เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ขบวนสุดท้ายก็ยังไม่ทัน
ยินดีกับคุณ Pryfony ด้วยครับ

 

วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ท่านอา Wanwi ครับ ผมเคยมีลูกอมของหลวงพ่อพริ้งอยู่ 1 ลูกแต่ตอนนี้เขาแตกกระจายเหลือแค่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับเศษผงไปแล้วพร้อมกับเรื่องประหลาดครับ คือวันนั้นผมเอาหลอดพลาสติกใส่ลูกอมหลายๆลูกเป็นแท่งยาวพร้อมกับตะกรุดจะมาคาดเอวเพื่อออกไปธุระข้างนอกบ้าน แต่จังหวะที่กำลังหยิบสายคาดมาคาดเอวปรากฎว่าพวงลูกอมและตะกรุดหลุดมือกระแทกพื้นดังตุ๊บ ผมรีบหยิบขึ้นมาสำรวจความเสียหายและพบว่าทุกชิ้นอยู่ในสภาพดีหมดยกเว้นลูกอมของหลวงพ่อพริ้งที่แตกกระจายเหลือเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับเศษผงเพียงแค่ลูกเดียวในขณะที่ลูกอมอื่นยังเป็นปกติ ผมใจคอไม่ดีเก็บชุดนี้ไว้แล้วเอาตะกรุดชุดใหม่มาคาดเอวก่อนออกจากบ้านเพราะรู้สึกว่านี่ไม่น่าใช่เรื่องปกติแล้ว ผมพยายามใช้รถอย่างระมัดระวังเพิ่มขึ้นแต่อีก 2 วันถัดมาตอนผมรอเลี้ยวรถออกจากซอยทางขวามือ ผมมองไม่เห็นมอเตอร์ไซค์ที่แอบมาอยู่ข้างๆรถผมและเลี้ยวออกไปพร้อมกันทำให้รถของผมไปปะทะมอเตอร์ไซค์เข้าให้ ผมรีบลงไปดูทันทีปรากฎว่าทั้งคนและมอเตอร์ไซค์ไม่มีอะไรเสียหายครับนอกจากคนขับรถตกใจนิดหน่อย ผมก็ขอโทษเขาและพอไม่มีอะไรเสียหายเขาก็ไม่เอาเรื่องอะไรผมแล้วเขาก็รีบไปเข้างาน ผมสำรวจรถผมพบว่ามีรอยถลอกเล็กน้อยซึ่งผมก็เอาเทปพันสายไฟสีขาว (รถผมสีขาว) มาแปะรอยถลอกเอาไว้แล้วขับไปตามปกติ ผมเอาหลอดลูกอมไปให้ช่างรุ่นน้าเปิดเอาลูกอมหลวงพ่อพริ้งออกมาแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ช่างฟัง ช่างว่าลูกอมของหลวงพ่อพริ้งเขารับเคราะห์แทนผมไว้เขาถึงแตกกระจายไปแบบนี้และช่างให้ผมเก็บลูกผมที่ป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับเศษผงใส่ซองพลาสติกไว้เพราะถึงเขาจะแตกไปแล้วแต่ผงพุทธคุณก็ยังอยู่และยังคงช่วยคุ้มครองผมได้ตามเดิม เรื่องแปลกๆของผมกับลูกอมของหลวงพ่อพริ้งก็มีตามนี้ครับ

 

ขอบคุณครับพี่พัฒนา

 

สวัสดีครับคุณอาWanwi พี่เพื่อนสมาชิกนักขุดฯทุกท่าน ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญกับคุณอาเนื่องด้วยเดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนเกิดของผมกับลูกสาวครับ

 

เปิดกระทู้ยามค่ำ ศุกร์สวัสดี
รับวันหยุดสุดสัปดาห์พรุ่งนี้
ให้น้องปรายฯขอบคุณ น้อง
ประเวช ก่อนไปโพสท์อื่นต่อ

 

1 ใน "เบญจเทพ" ลูกอมเนื้อผงพุทธคุณ และเป็น 'เม็ดสุดท้าย' ชัวร์ป้าด ไม่มีงอกออกมาได้อีก เพราะเกลี้ยงกรุ เหลือเพียงลูกที่แขวนอยู่บนคอยาวนานเกิน 30 ปี เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น

สรุปว่า ท่านเดินทางไปให้น้องปรายฯรักษา สะสม บูชา 2 เม็ด เพื่อส่งต่อให้กับน้องหรือลูกหลานวันข้างหน้า ขออธิษฐานบารมียิ่งใหญ่ หลวงพ่อพริ้ง จงปกปักพิทักษ์คุ้มตัว ดูแลเหย้าน้องและครอบครัวมีความสุขทุกเมื่อ

โมทนากับทานบารมีที่ส่งมาร่วมอีกระลอก สัปดาห์หน้าคงได้ส่งร่วมบุญกฐินกับพรรคพวกบ้าง

 

สิงห์ปืนไวไร้เทียมทานอีกหนึ่งท่าน วันนี้ศุกร์ ก็คงต้องขออนุญาตส่งหลวงพ่อพริ้งเดินทางวันจันทร์ ส่วนลูกแรกส่งเมื่อวันวาน ป่านนี้คงถึงที่หมายเรียบร้อย

โมทนาทั้งบุญ+ทานบารมีครับน้องปรายฯ

 

ขบวนสุดท้ายตัวจริง ถ้าจะมีอีกขบวน ต้อง "ปลดจากคอ" ซึ่งคงอีกนานเทียว

แต่...เอ หากความจำผมไม่เพี้ยนประสาคนช่างจำ รู้สึกว่า 2-3 ปีก่อน คุณพัฒน์น่าจับสลาก"หลวงพ่อพริ้ง" ได้ไปหนึ่งเม็ด...ผิด-ถูกอย่าว่ากัน เพราะมันคลับคล้ายคลับคลา

 

อนุโมทนาบุญช่วงเช้ากับหลวงพี่ ได้ร่วม วันทา สาธุยามค่ำคืน ถือเสียว่าเป็นเรื่องดีก่อนนอน จะได้บังเกิดนิมิตหมายดีๆ พรุ่งนี้วัน"กินรวบ"...เอ้ย กินแบ่ง ขอใหัทุกท่านเฮง เฮง แรงบุญหนุนส่งตามอัตภาพ และสมปรารถนา

 

น้องปรายฯฝากขอบคุณ คุณพัฒน์

 

เรื่องเล่าจากน้องเสฯ เป็น "ปัจจัตตัง" ส่วนตน แต่กรณีเช่นนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาก็หลากหลายเวอร์ชั่น แต่ถ้าเราสัมผัสด้วยตัวเองหรือจากบุคคลใกล้ชิด ก็มีเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

สำหรับผมก็เกิดกับน้องชายเพื่อน ซึ่งเคยนำมาเล่าแล้วเมื่อ2-3ปีก่อน จากการมอบ พระปิดตาวัดศาลาครืน-หลวงปู่โต๊ะ ให้ไปบูชา แล้วน้องเค้านั่งรถปิ้กอัพที่เพื่อนขับ ตกคลองกลางถนน เป็นอุบัติเหตุค่อนข้างแรง แต่น้องเพื่อนไม่เป็นอะไรแม้รอยแมวข่วน เพียงพระปิดตาปู่โต๊ะที่อยู่เลี่ยมพลาสติก แตกเป็น3-4 เสี่ยง ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้กระแทกหน้าอก หรือพระโดนกระแทกแต่อย่างใด

ปัจจุบันพระปิดตาองค์นี้ยังอยู่กับผม เนื่องจากเค้าส่งมาขอเปลี่ยนองค์ใหม่ ซึ่งผมก็มอบองค์แทนให้แขวนใหม่เรียบร้อย ส่วนพระองค์นี้ก็เก็บไว้ รอว่าพรรคพวกหรือคนรู้จักทำพระก็จะมอบให้ไปเป็น'เชื้อ' เป็นส่วนผสม

ลูกอม หลวงพ่อพริ้งของน้องเสฯ ก็ทำนองเดียวกัน อย่างที่ช่างเขาบอก...ท่านรับเรื่องแทนเราไว้ !!!

รู้เอง เห็นเอง เป็นสิ่งที่บอกเล่าแล้ว ต้องมีคนเชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง ก็ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้มันเหมือน "ถูกหวย" บางคนทั้งชีวิตไม่เคยถูกสักงวด ก็ไม่รู้จะบอกเล่าความรู้สึกของคนถูกแบบไหน บางคนก็ถูกมันอยู่นั่นแล้วเพราะดวงสมพงษ์กับโชคลาภ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญเก่ามาดี

ขอบคุณน้องเสฯกับเรื่องเล่าดีๆ มีเคล็ด มีคติ

 

น้องคมกับขวัญใจประจำบ้านเป็น "คนเดือนตุลาฯ" เหมือนผม ซึ่งสมัยเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน เอ่ยถึงเดือนนี้ ทุกคนยกนิ้วยอมรับโดยดุษฏีว่า เป็น "ตุลาอาถรรพ์"!

ด้วยว่านับจาก 14ตุลา-วันมหาวิปโยค ปี 16 ต่อเนื่องด้วย 6 ตุลา 19 เป็นต้นมา เมื่อย่างเข้าเดือนตุลาแต่ละปี บาดแผลอันเจ็บปวดในประวัติศาสตร์ชาติบทนี้ ก็จะถูกนักข่าว นักเขียน นักรายงานข่าว ลากออกมาตอกย้ำแผลเหมือนเอาน้ำเกลือราดรดให้เจ็บแสบรวดร้าวบาดลึกและจดจำอยู่เสมอ

ความเป็น "ตุลาอาถรรพ์" จึงโดนตอกหัวตะปูย้ำนานครัน เพิ่งมาสร่างซาสักไม่กี่ปีนี่เอง

แต่"เดือนตุลา" ก็ยังเป็นเดือนน่าทึ่ง ทั้งการสวรรคต ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9...สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสัววร เป็นทั้งเดือนประสูติ และเดือนสิ้นพระชนม์

อีกพระองค์ท่านคือ "สมเด็จย่า" ซึ่งทรงพระราชสมภพในวันที่ 21 ตุลาคม

ทั้งยังเป็นวันสำคัญของสถาบันตำรวจที่มีวันตำรวจของเก่า 13 ตุลาตรงกับวันในหลวง ก่อนจะถูกโยกออกไป

แล้วอย่าลืม "วันปิยมหาราช" 23 ตุลาฯ ที่เราเคารพนับถือกันมายาวนานไม่เคยคลอนแคลน

สวัสดี..."คนเดือนตุลา" อนุโมทนากับน้องคม&ลูกสาว ขอให้กุศลผลบุญหนุนส่ง มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ปลอดโรค ปลอดภัย ลูกสาวเรียนเก่งเป็นมิ่งขวัญใจประจำบ้านตลอดไป

 

แหล่งทำกิน ถิ่นปากท้อง
แผ่นดินทองของชนเกษตร...

ท้องทุ่งแปลง...แหล่งอาหาร
สมประสาน....งานเหมาะสม
รื่นรมย์โลก...โรคระทม
หนีห่าห่ม....ชื่นชมชนบท

 

วันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

คุณพี่ทะเบียนรถภูเก็ต ระเห็จมาใส่บาตรถึงชุมพร เลขท้ายสวย หวังว่าวันนี้หวยออก คงมีสมาชิกของเรารับโชคสวยๆตามไปด้วยตามอัตภาพ ลุ้นกัน15 วันครั้ง เพื่อความครึกครื้น ตื่นเต้นเล็กๆ อย่าให้ชีวิตอับเฉา

ช่วงนี้รัฐเตรียมตัวเปิดประเทศ กับเตรียมเค้าท์ ดาวน์ ปีใหม่ ที่ภูเก็ต เห็นว่าลงทุนจ้าง เด็กไทยระดับโลก "ลิซ่า แบล็คพิ้งค์" ด้วยค่าตัวสูงลิบนับร้อยล้าน ทำได้จริงก็ดีิเพราะเด็กไทยคนนี้ "ดังที่สุด"ระดับอินเตอร์ เคียงบ่าเคียงไหล่คนดังทุกประเทศแม้แต่ฮอลลีวูดยังยอมรับ นับตั้งแต่มีคนบันเทิงไทยเกิดขึ้นมา ก็มี "เธอ"นี่แหละ..."โกอินเตอร์-ระดับโลก" ตัวจริงเสียงจริง น่าภาคภูมิใจมาก เป็นเด็กบุรีรัมย์ บ้าน"ท่านหมื่น"กับ "น้องศิวะ" สมาชิกเรานี่แล

สำหรับค่าตัวเป็น "ร้อยล้าน" ก็อย่าคิดว่าแพง กว่าบริษัทต้นสังกัดต่างชาติคือเกาหลี จะปั้นขึ้นมาให้ดังพวกก็ลงทุนเป็นพันล้าน ถึงเวลาถอนทุนคืนก็เป็นปกติธรรมดาของการค้า-การลงทุน...ถ้า"ลิซ่า"รับงานได้เอง สำหรับเมืองไทย เธอคงแทบจะเล่นให้ฟรีเพื่อแผ่นดินมาตุภูมิ

มัวแต่คุยยาวไปข้างหน้า เกือบลืมอนุโมทนาบุญใส่บาตรตรงหน้า เชิญวันทา สาธุบุญร่วมกันเลยครับ

 

คนเก็บสาหร่ายน้ำจืด
ดูสารคดีที่ญี่ปุ่น,เกาหลี
เป็นอาหารยอดฮิตบ้านเขา...

สาหร่ายยำ...ล้ำเลิศลิ้น
กว่าเก็บกิน...สินแสวง
แรงคนค้น....ดั้นด้นแพง
ต้มทำแกง....พลิกแพลงเพลิน!

 

หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต
ผ้ายันต์ปราบ'อั้งยี่'ในตำนาน !
=================

พุทธศักราช 2419 หรือกว่า 140 ปีที่ผ่านมา 'อั้งยี่' กรรมกรเหมืองแร่ เมืองถลาง(ภูเก็ต) กำเริบเสิบสานยกพวก ข้างละกว่า 2 ,000คน ห้ำหั่นกันกลางเมืองถลาง และเป็นอันธพาลสืบเนื่อง กำแหงหาญคิดยึดบ้านยึดเมือง ไล่ฆ่า ปล้นชิงทรัพย์ประชาชนคนบริสุทธิ์ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล

ในช่วงที่บ้านเมืองระส่ำ ฝ่ายปราบปรามกำลังไม่เพียงพอ ต้องรอกำลังหนุนจากนครหลวง "อั้งยี่" ก็ก่อกรรมทำเข็ญไปเรื่อย จนมาถึงชาวบ้านแถววัดฉลอง ซึ่งพากันหลบหนีเข้าวัด และชักชวน "หลวงพ่อแช่ม" หลบหนีภัย

แต่ หลวงพ่อแช่ม กล่อมชาวบ้านรวมใจสู้ พร้อมทั้งนำผ้าดิบขาวมาทำเป็นผ้าประเจียด ผ้ายันต์ สำหรับใส่โพกหัวคุ้มตัว ซึ่งพวก
'อั้งยี่' เรียกชาวบ้านโพกผ้ายันต์นี้ว่า "พวกหัวขาว"!!!

กฤษดาภินิหารจากผ้าประเจียดลงอาคม ผ้ายันต์กันปืนไฟ-กันคมมีด-ลูกขวาน หลาว แหลน ไม่ระคายของชาวบ้าน ทำให้เกิดพลังรวมหมู่เหล่าเข้าห้ำหั่นกับอั้งยี่ จนเมื่อกองกำลังเมืองหลวง ยกมาถึง ชาวบ้านก็สามารถยึดเมืองคืนจากอั้งยี่ได้ก่อนแล้ว

ทุกถ้อยเรื่องราวเหล่านี้ล้วนบันทึกไว้เป็นทางการในประวัติศาสตร์ชาติไทย และที่นำมาเขียนเป็นเพียง "เสี้ยวธุลี" ของจริงนั้นมีมากเรื่อง มากกว่านี้อีกนับหลายร้อยเท่า

ความดีงาม คุณวิเศษ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ระบือลือลั่นยาวไกล ทะลุด้ามขวานทองไปสุดคาบสมุทรมาลายู เป็นที่ประจักษ์ไปถึง สิงคโปร์ ปีนัง มาลายู อินโดฯ (เกาะสุมาตรา-เกาะอาเจะฮ์)ไม่มีใครไม่รู้จัก "สังฆปาโมกข์"(หัวหน้าสงฆ์) รูปแรกของภาคใต้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 ทรงแต่งตั้ง!

มีคนมากมายอยากทราบว่า ผ้าประเจียด ผ้ายันต์ที่ หลวงพ่อแช่ม เมตตาประสิทธ์ให้ชาวบ้านนั้น รูปร่าง หน้าตาเป็นเช่นไร?ลงบทมหาคาถาวิเศษไว้ด้วยมหายันต์บทไหน?

ความนี้เป็นเรื่องยากที่จะมีวัตถุดิบยุคกว่าร้อยปีครึ่ง หลงเหลือมาให้เห็น ให้ศึกษา เพราะผ้าดิบเหล่านั้นได้สูญสลายหมดสภาพไปสิ้นตามกาลเวลา ยิ่งผ้าสมัยนั้นคุณภาพของเนื้อผ้าก็คงย่ำแย่กว่ายุคปัจจุบันมาก

แต่ วัดฉลอง ภูเก็ต ก็ได้บันทึกเรื่องราวแต่หนหลัง และเก็บงำประวัติศาสตร์มุมนี้ไว้อย่างดี เนื่องจากเป็นวัดใหญ่ของเมืองที่รับการแต่งตั้งจากรัชกาลที่5 นามว่า "วัดไชยธาราม"

วัดฉลอง บันทึกตำราเลขยันต์ที่ หลวงพ่อแช่ม ประสิทธิ์ช่วยชาวบ้านเอาไว้ บทพระมหาคาถาสำคัญบนผ้าประเจียด ผ้ายันต์คือบทว่าด้วย...

===พระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ===

และยังมีบทคล้ายคลึงกันนี้อีก 3-4บท จะเห็นได้ว่า หลวงพ่อแช่ม ท่านลงเพื่อกันอานุภาพ'ปืนไฟ'และอยู่ยงคงกะพันเพื่อกำลังใจชาวบ้านล้วนๆ

มียุคหลังที่วัดฉลองได้สร้างผ้ายันต์ และดัดแปลงนำรูปมงคล หลวงพ่อแช่ม ประดับไว้ พร้อมพระคาถาดังกล่าวหลายบท

ผ้ายันต์ยุคต้น หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ไม่ทันพ่อท่าน แต่บางปีได้บารมี หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งเคารพนับถือ หลวงพ่อแช่มเป็นที่สุด มาช่วยนั่งหนักปลุกเสก

(((เรื่องลพ.ปาน มาปลุกเสกวัดฉลองหลายหนนี้ ชาวบ้านที่ภูเก็ตยุคโบราณมากมายได้รับแจกพระเนื้อดินทรงประทับสัตว์จากท่าน เมื่อวงการพระตื่นตัว คนเสาะแสวงหาพระเครื่องไปทั่ว ก็มีการพบพระเนื้อดินหลวงพ่อปานในภูเก็ตไม่น้อย ซึ่งนักเล่นพระจากเมืองหลวง-อยุธยา ยุคเก่าก่อนล้วนแปลกใจ ต่อเมื่อค้นคว้าประวัติ จึงทราบความพิศดารอย่างที่เขียนไว้ดังกล่าว แม้แต่คุณป้าผมเองก็ได้รับมาหนึ่งองค์)))

หลังยุคปี 2500 ต้นๆ ก็ได้บารมี "พ่อท่านคล้าย-วัดสวนขัน" มานั่งเป็นประธานให้บ่อยครั้ง

สำหรับผ้ายันต์ผืนนี้ สร้างตั้งแต่ปี 10-12-15-21 ซึ่งเป็นปีที่ วัดฉลอง จัดให้มีพิธีปลุกเสกสำคัญทั้งสิ้น ถ้าเป็นปี 10-12 นิมนต์ "พ่อท่านคล้าย" มานั่งปลุกเสกแน่นอน ส่วนปีต่อๆมาก็ได้ยอดบูรพจารย์มากหน้าร่วมด้วยช่วยกัน แม้แต่วัดฉลองเองก็มีเจ้าอาวาสยุคหลังที่เก่งมากคือ หลวงพ่อช่วง,หลวงพ่อเกลื้อม ฯ

นี่คือ...ผ้ายันต์ที่บูชาจากวัดเก่าเก็บ ผ้าขาวดิบยุคปี 10 หรือกว่า นิดหน่อย พิสูจน์ทราบอายุผ้าได้ง่ายๆ ไม่ต้องหวั่นเกรงเรื่อง ผ้าเช็ดเท้าโรงงานห้องแถว

ผ้ายันต์ที่ผ่านบารมี หลวงพ่อแช่ม รับทราบ ผ่านพลังอริยสงฆ์สายใต้ไม่มีบทใดกังขา สี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 1 ฟุต(12นิ้ว) ส่วนสูง 13 นิ้ว เหมาะใส่กรอบเป็นพุทธบูชา เพื่อความเป็นศิริมงคลบ้านเรือน คุ้มภัย นำโชคลาภประสิทธิผลล้นทุกทิศทาง

มีผืนเดียวที่บรรพบุรุษบูชามาเก่าก่อน รับจากวัด ขอมอบเป็นพลังเพื่อให้ผู้บูชา รับการคุ้มครองจากอริยสงฆ์องค์แท้ ไม่ต้องอาศัยนิทานหรือนิยายสักประโยคเดียวประกอบความเป็นสุดยอด

=======3,000=======

ผ้ายันต์รูปพ่อท่านถือไม้เท้าเต็มองค์ ยุคต้นไร้ข้อกังขา ผ้าดิบโบราณไม่พับเก็บให้เกิดรอยยับ เพราะคลี่วางไว้อย่างเหมาะสมในตู้พระยาวนาน เก่าด้วยอายุกาล ผู้รับไปบูชา จะเป็น "มือที่2" หลังจากผ้าผืนนี้ออกจากวัดเมื่อกว่า 50 ปี
ขนาดความกว้าง 1 ฟุต (12 นิ้ว)
ความสูงเพิ่มมาอีกหนึ่งนิ้ว เป็น 13 นิ้ว