ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

โห..เก็บหลวงปู่ทวดวัดโพธิ์ไว้เป็นลังเลยหรือครับ หลังจากปี 06 วัดโพธิ์มีการสร้างพระหลวงปู่ทวดอีกหรือเปล่าครับ

พระตามรูปองค์พระขนาดสมเด็จคะแนน ดูจากพิมพ์พระน่าจะเรียกว่าพุทธกวักนะครับ

หากไม่ใช่วัดโพธิ์แต่เป็นอย่างท่าน ่่่Jumbo A บอกก็ถือเป็นโชคครับ

 

เมื่อกี้ใจตรงกับท่านรอง ขยายภาพให้คุณToT

เดี๋ยวดูรุ่นสะบ้าย้อยนำมาให้ชมอีกครั้ง ว่านเนื้อแดงปิดทอง
น้องโจอี้ รูปหล่อมอบให้ เนื้อว่านดำของตัวเองค่ะ...

​

 

ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ใช่น่ะ รุ่นเสินเจิ้น รายละเอียดองค์พระจะค่อนข้างละเอียด เข้าขวาที่นั่งสมาธินับนิ้วได้เลย

 

ลองดูครับ..............................

 

งามมากครับ ดีใจที่มีวาสนาได้มีกับเขาองค์หนึ่ง

 

วันนี้นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองมาลงสนามบินหาดใหญ่ครับ แขวนสร้อยพระสองเส้นเดี่ยวพระยายเขียด ปี 05 กับ เดี่ยวเหรียญได้เลื่อน-ได้เป็น วัดศรีมหาโพธิ์ เนื้อนวะ ครับ พระยายเขียดช่วงหลังแขวนเดี่ยวขอชมบารมีองค์ท่านครับ ติดใจเลยครับ ทำอะไรแทบไม่มีติดขัด นับว่าพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ครูบาอาจารย์องค์นี้ เสกพระเดี่ยวไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ :boo:

 

เมื่อกี้เห็นน้องนก....คุณSpringDoveไปไหนแล้วค่ะ....
ของฝากจากเมืองไทยค่ะ.....

 

อ่ะ ... คุณนวล ไปรับประคำขาว เป็นศิษย์หลวงตาม้า มาด้วยหรือครับ

 

คราวก่อนไปวัดถ้ำเมืองนะค่ะ แต่สวนทางกลับหลวงตาม้าค่ะ
เส้นนี้ญาติธรรมให้มา....
อยากฝากให้น้องนกค่ะ....

*มีพระหลวงปู่หลายองค์แล้ว...ใช้สวดมนต์..
ที่สุดของที่สุดได้พระทันหลวงปู่ดู่คุณสายสินมอบให้ค่ะ....
และได้รับจากน้องบอยด้วยค่ะ...
ขอบคุณทั้ง 2 ท่าน

​

 

ขอบคุณค่ะพี่สาวใจดี
ขอให้พี่นวลคนสวย รวยๆ สุขภาพแข็งแรง สมปราถนาทุกประการค่ะ

 

เรื่องเล่า จาก คุณชาลี อินทรวิจิตร
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง

"ผมเคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถยนต์ประมาณ ๒-๓ ครั้ง
แต่หลวงปู่ทวดก็ดลบันดาลให้ผมพ้นจากวิกฤตได้"

ชาลี อินทรวิจิตร
ในแวดวงผู้รักเสียงเพลงคงไม่มีใครไม่รู้จัก "ครูชาลี อินทรวิจิตร ผู้ประกาศตัวว่า
"ผมรักเสียงเพลงเป็นอย่างมาก และคิดว่าคงจะอยู่กับมันและแต่งเพลงไปจนกว่าจะไม่มีแรง หรือไม่มีวิญญาณที่จะทำต่อ"
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2536 ชาลี อินทรวิจิตร ได้รับประกาศให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง และแม้วัยจะล่วงเลยมา 70 ปี แล้ว ครูชาลีก็ยังคงทำงานเพลงทีรักอยู่
มีบทเพลงออกมาจากปลายปากกาของครูชาลี เรื่อยๆตั้งแต่เพลงแรกคือ "รักชั่วชีวิต" จนถึงเพลงที่ดังจนคนรู้จักกันไปทั่วคือ "อาลัย"
ผลงานที่ภาคภูมิใจอย่างที่สุดของครูชาลีคือการได้แต่งเพลงให้กับ ชรินทร์ นันทนาคร
ในการสร้างภาพยนต์เรื่อง "ลมหนาว" เพลงนั้นคือ "สุดดีมหาราชา"
ผลงานของครูชาลีมีมากมายเช่น ครวญ, จำเลยรัก ,คู่กรรม,เทวดาเดินดิน,หนึ่งเจ็บนี้ใช้หนี้เธอ, ป่านฉะนี้, ยามชัง,แสนแสบ,ป่าลั่น, ว้าเหว่ ,เรือนแพ, ทะเลไม่เคยหลับ,ทุ่งรวงทอง, หัวใจถอดวาง, เหมือนไม่เคย,ค่าของคน, ไกลบ้าน, ท่าฉลอมฯลฯ

ช่วยเล่าประสบการณ์ที่ได้ประสบหรือผูกพันกับหลวงปู่ทวด?
ครั้งแรกเลยที่เดินทางไปวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ตอนนั้นไปลำบากมาก ต้องใช้รถตู้ของคุณน้อย (กมลวาทิน) เดินทางไปด้วยกันหลายคน แต่จำได้ว่ามีคุณกมลพันธุ์ สันติธาดา นักประพันธ์ได้ไปด้วย ผมแล้วก็คุณน้อย คุณรัตนาภรณ์ ทุกคนไปลำบากมาก สำหรับเดินทาง เพราะว่าตอนนั้นมีข่าวเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายก็มีอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็มั่นใจ และคิดว่าต้องสู้ เดินทางตอนกลางคืนหนทางมันลำบากมากเลย บางทีรถไปตกหล่มก็ต้องช่วยกันหาไม้หาอะไรมาช่วยกัน เพื่อจะไปให้ถึงวัด ไปวัดหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ให้ได้ ลำบากลำบนมาก แล้วไปถึงยังต้องไปเจอประชาชนเป็นแสน กว่าจะเข้าไปถึงจุดที่เช่าพระได้แต่เรามีความตั้งใจนะ ผมต้องแทรกตัวเองเข้าไป ปีนไปบนบ่าคนนั้นคนนี้กว่าจะได้พระมาลำบากมาก ประชาชนแน่น คนอื่นๆ เขาไม่ค่อยแทรกเข้าไป แต่ผมปืน การปืนตอนนั้นตัวผมยังเบา สมัยเล่นละครอยู่ ยังหนุ่มๆ อยู่ มันก็แกร่งพอสมควร แต่เรามีความตั้งใจจนที่สุดเราก็ได้พระมา

*ตอนนั้นรุ่นแรกเลยใช่รุ่นปี 2497
รุ่นแรกครับ ปี 2497

หลังจากได้พระมาแล้วเคยได้ประสบเกี่ยวกับเรื่องราวอภินิหารของหลวงปู่ทวดอย่างไรบ้าง?
เรื่องเกี่ยวกับอภินิการหรือพุทธคุณอะไรต่างๆ ผมประสบกับตัวเองมาหลายครั้งเพราะผมทำงานเกี่ยวกับการถ่ายหนัง ต้องเดินทางไปถ่ายหนังไปสำรวจทำเลอะไรมากมายอยู่โดยตลอด ผมเคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถยนต์ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่หลวงปู่ทวดก็ดลบันดาลให้ผมพ้นจากวิกฤติได้ เช่นรถที่ผมขับ เพราะสมัยนั้นผมขับรถเอง รถมันลื่นเพราะยางรถยนต์สึกมากแล้ว พอไปถูกถนนลื่นรถทั้งคันก็ปัดถลาหันกลับ แต่ผมไม่เป็นอะไร คือเหมือนกับวิ่งตรงไปแล้วหันกลับได้ คล้ายๆ ว่าถ้าคว่ำก็ตาย แต่ตอนนั้นผมกลับไม่เป็นอะไร เพราะหลวงปู่ทวด อันนี้ยืนยังได้เลย

ปกติคุณชาลีขับรถเร็วหรือไม่?
นับได้วว่าขับไวพอสมควร หลังจากครั้งนี้แล้วมีเหตุการณ์อีกหลายครั้งที่ปมได้ประสบเช่นครั้งหนึ่งขับรถตกคูหัวทิ่มไปข้างทางทีหนึ่ ก็ไม่เป็นไร อีกครั้งหนึ่งผมขับรถยนต์จากเขา ปรากฏว่าเบรกแตก ตอนนั้นผมขับรถจิ๊ปไปดูสถานที่เพื่อเตรียมถ่าวยหนัง ขึ้นภูเขาไปทีใกล้ๆ เมืองชลฯ นี่แหละ ไม่แน่ใจแล้วว่าเขาเรียกว่าภูเขาอะไร พอผมขับขึ้นไปแล้ว ถึงตอนลงมาเบรกแตก เชื่อหรือไม่ผมลงจากภูเขานะ คุณคิดดูซิว่ากว่าจะประคองพวงมาลัยรถได้ เบกมือก็ไม่มี ประคองรถลงมาจนกระทั่งมาถึงถนนใหญ่ ถ้ามีรถสวนมาต้องชนร้านแน่ ตอนน้นผมภาวนาขอกับหลวงปู่ฯ ว่าขออย่าให้มีอันตราย ขอให้รถลงไปโดยอย่ามีอันตราย ก็ไม่มีอันตรายพอลงไปได้ถึงพื้นราบรถจี๊ปสามารถหยุดลงได้เพราะไปชนกับต้นไม้ นี่เป็นเรื่องจริงที่เราเคยเจอ

 

-ตอนนึกถึงหลวงปู่ทวด ได้ภาวนาคาถา นะโมโพธิสัตโตฯ?
ใช่ครับ นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

-หลายๆ คนที่เคารพศรัทธาหลวงปู่ทวดเคยได้เห็นนิมิตของหลวงปู่ทวดท่าน
ไม่ทราบว่าคุณชาลีเคยได้นิมิตเห็นหรือไม่?
ผมไม่เคยครับ แต่ผมกราบไหว้อยู่ทุกคืนสำหรับหลวงปู่ทวด ที่รถผมก็ยังมีรูปหลวงหลวงปู่เลย เวลาผมจะเดินทางไปไหนผมจะมีหลวงปู่ทวดและสมเด็จโตอยู่ 2 องค์ แล้วสมเด็จพระปากน้ำก็อยู่ที่อกนี่ ถึงไม่มีรูปท่านอยู่ในรถก็ห้อยคออยู่ ผมเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำด้วย ผมบวชอยู่ 2 พรรษา

-มีโอกาสยังได้ไปกราบไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้บ้างไม๊ครับ?
ถ้าผมไปต่างจังหวัด ไปทางพื้นที่ภาคใต้ ผมต้องไปจังหวัดปัตตานีไปวัดช้างให้เพื่อทำบุญทุกครั้ง

-เวลามีพระเครื่องหลวงปู่ทวดรุ่นใหม่ๆ ออกมา ยังไปเช่าซื้ออยู่หรือเปล่า?
ก็มีครับ ผมีมพระรุ่นใหม่ที่ออกมา เช่าแล้วก็เอามาแจกให้เด็กๆ พรรคพวกกัน บางคนที่เขาไม่มีผมก็แจกให้ แล้วยังได้ไปทำบุญให้วัดด้วย

-อย่างการก่อสร้างหลวงปู่ทวดองคืใหญ่ที่วัดห้วยมงคล ไม่ทราบว่าได้ไปช่วยอะไรบ้างหรือไม่?
ยังไม่ได้ไปเลยครับ แต่ที่ผ่านมาเคยไปวัดเขาตะเกียบ นั่นก็ไปทำบุญไว้ที่วัดเขาตะเกียบ ผมทำบุญไป 5,000 บาท นั่นก็หลวงปู่ทวดเหมือนกัน เขากำลังสร้างองค์ใหญ่มโหฬารเหมือนกัน สร้างกันเยอะตอนนี้

-ในวงการพรรคพวกนักแสดง ดารา มีที่นับถือหลวงปู่ทวดเป็นอย่างไรบ้าง?
มีทั้งนั้นแหละครับ พวกตลกนี่นับถือหลวงปู่ทวดมาก เรียกได้ว่าในวงการตลกมีหลวงปู่ทวดห้อยคอกันแทบทุกคน

<TABLE class=infobox style="FONT-SIZE: 90%; WIDTH: 21em" cellSpacing=2><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: larger; COLOR: #000000; BACKGROUND-COLOR: #ed8; TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>ชาลี อินทรวิจิตร</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%; TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>
<SMALL>ชาลี อินทรวิจิตร ภาพจากนิตยสารสกุลไทย</SMALL>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรื่องเล่า
จาก หนังสือ ประวัติศาสตร์สมัย
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ เรียบเรียง

 

นะโม โพธสัตโต อาคันติ มายะ อิติ ภะคะวา
นับถือหลวงปู่ มากๆค่ะ

 

กระทู้หลวงปู่ทวด เลข 97 พลาดคอมเมนต์ไม่ได้ครับ

คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ก็แขวนหลวงพ่อทวด ครับ เป็นพิมพ์พระรอด 2497

 

- พรุ่งนี้วันครูค่ะ ระลึกถึงพระคุณของคุณครูทุกท่านที่ประสิทธิประสาทวิชาให้ลูกศิษย์ได้ดีจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ขอให้คุณครูทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง...และมีความสุขทุกท่านค่ะ..

ด้วยเหตุที่ครูเป็นบุคคลสำคัญ และพระคุณต่อศิษย์ดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้น เมื่อจะมีการเรียนการสอนศิลปวิทยา แขนงใด ๆ ก็ตามคนไทยเราซึ่งนับถื่อพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติจึงมีการไหว้ครู เป็นการมอบตัวเข้าเป็น ศิษย์ของครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา พิธีไหว้ครูที่ทำกันมาแต่โบราณ นิยมทำกันในวันพฤหัสบดี (คติพราหมณ์ถือว่า พระพฤหัสบดีเป็นครูของเทวดาทั้งหลาย) โดยผู้เป็นศิษย์จะนำเครื่องสักการะ อันประกอบด้วย ธูป เทียน ข้าวตอก ดอกมะเขือ และหญ้าแพรก ใส่พานและนำเข้าไปให้ครู แสดงความเคารพ (โดยการกราบ) แล้วส่งเครื่องสักการะให้ ครู และกล่าววาจามอบตนเข้าเป็นศิษย์ของครู (หากเป็นเด็กเล็ก ๆ มารดาบิดาจะเป็นผู้นำไปมอบและกล่าววาจาฝากฝัง บุตรของตนต่อครู) ครูจะรับเครื่องสักการะแล้วแนะนำสั่งสอนเป็นเบื้องต้น พร้อมทั้งให้พรแก่ศิษย์ หลังจากนั้นครูก็เริ่มสอนศิลปวิทยาแก่ศิษย์ต่อไปเป็นลำดับจนศิษย์มีความรู้ สามารถประกอบอาชีพได้ ครูก็จะส่งกลับคืนให้แก่มารดา บิดาเป็นอันว่าสำเร็จการศึกษา ในสมัยโบราณ ในระหว่างรับการศึกษานั้น ศิษย์จะต้องพักอยู่ในบ้านของครูช่วยทำ กิจกรรมงานต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนส่วนครูก็จะเลี้ยงดูศิษย์ไปด้วย ดังนั้นศิษย์ในสมัยโบราณจึงเคารพนับถือครูเสมอด้วยมารดาบิดาเพราะเหตุที่ท่านให้ความอุปการะเลี้ยงดู ดุจมารดาบิดาผู้ให้กำเนิด

ความหมายของ"การไหว้ครู"
"การไหว้ครู" คือ การแสดงถึงความเคารพกตเวทีแด่ท่านบูรพาจารย์ และครูบาอาจารย์ ผู้ซึ่งประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ เพื่อจะได้เป็นความรู้ติดตัวนำไปประกอบอาชีพ เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตนเองในภายภาคหน้า
"การไหว้ครู" คือ การที่ศิษย์แสดงความเคารพ ยอมรับนับถือครูบาอาจารย์อย่างจริงใจว่า ท่านเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมความรู้ ศิษย์ในฐานะผู้สืบทอดมรดกทางวิชาการ จึงพร้อมใจกันปวารณาตัวรับการถ่ายทอดวิชาความรู้ด้วยความวิริยะอุตสาหะมานะอดทน เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายปลายทางของการศึกษาตามที่ได้ตั้งใจไว้
"การไหว้ครู" คือ การแสดงถึงความสำนึกที่ดีงาม โดยเฉพาะเรามักจะกระทำแก่สิ่งของหรือบุคคลที่มีความสำคัญแทบทั้งสิ้น เช่น นักเรียนประกอบพิธีไหว้ครู ก็เพราะนักเรียนเห็นว่าครูเป็นบุคคลที่สำคัญในชีวิตของเขา คือ เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้ และเป็นปูชนียบุคคล ครูอาจารย์จึงเป็นบุคคลที่คู่ควรแก่การไหว้เป็นอย่างยิ่ง

ความสำคัญของการไหว้ครู
ไทยเรามีประเพณีการไหว้ครูมาแต่โบราณ เราไหว้ครูเพราะเราเคารพในความเป็นผู้รู้ และความเป็นผู้มีคุณธรรมของท่าน คุณสมบัติทั้ง 2 ประการของครูต้องสอดคล้องสัมพันธ์กับคุณธรรมของศิษย์ การเรียนการสอนจึงจะดำเนินไปได้ด้วยดี ถ้าจะเปรียบการเรียนการสอนเป็นต้นไม้ คุณธรรมของครูนับตั้งแต่ปัญญา ความเมตตากรุณา และความบริสุทธิ์ใจซึ่งเป็นฐานรองรับให้ต้นไม้คงอยู่ได้ ในขณะเดียวกันคุณธรรมของศิษย์ไม่ว่าจะเป็นความเคารพ ความอดทน หรือความมีระเบียบวินัยก็เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้ต้นไม้เจริญเติบโต ออกดอกออกผลอย่างงดงาม

จะเห็นว่าพิธีไหว้ครูแต่โบราณไม่มีพิธีรีตรองมากนักแต่มีความหมายแฝงไว้มากมายคนโบราณ เป็นนักคิดจะ ทำอะไรก็มักจะผูกเป็นปริศนาที่ลึกซึ้งเอาไว้เสมอในพิธีไหว้ครูก็เช่นเดียวกันเครื่องสักการะที่ใช้ในการไหว้ครูนั้น นอกจากธูป เทียน แล้วยังมีข้าวตอก ดอกมะเขือ ดอกเข็ม และหญ้าแพรก ซึ่งเป็นของหาง่ายและมีความหมาย ดังจะ กล่าวต่อไปนี้

 

ยังมีพระสงฆ์อีกหนึ่งองค์ ที่ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ เหมือนหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ คือ พระราชอุดมมงคง หรือ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม

หลายคนหากนึกถึง หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จะมองท่านเป็นเพียงพระเกจิต่างชาติ ด้วยชาติกำเนิดขององค์ท่านเป็นชาวมอญซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยตามชายแดนไทย-พม่า แต่จะมีสักกี่คนที่จะได้รับรู้ว่า หลวงพ่ออุตตมะ คือ พระมหาโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า

หลวงปู่ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ที่ได้กล่าวเป็นนัยไว้ว่า
"ยังมีพระเถระผู้ใหญ่ทางชายแดนไทยพม่าองค์หนึ่ง สร้างบารมีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าทีปังกรโน่นแล้ว"

หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั้ง ก็ได้ถามหลวงพ่ออุตตมะถึงการปฏิบัติว่า เป็นเช่นไร
”ปฏิบัติอัตหิตน้อย ปรหิตมาก”
แปล
”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน”

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ได้กล่าวถึงหลวงพ่ออุตตะ ไว้ว่า
”หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีบารมีมากล้น แม้ชาตินี้ หากท่านต้องการ ท่านก็สามารถถอยจิตมาเจริญกรรมฐาน สำเร็จพระอรหันต์ได้ในทันทีเลยทีเดียว”
แต่......
”หลวงพ่ออุตตมะท่านยังไม่เอาหรอกนะ”



คิดว่าหลายคนคงเริ่มสนใจกันแล้วครับ
เข้าไปอ่านกันเต็ม ๆ ได้ที่

 

สงสัยผมคงแขวน หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ คู่กับ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม แล้วหล่ะครับ โดยส่วนตัวคิดว่า "พระโพธิสัตว์" สร้างพระเองคงขลังน่าดู ครับ แหะ ๆ

 

ขออนุญาตให้ความหมายของข้าวตอก ...ดอกไม้
เพื่อระลึกถึงบุญคุณคุณครูค่ะ....

ข้าวตอก ทำมาจากข้าวเปลือกโดยนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำให้นิมแล้วนำไปคั่วด้วยความร้อนจนเม็ดข้าวแตกและ บานออกมีสีขาวบริสุทธิ์มีความหมายว่า ครูย่อมสอนศิษย์ทั้งด้วยวิธีปลอบโยนเปรียบได้กับน้ำที่ทำให้ข้าวเปลือกนิ่ม และวิธีการเคี่ยวเข็ญที่เข้มงวด มีการลงโทษเมื่อศิษย์ ไม่ประพฤติปฏิบัติตามเปรียบได้กับความร้อนที่คั่วข้าวเปลือก ทั้งนี้เพื่อให้ศิษย์มีความขยันขันแข็งและเอาใจใส่ในการเล่าเรียนจะได้เป็นผู้มีชีวิตที่สมบูรณ์ปราศจากความประพฤติ ชั่วทั้งปวง เปรียบได้กับสีขาวของข้าวตอกและมีความเจริญเฟื่องฟูในการประกอบสัมมาอาชีพเปรียบได้กับการแตก บาน ของข้าวตอก

ดอกมะเขือ เป็นดอกไม้ชนิดเดียวที่บานแล้วคว่ำดอกลงสู่พื้นดิน ไม่หงายขึ้นรับแสงอาทิตย์เช่นดอกไม้ชนิด อื่น ๆ เป็นเครื่อง สักการะที่เตือนให้ศิษย์ระลึกได้อยู่เสมอว่า ศิษย์จักต้องก้มหน้าและน้อมรับคำสั่งสอนของครูเสมอ การโต้เถียงครูด้วยความโกรธ เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ดอกเข็ม มีลักษณะแหลม มีความหมายว่า ศิษย์จะมีสติปัญญาเฉียบแหลมและฉลาดรอบรู้ได้ ก็ด้วยอาศัยครูเป็นผู้ ฝึกฝนเช่นเดียวกับการทำของที่แหลมคม ย่อมต้องมีการฝนหรือลับซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ครูเป็นบุคคลที่มี ความพยายามและอดทนในการให้การฝึกฝนศิษย์ จึงสมควรที่ศิษย์จะต้องบูชาและเคารพยกย่อง

หญ้าแพรก เป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งและการเหยียบย่ำและขยายพันธุ์ได้ดีในพื้นที่ทุกชนิดหญ้าชนิดนี้ จึงมี อยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง แม้ถูกเหยียบย่ำก็ไม่ตาย ได้รับน้ำฝนก็จะแตกใบขยายพันธุ์ขึ้นอีก มีความหมายว่า ศิษย์จะต้อง อดทนต่อการเคี่ยวเข็ญดุว่า เฆี่ยนตีของครูโดยไม่ถือโกรธ ดุจดังหญ้าแพรกที่ถูกเหยียบย่ำ ฉะนั้น การมีความอดทนต่อ การเคี่ยวเข็ญดุว่า เฆี่ยนตีของครูนั้น จะทำให้ศิษย์เป็นคนมีมานะอดทน รู้จักปรับตัว และแก้ไข ความประพฤติที่บกพร่องให้ดีขึ้นเมื่อเติบโตขึ้นย่อมสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยดีในทุกหมู่ชนและทุกสถานที่ดุจดังหญ้าแพรกที่สามารถ เจริญและขยายพันธุ์ได้ในพื้นที่ทุกแห่ง

ในปัจจุบันนี้เราจะสังเกตเห็นว่าเครื่องสักการะที่นักเรียนนำมาไหว้ครูนั้นนับวันจะหมดความหมายลงไปทุกทีนักเรียนมักซื้อดอกไม้ที่สวยงามจากตลาดแทนการใช้เครื่องสักการะที่มีความหมายซึ่งใช้กันมาแต่โบราณและมักไม่ใช้ความสามารถของตนในการจัดพานเครื่องสักการะครูส่วนใหญ่จะจ้างผู้มีฝีมือในทางด้านนี้ เป็นผู้จัดให้ข้อนี้อาจเป็นลาง บอกเหตุของความเสื่อมทางการศึกษาก็ได้ เพราะปัจจุบันนักเรียนมักนิยม ให้ผู้อื่นทำแบบฝึกหัดหรืองานที่จะส่งครู มากกว่าจะพยายามทำด้วยความสามารถของตนเอง การที่นักเรียนใช้ดอกไม้สวยงามอื่น ๆ แทนเครื่องสักการะที่มีความหมายเป็นนิมิตหมายให้เราทราบว่านักเรียนในปัจจุบันมองเห็นว่าความสวยงามมีความสำคัญมากกว่าความดีและความถูกต้องการจ้างคนอื่นให้จัดเครื่องสักการะในการไหว้ครูเป็นนิมิตให้เราทราบว่านักเรียนมิได้ระลึกถึงพระคุณของ ครูด้วยใจจริง แต่การกระทำไปตามประเพณีโดยปราศจากความเข้าใจ

สิริมงคลซึ่งเกิดจาก การปฏิบัติอย่างถูกต้องจึง ไม่เกิดขึ้นแก่นักเรียนความไม่มีศรัทธาในพระคุณของครูทำให้การเรียนรู้ ของนักเรียนเป็นไปอย่างไม่มีความมั่นใจ การ จดจำและการปฏิบัติตามคำสอนของครูจึงไม่เกิดขึ้นความรู้ความสามารถ ที่พึงมีพึงได้ก็ไม่เกิดขึ้นแก่นักเรียน นอกจากนี้ นักเรียนยังมีความประพฤติต่อครูผิดไปจากธรรมเนียมที่เคยมีมาแต่ก่อน เครื่องสักการะทั้ง 4 อย่างดังกล่าวแล้วย่อม แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนเครื่องสักการะที่ขาดข้าวตอกนั้นเป็นนิมิตว่าในโรงเรียนทั่ว ๆ เริ่มจะขาดการชักจูง และการ เคี่ยวเข็ญลงโทษนักเรียนด้วยพากันเห็นว่าการทำโทษดุว่าเป็นพฤติกรรมที่น่า รังเกียจเป็นการแสดงความไม่เมตตาต่อ นักเรียนดังนั้นส่วนใหญ่ของนักเรียนที่มีความประพฤติบกพร่องจึงไม่ได้รับการแก้ไข เราจึงพบเห็นนักเรียน
มีความ ประพฤติเลวทรามและหยาบคายอยู่ทั่วไปส่วนเครื่องสักการะที่ขาดดอกมะเขือนั้น เป็นนิมิตอย่างชัดเจนว่า ปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ไม่ใคร่น้อมรับคำสอนของครูด้วยความเคารพ มักจะมีการโต้เถียงและล่วงเกินครูด้วยวาจาไม่สุภาพ หรือบางทีก็ใช้ถ้อยคำรุนแรงหยาบคายต่อครูก็มีไม่น้อย

สำหรับเครื่องสักการะที่ขาดหญ้าแพรกนั้น ก็เป็นนิมิตหมายว่า นักเรียนจะไม่มีความอดทนต่อคำดุว่า และการ ทำโทษของครู และมองเห็นไปว่าครูชิงชัง ริษยา และพยาบาทตนความคิดเช่นนี้ทำให้นักเรียนมีนิสัยมองคนในแง่ร้าย ใครว่ากล่าวตักเตือนก็ไม่ได้ครั้นเติบโตขึ้นอยู่กับใครก็อยู่ยาก เอาแต่ใจของตน ไม่มีความเห็นใจคนอื่น เป็นเหตุให้ไม่มี ความเจริญก้าวหน้า เพราะคนเราแม้จะเก่งกล้าสามารถและมีความรู้มากมายเพียงใดก็ตาม หากไม่มีความ ประพฤติที่ดี งามเป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่นที่แวดล้อมเกี่ยวข้องแล้ว ย่อมจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ดังโคลงโลกนิติที่สอนไว้ว่า

แม้มีความรู้ดั่ง สัพพัญญู
ผิบ่มีคนชู ห่อนขึ้น
หัวแหวนค่าเมืองตรู ตราโลก
ทองบ่รองรับพื้น ห่อนแก้วมีศรี​

ส่วนดอกเข็มนั้น เป็นดอกไม้ที่หาง่ายแม้จะไม่ใคร่ขาดก็ตาม นักเรียนก็พึงระลึกอยู่เสมอว่าความฉลาดเฉียบแหลม ของคน เรานั้นมีไว้สำหรับสร้างความเจริญให้แก่ตนเองในทางที่ชอบธรรมมิได้มีไว้ใช้ทิ่มแทงหรือทำลายคนอื่นและการที่จะมีความเฉลียวฉลาดได้นั้น จะต้องเป็นคนช่างจดจำ และช่างคิดนึกตรึกตรองพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จึงจะทำให้มีความ รู้เฉลียวฉลาดขึ้นได้ ​

พิธีการไหว้ครูเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และแฝงไว้ด้วยคติธรรมมากมายหลายอย่างจึงควรดำรงรักษาไว้และพยายามศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ อย่าสักแต่ว่าทำไปตามประเพณีต้องทำอย่างเข้าใจในเหตุและผล หากทุกคน (ทั้งครูและ นักเรียน)มีความเข้าใจถูกต้องตรงกันพิธีไหว้ครูที่จัดทำขึ้นจะก่อให้เกิดสามัคคีในหมู่คณะเกิดความมั่นใจในการศึกษา ศิลปวิทยาแขนงต่าง ๆ และส่งผลให้ผู้ปฏิบัติประสบความเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ นำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองในที่สุด ​

ในที่สุดแห่งบทความนี้ ผู้เขียนใคร่ขอฝากข้อคิดแก่ทุก ๆ ท่านที่อ่านบทความนี้ว่าขนบธรรมเนียมประเพณีแต่โบราณทำด้วยเหตุด้วยผล และได้ผลดีมีประโยชน์ แต่เนื่องจากความเจริญของโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดมา จึงทำให้เรา ต้องดัดแปลงขนบธรรมเนียมประเพณีแต่จะต้องคงแนวความคิดเดิม และช่วยกันดำรงรักษาไว้ตามเจตนาของบรรพ บุรุษไทย และพึงภูมิใจว่า บรรพบุรุษของชนชาติเราเป็นผู้มีความเจริญในด้านความคิดไม่แพ้ชนชาติใด ๆ ในโลกนี้ .​

http://www.pua108.com/smf/index.php?topic=30.0​

 

...หน้า 97 พอดี

*หลวงพ่อทวด-จตุคามรามเทพ
รุ่นปฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล

​

 

ดึกแล้ว....

แวะมาทักทายพี่สาวครับ....

พรุ่งนี้วันมงคล วันดี วันแรง.... นึกถึงพี่นวลจั๊ง จัง