยแพร่ธรรมนั้น..ยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ..ตราบเท่าที่มีแรงแห่งศรัทธา..ของทุกท่านขอรับ
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
    ..มหาแห่งธรรมทาน..ของทุกท่านนั้น..เปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา.

    .จะเท่าไรไม่มีคำว่าน้อย

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา.....ขออนุญาติ..ปุจฉา...ปลาอะไรมีสี่ขา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2010
  11. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    วันที่12มิถุนายน 2553 จะเดินทางไปทอดผ้าป่า ที่วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น เพื่อสร้างเมรุใหม่ ของเก่าชำรุดเเล้ว ใครอยากจะร่วมเป็นเจ้าตามกำลังทรัพย์ ก็ขอเชิญเเละบอกบุญ
    ผ่านในที่นี้ด้วย รบกวนถามผ่านคุณ ปฐมฌาณว่า รูปที่ถ่ายเมรุเก่าที่วัดป่าอยู่ทีโยมเก่งหรือเปล่า ถ้าอยู่ช่วยลงให้ด้วย ขออนุโมทนาบุญ พระจิรวัฒน์ ญารนวโร
     
  12. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    [​IMG]
    [​IMG]สาธุชนทั้งหลายโปรดพิจารณาร่วมบุญ...สร้างเมรุร่วมกับท่านญาณวโร..ตามกำลังศรัทธา..ขอรับ....
    โดยเดินทางมาบริจาคที่วัดต้นไทรย์ อ่อนนุช29 สวนหลวง กรุงเทพ หรือโทร086_01521_30
    จากการสอบถาม.องค์ท่านอาจารย์วันนี้...จึงทราบว่า..ที่ต้องสร้างใหม่เพราะประตูเหล็ก..ตามสภาพที่ทุกท่านเห็นนั้นได้พังทะลายลง.เนื่องจากปูนแตกร้าวไปทั่ว.ไม่สามารถปิดเปิด..ได้..เวลาเผา..เตาจึงไม่ร้อน...ขอรับ..ขอให้ผู้ผ่านมาพบเห็นได้โปรดพิจารณา....ด้วยขอรับ

    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา.....และกราบขอบพระคุณทุกท่าน..ที่ส่งหนังสือมาร่วมบุญขอรับ....

    ปลาอะไรมีสี่ขา..เมื่อปุจฉา....แล้วก็ขอ..........วิสัชนาว่า....ปลาแดกอึ่งหรือปลาร้าอึ่งอ่าง..ขอรับท่าน..อาหารพื้นบ้านทางภาคอีสาน(.บางพื้นที่....ขอย้ำว่าบางพื้นที่ขอรับ)


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ของพวกเราท่านหยั่งมหาสติปัฏฐานสูตร..ลงเป็นครั้งแรก..ที่แคว้นกุรุ...(กุรุรัฐ)....เพื่อยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่มหาชนโดยตรง.ขอรับ.เนื่องจากบ้านเมืองถิ่นนั้นอุดมสมบูรณ์และชาวเมืองใฝ่ธรรม.และครั้งนั้นเป็นที่นิยม..กันทั้งเมือง..ถึงขนาดว่า.....เวลาชาวเมืองเจอกันต้องไถ่ถามกันว่า..วันนี้เธอเจริญ..พระกัมมัฏฐาน..หมดไหน..?.คนที่ได้เจริญสติเป็นบุคคลที่น่านิยม..คบหาในสมัยนั้น...แม้แต่ในสมัยนี้ก็ยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หวังความหลุดพ้น.จากสังสารทุกข์..โอฆสงสาร(เปรียบการเวียนว่ายตายเกิดดั่งห้วงน้ำ)..เพื่อเป็นการส่งเสริม..ในข้อธรรมของพระสุคตเจ้า

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..ขอเสนอมหานิทาน...มหาสติปัฏฐานสูตร

    กาลครั้งพุทธุปาทกาล...คือกาลที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก..มีนายละครท่านหนึ่งได้เร่ร่อน...แสดงละครไปทั่วหัวระแหงเมืองน้อยใหญ่..ขอรับ

    อยู่มาวันหนึ่งได้ลืมนกแขกเต้า..ซึ่งใช้สำหรับแสดงไว้ที่สำนักนางภิกษุณี....เหล่านางภิกษุณี...มาเห็นก็เกิด..ความเมตตา..รักใคร่
    นำไปเลี้ยง......และตั้งชื่อให้ใหม่อย่างไพเราะว่าพุทธรักขิตะ...แปลว่าพระพุทธเจ้ารักษา...

    ลำดับนั้นเหล่านางภิกษุณีก็พิจารณาว่า....ในสำนักของภิกษุณีนี้นั้น...ล้วนมีแต่.....ผู้ปฏิบัติธรรม...เจริญพระกัมมัฏฐาน....
    เจริญสติ...ผู้อยู่อย่างโมฆะมิมีเลย....ก็เลยฝึกสอนให้เจ้าพุทธรักขิตะเจริญพระกัมมัฏฐาน...กายานุปัสสนา...คือบริกรรมคาถาว่า...กระดูก....กระดูก....กระดูก...และกระดูก...

    .วรรค..เพ็ญนิตย์ วงเกีรติทิพย์
    เจ้าพุทธรักขิตะก็ชอบใจในองค์แห่งคำภาวนา...ประมาณว่าถูกจริต...ชนิดจะไปไหนมาไหน..ก็พูดแต่คำว่ากระดูก...กระดูก...และกระดูก
    อยู่มาวันหนึ่ง....ขณะที่เหล่านางภิกษุณี...กำลังปัดกวาดลานเสนาสนะอยู่นั้น...ได้ปรากฎพญาเหยี่ยว..บินเฉี่ยวมาโฉบเจ้าพุทธรักขิตะน้อย..ลอยลิ่วไป.....ในกรงเล็บแห่งความตาย

    เหล่านางภิกษุณีเมื่อได้เห็นก็ตกใจ.....ใช้ก้อนดิน..และไม้ขว้างตาม...เดชะบุญกุศลเก่ายังมี....พญาเหยี่ยวแตกตื่น...กับภัยที่เกิด..ก็เลยปล่อยวางชีวิตอันน้อยนิด..ให้เป็นอิสระ...เมื่อเจ้าพุทธรักขิตะปลอดภัย..

    นางภิกษุณีก็เลยเข้าไปอุ้มและถามเจ้าพุทธรักขิตะว่า....ตอนที่พญาเหยี่ยว..นำพาเจ้าไปนั้น...เจ้าพิจารณากัมมัฏฐานว่าอย่างไรหรือ?
    เจ้าพุทธรักขิตะ...ตอบว่า...กองกระดูกใหญ่..กำลังนำพากองกระดูกเล็กไป..เจ้านกน้อยกลอยใจตอบไปเช่นนั้น.ขอรับ

    เมื่อได้ทราบคำตอบเหล่านางภิกษุณีก็รู้สึกพึงพอใจ...ในการเจริญสติของเจ้า..พุทธรักขิตะยิ่งนัก.
    ..แม้จะไม่ได้บรรลุธรรมเพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน..แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าขณะที่ความตายเดินทางมาถึง....เจ้าพุทธรักขิตะ
    ก็มิได้ตกใจ..ร้องขอชีวิต..หรือแตกตื่นแต่อย่างใด....เนื่องจากได้พิจารณากัมมัฏฐานอยู่มิได้ว่างเว้น


    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....ขนาดนกยังเจริญสติ...ถ้าหากใครยังไม่เจริญสติ..ก็ต้องอายนก...

    (ข้อคิดของนิทานเรื่องนี้กล่าวโดยอาจารย์สอนวิปัสสนาพระกัมมัฏฐานของเกล้าฯเองขอรับ..

    ท่าน..อาจารย์มหาปัญญา...แห่งสำนักปฏิบัติธรรม...เขาดินหนองแสง...ต.เขาวงกต.อ.แก่งหางแมว...จ.จันทรบุรี..ขอรับ)
    [​IMG]

    ขออนุญาติ...ปุจฉา......คาถามหาละรวย...ถ้าหากท่องแล้วยังไม่รวย...นั้นเนื่องจากสาเหตุอันใด..และถ้าจะรวยจะรวยตอนไหน?ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  13. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    โมทนาสาธุครับ
    เชิญทำบุญ
    http://palungjit.org/threads/เ�...153668.38/<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  14. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ได้รับแจ้งจากห้องหนังสือเรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..ประจำหนองคาย..ว่ามีมหาอุบาสิกาผู้ใจบุญส่งหนังสือมาร่วมเผยแพร่ธรรม...
    นามกรของท่านคือ....ท่านมหาอุบาสิกา [​IMG]พิกุล นาสา[​IMG]
    บ้านเลขที่ 562หมู่ 14 ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.สุรินทร์
    ......จะเป็นจังหวัดสุรินทร์จริงหรือไม่..คือปริศนา.ต้องอ่านให้จบนะขอรับ....
    ..มหาแห่งธรรมทาน..ของท่านนั้น..เปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา.จะเท่าใดไม่มีคำว่าน้อยขอรับ

    ขอความสุขสวัสดิ..พิพัฒน์มงคล..จงเป็นของท่าน...และขอกราบอนุโมทนาบุญ...ที่ท่านการุณ..ร่วมบุญเผยแพร่ธรรมขอรับ
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
    ขอเชิญชวนทุกท่าน..ไปเยี่ยม..เยือน...เมืองช้างขอรับ

    แดนอีสาน....ไม่มีที่ไหนในภูมิภาคนี้จะจัดงานประจำปี...ได้ยิ่งใหญ่...ระดับงานช้าง..ได้ดีเท่าเมืองสุรินทร์แน่ๆ
    แน่นอนขอรับ...สาเหตุ..ไม่มีช้าง..ให้จัด..อย่าว่าแต่ช้าง..เลยขอรับ...ควายยังไม่ค่อยจะมีเลยขอรับ..ตั้งแต่มีรถไถนา..

    ...สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่...ผ้าไหมงาม...ประคำสวย.ร่ำรวยประสาท...ผักกาดหวาน...ข้าวสารหอม..งามพร้อมวัฒนธรรม...(คำขวัญประจำจังหวัด..ขอรับ)
    <IMG onclick="if(this.width>=600) window.open('http://tnews.teenee.com/etc/img2/20105.jpg');" src="http://tnews.teenee.com/etc/img2/20105.jpg" width=600 onload="if(this.width>'600')this.width='600';" border=0>
    ชื่อภาพ....งานแสดงช้างและคชศึกษา?หมู่บ้านช้าง..(โปรดศึกษาเพิ่มเติม www.surin.go.th )

    การแสดงชุดนี้คือเหตุการณ์..มาจากประวัติศาสตร์....ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช..กระทำการยุทธหัตถี..กับพระมหาอุปราชา.แห่งกรุงหงสาวดี........ขอรับ

    ยิ่งใหญ่อลังการ...เกล้าฯเคยได้รับชมฝีมือการแสดงของชาวสุรินทร์เหมือนกันขอรับ....

    (ขอกราบขอบพระคุณท่าน...daddyeaw..ที่โพสไว้ใน..กิจกรรมโพสรูปและคำขวัญประจำจังหวัดแจกเดนครับ)
    (f) ข้อความข้างบนเขียนเมื่อวานนี้ขอรับ....แต่วันนี้..มีความจำเป็นอย่างยิ่ง..ที่จะต้องเขียนแก้....ขอรับ(f)
    ข้อความข้างบนนั้น...ต้องกราบขอประทานอภัย..ท่านผู้ร่วมบริจาค..ด้วยขอรับ..เกิดผิดพลาด..ประกาศ..ผิดจังหวัด..ต้องกราบขออภัย....เกล้าฯผิดเองขอรับ(เกล้าฯสมควรตาย..อยากร้องให้กับความผิดของตัวเอง....catt10;welcome2;aa20;aa20catt4.โปรดให้อภัยด้วยขอรับ)
    ...เมื่อประกาศผิด..ก็ไม่คิดลบนะขอรับ...ถ้อยคำที่เขียนไปนั้นเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย.เงินตราไม่รั่วไหลไปนอกประเทศ....แต่ขอประกาศใหม่...ขอรับว่าผู้ร่วมบุญของเรือนธรรม..เป็นชาวแดนปราสาทขอม...อันสุดแสนมหัศจรรย์....คือปราสาทหินพนมรุ้ง...ขอรับ.....และจังหวัดนี้มีคำขวัญประจำจังหวัดอันวิจิตร...อลังการอยู่ว่า...
    เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม

    ขอเฉลย..ขอรับว่าผู้ร่วมบุญ...เป็นชาว....จังหวัดบุรีรัมย์...ขอรับ
    แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง...ถ้าใครมาถึงบุรีรัมย์แล้ว...หากไม่ได้ไป...ก็ดูเหมือนว่ายังมาไม่ถึงคือปราสาทหินพนมรุ้งขอรับ
    สิ่งที่พิเศษ..และอัศจรรย์คือ...เมื่อถึงกาลเวลา..พระอาทิตย์อุทัย..จะสามารถส่องผ่านทะลุประตูทั้ง ๑๕ บานอย่างน่าอัจฉจรรย์ใจ

    [​IMG][​IMG]
    ชื่อภาพ....มหาชนแตกตื่น..ไปชื่นชมปราสาทหินพนมรุ้ง(โปรดสังเกตอักษรกลางภาพ)......นี้คือภาพปาฏิหารย์แห่งธรรมชาติ...
    ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมก็(mninho.wordpress.com)
    (แหล่งที่มา..www.moohin.com)

    ชาวบุรีรัมย์นั้น..มีจิตใจเป็นบุญเป็นกุศล..อย่างยิ่งสังเกต..มีการจัดงานชักชวนพุทธศาสนิกชน..ให้ร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนา...
    และพระที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจ..ของคนถิ่นนี้คือหลวงพ่อวัดหงษ์.ถื่อเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญ.ขอรับ
    [​IMG]
    ชื่อภาพ.น่าเสียดาย..งานบุญเสร็จสิ้นไปแล้ว...ถ้าท่านอยากไปนมัสการพระคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์...ของชาวบุรีรัมษ์...
    ก็ลองสังเกตป้ายเผื่อเป็น..ขุมทรัพย์ลายแทง..เส้นทางแห่งบุญ...ขอรับ

    ขอกราบพระคุณทุกแหล่งที่มาและทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือในการเผยแพร่ธรรม...หากกุศลใดจะเกิดมี..เกล้าฯก็ขอให้บุญกุศลนั้นสำเร็จแก่ทุกท่าน..ทุกคน..ทุกประการ..ขอรับ

    [​IMG]


    ขออนุญาติ...ปุจฉา......คาถามหาละรวย...ถ้าหากท่องแล้วยังไม่รวย...นั้นเนื่องจากสาเหตุอันใด..และถ้าจะรวยจะรวยตอนไหน?ขอรับ


    ท่านผู้ต้องการบูรณะปฏิสังขรณ์..ถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา...โปรดพิจาณาสร้างเมรุตามกำลังศรัทธาที่เบอร์
    086_01521_30(พระอาจารย์ญาณวโร)...ขอรับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  15. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    ขอเจริญพร ญาติโยมผู้ใจบุญทั้งหลาย ตามที่อาตมาได้บอกบุญผ่านทางเรือนธรรมของคุณปฐมฌาณ มีผู้ใจบุญโทรมาเเจ้งว่าจะโอนเงินร่วมสร้างเมรุด้วย500บาท (ลืมถามชื่อ)โดยอาตมาได้เเจ้งให้โอนไปที่ หลวงปู่ดี คัมภีโร(มณีวงค์)โดยตรงเลย ที่วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 45120 ขออนุโมทนาบุญ ขอเจริญพร
     
  16. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ความทุกข์..ของพระอินทร์ในแดนเทวดา...ที่ท่านไม่รู้

    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา...ขออนุโมทนา...กับทุกท่านผู้ร่วมบุญ...กับท่านพระอาจารย์...ญาณวโร...ด้วยขอรับ.....และหากท่านผู้ใดมีความประสงค์จะร่วมบุญกับ..ทางวัดป่าหนองผักแว่น...อ.เสรภูมิ..จ.ร้อยเอ็ดในการ..สร้างเมรุ...ก็โปรดติดต่อ086_01521_30
    (พระอาจารย์ญาณวโร)...ขอรับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]
    ขออนุญาตปุจฉาอีกครั้งหน่อยขอรับ......คาถามหาละรวย...ถ้าหากท่องแล้วยังไม่รวย...นั้นเนื่องจากสาเหตุอันใด..และถ้าจะรวยจะรวยตอนไหน?



    [​IMG]
    ชื่อภาพปริศนา..ขอถามว่า..ผู้ตั้งกระทู้ขอรับบริจาค....คนไหน..ขอรับ(magic strom)และในภาพมีใครบ้าง..ขอรับ(สถานที่วัดป่าหนองผักแว่น)

    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา...ขอเสนอ..ความทุกข์ในแดน..เทวดา

    หลายๆท่านต่างขวนขวายในการให้ทาน...รักษา...ศีล...เจริญภาวนา...เพื่อมีคติว่า..จะไปให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์.กล่าวคือพระนิพพาน....แต่บางทาน..ทำบ้างไม่ทำบ้าง....ด้วยคิดว่า..ยังไงก็คงได้เกิดเป็นเทวดา...เพราะคิดเอาเองว่า...ผลบุญที่ทำจะเกื้อหนุน...เมื่อได้เป็นเทวดาแล้วก็คงจะมีความสุขเสมอกัน....

    วรรค...ความคิดของท่านที่ว่าเมื่อเป็นเทวดาแล้วจะมีความสุขแน่ๆ..จริงหรือ?.....ลองมาดูความทุกข์...ของเทวดาบ้างขอรับ....ห้าสี่สามสองหนึ่งเริ่ม

    ครั้งหนึ่งที่กรุงราชคฤห์.....พระมหากัสสปเถระเจ้า..ได้ออกจากนิโรธสมาบัติ...และกำลังออกจาริกไปภิกขาจาร..ในรุ่งอรุณ....ขณะที่กำลังทำกิจของสงฆ์อยู่นั้น...ได้ปรากฏ..ชาวฟ้าชาวสวรรค์...ทิพยอัปสร..๕๐๐ นางมาดักรอใส่บาตร.....ซึ่งท้าวสักกะส่งมา...เพราะเห็นว่าเป็นบุญใหญ่......แต่หมู่เหล่าเทพก็ต้องผิดหวัง.....อย่างยิ่ง..ต้องล่าถอยกลับไปแจ้งแก่ท้าวสักกะจอมเทพ..เนื่องเพราะองค์ท่านพระมหาเถระเจ้า...ต้องการสงเคราะห์ในชนวณิพก...กระยาจก..ผู้เข็ญใจเท่านัน..ขอรับ

    วรรค..พักหายใจ..ธนัช เชื้อศุภโรบล.ฟังต่อขอรับ

    องค์ท่านพระเถระ..จาริกต่อ...จนลุล่วง.....มาถึง..บ้านหลังหนึ่งซึ่งเข็ญใจ....นายช่างทอหูก....และตอนนั้นฝ่ายภรรยา..กำลังกรอด้าย.....สภาพที่..ปรากฏแก่สายตาขององค์ท่านช่างเป็นภาพ...ที่สุดแสนอนาถ..เวทนาใจ...แก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก.....เพราะ..เพราะอะไรหรือขอรับ.....เพราะทั้งสองท่านอยู่กันตามลำพังสองตายาย...ในวัยที่ล่วงโรย......ฟันหัก...ผมหงอก..หลังค่อม.....

    องค์ท่านพระมหาเถระ...เห็นแล้วใคร่อยากสงเคราะห์ก็เลยไปหยุดอยู่ประตูเรือน..นายช่างหูก..ผู้ใจบุญและเข็ญใจ..แลเห็นพระเถระมาก็สุดแสนจะปลื้มปิติใจ..ร้องเรียกภรรยาตัวเองเสียงหลง..ให้รีบเร่งมาก่อกุศล....และแล้วสิ่งที่องค์ท่านพระมหาเถระไม่คาดคิด..ก็อุบัติขึ้น...เมื่ออาหาร..ของสองตายาย..ใส่ลงในบาตร...ปรากฎกลิ่นหอมฟุ้ง...จรุงใจ...ตลบอบอวนไปทั่ว...กรุงราชคฤห์.....อหารแต่ละอย่างก็ล้วนบรรจงแต่งอย่างปราณีต..ยิ่งนัก..

    วรรค.พิกุล นาสา

    ลำดับนั้น.พระกัสสปมหาเถรเจ้า...หยุดยืนพิจารณา..ใคร่ควญดูด้วยญาณทัสนะ..จึงรู้ว่า...คือองค์ท่าน...
    [​IMG]
    สักกสเทพ...ผู้เป็นใหญ่ในตาวติงสาสักกสเทวพิภพ(ดาวดึงส์)...และนางสุชาดาอสูรกัญญา..นฤเพศ..จำแลงร่าง..มาลวงทาน

    องค์ท่านพระมหากัสสปเถรเจ้า...ก็เลยไถ่ถาม...ว่าเหตุใดมหาบพิตรจึงมาทำเช่นนี้...ท้าวสักกะน้อมประคองอัญชลีกรตรัส..กล่าวว่า...ตัวเองนั้นเป็นคนเข็ญใจยิ่งนัก
    ..คือนับแต่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก...มีมหาเทพสามองค์ที่ได้ทำทานในพระจอมศาสดา....รุ่งเรืองไปด้วยรังสี....รัสมีรุ่งโรจ..โชติช่วง....กลบรัศมีของพระองค์เลยทีเดียว....ทำให้ท่านประสบกับสภาวะแห่งความทุกข์เป็นอย่างยิ่งต้องคอยหลีก..หลบหน้า...สามจอมเทพ....เมื่อแจ้งเหตุแห่งการมาแล้ว...
    ก็สงสัยในผลแห่งทาน....องค์พระเถระเจ้าตอบว่าเป็นกุศลแต่อย่าได้กระทำอย่างนี้อีก.......


    จากเรื่องราว..ของพระอินท์แปลงร่าง..มาลวงทานนี้...ทำให้ได้รับรู้ว่า..ในแดนทิพย์นั้นเขาอวดอ้างรัศมีแห่งบุญกันขอรับ........ซึ่งแตกต่างจากชาวเมืองมนุษย์..ที่มีทุกข์ในเรื่องหาอยู่หากิน..ทางสวรรค์นั้นล้วนแต่เป็นผู้สั่งสมบุญดีพร้อม..จึงมิได้กังวลในเรื่องปัญหาภาวะเศรษฐกิจ...ในแดนเทวดา..ขอรับ....แต่แม้จะได้เป็นเทวดาก็เป็นทุกข์นะขอรับ..
    ขึ้นชื่อว่ากามภพนี้เป็นทุกข์...ทั้งนั้นแหละขอรับ ...

    เรื่องนี้ให้คติอยู่ว่า..การสั่งสมบุญนั้น..แม้เราไม่ทำ..คนอื่นเขาก็ทำ...ขนาดพระอินทร์..จอมเทพแดนสวรรค์..ยังต้องปลอมตัว..เลยขอรับ...แสดงว่าการหาสถานที่ทำบุญในแดนทิพย์คงจะหายาก....เพราะส่วนใหญ่ไปเสวยอานิสงค์แห่งบุญกัน...

    เรื่องที่กล่าวมา..มิใช่นิทาน..แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ...ในสมัยพุทธการ..ขอรับ

    [​IMG]
    ขออนุญาตปุจฉาอีกครั้งหน่อยขอรับ......คาถามหาละรวย...ถ้าหากท่องแล้วยังไม่รวย...นั้นเนื่องจากสาเหตุอันใด..และถ้าจะรวยจะรวยตอนไหน?


    ขอวิสัชนาว่า..ถ้าท่องแล้วยังไม่รวยเพราะยังไม่ได้ละ..ถ้าหากจะรวยก็คงรวยตอนละ.ขอรับ..

    อันนี้เกล้าฯสดับมาว่า..องค์หลวงปู่ฝั่น..ท่านตอบไว้ในสายพระป่า..ว่า
    ถ้าใครอยากรวยให้ไปเรียน..คาถาละรวย..กับท่าน...จะรวยจะยากอะไรก็ให้ละ..เมื่อละเมื่อไหร่ก็รวยเท่านั้นเอง....

    วรรค..เกล้าฯขอเสริมนิดหนึ่งขอรับ..ว่าองค์ท่าน..กล่าวด้วยคำสัตย์จริง..ถ้าใครละมากๆก็มีแต่รวย..ยิ่งละสังโยชน์สิบได้แล้วก็ยิ่งรวยใหญ่.รวยแบบยั้งยืน..รวยเรื้อรัง..รวยถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน


    อนึ่ง..ท่านที่ส่งหนังสือมา...โปรดพิจารณาและวงเล็บนิดหนึ่งด้วยขอรับว่า...บริจาคเพื่อการใด
    ๑.บริจาคเพื่อแจกแก่มหาชนหมู่มาก..
    ๒.บริจาคเพื่อนำไปสร้างห้องหนังสือ..ธรรมมะให้แก่โรงเรียน..ในท้องถิ่นกันดาร
    ๓.บริจาค..เพื่อประชาชนที่มาหยิบยืม..ที่ห้องหนังสือเรือนธรรม..แสงทางแห่งปัญญา
    ๔.ถวายวัด...ในท้องถิ่นกันดาร

    หากท่านไม่ระบุมา..ทางเรือนธรรมก็จะพิจารณา..ตามที่เห็นว่าจะสมควรมากน้อยเพียงไร..ขอรับ..

    อนึ่ง..ในการส่งมอบหนังสือให้โรงเรียน..ตามที่กล่าวแจ้ง..ทางคณาจารย์ได้ติดต่อขอมา..ตามที่แจ้ง
    ซึ่งทางเรือนธรรมได้ส่งมอบไปแล้ว..คือโรงเรียนมัธยมตำบลนาสวรรค์..อันนี้ล่าสุดนะขอรับ(ไม่ได้แจ้งให้ทุกท่านทราบ)...
    ส่วนโรงเรียน..ตำรวจตะเวนชายแดนบ้านนาแวง บ้านป่งคอม(ดอนแก้ว) บ้านหนองตอ..สามแห่งนี้
    อยู่ไกล..ยังติดขัดเรื่องยานยนต์...ยานพาหนะสำหรับนำไปส่งมอบอยู่ขอรับ..หากส่งมอบแล้ว..ก็จะแจ้งให้รับทราบ
    อีกครั้งหนึ่งขอรับ.........และจะรีบส่งมอบให้เร็วไว..เพราะประกาศไปหลายวันแล้วขอรับ[​IMG]


    ทุกครั้งที่บริจาค..ได้เขียนข้างกล่องด้วยว่า..เกิดแต่ญาติธรรมทั้งหลาย...ขอให้ได้รับส่วนกุศลร่วมกัน

    เรือนธรรม..ก็ยังกระจายธรรมอยู่เรื่อยๆ...ตราบเท่ามีแรงแห่งศรัทธา.ของทุกท่านที่จะร่วมเผยแพร่ธรรม..ขอรับ
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ชื่อภาพมหาแห่งธรรมทาน..และวิทยาทาน....ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2010
  17. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    วินาทีบรรลุธรรม...ของพระผู้จำ..พระไตรปิฏก

    เกล้าฯ.... ได้รับ แจ้งจาก...ห้องหนังสือ เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา..ประ จำ หนองคาย..ว่ามีมหาอุบาสิกาผู้ ใจบุญส่งหนังสือมาร่วม เผย แพร่ธรรม...
    นามกรของท่านคือ....ท่านมหาอุบาสิกา พิกุล นาสา
    บ้าน เลขที่ 562หมู่ 14 ต. โคกกลาง อ.ลำ ปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
    เป็นการบริจาค...ครั้งที่สองของท่าน..ขอรับ....

    และ มหาอุบาสิกาผู้ ใจบุญอีกท่านหนึ่งนาม...ณัฐนันท์ หวังกลุ่มกลาง
    ๑๓/๖๒ หมู่บ้าน เสรี ซ.อ่อนนุช
    เขตประ เวช กทม.

    ส่วนอีกท่านหนึ่ง เป็นมหาอุบาสก.ผู้ ใจบุญ..มีนามกรว่า..
    เศรษฐภัทร์ อินวิริยะ วิทย์
    29/28 บ้านอลิชา 1 ถ.พุทธบูชา 36 เขตทุ่งครุ กรุง เทพมหานคร...

    หากบุญกุศล.. ในการ เผย แพร่ธรรมจะ มีมากน้อย เพียง ไร..ขอ ให้บุญนั้นสำ เร็จ แก่ผู้ร่วมบุญทุกประ การขอรับ

    มหา แห่งธรรมทานของทุกท่าน..นั้น เปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธาจะ เท่า ใด ไม่มีคำ ว่าน้อย..ขอรับ
    [​IMG]
    เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา

    เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา..ขอ เสนอ... เรื่องจริง เกี่ยวกับสาม เณร..กับพระ เถระ จอมปราชน์ เมธี.. เรื่องราว.จะ เป็น เช่น ใด...ห้าสี่สามสองหนึ่ง เริ่ม...

    ในสมัยพุทธกาล ได้มีพระ เถระ รูปหนึ่ง...ซึ่ง เป็นอาจารย์ สอนพระ ไตรปิฏก... แก่ภิกษุ ๕๐๐ อยู่ เป็น เนืองนิจ..ชนิดมิว่าง เว้น..คือ เส้นทาง แห่งผู้จุดดวงประ ทีป ในที่มืด.ของท่านขอรับ.. และ ในอดีตชาติท่านนั้นก็ เอกอุ...คือทรงจดจำ พระ ไตรปิฏก ได้ เป็นอันมาก... และ สั่งสอนธรรม แก่ศิษยานุศิษย์ ...มา แล้ว... ในพุทธุปาทกาล...คือกาลที่มีพระ พุทธ เจ้า..มาอุบัติ ใน โลกนี้มา แล้ว...ถึง..๖ พระ องค์ มีพระ วิปัสสี เป็นอาทิ....ขอรับ.แม้ในชาติที่ได้เกิดในสมัยพระพุทธเจ้า...ของพวกเรา. ท่านก็ทรงจำพระไตรปิฎกได้เช่นกัน.. (รวมแล้ว..เป็นผู้ทรงจำพระไตรปิฏกถึง...๗..พระพุทธเจ้า)

    วรรค.....พิกุล นาสา

    และ แล้ววันหนึ่งองค์ ท่านผู้จดจำ พระ ธรรมคำ สอน....ต้องมี เหตุสลดสัง เวช ใจ... เนื่องด้วย เพราะ สดับ...พระ คาถาจากพระ พุทธองค์ ตรัส เรียก..ที่ว่า..ตุจฉ โปฏฐิละ ...(ชึ่ง แปลว่า..พระ โปฏฐิละ ไร้ค่า..บางอาจารย์ แปลว่า..พระ โปฏฐิละ ซึ่งมี ใบลานอันว่าง เปล่า)....
    ทั้งนี้ เนื่องด้วยท่าน เป็นองค์ พระ ธรรมกถึก..คือ เทศน์ สอน. เป็นผู้ เชี่ยญชาญ ในพระ ธรรมคำ สอน ในพระ ไตรปิฏก... แต่ ไม่มีคุณวิ เศษ ใดๆ แห่งอริยะ บุคคล...


    องค์ ท่านพระ เถระ ดำ ริความ เป็น ไปของตัว เองที่ยัง ไม่ ได้สำ เร็จฌาน และ มรรคผล...ก็รู้สึกสลด ใจ.. เกินจะ ทานทน...ก็ เลย..ตัดสิน ใจ..อำ ลาวัด เชตวัน...ดั้นด้น เดินดง.....จาริก แสวงหาอมตะ ธรรม...ล่องหนทาง ไกลราว ๑๒๐ โยชน์ ..ซึ่ง แสน ไกล.....

    จวบจนลุผ่าน.ณ ราวป่า แห่งหนึ่ง... ซึ่ง เป็นที่ เจริญสมณธรรมของ เหล่าพระ อรหันต์ ...๓๐ รูป องค์ ท่านมีหรือจะ รอช้า..จึง.. เข้า ไปกราบก้ม..พนมอัญชลีกร..ขอ เรียนพระ กัมมัฏฐาน..กับ พระ มหา เถระ รูปหนึ่ง.... แต่..พระ มหา เถระ เจ้าพิจารณา แล้วว่า..องค์ ท่านผู้มา เยือน เป็นผู้ทรงความรู้ชั้นสูง ในพระ พุทธศาสนา....จึง เอ่ยว่า.. ให้ ไปขอ เรียนจากพระ มหา เถระ องค์ ที่สอง.... แต่อนิจจา... แม้องค์ ที่สองก็หา ได้สน ใจ..ที่จะ รับท่าน เป็นศิษย์ ไม่...... แม้องค์ ที่สาม..ที่สี่..ที่ห้า... และ องค์ ต่อๆ ไปก็ล้วน แต่ เพิก เฉย.. ไม่ ใยดี......
    (ทั้งนี้ เพื่อลดมานะ .. ในองค์ ภูมิความรู้ที่พระ เถระ มี)

    วรรค... เศรษฐภัทร์ อินวิริยะ วิทย์

    และ แล้ว..ก็คง เหลือ แต่ เพียงองค์ ท่านสาม เณร..ตัวน้อยๆ ...อายุอานามพึ่งจะ ... เจ็ดขวบ.( แต่มีที เด็ดตรงที่สำ เร็จพระ อรหันต์ )...หนึ่งความหวังสุดท้าย...ซึ่งความหวังครั้งนี้ริบหรี่ เหลือกำ ลัง....องค์ ท่านผู้อยากถึงฝั่ง แห่งมรรคาอย่างจับ ใจ..จึงพนมอัญชลีกรขอ เรียนพระ กัมมัฏฐาน..จากองค์ ท่านสาม เณร..ขอรับ....องค์ ท่านสาม เณร เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า... เกล้ากระ ผมอายุยังน้อย...ยังต้อง เรียนรู้จากท่านอีกมาก....จึงมิอาจสอนท่าน ได้........ เห็นท่าทีของสาม เณร.. เอ่ย เช่นนั้น...องค์ ท่านพระ เถระ ..ก็ เลยกล่าวอ้อนวอน...ขอ ได้ โปรดอบรมสั่งสอน..จะ ไม่ขืนขัดน้อมกระ ทำ ตาม....ทุกประ การ....

    วรรค....ณัฐนันท์ หวังกลุ่มกลาง..ฟังต่อขอรับ

    องค์ ท่านสาม เณร..ต้องการลอง ใจ..จึงบอก ให้พระ เถระ .. เดินลุยน้ำ ...องค์ ท่าน...ก็ ไม่ขัดขืนกระ ทำ ตาม.... และ พอชายจีวร..ขององค์ ท่าน เปียกน้ำ ...องค์ ท่านสาม เณร เห็นว่าผู้มา เรียน ได้ลดมานะ ละ ทิฐิ..ก็ เลยบอก ให้ท่านขึ้นจากน้ำ แล้ว ให้พระ กัมมัฏฐานว่า...

    ท่านขอรับ....จอมปลวก แห่งหนึ่งมีรูอยู่ ๖ แห่ง ถ้าอยากจะ จับ เหี้ย ในจอมปลวกก็ ให้ปิดรู ๕ แห่ง แล้วคอยจับ ในรู เดียวที่ เหลือ การปฏิบัติธรรมก็ เหมือนกัน เมื่ออารมณ์ มาปรากฏทางทวาร ๖ บุคคลพึงปิดทวาร ๕ แล้ว เปิดทวาร ใจ เพียง แห่ง เดียว....

    พระ เถระ เป็นผู้ศึกษามามาก..สดับถ้อยคำ ขององค์ ท่านสาม เณร แค่นี้ก็มีจิตทราบชัด... เหมือนพบดวงประ ทีป ในความมืด....องค์ พระ สุคต เจ้า..ทราบความ เป็น ไป.ซึ่งอยู่ห่างตั้งร้อยยี่สิบ โยชน์ ..จึง ได้ แสดงพระ องค์ ให้ประ จักษ์ ราวกับว่าประ ทับอยู่ เฉพาะ หน้า แล้วตรัสพระ คาถาว่า
    ปัญญา เกิดมี ได้ เพราะ ความ เพียร เสื่อม ไป เพราะ ไม่พาก เพียร เมื่อรู้ทาง เจริญ และ ทาง เสื่อมของปัญญา แล้ว ควรทำ ตน ให้ดำ รงอยู่ ในวิถีทางที่ปัญญาจะ เจริญ....

    สิ้นพระ สุร เสียงของพระ พุทธองค์ ...องค์ ท่านพระ เถระ .ก็สามารถหยั่งจิตหยั่ง ใจลงสู่สุนทรสถานกล่าวคือนิพพานภูมิ....

    เรื่องราวที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นประ วัติของพระ โปฏฐิละ เถระ เจ้า..ขอรับ..จากแหล่ง ข้อมูลห้องหนังสือ เรือนธรรม..

    โดยขออ้างอิงจาก..หนังสือวิปัสนาญาณ ๑ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์เพื่อเผยแพร่ แก่ประชาชน และถวายภิกษุ สามเณร

    โดยคุณนันทภร โสภะ และ ญาติธรรมพร้อมทั้งชาว คลีนิค DOCTOR FEET
    [​IMG]
    ด้วย แรงจิต แรงศรัทธา..ของสาธุชน..ที่มาร่วมบุญกับ เรือนธรรม.. ในการกระ จายสายธรรม...จึงทำ ให้ เรือนธรรม... ได้ร่วมสร้างห้องหนังสือธรรมมะ มา แล้วคือ....

    โรง เรียนบ้านนาสวรรค์
    โรง เรียนนาสวรรค์ พิทยาคม(มัธยม)
    โรง เรียนบ้าน โคกสว่าง...ตำ บลนาสวรรค์


    และ วันนี้คณะ เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา..... ได้นำ หนังสือธรรมมะ ไปส่งมอบสถานศึกษา..ของยุวชนตัวน้อยๆ ทั้งสิ้น ๗ โรง เรียน.๓ อำ เภอ.๔ ตำ บล..ดังนี้

    ๑. โรง เรียนบ้านหนองตอ ต.นาสรรค์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๒. โรง เรียนบ้านดอน แก้ว ต.นาสวรรค์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๓. โรง เรียนตำ รวจตระ เวนชาย แดนบ้านนา แวง อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย

    วรรค...ที่ข้างกล่องส่งมอบระ บุชัดว่า..จากญาติธรรมทั่ว ไทย

    ๔. โรง เรียนบ้านศรีนาวา ต.ถ้ำ เจริญ อ. โซ่พิสัย จ.หนองคาย
    ๕. โรง เรียนนา เจริญวิทยา ต.คำ นาดี อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๖. โรง เรียน เลิศสิน ต.คำ นาดี อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๗. โรง เรียนบ้านนาซาว ต.หนองหัวช้าง อ.พร เจริญ จ.หนองคาย

    การอัญ เชิญพระ ธรรม ไปประ ดิษฐาน ในบ้านป่า..บ้านดง..ครั้งนี้นำ ความปลื้มปิติ...มา ให้บรรดาคณาจารย์ เป็นอย่างยิ่ง.. เพราะ ส่วน ใหญ่ ไม่มีหนังสือ...ซึ่ง เป็นสื่อสอนธรรม..( เป็นการมอบ ให้รอบ แรกตามมีตาม ได้)


    หนังสือที่ ให้. โรง เรียน ไป เป็นหนังสือที่คัดสรรที่ เห็นว่ามีซ้ำ กันมากๆ . และ เหมาะ แก่ยุวชน..ส่วนหนังสือ..ที่ เห็นว่าหายาก และ ควร ไว้ ให้มหาชนค้นคว้า..ยังคงรักษา ไว้ที่ เรือนธรรม...ขอรับ

    ท่านผู้ร่วมบริจาค.. โปรดสอบถาม เกี่ยวกับหนังสือ..ที่ส่งมา ได้จาก 085-760-4175 end_of_the_skype_highlighting คุณคำ ผิว

    [​IMG]
    พระ บูรพาจารย์ ..http://palungjit.org/threads/มหาทานบริจาคสร้างพิพิธภัณฑ์ พระ รัตนตรัยบูชากตัญญุตารมย์ สถาน.240449/

    พระพุทธเจ้าทุกๆพระพุทธองค์..ที่เคยอุบัติขึ้นมาในโลกนี้
    ..ล้วนมุ่งรื้อถอนขนสัตว์...เพื่อให้ข้ามห้วงแห่งทะเลทุกข์..
    คือสังสารวัฏ........ความเมตตาของพระพุทธองค์ไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมาณ

    ด้วยสัจวาจานี้......ขอความสุขสวัสดี...จงมีแก่ผู้ร่วมบุญทุกท่าน....

    ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ขอให้ท่านพ้นจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งปวง
    ขอให้ท่าน อยู่เป็นสุขในทุกสถานในกาลทุก.เมื่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2010
  18. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เจริญพร ญาติโยมอุบาสกอุบาสิกา ตามที่อาตมาพระจิรวัฒน์ ญานวโร ได้เเจ้งบอกบุญผ่านทาง เรือนธรรมเเห่งนี้ อาตมาขอเเจ้งข่าวดีว่าเมื่อวันที่12มิถุนายน2553 อาตมาเเละญาติโยมลูกศิษย์หลวงปู่ดี ได้ไปทอดผ้าป่ารวบรวมปัจจัยเเละนำไปฝากไว้ธนาคารไทยพานิชน์สาขาเสลภูมิ เป็นจำนวนเงิน366,209(สามเเสนหกหมื่นหกพันสองร้อยเก้าบาทถ้วน)เเละขณะนี้กำลังลงมือก่อสร้างเมรุ รายละเอียดจะเเจ้งให้ทราบต่อไป ราคาก่อสร้างจนเสร็จในสัญญา750,000 เจ็ดเเสนห้าหมื่นบาท ใครจะร่วมทำบุญโปรดติดต่อที่หลวงปู่ดี คัมภีโรโดยตรง โทร 043612-037เบอร์วัดป่าหนองผักเเว่น มือถือหลวงปู่ดี 0872365287 ขอเจริญพร พระจิรวัฒน์ ญานวโร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2010
  19. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    อานุภาพ ..แห่ง..กรรม

    [​IMG]
    ภาพท่านญาณว โร....ณ..สถานวัดป่าหนองผัก แว่น...อ. เสรภูมิ...จ.หวัดร้อย เอ็ด...ขอรับ


    เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญาขอ เชิญทุกท่านผู้ แวะ ผ่านมา

    โปรดพิจารณาร่วมบุญ...สร้างฌาปณสถานมหากุศล....ร่วมกับวัดป่าหนองผัก แว่น ถิ่น เสรภูมิ ตามกำ ลังศรัทธา..ขอรับ....องค์ ท่านผู้สุปฏิปัน โน......หลวงปู่ดี. โดยตรง... 087-2365287

    ( เหตุที่สร้าง ใหม่ เพราะ ประ ตูปิด ไม่ ได้.. เตา ไม่ร้อน. เผาศพ ไม่ค่อย ไหม้..)

    (ท่านผู้ ใดอยากรู้ว่าองค์ ท่าน...หลวงปู่ดีมีลักษณะ อย่าง ไร... ก็ขอ เชิญชม ได้ที่หน้า ขอรับ)

    ..
    ส่วนงาน เผย แพร่ธรรมล่าสุด ได้มี ผ.อ. บุญทวี สาลี จาก โรง เรียนบ้าน ไร่สุขสันต์ ต. โคกก่อง อ.บึงกาฬ ได้ โทรติดต่อมา.๓ ครั้ง..ทาง เรือนธรรมขออนุ โมทนา และ บอกผ่านตรงนี้ว่าจะ รีบจัดหาจัด เตรียม ให้ขอรับ.. เมื่อวานนี้ เกล้า ได้รับหนังสือจากผู้ ไม่ประ สงค์ จะ ออกนาม...ส่งมา...จะ เป็นอุบาสกอุบาสิกา...มิ ได้ระ บุ... เป็นหนังสือที่สอน เรื่อง.บุญ....ของมูลนิธิพิมพ์ เผย แพร่...ขออนุ โมทนาทุกประ การขอรับ....ท่านผู้นั้นมีนามว่า...........(จุดๆ ขอรับ..ท่าน ไม่ประ สงค์ ออกนาม)

    มหา แห่งธรรมทานของท่านนั้น เปรี่ยมมากล้นด้วยศรัทธา..จะ เท่า ใด ไม่มีคำ ว่าน้อย

    ( โปรดพิจารณาร่วมบุญ...สร้างฌาปณสถานมหากุศล....ร่วมกับวัดป่าหนองผัก แว่น ถิ่น เสรภูมิ ตามกำ ลังศรัทธา..ขอรับ....)

    [​IMG]
    เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา

    เรือนธรรม แสงทาง แห่งปัญญา.. เสนอ..วิบาก แห่งการ..ดูหมิ่น..พระ อริย เจ้า
    เรื่องราวที่นำ มา เสนอนี้ เกิดขึ้นคราครั้งพุทธกาล....ห้าสี่สามสองหนึ่ง... เริ่ม

    สมัยหนึ่ง...พระ ธรรม เสนาบดีสารีบุตรผู้ เป็น เอกอัครสาวก เบื้องขวา... และ พระ ธรรม เสนาบดี โมคคัลลานะ ผู้ เป็น เอกอัครสาวก เบื้องซ้าย... ได้จาริกสู่ เมือง โกกาลิกะ แคว้น โกกาลิกะ ....... โดยมีพระ โกกาลิกะ ...ซึ่ง เป็นบุตรของ.. โกกาลิกะ เศรษฐี.. ให้การต้อนรับ.องค์ ท่านผู้ เป็น เอกอัครสาวก...ทั้งสอง โดย ให้ เข้าพัก ในวิหาร..ที่บิดาสร้างถวายขอรับ

    ..อนึ่ง..ชื่อพระ โกกาลิกะ ...บางท่านอ่าน แล้วอาจงง ได้...ขอขยายนิดหนึ่งขอรับ...ว่าชื่อของท่านนั้นคือพระ จูฬ โกกาลิกะ ..( โปรดอย่าสับสน..กับชื่อมหา โกกาลิกะ ผู้ลูกศิษย์ ของพระ เทวทัต..นะ ขอรับ)


    วรรค..พระ จูฬ โกกาลิกะ .. แต่ขอ เรียกสั้นๆ ว่า..พระ โกกาลิกะ

    พระ เถระ เจ้าทั้งสองนั้นมุ่ง ไป เพื่อความวิ เวก..มิอยาก ให้ เกิดการ แตกตื่นของการมา..จึง ได้ แจ้ง... แก่พระ โกกาลิกะ ว่าจะ อยู่ด้วยสัก ๓ เดือน ขออย่า ได้บอก แก่ ใครๆ ...ว่าองค์ ท่านทั้งสองพำ นักอยู่ ณ ที่ แห่งนี้
    ครั้น ๓ เดือนล่วงผ่าน ไป วันหนึ่งพระ โกกาลิกะ ได้ เข้า ไป ในพระ นคร โกกาลิกะ และ แจ้ง แก่ประ ชาชนว่า พระ เอกอัครสาวกทั้งสอง ได้พักอยู่ ในวิหาร แห่ง เรา ทำ ไมพวกท่าน ไม่มี ใครนิมนต์ หรือถวายปัจจัย เลย

    ชาว เมืองถามว่า : แล้วทำ ไมพระ คุณ เจ้าจึง ไม่บอกกล่าว แก่พวก เรา เล่า
    พระ โกกาลิกะ ตอบว่า : จะ บอกทำ ไม พวกท่าน ไม่ เห็นหรือว่า ในวิหารมีภิกษุอีกสองรูป นั้น แหละ พระ อัครสาวก

    ชาวพระ นคร เมื่อ ได้ทราบข่าวต่าง แตกตื่น..รีบประ ชุม..จัดหานำ เนย ใส น้ำ อ้อยงบ และ ผ้า เป็นต้น..ถือ เอาสิ่งของ เหล่านั้นออกติดตาม....พระ โกกาลิกะ ... เพื่อนำ ไปถวายพระ อัครสาวก..ยังวิหาร

    วรรค...พระ โกกาลิกะ ..คิดว่า..พระ เถระ ทั้งสองนั้น..สัน โดษมักน้อยอย่างยิ่ง..ถ้ารู้ว่าลาภที่ เกิดขึ้น เกิดจาก เหตุตนชักจูง แล้ว ไซร้...ท่านคง ไม่รับ เป็น แน่..... แต่..ท่านจะ กล่าวว่า...ขอพวกท่านจงถวาย แก่ภิกษุ เจ้าอาวาส เถิด..ของพวกนี้ก็จะ เป็นของ เรา.

    ท่านผู้อ่านที่ เคารพขอรับ... เหตุการณ์ มิ ได้ เป็น ไป เช่นนั้น..... เพราะ องค์ ท่านพระ เถระ ทั้งสอง...พิจารณา แล้วว่า ไม่ควร แก่ เราทั้งสอง และ ไม่ควร แก่..พระ โกกาลิกะ ด้วย...จึง ไม่พูดอัน ใด.. แต่กล่าวปฏิ เสธ ไม่รับ..พร้อมหลีกออกจากวิหาร ไป เข้า เฝ้าพระ พุทธ เจ้า... เมื่อ ไม่ ได้ เป็น ไปดังหวังย่อมยัง..ความ โทรมนัส.. เสีย ใจ ให้ แก่พระ โกลิกะ อย่างยิ่ง...ขอรับ

    จากวันนั้นอีกหลาย เดือน......

    พระ เถระ ทั้งสองพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูป ได้จาริกรอน แรมวิ เวก ไพร.... ไปหลายหน แห่ง...ผ่าน ไปหลาย เมือง...จนลุผ่านมายัง แคว้น โกกาลิกะ อีกครั้งหนึ่ง...ซึ่งการมาของท่านทั้งสอง..คราวนี้ชาว เมืองจำ ได้..ต่างนิมนต์ ฉัน จัด เตรียม ไทยธรรมสร้างปะ รำ กลางพระ นคร แล้วถวายทานพร้อมทั้งบริขาร ซึ่งองค์ท่านพระเถระทั้งสอง ได้รับ แล้วก็ ให้ภิกษุสงฆ์

    วรรค...พระ โกกาลิกะ ด่า ..ว่าลามก

    พระ โกกาลิกะ ... เห็น เหตุการณ์ ...ก็สุดจะ อดกลั้นด้วยคิดว่า..ที เมื่อก่อนพระ เถระ ทั้งสอง เป็นผู้มักน้อย..สัน โดษ... แต่มาบัดนี้คงถูกความ โลภ เข้าครอบงำ เสีย แล้วกระ มัง....จึงมักมาก...พร้อมตรงดิ่ง.. เข้า ไปต่อว่าด้วยถ้อยคำ ตามที่คิด
    แค่นั้นยัง ไม่พอขอรับ... ได้ เดินทาง ไป เข้า เฝ้าพระ พุทธ เจ้าที่ เชตวันมหาวิหาร...กรุงสาวัตถี
    พร้อมกราบทูลว่า ข้า แต่พระ องค์ ผู้ เจริญ พระ สารีบุตร และ พระ โมคคัลลานะ เป็นผู้มีความปรารถนาลามก ตกอยู่ ในอำ นาจของความปรารถนาลามก พระ เจ้าข้า

    พระ พุทธองค์ ได้ตรัสห้ามว่า โกกาลิกะ เธออย่า ได้พูดอย่างนั้น เธอจงทำ จิต ให้ เลื่อม ใส ในพระ สารีบุตร และ พระ โมคคัลลานะ เถิด สารีบุตร และ โมคคัลลานะ มีศีล เป็นที่รัก
    แต่ผู้อ่านที่ เคารพขอรับ..พระ โกกาลิกะ ..หา ได้ทำ ความ เลื่อม ใส ไม่...พร้อมกล่าวยืนยัน..คำ เดิมถึง ๓ ครั้ง ซึ่งพระ พุทธองค์ ก็ ได้ตรัสห้ามทั้ง ๓ ครั้ง

    วรรค.. ในกาลต่อมา..ด้วยวิบาก แห่งกรรม

    ตามร่างกาย....ของพระ โกกาลิกะ ......ก็ เกิด เป็นตุ่มประ มาณ เท่า เมล็ดผักกาด..... แล้วขยาย ใหญ่ เท่า เมล็ดถั่ว เขียว....
    ถั่วดำ ... เท่าผลพุทรา....ผลมะ ขามป้อม...ผลมะ ตูมอ่อน... และ ใหญ่ขึ้น เรื่อยๆ จนขนาด.ผลขนุนอ่อน.ขอรับ.. แค่นั้นยัง ไม่พอ..ตุ่มนั้น ได้ แตกออกมีหนอง และ เลือด ไหลออก... และ ถึง แก่มรณะ ภาพ... แล้ว ไปบัง เกิด ใน...ปทุมนรก
    ขอรับ...สา เหตุ...พระ อรรถกถากล่าวว่า... เพราะ อกุศลกรรมคือ...การติ เตียนพระ อริย เจ้าด้วย ใจ และ วาจา..ขอรับ




    ข้อมูลขออ้างอิงจากหนังสือ.๘๐พระอรหันต์..ที่เผยแพร่โดยธรรมสภา..ห้องหนังสือเรือนธรรมแสงปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2010
  20. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
     

แชร์หน้านี้

Loading...