หายนะ อเมริกา ตาม พระคัมภีร์ วิวรณ์ บทที่17....

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 28 มิถุนายน 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]


    17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย

    17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"

    17:3 ทูตสวรรค์องค์นั้นได้นำข้าพเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารโดยพระวิญญาณ และข้าพเจ้าได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสัตว์ร้ายสีแดงเข้มตัวหนึ่ง ซึ่งมีชื่อหลายชื่อเป็นคำหมิ่นประมาทเต็มไปทั้งตัว มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา

    17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน

    17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อไว้ว่า "ความลึกลับ บาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่แห่งสิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก"

    17:6 และข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นเมามายด้วยโลหิตของพวกวิสุทธิชน และโลหิตของคนทั้งหลายที่พลีชีพเพื่อเป็นพยานของพระเยซู เมื่อข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็อัศจรรย์ใจยิ่งนัก

    17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น

    17:8 สัตว์ร้ายที่ท่านได้เห็นนั้นเป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และมันจะขึ้นมาจากเหวที่ไม่มีก้นเหวเพื่อไปสู่ความพินาศแล้ว และคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก ซึ่งไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่แรกทรงสร้างโลกนั้น ก็จะอัศจรรย์ใจ เมื่อเขาเห็นสัตว์ร้าย ซึ่งได้เป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และกำลังจะเป็น

    17:9 นี่ต้องใช้สติปัญญา หัวทั้งเจ็ดนั้นคือภูเขาเจ็ดยอดที่หญิงนั้นนั่งอยู่

    17:10 และมีกษัตริย์เจ็ดองค์ ซึ่งห้าองค์ได้ล่วงไปแล้ว องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ และอีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็นขึ้น และเมื่อเป็นขึ้นมาแล้ว จะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

    17:11 สัตว์ร้ายที่เป็นแล้วเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นนั้นก็เป็นที่แปด แต่ก็ยังเป็นองค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น และจะไปสู่ความพินาศ

    17:12 เขาทั้งสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้นคือกษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่จะรับอำนาจอย่างกษัตริย์ด้วยกันกับสัตว์ร้ายนั้นหนึ่งชั่วโมง

    17:13 กษัตริย์ทั้งหลายนั้นมีน้ำพระทัยอย่างเดียวกัน และทรงมอบฤทธิ์และอำนาจของตนไว้แก่สัตว์ร้ายนั้น

    17:14 กษัตริย์เหล่านี้จะกระทำสงครามกับพระเมษโปดก และพระเมษโปดกจะทรงชนะพวกเขา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย และทรงเป็นพระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย และผู้ที่อยู่กับพระองค์นั้นเป็นผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียก และทรงเลือกไว้ และเป็นผู้ที่สัตย์ซื่อ"

    17:15 และทูตสวรรค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ

    17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ

    17:17 เพราะว่าพระเจ้าทรงดลใจเขาให้กระทำตามพระทัยของพระองค์ โดยการทรงทำให้พวกเขามีความคิดอย่างเดียวกัน และมอบอาณาจักรของเขาให้แก่สัตว์ร้ายนั้น จนถึงจะสำเร็จตามพระวจนะของพระเจ้า

    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"


    จาก
    http://software77.com/onlinebibles/thai/66_017.htm
     
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ผมแปรได้บางคำบางประโยค ครับ เชิญท่านผู้ มีความรู้ ตีปริศนา ด้วยกัน ครับ ผมตีได้คร่าวๆ จากที่เคยอ่าน เคยฟังมา เด๋ว มาต่อ ละกัน
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
  4. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    อ่านแล้ว งง ครับ ถึงเป็นภาษาไทยก็เถอะ อ่านแล้วมันไม่เข้าใจ เลยรุสึกอึดอัดไงพิกล
     
  5. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ pongsiri ครับ มันเป็นการเปรียบเทียบโดยการใช้สัญลักษณ์แทนอ่ะครับ ผู้หญิงที่อ้างถึงก็ไม่ใช่เป็นผู้หญิงจริงๆหรอก แต่เป็นการเปรียบเทียบถึงสิ่งๆหนึ่ง
     
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    แปลได้ บางบท เคยฟัง กับอ่านๆๆ มา


    17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย

    หญิงแพศยา ใช้แทน พฤติกรรมของ อเมริกา ครับ นิสัย อยู่ด้วยผลประโยชน์ หลอกลวง สำส่อนไปทั่ว เห็นๆ กันอยู่ ....คือเค้าใช้คำได้แรงและ น่า รังเกียจ มาก....แล้ว ตกลงในความเป็นจริง อเมริกา ทำตัว น่ารังเกียจ ขนาดนั้น เชียวหรือ ท่อนนี้จะกล่าวถึง จุดจบบางประการของ อเมริกา

    "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ

    17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"

    ความสัมพันธ์ ประเทศทั้งหลาย ในโลก กับ อเมริกา อำนาจ วัฒนธรรม ข่าวสาร เศรษฐกิจ ครอบคุมทั่ว โลก ทุกประเทศ จะถูก ระบบอเมริกา กลืน เดินตามเอมริกาเป็นแถบ เพราะวัฒนธรรม ทางวัตถุของเอมริกา จะตอบ สนอง กิเลส มนุษย์ ได้ สุดๆ ....ทุกประเทศจะ นิยม เหมือนกับ หลงไหล มัวเมา เหล้า องุ่น ให้เห็นว่า เป็นคุณค่า เป็นอารยธรรม ที่แสนวิเศษ ตามอำนาจ พลัง ข่าวสาร ที่ อเมริกา ประเคน หลอกล่อ ยัดเยียด ให้


    17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน

    การล่วงประเวณี ให้ดู ประวัติศาสตร์ครับ หลังจากอังกฤษ หมดอำนาจ มหาอำนาจ..อเมริกาเข้ามาแทนที่...ด้วย...การที่พยายามจะเป็นเจ้าโลก....อเมริกาได้ทำ...อะไรไว้ในโลกบ้าง.......อเมริกาใช้ทุกวิถีทาง แห่ง ระบบ ทุนนิยม...สร้างความหายนะ อะไรกับ โลกใบนี้บ้าง.....ดูดกลืนทรัพยากรณ์ จากประเทศต่างๆ...เข้าไป ยุ่ง เข้าไป แหย่ ใคร บ้าง........หยาดน้ำตาเท่าไหร่..เลือดเท่าไหร่..ทำความแค้น ให้ ประเทศใหนบ้าง...ถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน หมายถึง อานาจทางการเงินเศรษกิจ บน ความหายนะ ของ ประเทศต่างๆ


    17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น

    หมาย ถึง อเมริกา และ บรรดา ประเทศ คูค้า คู่ร่วมผลประโยชน์ อุ้มชูกันอยู่


    17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ

    เขาสิบเขา น่าจะเป็นกลุ่ม ประเทศ พันธมิตร ทาง เศรษ กิจ ที อเมริกาพึ่งพาอยู่...อยู่ด้วยผลประโยชน์......ไม่จริงใจ..ในที่สุด...ถึงคราวแตกหัก.....อเมริกาเจอ เอาคืน...สุดท้าย เจอ ไฟ ซึ่ง เป็นนิวเคลีย แน่ๆ


    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"

    ประเทศ มหาอำนาจ อเมริกาแน่นอน บท นี้



    ใครแปลได้ ลุ่มลึก ละเอียด กว่า ผม เชิญครับ












     
  7. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    เข้าใจแล้วครับ อธิบายได้ใจความดีครับ
    (อ่านแล้วผมต้องค่อย ๆ แปล แต่บางทีผมก็แปลไม่ถูกเหมือนกัน)
     
  8. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ลองดูลิงค์ที่คุณเกษมส่งมาก็ได้ครับ มีอธิบายดีเหมือนกัน คนที่ไม่ค่อยมีพื้นหรือรู้เรื่องนี้มากนักจะพอได้แนวในการตีความ แต่เค้าก็ไม่ได้ฟันธงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
     
  9. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998

    ผมแปลนำทางให้แล้ว ใครจะต่อ อันนี้เอาจากอีกที่หนึ่ง


    ทูตสวรรค์องค์ที่สองได้ประกาศให้รู้ว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว บาบิโลนมหานคร ได้ถูกพูดถึงชัดเจนยิ่งขึ้นในบทที่ 16:18-19 และในบทที่ 18 ซึ่งได้กล่าวถึงบาบิโลนเป็นมหานครอย่างน้อย 9 แห่ง

    14:8 ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งเป็นองค์ที่สองตามไปประกาศว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว ล่มจมแล้วนครนั้นทำให้ประชาชาติทั้งปวงดื่มเหล้าองุ่น แห่งความกำหนัดของเธอในการร่วมประเวณี

    16:18-19 "และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์มาเกิดบนแผ่นดินโลกไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลย มหานครนั้น ก็แยกออกเป็นสามส่วน และบ้านเมืองของนานาประชาชาติก็ล่มจม พระเจ้ามิได้ทรงลืมมหานครบาบิโลน พระองค์ทรงให้มหานครนั้นดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธอันใหญ่หลวงของพระองค์"

    17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อแฝงความหมายไว้ว่าบาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่สิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก

    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นคือ นครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก

    18:2 ท่านได้ร้องประกาศเสียงกึกก้องว่า "บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปีศาจเป็นที่สิงอยู่ของผีโสโครกทุกอย่างที่ไม่สะอาด

    และน่าเกลียด"

    18:7 นครบาบิโลนได้เย่อหยิ่งจองหอง และเสเพลมากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทนงใจว่า เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย

    18:10 พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งการทรมานแห่งนครนั้น และกล่าวว่า"วิบัติแล้ว วิบัติแล้วบาบิโลนมหานคร ที่ยิ่งใหญ่เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น"

    18:15-17 บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครบาบิโลนนั้นจะยืนอยู่แต่ไกล เพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้นพวกเขาจะไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดังว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วงและผ้าสีแดงเข้ม ที่ได้ประดับด้วย ทองคำ เพชรพลอยต่างๆ และไข่มุกนั้นเพียงในชั่วโมงเดียวทรัพย์สมบัติเหล่านั้นพินาศ ศูนย์ไปสิ้น และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือพวกลูกเรือและคนทั้งหลาย ที่มีอาชีพทางทะเลก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ

    18:18-21 และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟไหม้นครนั้นก็ร้องว่า นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้และเขาก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำ ครวญว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนี้อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวง ที่มีเรือกำปั่นเดินทะเลได้ เป็นคนมั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์สมบัติของนครนั้นภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่ร้างเปล่า แน่ะเมืองสวรรค์บรรดาธรรมิกชน อัครทูตและพวกผู้เผยพระวจนะทั้งหลายจงร่าเริงยินดีเพราะนครนั้นเถิด เพราะ พระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษนครนั้นให้ท่านทั้งหลายแล้ว แล้วทูตสวรรค์ องค์ที่มีฤทธิ์มากก็ได้ยกหินก้อนหนึ่งเหมือนหินโม่ใหญ่ทุ่มลงไปในทะเล แล้วว่า บาบิโลนมหานครนั้นจะถูกทุ่มลงโดยแรง อย่างนี้แหละและจะไม่มี เห็นนครนั้นอีกต่อไปเลย และจากภาพที่บรรยาย เราจะพบว่ามหานครบาบิโลนเป็นศูนย์กลางของโลกไม่ว่าระบบการเมือง (17:2,18) ระบบเศรษฐกิจ (18:11,15,19) ระบบศาสนา (17:3,6, 18:24) และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง (17:5, 18:2)

    ทูตสวรรค์องค์ที่สามได้ประกาศให้รู้ว่า ผู้ที่บูชาสัตว์ร้ายและรูปของมันคือ ผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายจะต้องรับพระพิโรธจากพระเจ้าเขาจะต้องถูกทรมานด้วยไฟ และกำมะถันตลอดไปนิตย์ ไม่มีการพักผ่อนเลยทั้งกลางวันและกลางคืน

    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_8.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2005
  10. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    พระธรรมวิวรณ์ บทที่ 6-11


    [​IMG]


    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]1. ตราทั้งเจ็ด [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 1 (6:1-2) ม้าขาวและผู้ที่ขี่ม้านั้นถือธนู [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ดูแล้วเหมือนภาพพระเยซูคริสต์ที่เสด็จมาพร้อมกับชัยชนะ เพราะทรงม้าขาวและได้รับพระราชทานมงกุฎ (19:11) แต่ไม่ใช่ เพราะชัยชนะของพระคริสต์นั้นไม่ได้อยู่ที่เริ่มต้น และพระองค์จะทรงพระแสง คือ พระวจนะ ไม่ใช่ธนู ภาพที่เห็นคือผู้ที่อ้างตนเป็นพระคริสต์ ปลอมตัวเหมือนพระคริสต์มาสร้างสันติให้กับโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]หลังจากที่คริสเตียนถูกรับไปแล้ว (rapture) คงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นทั่วโลก และผู้ขี่ม้าขาว คือพระคริสต์ปลอมได้มาจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนได้รับการยกย่องซึ่งเท่ากับประสบชัยชนะและได้รับพระราชทานมงกุฎ [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 2 (6:3-4) ม้าสีแดงสดและผู้ที่ขี่ม้านำสันติสุขไปจากโลก [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]จากสันติสุขที่ได้รับไม่นาน พระคริสต์เทียมเท็จก็ได้แสดงธาตุแท้ของมันออกมา โดยเปลี่ยนความสงบสุขเป็นการรบราฆ่าฟัน เปลี่ยนธนูที่ไม่มีลูกศรเป็นดาบใหญ่ และสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของเลือดที่ท่วมทั่วปฐมพี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงมาจากประชาชนที่ถูกหล่อหลอมมากับระบบเสรีประชาธิปไตย ยอมรับระบบเผด็จการของพระคริสต์ปลอมไม่ได้จึงเกิดสงครามฆ่าฟันผู้ที่ไม่ยอมสวามิภักด์ [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 3 (6:5-6) ม้าดำและผู้ที่ขี่ม้าถือตราชู [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]หลังจากสงครามสิ่งที่ตามมาคือ ทั่วโลกตกอยู่ในความมืดเพราะขาดแคลนอาหาร ทำให้เกิดความอดอยากหิวโหยไปทั่วแผ่นดิน ข้าวสาลีทะนานละหนึ่งเดนาริอัน หมายความว่าทำงานวันหนึ่งจะเพียงพอกับอาหารหนึ่งมื้อเท่านั้น ส่วนน้ำมันและน้ำองุ่นเป็นเครื่องหมายของเศรษฐกิจและความร่ำรวย ซึ่งเป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปที่กำลังอดอยาก เพราะอำนาจของเศรษฐกิจทั้งหมดอยู่ในมือของพระคริสต์ปลอมหรือผู้ต่อต้านพระคริสต์ [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 4 (6:7-8) ม้าสีกะเลียวและผู้ที่ขี่ม้าซึ่งได้ชื่อว่ามัจจุราช สีกะเลียวคือสีคนตาย [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]สภาพต่อมาของโลกในขณะนั้นคือความตายได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก เกิดสงครามแย่งชิงอาหารกันเพื่อความอยู่รอดอันเนื่องด้วยความอดอยาก มีผู้คนจำนวนมากมายล้มตายเพราะคมดาบ เพราะความอดยาก เพราะโรคระบาดและเพราะสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน จำนวนผู้ที่เสียชีวิตรวมแล้วเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรโลก [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 5 (6:9-11) ดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ดวงวิญญาณของผู้ที่ถูกฆ่าเพราะยืนหยัดในพระวจนะของพระเจ้าในช่วงภัยพิบัติ ร้องเรียกให้พระเจ้าทรงพิพากษาโลกนี้โดยเร็ววัน แต่พระเจ้าทรงตอบให้รอคอยอีกหน่อย จนกว่าจะครบจำนวนผู้ที่รอดตามที่กำหนดไว้ น่าสังเกตที่ก่อนหน้านี้พระเจ้าอนุญาตให้มีภัยพิบัติคร่าชีวิต[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]คนไปถึงหนึ่งในสี่ของประชากรโลก คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าพระเจ้าลงโทษหนักเกินไป แต่ที่นี่วิญญาณของผู้ชอบธรรมกลับเร่งเร้าให้พระเจ้าพิพากษาโลกนี้โดยเร็ว [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 6 (6:12-17) การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ดวงอาทิตย์จะไม่ส่องแสง เพราะฉะนั้นความมืดมิดจะเข้ามาครอบงำ และดวงจันทร์วันเพ็ญจะกลับเป็นสีเลือด ดวงดาวจะตกจากฟากฟ้า ท้องฟ้าจะหายไป (โยเอล 2:10-11) แผ่นดินไหว ภูเขาจะสั่นเทือนและเลื่อนจากที่เดิม มนุษย์ต่างต้องการหาที่ซ่อนตัวในถ้ำและโขดหินตามภูเขาเพราะเกิดความหวั่นกลัว[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]การลงโทษจากพระเจ้า [/font]
     
  11. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]บทที่ 8 [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ตราที่ 7 (8:1-5) ซึ่งได้เป็นแตรทั้ง 7 ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ ได้รับพระราชทานแตรเจ็ดคันเตรียมพร้อมที่จะเป่า และก่อนที่จะเป่าแตร พระเจ้าทรงให้ทูตสวรรค์อีกองค์ถือกระถางไฟทองคำถวายคำอธิษฐานของธรรมมิกชน[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]สู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า หลังจากนั้นให้โยนกระถางไปนั้นลงบนพื้นดินโลกซึ่งทำให้เกิดเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบ และแผ่นดินไหว [/font]

    [​IMG]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]2. แตรทั้ง 7 (8:6-15) [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 1 (8:6-7) ลูกเห็บและไฟปนเลือด [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 1 ถูกเป่าเป็นเหมือนการเริ่มต้นลงโทษโลกนี้อีกระดับหนึ่ง ลูกเห็บที่ตกลงมาได้ทำลายพืชผัก ต้นไม้ที่อยู่ตามที่โล่ง เราสามารถดูภาพเปรียบเทียบได้จาก อพยพ.9:18-26 ส่วนไฟปนเลือดนั้นเป็นไปตามคำพยากรณ์ของโยเอล 2:30 ว่า เราจะสำแดงลางอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดินเป็นเลือดและไฟและลำควัน ผลจากลูกเห็บและไฟปนเลือดแผ่นดินโลกไหม้ไปหนึ่งในสาม ต้นไม้ หมายถึงพืชผลด้วยไหม้ไปหนึ่งในสาม อาหารด้านพืชผักจะขาดแคลนอย่างมากมาย หญ้าเขียวสดเป็นอาหารของสัตว์ที่ให้นมและเนื้อแก่มนุษย์ก็ถูกทำลายสิ้น [/font]
    [​IMG]


    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 2 (8:8-9) ภูเขาใหญ่ที่ลุกไหม้ถูกทิ้งลงทะเล [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ภาพของสิ่งที่เหมือนภูเขาใหญ่มีไฟลุกไหม้อยู่ถูกทิ้งลงไปในทะเล อาจเป็นเพลิงไฟที่ตกจากฟ้าลงสู่ทะเลตามตัวอักษร แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่าเป็นอุกกาบาตที่ยังลุกไหม้อยู่ตกลงมาสู่ทะเล[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]หรืออาจเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกยิงสู่อวกาศแล้วตกลงสู่ทะเล อย่างไรก็ตามผลของลูกไฟที่ตกลงทะเลทำให้หนึ่งในสามส่วนของทะเลกลายเป็นเลือด หนึ่งในสามส่วนของสัตว์ทะเลตายลง และหนึ่งในสามส่วนของเรือสินค้าพินาศไป นี่ไม่เพียงเกิดปัญหามลภาวะเท่านั้น อาหารส่วนหนึ่งของมนุษย์จะขาดหายไป การขนส่งทางทะเลก็มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 3 (8:10-11) ดวงดาวที่ชื่อบอระเพ็ดตกลงตามธารน้ำ [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ลักษณะเดียวกับดวงไฟที่ตกลงทะเลของแตรที่ 2 ต่างกันที่นี้บอกไว้ชัดเจนว่าเป็นดวงดาวดวงใหญ่ที่เป็นเปลวไฟ และตกลงที่ธารน้ำจืด ทำให้น้ำจืดของโลกหนึ่งในสามส่วนกลายเป็นรสขม รสขมในพระคัมภีร์จะใช้เป็นเครื่องหมายของความเศร้าโศก และความขมขื่น (เฉลยธรรมบัญญัติ. 29:18) ผลที่เกิดขึ้นน่าเวทนายิ่ง เพราะน้ำดื่มซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์หนึ่งในสามส่วนต้องกลายเป็นพิษ มนุษย์จำนวนมากต้องเสียชีวิตลงจากการดื่มน้ำที่เป็นพิษ หรือจากการขาดน้ำดื่ม[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 4 (8:12) ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวมืดไป [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ภัยพิบัติจากแตรสามคันที่ผ่านมามีผลทำลายพื้นดินและน้ำ เพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น แต่การที่ระบบสุริยะจักรวาลมีปัญหา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวมืดไปหนึ่งในสามมีผลต่อทั้งแผ่นดินโลก เพราะเมื่อขาดพลังที่มาจากแสงอาทิตย์ ระบบของธรรมชาติก็ดี การดำเนินชีวิตทั่วไปก็ดี จะเกิดปัญหาตามมา เช่น อากาศเป็นพิษ ความหนาว พืชผัก สัตว์เลี้ยงและอาหารทั้งหลายตรงกับพระธรรมอาโมส 5:18 ได้บรรยายถึงวันแห่งพระเจ้าว่าเป็นวันแห่งความมืด [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 5 (8:13, 9:1-12) ฝูงตั๊กแตนจากช่องบาดาล [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ก่อนเริ่มเป่าแตรที่ 5 มีนกอินทรีตัวหนึ่งบินมาประกาศว่าวิบัติจะมีแก่มนุษย์ในโลก ร้องว่า วิบัติ 3 ครั้ง ซึ่งเกี่ยวกับแตร 3 คันที่เหลืออยู่ น่าสังเกตที่แตร 4 คัน ที่เป่าไปแล้วมีการทำลายสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวมนุษย์ แต่แตรที่เหลืออยู่อีก 3 คัน แต่ละคันจะเป็นการทำลายคนที่อยู่ในแผ่นดินโลก คำว่า คนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลก ถูกใช้ในพระธรรมวิวรณ์ 12 ครั้ง (3:10; 6:10; 8:13; 11:10; (2 ครั้ง) 12:12; 13:8; 13:12; 13: 14; 14:6; 17:2; 17:8) เป็นคำที่ตรงข้ามกับคำว่า บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ที่สวรรค์ (ฟิลิปปี.3:18-21) เมื่อแตรคันที่ 5 ถูกเป่าดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้า ดาวดวงนี้เป็นบุคคลไม่ใช่วัตถุสิ่งของ เพราะได้รับกุญแจช่องบาดาลมาด้วย และก็เป็นผู้เปิดช่องบาดาล เป็นที่เข้าใจว่าดวงดาวนี้ คือ ซาตานที่ถูกขับลงมาจากสวรรค์ ซึ่งมีชื่อว่าดาวประจำรุ่ง หรือ ลูซิเฟอร์ (อิสยาห์ 14:12-14) พระเยซูคริสต์ก็ทรงตรัสไว้ว่า เราได้เห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ (ลูกา 10:18) ช่องบาดาลเป็นที่อยู่ของสิ่งชั่วร้าย พวกมันถูกปล่อยออกมาและติดตามกษัตริย์ของมันคือซาตาน (11) ที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าผู้ทำลาย ตั๊กแตนในที่นี้ไม่ใช่ตั๊กแตนตามตัวอักษร เพราะถ้าเป็นตั๊กแตนสิ่งที่มันจะทำลายคือพืชผล แต่ตั๊กแตนเหล่านี้จะไม่ทำลายพืชผลทั้งหลายกลับจะทำการทำลายมนุษย์ที่อยู่ในโลก และตั๊กแตนจริงไม่มีเหล็กไนที่หางตั๊กแตนในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่ทำลายคน[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]หรือเป็นวิญญาณชั่วที่คอยทำร้ายคน แต่มันไม่มีสิทธิต่อผู้ที่ได้รับประทับตราของพระเจ้าบนหน้าผาก ผลที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ถูกทำร้ายคือทรมานอยู่ห้าเดือน พวกเขาจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ (9:6) [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]แตรที่ 6 (9:13-21) ทูตทั้งสี่แห่งยูเฟรติส [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]หลังจากเป่าแตรที่ 6 ทูตสวรรค์ที่เป่าก็ได้รับคำสั่งให้แก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่แห่งแม่น้ำ ยูเฟรติส ทูตสวรรค์ทั้งสี่เป็นทูตสวรรค์ที่เลวแน่ เพราะทูตสวรรค์ที่ดีจะไม่ถูกมัดไว้ พระเจ้าทรงเตรียมพวกเขาไว้สำหรับ (ชั่วโมง วันเดือน และปี) ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน จุดประสงค์พิเศษมนุษย์หนึ่งในสามที่ถูกฆ่ารวมกับหนึ่งในสี่ที่บันทึกในเรื่องตราดวงที่สี่ ที่ผู้ขี่ม้าสีกะเลียวชื่อมัจจุราชมาฆ่าทำลายแล้ว ร่วมเป็นครึ่งหนึ่งของมนุษย์ในโลกถูกทำลายในช่วงนี้ พลทหารสองร้อยล้านคนตัวเลขทหารสองร้อยล้านเป็นสิ่งที่ยากในอดีต[/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ที่ประเทศไหนในโลกจะมีทหารมากมายเช่นนี้ แต่เป็นได้แล้วในปัจจุบัน เป็นประเทศใดไม่ได้ถูกเจาะจงรู้แต่ว่ามาจากตะวันออก (16:12) และได้พยากรณ์ไว้แล้วในดาเนียล 11:44 [/font]

    [font=BrowalliaUPC, Browallia New]ข้อ 17-19 ภาพของม้าที่ฆ่าทำลายมนุษย์หนึ่งในสามนั้น เป็นภาพของอาวุธสงครามที่ชัดเจนมาก ไฟ ควัน และกำมะถันที่ออกจากปากนั้นเป็นกระสุน ระเบิดต่างๆ ที่พบเห็นได้ในสงคราม อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตคือ ข้อ 20-21 แม้มนุษย์จะอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ แทนที่จะกลับใจเสียใหม่ พวกเขากลับไปยึดรูปเคารพ กราบไหว้บูชาผี เชื่อในเวทมนต์ และดำเนินชีวิตที่ชั่วร้ายต่อไป [/font]

    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_6.html
     
  12. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    บทที่ 9

    พระธรรมวิวรณ์บทที่ 16:1-21
    1. ขันทั้ง 7 (16:1-21)
    ขันที่ 1 (16:1-2) เกิดแผลร้ายที่เป็นหนองทั้งตัว

    ยอห์นได้ยินเสียงดังมาจากพระวิหารสั่งทูตสวรรค์ทั้ง 7 ให้นำขันทั้ง 7 ที่เต็มไปด้วยพระพิโรธของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก

    ทูตสวรรค์องค์แรกก็เทขันลงบนแผ่นดินโลก คนทั้งหลายที่มีเครื่องหมาย 666 และบูชารูปของสัตว์ร้ายจะเกิดแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว มีแผลที่เป็นหนองทั้งตัว เป็นภาพที่น่ากลัวยิ่งกว่าภาพของพวกอียิปต์เกิดฝีแตกลามไปทั่วตัวคนและสัตว์ ในคราวภัยพิบัติเพราะฟาโรห์ไม่ยอมให้อิสราเอลออกจากอียิปต์ (อพยพ 9:10) อาจจะเป็นโรคที่ร้ายยิ่งกว่าโรคเอดส์ เพราะคนที่มีแผลร้ายนี้จะกัดลิ้นของตนด้วยความระทมและต่อว่าพระเจ้า (16:10) และมีความเจ็บปวดมาก (16:11) แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่พวกเขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติของตน ไม่ได้กลับตัวกลับใจจากความผิดบาป กลับสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์ (16:11) เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อบุคคลเหล่านี้ ก็สาสมกับพฤติกรรมของพวกเขาแล้ว



    ขันที่ 2 (16:3) ทะเลกลายเป็นเลือด

    เมื่อเป่าแตรที่ 2 ทะเลได้กลายเป็นเลือดเสียหนึ่งในสามส่วน สิ่งมีชีวิตก็ตายหนึ่งในสามและบรรดาเรือกำปั่นแตกเสียหนึ่งในสามส่วน (8:9) แต่เมื่อถึงขันแห่งพระพิโรธที่ทูตสวรรค์องค์ที่ 2 เทขันที่ 2 ลงในทะเล ทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดคนตายทั้งหมด และสิ่งมีชีวิตในทะเลก็ตายหมดสิ้น และแน่นอนระบบธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับอากาศ การเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตในโลกทั้งอยู่ใต้ทะเลและบนแผ่นดินต้องพบกับความหายนะ

    ที่ตามมา มีคำถามว่าทะเลที่กลายเป็นเลือดนั้นเป็นเลือดจริงๆ หรือเปล่า และทะเลซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากเช่นนี้ จะถูกทำลายทั้งหมดได้หรือ จากข้อเขียนที่ว่า เหมือนเลือดของคนตาย พอคาดคะเนได้ว่าไม่น่าจะเป็นเลือดแดงๆ ของมนุษย์หรือสัตว์ แต่เป็นไปได้ที่เป็นสารเคมีที่มีอยู่เต็มทะเลจนสัตว์ทั้งหลายไม่สามารถอาศัยดำรงชีวิต

    ได้ต่อไป เช่น น้ำมันที่มีอยู่ในทะเลยิ่งมายิ่งมาก ขยะและวัตถุที่ไม่ละลายหรือพลาสติกสิ่งเหล่านี้เป็นสสารทางเคมีที่นับวัน

    จะเพิ่มทวีมากขึ้น นับเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่าสภาพที่ทะเลจะถูกทำลายลงนั้น

    เป็นไปได้อย่างสูง เนื่องจากทะเลถูกทำลายนั่นเองมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก



    ขันที่ 3 (16:4-7) ธารน้ำทั้งหมดกลายเป็นเลือด

    ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันลงธารน้ำทั้งหลาย น้ำในแผ่นดินทั้งหมดก็กลายเป็นเลือด คงจะเป็นสภาพเดียวกันกับน้ำทะเลที่ถูกทำลายลงด้วยสารเคมีต่างๆ สำหรับแม่น้ำลำคลองแล้วยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะทุกวันนี้แหล่งน้ำดื่มเหล่านี้เริ่มมีปัญหาอยู่แล้ว ด้วยเหตุที่มนุษย์ขาดน้ำไม่ได้ เพราะฉะนั้นในนิมิตที่ยอห์นเห็นแม่น้ำกลายเป็นเลือดมนุษย์ก็ต้องดื่ม (16:6) และนี้เป็นผลจากการที่พวกเขาได้กระทำต่อธรรมมิกชนและผู้เผยพระวจนะ แม้ภาพที่เห็นจะทารุณกรรมสักเพียงใดแต่เสียงทูตสวรรค์และเสียงจากแท่นบูชา

    ได้ยืนยันว่าพระเจ้าบริสุทธิ์ ชอบธรรมเที่ยงธรรม และยุติธรรมที่ได้พิพากษาโลกนี้ สิ่งที่น่าสังเกตคือ การลงโทษที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลตอบสนองจากการกระทำของมนุษย์ต่อผู้อื่นรวมทั้ง

    ต่อธรรมชาติ



    ขันที่ 4 (16:8-9) ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ

    ทูตสวรรค์องค์ที่สี่ เทขันที่ 4 ลงที่ดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์กลายเป็นเพลิงไฟที่คลอกมนุษย์ ช่วงที่แกะตราที่ 6 ดวงอาทิตย์ได้มืดลงดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ เมื่อเป่าแตรที่สี่ ดวงอาทิตย์มืดไปหนึ่งในสามแต่ที่นี้ถึงช่วงขันที่ 4 ดวงอาทิตย์กลับร้อนแรงกล้า แผดเผามนุษย์จนกลายเป็นคลอกมนุษย์ด้วยไฟ สภาพเช่นนี้ที่เกิดขึ้งคงเกี่ยวข้องกับมหาสมุทรที่เสียไป เมื่อน้ำตามธรรมชาติถูกทำลายระบบหมุนเวียนของน้ำก็เสียไป เพราะฉะนั้นความแห้งแล้งคงมีไปทั่วแผ่นดิน พืชผักต้นไม้ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แผ่นดินแตกระแหง ทะเลทรายเพิ่มขึ้นรวมถึงมนุษย์ไม่มีน้ำดื่ม ต้องหิวกระหายน้ำเป็นภาพที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง แต่มนุษย์แทนที่จะสำนึกกลับใจมาขออภัยโทษจากพระเจ้า พวกเขากลับสาปแช่งพระนามพระเจ้าไม่ยอมถวายพระเกียรติแด่พระองค



    ขันที่ 5 (16:10-11) อาณาจักรสัตว์ร้ายมืดไป

    ขันที่ห้าเป็น เต็มตัว ขาดน้ำดื่ม น้ำใช้ ถูกความร้อนของดวงอาทิตย์แผดเผา เป็นสิ่งที่ระทมทุกข์ยิ่ง แต่แม้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ได้สำนึกผิดในการประพฤติของตน สัตว์ร้ายซึ่งเป็นที่บูชาของมนุษย์ก็ไม่สามารถรักษามนุษย์ได้ ตรงกันข้ามอาณาจักรของมันก็มืดไปเพราะอำนาจของพระเจ้า



    ขันที่ 6 (16:12-16) แม่น้ำยูเฟรติสเหือดแห้ง

    ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันลงที่แม่น้ำใหญ่ ทำให้แม่น้ำยูเฟรติสเหือดแห้ง เพื่อพวกกษัตริย์จากตะวันออกจะยกทัพมายังอารมาเกดโดน มีผีโสโครกสามตนรูปร่างคล้ายกบออกจากปากของพญานาค (ซาตาน) สัตว์ร้าย (ศัตรูของพระคริสต์) ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จและผีโสโครกทั้งสามเป็นวิญญาณชั่วที่ไปชักชวนกษัตริย์

    ทั้งหลายด้วยหมายสำคัญเพื่อมาทำสงครามกับพระเจ้า กษัตริย์จากตะวันออกหมายถึงประเทศอะไร มีผู้อธิบายแตกต่างกันไป แต่ที่น่าสังเกต คือ ต้องข้ามแม่น้ำยูเฟรติสไปยังตำบลที่เรียกว่าอารมาเกดโดน ประเทศอีกฟากของแม่น้ำยูเฟรติสมีมากมายและศึกษาจากภาพรวมเรื่องกำลังพลแล้ว

    รับว่ามีมหาศาลทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลระบุว่าเป็นประเทศอะไรบ้าง

    อารมาเกดโดน เป็นชื่อของที่เนินสูงของมาเกดโดน (har Megiddo) ที่นี่รวมถึงที่ราบแห่งเอสเดรโคลน (The plain of Esdraclon) มีพื้นที่กว้างประมาณ 14 ไมล์และยาว 20 ไมล์ นโปเลียนเคยบอกไว้ว่า ที่นี่เป็นสนามรบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของโลก สมัยผู้วินิจฉัยเดโบราห์และบาราคเคยรบชนะบรรดากษัตริย์คานาอันที่นี่และ

    ทหารอังกฤษเคยใช้ที่นี่เพื่อทำสงครามรบชนะทหารเตอร์กี ปี ค.ศ. 1917

    ผีร้ายทั้งสามชักนำพวกกษัตริย์ทั้งหลายทำสงครามกับพระเจ้า เพราะซาตานรู้ว่าเวลาของมันมีน้อยมาก พระเยซูคริสต์กำลังจะเสด็จมาที่ภูเขามะกอกเทศ (เศคาริยาห์ 14:4) เพราะฉะนั้นมันจึงรวมพลที่อารมาเกดโดนเพื่อต่อต้านการเสด็จกลับมาของพระองค์ และผลของสงครามอารมาเกดโดน คือ สัตว์ร้ายและผู้เผยพระวจนะปลอมถูกจับทิ้งลงในบึงไฟที่ไหม้ด้วยกำมะถัน พญามารถูกมัดไว้และทิ้งลงในบาดาลลั่นกุญแจประทับตรา 1000 ปี (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 19:11 - 20:3) น่าสังเกต ผีร้ายทั้งสามสามารถชักนำพวกกษัตริย์ทั้งหลายมาทำสงครามได้ก็ด้วยหมายสำคัญ

    หรือการแสดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แสดงว่าซาตานได้ใช้อิทธิพลต่างๆ ครอบงำจิตใจของผู้นำประเทศในขณะนั้น เพื่อมาทำสงครามกับพระคริสต์



    ขันที่ 7 (16:17-21) สำเร็จแล้ว

    สำเร็จแล้ว นั้นหมายถึงการพยากรณ์ถึงวันแห่งพระพิโรธที่มีทั้งหมดนั้นได้สำเร็จ เมื่อเทขันสุดท้ายลงที่อากาศ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในแผ่นดินทำให้มหานครน่าจะหมายถึง

    บาบิโลน (ในบทที่ 18) แยกเป็นสามส่วนและที่แสดงให้เห็นว่าเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในโลก คือเมืองใหญ่ของบรรดาประเทศทั้งหลายในโลกก็พังพินาศไปด้วย และบรรดาเกาะต่างๆ ภูเขาทั้งหลายก็หายไปหมด นักวิชาการที่มีทัศนะเห็นพ้องกับเรื่องก่อนพันปี (Premillenial) อธิบายเหตุการณ์ตอนนี้ว่าอาจเป็นการเคลียร์พื้นที่ต้อนรับการเสด็จมาปกครอง 1000 ปี ของพระคริสต์ในโลกนี้ก็ได้ ในนิมิตขันที่ 7 นี้ยังบันทึกว่าได้มีลูกเห็บที่ใหญ่ที่สุดในโลกตกลงสู่พื้นถูกคนทั้งหลาย คือประชาชนทั่วโลก มนุษย์แทนที่จะกลับใจ พวกเขายังสาปแช่งพระเจ้า นี่คงเป็นไปตามธรรมชาติความบาปที่มีอยู่ในมนุษย์ เพราะฉะนั้นก็สมควรอย่างยิ่งต่อการลงโทษของพระเจ้า



    2. เปรียบเทียบเรื่องภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7

    1. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ช่วงนี้ เกี่ยวข้องกันโดยตรง เพราะตราที่ 7 ประกอบด้วยแตรทั้ง 7 และแตรที่ 7 ประกอบด้วยขันทั้ง 7

    2. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใหม่แต่ละช่วงนั้นจะเป็นลักษณะค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นในการลงโทษจากตราที่ 1-6 นับว่าเป็นการลงโทษขั้นเริ่มต้นเพื่อให้มนุษย์ได้สำนึกความบาปผิดของตน มีผู้ที่เสียชีวิตหนึ่งในสี่และธรรมชาติส่วนหนึ่งถูกทำลาย แต่มาถึงช่วงแตรที่ 1-6 การลงโทษทวีความรุนแรงมากขึ้น ทะเล ธารน้ำจืดและธรรมชาติ รวมทั้งมนุษย์หนึ่งในสามถูกทำลายสิ้น และมาจนถึงขันที่ 1-7 การลงโทษทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จนถึงที่สุด ทะเล ธารน้ำจืด สัตว์น้ำทั้งหมดถูกทำลายสิ้น ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ สงครามอารมาเกดโดนได้ทำลายผู้ที่อยู่ฝ่ายของซาตานทั้งกษัตริย์ ทหาร ประชาชน ไม่ว่าไทหรือทาส ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยที่อยู่ฝ่ายซาตาน (สังเกตได้จากคนเหล่านั้นสาปแช่งพระเจ้า) พร้อมทั้งลูกเห็บที่แต่ละก้อนหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง

    3. ตราที่ 4 มนุษย์หนึ่งในสี่ต้องเสียชีวิตลง ที่นี่ยังไม่ได้พูดถึงการประทับตราชนชาติ อิสราเอล (ประทับตราชนชาติอิสราเอล 144,000 คน ในบทที่ 7) ซึ่งดูเหมือนเป็นภาพรวมของประชากรของโลกนี้ทั้งหมด และอธิบายตามทัศนะของก่อนพันปี (Premillenial) เห็นว่าช่วงนี้ชนชาติอิสราเอลถูกหลอกให้ร่วมมือกับสัตว์ร้าย อิสราเอลได้รับความเห็นชอบให้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ ภาพที่เห็นคือสันติภาพที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ 3 ปีครึ่งให้หลังความจริงจึงได้ปรากฏพระวิหารถูกดูหมิ่นเหยียบย่ำลงโดยสัตว์ร้าย อิสราเอลจึงได้ตระหนักข้อเท็จจริงไม่ยอมร่วมมือกับสัตว์ร้ายอีกต่อไปอย่างเด็ดขาด และกระจายไปยังที่ต่างๆ และเป็นพยานที่ดีของพระเจ้า ภาพของแตรที่ 5 ก็ดี หรือของขันที่ 1 ได้แยกผู้ที่มีตราประทับของพระเจ้ากับผู้ที่มีตราของสัตว์ร้าย 666 ออกจากกัน ผู้ที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้า (แตรที่ 5: วิวรณ์ 9:4) หรือผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย (ขันที่ 1 วิวรณ์ 16:2) ต้องรับการลงโทษให้ทุกข์ทรมานจากพิษแมลงป่อง และจากแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว

    4. วิญญาณใต้แท่นบูชาตามที่ได้บันทึกไว้ว่าในช่วงตราที่ 5 และช่วงขันที่ 3 ช่วงแรกเรียกร้องให้รีบทรงพิพากษาและตอบสนองต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ ช่วงหลังเป็นการสะท้อนเสียงสนับสนุนการทรงลงโทษของพระเจ้าต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ

    5. ดวงอาทิตย์ได้ถูกกล่าวถึงช่วงที่แกะตราที่ 6 เป่าแตรที่ 4 และเทขันที่ 4 สิ่งที่แตกต่างคือในช่วงตราและแตร ดวงอาทิตย์จะมืดลง แต่มาถึงขันดวงอาทิตย์กลับร้อนแรง และคลอกเผามนุษย์จนตาย

    6. ผลของการลงโทษไม่ว่าจากตรา แตร และขัน หรือจากเบาไปสู่หนัก การตอบสนองของผู้ที่ได้รับการลงโทษยังคงออกมาในทางลบ พวกเขาไม่ได้สำนึกผิด หลังจากตราที่ 6 พวกเขาร้องกับภูเขาและโขดหินว่า จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษปโดกนั้น (6:16)

    หลังจากแตรที่ 6 พระคัมภีร์บันทึกว่า มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ยังไม่ได้กลับใจใหม่จากงานทื่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชารูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงินทองสัมฤทธิ์ หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้นจะดูหรือฟังหรือเดินก็ไม่ได้และเขาก็มิได้สำนึกในการฆ่าฟันกัน และการเชื่อเวทมนต์ การล่วงประเวณีและการลักขโมย (9:20-21)

    และหลังจากขันที่ห้า พระคัมภีร์บันทึกว่า คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทมและสาปแช่งระเจ้าแห่งสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดและเพราะแผลตามตัวของเขาเอง แต่เขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติผิดของตน (16:10-11)

    7. ที่น่าสังเกตมากจากการเปรียบเทียบเหตุการณ์ในช่วงตราแตร และขันทั้ง 7 นั้นเมื่อมาถึงที่สุดของแต่ละช่วง (ตราที่ 7 แตรที่ 7 และขันที่ 7) นิมิตที่ยอห์นเห็นนอกจากการลงโทษบนโลกแล้วคือ การสำแดงเหตุการณ์ในสวรรค์ เมื่อถึงตราที่ 7 สวรรค์เงียบไปครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์รับพระราชทานแตร มีการถวายเครื่องหอมสู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า และโยนกระถางสู่พื้นโลกเมื่อถึงแตรที่ 7 มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้าในสวรรค์ การนมัสการพระเจ้าของผู้อาวุโสยี่สิบสี่คน พระวิหารในสวรรค์เปิดออก ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว และลูกเห็บตกบนโลกอย่างรุนแรง

    เมื่อถึงขันที่ 7 มีพระสุรเสียงดังจากพระที่นั่งในพระวิหาร (อยู่บนสรรค์) ว่าสำเร็จแล้วเช่นเดียวกับช่วงแตรที่ 7 มีเสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกและลูกเห็บที่หนักถึง 50 กิโลกรัมตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวงในโลก



    ภาพที่ 5 เปรียบเทียบภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7



    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=7 width="110%" border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top width="7%">
    ลำดับ
    </TD><TD vAlign=top width="28%">
    ตรา ​

    </TD><TD vAlign=top width="30%">
    แตร ​

    </TD><TD vAlign=top width="35%">
    ขัน (หรือชาม) ​

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    1
    </TD><TD vAlign=top width="28%">ม้าขาว ผู้ขี่ม้าถือธนู บัตรพระราชทานมงกุฎ อย่างผู้ที่มีชัยชนะ (6:1-2)

    </TD><TD vAlign=top width="30%">ลูกเห็บไฟบนเลือดตกสู่แผ่นดิน หนึ่งในสามของต้นไม้ หญ้าเขียวถูกทำลาย (8:6-7)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">ผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของสัตว์ร้าย เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว (16:1-2)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    2
    </TD><TD vAlign=top width="28%">ม้าสีแดงสด ผู้ขี่ม้านำสันติสุขไปจากดินแดนโลก รับพระราชทานดาบใหญ่ คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน

    (6:3-4)


    </TD><TD vAlign=top width="30%">สิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่ ลุกเป็นไฟถูกทิ้งลงไปในทะเล หนึ่งในสามของทะเลกลายเป็นเลือด หนึ่งในสามของสัตว์ทะเลและเรือ ถูกทำลาย (8:8-9)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">ทะเลกลายเป็นเหมือนเลือดคนตาย บรรดาสิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมดสิ้น (16:3)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    3
    </TD><TD vAlign=top width="28%">ม้าดำ ผู้ขี่ม้าถือตราชู ข้าวสาลีราคาทะนานละหนึ่งเดรานิอัน ไม่ทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น (6:7-8)

    </TD><TD vAlign=top width="30%">ดาวใหญ่ ชื่อบรเพ็ดลุกเป็นไฟ ตกจากท้องฟ้าสู่ธารน้ำ ทำให้แม่น้ำมีรสขมหนึ่งในสามส่วน มีคนจำนวนมากตาย เพราะน้ำมีรสขม (8:10-11)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งหลายกลายเป็นเลือด เสียงจากแท่นบูชาร้องว่า การพิพากษาของพระเจ้า เที่ยงตรงและยุติธรรมแล้ว (16:4-7)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    4
    </TD><TD vAlign=top width="28%">ม้าสีกะเลียว ผู้ขี่ม้าชื่อมัจจุราช ตามด้วยแดนคนตายล้างผลาญแผ่นดินโลก หนึ่งในสี่ ด้วยคมดาบ ความอดอยาก โรคระบาด และด้วยสัตว์ร้าย (6:7-8)

    </TD><TD vAlign=top width="30%">ดวงอาทิตย์ถูกทำลายหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวก็เช่นเดียวกัน มืดไปหนึ่งในสาม กลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน (8:12-13)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ (16:8-9)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    5
    </TD><TD vAlign=top width="28%">วิญญาณใต้แท่นบูชา ร้องว่าอีกนานเท่าใดจึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก

    คำตอบ : ประทานเสื้อขาวและให้คอยจนครบจำนวน (6:9-11)


    </TD><TD vAlign=top width="30%">ดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าพร้อมกุญแจ สำหรับช่องบาดาลมีฝูงตั๊กแตนจากช่องบาดาล ซึ่งมีอำนาจของแมลงป่องแห่งแผ่นดินโลก ทำร้ายผู้ที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผาก (9:1-12)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">อาณาจักรของสัตว์ร้าย มืดไป ประชาชนกัดลิ้นของตนด้วยความระทมทุกข์ เพราะแผลตามตัวของเขา (16:10-11)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">
    6
    </TD><TD vAlign=top width="28%">แผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์มืดลงดวงจันทร์เป็นสีเลือด ดวงดาวตกจากฟากฟ้า ท้องฟ้าหายไปภูเขา และเกาะเคลื่อนย้าย มนุษย์รู้ว่าเป็นพระพิโรธของพระเจ้า (6:12-17)

    </TD><TD vAlign=top width="30%">ทูตสวรรค์ที่ถูกมัด ได้รับการปลดปล่อยให้ทำลายมนุษย์เสียหนึ่งในสามด้วย ไฟควัน และกำมะถันที่พลุ่งออกจากปากม้า (9:13-21)

    </TD><TD vAlign=top width="35%">แม่น้ำยูเฟรติสแห่งผีโสโครกสามตน จากปากของพญานาคสัตว์ร้าย และผู้เผยพระวจนะเท็จออกไปล่อลวงคน

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%" height=188>
    7


    </TD><TD vAlign=top width="28%" height=188>ความเงียบครอบคลุมสวรรค์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ รับพระราชทานแตรทั้งเจ็ดคัน ถวายเครื่องหอม พร้อมคำอธิษฐานของธรรมิกชน สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า ทูตสวรรค์ยื่นกระถางไฟสู่แผ่นดินโลก เกิดเสียงฟ้าร้อง ฟ้าแลบ แผ่นดินไหว (8:1-5)

    </TD><TD vAlign=top width="30%" height=188>ในสวรรค์มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้า ผู้อาวุโส 24 คน กราบนมัสการ พระวิหารในสวรรค์เปิดออก มีหีบพระสัญญาสายฟ้าแลบ ฟ้าร้องแผ่นดินไหว และลูกเห็บตกอย่างหนัก (11:15-19)

    </TD><TD vAlign=top width="35%" height=188>พระสุรเสียงว่า "สำเร็จ" แล้ว มีเสียงฟ้าร้องต่างๆ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด นครถูกแยกเป็นสามส่วน เกาะและภูเขาเลื่อนหายไป ลูกเห็บก้อนละ 50 ก.ก. ตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวง (16:17-21)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_9.html
     
  13. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    2. มหานครบาบิโลนล่ม 18:1-19:5

    ในช่วงก่อนที่มหานครบาบิโลนจะล่ม ยอห์นได้ยินเสียงร้องที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแยกแยะได้เป็นสี่ประเภทด้วยกัน


    1. เสียงแห่งการลงโทษ (18:1-3)



    เสียงร้องดังกึกก้องจากทูตสวรรค์ว่า บาบิโลนล่มจมแล้วนครนี้ได้กลายเป็นที่อาศัยของความชั่วทั้งปวง โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับศาสนา เพราะประชาชาติได้มัวเมาหลงไหลกับนครนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่เต็มไปด้วยการบูชารูปเคารพและเต็มไป


    ด้วยความผิดบาป บาปของนครนี้ได้กองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว (18:5)


    2. เสียงเรียกให้แยกออกจากนครนี้ (18:4-8)



    เสียงเรียกจากสวรรค์บอกให้ชนชาติของพระเจ้าให้ออกจากนครนี้ (18:4) เพื่อพวกเขาจะได้ไม่มีส่วนในความผิดบาปของนครนี้ และจะได้ไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับนครนี้ และภัยพิบัตินี้ได้แก่ โรคระบาด ความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนี้จนพินาศสิ้นภายในวันเดียว (18:8) บาบิโลนที่เคยเย่อหยิ่งทะนงใจว่าตนอยู่อย่างราชินี (ยิ่งใหญ่มั่นคง มีพร้อมทุกสิ่ง) ไม่ใช่หญิงม่าย (ต่ำต้อย ไร้ที่พึ่ง ขาดแคลน) แต่เพียงวันเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป



    3. เสียงร่ำไห้คร่ำครวญ (18:9-19)



    จากเหตุการณ์ความพินาศของบาบิโลนได้ทำให้มีคนสามกลุ่มที่พิลาปร่ำไห้


    &aacute;ละคร่ำครวญ

    - บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ผูกพันกับมหานครนี้ พวกเขาร่ำไห้เพราะเห็นความพินาศของบาบิโลน และกลัวภัยแห่งการทรมานนครนั้นจะถึงตน (สะท้อนภาพว่าบาบิโลนเป็นศูนย์กลางทั้งด้านศาสนาและการเมือง)

    - บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลก พวกเขาร่ำไห้ เพราะนครนี้เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ มีการค้าขายทุกชนิดแม้ชีวิตมนุษย์ พวกเขาทั้งหลายกลายเป็นคนมั่งมีเพราะนครนี้ แต่บัดนี้ทุกอย่างก็พินาศสูญสิ้น และพวกเขาก็กลัวภัยจากการทรมานนครจะถึงตนด้วย

    - บรรดาเรือ ผู้มีอาชีพทางทะเลทั้งหลาย ต่างก็โปรยผงลงศีรษะของตนและร้องไห้คร่ำครวญ เพราะพวกเขากลายเป็นคนมั่งมีได้เพราะนครนี้ บัดนี้กลายเป็นนครร้างเปล่าแล้ว และพวกเขาก็กลัวภัยพิบัติจากนครนี้จะถึงตนด้วย (สะท้อนภาพให้เห็นว่าบาบิโลนเป็นศูนย์กลางคมนาคมของโลก)

    น่าสังเกต คือคนเหล่านั้นทุกกลุ่มต่างก็ยืนอยู่แต่ห่างเพราะกลัว (18:10,15,17) ต่างก็คร่ำครวญว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว (18:10,16,19) ต่างก็บอกว่า ภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น (18:10,17,19) และภาพที่ทุกกลุ่มร่ำไห้คร่ำครวญแสดงออกถึงการหวั่นวิตกในผลประโยชน์ของตนมากกว่า


    4. เสียงแห่งความชื่นชนยินดี (18:20-24)



    หลังจากเสียงพิลาปร่ำไห้ของบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบาบิโลนแล้ว เสียงที่ยอห์นได้ยินคือ การเชิญชวนคนของพระเจ้าให้ร่าเริงเพราะพระเจ้าได้ทรงพิพากษานครนี้แล้ว นครนี้ได้ฆ่าคนของพระเจ้ามากมาย (18:24) ตรงข้ามกับเสียงความชื่นชมยินดีบนสวรรค์คือ ความว่างเปล่า และเงียบสงบของบาบิโลนเพราะบาบิโลนถูกกลืนหายลงไปในทะเลเหมือน


    หินโม่ใหญ่ที่ถูกทุ่มลงในทะเล ความสนุกสนานวิทยาการต่างๆ การงานทั้งหลายและความร่าเริงจะหมดหายไป (18:22-23)

    บาบิโลนมีความเป็นมาอย่างไร และในพระธรรมวิวรณ์ยอห์นต้องการชี้ว่ามหานครบาบิโลน คือที่ไหน นี่เป็นคำถามที่ยังคงแสวงหาคำตอบ

    เริ่มจากพระธรรมปฐมกาลบทที่ 10 ได้บันทึกว่านิมโรดพรานใหญ่ยิ่งต่อพระพักตร์พระเจ้า เป็นผู้ทรงสร้างเมืองบาบิโลน (ปฐมกาล 10:9-10) บาบิโลนตั้งอยู่ในแผ่นดินชินาร์ (ปฐมกาล 10:10) ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับหอบาเบล (ปฐมกาล 11:1-9) และเป็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์บริเวณแม่น้ำยูเฟรติส บาบิโลนได้กลายเป็นจักรวรรดิภายใต้การนำของกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) ในช่วงก่อนคริสตศักราช.1726 - 1686 และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องกฎหมายของฮัมมูราบีซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลก แต่ช่วงที่บาบิโลนรุ่งเรืองที่สุดนั่นอยู่ในช่วงของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก่อน

    คริสตศักราช 600 ทรงสร้างเมืองขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนลอยฟ้าซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ด

    สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ และชนชาติอิสราเอลถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยอยู่ที่บาบิโลน ในปีก่อนคริสตจักรศักราช 587 จักรวรรดิบาบิโลนได้ล่มสลายลงเมื่ออาณาจักรมีเดียเข้ามายึดครอง ต่อมาตกอยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซีย, กรีก, โรม ปัจจุบันบาบิโลนอยู่ในประเทศอิรัก สวยลอยฟ้าเป็นเมืองโบราณ หรือพิพิธภัณฑ์สถาน

    สำหรับคริสตจักรในยุคแรก หรือช่วงเวลาของยอห์นผู้เขียนพระธรรมวิวรณ์ มหานคร บาบิโลนเป็นภาษาสัญลักษณ์ หมายถึง อาณาจักรโรม แต่ขณะเดียวกันก็จะเกี่ยวข้องกับความเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร นิมิตที่ยอห์นได้รับ เสียงจากทูตสวรรค์ที่ประกาศว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว (14:8) วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว บาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น (18:10) มหานครบาบิโลนที่เอ่ยถึงนี้น่าจะหมายถึง ประเทศหรืออาณาจักรไหนกันแน่ มีผู้ให้ข้อคิดเห็นแตกต่างกันมากมาย พอสรุปได้อย่างน้อย 3 แห่งด้วยกัน

    1. อาณาจักรโรมที่ถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจหมายถึงกลุ่มประเทศในยุโรปที่จะรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร เหมือนอาณาจักรเดียวกันที่ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางต่างๆ ของโลก เมื่อการคมนาคมของยุโรปได้ผูกพันเป็นเอกภาพและเงินยูโรถูกใช้เป็นสกุลเดียวกันทั่วยุโรป ภาพของยุโรปเป็นอาณาจักรโฉมใหม่เริ่มถูกกล่าวถึงมากขึ้น

    2. อาณาจักรบาบิโลนที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจหมายถึง ประเทศในตะวันออกกลาง อิรักหรืออิหร่านที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกอาหรับก่อนแล้วขยายครอบคลุมไปทั่วโลก



    (b-wow)

    3. มหาอำนาจประเทศหนึ่งในโลกนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนาและการอำนาจทางการเมือง หลังจากค่ายคอมมิวนิสต์ในยุโรปและสหภาพรัสเซียล่มสลายแล้วมีมหาอำนาจเดียว

    ที่เหลืออยู่ คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกและมีอิทธิพลทางทหารและอาวุธมากที่สุด

    ของโลกทุกวันนี้

    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_10.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2005
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ต่อด้วยบท 18
    <hr>
    18:1 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ข้าพเจ้าก็ได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านมีอำนาจใหญ่ยิ่ง และรัศมีของท่านได้ทำให้แผ่นดินโลกสว่างไป

    18:2 ท่านได้ร้องประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า "บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปิศาจ เป็นที่คุมขังของผีโสโครกทุกอย่าง และเป็นกรงของนกทุกอย่างที่ไม่สะอาดและน่าเกลียด

    18:3 เพราะว่าประชาชาติทั้งปวงได้ดื่มเหล้าองุ่นแห่งความเดือดดาลในการล่วงประเวณีของนครนั้น และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และพ่อค้าทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกก็ได้มั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์ฟุ่มเฟือยของนครนั้น"

    18:4 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า "ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น

    18:5 เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว และพระเจ้าได้ทรงจำความชั่วช้าแห่งนครนั้นได้

    18:6 นครนั้นได้ให้ผลอย่างไร ก็จงให้ผลแก่นครนั้นอย่างนั้น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้ก็จงผสมลงเป็นสองเท่าให้นครนั้น

    18:7 นครนั้นได้เย่อหยิ่งจองหองและมีชีวิตอย่างหรูหรามากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทะนงใจว่า `เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย'

    18:8 เหตุฉะนั้น ภัยพิบัติต่างๆของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว ความตาย และความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงพิพากษานครนั้น ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่"

    18:9 บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และได้มีชีวิตอย่างหรูหราร่วมกันนั้น เมื่อได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้น ก็จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น

    18:10 พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆเพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น และจะกล่าวว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย บาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ นครที่แข็งแรง เพราะเจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น"

    18:11 บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลกจะร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น เพราะว่าไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว

    18:12 สินค้าเหล่านั้นคือ ทองคำ เงิน เพชรพลอยต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิด บรรดาภาชนะที่ทำด้วยงา บรรดาภาชนะไม้ที่มีราคามาก ภาชนะทองสัมฤทธิ์ ภาชนะเหล็ก ภาชนะหินอ่อน

    18:13 อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมัน ยอดแป้ง ข้าวสาลี สัตว์ต่างๆ แกะ ม้า รถรบ และทาส และชีวิตมนุษย์

    18:14 และผลซึ่งจิตของเจ้ากระหายใคร่ได้นั้นก็ล่วงพ้นไปจากเจ้าแล้ว สิ่งสารพัดอันวิเศษยิ่งและหรูหราก็พินาศไปจากเจ้าแล้ว และเจ้าจะไม่ได้พบมันอีกเลย

    18:15 บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครนั้น จะยืนอยู่แต่ไกลเพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้น พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดัง

    18:16 ว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง และผ้าสีแดงเข้ม ที่ได้ประดับด้วยทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุกนั้น

    18:17 เพียงในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่นั้นก็พินาศสูญไปสิ้น" และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือ พวกลูกเรือ และคนทั้งหลายที่มีอาชีพทางทะเล ก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ

    18:18 และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็ร้องว่า "นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้"

    18:19 และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำครวญว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวงที่มีเรือกำปั่นเดินทะเลได้กลายเป็นคนมั่งมีด้วยเหตุจากสิ่งของมีค่าของนครนั้น เพราะภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่รกร้างไป"

    18:20 เมืองสวรรค์ พวกอัครสาวกอันบริสุทธิ์ และพวกศาสดาพยากรณ์ทั้งหลาย จงร่าเริงยินดีเพราะนครนั้นเถิด เพราะพระเจ้าทรงแก้แค้นต่อนครนั้นให้ท่านทั้งหลายแล้ว

    18:21 แล้วทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่มีฤทธิ์มาก ก็ได้ยกหินก้อนหนึ่งเหมือนหินโม่ใหญ่ทุ่มลงไปในทะเลแล้วว่า "บาบิโลนมหานครนั้นจะถูกทุ่มลงโดยแรงอย่างนี้แหละ และจะไม่มีใครเห็นนครนั้นอีกต่อไปเลย

    18:22 และจะไม่มีใครได้ยินเสียงนักดีดพิณเขาคู่ นักเล่นมโหรี นักเป่าปี่ และนักเป่าแตร ในเจ้าอีกต่อไป และในเจ้าจะไม่มีช่างในวิชาช่างต่างๆอีกต่อไป และจะไม่มีใครได้ยินเสียงโม่แป้งในเจ้าอีกต่อไป

    18:23 และในเจ้าจะไม่มีแสงประทีปส่องสว่างอีกต่อไป และจะไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวในเจ้าอีกต่อไป เพราะว่าบรรดาพ่อค้าของเจ้าได้เป็นคนใหญ่โตแห่งแผ่นดินโลกแล้ว และโดยวิทยาคมของเจ้าได้ล่อลวงบรรดาประชาชาติให้ลุ่มหลง

    18:24 และในนครนั้นเขาได้พบโลหิตของพวกศาสดาพยากรณ์และพวกวิสุทธิชน และบรรดาคนที่ถูกฆ่าบนแผ่นดินโลก"
     
  15. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +1,232
    เข้ามาดูมาอ่านครับ
     
  16. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +1,232
    เข้ามาดูมาอ่านครับ
     
  17. hellobkk

    hellobkk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +46
    จีน+รัสเซีย+ฝรั่งเศษ จะทำสงครามกับ สหรัฐ+อังกฤษ+ญี่ปุ่น(หัวเจ้าเล่) อันนี้แน่นอน แต่จะเมื่อไหร่ยังไม่รู้
    เพราะสหรัฐ ชอบเอา คำว่า ประชาธิปไตย ไปล้มล้างระบบปกครองของประเทศอื่น เหมือนอิรักโดน (แล้วไปขโมยน้ำมันดิบของเค้าอีกทำตัวเป็นผู้ดีในคราบโจร)
    ฝรั่งเศษมี นิวเคลียอยู่ในฐานทัพ สหรัฐก็สหรัฐเฮอะโดนบอมไปก็ไม่อยากคิด จีนก็มี พวกนี้ สามารถครอบครองนิวเคลียได้ ตามกฏหมายระหว่างประเทศเพื่อความมั่นคง สมัยที่ชนะสงครามโลกครั้งที่2 (เขียนเองก็มีเองแล้วบังคับประเทศที่แพ้สงครามหรือประเทศอื่นไม่ให้มี) รัสเซีย มี เรือดำนำสอดแนม เยอะแยะ วิ่งทะลุน้ำแข็งขั่วโลกเหนือยังได้ เห็นเค้าว่าเรือดำน้ำรัสเซีย แอบอยู่ครอบคลุมทั่วโลก
    จีนมีอาวุธเพียบ เพราะเค้าสะสม ไว้เรื่อยๆและปริมาณมากพอ และชอบทำตัวเป็นพี่ใหญ่ในเอเซีย จีนพร้อมจะช่วยทุกประเทศในเอเซีย เพียงแค่ประเทศนั้นเชื่อใจเค้า ไม่ไปเข้าข้างสหรัฐ ประเทศไทยคงต้องเลือกเข้าข้างใดข้างหนึ่ง
    ที่จริงเราเป็นมิตรที่ดีทั้ง2ประเทศ เพราะ2ประเทศนี้โอ้เรา ทำเลประเทศไทยเหมาะแก่การหยุดพัก กำลังพล ขนยุทโธปกรณื ได้ง่าย ทั้งทางบกและทางอากาศ ถ้าเกิดสงครามในช่วงทักษิน ทักษินคงเลือกบุช เพราะเป็นเพื่อนกัน
     
  18. natthawara

    natthawara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2006
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +60
    เชื่อไหม๊ถ้าอเมริกา เกิดอย่างนั้นจริง คนวางแผน ตัวการ ไม่ตาย, เช่น พวกกลุ่มทุนพลังงาน สื่อสาร ยิว ฮอลีวูด แต่ตายก็แต่ไพร่ฟ้าหน้าใน เหมือนในกรณีเวริด์เทรดที่ ยิวทำงานที่ตึก นั่น 4000 กว่าแต่ตาย 3 เพราะคนที่ทำงานไม่มีใครไปเลยซักคน พวก3 คนนั่น แวะไปเที่ยวและหาเพื่อน
     
  19. natthawara

    natthawara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2006
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +60
    เชื่อไหม๊ถ้าอเมริกา เกิดอย่างนั้นจริง คนวางแผน ตัวการ ไม่ตาย, เช่น พวกกลุ่มทุนพลังงาน สื่อสาร ยิว ฮอลีวูด แต่ตายก็แต่ไพร่ฟ้าหน้าใน เหมือนในกรณีเวริด์เทรดที่ ยิวทำงานที่ตึก นั่น 4000 กว่าแต่ตาย 3 เพราะคนที่ทำงานไม่มีใครไปเลยซักคน พวก3 คนนั่น แวะไปเที่ยวและหาเพื่อน
     
  20. natthawara

    natthawara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2006
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +60
    ที่น่าแปลกกว่าพวกแขกที่เป็นปากีสถานที่ทำงานในตึกนั้น ตายมากกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...