หนุมานคชสาร เหรียญลพ.ณรงค์ วัดมะเกลือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    http://www.panyapatipo.com/
    เข้าไปอ่านฟังธรรมได้เลยครับ
    เหรียญพระอาจารย์เปลี่ยน แม่แตง เชียงใหม่ ออกที่สกลนคร วัดที่ท่านบวช
    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    %E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99-jpg.jpg 80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2017
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7712
    พระสมเด็จหลวงปู่จันทร์โสม ว้ฃัดป่านาสีดา หนองคายปี2541 ปีเดียวกับเหรียญรุ่นแรกของท่านครับ ครูบาอาจารย์สายพระป่าหลวงปู่มั่น

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ(ปิดรายการ)

    ลป.จันทร์โสม.JPG ลป.จันทร์โสมหลัง.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2017
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    หลวงปู่นะ ฐิตปัญโญ สืบพุทธาคมหลวงปู่ศุข

    พระครูปทุมชัยกิจ หรือ หลวงปู่นะ ฐิตปัญโญ เจ้าอาวาสวัดปทุมธาราม (หนองบัว) ต.หนองบัว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่งแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน ที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระเถระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมทายาทสืบทอดพุทธาคมสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

    ปัจจุบันหลวงปู่นะ สิริอายุ 92 พรรษา 72 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปทุมธาราม และอดีตยังเคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบ่อแร่-หนองขุ่น เขต 2 อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ด้วย

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า โฉม เหล่ายัง เกิดเมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2459 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 (อ้าย) ปีมะโรง ณ บ้านขุนแก้ว ต.ดงขวาง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี

    เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 9 คน ของนายแจกและนางตี่ เหล่ายัง ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

    ในวาระแรกเกิด บิดา-มารดา ตั้งชื่อให้ว่า โฉม ต่อมาเมื่ออายุได้ 5-6 ขวบ หมอเป้ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณ และมีความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ด้วย เห็นว่าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เป็นประจำ จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า นะ อันเป็นมงคลนาม

    ช่วงวัยเยาว์ ครอบครัวมีความเป็นอยู่ค่อนข้างขัดสน เนื่องจากมีบุตรด้วยกันหลายคน ทุกคนต้องช่วยเหลือตนเอง

    ต่อมาครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเกาะโสภี อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ท่านจึงได้รับการศึกษาที่วัดหนองมะกอกในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรียนที่โรงเรียนวัดหนองแฟบ หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มาช่วยครอบครัวทำอาชีพกสิกรรมทำมาหาเลี้ยงชีพ

    ครั้นอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้ขออนุญาตโยมพ่อโยมแม่ อุปสมบท ซึ่งท่านทั้งสองก็ยินดีร่วมอนุโมทนา

    ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดราษฎร์นิธิยาวาส (ดอนปอ) ต.บ่อแร่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2480 มี พระครูวิจิตรชัยการ (หลวงพ่อเคลือบ) วัดบ่อแร่ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ชั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สำเนียง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า ฐิตปัญโญ มีความหมายว่า ผู้มีปัญญาอันตั้งไว้แล้ว

    หลังอุปสมบท ท่านได้ปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ พ.ศ.2481 สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักเรียนวัดราษฎร์นิธิยาวาส (ดอนปอ) พ.ศ.2483 เดินทางไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดหนองแฟบ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี สอบได้นักธรรมชั้นโท

    พ.ศ.2485 ได้ไปจำพรรษาที่วัดปทุมธาราม (หนองบัว) และในปี พ.ศ.2487 ท่านได้เข้าสอบนักธรรมชั้นเอก อันเป็นชั้นสุดท้ายของภาคการศึกษานักธรรมที่วัดหนองแฟบ

    ขณะศึกษานักธรรม ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณกับพระอาจารย์ศรี วัดหนองแฟบ ควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป

    ด้วยความเป็นพระหนุ่มที่ทรงความรู้ วิทยฐานะนักธรรมชั้นเอก ในสมัยนั้นจะหายากยิ่ง ท่านจึงมีความคิดก่อตั้งสำนักเรียนขึ้นมาใหม่ หลังจากซบเซาขาดหายไปนาน ซึ่งท่านเป็นผู้สอนเองทุกชั้น ตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ท่านจึงมีลูกศิษย์ที่เป็นพระภิกษุบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่ในเวลานี้หลายจังหวัด

    ในความเป็นจริงแล้ว ภายหลังสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ท่านคิดที่จะเรียนทางด้านภาษาบาลีต่อ แต่ด้วยกิจการคณะสงฆ์ที่วัด ทำให้ไม่มีเวลา อีกทั้งสำนักเรียนบาลีก็อยู่ในตัวเมืองไกลจากวัดหนองบัว การเดินทางไม่สะดวก ทำให้ต้องงดการเรียนบาลี

    อย่างไรก็ตาม ท่านหันมาให้ความสนใจศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติม และเรียนวิทยาคม เลขยันต์พันคาถาควบคู่กันไป จากตำราที่พระปลัดปั่น เจ้าอาวาสรูปที่ 9 ได้รับมอบจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และพระปลัดปั่นท่านได้มอบตำราของหลวงปู่ศุขให้กับหลวงพ่อนะ

    ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาในตำราทั้งหมด จนมีความรู้แตกฉานในวิทยาคมเป็นอย่างดี เป็นที่พึ่งของชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วย และผู้ที่โดนคุณไสย ท่านก็ได้ช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์เหล่านั้นด้วยความเมตตา
    ด้านงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้จัดเทศนาธรรมเป็นประจำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชักชวนประชาชนให้ร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ เวียนเทียนรอบอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อีกทั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดปทุมธาราม (หนองบัว) เป็นครูสอนการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนประชาชนทั่วไป จัดสถานที่อบรมหน่วยพระธรรมทูต และได้รับเชิญให้ออกปฏิบัติงานพระธรรมทูตตามวัดและโรงเรียนในเขตอำเภอ-จังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง โดยร่วมมือกับหน่วยราชการต่างๆ

    ด้านการพัฒนาวัด นับตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปทุมธารามเป็นต้นมา ได้ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ โครงสร้างชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริม เหล็ก ชั้นบนเป็นไม้ หลังคาเป็นกระเบื้องเกล็ด, สร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ลักษณะทรงไทย คอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล, สร้างกุฏิ 2 หลัง ลักษณะทรงไทยประยุกต์ ชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นบนเป็นไม้, สร้างฌาปนสถานแบบมาตรฐาน พร้อมเตาเผาอย่างดี, สร้างอาคารปริยัติธรรมภิกษุ-สามเณร ลักษณะทรงไทย คอนกรีตเสริมเหล็ก

    นอกจากนี้ ยังสร้างวิหารหลวงปู่ศุขอีก 1 หลัง ลักษณะทรงไทยก่ออิฐถือปูน ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบัน ลายใบเทศ ประดับด้วยกระจก, ต่อเติมชานวัดพื้นไม้ สร้างมุขบันไดทรงไทยจัตุรมุข, สร้างหอสมุดประชาชนประจำตำบล, สร้างหอ กลอง หอระฆัง, ถมดินปรับพื้นที่ในลานวัด, สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่

    ด้านวัตถุมงคลของหลวงปู่นะ อาทิ ใบพลูใจเดียว, เหรียญนารายณ์ทรงครุฑ, สมเด็จบัวไขว้ข้างอุ,ปิดตามหาอุด, เหรียญรูปไข่ รุ่นรวยลาภ-รวยยศ, ผ้ายันต์หนุมานประสานกาย,สมเด็จฉลองอายุ80 เป็นต้น ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากสาธุชน เนื่องจากมีพุทธคุณครอบจักรวาล โดดเด่นในหลากหลายด้าน

    พ.ศ.2493 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมธาราม

    พ.ศ.2495 เป็นเจ้าคณะตำบลบ่อแร่-หนองขุ่น เขต 2

    พ.ศ.2500 เป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนประชา บาล โรงเรียนรัฐปทุมราษฎร์อุปถัมภ์

    พ.ศ.2501 เป็นพระอุปัชฌาย์

    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูปทุมชัยกิจ

    พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ในราชทินนามเดิม

    หลวงปู่นะ พร่ำสอนญาติโยมทั่วไป ให้ทุกคนทำความดี ละเว้นความชั่ว ให้มีความอดทน อดกลั้น ให้มีความละอายต่อการกระทำชั่ว กตัญญูกตเวทีต่อบิดา มารดา และครูบาอาจารย์

    หลวงปู่นะ เป็นพระเถราจารย์ชื่อดังรูปหนึ่ง ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงอยู่เป็นประจำ พัฒนาวัดเก่าแก่เสื่อมโทรมจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง

    เป็นเนื้อนาบุญของชาวเมืองชัยนาทอย่างแท้จริง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสุงครับ

    พระร่วงยืนอุ้มบาตรเนื้อชิน หลวงปู่นะ
    ให้บูชา1000บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ ออกวัดก็บูชาเท่านี้ครับ

    ลป.นะ.jpg ลป.นะหลัง.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2017
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    _100_168.jpg
    ๏ อมตะมหาเถราจารย์

    “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า

    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ (ป่าช้าศาลาดำ) ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี

    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10766
    เหรียญรุ่นแรกครุบาอินวัดฟ้าหลั่ง ประวัติว่าเสก2ปี
    ให้บูชา16000บาทครับ(ปิดรายการ)

    ครูบาอิน.jpg ครูบาอินหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2017
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  9. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-sungwarn-hist.htm

    พระสมเด็จหลวงพ่อสังวาลย์ เชมโก ยุคกลาง มี2องค์ ให้บูชาองค์ละ300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    องค์ที่1

    หลังธรรมจักร1.jpg หลังธรรมจักร1หลัง.jpg

    องค์ที่ 2

    หลังธรรมจักร2.jpg หลังธรรมจักร2หลัง.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระสมเด็จหลังลายเซ็นต์หลวงปู่หมุน มหาสมปราถนา พิธีเสกวัดระฆังและวัดซับลำใยสามัคคีธรรม หลวงปู่หมุนปลุกเสกอธิฐานจิตและครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ ลป.ละมัย สำนักสวนสมุนไพร ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพ.รวย วัดตะโก ลป.ทิม วัดพระขาว หลวงปู่ผล เนินทอง เหรียญเสมาสมปราถนาสวยๆนิยม ราคาไป7-8หมื่นแล้วนะครับชั่วโมงนี้ พระสมเด็จพิธีเดียวกันยังเบากว่าเยอะสร้างไม่มาก ถ้าพิมพ์ที่โรยเกษาเยอะๆ14000-15000 บูชากันแล้วนะครับ

    ให้บูชา9000บาทครับ

    ประวัติสมเด้จ.jpg สมเด็จสมปารนา.jpg สมเด็จสมปารนาหลัง.jpg สมเด็จสมปารนาข้าง.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระอาจารย์จิ เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๐๗ ที่บ้านในดอน ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี อุปสมบทเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ ต่อมาได้ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง และศึกษาพุทธาคมกับ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

    ปัจจุบัน พระอาจารย์จิ เป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองหว้า และเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดเจ้าสำราญ (วัดหนองหว้า เป็นวัดบ้านเกิดของ สมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) นามเดิมว่า 'ทอง' ชาติภูมิบ้านหนองหว้า ต.หนองขนาน วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา ปัจจุบันยังมีเจดีย์เก่าแก่ที่สมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) สร้างให้โยมแม่ อยู่ที่หน้าอุโบสถ)

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๙ หลังจากที่พระอาจารย์จิได้ศึกษาวิชาอาคมวิชาไสยเวทต่างๆ จากหลวงพ่อยิดจนหมดแล้ว หลวงพ่อยิดได้เอ่ยปากชวนให้อยู่จำพรรษาที่วัดหนองจอก โดยจะปลูกกุฏิให้ต่างหาก แต่พระอาจารย์จิไม่สามารถทำตามความประสงค์ได้ โดยท่านได้ลาหลวงพ่อยิดกลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดหนองหว้า และนำวิชาต่างๆ ที่หลวงพ่อยิดถ่ายทอดให้ หมั่นฝึกฝนอยู่เป็นเนืองนิตย์ ไม่ละเลยในวัตรปฏิบัติ พระกรรมฐาน ขยันหมั่นเพียรตลอดเวลา จนจิตเป็นสมาธิ นิ่งสงบ

    หลวงพ่อยิด ถึงกับเคยเอ่ยปากว่า "ท่านจิ ท่านเก่งจริงๆ ทำอะไร ปลุกเสกอะไร ได้เหมือนหลวงพ่อทุกอย่าง" หลวงพ่อยิดได้พูดท่ามกลางลูกศิษย์หลายคน ทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส

    จริงดังที่หลวงพ่อยิดพูดไว้ พระอาจารย์จิปลุกเสกวัตถุมงคลได้ขลังจริงๆ มีผู้นำไปใช้แล้ว มีประสบการณ์มาก โดยเฉพาะตะกรุดโทน และปลัดขิก มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่เลื่องลือกันอย่างกว้างขวาง ทางด้านมหาเมตตามหานิยม ค้าขายดี แคล้วคลาด ปลอดภัย และคงกระพันชาตรี

    ปัจจุบันท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลายอย่าง เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้ทำบุญบูชากัน โดยมีกระแสตอบรับดีมาก ซึ่งมีศิษย์จำนวนมากต่างคาดกันว่า วันข้างหน้าจะหายากเหมือนกับของหลวงพ่อยิดอย่างแน่นอน

    แม้ว่าพระอาจารย์จิจะมีอายุเพียง ๔๐ ปีเศษ แต่วัตรปฏิบัติและปฏิปทาของท่านก็เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของบรรดาศิษยานุศิษย์ ที่มักจะพบเห็นท่านอยู่ในอาการนิ่ง สงบ สุขุม ไม่ค่อยพูด เกรงใจญาติโยมเสมอ และสำรวมในกิริยา แบบพระสุปฏิปันโน ผู้อาวุโสทั้งหลาย

    นอกจากนี้ การจารอักขระเลขยันต์ต่างๆ ก็สวยงามมาก ดูแล้วเข้มขลังดี ท่านออกวัตถุมงคลมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระหนุ่ม บางคนจึงมองข้ามท่านไป แต่ผู้คนในพื้นที่นับถือท่านมาก เพราะท่านมีเมตตาบารมีสูง และชอบสนองศรัทธาญาติโยมเสมอ หากช่วยอะไรได้ เป็นต้องช่วยทันที หากให้อะไรใครได้ ท่านไม่เคยขัด

    พระอาจารย์จิเป็นพระสมถะ ไม่สะสมสิ่งของมีค่าใดๆ ปัจจัยทำบุญที่ญาติโยมถวายให้ ท่านไม่เคยเก็บสะสมเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ท่านจะถวายแด่เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน เพื่อสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดจนหมดสิ้น รวมทั้งมอบให้เป็นทุนการศึกษาของเด็กนักเรียนวัดหนองหว้า และตั้งกองทุน เพื่อช่วยเหลือเด็กเรียนดี แต่ยากจน และผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสุงครับ

    รูปถ่ายพระอาจารยืจิ วัดหนองหว้า เพรชบุรี หลังจารยันต์ลายมือท่าน ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์

    ให้บูชา200บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    อ.จิ๊.jpg อ.จิ๊หลัง.jpg
     
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ได้โอนเงิน ๑๖๓๕๐ บาท เมื่อ๒๙พย.เวลา๑๑.๐๒นเป็นค่าบูชาพระ๒.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    http://www.ittiyano.com/index.php?option=com_content&task=view&id=18&Itemid=8
    ลองอ่านบทความผู้สร้างหนุมานหลวงปู่ทิมสมัยนั้นครับ ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลอย่างสูงครับ
    หนุมานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หนุมานอับหนึ่งของเมืองไทย
    ผมส่งประกวดติดรางวัลที่๓งานศูนย์ราชการเมื่อเดือนกันยายน ใบประกาศยังไม่ได้รับครับ สวยเดิมๆอุดผงพรายมีรอยจารลายมือชัดเจนครับ สุดยอดหายากแน่นอนสร้างไว้หลักพัน ไม่ต้องเชียร์ต้องดันต้องปั่นต้องปั้นเล่าอะไรอีกสำหรับวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม

    ให้บูชา 200,000 บาท สองแสนบาทครับ

    หนุมานลปทิม.jpg หนุมานลปทิม1.jpg หนุมานหลวงปู่ทิมซ้าย11 copy.jpg หนุมานลป.ทิมขวา1.2 copy.jpg

    หนุมานลป.ทิมกล่อง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2017
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    1746-be47.jpg

    หลวงปู่ทองมา ถาวโร


    ประวัติ

    หลวงปู่ทองมา ถาวโร เกิดเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๔๔๓ ปีชวด ที่บ้านท่าสี ตำบลท่าสี อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด บิดาชื่อ นายแก่นท้าว มารดาชื่อนางหา ภูมิวัล เป็นตระกูลที่มั่งคั่งในละแวกนั้น โยมบิดามารดาของท่านเป็นชาวลาวเกิดที่หลวงพระบาง ได้อพยพกันมาตั้งรกรากที่บ้านท่าสี ในวัยเด็กท่านได้ติดตามพระเณรไปอยู่วัดเสมอ เพราะต้องการศึกษาคาถากันผีตามประสาเด็ก


    การศึกษา
    จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านเป็นคนเรียนเก่งและอ่อนน้อมถ่อมตน กิริยามารยาทเรียบร้อยและไม่เคยเอาเปรียบเพื่อนฝูงทำให้เพื่อนฝูงรักใคร่กันทุกคน จนกระทั่งอายุได้ ๑๕ ปี ท่านจึงถูกทาบทามให้เป็นครูชั่วคราว ที่โรงเรียนบ้านเชียงใหม่ ทำการสอนได้ ๓ เดือนจึงมีครูใหม่มาสอนแทน หลังจากนั้นท่านได้บรรพชา เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๕๙ โดยมีพระอธิการคำแห่งบ้านงิ้วโพธิ์ อำเภอธวัชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ และจำพรรษา ณ วัดสว่างท่าสี ท่านมีความสนใจหนังสือจารใบลานที่ผูกเป็นมัดๆ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นบทสวดมนต์เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือนิทานพื้นบ้าน และมีวิชาคาถาอาคมบ้าง ท่านได้เรียนบุพพสิกขาวรรณา สวดมนต์น้อย สวดมนต์กลาง สวดมนต์ใหญ่ เรียนตัวธรรม เรียนเทศน์พระเวสสันดรทำนองอีสานจนสามารถเทศน์ได้ทุกกัณฑ์ เมื่อครบ ๓ ปี ที่วัดสว่างท่าสี ท่านจึงย้ายสำนักไปเรียนมูลกัจจายน์ จากพระอาจารย์คำภา ที่วัดบ้านใผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพระเณรนิยมเรียนกันมากในสมัยนั้น เพราะถือว่าเป็นของสำคัญเรียกว่าธรรมะชั้นสูง ถ้าใครเรียนสำเร็จจะมีความรู้แตกฉานมากเพราะเป็นการเรียนภาษาบาลีล้วนๆ กับพระอาจารย์คำภา ๑ ปี จึงได้ลากลับและบวชเป็นพระในปี พ.ศ.๒๔๖๓ ณ พัทธสีมาวัดท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ โดยมีพระสีลาจารวิสุทธิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพักอยู่วัดสว่างท่าศรี ได้เพียง ๖ วัน แล้วกลับไปยังอุบลราชธานีอีกครั้ง เพื่อเรียนแปลธรรมบทมงคลทีปนี กับพระอาจารย์มหาพันธ์ ที่วัดท่าศาลา อำเภอเขื่องใน เป็นเวลา ๒ พรรษา จึงย้ายไปเรียนที่วัดทุ่งศรีเมือง เพื่อเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับพระครูมหาสมณาจารย์ได้ ๓ เดือน จึงกราบลาอาจารย์ผู้สอนออกเดินธุดงค์ หลวงพ่อทองมาผ่านการธุดงค์มาอย่างโชกโชน ถึง ๖ ประเทศคือ ไทย ลาว เขมร เวียดนาม พม่าและอินเดีย ท่านได้ผ่านอุปสรรคนานับประการโดยที่ท่านมีเพียง "ธรรมาวุธ" เพียงอย่างเดียว ทุกแห่งที่ท่านธุดงค์ผ่าน ท่านจะอบรมสั่งสอนชาวบ้านให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์


    เกียรติประวัติและผลงาน
    คำสอนจากหลวงปู่ หลวงปู่ทองมาถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของท่าน ซึ่งท่านเน้นหนักไปในทางให้พระพุทธศาสนิกชน เคร่งครัดไปในทางถือศีลซึ่งแปลว่าปาติ คือการรักษากาย วาจา ใจของตนให้เป็นอยู่อย่างปกติ ไม่ให้มีความผิดแปลกไปจากความเป็นมนุษย์ได้อย่างปกติ โดยเฉพาะศีล ๕ ถ้าใครรักษาหรือนับถือไม่ได้ ก็เท่ากับนิ้วมือของเราที่มีอยู่ ๕ นิ้ว ถ้าขาดหายไปนิ้วหนึ่งมันก็ไม่ปกติ จะทำอะไรก็ไม่เป็นสุข ผู้รักษาศีลให้สะอาดหมดจดดี ต้องปฏิบัติธรรม ๒ ข้อเสียก่อนคือ หิริ และโอตตัปปะ ส่วนการสมาทานศีลนั้นเราจะสมาทานเองก็ได้ จะไปสมาทานกับพระก็ได้ หรือสมาทานจากสามเณรก็ได้ ทั้งนี้อยู่ที่เราตั้งใจทำให้ถูกต้องเท่านั้น เมื่อศีลเกิดมีขึ้นที่ตัวเรา เราก็เกิดความอิ่มใจ เมื่ออิ่มใจด้วยศีล ใจก็สงบ เมื่อใจสงบ ความสบายก็เกิดขึ้นที่ใจ อีกข้อหนึ่งที่ท่านเทศน์อยู่เสมอคืออย่าให้มีความโลภเกิดขึ้นในสันดานของตนเพราะความโลภคิดอยากได้ของผู้อื่นนั้น เป็นความคิดที่ผิดจะไม่มีมิตรคบค้าสมาคมด้วย และความโลภนี้จะนำท่านไปสู่ความหายนะ นอกจากนี้ท่านยังมีคติธรรมคำกลอนบทหนึ่งที่ว่า
    "มัวรื่นเริงสรวลสันต์กันทำไม เมื่อเปลวไฟกำลังไหม้โลกนี้อยู่
    ความมืดปกคลุมท่านไม่ทันดู ใยไม่รู้หาโคมไฟไว้ส่องทาง"
    อันหมายถึงให้พุทธศาสนิกชนตั้งหน้าปฏิบัติธรรม และหาธรรมะไว้ส่องทางเทวโลกหรือพระนิพพาน ดังคำกล่าวของท่านที่ว่า "จงยอมโง่ในเรื่องโลกีย์ แต่ให้เข้าใจดีในเรื่องโลกุตตระ"
    หลวงปู่ทองมานับว่าท่านเป็นพระผู้เป็นเนื้อนาบุญของชาวพุทธจริงๆ เพราะท่านเป็นผู้มีคุณธรรมเป็นเลิศ จนชาวบ้านต่างขนานนามให้ท่านว่าเป็น "พระนักบุญแห่งภาคอีสาน" เพราะท่านเป็นผู้ให้ตลอดกาล ไม่ว่าใครจะมีความทุกข์ร้อนใจอย่างไร เมื่อท่านมาหาท่านจะปัดเป่าความอัปมงคล และความเศร้าหมองให้สิ้นไปทุกคน โดยเฉพาะในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นหมอของหมู่บ้าน ในด้านการศึกษาของเยาวชน ท่านได้ช่วยหาทุนทรัพย์ให้บุตรหลานของชาวบ้านได้เข้าศึกษาทั้งในหมู่บ้านและตัวเมือง พระภิกษุสามเณรที่จำพรรษาอยู่กับท่านต่างก็ได้รับการส่งเสริมในด้านการศึกษา ในทางปริยัติธรรม และได้ไปศึกษาต่อในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ท่านยังพัฒนาถนนหนทาง ตลอดจนแหล่งน้ำให้กับชาวบ้านอีกด้วย ส่วนการพัฒนาวัดสว่างท่าศรี ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ สร้างอุโบสถ สร้างพระธาตุพนมจำลอง เป็นต้น และวัดอื่นๆ เป็นจำนวนมาก เช่น วัดป่าเมตตาธรรม วัดป่าสักดาราม วัดป่าท่าม่วง วัดป่าหวาย ฯลฯ


    หลวงปู่ทองมา ถาวโร มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ รวมอายุได้ ๙๑ ปี พรรษา ๗๑ และพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๓๕



    ขอขอบคุณท่านเจ้าของที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    เหรียญรุ่นนิยมของหลวงปู่ทองมา บล๊อคนี้อยู่ในชุดกรรมการ และเป็นบล๊อคหัวโน ของเก๊เยอะ จุดจบที่ขอบตัดครับบริเวณ 13 นาฬิกา และด้านหลังหูเหรียญ ลองศึกษาดูได้ครับ รุ่นประสพกาณ์และนิยมอย่างมากของท่าน เหรียญนี้สภาพผ่านการบูชาสึกนิดหน่อยเส้นสายฝนหายไปบ้างแต่ขอบตัดชัดเจน สวยๆเกือบสองหมื่น

    ให้บูชา 7000 บาทครับ

    ลป.ทองมา.jpg ลป.ทองมาหลัง.jpg
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    916-12cb.jpg

    “มนุษย์”แทบทุกคนเมื่อสิ้นลมหายใจแล้วผู้อยู่ข้างหลังก็จะนำร่างไปทำพิธีทางศาสนา ขั้นตอนสุดท้ายคือการเผากายเนื้อให้เหลือเพียงเถ้ากระดูกละเอียดและหยาบเพียงไม่กี่ชิ้น บรรจุใส่โกศเล็กๆ ไว้ดูต่างหน้าเพื่อระลึกถึงผู้ที่จากไป

    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

    มีการเผาศพอยู่กรณีหนึ่งซึ่งเป็นข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ เกี่ยวกับศพของพระครูสมุห์ ธรรมสุนทร หรือ “หลวงพ่อสุด อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ของ “ตี๋ใหญ่” ที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2545 ที่ผ่านมาที่วัดกาหลง

    เนื้อข่าวน่าสนใจที่ว่าศพของท่านโดนไฟเผาไหม้ไม่หมด แม้ว่าร่างจะเป็นเนื้อหนังกระดูกเผาหมดแล้วแต่กระดูกหรืออัฐิยังอยู่ในภาพที่สมบูรณ์มาก ไม่บิ่นหรือแตกร้าวเป็นชิ้นๆ แบบการเผาศพท่าวไปเลย ทำให้หลายคนไม่อยากเชื่อ จึงต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา

    ที่มาแห่งเหตุอัศจรรย์นี้มีนิมิตเกิดแก่พระศิษย์เอกของหลวงพ่อสุดรูปหนึ่งซึ่งปัจจุบันท่านรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดกาหลง ท่านเล่าว่า

    “ก่อนหน้าที่จะเผาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาอาตมาฝันเห็นหลวงพ่อสุดมาบอกว่าไม่มีใครเผาท่านได้นอกจากตัวท่านเอง อาตมาเลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ท่านบอกให้จัดดอกไม้จันทน์มาบายศรีขอขมาไว้และให้อาตมาเป็นคนจุดไฟเผา โดยให้อาตมาจับมือท่านเผาร่างท่านเอง อาตมาก็นำเรื่องความฝันไปเล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟัง

    ต่อมาในวันพระราชทานเพลิงศพ ช่วงพิธีเผาจริงเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครท่านมาเป็นประธานจุดไฟ ปรากฏว่าเกิดเหตุประหลาดขึ้นเมื่อไฟที่จุดกับดอกไม้จันทน์ดับลงเฉยๆ ต้องวางเอาไว้อย่างนั้น อาตมาเห็นจึงเข้าไปจุดไฟเผาตามที่ฝันเอาไว้

    “ปกติแล้วศพโดยทั่วไปใช้เวลาเผาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ไหม้หมด แต่นี่เวลาเผาท่านก็ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง ระดับไฟร้อนมากประมาณ 300 องศา ขณะที่เผาก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปกลับร่างท่าน แต่เมื่อได้เวลาราไฟ ปรากฏว่ายังเห็นร่างของท่านยังอยู่เป็นโครงกระดูกทั้งโครงทั้งที่เผามานาน”

    คุณอุบลรัตน์ ใยไหม กำนันตำบลกาหลง ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า

    “ก่อนวันประชุมเพลิงท่าน คณะกรรมการก็ได้เตรียมงานแต่เนิ่นๆ โดยได้เคลื่อนสรีระร่างของท่านมา หลวงพ่อคล้ายคนนอกหลับ ร่างท่านมีแต่หนังหุ้มกระดูกไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า จีวรเก่าแต่ก็ไม่เปียกคราบน้ำเหลืองเลย ที่เผาท่านเป็นคนสุดท้าย เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดให้ดูก็เห็นภาพที่ว่าท่านยังเป็นโครงกระดูกอยู่นะ พี่ก็แปลกใจเลยตะโกนบอกว่า “หลวงปู่ไม่ไหม้” แล้วชาวบ้านก็วิ่งไปดู เพราะชาวบ้านก็ยังไม่กลับ เขาจะรอดูที่ว่ากันว่าหลวงปู่จะเผาไม่ไหม้จะเป็นจริงมั้ย เขาก็เลยอยากพิสูจน์ แล้วก็เป็นจริง หนังท่านไหม้แต่กระดูกท่านยังไม่หลุด”

    สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านละแวกนวัดและประชาชนทั่วงไปที่สนใจมั่นใจมากขึ้นว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสุดเพราะท่านสำเร็จวิชาอยู่ยง

    คงกระพันชาตรีศาสตร์ลี้ลับที่ทำให้ฟังขารของท่านไม่อาจเผาให้ไหม้หมดอย่างคนธรรมดาทั่วไปได้...

    ตามประวัติของหลวงพ่อสุดแห่งวัดกาหลง จ.สมุทรสาคาเจ้าตำรับยันต์ตะกร้อและเสือเผ่น ท่านเป็นชาวอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดในตระกูลชาวน้าในสมัยราชกาลที่ 5 ท่านบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดกลางพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด แล้วเดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดไปแสวงหาวิชาและความรู้ในทางธรรมตามที่ต่างๆ จนกระทั่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดกาหลง จนมรณภาพ

    เรื่องราวของหลวงพ่อสุดเกี่ยวกับพลังอำนาจจิตที่อยู่ในรูปการสักยันต์ตะกร้อปละเสือแผ่นนั้นโด่งดังมากแม้แต่ “ตี๋ใหญ่” ขุนโจรชื่อดังที่เขาลือกันว่าหนังเหนียวและแคล้วคลาดอยู่ตลอดยังนับถือ ไปมาหาสู่หลวงพ่ออยู่บ่อยๆ “ตี๋ใหญ่” มีของดีคือมีผ้ายันต์กับตะกรุดของหวงพ่อสุดไว้ป้องกันตัว ขนาดถูกตำรวจเป็นร้อยล้อมจับก็ยังหนีเอาตัวรอดไปได้ จนใครๆ ลือกันว่าตี๋ใหญ่มีวิชาล่องหนหายตัวได้!

    มีเรื่องเล่าถึงวันที่ “ตี๋ใหญ่” สิ้นชื่อ คือวันนั้นก่อนที่จะหนีไปหลบซ่อนตัว “ตี๋ใหญ่” ให้ลูกน้องขับรถพามาหาหลวงพ่อสุดที่วัดกาหลง แต่มาแล้วไม่พบหลวงพ่อจึงกลับออกมา ระหว่างที่รถวิ่งออกมาก็โดนถล่มจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองข้างทาง นับไม่ถ้วนว่ากี่นัด

    จะเห็นว่าคนเราเมื่อดวงขาดมันก็ต้องมีอันเป็นไป และเหตุที่ตี๋ใหญ่มาหาลวงพ่อสุดนั้นเป็นเพราะว่าพวงพระและตะกรุดของตี๋ใหญ่ หายไปก็เลยจะมาขอใหม่จากหลวงพ่อ จึงมาพบจุดจบในวันนั้น

    หลายคนกล่าวว่าถ้าผ้ายันต์กับตะกรุดยังอยู่ ตี๋ใหญ่อาจจะยังไม่ตาย แต่ถึงอย่างไรตี๋ใหญ่ก็ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากพลังอำนาจจิตหรืออิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็มาอยู่ “เหนือกรรม” ไม่ได้ สุดท้ายตี๋ใหญ่ก็ต้องจบชีวิตลงท่ามกลางการสาปแช่งของผู้คน และใครจะรู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสุดกำหนดให้เป็นไปด้วยหรือไม่?

    ก็ยังมีเรื่องเล่าถึงอดีตนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ได้เครื่องรางของหลวงพ่อสุดไปเป็นเหรียญเสือเผ่นและรอยสัก ขณะที่รับราชการอยู่เขาถูกส่งไปปราบผู้ก่อการร้ายที่ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ.2519 แล้วโดนถล่มขณะอยู่บนรถจีเอ็มซี เพื่อนคนหนึ่งถูกยิงจนตาตุ่มหายไปทั้งแถบ ส่วนตัวเองถูกยิงห้านัด กระสุนเข้ากลางหลังตรงยันต์พอดี เสื้อทะลุเป็นรูแต่กระสุนกลับไม่เข้าเนื้อและไม่มีบาดแผลเพียงแต่เป็นรอยจ้ำๆ เท่านั้น

    ส่วนอีกคนเป็นศิษย์หลวงพ่อสุดเหมือนกันคนนี้เป็นโรคที่ตา ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการรักษาต้องฉีดยาเพื่อผ่าตัด เข้าใจว่าเป็นยาชา แต่พอฉีดเข็มฉีดยากลับไม่เข้าเนื้อ เพราะคนนี้หลวงพ่อสุดสักน้ำมันครอบไว้ ผลสุดท้ายต้องมานิมนต์หลวงพ่อสุดไปโรงพยาบาลเพื่อทำพิธีถอน คนป่วยจึงได้รับการฉีดยาและผ่าตัดเรียบร้อย

    ปัจจุบันทางวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ได้นำร่างที่เป็นโครงกระดูกของหลวงพ่อสุดบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งให้ประชาชนไปกราบนมัสการอยู่ที่ชั้นสองของศาลาการเปรียญภายในวัดซึ่งทุกวันจะมีประชาชนและลูกศาย์ที่เลื่อมใสแวะเวียนไปกราบเสรีระร่างของท่านไม่ขาดสาย

    ข้อมูลอ้างอิงจาก : dharma-gateway.com



    ขอขอบคุณท่านเจ้าของที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    เหรียญเสือแผ่นปี ๒๕๒๓ ลงยาเดิมสีเขียว หายาก มีการนำเหรียญทองแดงแท้ไปลงยาใหม่ และของเก๊ลงยาใหม่ องค์นี้ลงยาเดิมๆครับ รุ่นประสพการณ์

    ให้บูชา 9000 บาทครับ สภาพไม่สวยมากแต่ก็ไม่สึก

    ลพ.สุด.jpg ลพ.สุดหลัง.jpg
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    จัดส่ง

    ET754064462TH ลาดกระบัง

    ET754064476TH คำเขื่อนแก้ว

    ถ้าวันนี้พนักงานส่งไม่หยุดของน่าจะถึงครับ

    ขอบคุณครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    ขุนแผนพรายมงคล หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา สระบุรี พิธีใหญ่มวลสารดี

    ให้บูชาองค์ละ150บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับมี2องค์ครับ

    ลพ.สุนทร.JPG ลพ.สุนทรหลัง.JPG
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,217
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อสร้อยวัดเขาแก้ว สระบุรี ปี2503

    ให้บูชาองค์ละ200บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลพ.สร้อย.JPG ลพ.สร้อยหลัง.JPG
     

แชร์หน้านี้

Loading...