ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ภิญโญ EI 4838 8761 3 TH

พี่พรเทพ EI 4838 8762 7 TH

 

ใครที่รอรายการตะโพนชุดหลงหูหลงตารอรอบเย็นนะครับ แต่มีไม่มากนับได้ด้วยนิ้วมือถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลยไม่มีทำอีกนะรายการนี้

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี (ชุดครูพี่เลี้ยง)

ตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ให้ใช้กันโดยเฉพาะซึ่งท่านได้ผูกตะกรุดอาถรรพ์หัวใจครูพี่เลี้ยงกำกับตะโพนไว้ ท่านว่าครูพี่เลี้ยงนั้นเป็นมากกว่าครูทั่วๆไป เพราะนอกจากเป็นครูแล้วยังเป็นพี่เลี้ยงที่ต้องหาเลี้ยงเราด้วย ครูพี่เลี้ยงนั้นจะต้องคอยดูแล ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เราเสมือนว่าเราเป็นดั่งศิษย์ซึ่งเป็นศิษย์พิเศษ เปรียบได้กับพี่น้องร่วมสายโลหิตเช่นนั้น ดังนั้นตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านแยกเสกเก็บไว้จึงมีอาถรรพ์มากเหมาะกับการนำไปห้อยเดี๋ยวๆอาราธนาอย่างที่สุด

เพราะครูพี่เลี้ยงนั้นจะมีความผูกพันธ์และสนิทสนมกับเรามาก...ลึกซึ้งเกินคำว่าศิษย์กับครูปกติชนิดออกหน้าแทนกันได้ ท่านจะใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์นับพันนับหมื่นปีที่สร้างสมบารมีมาเพื่อทำให้ชีวิตเราเข้ารูปเข้ารอย คอยผลักดันพลังงานให้เกิดขบวนการทางความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เรียกว่าคอยเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ เช่นนั้นจึงเป็นยอดแห่งครูที่จะช่วยศิษย์ทุกสายอย่างแท้จริง เพราะตะโพนของพ่ออาจารย์นั้นท่านลงไว้หลายสายทำได้หลายอย่าง

พ่ออาจารย์ท่านว่า ครูพี่เลี้ยงของฉันเขาจะมุ่งแค่ผลสำเร็จอย่างเดียวนะ ต้องบอกพวกเธอเอาไว้ก่อน ที่บอกว่าผลสำเร็จนั้นคือผลในชีวิตศิษย์น้อยๆของท่าน ท่านจะคอยเสริมพลังดึงเราเข้าสู่เส้นทางที่สมควร ทั้งเพิ่มพลังจิตพลังใจ ฝึกเราให้เข้มแข็ง ทำให้เราเห็นแนวทางลู่ทางที่ถูกปิดอยู่ ถ้าคนไหนตกอยู่ในปัญหาชีวิตตะเกียกตะกายไม่พ้นท่านก็จะไปแก้ไขให้ เพราะงานท่านคือครูพี่เลี้ยงเป็นครูที่ลงมาคลุกคลีกับเรา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนได้อย่างแท้จริง ท่านจะเกื้อกูลเราไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะเข้มแข็ง ใช้ชีวิตยืนอย่างมั่นคงได้โดยที่ไม่มีท่านนั่นแหละ ท่านจึงจะกลับไปชื่นชมความสำเร็จของศิษย์ท่านอยู่เงียบๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องห่วงท่านจะคอยดูอยู่เสมอไม่ไปไหนไกล นี่คืออาถรรพ์ของแรงครูซึ่งท่านเรียกว่าครูพี่เลี้ยงหรือครูฝึก,ครูหัด

ครูผู้เป็นกัลยาณมิตรโดยแท้จริงซึ่ง...จะต่อหัวต่อตีนเราไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเปลืองเวลามาเยอะไหว้ครูมาก็มาก แต่ขาดครูสอนครูหัดนี่ทั้งชีวิตก็ทำอะไรไม่ได้ ของบางอย่างนั้นมีแรงครูก็จริง แต่ไม่มีความเอื้ออาทรณ์หรือแรงหนุนของครูพูดง่ายๆคือไม่เข้าถึงใจครู ท่านว่าพูดแบบนี้คงเข้าใจง่ายกว่า เช่นนั้นคำเพียงคำเดียวระหว่างครูกับครูพี่เลี้ยง พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงจะเป็นครูเหมือนกันแต่ความผูกพันธ์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ตะโพนชัยชุดนี้เป็นชุดครูพี่เลี้ยงที่ท่านอธิษฐานจิตเชิญครูมาเต็มบารมี ทั้งยังหนุนแรงครูขอเชิญครูให้มาเหยียบหัวช่วยศิษย์ดุจเป็นกัลยาณมิตร เป็นครูพี่เลี้ยงที่ต้องเลี้ยงต้องดูเราไปทั้งชีวิตไม่ทิ้งขว้าง ไม่ใช่ครูที่เสพย์แต่กลิ่นไปธูปควันเทียนรอการกราบไหว้บูชาหรือคำบนบานของใคร ท่านว่าครูพี่เลี้ยงของฉันมีเกียรติมากกว่านั้น ใครจะห้อยตะโพนชุดนี้ไม่ต้องเปลืองวาจาบนใดๆ เพียงแต่บอกกล่าวถึงอาชีพและความเดือดร้อนของชีวิตในปัจจุบันให้ครูทราบเท่านั้นพอ ส่วนหน้าที่ครูพี่เลี้ยงจะขีดเส้นชีวิตเธออย่างไรนั้นไม่นานจะได้เห็นกันเอง

ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี
ตะโพนครูใหญ่อินทรเภรี(พระประโคนธรรพ์) คือวิชาทำกลองของพระอินทร์อันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ด้วยกลองนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่แม้เทวดาทั้งหลายยังต้องหยุดนิ่งทิ้งกิจทุกการกระทำเพื่อสดับสำเนียงอินทรเภรีนั้น

พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่การสร้างกลองไก่กาใดๆทั้งสิ้นหากแต่เป็นกลองที่มีศักดิ์สูงที่สุดในเทวโลกก็ว่าได้ ด้วยกลองอินทรเภรีนั้นต้องเชิญจิตแห่งท้าวเวสสุวัณและท้าวอาฬาวกยักษ์มาช่วยกันแบกแลรักษาอินทรเภรีไว้ เช่นนั้นกลองนี้จึงมีอานุภาพของสองมหายักษ์ที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัตินาๆออกจากตัวเราได้(ท่านว่าอย่าว่าแต่คนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังแก้ไขได้)ชีวิตผู้ใดตกอยู่ในภัยพิบัติหาความก้าวหน้าไม่ได้แค่พกอินทรเภรีไว้ก็แก้อาถรรพ์ได้ทั้งสิ้น

ซ้ำผู้ใดได้อธิษฐานกับกลองนี้ประดุจได้บอกกล่าวส่งตรงคำพูดถึงพระอินทร์เจ้าสวรรค์เปล่งวาจาดั่งเสียงอสนิบาตได้ยินทั่วฟ้าดิน...เช่นนั้นวิชาสร้างอินทรเภรีนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงหวงแหนอย่างมากเพราะเป็นกลองที่มีแรงครูสูงสุด ท่านอุปมาดั่งว่าคนใช้ยิ่งเจ็บ(รับกรรมมามาก)ยิ่งดี..ยิ่งตียิ่งดัง

ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาทำตะโพนครูใหญ่เสริมอาถรรพ์สอดรับกันเข้าไปด้วย ตะโพนนี้สำคัญนักเจ็บไข้ได้ทุกข์ต้องร้องบอกกล่าวครูตะโพน และที่ผ่านมาตะโพนท่านต้องพิจารณาคนให้ทุกครั้งใครจะเอาไปเล่นทางชู้สาวท่านไม่ให้เลยเพราะท่านว่าเสน่ห์ร้ายยิ่งกว่าน้ำมันพรายเสียอีก(ส่วนมากคนใช้ตะโพนชุดนี้จะเอาไปเลี่ยมทองห้อยแทนขุนแผน เขาว่ากันว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถอด)

ด้วยตะโพนของท่านนั้นมีแรงครูสูงมากจนไม่มีสิ่งใดมาถอดถอนหรือแก้ไขผู้ต้องอาถรรพ์ตะโพนได้ ทั้งยังสำทับว่าตะโพนฉันยิ่งตียิ่งดังอุปมากับชีวิตเราก็เหมือนตะโพนยิ่งมีคนตีคนคิดร้ายมากเท่าไหร่เรายิ่งดังยิ่งได้ยิ่งดีเจริญมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านแกะตะโพนจากไม้มะกรูดที่คั่นกลางเท้าตะโพนใบเก่าที่ผ่านการไหว้ครูใช้เป็นประธานในการบรรเลงเสกเป่าคาถาอาคมมานับร้อยปี ท่านว่ามีอาถรรพ์ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายและข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น

ทั้งยังใช้กำกับชีวิตคนได้(ใครที่ควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้ ชีวิตไม่เดินไปตามที่คิดให้ใช้ตะโพนครู)ดั่งตะโพนหน้าทับกำกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย ท่านว่าก่อนทำนี่ต้องนำสังข์ไปเทน้ำทิพย์มนต์ล้างหน้าตะโพนเสียก่อนจึงทำพิธีบอกกล่าวแรงครูพลีกรรมมาทำได้

ทั้งกลองตะโพนตำรับพ่ออาจารย์นั้นยังได้ชื่อว่านำความสำเร็จทุกด้านที่ใจประสงค์ส่งตรงถึงคนใช้ด้วย เพราะตะโพนนั้นเป็นกลองใบแรกที่พระคเณศยกขึ้นตี จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แทนตัวพระคเณศด้วยเสมอมา รูปตะโพนนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนบรมครูหลายสายวิชาของท่านอย่างแท้จริง

ด้วยครูตะโพนนั้นทรงอาถรรพ์ชั้นครูเป็นที่เคารพยำเกรงอย่างยิ่ง เป็นดั่งราชาของเครื่องดนตรีทั้งทั้งหลายทั้งยังใช้แทนองค์พระประคนธรรพ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าในบางตำราก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกับพรหมฤาษีนารท เช่นนี้จึงยกไว้ว่าเป็นมหาประชาบดีหัวหน้าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งปวง

เพราะรูปตะโพนนี้มีอาถรรพ์ดั่งเป็นรูปของพระประคนธรรพ์นี้เองจึงถือเสมอว่าใช้แทนองค์ท่านได้เลยและต้องยกไว้ในที่สูงเสมอมีพลังที่จะนำมาซึ่งอำนาจลึกลับแห่งชัยชนะ มีอำนาจดั่งราชา มีบารมีเด็ดขาดเหนือผู้ใด ข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังกันอัปมงคลเสนียดจัญไรผีเข้าเจ้าสิงด้วยแรงครูชั้นสูง ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวาง ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลคนหลงรักนิยมยินดี ดึงหัวใจคนให้น้อมต่ำโอนอ่อน ขออะไรใครเขาก็ให้โดยดี มีคนหนุนมีคนยกคนส่งเสริมไม่ขาดตอน ทำชื่อเสียงเราให้ระบือไปไกลทั่วเมืองแมนแดนสวรรค์ แม้เทพยดาผู้มเหศักขเทวราชก็หยุดอาถรรพ์แห่งครูตะโพนมิได้

คาถาบูชา
ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ทุติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ตะติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ ..ขอครูพี่เลี้ยงจงบันดาลดลด้วยสรรพสิทธิ์วิทยา ให้พระครูพี่เลี้ยงจงสถาพรกรรมสิทธิ์แก่ข้าในกาลบัดนี้เทอญ

*** พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่า ตะโพนชุดครูพี่เลี้ยงนี้ไม่ต้องบอกอะไรกันมากนัก เพราะบางคนวาสนาเขาไม่ถึงเกิดมาได้เพียงเท่านี้ ไม่มีวาสนาจะมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล เขาก็จะไม่ได้ไป มารจะมารบกวนความคิดเขาให้วิปริตไปเอง เช่นนั้นตะโพนชุดนี้ท่านว่าใครมีบุญก็มาเอาไป รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น เนื่องจากของมีจำกัดหากของหมดจะแจ้งใน PM อีกทีหนึ่ง

ร่วมทำบุญบูชา ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี (ชุดครูพี่เลี้ยง) บูชา 900 บาท

​

 

ชุดครูพี่เลี้ยงนี่เพิ่งมีคนถามซึ่งขอให้พ่ออาจารย์ทำให้เฉพาะร้อยใบคือทำเป็นรุ่นใหม่เฉพาะของเขาเลยไว้แจกจ่ายกันในเครือญาติ ก็ยืนยันนะครับว่ารายการนี้ไม่มีอีกและท่านก็ไม่ทำเพิ่มใดๆให้กับใครด้วยหมดแล้วคือหมดเลย

 

พรุ่งนี้เดี๋ยวจะพูดคุยกันเรื่องของบางสิ่งซึ่งถือว่าเป็นของสูงมากไม่สามารถเอ่ยชื่อหรือกล่าววาจาพาดพิงได้กันนะครับ ชิ้นนี้แม้เป็นเศษขาดๆยังประสบการณ์แรง

 

พูดคุยยามเช้า
​

อรุณสวัสดิ์ครับ เกี่ยวกับเรื่องของอาถรรพ์นั้นต้องพูดถึงก่อนเสียว่าทำไม แค่ไหนถึงจะเรียกว่าอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนสมัยก่อนเขาทำอะไรทำจริง แต่วิชาหรือของบางอย่างก็ไม่เหมาะไม่ควรที่จะเอามาใช้กับสมัยนี้ อย่างสีผึ้งบางตัวที่ท่านเคยหุงไว้ท่านว่าสมัยก่อนทำพระสึกไปก็มาก บางคนเอาไปป้ายไปทาไปใส่ของให้เขากินแล้วได้เมียกลับมา อันนี้ยังธรรมดาพ่ออาจารย์ท่านว่าบางตัวก็แรงมากจนคนที่ถูกอาถรรพ์นั้นพร้อมจะแก้ผ้าตรงนั้นเลยก็มี ของแบบนี้ท่านจึงเก็บเอาไว้เพราะเห็นอันตรายมากกว่าคุณประโยชน์ ด้วยคนดีได้ไปก็ไม่ใช้ ส่วนคนที่เอาไปใช้ก็ไม่ดีทำไปทำมาจะเป็นภัยสังคมเสียเปล่า นี่แรงเช่นนี้ถึงเรียกว่าของอาถรรพ์

อย่างขุนแผนบางรุ่นต้องใช้วิชาโบราณ เชิญจิตมหาภูติบางตนมาสถิตย์ รุ่นนี้ท่านว่าคุยกับใครแล้วใจอ่อน ถ้าคนมันจะเอาไปใช้เรื่องชู้สาวนี่จะกลายเป็นว่าคุยกันไม่นานก็เปลื้องผ้าคุย เช่นนั้นของอาถรรพ์ที่สร้างแล้วลองแล้วท่านเห็นว่าจะหนักไปทางก่อภัยสร้างเวรท่านจะไม่นำออกมา

อีกสิ่งหนึ่งนั่นก็คือของสูง พูดไม่ได้ เอ่ยนามไม่ได้ สูงมากๆจนคนคิดไม่ถึง พ่ออาจารย์ท่านได้มาจากเจ้าคุณใหญ่มอบมาให้ด้วยชำรุดแล้วทั้งกำชับมาอย่างดีว่าห้ามเอาไปพูดข้างนอกเด็ดขาด บางอย่างผมก็เคยถ่ายรูปเล่าให้ฟังกับคนที่ไลน์มาพูดคุยบางคนที่เห็นว่าสนิทกัน แต่ก็เล่าได้แค่สองสามคนเพราะพ่ออาจารย์ท่านเหมือนจะรู้จึงกำชับว่าอย่าไปบอกใครว่าคืออะไรเอามาจากไหนเด็ดขาด ของชิ้นนี้มีอาถรรพ์มากแม้แต่เศษขาดๆยังมีฤทธิ์รุนแรง...ที่จริงอยากเล่านะแต่ติดที่ท่านห้ามไว้เลยบอกอะไรไม่ได้เลย บอกได้แค่เป็นของอาถรรพ์ชนิดของสูงมากๆ พอได้ลองใช้ฤทธิ์ท่านสุดจะบรรยายตามใจเราทุกอย่างจริงๆพูดง่ายๆเพียงนึกถึงหน้าท่านเจ้าของจะขออะไรท่านก็ได้ รู้สึกว่าท่านตามใจเราทุกอย่าง พูดสั้นๆแค่นี้เหมือนมีแก้วสารพัดนึก

พูดเท่านี้ก็จะดูกำกวมแต่ก็พูดมากกว่านี้ไม่ได้ ของบางอย่างตอนนี้แม้แต่ทำมาจากอะไรยังบอกใครไม่ได้เลย จะมีรู้กันแค่สองสามคนเพราะบอกไว้สมัยท่านยังไม่ห้าม เช่นนั้นจึงกลายเป็นของอาถรรพ์เครื่องสูงที่ไม่สามารถนำออกมาได้เพราะไม่สามารถบรรยายได้เช่นนี้ก็มี ก็นั่นแหละเอามาเล่าให้ฟังคร่าวๆว่าของอาถรรพ์เหล่านี้ยังมีอยู่จริง ของบางอย่างถ้าจะลงไว้แล้วบอกแค่ว่าเป็นของอาถรรพ์นะ เชื่อเถอะ อาถรรพ์มากๆเลยชนิดที่อัยการหรือผู้พิพากษาบางคนพอเห็นแล้วยังไม่กล้าจับไม่กล้าแตะต้องเลยก็มี รับรองว่าไม่มีคนสนใจเพราะฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเขาก็ไม่อยากจะได้กัน คนเหล่านี้จะพลาดของดีกันแบบง่ายๆ ...เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันต่ออีกรอบนะครับ

​

 

มีไลน์เข้ามาสอบถามกันหลายท่านเลยว่าของอาถรรพ์ที่กล่าวถึงพ่ออาจารย์ท่านมีผสมหรือทำอะไรไว้บ้าง บางคนที่ท่านได้เห็นชิ้นเต็มๆจะขอเช่าต่อเลยก็มี รายการนี้รอกันนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เรื่องชุดอาถรรพ์ที่หลายๆคนอยากได้นั้น เดี๋ยวจะนำออกมาให้รอบวันพรุ่งนี้ถ้าใครพลาดก็พลาดเลยเพราะมวลสารชุดนี้ต้องใช้คำว่าบอกเล่าไม่ได้และเป็นของสูงเกินตัวไปมากที่จะหาไม่ได้อีกเช่นกัน ใครชอบของพิเศษก็ติดตามกันนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเรื่อง มงคลมหาภูติพญากาสรสุรกานต์ (นัยน์ตาแห่งยมราช) พี่ที่เล่าเขายังตกใจไม่หายจะพูดไม่ถูกว่าดีใจหรือสะเทือนใจดี พี่เค้าว่าตั้งแต่ได้เครื่องมงคลชิ้นนี้ก็ชอบเป็นพิเศษจริงจังจึงพกตลอดแต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นอะไรที่ทั้งชีวิตไม่คิดว่าจะเห็น

ด้วยปกติพี่เขาจะมีญาติอยู่คนนึงแวะเวียนมาเยี่ยมกันทุกปีเขาเรียกว่าอาเจ็ก ซึ่งอาเจ็กนี้จะสนิทกับครอบครัวของเขาซึ่งพี่เขาก็แปลกใจว่าปีที่ผ่านมานั้นอาเจ็กมาเยี่ยมเขาถึงสองครั้ง

เรื่องของเรื่องคือเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนมาบอกว่าอาเจ็กตายนานแล้วรู้ข่าวมั๊ย ซึ่งพี่เขาก็ตกใจมากและบอกไปว่าอย่ามาล้อเล่นจะตายได้ยังไงก็เพิ่งขับรถมาหากูถึงบ้านไม่กี่วันนี้...

วันที่อาเจ็กมานั้นก็เป็นภาพจำไม่ลืมด้วยแกยิ้มตลอด ขี่มอไซด์คันโปรดที่แต่งใหม่จนเงาวับมาหา พอเจอกันก็โผเข้ากอดเราทันที พี่เขาว่าแกจะอุ้มผมแต่อุ้มไม่ขึ้นก็เลยนั่งคุยกันภายในครอบครัวตกสองสามชม. แซวกันไปแซวกันมา เราก็แซวให้แกหาเมียจะได้มีหลานเพราะสูงอายุมากแล้วแต่ครองตัวเป็นโสดมาตลอด ส่วนที่บ้านก็ทักว่าทำไมแกดูผอมๆลงผิวเหลืองๆตาบวมๆไม่ปกติ เดี๋ยวกลับออกไปให้รีบไปโรงพยาบาลเลยนะไปเช็คดูบ้าง ซึ่งอาเจ็กก็รับว่าเดี๋ยวออกจากบ้านไปจะรีบไปรพ.

ก็คุยกันกอดกันตามภาษาคนคิดถึงและจากกันด้วยดีไม่ได้เอะใจอะไรเลย จนกระทั่งหลายคนมาบอก หลายคนเริ่มพูดว่าเจ็กตายไปนานแล้ว เราก็มาคิดว่าจะเฮี้ยนเป็นตัวเป็นตนขนาดขับรถได้แบบนี้คงไม่มีทางล่ะมั๊ง

จนในที่สุดมีคนฝากพระงานศพของอาเจ็กที่เป็นของชำร่วยมาให้เราซึ่งหน้ากล่องนั้นจะมีสติ๊กเกอร์แปะวันที่แกเสียเอาไว้ พอเขาเห็นพี่เขาว่าพูดไม่ออกกันทั้งบ้านเพราะอาเจ็กเสียตั้งแต่เดือนมกรา กลับกลายเป็นว่าตายไปนานแล้วจริงๆจนคนที่ให้ยังบอกว่าเชื่อกูรึยัง

พี่เค้าก็เลยตั้งสติแล้วบอกเล่าให้เราฟังว่าคงเป็นเพราะฤทธิ์ของนัยน์ตาแห่งยมราชที่ทำให้ตนเองเห็นเช่นนี้ ยมราชท่านคงเปิดทางให้อาเจ็กเขามา ซึ่งอาเจ็กก็เป็นญาติที่เรารักมากและเขาก็มาดีพ่อกาสรจึงไม่ได้ขับไล่รบกวนกลับเปิดทางให้เขาเข้ามา พี่เค้าว่าอันนี้ก็เข้าใจได้เพราะชีวิตอาเจ็กมีแต่พวกเราเขาเลี้ยงเรามาแต่เล็ก ครอบครัวเราก็เหมือนญาติเหมือนเพื่อนรักกัน ซึ่งเขาไม่มีคนอื่นหรือไม่ได้รักญาติคนอื่นแบบนี้

นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่แสดงให้เห็น พี่เขาว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อถึงจะเล่าให้ใครฟังไม่มีคนเชื่อ แต่ก็อยากให้ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นกับตนเองอีกเพราะคิดถึงอาเจ็กมากจริงๆ มีแต่ความรักความเป็นห่วงไม่ได้มีอารมณ์ที่รู้สึกกลัว และก็เชื่อว่าถ้าไม่ได้นัยน์ตาแห่งยมราชก็คงไม่ได้รู้ได้เห็นว่าเขาไปดีแล้ว เขามีความสุขดียังหัวเราะร่าเริ่งเล่นกับเราได้เหมือนคนปกติมีรถขับไปไหนต่อไหน เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้นในฝันก็คงจะไม่เท่าไหร่แต่บังเอิญว่ากลับเป็นความจริงที่เจอพร้อมกันทั้งบ้านเพราะเขามาเล่นกับเรานานหลายชม. เช่นนี้จึงเรียกว่าเป็นเรื่องดีๆที่เราต้องจำไปทั้งชีวิต

*** คนที่รอรายการพิเศษเดี๋ยวติดตามรอบเย็นนะครับ

​

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่วิชัย EI 5692 0844 5 TH

พี่ชัยวัฒน์ EI 5692 0845 4 TH

พี่พรหมพล EI 5692 0846 8 TH

พี่ทวีพงษ์ EI 5692 0847 1 TH

พี่ศิระ EI 5692 0848 5 TH

พี่พรเทพ EI 5692 0849 9 TH

 

เกี่ยวกับเหรียญหล่อองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตร หรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระร่มฉัตรนั้น จะเรียกว่าเป็นรุ่นเดียวในเครื่องมงคลก็ได้ที่เวลาท่านเรียกท่านต้องเรียกว่าองค์หลวงพ่อๆๆๆอยู่แบบนี้แน่นอนว่าย่อมต้องมีอะไรสำคัญ

ดังที่แจ้งไว้ ว่าจะให้จองกันเย็นๆมืดๆ แต่พ่ออาจารย์ท่านก็แจ้งมาว่าเอาไว้เปิดจองพร้อมกันตอนเช้าพรุ่งนี้ สำหรับองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนั้นไม่เหมาะสมที่จะมาจองกันกลางค่ำกลางคืน ก็นับว่าแปลกดีเพราะปกติเปิดจองของทุกครั้งท่านจะไม่ว่ากล่าวเรื่องเวลาเลย ก็คงมีแต่รุ่นนี้ที่ท่านตั้งใจต้องลงกำหนดเวลาไว้แบบนี้ ดังนั้นก็ขอแจ้งว่ายึดเอาตามมติของพ่ออาจารย์ท่านรอบเช้าพรุ่งนี้นะครับ ใครจะได้องค์หลวงพ่อไปอาราธนาก็ติดตามกันดีๆ

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรพระร่มฉัตรทรงแส้ปัดรังควาน(ฝูงพญาวิฬา,อัสดรกัณฐกะเหยียบหมู่ดาว)

เหรียญหล่อองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนี้เป็นเหรียญชั้นครูที่สำคัญมาก พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระร่มฉัตรด้วยเหตุสำคัญเพราะมวลสารต่างๆที่นำมาบดอุดไว้ด้านหลังนั้นท่านใช้ฉัตรองค์สำคัญชั้นสูงมากๆที่ชำรุดมาสร้าง ***ซึ่งท่านไม่บอกและไม่อนุญาติให้บอกใคร ด้วยท่านย้ำอยู่เพียงว่าเป็นฉัตรขององค์บรรพบุรุษแรกตั้งกรุง ในกรุงนี้เว้นฉัตรองค์นี้องค์เดียวเท่านั้น ก็มีฉัตรอีกเพียงหนึ่งองค์ที่มีศักดิ์สูงกว่า... พระร่มฉัตรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้ใช้ดุจมีเงาแห่งเศวตฉัตรนั้นได้ทอดบังเงานำความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นอย่างหาใดเปรียบมิได้เข้ามาในชีวิต ชีวิตใครที่ร้อนรุ่มด้วยภัยทั้งหลายท่านว่าถ้าหลบใต้เงานี้ดุจมีบารมีขององค์ผู้เป็นเจ้าของฉัตรนั้นปกเกล้าคุ้มกระหม่อมแผ่กิ่งก้านทอดเงาให้การดูแล รับรองได้ว่าร่มเย็นไม่ร้อนรุ่มหรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ใดๆอีก เช่นนี้ด้วยท่านรู้ดีว่าเป็นมวลสารที่มีอาถรรพ์มาก มีค่าไม่อาจประเมิณได้ ทั้งยังเป็นของสูงมากจนในชีวิตคนผู้หนึ่งมิอาจพานพบได้โดยง่าย เสด็จพระใหญ่จึงให้ท่านสร้างองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรด้วยมวลสารทำคัญนี้

ท่านทำให้รู้ว่าเป็นของสูงนั่นคือทำเป็นรูปองค์พระประทับอยู่ใต้ร่มฉัตร(เป็นพระร่มเย็นอย่างที่สุด) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้ใช้ดับร้อนผ่อนเย็นให้เห็นประจักษ์แก่ตาเป็นอัศจรรย์นัก ด้วยฉัตรนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ มีบารมีของเจ้านายองค์สำคัญทั้งยังเป็นของมงคลมีอาถรรพ์ในตัว มีคุณวิเศษใช้ป้องกันสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาไม่ให้เข้ามาในชีวิตได้อย่างเด็ดขาด ท่านว่าให้อธิษฐานเอากับองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรว่าอะไรคือสิ่งที่ไม่ต้องการ,สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เลยภายใต้เงาเศวตรฉัตรที่สาดทับร่างกายอยู่นี้ ทั้งเป็นของสูงมากขององค์ผู้กล้าแต่ต้นกรุงที่ชำรุดจนยากแก่การซ่อมแซม พ่ออาจารย์ท่านจึงนำทั้งส่วนที่เป็นผ้าแลหวายที่เป็นก้านเป็นยอดซึ่งลงชาดหรดาลปิดทองเอาไว้ทั้งยังกลีบจำปีกระดาษสาอันชำรุดแทบจะป่นเป็นผุยผงนำมาตำโขลกตะไบให้เป็นผงละเอียดบดด้วยมือของท่านเองเพื่อเป็นมวลสารพระชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกตินั้นฉัตรจะเป็นเครื่องประกาศเกียรติยศเช่นนั้นพระร่มฉัตรจึงนำเอาเกียรติยศชื่อเสียงความมั่นคงมั่งคั่งทุกอย่างที่จุดสูงสุดในชีวิตคนควรจะมีเข้ามาหาเราได้อย่างง่ายดายเพราะท่านดึงเอามาจากพระบารมีที่รวบรวมไว้ในฉัตรขององค์ผู้เป็นเจ้าของนั่นเอง ทั้งฉัตรยังเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของผู้นำของเจ้าแผ่นฟ้าแผ่นดิน เป็นยอดแห่งชัยชนะถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งที่ได้พึ่งบารมีองค์หลวงพ่อร่มฉัตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉัตรที่มีหลายชั้นนั้นเพราะแต่ละชั้นใช้แสดงความยิ่งใหญ่ประกาศออกไปทั้งแปดทิศรวมไปถึงสวรรค์และบาดาลด้วย เช่นนั้นท่านจึงว่ามีอาถรรพ์มากด้วยเป็นเครื่องเกียรติยศที่ใช้ประกาศชัยชนะทั้งสิบทิศเหนือประเทศราชน้อยใหญ่..ว่าไร้พ่ายในยุคนั้น เป็นสัญลักษณ์ของพระจักรพรรดิ์ที่แสดงบารมีด้วยจำนวนชั้นของร่มฉัตรเช่นนั้น เป็นเครื่องสูงที่สำคัญที่สุดเช่นเดียวกับพระมหามงกุฏทีเดียว ดั่งองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรที่ทรงชนะในจักรวาลเพราะทรงเป็นจักรพรรดิแห่งโลกุตรแดนนิพพานและจักรวาลเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีอาถรรพ์มากเอาว่าอาราธนากันให้ดีทั้งแปดทิศนี้ไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดเลย ทั้งอาถรรพ์นั้นยังไม่สามารถถอดถอนแก้ไขหรือทำลายได้ ไม่ต้องกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าไหนกริ่งเกรงว่าใครจะมีบารมีมีเทวดาองค์ใดคุ้มเลย ด้วยภายใต้เงาฉัตรนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนองค์เจ้าของนั้นท่านไม่แพ้ไม่ลงให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น เรียกว่ามีแต่คนกลัวท่านและกลัวมาทุกยุคทุกสมัยไม่เคยปรากฏว่าท่านจะกลัวใครทั้งนั้น

ในมือหลวงพ่อถืออะไร !!!
พระพิมพ์สำคัญนี้เสด็จพระใหญ่ท่านกำหนดพิมพ์ทรงเอง ท่านให้พ่ออาจารย์ท่านปั้นหุ่นเทียนเป็นพระพุทธรูปแปลกตาโดยเฉพาะ นั่นคือให้องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนั้นทรงถือแส้ปัดรังควานเอาไว้ด้วย ด้วยแส้นั้นท่านจะได้ใช้โบกไปมาเพื่อปัดเป่า ปัดรังควานสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ปัดสิ่งชั่วร้าย ปัดทุกข์ ปัดโศก ปัดโรค ปัดภัย ปัดออกไปไม่ให้ต้องกายเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้มีอาถรรพ์มาก เพราะท่านปัดหมดแม้เรื่องน่ารำคาญเล็กๆน้อยๆในชีวิตทั้งหลาย ทั้งอุปสรรคมารผจญและเศษกรรมตลอดจนบททดสอบทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นก่อนความสำเร็จ อะไรที่น่ารำคาญสำหรับเราองค์หลวงพ่อพระทศพลท่านปัดให้หมดทั้งสิ้นไม่ให้เข้าใกล้...เฉียดใกล้ตัวเราแม้แต่น้อย นี่คืออาถรรพ์ของพระทรงแส้ปัดรังควาน ปัดให้ชีวิตเราสะอาดราบเรียบ ปัดอุปสรรค ...ปัดศัตรูด้วยพระบารมี พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากให้ท่านปัดสิ่งใดออกไปให้พ้นชีวิตเราก็อธิษฐานกันเอาเลย ด้วยแส้นี้เป็นที่หวาดกลัวของหมู่มารและเทวดามิจฉาทิฏฐิอย่างถึงที่สุด

ฝูงแมวมากจากไหน
ด้วยพระพิมพ์นี้องค์ปฐมท่านกำหนดไว้ชัดเจนว่าภายใต้ร่มฉัตรนั้นให้องค์พระประทับแวดล้อมอยู่ด้วยฝูงแมว เพราะแมวเป็นสัตว์พิเศษใครเห็นก็นิยมเอ็นดูอยากเข้าหาอยากอยู่ใกล้ แม้จะหยิ่งจะเชิดใส่ก็ไม่มีใครโกรธมีแต่จะยิ่งรักเมตตาเช่นนั้นทั้งแมวยังมีสัมผัสพิเศษมีสัญชาตญาณสามารถมองเห็นในสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ไม่รู้สึก เช่นนั้นฝูงแมวอาคมเหล่านี้จึงมีอำนาจในการป้องกันพลังชั่วร้ายทุกรูปแบบตลอดจนภูติผีปีศาจไม่ให้ย่างกรายมายุ่งเกี่ยวกับชีวิต เพราะแมวเขาจะรู้สึกได้เองว่าชีวิตเราต้องแก้ไขตรงไหน ตรงไหนมีสิ่งไม่ดีมีพลังงานลบแฝงอยู่ เขาจะคอยขับไล่วิญญาณร้ายและพลังงานลบให้พ้นจากอาณาเขตของเขาไม่ให้สิ่งเหล่านั้นคอยรบกวนอยู่ในอาณาเขตได้เลย เช่นนั้นฝูงแมวนี้ก็จะมองเราเป็นอาณาเขตของเขาเช่นกันที่จะคอยสอดส่องขับไล่ไม่ให้พลังงานร้ายในกายเรากำเริบขึ้นมาจนส่งผลต่อชะตาชีวิตเราได้ ***ทั้งเขาจะคอยปกป้องตัวเราให้พ้นหรือออกห่างจากอำนาจแห่งคำสาปแช่งทั้งหลายที่ติดตัวมา ด้วยแมวเป็นสัตว์ให้คุณคือคอยส่งพลังและสิริมงคลให้แก่เราคอยปกป้องเราจากสิ่งเร้นลับ นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังว่าแมวฝูงนี้เป็นยอดแมวเพราะเขาจะให้โชคลาภแก่เจ้าของทั้งเรียกโชคลาภเงินทอง ช่วยให้ทำมาหากินคล่องไม่ติดขัด มีชีวิตเจริญก้าวหน้า พระพิมพ์นี้ใครได้ไว้จะเป็นผู้มีโชคนานับประการ(โดยเฉพาะการเสี่ยงโชคได้โชคจากสิ่งที่มองไม่เห็นไม่คาดฝัน) ท่านใช้รกแมวมาเป็นส่วนผสมมวลสารครั้งนี้ด้วยเพราะองค์พระมีรูปของฝูงแมวอยู่ ซึ่งรกแมวนั้นได้ชื่อว่ามีอาถรรพ์ช่วยให้ทำมาค้าขึ้นจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ทั้งรกยังเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตทางเดียวยามทารกอยู่ในครรภ์ เช่นนั้นผู้ใดมีรกแมวที่เสกเรียกอาการลงอาถรรพ์วิชามาอย่างดีจึงเท่ากับมีเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตตนเองให้อิ่มสุขอุดมสมบูรณ์ได้ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำองค์พระที่นั่งล้อมด้วยฝูงเจ้าเหมียวนี้ให้สำเร็จได้ก็ไม่ใช่ของง่าย เพราะองค์ปฐมท่านให้เราหารกแมวถึงหกชนิดมาเป็นมวลสารในการทำครั้งนี้
- รกแมวขาวสำลี ช่วยเยียวยาส่วนที่เสียหาย เรื่องที่พังพินาศในชีวิต รวมไปถึงคอยส่งพลังเยียวยาจิตใจความรู้สึกที่ถูกบั่นทอนอยู่เสมอของเราตลอดเวลา
- รกแมวสีส้ม เน้นในเรื่องหน้าที่การงานช่วยให้การเงินมั่งคั่ง เป็นพลังนำมาซึ่งชีวิตที่มั่นคงแน่นอนไม่สั่นคลอน ทั้งยังไร้โรคช่วยให้สุขภาพดีอายุยืน
- รกแมวสามสี ช่วยให้มีโชคอย่างถึงที่สุดไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในน้ำแม้แต่อยู่ในถ้ำก็ยังปกปิดความโชคดีของเราไม่ได้ ทั้งยังคอยปกป้องเราออกจากภัยร้ายทั้งหลาย
- รกแมวเทา นำมาซึ่งความเมตตาเอ็นดูของชนทั้งหลาย ทั้งความรัก ความสุข ความอบอุ่น ช่วยให้เราโชคดีอย่างน่าประหลาด ทั้งยังช่วยให้เราใจเย็นให้อารมณ์เราสงบมากขึ้น
- รกแมวดำ เน้นในเรื่องแก้ปัญหาทั้งหลายให้หมดไปจากชีวิตเจ้าของ เวลาเจอปัญหาอะไรจะช่วยให้เราเห็นทางออกทางแก้ไขได้อย่างชัดเจนเหมือนมีญาณหยั่งรู้
- รกแมววิเชียรมาศ ช่วยปกป้องเราจากคนคิดร้าย คนที่คอยอิจฉาริษยารอบด้านรอบกาย ทั้งยังนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศและชักนำความสำเร็จสู่ชีวิต
ด้วยแมวเป็นสัตว์ที่จะเข้าหาเราเอง เช่นนั้นรกทั้งหลายนี้จึงเป็นพลังงานที่จะพุ่งเข้าหาเราเอง ใครที่กลัวกุมารทองกลัวลูกกรอกแมวเหล่านี้ท่านว่าใช้รกแมวได้เลยเพราะเขาให้คุณไม่มีโทษด้วยเป็นเพียงรกไม่ใช่กุมาร ทั้งแมวยังเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีเก้าชีวิตคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายมีใครปองร้ายก็รอดภัยรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้ทุกครั้ง ท่านจึงถือว่าองค์พระนี้มีคุณพิเศษนั่นคือฆ่าอย่างไรก็ไม่ตายดั่งเราเป็นแมวเก้าชีวิตเช่นนั้น ด้วยถือว่าองค์พระศาสดาเคยเสวยพระชาติเป็นพญาวิฬามาแล้วทุกพระองค์พ่ออาจารย์ท่านจึงนำรกแมวชุดนี้เชิญครูเชิญองค์พระมาเสกให้ทำวิชาความขลังให้เต็มที่ตามที่แต่ละองค์ถนัดก่อนจะนำมาเป็นมวลสารต่อไป

พระพิมพ์นี้ท่านทำเป็นรูปองค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรสาดพระรัศมีแข่งกับสุริยะจันทร์ นั่นคือไม่มีรัศมีใดๆในโลกจะมาแข่งขันหรือสู้กับพลังอำนาจจากองค์หลวงพ่อได้ เรียกว่ากลบทับทุกรํสมีทุกตัวตนเช่นนั้น ด้านหลังท่านอุดด้วยมวลสารสำคัญนั่นคือผง....ฉัตรผสมด้วยผงรกแมวหกชนิดล้วนๆแบบแก่มวลสารที่สุด ทั้งยังได้ฝังของวิเศษไว้ด้วย
-อัศวราชกัณฐกะ ม้าอันเป็นสหชาติกับพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งมีบุญที่เกิดมาเพื่อร่วมบำเพ็ญบารมีทุกชาติภพ ด้วยเป็นม้าพระที่นั่งของพระโพธิสัตว์จึงถือเป็นราชาม้า เมื่อพระ มหาโพธิสัตว์ได้ข้ามห้วงวัฏสงสารออกบวชไปแล้ว พญาม้ากัณฐกะได้ตรอมใจไปจุติเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นามว่ากัณฐกะเทพบุตร พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่หนหลังยกย่องม้าเทพตัวนี้กันยิ่งนัก เพราะเป็นหนึ่งในสมบัติจักรพรรดิแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะนำความสุขสมหวังในทุกสิ่งมาให้แก่ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านหล่อรูปม้ากัณฐกะทั้งเชิญทิพย์อำนาจแห่งกัณฐกะเทพบุตรมาสถิตย์ด้วยอานิสงค์นี้รูปม้านี้จึงมีอำนาจนำเราข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคใหญ่น้อยได้เหมือนเมื่อครั้งม้าแก้วนำองค์โพธิสัตว์ข้ามพ้นวัฏสงสารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำอาถรรพ์พญาม้าว่า "คึกคะนอง สำเร็จรวดเร็วดั่งลมพัด" ดั่งพญาม้านำพามหาสัตว์ข้ามพ้นสังสารวัฏเช่นใดความทุกข์และอุปสรรคใดๆเพียงพญาม้าโลดแล่นก็ผ่านได้หมด ทั้งยังมีแรงอันประเสริฐด้วยว่าเทพยดาทั้งหลายมาสิงรักษาอยู่ในส่วนต่างๆทำให้มีฤทธิ์มากแม้เหาะข้ามสมุทรก็ยังได้ เช่นนั้นผู้ใดได้รูปหล่อพญาม้าที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญทิพย์ญาณตลอดจนลงอาถรรพ์เรียกเหล่าเทพเจ้าเข้าสถิตย์ตามส่วนต่างๆเสริมฤทธิ์ให้แก่พญาม้าแก้วนี้ ดุจผู้นั้นได้สมบัติจักรพรรดิ์ที่จะนำความสุขสมบูรณ์มาให้โดยฉับพลัน สิ่งใดที่เป็นธุระบอกกล่าวพี่ม้าให้พาเราไปส่งถึงจุดหมายจะสำเร็จเร็วกว่าปกติไม่ติดขัดในสิ่งใดทำการณ์ใดก็สำเร็จรวดเร็วเจริญก้าวหน้ารวดเร็ว ท่านว่ามีพลังม้าแก้วนี้ติดตัวเราทำอะไรก็คล่องตัวอย่างมากสำเร็จเร็วดั่งสายฟ้าฟาดส่งมีเรี่ยวแรงคึกคะนองผิดสังเกตุ ไอ้เรื่องเห็นผลเร็วเห็นผลไวเอาว่าไม่ต้องพูดกันเพราะไม่มีอะไรจะพูดด้วยนี่คือที่สุดของเครื่องมงคลที่จะส่งคุณให้ถึงความฝันได้ หากชีวิตมีสิ่งที่หมายปอง หากเรายังมีจุดหมายที่สูงกว่าบารมีเราจะพาไปได้ เช่นนั้นอย่าเพิ่งถอดใจไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเปลืองแรงขวนขวายเพียงแค่อาศัยพี่ม้านี้ไปก็เท่านั้น

ด้านล่างพี่ม้านั้นท่านนำองค์ธาตุอาตมันมาวางเรียงเป็นกลุ่มดาวเหนือ เป็นอาถรรพ์หนุนส่งชีวิตเราให้ก้าวพ้นเหนือดวงดาวและเหยียบย่างไปบนเส้นทางหมู่ดาว คือยิ่งวิ่งยิ่งสูงพ้นแสงสุริยะจันทร์ขึ้นไป ทั้งดาวเหนือทั้งเจ็ดยังถูกเรียกแทนด้วยชื่อของจักรพรรดิ เพราะดาวทุกดวงมีเทพรักษาด้วยเป็นกลุ่มดาวที่มีคุณมากใช้กำหนดทิศทางในยามค่ำคืนมานานหลายพันปี เช่นนั้นจีนโบราณจึงถือว่ากลุ่มดาวเหนือนั้นเป็นดั่งราชรถของเง็กเซียนฮ่องเต้พ่ออาจารย์นำพี่ม้าขึ้นกลุ่มดาวจึงเสมือนว่าเป็นม้าเทียมราชรถช่วยให้มีอาถรรพ์สำเร็จทุกกิจได้ฉับพลันทันที ทั้งกลุ่มดาวเหนือนี้แกนจักรวาลที่เคลื่อนหมุนไปทีละน้อยทำให้เกิดฤดูกาลความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ
เมื่อนำองค์ธาตุอาตมันมาจำลองเป็นกลุ่มดาวจึงมีฤทธิ์มาก ช่วยให้มีอำนาจปราบภูติผีไล่เหล่ามารปีศาจ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังที่จะบัญชาการทวยเทพทั้งหลายให้เข้าอุปภัมภ์ช่วยเหลือได้ พ่ออาจารย์ว่าองค์ธาตุเรียงกันเป็นกลุ่มดาวนี้มีอาถรรพ์มาก ใช้ได้ทั้งข่มและปราบปรามอย่างรุ่นแรง ปราบภัยได้ทุกชนิด สะกดอาถรรพ์อวิชชาได้ทุกอย่าง พลิกกลับเรื่องร้ายเป็นเรื่องดีได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจมาก ***ใช้ได้แม้กระทั่งดึงคนมีอำนาจสูงลงมาให้เราเหยียบเป็นทางเดินของเราเป็นบริวารของเราได้ ทั้งยังนำมาซึ่งอำนาจยศฐาเรียกคนสารพัดที่จะใช้ ใช้ได้ทั้งเตือนภัยและคอยสะท้อนคำสาปได้ทุกชนิดทุกประเภท
ด้านหลังที่ท่านวางองค์ธาตุเป็นรูปดาวเหนือนั้น ก็ด้วยองค์พระทศพลบพิตรนั้นมีคุณทางด้านบรรเทาวิบากกรรมอยู่แล้ว อำนาจแห่งดวงดาวนี้จึงยิ่งหนุนและเสริมส่งให้แรงขึ้นไปอีก เพื่อปรารถนาจะให้ผู้ใช้มีพลังใจจะได้สร้างคุณงามความดีต่อไป ท่านจึงลงอาถรรพ์ดาวเหนือนี้เพื่อบรรเทาวิบากกรรม ท่านว่าองค์ธาตุกลุ่มดาวนี้มีอาถรรพ์มากแม้คนชั่วหากกลับใจก็ยังใช้ได้ ท่านต้องเสกจนดาวส่องประกายก่อวิถีเชื่อมต่อมรรคาฟ้าดินเชิญเจ็ดเทพสถิตย์ชำระแผ่นดิน แม้ดาวนี้อยู่ที่ไหนก็ตกต่ำไม่ได้...เหนือคน .เหนือดาวด้วยกันทั้งสิ้น ช่วยให้ชนะนำพาชีวิตด้วยแสงสว่างในยามที่สิ้นไร้หนทาง ต้องสว่างฉับพลัน รุ่งเรืองฉับพลัน ท่านลงอาถรรพ์ให้ชีวิตเราเป็นดั่งอาณาเขตของหมู่ดาวเหนือมีแต่ต้องเหนือต้องสว่างมากยิ่งๆขึ้นไป ดั่งดวงของเรามีฟ้ามีดวงดาวคอยโอบอุ้มชะตาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้อาราธนาเถิดชีวิตจะผลิดอกออกผลทันทีต้องเหนือคนใหญ่โต แม้คนดวงตกชีวิตพังทลายดวงแตกท่านว่าหากยังไม่ตายก็ให้เร่งขวนขวายไว้เถิดจะตกต่ำไม่ได้ติดดินก็ไม่นาน นี่คืออำนาจดาวเหนือหนุนชีวิต จะหนุนให้เหนือทุกผู้คน เหนือกว่าใคร ไปได้สูงกว่าทุกคนเช่นนี้ เพราะเป็นดาวของผู้นำ ยิ่งชีวิตใครต้องสู้ต้องประชันขันแข่งแก่งแย่งกับคนอื่นยิ่งแพ้ไม่เป็น ตัวของเราชื่อของเราจะสว่างไม่รู้ดับไปชั่วกัปกัลป์ ดั่งความเชื่อจีนโบราณที่ว่าองค์จักรพรรดิหรือเทียนตี้คือผู้ที่มาจากดาวเหนือ กลุ่มดาวเหนือจึงเป็นดาวที่ใช้แทนองค์จักรพรรดิ์ ดึงพลังอำนาจความยิ่งใหญ่สู่ตัวเราโดยตรงผ่านองค์ธาตุอาตมันเช่นนั้น
****ซ้ำองค์ธาตุเม็ดเล็กๆนั้นก็ยังมีอานุภาพมากดั่งที่ท่านเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู
*** เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน
การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน
พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น
องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น
*** ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง
บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้
นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)
ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรเป็นเจ้านั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเป็นเครื่องมงคลสูงค่ามาก ทั้งชีวิตท่านก็ทำได้เพียงครั้งเดียว ใครจะได้ ใครจะมีวาสนาก็ให้องค์หลวงพ่อกับเจ้าของมวลสารท่านดลใจเลือกคนของท่านเอง ### แต่หากจะถามเราว่าใครคือเจ้าของมวลสารนั้นเอาเป็นว่าเราบอกไม่ได้ พูดได้แต่เพียงได้ยินชื่อเท่านั้นก็สะดุ้งไปเจ็ดชั่วโคตร เอาว่าใช้นำพลังอาถรรพ์นำพุทธคุณมาหนุนตัวเท่านั้นก็พอ ที่ไม่ควรรู้ไม่ควรเอ่ยก็อย่าไปรู้ใดๆเลย

คาถาบูชา
วิ เว โก อัง เย หิ (หมั่นอาราธนาองค์พระจะไม่เดือดร้อนด้วยภัยใดๆเลย)

*** องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้หกองค์แต่ท่านอาราธนาสวมคอท่านองค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้จองพร้อมแจ้งวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากตลอดจนสิ่งติดขัดในชีวิตบอกเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะลงอาถรรพ์วิชาทั้งสื่อสารกับดวงพระวิญญาณ..ให้เพื่อจะได้สงเคราะห์รวดเร็วเป็นรายบุคคลไป รายได้ร่วมสร้างห้องน้ำในวัดทุรกันดารสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา องค์หลวงพ่อพระทศพลบพิตรพระร่มฉัตรทรงแส้ปัดรังควาน(ฝูงพญาวิฬา,อัสดรกัณฐกะเหยียบหมู่ดาว) บูชา 4,000 บาท

​

 

มีแจ้งประสบการณืเข้ามา ว่าพระเนื้อผงของพ่ออาจารย์ท่านสามารถใช้อธิษฐานขอบารมีครูบาอาจารย์ขูดผงผสมน้ำแก้ฤทธิ์ยาเสน่ห์ยาเสียตัวได้ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่พอจะรู้ตัวและรู้สึกไม่ดีก็รีบทำเลย เค้าแจ้งคร่าวๆเล่าให้ฟังมาแบบนี้

*** ในเครื่องมงคลบางอย่างก็ตามที่เคยบอกไว้ว่ามีคุณร้อยแปดประการสุดแล้วแต่จะใช้ คือในสถานการณ์จวนตัวจะอาราธนาใช้ทางไหนก็ได้ทั้งนั้น

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ศิระ EI 5692 5081 0 TH

พี่พรหมพล EI 5692 5082 3 TH

พี่ทวีพงษ์ EI 5692 5083 7 TH

พี่วิชัย EI 5692 5084 5 TH

พี่ภิญโญ EI 5692 5085 4 TH

พี่กฤตยชญ์ EI 5692 5086 8 THฃ

พี่พรเทพ EI 5692 5087 1 TH

พี่ณธพรหม EI 5692 5088 5 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

หากกล่าวถึงวิชาพระอรหันต์แปดทิศแล้วคาดว่าหลายๆคนคงจะรู้จัก แต่กลับกันหากเป็นมหาโพธิสัตว์แปดพระองค์อันนี้น้อยคนจะเคยได้ยิน

เห็นถามๆกันมาอยากได้เคื่องมงคลที่พกน้อยและไม่แพงเอาแบบคุ้มๆเลย อันนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคุ้มสุดเพราะเหมือนได้ของใหญ่ราคาเบา ประมาณว่าเหมือนเช่าเหมือนห้อยทีเดียวแปดองค์ แต่จบในอย่างเดียว ลองคิดเล่นๆถ้าปกติองค์ละสี่พันก็ตกสามหมื่นสองแล้ว แต่นี่คืออย่างเดียวจบจึงเรียกว่าน่าจะเป็นรายการที่เรียกว่าคุ้มที่สุด ใครชอบแบบคุ้มค่าไม่ต้องพกเยอะติดตามกันไว้นะ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้รอบเย็นติดตามกันไว้นะครับ ของมีไม่มากถ้าหมดแล้วรับรองว่าไม่ต้องหาที่ไหนอีก

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่วุฒิชัย EI 5692 3432 1 TH

พี่สรวุฒิ EI 5692 3433 5 TH

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอัษฏมบรมโพธิสัตว์สงเคราะห์โลก(ตัวครูแปดพลัง - แปดจอมราชัน)

หากจะกล่าวถึงวิชาพระอรหันต์แปดทิศนั้น พ่ออาจารย์ท่านจะนิยมใช้ศาสตร์ที่ครูเทพครูพรหมประสิทธิ์ไว้เฉพาะแก่ท่านมากกว่า นั่นคืออัษฏมหาโพธิสัตว์หรือที่ท่านเรียกว่าแปดจอมราชัน ซึ่งเหล่ามหาโพธิสัตว์ทั้งแปดนี้จะเป็นดั่งกำแพงแก้วแวดล้อมองค์พระพุทธเจ้าทั้งแปดทิศ แต่ละพระองค์ล้วนมีฤทธิ์และให้คุณต่างๆกันไป

ซึ่งแปดมหาโพธิสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละองค์ล้วนมีบารมียิ่งใหญ่และมีการนับถือกันมายาวนานหลายพันปีทั้งในอินเดีย จีน ทิเบต ชวา อินโด... โดยทั้งแปดพระองค์นั้นได้แก่ 1.พระเมตตรัย(พระศรี) 2.พระคคนคัญชะ 3.พระสมันตภัทร 4.พระวัชรปาณี 5.พระมัญชุศรี 6.พระสรรวนิวรณวิษกัมภี 7.กษิติครรภ์ 8.พระขครรภ์ ทั้งแปดพระองค์นี้พ่ออาจารย์ท่านถือเป็นครูใหญ่สายมหาโพธิสัตว์อันมากปาฏิหาริย์ทั้งสิ้น เรียกว่าท่านยกเป็นครูสายปาฏิหาริย์บารมีอันไม่มีประมาณแม้พระองค์ใดพระองค์หนึ่งก็มีฤทธิ์สุดหยั่งคาดเป็นที่สุด เมื่อครูทั้งแปดทิศมาประชุมกันและออกโองการให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดแปดจอมราชันขึ้นมาได้ โดยใช้สูตรและคาถาแปดบทแทนองค์ท่านทั้งแปด ซึ่งการชักยันต์วาดยันต์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนเป็นเวทย์สวรรค์ทั้งสิ้น แต่ละยันต์แต่ละมหาสัญลักษณ์นั้นครูท่านจับมือเราเขียน(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ท่านว่าตะกรุดแปดจอมราชันนี้มีคุณเป็นอนันต์ไร้จุดบกพร่อง เรียกได้ว่ามีพลังงานและบารมีอันจะโปรดโลกได้เต็มทั้งแปดสายครอบคลุมหมื่นโลกธาตุ

อันมหาโพธิสัตว์(แปดจอมราชัน)ในแต่ละพระองค์นั้นย่อเป็นตัวแทนของคุณวิเศษแตกต่างกันไป
1. พระเมตตรัย หรือพระศรีอริยเมตไตรย เป็นที่รู้จักกันดีทั้งยังเป็นที่นับถือของชาวพุทธทุกนิกาย ตามความเชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ที่จะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระศากยมุนีหรือพระโคตมพุทธเจ้า
พระองค์ท่านเป็นตัวแทนของ "มหาไมตรี" อันได้แก่ความเป็นมิตรไมตรี ความเมตตาปรารถนาดีอันไม่มีประมาณที่พระองค์ท่านจะถ่ายทอดผ่านเวทย์สวรรค์ภายในตะกรุดเข้าสู่เราผู้รับโดยตรง ด้วยเชื่อว่าท่านมีความเมตตาเสมอด้วยเมตตาขององค์พระศาสดาที่มีต่อสรรพสัตว์ ท่านจะถือพระองค์ดั่งเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับเราอยู่เสมอ เช่นนั้นองค์พระเมตตรัยนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ย่อมมีจิตสงเคราะห์ไปในโลกธาตุทั้งมวล อานุภาพของท่านจะเกื้อกูลและนำประโยชน์ที่เราปรารถนามาให้ จะเปลี่ยนสิ่งที่ผิดเป็นถูก เปลี่ยนเส้นทางที่พังพินาศเป็นหนทางที่ราบเรียบ

2. พระคคนคัญชะ เป็นตัวแทนของ"มหากรุณาและมหาอุปายะ" พระองค์เป็นมหาโพธิสัตว์ที่ได้รับการนับถือตั้งแต่ในอินเดียลงมา พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้จะมีกำลังด้านสมาธิช่วยเหลือผู้ที่หมั่นปฏิบัติตนทำสมาธิทั้งหลาย ซึ่งท่านเป็นตัวแทนของมหากรุณาเช่นเดียวกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เช่นนั้นตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูในโลกทิพย์ท่านจึงกำชับให้เป็นเคล็ดลับว่าต้องลงไว้ทั้งสองกำลังอันเป็นตัวแทนแห่งมหากรุณาของที่สุดทั้งสองนั่นเลยทีเดียว
เช่นนั้นหากพูดถึง"มหากรุณาและอุปายะ"แล้วก็จะมีกำลังของพระอวโลกิเตศวรอยู่เต็มพระบารมีแห่งมหาสัตว์เจ้า ด้วยองค์อวโลกิเตศวรนั้นก็มีผู้นับถืออย่างมากถึงขั้นเรียกว่าเป็นมหาโพธิสัตว์ในอุดมคติ เพราะท่านตั้งใจที่จะโปรดสัตว์อันตกทุกข์ทั้งหลายในทุกแง่มุมให้สิ้นทุกภพภูมิ เช่นนี้จึงนับว่าเป็นตัวแทนของมหากรุณาเช่นกัน
ทั้งสองพระองค์นี้ล้วนมีกรุณาธิคุณอันไม่มีประมาณ เป็นกรุณาธิคุณเสมอด้วยองค์พระสัมมาสัมโพธิญาณที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเป็นกรุณาอันประกอบด้วยปัญญาและอุบายที่จะยกเอาตัวผู้อาราราธนาออกจากทุกข์เข็ญ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ท่านโปรดไม่เลือกชั้นวรรณะจะยากดีมีจนท่านโปรดหมด เพราะคติของท่านคือไปคนเดียวไม่ได้ ท่านไม่ทิ้งสรรพสัตว์ไม่ทิ้งผู้ที่หวังพึ่งท่าน...คือท่านไม่ทิ้งเรา ท่านจะช่วยเราด้วยจิตกรุณาหากเรายกตะกรุดนึกถึงท่านเช่นนี้ ผู้อาราธนาจะได้อาศัยพระกรุณานี้นำตนข้ามพ้นความวิบัติล่มจมทั้งหลายได้ในฉับพลัน

3. พระสมันตภัทร เป็นตัวแทนของ "มหาจรรยา" ด้วยอำนาจของมหาโพธิสัตว์องค์นี้จะช่วยอำนวยแก่เราในด้านความสำเร็จทุกกิจที่พึงคิดพึงทำ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งหากเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยแล้วท่านยิ่งโปรดมากเลย ท่านจะรักษาและส่งเสริมเป็นพิเศษ องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีกำลังกล้าแกร่งมากเพราะพระองค์ท่านเป็นตัวแทนของบารมีทั้งหก ยิ่งถ้าใครหวังความสำเร็จในการงานหน้าที่หรือกิจทางโลกทั้งหลาย ต้องอาศัยบารมีขององค์สมันตภัทรเท่านั้น
ท่านเป็นตัวแทนกำลังของ"มหาจรรยา" หรือจริยาวัตรของพระพุทธเจ้าทั้งหลายอันมีที่มาจากโพธิสัตว์จรรยานี้ เริ่มตั้งบุคคลทั่วไปประพฤติกุศลกรรมบถพัฒนาตนเองจนเกิดศรัทธาปรารถนาโพธิญาณ...ยาวนานไปจนได้รับพุทธพยากรณ์บำเพ็ญบารมีในแต่ละขั้นบรรลุภูมิบรรลุธรรมทั้งหลายเพื่อจะตรัสรู้และหมุนกงล้อธรรมจักรอนุเคราะห์สรรพสัตว์ต่อไป เช่นนี้กำลังแห่งมหาจรรยาจึงยิ่งใหญ่มากครอบคลุมผู้ปฏิบัติธรรมและเหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้บารมีท่านจึงใหญ่เพราะหน้าที่ของท่านครอบคลุมวงจรแห่งมหาจรรยาทั้งหมด

4. พระวัชรปาณี เป็นตัวแทนของ"มหาพละ" ท่านมีหน้าที่คอยคุ้มครองพระพุทธเจ้าและพระธรรมวินัยดั่งมีอีกนามปรากฏว่าพระธรรมบาลโพธิสัตว์ ด้วยท่านถือวัชระอันเป็นได้ทั้งสายฟ้าและเพชรเป็นเทพศาสตรา พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้มีญาณเฉียบคมว่องไวดุจสายวัชระฟาดฟันกิเลสทั้งปวง ท่านคอยคุ้มครองอารักขาแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย บ้างก็ว่าท่านจำแลงกายมาเป้นยักษ์บ้างถือกระบองเพชรบ้าง บางครั้งก็จำแลงเป็นเทพสง่างามดั่งพระอินทร์บ้าง...ท่านจำแลงได้ทั้งสิ้น
ท่านมีหน้าที่ขจัดสิ่งชั่วร้ายและอุปัทวอันตรายทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าบารมีครูองค์นี้โปรดใครเอาว่าชีวิตปลอดภัยไม่เลือดตกยางออกทั้งคนพาลทุจริตหรือใครที่โดนคนอื่นรังแกพวกนี้ ถ้าเราถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเลวร้ายในชีวิตเราท่านจะขจัดให้ทันทีไม่ได้เฉียดใกล้กันเลย
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาพละ" หรือกำลังทั้งสิบของพระพุทธเจ้า นั่นคือกำลังแห่งญาณอันนับเป็นตถาคตพลญาณอันประกอบขึ้นเป็นที่มาแห่งนามทศพลนั่นเอง เช่นนั้นครูองค์นี้จึงมีกำลังญาณลึกซึ้งสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่ามีกำลังอันเกิดจากญาณเกิดจากฤทธิ์ไม่มีประมาณ อยากได้อะไรเห็นผลไวทันตาก็ลองออกนาม เรียกบารมีท่านในตะกรุดแล้วขอท่านดู

5. พระมัญชุศรี เป็นตัวแทนของ"มหาปรัชญา" พระองค์เป็นมหาโพธิสัตว์ยุคต้นที่รู้จักกันมากว่าเก่าแก่ที่สุด ท่านเป็นผู้เลิศด้วยปัญญา โปรดนำพาแสงสว่างเป็นดวงปัญญาให้กับคนที่ดวงตามืดบอด พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีปัญหาพวกชีวิตเส้นผมบังภูเขา รู้และยอมรับว่าตัวเองขาดตัวปัญญาทำอะไรไม่รอบคอบทำลงไปแล้วค่อยมาเสียดายที่หลังว่าไม่น่าทำเลย ทำไมแค่นี้เราคิดไม่ได้ แค่เรื่องนี้เราลืม เรามองข้ามไปได้อย่างไร ...เหล่านี้ ท่านให้ขอองค์พระมัญชุศรีโปรดนำชีวิตเพียงเท่านี้ทุกอย่างที่กล่าวมาจะเปลี่ยนได้หมดเลย
พระองค์ท่านชอบนักปราชญ์ ให้การอภิบาลแก่ผู้มีปัญญา ทั้งยังเป็นมหาโพธิสัตว์ที่เป็นเจ้าแห่งตำราและศิลปวิทยาการทั้งปวง ใครที่หวังความเจริญในการศึกษา อยากเข้าใจแจ่มแจ้งในแขนงงานใดหรือกิจใดที่จะกระทำเพื่อให้กิจนั้นออกมาดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอบารมีพระมัญชุศรีเสีย
ด้วยเป็นตัวแทนของ"มหาปรัชญา" หรือดวงปัญญา กล่าวง่ายๆคือท่านเป็นดั่งพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อาราธนากำลังแห่งมหาปรัชญานี้เราจะรอบรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ใจของเราจะหยั่งรู้เหตุและผลมีความเข้าใจในสภวะทั้งหลายรอบตัวตามความเป็นจริง ทั้งองค์พระมัญชุศรีนี้ยังประกอบไปด้วยญาณรู้สิ่งทั้งปวงอันจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้อาราธนา(ท่านจะจัดและคัดสรรค์ทุกอย่างมาเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเราเพื่อการพัฒนาตนเองจริงๆ)

6.พระสรรวนีวรณวิษกัมภีน เป็นตัวแทนแห่ง"มหาคุณ" องค์นี้ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ขจัดนิวรณ์ธรรมทั้งปวงจะไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักหรืออาจถูกลืมไปเลยในชนรุ่นหลัง แต่คุณวิเศษของท่านนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่างานหลักเลยคือขจัดอุปสรรค ใครที่ชีวิตมีอุปสรรคเครื่องขัดขวางเยอะ ดูอะไรแล้วขวางหูขวางตายังไม่พอใจกับชีวิตตนเองให้ขอบารมีองค์นี้
แม้อุปสรรคในการปฏิบัติธรรม พวกนั่งไม่ติดนั่งแล้วตัวทุกข์กำเริบ อารมณ์กระเจิดกระเจิง...ต่างๆเหล่านี้ก่อนปฏิบัติให้ยกตะกรุดขอบารมีท่านคุมไว้จะไม่มีอาการเหล่านี้ปรากฏเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะลืมท่านเพราะคนที่ปฏิบัตินั้นน้อยลงเต็มที ก็เอาเป็นว่าขอทางโลกให้ขอกับองค์อื่นแต่วันไหนนึกอยากปฏิบัติธรรมเห็นมรรคเห็นผลก็ให้ขอเอากับองค์นี้
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาคุณ" คือองค์คุณแห่งการตรัสรู้ การรู้แจ้งของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งยังมีกำลังเหนือนิวรณ์และกิเลสสิ่งมัวหมองที่คอยขัดขวางไม่ให้คนบรรลุคุณธรรม ไม่ให้ชีวิตมีความก้าวหน้า ท่านจะกำจัดนิวรณ์คืออุปสรรคเหล่านั้นให้ถึงซึ่งธรรมแห่งการตรัสรู้ ทั้งวิชชา วิมุติ และนิพพาน

7. พระกษิติครรภ์ ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาปณิธาน" องค์นี้จะมีผู้นับถือมากในหลายๆประเทศด้วยมีคุณสมบัติเด่นชัดทางมหากรุณา(กรุณาต่อสัตว์มาก)แต่ท่านชัดเจนที่สุดในมหาปณิธานไปพร้อมๆกัน ด้วยปณิธานของท่านนั้นมีอยู่ว่า "ตราบใดที่นรกยังไม่ว่างจากสัตว์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ขอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า"
ท่านชอบโปรดสัตว์ในนรกภูมิ โดยเฉพาะสัตว์เฉพาะคนที่ตกทุกข์ได้ยากรับทัณฑ์โทษทุกข์ทรมานเหล่านี้ ท่านจะอาศัยฤทธิ์เดชบรรเทาให้ออกจากทุกขเวทนาทั้งหลาย ทั้งยังคอยชี้แจงบาปบุญให้ใจเรารู้สึกรู้สำนึกมีสติเกิดขึ้น รู้คิดว่าสิ่งไหนคือบาปคือบุญผิดหรือถูกควรหรือไม่ควรเพื่อให้ชนทั้งหลาย....มีโอกาสได้กลับใจ
ด้วยท่านคอยช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานในอบายภูมิจึงได้รับการนับถือในฐานะพระโพธิสัตว์แห่งคนตายและดวงวิญญาณ ทั้งยังให้การพิทักษ์แก่ผู้อ่อนแอและพ่ายแพ้ในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าใครเป็นโรคที่รักษาไม่หายให้ขอบารมีท่านเลยเอาตะกรุดแกว่งน้ำขอบารมีท่านรักษาดื่มกินได้เลย
ท่านเป็นตัวแทนของ"มหาปณิธาน" หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคืออธิษฐานบารมี การอธิษฐานด้วยความตั้งใจและทำไปอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ดั่งมหาปณิธานของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่บำเพ็ญมานับภพชาติไม่ถ้วนก่อนได้ตรัสรู้ เป็นปณิธานอันเด็ดที่ที่มีแต่ความสูญเสียในทุกๆสิ่งแม้แต่ชีวิตก็ยังไม่ละทิ้งเป้าหมายเช่นนั้นเพื่อไปให้ถึงพระโพธิญาณเพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์หรือผู้อื่นไม่ใช่เพื่อตนเอง
พ่ออาจารย์ท่านว่าใครขอบารมีพระกษิติครรภ์นี่ท่านจะทำให้อย่างถึงที่สุดเลยเพราะคุณของท่านนั้นเป็นเป้าหมายที่มีไว้สำหรับผู้อื่น เป็นหน้าที่ซึ่งต้องเห็นผู้อื่นมาก่อนตนเองเสมอเช่นนั้นท่านจึงช่วยเราอย่างเต็มที่ พวกที่เกิดมานับชาติไม่ถ้วนไม่มีบุญเก่าไม่มีบารมีไม่มีวาสนาติดตัวเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกตะกรุดขึ้นขอบารมีท่านแล้วรีบหมั่นทำกุศลอย่าได้ขาด เพียงเท่านี้ท่านว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่นั่นทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลานั่งอดนั่งรอที่ไม่รู้ว่าจะรออะไรไปวันๆ ท่านจะช่วยเราไปจนถึงซึ่งความสุข ถึงสุคติภูมิ ถึงพระนิพพานนั่นทีเดียว

8.พระขครรภ์(อากาศครรภ์) เป็นตัวแทนแห่ง"มหาสมาธิ" ท่านเป็นองค์กำลังของสุญญตาและอนัตตาคือความไม่มีตัวตนของสิ่งต่างๆ องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญมากใครที่รู้ตัวเองว่าเคยทำความผิด ให้อธิษฐานบอกเล่าความผิดสารภาพบาปกับพระองค์ก่อนเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่เช่นนั้นท่านว่าเริ่มไปมันก็ไม่เดินเพราะติดบ่วงกรรม มันเดินไปต่อไม่ได้
ท่านเป็นพระโพธิสัตว์แห่งการปลงอาบัติ,การสารภาพบาปและการกลับใจ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้โปรดสัตว์ผู้กระทำชั่วให้กลับมาประพฤติธรรม ทั้งยังอยู่ในฐานะพระโพธิสัตว์แห่งสมาธิ,ความบริสุทธิ,ความรู้,ภูมิปัญญา...การประทานพรและความโชคดี ใครที่อยากขอขมากรรมต่อบิดามารดาผู้ล่วงลับหรือครูบาอาจารย์แม้แต่ผู้ที่เคยล่วงเกินทั้งหลาย ท่านว่าให้จบตะกรุดขึ้นออกนามพระองค์ขอบารมีพระองค์ฝากคำขอขมาของเราไปพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมไปถึงทั้งหมดทีเดียว (อันนี้สำหรับคนที่ทำมาหากินไม่ขึ้นควรจะทำ)

ท่านเป็นตัวแทนของมหาสมาธิ อันเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ทรงเข้าออกเพื่อแสดงธรรมอันมีหัวข้อต่างๆ เป็นสมาธิอันเป็นที่มาแห่งคุณวิเศษมากมาย

อันมหาโพธิสัตว์ทั้งแปด หรือจะเรียกว่าตะกรุดแปดพลังนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากมากเพราะแต่ละทิศแต่ละยันต์ที่ใช้แทนครูแต่ละพระองค์นับได้ว่ามีอาถรรพ์สูงมีคุณวิเศษค่าควรเมือง ในอดีตนั้นท่านเคยออกให้บูชาเฉพาะผู้มีเคราะห์หนักคนหนึ่ง เขาว่าใส่ไปเรื่อยๆก็เห็นองค์พระโพธิสัตว์มาโปรดเขา(ไม่รู้องค์ไหน) มายืนยิ้มให้เขาเห็นแต่เห็นโดยตาเนื้อนั่นทีเดียว ที่รู้ว่าเป็นโพธิสัตว์เพราะเขาว่าคนที่ไหนจะมีรัศมีกายเวลายืนยิ้มมองมาที่เรา หลังจากเขาเอาตะกรุดไปสารภาพบาปของเขา ก็หมั่นเร่งทำบุญชีวิตมีแต่ดีขึ้นๆจนเดี๋ยวนี้มีครบในสิ่งที่คนสมบูรณ์แบบควรจะมี ไม่มีทุกข์ร้อนใดๆเลย พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บเอาไว้เพราะตั้งใจจะใช้สงเคราะห์คนด้วยเป็นตะกรุดที่มีอาถรรพ์มาก ทำยากและแรงครูสูง

ด้านในท่านอุดผงวิเศษที่ลบถมจากมวลสารเฉพาะ นั่นคือมวลสารอันเป็นตัวแทนพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ที่แต่ละพระองค์ท่านให้หามาทำเป็นผงก่อนจะลงอาถรรพ์กำกับทีละชนิด แล้วจึงนำมาปั้นรวมเป็นแท่งเขียนผงวิเศษหลากหลายสูตร ตั้งแต่ผงดอกบุนนาค(แทนพระเมตตรัย),ผงบัวหลวง(แทนพระอวโลกิเตศวร),ผงสุริยะมณฑล(แทนพระสมันตภัทร),ผงตะไบวัชระ(แทนพระวัชรปาณี),ผงดอกบัวขาบ(แทนพระมัญชุศรี),ผงจันทรมณฑล(แทนพระสรรวนี),ผงจินดามณี(แทนพระกษิติครรภ์),ผงตะไบพระขรรค์โบราณ(แทนพระอากาศครรภ์)

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดรุ่นนี้ทำไว้ได้น้อยนักและจะทำครั้งเดียว ผู้ที่ได้ไปให้ใช้สวมคอและครองเอาไว้ให้ดีเถิดท่านว่ามีคุณเป็นเอนกประการสุดแล้วแต่จะอาราธนา ถ้าไม่ทำตัวต่ำช้า ทำเรื่องชั่วมากเกินเยียวยา... ใช้ตะกรุดแปดจอมราชันต้องดีขึ้นทุกคน

คาถาบูชา
อัษฏา โพธิสัตตวายะ ตทยถา เมตตรัยยะ คคนคัญชะ สมันตภัทร วัชรปาณิ มัญชุศรี สรรวนิวรณวิษกัมภี กษิติครรภ์ ขครรภ์ สะเจติ

*** รายการนี้มีทั้งหมดห้าดอก พ่ออาจารย์ท่านใช้ปักกระถางธูปเชิญครูทั้งแปดมาสงเคราะห์อยู่ดอกหนึ่ง มีให้บูชาสี่ดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วยเพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องเจิมบอกกล่าวครูบาอาจารย์ให้อีกครั้ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดอัษฏมบรมโพธิสัตว์สงเคราะห์โลก(ตัวครูแปดพลัง - แปดจอมราชัน) บูชา 4,000 บาท

​

 

รายการที่ลงคืนนี้ท่านไม่ให้พูดเยอะ พ่ออาจารย์ท่านว่ารสำคัญมากจริงๆ เพราะห้อยเพียงเบาๆดอกเดียวก็ครบองค์ผู้อุปถัมภ์ใหญ่ทั้งแปดไม่ต้องห้อยเยอะ เอาว่าอ่านกันดีๆเพราะท่านบอกว่ามีอยู่สองสามเรื่องที่คนหลายๆคนอยากใช้ตะกรุดนี้แล้วก็ต้องใช้ให้ได้ถึงไม่เสียชาติเกิด

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เรื่องตะกรุดแปดจอมราชันก็มีเรื่องที่เล่ามาเมื่อวานให้พูดถึงกันรอบเช้าอีกอย่าง พี่ที่เขาจองเมื่อวานเล่าให้ฟังว่าตัวเขาลาพุทธภูมิแล้ว แต่ก็เนื่องกับมหาโพธิสัตว์ใหญ่หลายๆองค์ หลังๆถ้าเครื่องมงคลเป็นสายโพธิญาณจัดๆ เฉพาะกลุ่ม ผมจะไม่ร่วมบุญเลย ตะกรุดนี้ก็เหมือนกัน

ถ้าเมื่อคืน(คืนก่อนหน้าที่จะเปิดจอง)ไม่มีนิมิต 1 ใน 8 ท่านมาสงเคราะห์ก็คงจะไม่บูชา พี่เค้าเล่าว่ามาแบบพี่สุดหล่อที่สงเคราะห์ให้เห็นนิมิตถึงคืนก่อนจองเป๊ะเลย ตอนแรกก็ไม่ได้สนนิมิตแต่พออ่านแล้วท่านเตือนมาย้ำให้ร่วมบุญไว้ เผื่อใช้สงเคราะห์ตนเองรึบริวารลูกหลานของท่านในอนาคต

ตะกรุดนี้ต้องบอกว่าเขาตามคนของเขาและไม่ใช่ตามเพื่อมาให้เห็นให้ใจชุ่มเย็นแค่นั้น หากแต่ตามสงเคราะห์ช่วยเหลือกันจริงๆ ซ้ำยังมีถึงแปดท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ ต้องเรียกว่าครอบคลุมปัญหาชีวิตเอาไว้ทุกด้าน ต้องมีสักวันหนึ่งที่เราจะเจอเหตุการณ์หนึ่งและสับเปลี่ยนเป็นเรื่องๆอื่นๆ เอาว่าไม่พ้นแปดเรื่องนี้แน่นอน แต่หลักๆเลยแอบบอกใบ้เอาไว้ ท่านทำให้ใช้สารภาพบาปแล้วก็ใช้คุณของมหาสัตว์ทั้งแปดในด้านอื่นๆต่อได้ทันที พ่ออาจารย์ท่านว่ารุ่นนี้ใครห้อยไม่นานจะมีอยู่มีกินเอาไปทำหลอดทองใส่กันทุกคน เป็นการสำทับให้เห็นถึงอนาคตอันใกล้นั่นทีเดียว