การกระทำทางจิต(ได้ผลมากๆแค่สองวันเอง)

เรื่องมันผ่านมาได้สองวันได้นะครับ ผมอ่านหนังสือเรื่องอำนาจแห่งเจตนารมณ์ที่เค้าเขียนประมาณว่าความรู้สึกเราสามารถสื่อถึงกันได้น่ะครับ จากนั้นผมก็เริ่มเลย เริ่มจากตอนกลางดึกก่อนโทรไปหารุ่นพี่คนสวยที่มหาลัยที่ผมจีบอยู่ก่อนจะโทรไปผมก็ใส่ความรู้สึกดีอันเป็นห่วงเป็นไยเข้าไปอย่างรุนแรงๆ
แล้วผลมันก็เหลื่อเชื่อมากๆๆๆ อ่ะครับ พี่เค้าคุยกับผมดีมากเลย ทุกทีเวลาผมจีบเค้าผมจะชวนพี่เค้าคุยพี่เค้าก็ทำเป็นไม่ว่างบ้างรีบวางบ้าง แต่คราวนี้มาแปลกครับ เธอชวนผมคุยไปเรื่อยเลยจนผมเขินแล้วต้องเป็นฝ่ายวางเอง

 

จากนั้นพอวันรุ่งขึ้นผมก็ไปมหาลัยต่อครับ ผมก็เริ่มงานของผมทั้งวันเลย คือการใส่ความรู้สึกดีอันเป็นห่วงเป็นไยและหวังดีต่อทุกๆคนที่ผมเดินผ่าน ผลปรากฏว่าพอมานั่งอยู่ในห้องซึ่งวิชานั้นผมเรียนคนเดียว เพื่อนกลุ่มข้างๆก็ชวนคุยกับผมใหญ่เลย แล้วต่อจากนั้นนะครับ พอเพื่อนอีกกลุ่มนึงมานั่งใกล้ๆผมอีกทีนี้ก็มีเธอคนนึงยืมงานผมไปทำที่บ้านซึ่งเค้าพูดกับเราดีมากๆ ซึ่งเท่าที่เห็นเธอคนนี้ค่อนข้างจะปากเก่งจะขี้บ่นกับคนอื่นเลยทีเดียว
จากนั้นช่วงบ่ายผมก็ไปเรียนต่อครับ โดยจะใส่ความรู้สึกรักอย่างมากที่สุดต่อทุกๆคนที่เดินผ่าน

 

ต่อมานะครับพอช่วงบ่ายผมเข้าเรียน เรียนไปเรียนมาสักพักนึงผมก็ใส่ความรู้สึกไปหาทุกๆคนด้วยความหวังดีไปเรื่อยๆ รู้มั้ยครับผลปรากฏก็คือเพื่อนคนที่ไม่ชอบผมเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเค้าเข้ามานั่งติดผมเลย หรือว่าความรู้สึกมันสื่อกันได้จริงๆนะ
แล้วพอช่วงเดินกลับจากเลิกเรียนผมก็ยังคงส่งความรู้สึกนั้นไว้ตลอดเวลา ปรากฏว่าเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทชวนผมนั่งกินเป๊บซี่เป็นเพื่อนแล้วเค้าเลี้ยงผมอีกต่างหาก ผมก็อึ้งๆๆๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงติด ตกลงนี่คือความบังเอิญหรือความรู้สึกสามารถสื่อถึงกันได้จริงๆนะ

 

คือผมมีเรื่องจะแนะนำนะครับ เวลาคุณเข้าไปหาคนรอบข้างหรือเข้าไปหาใครก็ตาม(หรืออาจจะเวลาโพสกระทู้)คุณลองใส่ความรู้สึกปรารถนาให้ผู้อื่นได้ดีอย่างดีที่สุดดูสิ ไม่แน่เรื่องดีๆและความสัมพันธ์ดีๆอาจจะเกิดขึ้นได้ก็ได้นะครับ
อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เวลาเรารู้สึกดีกับผู้อื่นผู้อื่นจะสัมผัสความรู้สึกนั้นและอยากเข้าใกล้เรา
อาจจะเป็นไปได้ที่เวลาเราเครียดโกรธอ้างว้าง วิตกกังวล อาฆาตแค้น คนรอบข้างมักมากวนประสาทกับเรา หรือทำไม่ดีใส่เรา

และก็แนะนำหนังสือที่ทำให้ผมคิดเรื่องนี้ได้ด้วยนะครับ ชื่อเรื่องว่า อำนาจแห่งเจตนารมณ์
ชื่อภาษาอังกฤษว่า the power of intention ของ ดร. เวย์น ไดเออร์

 

เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิตประจำวันมากครับ
ขอบคุณครับ...

 

เรื่องนี้แน่อยู่แล้วครับ เหมือนแผ่เมตตาครับ ทีนี้ลองสังเกตุคนที่ทะเลาะด้วยดูครับ
สังเกตุดูมันจะมีพลังโจมตีบางอย่างพุ่งเข้ามา รังสีอำมะหิต ทำให้อึดอัดไม่สบายใจ
บางทีสวมพระเครื่องป้องกันอยู่ก็จะไม่รู้ ไม่รู้ในหนังสือมีวิธีสะท้อนพลังร้ายๆยังไง

สังเกตุนักการเมืองที่โดนสาปแช่ง เคยแข็งแรงทำไมกลับมาเป็นมะเร็ง

 

ดีจังค่ะ จะลองทำดูนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

คุณเงินทองเต็มบ้าน ถ้ามีเหลือกินเหลือใช้ ก็เอามาเจียดๆให้กับผู้ยากไร้ ผู้น่าสงสารแถวๆ นี้บ้างเน้อ .. อิอิ

 

อืมอันนี้จริงนะครับ อย่างงี้การเป็นคนดังก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยอ่ะครับเวลาเจอข่าวไม่ดี ถึงจะมีคนมาพูดต่อหน้าแค่ไม่กี่คนแต่คนส่งรังสีด่าทอมาทั้งประเทศ
-*-

 

...ภายในใจคุณลึกๆ
มีเจตนารมณ์ที่แท้ซ่อนอยู่ เป็นภาคความปรารถนาที่จะเป็นคนที่ดีงาม มีความรัก
มีใจที่เมตตากรุณาอยากแสดงออกถึงความสร้างสรรค์ ความใจกว้าง
คุณปรารถนาที่จะมั่งมีศรีสุขและประสบคามสำเร็จทางธุรกิจด้วยหลักคุณธรรม
แท้จริงคุณอยากช่วยคนอื่นและไม่ต้องการทำร้ายใครเลย
คุณอยากให้โลกนี้สวยงามและน่าอยู่เพื่อสันติสุขทั้งภายในใจคุณและโลกภายนอก
คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เมื่อคุณเริ่มเข้าไปติดต่อกับตัวตนภายในของคุณใหม่อีกครั้งให้มั่นคง
คุณจะรู้สึกปีติและสุขใจที่ได้ใช้ชีวิตไปตามจุดมุ่งหมายของคุณ...(จากปกหลัง)​

 

อ้อ มันมีเรื่องกฎแห่งกรรมมาเกี่ยวด้วยครับ ต้องมีกรรมเกี่ยวกัน เช่นติดหนี้ ทวงนี้(เงิน)
พูดให้เสียใจแบบเสียดสี ถ้าไม่มีเหตุผลหรือกำลังความคิดจิตคนแช่งไม่แข็งแรงการแช่งมันก็ไม่เป็นผลหรอกครับ

อย่างเช่นแช่งว่าขอให้นักการเมืองชื่อ...โกงบ้านกินเมืองมันวิบัติ แล้วที่จริงเค้าสุจริต
คำแช่งก็ไม่เป็นผล

มันมีวิธีที่จะทำให้อกุศลจิตนั้นไม่เกิดผล สะท้อนกลับไปอย่างเช่นพระเครื่องแขวนตรงตำแหน่งลิ้นปี่

และคนแช่งก็ได้รับผลนั้นสกปรกในจิตตัวเอง

วันก่อนผมต่อว่ารุ่นน้องไป บรรยากาศในออฟฟิศ คุกรุ่นเลย เราเป็นรุ่นพี่แท้ๆด่าในเรื่องงาน ที่เค้าพลาด(คือถูกหน้าที่) แต่ความคิดเค้าแรง คงจะคิดซ้ำๆไปๆมาๆเสียใจโกรธ
มันแรงจนผมเดินเซเลย อึดอัดไปเลย
วันรุ่งขึ้นก็ไปชวนคุยเล่น สักพัก พลังกดดันนี้มันก็คลี่คลายเอง
อย่างพวกช็อตเงินนี่ก็เครียด กระจายพลังไปกระทบคนอื่นด้วย

แช่งกันไม่ดีหรอกครับ
คนที่ทำเลวก็ได้รับผลจากการทำเลวด้วยกรรมของตัวเองอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ

 

อืมยังดีนะครับเนี่ยที่ปรับความเข้าใจกันได้ โดยส่วนตัวผมก็กำลังเปลี่ยนความคิดอยู่เหมือนกันแหละคิดว่าถ้าใครทำตัวไม่ดีหรือไม่เข้าตาผมน่ะผมไม่ว่าเค้าแต่พยายามพูดกับเค้าดีๆน่าจะดีกว่าน่ะครับ เพราะยิ่งเราไปว่าเค้าๆก็พยายามจะเรียกร้องอิสรภาพระเบิดความรู้สึกไม่ดีใส่กันเปล่าๆ

 

เป็นหลักการแผ่เมตตาหรือเปล่าครับ....แบบว่าแผ่ไม่มีประมาณอย่างนั้นนะ.....ดีครับ....น่าสนใจ....นำไปใช้....

 

เงินเต็มบ้าน ..เอามาเก็บบ้านผมก็ได้นะ

 

ดีใจด้วย ครับ
ที่ ได้ผลดี

 

น่าสนใจค่ะ

ว่าจะลองไปหาซื้อมาอ่านบ้าง

ชอบแนวนี้อยู่แล้ว

POSITIVE THINKING