ศีลห้าปลดกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Natthakorn, 18 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    ศีลห้าปลดกรรม

    ในการที่มีผู้ใดผู้หนึ่งมาขอคำแนะนำหรือจากการเทศนาสั่งสอนในแต่ละวัน
    แม่ชีทศพร จะเน้นย้ำเรื่องการรักษาศีลเป็นอันดับต้น ๆ ท่านจะเน้นย้ำเรื่องศีล ๕
    เสมอ ๆ ทั้งนี้เนื่องจากศีล ๕ เป็นศีลประจำโลก หรือเป็นคุณธรรมประจำโลกที่มีมานาน
    และเป็นหลักปฏิบัติขั้นพื้นฐานที่จะทำให้ตัวเราเองและสังคมสงบสุข แม้แต่ศีล ๒๒๗
    ข้อก็มีศีล ๕ เป็นพื้นฐาน คนสมัยนี้ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับศีล ๕ ข้อเท่าไร และ
    ละเลยจนทำให้เกิดบาปกรรมทำเวรต่าง ๆ

    ผลกรรมชั่วที่บั่นทอนชีวิตคนเรามากกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ก็ล้วนมาจากการประพฤติ
    ผิดในศีล ๕ นี้ทั้งนั้น
    การถือศีล ๕ ต้องถืออย่างมีความเข้าใจ เช่นในข้อที่หนึ่งเรียกว่า
    ปาณาติบาต หมายถึง การไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ยังรวมไปถึงการไม่ทำร้ายร่างกายจิตใจ
    ซึ่งกันและกันด้วย ผู้ที่ถือศีลข้อปาณาติบาตนั้นต้องไม่กลั่นแกล้งทำร้ายเพื่อนมนุษย์
    รวมทั้งสัตว์โลกไม่ว่าด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อทำได้เช่นนี้จึงเรียกว่า ถือศีลโดยแท้ ส่วน
    ศีลข้ออื่น ๆ ก็เช่นกัน การถือศีลต้องประกอบด้วยการสมาทานจากกาย วาจา ใจ เพื่อ
    ให้เราระลึกถึงคุณศีลเนือง ๆ แม่ชีทศพร จึงเน้นย้ำว่าก่อนที่เราจะสวดมนต์ภาวนาไม่
    สมาทานศีลก็ไม่มีผล เพราะเสมือนว่าคนไม่มีศีลเป็นพื้นฐานแล้วจะทำกุศลใด ๆ ให้บังเกิด
    ขึ้นก็ยากนักต่อเมื่อมีศีลแล้วจึงสามารถกระทำกุศลได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    เวลาไปวัดฟังธรรม ก่อนที่พระภิกษุจะให้พรหรือขึ้นธรรมาสน์เทศน์ หรือสอน
    กรรมฐานทำสมาธิวิปัสสนา พระภิกษุก็จะให้มัคทายกเป็นผู้เริ่มต้นคำอาราธนาศีล ๕ หรือ
    ศีล ๘ หลังจากนั้นพระภิกษุสงฆ์ก็จะให้พุทธบริษัทรับศีล เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำเนิน
    ชีวิตให้เป็นปกติ สะอาดและปลอดภัยจากอันตราย ดังนั้นศีล ๕ จึงเป็นศีลสำคัญของ
    ฆราวาส เมื่อฆราวาสรับศีล ๕ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระภิกษุสงฆ์ก็จะให้พร ด้วยการ
    สาธยายคำสรรเสริญยกย่องคุณวิเศษของศีล ๕ ว่า ถ้าผู้ใดก็ตามมีความมั่นคงมี
    จิตใจหยั่งลงในศีล ๕ จนเป็นปกติอยู่ในกาย วาจาและใจ ก็จะสามารถถึงความเจริญ
    แห่งทรัพย์สิน เงินทอง บารมีและฝั่งเกษมแห่งพระนิพพานได้ในที่สุด

    เสียงการให้ศีลให้พรของพระภิกษุเราจะได้ยินจนชินหูตั้งแต่เด็กจนโต เรามีความ
    คุ้นเคยกับเสียงสวดมนต์ของพระภิกษุเวลาให้ฆราวาสรับศีล เด็กๆที่ติดตามพ่อแม่ไป
    ทำบุญแม้จะยังเป็นเด็กไม่กี่ขวบก็จะสามารถท่องรับศีล ๕ เป็นเสียงแจ้วๆว่า
    ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ ข้อหนึ่งห้ามฆ่าสัตว์ ไปจนจบศีลข้อ
    ที่ ๕ ว่าด้วยห้ามดื่มสุราเมรยะ ซึ่งการท่องของเด็กก็เป็นเหมือนการท่องแบบนกแก้ว
    นกขุนทอง

    พอเริ่มเข้าโรงเรียนทางโรงเรียนก็จะอบรมสั่งสอนวิชาศีลธรรมและพระพุทธศาสนา
    นอกจากนี้ครูอาจารย์ที่โรงเรียนก็จะจัดให้มีการนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดที่ใกล้เคียง
    มาสอนพุทธศาสนาและนำการสวดมนต์ให้กับเด็กนักเรียน พร้อมกับเริ่มมีการบรรยาย
    ถึงความหมายของศีล ๕ว่าประกอบไปด้วย

    ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปทํ สมาทํยามิ : ห้ามฆ่าสัตว์...ทุกประเภท
    ๒. อทินฺนาทานา : ห้ามลักทรัพย์
    ๓. กาเมสุมิจฺฉาจารา : ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับลูกเมียคนอื่น
    ๔. มุสาวาทา : ห้ามพูดเท็จ
    ๕. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฐานา : ห้ามดื่มสุรายาเมา

    ศีล ๕ จึงเป็นพื้นฐานที่เด็กๆทุกคนรวมถึงผู้ใหญ่รู้จักและท่องจำได้ รวมถึงสามารถ
    นำมาปฏิบัติรักษาศีลในชีวิตประจำวัน นี่เป็นความรู้สึกที่เคยชินมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งที่
    คุณวิเศษของศีล ๕ เปรียบเสมือนเป็นเกราะแก้วกำบังตัวให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ แต่
    หากขาดศีลแล้วก็เท่ากับว่าไม่มีเครื่องคุ้มครอง ยามที่ทุกข์ภัยจากกรรมเก่าให้ผลก็ย่อม
    ประสบผลร้ายแรงที่สุด การมีศีลก็เท่ากับว่ายังมีเครื่องกันชนผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง

    ที่มา;จากเวบไชต์แม่ชีทศพร

     
  2. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    เชิญชวนทุกท่านสมาทานศีลห้าแล้วสวดมนต์ก่อนทุกคืนนะครับ

    คนมีศีลแม้อาจจะไม่ครบก็ดีกว่าคนที่ไม่ศีลเลย

    เหมือนดั่งบุคคลที่ใส่เสื้อขาด ก็ดีเสียกว่าคนไม่มีเสื้อใส่เลย

    สมาทานศีลห้าไว้นะครับ

    หากผิดพลั้งเผลอ ศีลห้าด่างพล้อย หรือศีลขาด ก็ตั้งใจสมาทานศีล 5ใหม่นะครับ

    เหมือนดังคนที่มือสกปรกแล้ว ก็ล้างด้วยน้ำสะอาด มือก็ย่อมสะอาด ดีว่าที่จะปล่อย

    ให้มือสกปรกอยู่ฉันนั้น

    เชิญชวนทุกท่านสมาทานศีลห้ากันนะครับ
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,732
    กราบอนุโมทนาค่ะ
    พระอาจารย์ของพี่บอกว่าศีล 5 ขอเพียงเราตั้งเจตนาจะเว้น ก็เพียงพอแล้วค่ะ
     
  4. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078

    การสมาทานนี้แหละครับ ที่เป็นอีกตัวหนึ่งในการตั้งใจจะเว้นครับ
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,732
    กราบอนุโมทนาค่ะ

    กราบอนุโมทนาค่ะ
     
  6. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อนุโมทนาค่ะ สมาทานทุกวันค่ะ ต้องละเว้นให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะยากมากที่จะเลี่ยงได้ก็ตาม ต้องมีสติและมีหิริ-โอตัปปะ (ตามที่คิดนะคะ) สาธุค่ะ
     
  7. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    อย่าลืมรักษาศีลห้ากันนะครับ อย่างน้อยก่อนนอนก็ยังดี ^^
     
  8. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,199
    ค่าพลัง:
    +3,381
    อนุโมทนาสาธุค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ได้ไปทำบุญกับหลวงพ่อที่ลพบุรี ท่านก็สอนให้รักษาศีล 5 ค่ะ ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเมตตา กรุณา จะรักษาศีลได้ยาก และที่สำคัญต้องมี หิริโอตตัปปะ ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...