เรื่อง......เหตุผลที่พระพุทธเจ้าต้องมีอายุ 80 ปี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 18 มีนาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,049
    [​IMG]



    แต่ว่าทำไมองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่เคยคล่องใน อิทธิบาท 4 ประเภทนี้ สามารถจะอธิษฐานตนให้อยู่ถึงกัปหนึ่ง หรือกัลป์หนึ่งก็ได้ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับนิพพานเมื่อระหว่างอายุของพระองค์อายุได้ 80 ปี
    <O:p</O:p
    ตอนให้พระอรหันต์ทั้งหลายก็มีความสงสัยแต่ทว่าบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ตั้งแต่ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี ได้อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่สงสัย รู้ด้วยอำนาจของ อตีตังสญาณ
    <O:p</O:p
    แต่ทว่าสำหรับอรหันต์ขั้นสุกขวิปัสสโกนี้ต้องสงสัย เพราะว่าไม่ได้ญาณวิเศษ จึงได้ค้นคว้าคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ ในที่สุดก็พบว่า สมเด็จพระนราสภ คือ
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แทนที่จะมีอายุ 1 กัป อย่างที่เขากล่าวกัน แต่ทว่า การที่องค์สมเด็จพระรงธรรม์บรมศาสดาต้องมีอายุ 80 ปี เหตุผลก็เป็นอย่างนี้ตามที่องค์สมเด็จพระชินศรีทรงกล่าวว่า
    <O:p</O:p
    อตีเต กาเล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในอดีตกาลตถาคตเสวยชาติพระชาติเป็นหน่อพระบรมโพธิ์ สัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ถอยหลังจากชาตินี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากลับไปหลายชาตินี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากลับไปหลายพันชาติ เวลานั้นสมเด็จพระบรมโลกนาถทรงยำเพ็ญบารมีใกล้จะถึง ปรมัตถบารมี
    <O:p</O:p
    พระวรกายของพระองค์นี้มีส่วนพิเศษอยู่จุดหนึ่ง คือ เท้าทั้งสอง ในอุ้งระหว่างกลางเท้าทั้งสองนี่ มีรูปกงจักรอยู่ด้วยเป็นสีแดง
    <O:p</O:p
    ในเวลานั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า คือเกิดเป็นลูกคนจน ทำมาหากินอยู่ในป่า ต่อมาบิดาตาย เหลือมารดาแต่ผู้เดียว ท่านปฏิบัติตนเป็นคนประกอบได้ความกตัญญูรู้ หาเช้ากินค่ำ
    หรือหาค่ำกินเช้า นำเอาอาหารมาเลี้ยงมารดามาเลี้ยงมารดาเป็นที่รักคือว่าท่านเป็นคนป่าก็ตัดฟืนขาย เข้าป่าก็แต่เช้าบ่าย จนบ่าย จนเย็น อาบน้ำ อาบท่า กินน้ำบริโภคอาหารเสร็จ
    <O:p</O:p
    แล้วก็นำเอาฟืนไปขาย ได้เงินเท่าไรก็มามอบแก่มารดา มารดาก็จัดเงินทั้งหลายเหล่านี้ จัดหาอาหารมาเลี้ยงดูกัน

    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,049
    [​IMG]

    เจ้ารากษสขึ้นมาอาละวาด

    <O:p</O:p
    เป็นอันว่า รายได้ขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสนา เวลานั้นเต็มไปด้วยการฝืดเคืองมาก ท่านกล่าวว่าในวันนั้น พระราชามีความลำบากด้วยยักษ์ตนหนึ่ง ที่เขาเรียกว่า รากษส นี่ก็มีสภาพเหมือนยักษ์ที่อยู่ในโพรงและอุโมงค์ใต้ดิน น่ากลัวจะเป็นยักษ์ปลาไหล เพราะอยู่ในโพรงและใต้ดิน มันมีมีบ่ออยู่ แต่ว่าทางขึ้นก็ทำเป็นปล่องขึ้น การขุดอุโมงค์อยู่ใต้ดิน

    <O:p</O:p
    เจ้า รากษส ตัวนี้ ปรากฏว่า ถึงเวลาฤดูหนึ่ง ถ้าเวลาฤดูหนึ่ง ถ้าเวลานี้เปรียบกับเวลา ตรุษสงกรานต์ เป็นงานเกี่ยวกับนักขัตกฤษ์ประจำปี<O:p</O:p
    เจ้า รากษส ตัวนี้ ก็ขึ้นมาจับคนเอาไปกินเป็นอาหาร ทำอย่างนี้เป็นเวลา 2- 3ปี ในแดนไกล

    <O:p</O:p
    ต่อมา พระราชาทรงทราบจากบรรดาประชาชนทั้งหลายว่า เจ้า รากษส ขึ้นมา อาละวาด เจ้า รากษส ตัวนี้ขึ้นมาเป็นเวลากาล ถ้าถึงฤดูนั้นถึงเดือนนั้นมันก็ขึ้นมาจับคนกินเป็นอาหาร จับไปเป็นอาหาร เพื่อ เป็นเสบียงกรัง ทำอย่างนี้เป็นเวลา 2-3 ปี จนเป็นที่แน่ใจของบรรดาประชาชนทั้งหลาย ว่า วันนี้แหละ เจ้า รากษส จะขึ้นมาจับคนไปกิน จึงได้กราบทูลพระราชาทรงทราบ

    <O:p</O:p
    พระราชาก็ป่าวประกาศคนมีฝีมือ ให้สู้กับ รากษส ได้ไปดักอยู่ที่ปากปล่องของ รากษส ที่จะขึ้น ถ้า รากษส ขึ้นมาก็จะฆ่า รากษส ให้ตาย<O:p</O:p
    แต่ว่าบรรดาท่านผู้ฟังทั้งหลาย รากษส มีสภาพเป็นยักษ์ มีความดุร้าย มีกำลังมากแทนที่คนทั้งหลายที่รับอาสาพระราชา จะไปฆ่า รากษส ก็กลายเป็นอาหารของ รากษส อย่างดี คือ รากษส ไม่ต้องกินไกล จับคนที่ไปฆ่าเขา นำกลับไปกินเป็นอาหาร

    <O:p</O:p
    ต่อมาพระราชาเห็นว่า คนทั้งหลายไปสามารถสู้ รากษส ได้ การประกาศให้บรรดาคนที่มีฝีมือทั้งหลาย ภายในขอบเขตของพระราชฐาน ไม่มีใครรับ อาสาไปปราบ รากษส

    <O:p</O:p
    ต่อมาพระราชาได้ประชุมอำอมาตย์ข้าราชบริพารว่า<O:p</O:p
    เราไม่สามารถปราบ รากษส นี้ได้เพียงใด ความเป็นพระราชาของเราไม่สามารถจะคงอยู่ เพราะเราไม่สารารถจะให้ความปลอดภัยกับบรรดาประชาชนได้

    <O:p</O:p
    แล้วอาศัยที่พระราชาพระองค์นี้ใช้ทศพิธราชธรรม อันดี เป็นที่รักของปวงชนทั้งหลายบรรดาอำมาตย์ ข้าราชบริพารจึงประชุมกัน ว่าถ้าหากพวกเราไม่สามารถจะฆ่า รากษส ได้ พระราชาก็จะสละราชสมบัติ แล้วคนที่มาใหม่จะดีเท่าองค์นี้ หรือไม่ดี ก็ยังไม่แน่นัก จึงปรึกษากันว่า จะทำอย่างไรดี จะให้พระราชทรงครองราชย์ต่อไป

    <O:p</O:p
    ในที่ประชุมก็กล่าวกันว่า ทาวที่ดีควรประกาศ ให้บรรดาประชาชนทั้งหลายทั่วประเทศที่มีความสามารถเข้าใจกันว่า พระราชามีบุญญาธิการอย่างนี้ และก็มีความดีอย่างนี้ <O:p</O:p
    ราษฎรจนที่ไหน พระองค์ก็ทรงจนด้วย

    <O:p</O:p
    ราษฎรลำบากที่ไหน พระองค์ก็ทรงลำบากด้วย<O:p</O:p
    หาทางช่วยราษฎรให้เป็นสุข พระราชาอย่างนี้เราหาได้ยาก ถ้าอย่างไรก็ดี ก็ควรกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ คนในประเทศของเรา ไม่มีเท่าที่เห็นอยู่ เพราะเราอยู่ในแดนไกลในขอบเขตประเทศต่างๆ มีมากมาย ว่าควรจะประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลาย ที่มีความสามารถแต่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชา ที่จะอาสาฆ่า รากษส ในที่สุดเขากราบทูลให้พระราชาทรงทราบ แล้วก็ทำตามนั้น


    <O:p</O:p
    มอบทองคำเท่าลูกฟักสำหรับผู้ที่อาสา
    <O:p</O:p
    ต่อมาพระราชาก็ส่งคนไปประกาศว่า ถ้าใครสามารถจะฆ่า รากษส ให้ตายได้ ในช่วงการรับอาสา จะมอบทองคำเท่าลูกฟักหนักเท่าลูกตัวบุคคลผู้รับอาสา ให้เป็นทุนสำรองไว้ก่อน ทั้งนี้เผื่อว่าไปพลาดพลั้งถูก รากษส ฆ่าตาย ทางบ้านจะได้ใช้ทองคำนี้จับจ่ายใช้สอย เป็นการประทังชีวิตให้มีความสุขแทนผู้ตาย ถ้าหากว่าบุคคลใดฆ่า รากษส ตายแล้ว แล้วตัวเองไม่ตาย ทองคำก็ได้เป็นสิทธิอยู่แล้ว

    <O:p</O:p
    แต่เมื่อเวลาที่กลับมาประเทศเขตพระนครพระราชาจะให้เป็นมหาอุปราช คือไปมีตำแหน่งรองจากพระราชาจะให้เป็นมหาอุปราช คือมีตำแหน่งรองจากพระราชา

    <O:p</O:p
    วันนั้นปรากฏ หน่อพระโพธิ์สัตว์เข้าป่าหาฟืนในป่า แต่ไม่ทันจะเข้าเดินออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียงประกาศจากอำมาตย์ ข้าราชบริพาร ว่าถ้าบุคคลผู้ใดอาสาฆ่า รากษส ได้ราชาจะประทานทองคำหนักเท่าลูกฟัก หนักเท่าเท่าผู้อาสาเป็นเดิมพัน แต่ถ้าฆ่า รากษส ไม่ได้ต้องตาไป ทองคำนี้ก็จะเลี้ยงครอบครัว ถ้าห่าได้จะแถมรางวัลพิเศษ คือเป็นมหาอุปราช

    <O:p</O:p
    หน่อพระโพธิ์สัตว์จึงคิดว่า เราเป็นลูกของแม่คนเดียว หาเช้ากินค่ำ ทรัพย์สมบัติที่หามาได้ ก็กินบ้าง ไม่พอกินบ้าง มีความลำบาก ถ้าหากเรายอมเสี่ยงชีวิตของเราตายแต่เพียงผู้เดียว ให้แม่มีโอกาสได้รับ ทองคำลูกฟัก หนักเท่าตัวเรา แม่ก็จะกินแบบสบายๆ แม้กระทั่งตาย ทองคำยังไม่หมด เมื่อหน่อเนื้อพระบรมโพธิสัตว์กำหนดอย่างนี้แล้วจึงได้รับอาสา แล้วรับทองคำมามอบให้แก่แม่ ตอนนี้แม่คัดค้านอย่างหนัก ไม่อยากจะให้ลูกตา

    <O:p</O:p
    ในที่สุดก็ต้องจำยอม เพราะตกลงกับเขาแล้ว จึงได้มอบทองคำให้แม่ ตัวเองก็ไปเฝ้าพระราชากับอำมาตย์ ที่ประกาศหาคน เข้าไปเฝ้าแล้ว พระราชาก็ถามถึงตุผลของความต้องการ เธอสามารถแน่ใจจะฆ่า รากษส ได้หรือ เขาบอกว่า เขามั่นใจ

    <O:p</O:p
    ต่อไปพระราชาถามว่า<O:p</O:p
    เจ้าต้องการทหารเท่าไร? ต้องการอาวุธอะไรบ้าง? ที่จะไปฆ่า รากษส<O:p</O:p
    หน่อพระโพธิสัตว์ ก็ตอบว่า

    <O:p</O:p
    ไม่ต้องการอะไรทั้งหมด ต้องการฆ่าด้วยมือเปล่า<O:p</O:p
    พระราชาก็หนักใจ แต่ว่าเขารับอาสาตามนั้น ก็ต้อปล่อยไป เขานำไปที่ปล่องของ รากษส แกขึ้นไปคอยอยู่ประมาณ 2 วัน พระราชาทรงให้ทหารไปเป็นเพื่อน นำอาหารไปบริโภค เขาคอยอยู่ที่ปากปล่องที่ รากษสจะขึ้น

    <O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อถึงเวลาวันนั้น คือวันกำหนดที่มันจะขึ้น มีเวลาประจำ ก็ขึ้นมาพอดี<O:p</O:p
    พอ รากษส ขึ้นมาไม่ทันจะพ้นปล่อง หัวขึ้นมาปากปล่อง หน่อพระโพธิสัตว์ยกเท้าขึ้นหวังว่าจะกระทืบ คือจะกระทืบให้ รากษส ให้คอหักตาย รากษส แหงนหน้าขึ้นมา อุ้งเท้าของหน่อพระโพธิสัตว์มีกงจักรในระหว่างท่ามกลางเท้า ก็คิดว่าเราตายแน่ เราสู้ไม่ได้ เพราะคนนี้ต้องเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ เพราะกลางเท้ามีกงจักรสีแดง จึงพูดว่า

    <O:p</O:p
    ช้าก่อน ท่านอย่าเพิ่งฆ่าเรา ท่านนี่เป็นหน่อพรโพธิสัตว์ จะได้ตรัสเป้นพระพุทะเจ้าอีกไม่นานนัก เพราะว่ากลางเท้าของท่านมีกงจักรหากว่าท่านฆ่าเรา เราก็ตาย ถ้าท่านฆ่าเราไซร้ ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าจะต้องมีอายุถึงหมื่นปีบ้าง สองหมื่นปีบ้าง ถึงสี่หมื่นปีบ้างก็มี อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าสามารถอธิฐานตนให้มีอายุถึงกัปหนึ่งก็ได้

    <O:p</O:p
    หากว่าท่านฆ่าเราตายในเวลานี้ เวลานี้เรามีอายุ 80 ปี ถ้าหากว่าท่านฆ่าเราตายในเวลานี้ เมื่อท่านเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็ต้องมีอายุ 80 ปีเท่ากัน การประกาศพระศาสนาของท่านจะไม่มีผลตามความประสงค์<O:p</O:p
    หน่อพระบรมโพสัตว์ ก็กล่าวว่า

    <O:p</O:p
    เจ้าเป็นสัตว์ดุร้ายมาก ไล่พิฆาตเข่นฆ่าคนเป็นอาหาร ถึงแม้ว่าเราจะบรรลุอภิเษกสัมโพธิญาณเป้นพระพุทธเจ้า มีอายุแค่ 80 ปี เราพร้อมยอมตามนั้น
    <O:p</O:p
    ในที่สุดหน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็กระทืบศีรษะยักษ์ รากษส ยักษ์ก็คอหักตาย
    <O:p</O:p
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายตามที่องค์พระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าพระพุทะเจ้าทุกๆองค์ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว สามารถอธิษฐานอายุของตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่ง ก็ย่อมเป็นได้เพราะคล่องใน อิทธิบาท 4 แต่ว่าที่องค์สมเด็จพระมหามุนีบรมศาสดาจะต้องนิพพานภายในอายุ 80 ปีตามพระบาลีท่านกล่าวว่า เพราเหตุการณ์ฆ่า รากษส ตนนั้น จึงเป็นเหตุให้สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องนิพพานในอายุยังสั้น

    <O:p</O:p
    ถ้าจะกล่าวกันไปถึงเหตุผล ว่าในสมัยที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ ปาวาลเจดีย์ ตอนนั้นองค์สมเด็จพระชินศรีทรงแสดงนิมิตต่างๆ ให้ พระอานนท์ ทราบ เพื่อจะทูลอาราธนา แต่มารก็เข้าดลใจให้ พระอานนท์ คิดไม่ถึง
    <O:p</O:p
    ในวันนั้นเป็นวันกลางเดือน 3 องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ปลงสังขารว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • YBU9KZCAQ9.jpg
      YBU9KZCAQ9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.2 KB
      เปิดดู:
      8,319
  3. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,049
    [​IMG]

    เหตุที่คนจะมีอายุสั้นหรือ อายุยาว

    นี่แหละนี่แปละบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน การเทศน์วันนี้เป็นการเทศน์ตัดอายุ เป็นอันว่าคนที่จะมีอายุสั้นพลันตาย หรือว่าคนที่มีอายุยาวนี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า เหตุของ ปาณาติบาต เป็นปัจจัย<O:p</O:p
    ถ้าหากบุคคลใดสร้างกุศลกรรมด้าน ปาณาติบาต เป็นต้น เป็นอาจิณกรรม คนประเภทนี้เกิดมาไม่ทันพ้นจากท้องแม่ก็ต้องตาย<O:p</O:p
    ถ้าหากทำบาป ปาณาติบาต หย่อนกว่าน้อยหนึ่งไซร้ ออกมาจากท้องแม่ไม่กี่วันก็ตาย
    <O:p</O:p
    ถ้าน้อยลงไปอีก ก็เป็นหนุ่มเป็นสาวตาย<O:p
    น้อยลงไปอีก ก็เป็นคนวัยกลางคนตาย
    <O:p</O:p
    ถ้าน้อยที่สุดเกือบจะไม่ทำเลย หรือทำบ้างเป็นการทรมานบ้าง ไม่มากไม่มายนัก คนประเภทนี้มีอายุครบอายุขัย เช่าเวลานี้อายุขัยของคนมีอายุ 75 ปี ถ้าบุคคลทำบาปประเภทนี้น้อย ก็จะมีอายุครบของคนมีอายุ 75 ปี ถ้าบุคคลทำบาปประเภทนี้น้อย ก็จะมีอายุครบ 75 ปี บริบูรณ์ หรือ อาจจะมากกว่านั้นก็ได้<O:p</O:p
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
    <O:p</O:p
    การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะเป็นเหตุทำลายชีวิตของตนในวันข้างหน้า คือทำมากก็อายุสั้นพลันตาย ทำน้อยร่างกายไม่ถึงอายุขัยก็ตาย ถ้าทำไม่มากก็นักจนเกินไปนิดๆ หน่อย อย่างนี้ก็จะมีอายุยืนนาน
    <O:p</O:p
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้แนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ว่าทุกคนจงมีเมตตาและกรุณาทั้ง 2 ประการ นี้ค้ำจุนชีวิตให้บุคคลทั้งหลายให้มีความสุข และจะมีอายุยืนนาย ถ้าบุคคลใดไม่ทำบาป ปาณาติบาต เลย บุคคลประเภทนั้นเกินมาตลอดชีวิต จะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ถ้าทำ ปาณาติบาต ไม่น้อยก็ไม่มากนั้นก็ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน
    <O:p</O:p
    ถ้าทำ ปาณาติบาต ไม่น้อยไม่มากนั้นก็ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ชีวิตก็ไม่สั้นพลันตาย
    <O:p</O:p
    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายวันนี้รู้สึกคอจะแย่เต็มที<O:p</O:p
    อาตมารับประทานวิสัชนามา ในความเป็นมาขององค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พอสมควรแก่เวลา ก็ขอยุติพระ สัทธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้
    <O:p</O:p
    ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภายในฐานะพระสงฆ์ในประพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณ</O:p
    เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้<O:p</O:p

    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<O:p</O:p

    (พระมหาวีระ ถาวโร ) วัดจันทาราม จ. อุทัยธานี<O:p</O:p

    อ่านจบแล้วอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลด้วยนะครับ<O:p</O:p


    [​IMG]


    คำอุทิศส่วนกุศล

    โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    วัดจันทาราม(ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี<O:p</O:p





    อิทังปุญญะผะลังผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้าและเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราชขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว

    ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดีเสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับ<O:p</O:p
    <O:p


    http://teporrarit.hi5.com
    <O:p</O:p
    http://buraphatic.hi5.com
    <O:p</O:p
    <O:p

     
  4. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    อนุโมทนาบุญด้วยคนขอรับ เนื้อหาดี ๆ อย่างนี้หาไม่ได้อีกแล้วครับขอบอก
     
  5. Starsophere

    Starsophere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +437
    หลวงปู่ตื้อเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าทรงดำรงพระชาติเป็นพระเวสสันดร ทรงมีพระชนม์มายุถึง 500 ปี ทำให้ทรงได้รับความลำบากมาก ท่านจึงทรงอธิษฐานไว้ว่าพระชาติต่อไปขอแค่ 80 ปี และกัลป์อายุในช่วงนี้ประมาณ 120 ปี
     
  6. chotiwit

    chotiwit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,616
    ค่าพลัง:
    +1,794
    ขออนุโมทาบุญครับ
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,432
    สาธุ เจริญปัญญาครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านร่วมอนุโมทนาครับ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธ
    สาาาาา...ธุ
     
  8. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    เมื่อพูดถึง กัป มี 2 ความหมาย
    1.กัป หมายถึงระยะเวลาอันยาวนานจนไม่อาจนับเป็นปีได้ มี 256 อันตรกัป
    2.กัป ในความหมายที่กล่าวถึง อายุกัป นั่นก็คือ กำหนดอายุไขยโดยเฉลี่ยของคนในยุคนั้น ๆ อย่างในสมัยปัจจุบันคนอายุขัยเฉลี่ย 75 ปี อายุกัปในปัจจุบันก็เท่ากับ 75 ปี ในสมัยพุทธกาลคนอายุขัยเฉลี่ย 100 ปี อายุกัปของคนสมัยนั้นก็เท่ากับ 100 ปี

    ดังนั้นที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า แทนที่จะทรงพระชนชีพได้ตลอด 1 กัปหรือมากกว่า ก็หมายถึง อายุกัป นั่นก็คือ 100 ปีหรือเกินกว่านั้นนิดหน่อยอาจจะซัก 120 ปี นั่นเอง ไม่ได้หมายถึงกัปอันมีระยะเวลายาวนานจนนับเป็นปีไม่ได้ตามความหมายที่ 1 ครับ
     
  9. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สนุกดี....ทำให้นึกถึงหลวงพ่อตอนที่ยังอยู่ ...ทุกๆครั้งที่จะมีงานบุญใหญ่ๆพวกเราทุกคนจะตื่นตัวกันมากๆ เพราะชอบมี"เหตุ"มาขวางบุญมีอุปสักมาก โดยเฉพาะตอนหล่อ"สมเด็จองค์ปฐมองค์แรกของวัดท่าซุง" จะชอบมีเหตุมากมาย หลวงพ่อบอกว่าเพราะเป็นบุญใหญ่จึงเป็นเช่นนี้ต้องหนักแน่น.....
     
  10. Eyejang

    Eyejang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +57
    อนุโนทนา ครับ
     
  11. นักปราชญ์เมืองช้าง

    นักปราชญ์เมืองช้าง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอธรรมะของพระพุทธองค์ จงดลบรรดาลให้เข้ากับกาลสมัยของหมู่มนุษย์ มากกว่า ๘๐ ปีด้วยเทอญ ขออนุโมทนา
     
  12. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    เคยอ่านมาแล้วเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. เส้นทางแห่งธรรม

    เส้นทางแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขออนุโมทนาสาธุครับ...กับสิ่งดีๆๆที่นำมาให้ได้รับรู้.....สาธุ
     
  14. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    ขออนุโมทนา(good) กับ ผู้ตั้งกระทู้นี้ ได้ความรู้ที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อนในชีวิต เป็นบุญเหลือเกินที่ได้รู้จักกับเวปนี้ ดีมากๆๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้ความรู้ทางธรรมะได้หลากหลายจากinternet โลกไร้พรมแดนนี้ โชคดีจริงๆ จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเวปพลังจิตตลอดไป
    สาธุ :d
     
  15. โจโฉ คร้าบบบ

    โจโฉ คร้าบบบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,550
    เอ่อตะขิดตะขวง กับคำที่ใช้
    คือน่าจะใช้พระชนมายุ แทน มีอายุ หรือเปล่าอะ

    แบบว่า ท่านทรงอยู่เหนือยิ่งกว่ากษัตริย์และเทพทั้งปวง
    คงไม่เป็นการเหมาะสมมั้ง

    ถ้าจะเอาศัพท์ธรรมดามากล่าวถึงเช่นนี้

    เอ หรือว่าในคัมภีร์ก็กล่าวแบบนี้
    แต่ยังไงผมก็ว่า มันดูแปลกๆ พิกล ที่จะใช้คำธรรมดากับพระองค์
     
  16. บัณฑิต ธัมโม

    บัณฑิต ธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +396
    ขออนุโมทนาบุญด้วย สาธุๆๆๆๆๆๆๆ

    ปัญญา โลกัสมิง ชาคะโร ปัญญา เป็นเครื่องตื่น ในโลก
     
  17. Pajaree Newlove

    Pajaree Newlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +183
    A nu mo ta na and thank you for the knowledge, I would like to have a good long live. Please stop kill or take life then we will live longer. I want to be born in and become Bhudist until Nip pan.
     
  18. kosabunyo

    kosabunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,045
    5000
     
  19. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    [​IMG]
     
  20. sooyeon

    sooyeon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +5
    สาธุ~

    อยากปรินิพพานบ้าง...

    อยากหลุดพ้น...

    อยากค้นพบความสุขที่แท้จริง...
     

แชร์หน้านี้

Loading...