อยากทราบพวกเรียนอภิญญาคนอื่นโดยการเดินผ่าน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ugudei, 3 กรกฎาคม 2010.

  1. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    เห็นนีโอ (matrix) ทำได้แล้วในโลกนี้มีใครทำได้จริงบ้าง
     
  2. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    ทำได้ ปฏิบัตจิ
     
  3. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    ขอเตือนใครอย่ามาเดินผ่านผมนะครับเพราะ














    อาจเจอกลิ่นเต่า เป็นลมได้ ฮาๆ
     
  4. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    มีของสายแม่ชีครับ อยู่เมืองพล ไม่อยากเอ่ยชื่อเดี๋ยวเขาว่า

    เขาเรียกว่าการปฏิบัติสายสัญญาครับ เป็นการใช้ฤทธิ์เรียกว่า ฤทธิ์สำเร็จ
    ด้วยใจ เหมือนของหลวงปู่ฤาษีลิงดำ แต่การฝึกไม่เหมือนกันครับ
    กล่าวคือ เขาจะฝึกตาทิพย์ก่อน ให้เห็นสิ่งที่เป็นทิพย์ได้ แล้วสอบการมอง
    จากอาจารย์แม่ชี หรือศิษย์รุ่นพี่ว่าสิ่งที่มองเห็น อย่างเทวดา ใส่เสื้อสีอะไร
    ถือพระขรรค์หรือถือกระบอง รัศมีสีอะไร ถ้าตรงก็สำเร็จขั้นแรก ถ้าไม่ตรงก็ฝึก
    ใหม่แก้ไขจิตให้ตรง ก็จะเห็นตรงกันหมด

    พอเสร็จแล้วก็ฝึกการใช้ฤทธิ์ การอธิฐานจิต ในขั้นนี้เองเรียกว่าการก๊อปปี้ที่เจ้าของ
    กระทู้อยากรู้ กล่าวคือ เมื่อเจอพระ เจอร่างทรงที่มีฤทธิ์ ก็ขอให้เขาเปล่งรัศมี หรือเสกพระ
    คาถา เรียกว่าใช้วิชาอะไร ก็ครานี้เอง ผู้ฝึกสายสัญญานี้ จะเอามาอธิฐานจิตใช้แบบนั้นได้

    เรียกว่า เคยเห็นพระนารายณ์แสดงฤทธิ์ เปล่งรัศมีตอนปรากฏร่าง เขาก็ทำแบบนั้นได้ไม่ผิดเพี้ยนคนที่เคยเห็นพระนารายณ์บางทียังคิดว่า โอ้ นี่แสงพระนารายณ์เสด็จมา แต่พอดู
    จริงๆกลายเป็นหน้าคน (แหม..หลอกกันได้)

    ส่วนขั้นต่อไปของสายสัญญานี้ ไม่อยากเอ่ย มันลึกซึ้งเกินที่จะอธิบาย
    และผมก็ไม่ใช่ศิษย์แม่ชี ไม่อาจนำมาแสดงให้ละเอียดโดยเจ้าของไม่อนุญาตได้คับ
     
  5. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ปฎิบัติ ซิคะ จะได้รู้
     
  6. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    แล้วสายสัญญามันเหมือน matrix ตรงไหนบอกหน่อยสิคับผมงง
     
  7. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ^^^ สายสัญญาเหมือนตรงการก๊อปปี้ได้ครับ เรียกว่าเมื่อใดเห็นแล้ว ก็ทำแบบนั้นได้เลย เหมือนเห็นคนใส่เสื้อสีแดงสวยงาม เรานึกให้มีว่าเรามี แล้วเสื้อแบบนั้นก็มาปรากฏที่เรา(ในสมาธิ) นี่เรียกว่า หลอกทั้งตัวเอง หลอกทั้งคนอื่น เพราะคนอื่นก็จะมองเห็นเราใส่สีแดงแบบนั้นไปด้วย(ในสมาธิ)

    ก็ฤทธิ์เกิดขึ้นด้วยใจครับ จะให้เป็นอะไรก็เป็นไปตามนั้นได้หมด จะว่าจินตนาการก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการจินตนาการเห็นได้ รู้ได้เฉพาะเรา แต่ฤทธิ์นี้เหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ท่านว่า อยากรู้อยากเห็นก็มาฝึกดู อย่างไม่รู้จริงๆไม่เกิน 7 วันก็เห็นได้ เมื่อเห็นแล้ว คนอื่น
    ก็เห็นด้วย จะว่าจินตนาการมันก็ไม่ใช่แล้วเพราะรู้เห็นอย่างเดียวกันหมด
    เคยมีคนหาว่าเป็นการสะกดจิตหมู่ ท่านก็ว่า เมื่อฝึกเป็นแล้ว ไปนั่งดูคนเดียวต่างสถานที่
    ก็เห็นอย่างเดียวกัน ไม่จำเป็นว่าต้องมานั่งที่วัดถึงเห็น จึงไม่ใช่การสะกดจิตหมู่

    อยากรู้ก็ไปอ่านประวัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่หน้าเวปพลังจิตนี่ก็มี เมื่อรู้ภาพรวมแล้วอยากทำก็ลองไปวัดท่านดูครับ เขาสอนอยู่ตลอด ลองดูซิว่าจะเหมือนเมททริกใหม (แต่หลวง
    พ่อฤาษีท่านรู้ก่อนเมทริกมาสร้างนะครับ) เพราะถ้าแนะนำให้ไปเรียนกับแม่ชีเดี๋ยวก็จะมี
    คนมาแขวะผมว่าแนะนำไม่ดี เอาเป็นว่า สายสัญญาเหมือนกัน ฤทธิ์สำเร็จด้วยใจเหมือนกัน
    ก็ไม่ต่างกันมาก ลองไปดูนะครับ เรียนใว้ไม่เสียหลาย ดีกว่าเสียเวลาเปล่าไปวันๆ
     
  8. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    [​IMG]

    เนตรวงแหวน


    ตระกูล - อุจิวะ
    ผู้ใช้ - ฮาตาเกะ คาคาชิ, อุจิวะ ซาสึเกะ , อุจิวะ โอบิโตะ , อุจิวะ อิทาจิ,โทบิ(อุจิวะ มาดาระ)
    ระดับ : -
    ระยะการโจมตี : -



    เนตรวงแหวน หรือ ชารินงัน
    เป็น ขีดจำกัดสายเลือดของตระกูลอุจิวะ เป็นแก้วตาชนิดพิเศษอย่างหนึ่ง โดยมีความสามารถในการมองทะลุทั้งเก็นจัทสึ(ภาพลวง) ไทจัทสึ (กระบวนท่า) และนินจัทสึ (คาถานินจา)ได้ ในชั่วพริบตาและตอบโต้ได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังสามารถแยกแยะวิชาของฝ่ายตรงข้ามแล้วก๊อป ปี้มาใช้เองได้ เนตรวงแหวนยังมีความสามารถในการใช้เนตรสะกดจิต และ เดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ล่วงอย่างแม่นยำ เนตรที่เหนือขึ้นไปอีกระดับหนึ่งของเนตรวงแหวน คือ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา

    เนตรวงแหวนจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อ เมื่อผู้เบิกเนตร ต้องการปกป้องคนสำคัญ เนตรวงแหวนที่สมบูรณ์นั้นจะมีจุดลูกน้ำอยู่สามจุดที่ ตาทั้งสองข้าง การเบิกเนตรครั้งแรกไม่แน่นอนว่าจะมีลูกน้ำสามจุดเสม อไปขึ้นอยู่กับตัวผู้ เบิกเนตร เช่น อุจิวะ ซาสึเกะ เบิกเนตรครั้งแรกมีลูกน้ำหนึ่งจุดข้างหนึ่งสองจุดข้า งหนึ่ง ส่วน อุจิวะ โอบิโตะ มีลูกน้ำสองจุดทั้งสองข้างเลย



    เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นเนตรวงที่มีความพิเศษขึ้นไปอีกจากเนตรวงแหวนเดิม ทรงอานุภาพขึ้นไปอีก และรูปลักษณ์เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของใช้แต่ล ะคนก็จะแตกต่างกันออกไป ปัจจุบันมีผู้เบิกเนตรนี้ได้อยู่สามคน คือ โทบิ(อุจิวะ มาดาระ) อุจิวะ อิทาจิ ฮาตาเกะ คาคาชิ (และอีกไม่นานซาสึเกะคงจะเบิกเนตรนี้ได้สำเร็จเช่นกั น) เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาคาดว่าน่าจะมีความสามาร ถในการใช้วิชาเนตรหลายอย่างและต่างกันออกไปขึ้นอยู่ก ันคุณสมบัติของผู้ใช้ ซึ่งที่เราเห็นกันแล้วก็คือ อ่านจันทรา เทวีสุริยา เปิดมิติ เป็นต้น เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นปุปผา จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้เบิกเนตรต้องผ่านเงื่อนไข พิเศษอย่างหนึ่งก่อน นั่นก็คือ การฆ่าคนที่สนิทที่สุด หรือ คนที่รักที่สุด และจะต้องมีเนตรวงแหวนก่อน

    อย่างไรก็ตามเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุ ปผานั้น ถึงจะให้พลังที่มีอานุภาพสูงสุดแก่ผู้ใช้มันก็ตาม แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องแลกเปลี่ยนนั้นก็สาหัสเช่นกัน นั่นก็คือ เมื่อผู้ใช้สามารถเบิกมันได้สำเร็จ มันจะค่อยๆนำพาผู้ใช้ไปสู่ความมืดมิด กระจกตาของหมื่ นบุปผาจะสูญเสียความสามารถในการรับแสง(ตาบอด) ยิ่งใช้มันมากเท่าไร่ มันจะยิ่งนำพาผู้ใช้ไปสู่ความมืดมิดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ก็ยังมีความเงื่อนไขสุดท้ายอยู่อีกเงื่อนไขหนึ่งท ี่จะทำให้ผู้ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาไม่ต้อง ถูกนำพาสู่ความมืดมิด แต่ตรงกันข้ามด้วยเงื่อนไขนี้ จะทำให้ผู้ใช้ได้พลังที่มหาศาล พลังที่สามารถควบคุมได้แม้แต่จิ้งจอกเก้าหาง และได้รับแสงสว่างไปตลอดกาล เงื่อนไขที่ว่านั้นก็คือ ต้องฆ่าพี่น้องผู้ร่วมสายเลือดเดียวกัน แล้วแลกเปลี่ยนเนตรมาเป็นของตัวเอง และได้ให้กำเนิดวิชาเนตรใหม่ขึ้นมา พลังเนตรนั้นชื่อว่า เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์

    เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คาถาอ่านจันทรา
    อ่าน จันทรา เป็นคาถาลวงตาที่ทรงอานุภาพที่สุดวิชาหนึง ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้คาถานี้ จะถูกผู้ใช้ควบคุมไว้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือคว ามรู้สึก ซึ่งคาถานี้ อุจิวะ อิทาจิเคยใช้มาแล้วถึงสามครั้ง คือ ครั้งแรก หลังจากที่เขาได้ร่วมมือกับ อุจิวะ มาดาระสังหารหมู่ครอบครัวตระกูลอุจิวะ เขาได้ใช้กับอุจิวะ ซาสึเกะ น้องชายของเขาเอง โดยสร้างภาพเหตุการณ์ให้เห็นว่าเขาได้ลงมือสังหารคนใ นตระกูลอุจิวะยังไงบ้าง รวมถึงตอนสังหารพ่อและแม่ของตัวเองด้วย ครั้งที่สอง อิทาจิได้ใช้ตอนที่มาตามหาอุซึมากิ นารุโตะ ที่หมู่บ้านโคโนะฮะงาคุเระ พร้อมกับโฮชิกาคิ คิซาเมะ ซึ่งตอนนั้นเขาได้ใช้กับฮาตาเกะ คาคาชิ โดยคาคาชิที่ตกอยู่ภายใต้คาถาอ่านจันทรา มองเห็นเป็นภาพตัวเองโดนตรึงอยู่บนไม้กางเขน และตรงหน้าก็มีอิทาจิใช้มีดแทงมาที่ลำตัว หลังจากนั้นทั้งปริมาณเหตุการณ์ทั้งปริมาณความรู้สึก ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและจะต้องโดนแทงแบบนี้ไปอีก72ช ั่วโมง เนื่องจากภายใต้คาถานี้ อิทาจิสามารถควบคุมได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ปริมาณ และเวลา ซึ่งจริงๆแล้วเวลาที่แสนนานในนั้นเป็นเวลาเพียงแค่ชั ่วพริบตาเดียวเท่านั้นในโลกความเป็นจริง ครั้งที่สาม ที่อิทาจิใช้ก็คือตอนที่ตามนารุโตะไปโรงเตี๊ยมเพื่อจ ะชิงตัวนารุโตะจากจิไรยะแล้วเอาตัวไปแสงอุษาและในตอ นนั้นซาสึเกะก็ได้เข้ามาขวางแล้วบุกเข้าจู่โจมอิทาจิ ทันทีเพื่อหวังล้างแค้น แต่ก็มิอาจทำอะไรอิทาจิได้ อิทาจิจึงได้ใช้อ่านจันทราอีกครั้ง เหมือนที่เคยใช้กับซาสึเกะเมื่อหลายปีก่อน



    เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คาถาเทวีสุริยา
    คาถา เทวีสุริยา เกิดจากการเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นการเรียกเปลวเพลิงสีดำ เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาพลาญได้แม้กระทั่งเพลิงด้ว ยกันเอง "เทวีสุริยา" เมื่อผู้ใช้ ใช้เนตรมองไปยังเป้าหมาย พื้นที่นั้นจะถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีดำ เปลวเพลิงสีดำนั้นจะทำลายทุกอย่างที่เนตรของผู้ใช้มอ งเห็น และเผาพลาญเป้าหมายจนกว่าจะไหม้สลายไป การจะหยุดเพลิงสีดำนั้น นอกจากต้องรอจนกว่า
    เป้าหมายนั้นจะไหม้สลายไป หรือใช้คาถาผนึกเพลิงแล้ว(ซึ่งหาผู้ที่สามารถใช้ได้ค ่อนข้างยาก) ก็มีแต่ผู้ใช้เองเท่านั้นที่จะสามารถ
    หยุดเพลิงสีดำนั้นได้

    ใน ตอนนั้นที่อิทาจิกับคิซาเมะ ตามนารุโตะและจิไรยะมาถึงโรงเตี๊ยม เขาได้ใช้คาถาสะกดให้ผู้หญิงล่อจิไรยะออกจากนารุโตะ เพื่อที่จะได้ชิงตัวนารุโตะไป แต่จิไรยะที่เป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนานก็รู้ทันและไ ด้คลายมนต์สะกดผู้หญิงคนนั้น แล้วตามมาช่วยนารุโตะ ขณะเดียวกันซาสึเกะก็ตามมาทันเช่นกัน แล้วก็เข้าต่อสู้กับอิทาจิ จิไรยะนั้นต้องการถนอมน้ำใจซาสึเกะจึงได้ปล่อยซาสึเก ะสู้จนถึงที่สุด จนเมื่อซาสึเกะโดนอ่านจันทรา จิไรยะจึงได้ยื่นมือเข้าช่วย โดยใช้คาถาพันธนาการปากกบ เป็นการอันเชิญทางเดินอาหารของกบหินยักษ์ แห่ง ภูเขาเมียวโบคุ ซึ่งเท่ากับว่าทั้งอิทาจิและคิซาเมะได้ตกอยู่ในท้องข องจิไรยะแล้วนั้นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น อิทาจิจึงได้ตัดสินใจที่จะล่าถอยกลับไปก่อน แต่การจะทะลวงผ่านออกไปนั้นคงจะยาก เพราะยังไม่เคยมีใครหนีรอดออกไปจากคาถานี้ของจิไรยะ ได้ และในที่สุดอิทาจิก็ได้ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุ ปผาอ ีกครั้ง โดยคราวนี้เขาใช้เทวีสุริยา เพื่อทะลวงทางเดินอาหารกบที่จิไรยะเรียกมา เทวีสุริยาเมื่อใช้แล้ว ณ ที่ตรงนั้นจะปรากฎเป็นเปลวเพลิงสีดำ

    และ อีกครั้งที่อิทาจิใช้คาถาเทวีสุริยา คือ ตอนสู้กับซาสึเกะ สถานที่หลบภัยของตระกูลอุจิวะ ในการต่อสู้ที่นี่อิทาจิได้ใช้คาถาอ่านจันทรา กับซาสึเกะ แต่ว่าก็ไม่อาจทำอะไรซาสึเกะได้ ในการปะทะกันด้วยคาถาเพลิงนั้น ขณะที่ซาสึเกะได้เปรียบและสามารถดันเพลิงของอิทาจิกั บมาได้นั้น อิทาจิก็ได้ใช้คาถาเทวีสุริยาในที่สุด



    ซาซูโนะ
    วิ ชาซาซูโนะ เป็นวิชาที่สามและวิชาสุดท้ายที่อิทาจิได้จากการเบิก เนตรกระจกหมื่นบุปผา และเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของอิทาจิ นั่นก็ คือซาซูโนะ วิชานี้อิทาจิได้นำออกมาใช้ตอนที่สู้กับซาสึเกะ หลังจากสู้กันมาอย่างดุเดือด อิทาจิใช้ทั้งอ่านจันทราใช้ทั้งเทวีสุริยา แต่ซาสึเกะก็ยังสามารถที่จะเอาตัวรอดและตอบโต้ได้ จนถึงตอนท้ายของการต่อสู้ ซึ่งดูเหมือนว่าการต่อสู้จะจบลงด้วยชัยชนะอย่างเด็ดข าดของซาสึเกะเมื่อซาสึ เกะได้ปล่อยท่าไม้ตาย"คิริน"เข้าใส่อิทาจิอย่างจัง แต่ทันใดนั้นเองทุกอย่างก็ต้องกลับกัน เมื่ออิทาจิยังสามารถลุกขึ้นยืนได้ออกละดูเหมือนว่าอ ิทาจิจะไม่ได้รับบาด เจ็บจากการโจมตีของซาสึเกะซักเท่าไหร่ นอกจากนั้นแล้วรอบตัวของอิทาจิยังมีกระแสจักระที่ก่อ ตัวเป็นรูปร่างเทพปีศาจ มือถือดาบและน้ำเต้า



    ซาซูโนะเป็นวิชาที่มีการป้องกันและการโจมตีที่แข็งแก ร่งที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย กระจกแห่งยาตะและดาบแห่งเทะซึกะ

    หลังจากการต่อสู้ระหว่างอิทาจิกับซาสึเกะจบลง อิทาจิได้สิ้นใจล้มลงต่อหน้าซาสึเกะ และซาสึเกะก็หมดสติล้มลงเช่นกัน
    แต่ถ้าว่าก่อนตายนั้น อิทาจิได้ถ่ายทอดวิชาบางอย่างไว้ให้กับซาสึเกะ ซึ่งนั่นก็คือ เทวีสริยา นั่นเอง



    เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คาถาเปิดมิติ
    การ เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของคาคาชิ ยังคงเป็นข้อสงสัยกันอยู่ว่าอาจจะสามารถเบิกเนตรได้โ ดยไม่ต้องฆ่าคนที่สนิทที่สุดหรือคนที่รักที่สุด ซึ่งวิชาเนตรที่คาคาชิใช้ในตอนที่ร่วมกับนารุโตะสู้ก ับเดอิดาระเพื่อชิงร่างของกาอาระกลับคืนมา คาคาชิได้ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เปิดมิติเพื่อให้ดูดเดอิดาระเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง เนื่องจากคาคาชิยังควบคุมขนาดและตำแหน่งของมิติได้ไม ่คล่อง จึงทำได้เพียงแค่ดูดแขนของเดอิดาระไปเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพียงแค่นั้นก็สามารถสร้างช่วงโหว่ให้นา รุโตะสามารถชิงร่างกาอาระกลับคืนมาได้ และอีกครั้งที่คาคาชิต้องใช้ คือ หลังจากที่ชิงร่างกาอาระกลับมา ขณะเดียวกันเมื่อทีมไกกลับมาสมทบกับทีมคาคาชิ เดอิดาระได้ตัดสินใจล่าถอยไปก่อน โดยใช้สร้างคาถาร่างแยกระเบิดกาย(ระเบิดพลีชีพร่างแย ก) ในตอนนั้นคาคาชิจึงได้ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุป ผา ผลักระเบิดของเดอิดาระเข้าไปยังอีกมิติหนึง ทำให้ทุกคนสามารถรอดชีวิตมาได้ในที่สุด(เนตรวงแหวนกร ะจกเงาหมื่นปุปผามีอานุภาพเหนือกว่าเนตรวงแหวนธรรมดา หลายเท่าจึงทำให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบไปด้วย)
    [​IMG]
     
  9. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
  10. แสงอุ่น

    แสงอุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,036
    อืม... วิชานี้ เข้าท่าดีครับ "เนตรวงแหวน" สนุกดี
    สงสัยว่าคนที่บอกว่าเดินผ่านแล้วเรียนแบบคนอื่นได้เลย จะเรียนแบบวิชา เนตรวงแหวน ได้รึเปล่า น่าคิดๆ แบบนี้เวลาเดินผ่านซอยที่มีคนเยอะๆ กว่าจะพ้นถึงปากซอยคง "อ๊วกแตก" แน่เลย
    ยิ่งเวลาเจอวิชา "หมัดเมา" เข้าไปทีละก็ แหมม ทำไปได้.... เลยทีเดียว
     
  11. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    นี่เป็นรูปแบบที่อันตรายที่สุด ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่ากำลังเพ่งมองใครหรืออะไรอยู่

    [​IMG]

    มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "อาโนเนะ อึนรึป่ะ"

    ใช้วิชา "อายิโนะโมโต๊ะ"

    ใช้พลัง "สุกี้ยากี้" เป็นพลังขั้นสุดยอด

    เป็นศิษย์เอกของท่านอาจารย์ "มาดูโมะ โอนิสึเกะ"




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • eye.gif
      eye.gif
      ขนาดไฟล์:
      119.9 KB
      เปิดดู:
      37,767
  12. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เอวังด้วยประการฉะนี้น่อ อิอิ ^^
     
  13. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +958
    อภิญญา การตูน :cool: นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทำมาขาย อืมเห็นว่ามีคาถา แยกเงา พันไดนาโม ด้วยไม่ทราบไปหาได้ที่ไหนครับ
     
  14. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    ขอบคุณครับ แล้ว copy ผ่านเน็ตหรือทีวีได้ไหมครับ
     
  15. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    แล้วในกรณี ที่คนคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้สมอง เช่นความถนัด ความจำ ทักษะโดยการเลียนแบบจากสมองผู้อื่นโดยการเดินผ่านหรือมองดู เป็นประเภทเดียวกันกับผู้ใช้อภิญญาสายสัญญานี้หรือไม่
     
  16. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ยังไม่เคยเห็นคนประเภทนี้เลย เพราะเราต้องแยกให้ออกก่อนระหว่าง
    ความรู้ และ ความสามารถ
    กล่าวคือ รู้ความคิด รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้ เราเอามาทำได้กรณีเดียวคือใน
    ทิพย์เพราะ ในทิพย์ไม่มีร่างกายเป็นอุปสรรค ใช้ความรู้ความเข้าใจอย่างเดียวพอ
    ส่วนในโลกความเป็นจริงแล้ว แม้เรารู้ว่าเป็นแบบนั้น เช่นนักมวย นักบอล
    แต่เราเลียนแบบไม่ได้เพราะร่างกายเราเป็นอุปสรรค รู้แต่ไม่สามารถทำได้นั่นเอง

    แต่มีอาจารย์ผมท่านสอนว่า"ถ้าเจ้าลืมตาเข้าฌาณได้ ทำให้กายเนื้อแนบแน่น
    เป็นหนึ่งเดียวกับฌาณ เมื่อนั้นจะยืดเหล็กให้ยาวๆก็ได้ จะเสกบ้านทำด้วยทอง
    คำก็ได้"

    จึงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าบุคคลที่เลียนแบบคนอื่นได้ทั้งหมดแม้เพียงมองเห็น
    ผู้นั้นอาจเป็นผู้ที่มีอภิญญาบุคคลที่เข้าฌาณได้ขณะลืมตานั่นเอง.
     
  17. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    ครับถ้าผมลองเปรียบเทียบว่า ถ้าสมมติว่าพระอานนท์ เป็นผู้มีความจำเป็นเลิศ สามารถจดจำทุกคำพูดของพระพุทธเจ้าได้เพราะท่านเป็นผู้มีสมองเป็นเช่นนั้นเอง ถ้ามีผู้สามารถรับเอาความชำนาญทักษะการจำโดยอาศัยการเลียนแบบรูปแบบของสมองของพระอานนท์ลองไปปฏิบัติ ถึงไม่เต็มร้อยแต่ก็ได้ซัก 10-20 % นั่นจะเรียกว่าอภิญญาสายสัญญาได้หรือไม่ครับท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  18. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ไม่ได้ครับ เพราะแม้พระอานนท์เถระท่านรู้หมดทุกอย่าง แต่ด้วยความจำกัดด้านร่างกาย
    ทำให้ไม่สามารถบรรลุธรรมนั้นได้
    ความจำกัดทางร่างกายของพระอานนท์เถระเป็นเช่นไร ทำไมถึงกล่าวยังงั้น??

    กล่าวคือ แม้ท่านรู้มากมาย แต่ยังมีใจเกาะเกี่ยวกับร่างกาย ทั้งของตัวเอง และร่าง
    กายของพระพุทธเจ้า เมื่อยังไม่อาจตัดร่างกายได้ แม้รู้หมดจึงบรรลุไม่ได้นั่นเอง

    อภิญญาสายสัญญานั้นคือ อธิฐานจิตให้มี ถ้าเข้าฌาณได้แบบลืมตาย่อมทำได้หมด
    แต่พระทั้งหลายเมื่อสำเร็จแล้วย่อมมีข้อจำกัดทางร่างกาย ทำให้ใช้ฤทธิ์ได้ไม่เหมือนกัน
    จำกัดอย่างไร เรื่องนี้เกี่ยวกับสังโยชน์ เรื่องความ ชอบ ไม่ชอบ คือบางคนไม่ชอบผลใม้
    บางชนิดเนื่องจากรสชาติไม่ถูกลิ้น เมื่อพระสำเร็จแล้ว แค่รสชาติที่ไม่ชอบ ทำให้แสดงฤทธิ์บางอย่างไม่ได้ด้วยอารมณ์ที่ไม่ชอบตรงนี้แค่นั้นเอง นี่เป็นเรื่องที่เราคิดว่าเล็กน้อย แต่สำคัญ เหมือนเฟืองเล็กๆที่เสียเลยทำให้เฟืองใหญ่ทำงานไม่ได้เรียกว่าข้อจำกัด
     
  19. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    จาก nostradamus
    คำทำนายนอสตราดามุส เซนจูรี่ 4 บทที่ 87
    c4q87
    A King's son learned in many languages,
    Different from his senior in the realm:
    His handsome father understood by the greater son,
    He will cause his principal adherent to perish
    ผมเกรงว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์ ของคุณ (handsome king) จะเป็นสายสัญญา
    เพราะถ้าแปลความตามบรรทัดที่ 3 ก็คือท่านสามารถเข้าใจได้โดยผ่านลูกของท่าน ซึ่งลูกของท่านเองก็น่าจะสามารถเรียนได้หลายภาษามากกว่าคนปกติธรรมดาหลายเท่า ดังนั้นผมจึงตั้งกระทู้เพื่อถามเอาความเข้าใจเกี่ยวกับอภิญญาของคนที่เรียนรู้ความสามารถของคนอื่นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...