ของจริงนิ่งเป็นใบ้ของพูดได้ไม่จริง..คืออะไรครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มะหน่อ, 12 กันยายน 2008.

  1. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    คำกล่าวนี้คงเป็นของพระเดชพระคุณท่านที่กล่าวไว้เมื่อใด..ไม่รู้นะครับ..ตีความหมายได้หลายอย่างหลายแง่หลายมุม...ไม่ทราบว่าเหล่าเพื่อนสหายมีความคิดเห็นประการใดบ้างครับ...อนุโมทนาครับ
     
  2. dhammashare

    dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +189
    พระคุณเจ้าธัมมวิตักโกภิกขุ (อดีต)พระยานรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส
    ท่านกล่าวเอาไว้ครับ
     
  3. dhammashare

    dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +189
    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ = คนเก่งจริงไม่โอ้อวด
    ของพูดได้ไม่จริง = คนโอ้อวดมักไม่เก่งจริง

    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ = สงบ นิ่ง ว่าง
    ของพูดได้ไม่จริง =
    ฟุ้งซ่าน วุ่นวายใจ

    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ = ไม่พูดก็เข้าใจกันได้
    ของพูดได้ไม่จริง = พูดมากๆก็เข้าใจไปผิดๆ ได้
     
  4. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210

    กราบขอบพระคุณท่านมากนะครับ....ผมติดตามคำสอนของท่านอยู่ครับ....สามรถติดตามได้จากเวฟที่ท่านให้มาหรือเปล่าครับ
     
  5. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
  6. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ขอบพระคุณมากครับ
     
  7. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    นั่นสิครับ..เราสนทนาธรรมกันแล้วไม่กระจ่าง..กระผมเป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมาก...และขอบอกกล่าวในบรรดาหมู่พี่น้องเหล่าสหายธรรมทุกท่านนะครับ...อย่างแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกัน...ผมเสนอไปที่ไหนแล้วไม่ทราบนะครับ...ว่าธรรมะคือสิ่งที่มีอยู่แล้วสมมุติดังธรรมนี้คือโลก...(และในมุมมองของกระผมนี้มันก็คือโลกมนุษย์ดีๆนี่แหละครับ..พระสมเด็จพระสัมาสัมพุทธเจ้าท่านสำเร็จบนโลกครับ...ซึ่งจะแสดงความคิดเห็นต่อไปในเรื่องธรรมะกับการปฏิบัติอีกต่อไป.......เท่าที่ภูมิปัญญาน้อยๆดั่ง...หน่อที่ยังจมดินจมโคลนอยู่เพราะยังไม่พ้นผิวน้ำซึ่งรอวันจะดับสูญไปจากโลก...แต่โลกนี้คือธรรมะยังอยู่นะครับอีกนานเท่านาน)

    ธรรมคือโลกทางจิต...แต่เราไปแบ่งพรรค-แบ่งพวก-แบ่งขาว-แบ่งดำ-แบ่งกลุ่ม-แบ่งหมู่เหมือนเป็นโลกมนุย์นี้อีกเช่นกันครับ...แต่จิตนี่ไปเพ่งสิ่งเดียวกัน....ดังนั้นผมจะชี้แสดงให้บรรดาทุกหมู่เหล่าเห็นว่าธรรมะมีธรรมเดียวคือโลกเดียว...เราเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งชั่วขณะหนึ่งของโลกนี้เท่านั้น...โลกมาล้านกว่าปี...สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาชั่วขณะ...แต่แสดงสิ่งที่เกิดขึ้นล่วงหน้าไปได้เท่าโลกเกิดจนถึงโลกดับเลยครับ...แถมพกอีกสองโลกคือ...นรก-สวรรค์ได้สามโลกเลยครับ....เกริ่นไว้ก่อนครับ...เพราะคำตอบนี้คือ...โลกมี..ดินน้ำ..ลมไฟ..เหมือนธรรมะไหมครับ...ชักจะมีผู้มาสนใจมากขึ้นแล้วครับ...ผมจะแสดงต่อไป........หากสมมุติว่าธรรมะคือโลกแล้วท่านเอาโลกมานั่งดูไม่ต้องเพ่งดูเฉยก็แยกออกแล้วครับว่า...ธาตฺสี่คืออะไร...หลวงพ่อสดท่านสมมุติลูกแก้ว..ลูกแก้วของท่านเมื่อก่อนลายๆเหมือนโลกแล้วเอามาขัดเกลาทุกวันจึงเป็นลุกใสๆ...เรา๐ท่านท่านมักง่ายไปเอาผลมากินซะก่อนว่าลูกแก้วใสเอามาเพ่งกัน....รอดไปน้อยครับ...ใครอยู่ธรรมกายศิษย์ใหม่เข้ามาแจกลูกแก้วที่เป็นณุปโลกนะครับ...ให้มีความวุ่นวายทะเลาะเบาะแว้ง...เกิดแก่เจ็บตาย...บางคนหัวเราะบางคนร้องไห้...แล้วเอาไปขัดไปถูทุกวันจนใสนั่นแหละครับคือกำลังหรือจิตที่เอาไปใช้งานได้...ไปนรกสวรรค์ได้ยังไม่ใสตรงไหนในจิตในใจให้ไปขัดมาจนใสสงบเหมือนสุขใดเท่าความสงบไม่มีในณานสี่นะครับ...ขัดจิตไม่ใสแต่ลูกแก้วใสเสียแล้วจะได้ผลอย่างไร....พระธรรมคำสอนของท่านพระเดชพระคุณหลวงพ่อสด...นี่เล่นไปเอาเหมือนของหลวงพ่อมานั่งเพ่งกัน....หลวงพ่อท่านใสแล้วเราสิครับไม่ใสตอนเริ่มแรก...สกปรกครับ....

    ต่อไปนี้เกล้ากระผมหวังว่า....คนจะได้ข้อไปคิดแล้วไปเป็นอริยไม่หันอีกมาก.....เพราะกระทู้ของหิ่งห้อยน้อยแสงนี่ได้หรือไม่นั้น...ลูกตถาคตครับ...รู้มั่งไม่รู้มั่งสนทนากันอย่างเขียดในคืนสงบ-ความสงบ....เหมือนเขียดนาดีไหมครับ....กลางวันก็ไปฝึกกันมากลางคืนเอามาสนทนากันต่อนะครับ....วันไหนว่างส่งสายมาทางกระผมบ้างนะครับเพื่อสนทนาธรรมกัน

    ทำไมหรือครับกระทู้นี่ของผมมีนัย......เพื่อจะมารวมพลังจิตมาทุกๆสาย....เรามาเราล้อมรั้วไว้บ้านใครบ้านมัน...เอาอัตาอัตโน-นาNo(คือไม่มีนา)..มาด้วย...ทั้งที่เป็นโลกเดียวกันคือโลกแห่งธรรม...เท่าที่พิจารณามาตลอดนะครับ..มีการทะเลาะเสียดสีกำหนดเลยครับว่า...ของผม...ของท่าน...เขาเรา..แบ่งชนชั้นวัน-นะ...ทะเลาะกัน...อวดอภิญญาบารมีกันทั้งที่หารู้แจ้งในธรรมไม่...ธรรมะมีตั้งสี่หมื่นแปดพันหนทางที่จะเข้าไปได้...สายนี้ไม่เอาสายนั้นสายนั้นมาความคิดเห็นไม่ตรงสายนี้ถกเถียงกัน...ในภาษาธรรมที่แท้จริงท่านเรียกว่าสนทธนาธรรมกัน.....เพื่อความรู้แจ้งมาขึ้นให้ไปแจ้งเห็นจริงเพิ่มขึ้นอีกเท่านั้นมาช่วยกันใส่ฟืนให้มากขึ้นเท่านั้นอย่าทำดังเช่นต่างคนต่างก่อ....ไฟสามสี่กองเอามารวมกันจะสว่างกว่าไหมครับ...เกล้ากระผมคิดว่าขนาดเราร่วมกันแล้วเอาทั้งเราๆท่านท่านเผาไปด้วยยังเทียบกับตรัสรู้ไม่ได้เลยครับ...หรือใครบอกว่าตัดแล้วรู้แล้ว...ตัดซะรู้ยังตัดไม่ว่างแล้วจะไปเปรียบแสงพระอาทิตย์อย่างองค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าระวังจะเป็นหนทางไปอบายภูมินะครับเหล่าบรรดาพุทธบริษัท.....

    เคยอย่าทัพมาหลายหนแล้ว...แต่แสงหิ่งห้อยพเนจรหรือจะไปสู้แสงสปอตร์ไลท์ได้...เสียงกบเขียด..ที่เอาความสงบร้องกันสนทนากันเป็นบางเวลาน่าฟังยามดึก...เขาสนทนากันนะครับ...แต่หากวันใดเจอแสงสปอตร์ไลท์นี่หนาวแล้วครับ....จะมีก็แต่ตัวกล้าๆกำลังภายนอกมากเท่านั้นที่มาหวงที่หวงบ้านหวงถิ่นว่าเคยอยู่ที่นี่ไม่กลัวแสงและเสียงเครื่องขยายที่ท่านขนมาเปิดกันแล้วยังออกมาเต้นกันตามปกติยามค่ำคืนตามปกติ...ไม่โดนจับกินก็โดนเหยียบแหลกหมดละครับ...ไม่รอด...ผมกลัวท่านจะเป็นดังที่ผมกล่าว...แต่เราบรรดาสาธุชนเหล่าธรรมทั้งหลายคงไม่เอากระทู้ของผมไปเป็นเหตุนี้นะครับ...เพราะเหตุเป็นดังนี้เดี๋ยวต้องรอดูผลหน่อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2008
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,866

    [​IMG] อธิบายได้ตรง....ชอบแล้วครับ [​IMG]


    ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ
     
  9. ลมรำเพย

    ลมรำเพย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +503
    แล้วที่พระพุทธเจ้าเทศนาตั้ง 84000 พระธรรมขันธ์เนี่ย

    ไม่ใช่ของจริงหรือไงครับ เพราะพระองค์ไม่นิ่งเป็นใบ้
     
  10. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    สองวันก่อนผมวิ่งเป็นบ้าไปเลยครับ...ผมนึกว่าจะไม่มีคอมมาศึกษาธรรมะกับพวกท่านอีกเพราะความรับผิดชอบที่ทิ้งกระทู้ไว้...ตอบผิดที่ผิดทาง...ผมไม่มีคอมใช้ส่วนตัวหรอกครับแต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่หาธรรมะ..เลยเล่นของเพื่อนบ้างน้องบ้าง....ผมนึกเหมือนกันนะครับ...ว่าเอนี่เรากำลังหากิเลสแท้ๆ...คือหาตัวโมหะ...หรือหาเรื่องใส่ตัวครับและหาโมหะของท่านด้วยครับ....แต่ด้วยพระคุณของพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อฤาษีนะครับผมไม่เคยพบเคยเจอท่านเลยแต่ผมมาอ่านธรรมและบรรดาเหล่าลูกศิษย์ลุกหาที่รวบรวมไว้บางอย่างก็ยังไม่ชัดในเรื่องณานสมาบัติในขั้นสูงๆขึ้นไป....บางอย่างก็ไม่ชัดในด้านแนวคิดไม่มีที่ยึดเกี่ยวแน่นอนตายตัว...ผมก็หาครับเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและเหล่าสหายธรรมทุกท่าน....ผมหาคนเก่งๆนะครับที่จะมาช่วยกันเอาความกระจ่างออกมาตีแผ่...โดยผ่าตรงกลางหมากนะครับหากท่านโมโหแล้วตีผมหมอบ...ผมผิดผมก็ขอโทษท่านยอมรับใช้ละครับ....หากท่านออกมาอธิบายธรรมกับเหล่าสหายธรรมที่เดินตามหลัง....เพราะท่านย่อมมีคุณธรรมน้ำใจนัก...คือมีพรมห์วิหารสี่ครบ...ผมยอมให้ท่านเหยียบเลยครับ....หากพวกท่านไปปรมัต...หรือมีความเข้าใจในเรื่องต่างๆมากยิ่งขึ้นที่จะมาช่วยกันจรรโลงพระศาสนา....แต่หากท่านเหยียบผมจมแล้วบี้ให้เละแล้วไม่อภัยให้...ผมก็ไม่ว่าละครับ...เพราะผมหาอยู่จึงไปผ่าหมากทุกๆท่านที่ผ่านทางมา...ต้องขอกราบขออภัยอีกเช่นกันครับ.....และคำกล่าวตรงนี้ก็เหมือนดังท่านได้อธิบายไว้แล้วข้างต้นนะครับ....คือฌานสมาบัติแปดคือของจริงนี่งเป็นใบ้...ช่วยกระผมด้วยครับบางอย่างไม่กระจ่าง...เรียนแล้วต้องรู้ครับ...หากผมไม่รู้ผมจะไม่รู้เฉยๆแน่นอน....ผมต้องรู้ก่อนแล้วผมจะเฉยๆครับ....พระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์ปราโมทท่านกล่าวไว้เช่นนั้น....หากไปล่วงเกินท่านทั้งวจีกรรมมโนกรรม..กายกรรม...ขอท่านโปรดกรูณานะครับที่โปรดอภัยแก่กระผมด้วย...ตอนนี้วิธีคิดของผมชักเข้าท่าแล้วครับ....คนออกมาเหยียบผมจมอื้อเลย....กราบขอบพระคุณครับ...ผมยังไม่เจอระดับปรมาจารย์ที่แต้มสะสมเท่าท่านขนาดนี้ออกมาจากสำนักมาก่อน...ยอมเจ็บตัวครับ...เจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...