ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 18 ธันวาคม 2008.

  1. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659

    โมทนาด้วยครับผม

    สงสัยเลข 2 จัง ต้องมีอะไรแน่ๆ เลย
     
  2. นู๋เจี๊ยบ

    นู๋เจี๊ยบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +24
    โ ม ท น า ด้ ว ย ค่ ะ
     
  3. นู๋เจี๊ยบ

    นู๋เจี๊ยบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +24

    ขอบคุณมากค่ะคุณกฤษ ที่นำบุญมาฝาก ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ (สถานปฏิบัติธรรมภูริทัตตะ (แม่จันทา ฤกษ์ยาม)อยู่ที่ไหนค่ะ เคยอ่านหนังสืออ่านก่อนตายของท่านค่ะ )
     
  4. นู๋เจี๊ยบ

    นู๋เจี๊ยบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +24
    คุณธีร์ เจี๊ยบอยากไปจังค่ะ.. อย่าลืมชวนนะ
     
  5. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ร้อยเอ็ดครับตอนนี้ถนนดีแล้วเมื่อก่อนทางไปเหมือนทางเข้าก่อนไปบึงเลย

     
  6. LittleNon

    LittleNon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +662

    พี่หญิงครับ
    เห็นว่าจะเตรียมทองคำเปลว อยากรู้ว่าเป็นทองแท้ (ไม่แพ้ไฟ) หรือเปล่าครับ
    ถ้าอยากฝากซื้อสักเล็กน้อย แบบว่าอยากมีไว้ แปะ ส่วนตัว จะได้ไหมครับ
    ว่าแต่ราคาสักเท่าไรหรอครับ ...
     
  7. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,933
    อ้าว! เมื่อเช้าเข้ามา ปุ่มกดอนุโมทนายังมี แต่เข้ามาอีกทีตอนนี้หายไปแล้ว

    ขออนุโมทนากับคุณกฤศ คุณกิ๊ก และกัลยาณมิตรทุกท่าน ทุกผู้ ทุกนามด้วยค่ะ

    ตอนนี้ปฎิทินทริปธรรมสัญจรต่างๆ ของชาวคณะจะรวมอยู่ในหน้าที่ ๑ คคห.ที่ ๑ กัลยาณมิตรท่านใดอยากจะทราบว่า ในแต่ละเดือนกิจกรรมของชาวคณะฯ มีอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปเปิดอ่านได้ ใครสดวกไปทริปไหนอย่างไรก็เตรียมตัว เตรียมร่างกาย เตรียมเก็บเงินไว้ล่วงหน้าได้เลย และถ้าภายในเดือนไหนมีรายการทริปเพิ่มเติม หญิงจะอัพเดทข้อมูลให้ทราบกันตลอดค่ะ




    จะเป็นทองคำแท้ค่ะน้องนนท์ พี่ไปซื้อที่ร้านแถวเสาชิงช้า ราคาจะตกประมาณแผ่นละ ๕-๖ บาท แล้วแต่ว่าซื้อปริมาณมากหรือน้อย และซื้อตอนช่วงทองคำขึ้นราคาหรือเปล่า ถ้าช่วงราคาทองขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นอีกนิดหน่อยค่ะ เอาอย่างนี้นะคะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้ พี่ต้องไปเตรียมซื้อของหลายอย่าง รวมทั้งสั่งทำพานบายศรี สำหรับที่ต้องใช้ภายในทริปเขาคิชฌกูำฎ พี่จะโทรแจ้งราคาน้องนนท์ก่อน แล้วน้องนนท์ต้องการกี่แผ่น พี่จะซื้อมาเผื่อให้ สำหรับให้น้องนนท์เอาไว้ใช้ "แปะ" ส่วนตัว แต่แผ่นทองฯ ที่จะใช้ในทริปนี้ พี่จะจัดเตรียมให้กับสมาชิกทุกคนอยู่แล้วค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2009
  8. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,933
    คำสอนดีๆ ของหลวงพ่อฤาษี จากน้องธีร์

    ... ได้รับเมล์ดีๆ จากน้องธีร์ อ่านแล้วเห็นว่าดีมาก เลยต้องขออนุญาตนำมาวางในกระทู้นี้ให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้อ่านร่วมกัน ท่านใดที่เคยอ่านมาแล้วก็ขอให้อ่านอีกสักครั้ง ส่วนท่านใดที่ยังไม่เคยได้อ่าน ก็ขอให้อ่านในคราวเดียวกัน อานิิสงส์จากการเผยแพร่ธรรมะนี้ ขอให้น้องธีร์เป็นผู้รับแทนชาวคณะฯ ทั้งหมดค่ะ

    องค์สมเด็จพระสวัสดิโสภาคย์ พระพุทธกัสปะพระพุทธเจ้า
    ได้ตรัสให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่<wbr>อพระราชพรหมยาน
    บันทึกเสียงบอกบรรดาลูกศิษย์ลู<wbr>กหาลูกหลานทั้งหลาย ให้ตั้งใจไว้อย่างที่ฉันพูดนะ
    คนไหนตั้งใจจะไปพระนิพพาน ก็เป็นของไม่ยาก ให้คิดเพียงคืนละ 10 นาที ดังนี้ว่า

    “โลกนี้ทั้งหมดไม่มีอะไรที่<wbr>เรารักเราชอบ เพราะเต็มไปด้วยความทุกข์<wbr>ยากทรมาน
    ใคร่ครวญหาความจริงในโลก จะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิ<wbr>ตก็ตาม
    มันมีสภาพคงตัวได้ตลอดกาลหรื<wbr>อไม่ ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลงสลายตัว
    ก็ถือว่าโลกทั้งโลกหาความดีไม่<wbr>ได้ แล้วก็หันเข้ามาคิดถึงกายของตั<wbr>วว่า
    กายของเรามันยังจะตาย ยังจะพัง เรายังปรารถนาอะไรภายนอกอีก
    เราไม่ต้องการทุกสิ่งทุกอย่<wbr>างในโลก เราจะไปพระนิพพานแดนไม่ตาย
    เป็นสุขตลอดกาล ที่พระพุทธองค์ไปอยู่แดนพระนิ<wbr>พพานนั้น”




    พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    กราบทูลถามองค์สมเด็จพระพิชิ<wbr>ตมาร ที่พระจุฬามณี ชั้นดาวดึงส์ว่า
    คนที่ปฏิบัติเพื่อพระนิ<wbr>พพานจะใคร่ครวญอย่างไรจึงจะง่<wbr>ายที่สุด สั้นที่สุดพระพุทธเจ้าข้า ?
    เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้ จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย
    ทรัพย์สินก็ไม่มี ญาติ เพื่อน ลูก หลาน เหลน ก็ไม่มี
    เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามี<wbr>สภาพพังหมด
    เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่
    เมื่อสิ้นภาระแล้ว คือ ร่างกายพังแล้ว เราจะไปนิพพาน
    เมื่อความป่วยไข้ปรากฏ จงดีใจว่าภาวะที่เราจะมี<wbr>โอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึงแล้ว
    เราสิ้นทุกข์แล้ว ร่างกายเป็นเพียงเศษธุลี ที่เหม็นเน่า
    มีความสกปรกโสโครก ทรุดโทรม เดินไปหาความเสื่อม แตกสลายทุกขณะ
    คิดไว้อย่างนี้ทุกวัน จิตจะชิน จะเห็นเหตุผล
    เมื่อตาย อารมณ์จะสบาย แล้วจะเข้าสู่พระนิพพานได้ทันที




    คำอุทิศส่วนกุศล
    พระเดชพระคุณหลวงพ่<wbr>อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    อิทังปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้<wbr>บำเพ็ญแล้ว
    ณ โอกาสนี้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้<wbr>ากรรมนายเวร
    ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้<wbr>งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้
    ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้<wbr>งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปั<wbr>กรักษาข้าพเจ้า
    และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช
    ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้
    ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุ<wbr>ศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว
    ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี
    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุ<wbr>ศลนี้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกัน




    คาถาเงินล้าน
    พระเดชพระคุณหลวงพ่<wbr>อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ตั้งนะโม ๓ จบ) สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม พรหมมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

    พรหมมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม

    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
    มิเตพาหุหะติ
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

    สัมปติจฉามิ
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ
    (บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)




    คำขอขมาพระรัตนตรัย
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
    หากข้าพระพุทธเจ้าได้<wbr>ประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย <wbr> อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี <wbr> และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้<wbr>าทุก ๆ พระองค์ <wbr> พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม <wbr> พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน <wbr> <wbr> ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุ<wbr>ทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป <wbr> ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้<wbr>วยเทอญ
     
  9. LittleNon

    LittleNon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +662
    พี่หญิงครับ
    วันนี้ผมโอนเงินไป 2,000 บาท
    อยากรบกวนพี่ฝากซื้อ "ทอง" สัก 500 บาทครับ
    เอาเท่าที่ซื้อได้สะดวกนะครับ
    นอกจากนั้นคงรบกวนพี่เป็นเงินทำบุญหรืออื่นใดตามสะดวกน่ะครับ

    สาธุ ขออนุโมทนาในธรรมทานของท่านผู้อาวุโสครับ...
     
  10. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
     
  11. raiderman

    raiderman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +109
     
  12. กาลกตา

    กาลกตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +424
    น้องนู๋เจี๊ยบไม่เห็นเล่าเรื่องพญานาคลูกชายบ้างเลยครับ ว่าเป็นยังไงบ้าง...



    ตอนเย็นวันเสาร์ผมได้เข้าไปบ้านอนุเสาวรีย์ หลังจากนั่งกรรมฐานกันก่อนจะกลับบ้าน
    พระอาจารย์ท่านเตือนว่า ให้บูชาพระก่อนนอนด้วย ไม่รู้ว่าใครโดนบ้าง
    แต่ผมเองก็สะดุ้งโหยง เพราะว่าตั้งแต่กลับจากบึงมา
    ก็เกิดความรู้สึกว่าเรามันเลวเหลือเกิน แย่กว่าใครๆ เขา
    ก็เลยไม่ได้ไหว้พระก่อนนอนเลย ท่านเตือนมาก็เลยมานั่งสำนึกว่า
    ถ้ายังจะให้ท่านคอยเตือนบ่อยๆในเรื่องทั่วไปแบบนี้ มันก็คงจะไม่ดีแน่....
    ก็จะตั้งใจใหม่ อะไรที่ท่านสั่งก็จะพยายามทำให้ได้ให้ครบตามที่ท่านสั่ง
    จะไปนึกว่าคนโน้นดีจริง คนนั้นดีจัง มันก็ไม่มีประโยชน์
    ถึงของเราจะมีน้อย (พระอาจารย์ท่านใช้คำว่า "มีน้อยจนน่าสมเพช" หง่ะ! หงิงๆๆๆ )
    เราก็ต้องพยายามรักษาเอาไว้และพยายามทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก
    ดีกว่าจะนั่งปล่อยให้ความเลวมันท่วมหัว สุดท้ายก็มีนรกเป็นปลายทาง



    เลยมานั่งคิดว่า เราคิดจะรูปที่ไปวัดถ้ำเขาบุนนาคมาลง ก็ยังไม่ได้ทำซะที
    เลยรีบมาทำดีกว่า (นี่ขนาดรีบแล้วนะ ยังข้ามมาอีกสองวัน)
    และก็จะเอาเอาประวัติตอนหนึ่งของหลวงปู่สีที่ พ.ต.อ. อรรณพ กอวัฒนา
    ท่านได้เล่าไว้ในหนังสือ "อิทธิฤทธิ์หรือความบังเอิญของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ"มาลงไว้
    เนื่องจากว่าเป็นเรื่องที่หลวงปู่ท่านเมตตาสอนเรื่องความละเอียดรอบคอบ
    กับการปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์ไว้เป็นอย่างดี

    ( ถ้าซ้ำก็ขอโทษละกันครับ )


    ...ต่อมาเมื่อใกล้จะถึงกำหนดวันงานสมโภชครบรอบ ๑๐๐ ปีเกิดของหลวงปู่ปานฯ ท่านเจ้าคุณศุภมัสสุ หรือพระอาจารย์เหม่ฯได้แจ้งให้ผมทราบว่าหลวงพ่อฯตามหาผม จะให้ไปหาหลวงปู่สีฯเพื่อนำสังฆาฎิไปแลกแล้วนำมาแจกจ่ายในงานตามโครงการของผม ทีแรกผมก็อุ่นใจเพราะคิดว่าหลวงพ่อฯจะนำไป ที่ไหนได้พอหลวงพ่อฯบอกว่าท่านไม่ไปจะให้ผมไปเอง ผมก็ร้องจ๊ากเลยครับ...นึกในใจว่าเวรกรรมของไอ้เป๋ฯไม่มีทางสำเร็จหร๊อก! แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ให้คุณป้านนทาฯ เลือกสังฆาฏิใหม่ให้ ๑ ผืน ก้มหน้างุดๆ
    ออกมาชวนสมัครพรรคพวกกลุ่มทหารอากาศไปกันหลายคน ก็หวังพึ่งพิงพวกพี่ๆ เขานี่แหละครับ บอกตรงๆ ดุ่ยเด่ไปคนเดียวใครจะกล้า อุ่นใจว่าพวกพี่เขาเคยไปนมัสการอยู่บ่อยครั้ง ส่วนผมนั้นไม่เคยไปเลย จำได้ว่ามีน้องๆ ไปช่วยเชียร์กันหลายคน รุ่นเดอะที่ไปช่วยลุ้นก็มีแม่นิดฯกับพระอาจารย์เหม่ฯ พอถึงวัดก็ตรงรี่เข้าไปที่กุฎีของหลวงปู่สีฯ หลวงพี่ฯ(พระองค์ที่คุ้นเคยกับพวกเราที่เป็นทหารอากาศและดูแลหลวงปู่ฯอยู่) ก็ออกมาต้อนรับ และแจ้งให้พวกเราทราบว่า


    "คอยประเดี๋ยวนะครับ ท่านกำลังฟังวิทยุอยู่ ต้องรอให้ท่านฟังให้เสร็จเสียก่อน จึงจะเข้าไปพบและนมัสการได้"


    เออก็ดีเหมือนกัน ผมคิดในใจพอมีเวลาตั้งตัว คิดดังนั้นแล้วผมจึงได้เร่เข้าไปเจรจากับหลวงพี่ฯ เป็นการหยั่งเชิงไปก่อนว่าที่มานี้มีความประสงค์อย่างไร หลวงพี่ฯก็ให้กำลังใจว่าคงจะสำเร็จ แต่เดี๋ยวเมื่อคุณได้พบแล้วก็ให้เรียนขอกับท่านเอาเองก็แล้วกัน ทางนี้(หมายถึงระดับลูกศิษย์เท่านั้น) ได้ทราบเลาๆแล้วถึงความประสงค์ แต่ไม่มีใครบอกกับหลวงปู่ฯหรอก ไม่มีใครกล้า ต้องขอเอง อ้าว แล้วกัน หลวงพี่ฯ ขนาดหลวงพี่ฯอยู่กับท่านแล้วยังไม่กล้าบอกท่านก่อน แล้วอย่างผมที่ไม่รู้จักกับท่านมาก่อนเลยจะทำยังไงนี่ ใจตุ๊มๆต่อมๆ แล้วผมขอสารภาพอีกว่าสำหรับองค์อื่นๆแล้วผมชัวร์ป้าบเลยครับว่าสำเร็จ แต่หลวงปู่สีฯนี่ ไม่ป๊าดไม่ปู๊ดเลยครับ ทำท่าจะเป๋งลูกเดียว หาข่าวมาแล้วก็รู้สึกสำนึกเลยครับว่า ถูกต้มไม่มีใครนำทางหรือนำร่องให้มาก่อนเลย พี่สายฯนะพี่สายฯผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นอยู่ในใจเป็นทหารอากาศแท้ๆ แต่ดันพาผมมาปล่อยเกาะ ถ้าเป็นทหารเรือจะไม่ต่อว่ากันเลย ผมเข้าไปซักถามพวกเราที่เป็นทหารอากาศเพื่อความแน่ใจอีกครั้งได้ความว่าไม่มีใครกล้ามาบอกฯหลวงปู่ฯไว้ก่อน เวรนะเวรไม่น่าหลอกกัน ก็เมื่อตอนก่อนจะมาผมถามแล้วก็พูดเสียแข็งขันว่าสบายมาก ผมก็นึกว่ามีผู้เก่งกล้าอาสารับภาระมาขอให้เรียบร้อยแล้วจึงเตรียมกายเตรียมใจแค่วางมาดเข้ามารับของที่ต้องการแล้วก็กลับได้ หนอยแน่ ก็แค่มากราบเรียนให้หลวงพี่ฯทราบเท่านั้น ส่วนหลวงปู่ฯไม่มีใครมาบอกไว้ก่อนเลย เอาไงดีวะ ผมคิดในใจแล้วทำเถลไถลกลบเกลื่อนความไซ้ต์ใน เดินออกไปชมเครื่องรางของขลังที่ตู้กระจกที่ชานหน้ากุฎี ทำไก๋เช่ารูปหล่อเหมือนหลวงปู่ฯ มา ๑ องค์ หูก็แว่วๆ ได้ยินเสียงเพลงอีสานอยู่ในห้องของหลวงปู่ฯ คิดปลอบใจตนเองว่า เฮ้อ! พระองค์นี้คงไม่เท่าไหร่หรอก ยังติดฟังเพลงอยู่นี่คงไม่มีอะไรหรอกน่า ผิว... ไม่ได้ก็ไม่เอา แน่ะ อวดดีอีกเอ้า เออ เสียงเพลงจบลงแล้วได้พบเสียทีจะได้เสร็จๆ ข้างหลวงพี่ฯ กุลีกุจอกระวีกระวาดไปลาดเลา เอาหูแนบประตูกุฎีกระแอมกระไอแล้วร้องบอกขออนุญาตให้ได้เข้าไปนมัสการ แล้วหลวงพี่ฯเองก็ผลุบเข้าประตูไป ไม่ถึงอึดใจประตูก็เปิดออกมา พวกเราก็ถลาเข้าไปกราบนมัสการ เห็นท่านนั่งชันเข่าอยุ่ข้างหนึ่ง นุ่งสบงอยู่ตัวเดียวหน้าตาบึ้งตึงชนิดที่ว่า ไม่ว่าไทย ไม่ว่าฝรั่งไม่รับทั้งนั้น อย่าว่าแต่แขกเลยครับ ผมเข้าไปกราบแล้วถอยปรู๊ดออกมาหลบอยู่ข้างหลังแม่นิดฯ ภาวนาพุทโธๆ ขอให้หลวงพ่อฯช่วย หลวงพ่อฯ ค ะ ร๊ า บ ช่วยด้วยช่วยที นี่พระหรือเสือขอรับ นัยน์ตาลุกวาวขมึงทึงทีเดียวเจียวแหละ
    พวกเราทุกคนนั่งกันเงียบกริ๊บเลยครับ ฝ่ายหลวงปู่ฯก็ออกงิ้วเลยครับ ตวาดแว้ดมาด้วยเสียงอันดัง


    "พวกมึงมาทำไมหืมม.... โน่นข้างนอกโน่น จะมาเอาวัตถุก็ไปเอาข้างนอก เขาหล่อรูปกูเอาไว้ขายเยอะ อย่างอื่นก็มี ไปไป๊ออกไปข้างนอก
    พาไปข้างนอก ธรรมะไม่เอานี่ ลูกศิษย์ใครกัน "

    พูดจบก็โบกมือสั่งให้หลวงพี่ฯ ปิดประตูหลังจากโบกมือไล่พวกเราแล้วก็หันหลังให้ นั่งเฉยอยู่อย่างนั้นไม่พูดไม่จา พวกเราตะลึง เสร็จ เสร็จ เสร็จแน่ เริ่มต้นบรรยากาศก็แปรปรวนล้วนสลดแลสยดสยอง หลวงพี่ฯเข้าไปกราบเรียนอ้อนวอนว่าเป็นคณะศิษย์ของหลวงพ่อฯ มีธุระนำข่าวมาจากหลวงพ่อฯ ท่านจึงได้หันกลับมาอีกทีอย่างเสียไม่ได้ ตวาดเอ็ดอึงต่อไปว่า


    "ที่เฮาฟังอยู่นี่ บ่แม่นเพลง เป็นแหล่เทศน์ เคยฟังบ๋อ ฮื่อ"
    ตอนท้ายยังทำเสียงฮื่อออกทางจมูกเหมือนกับแสดงความสมเพช จากนั้นก็ยังดุยังบ่นพึมพำดังบ้างค่อยบ้างต่อไปอีกหลายกระบุงโกย ( เป็นภาษาอีสาน ) แต่ผมไม่รับฟังแล้วภาวนาพุทโธอย่างเดียว จิตจับอยู่ที่หลวงพ่อฯและขอบารมีหลวงพ่อฯให้ช่วยด้วยลูกเดียว อะไรๆ ที่ได้ล่วงเกินไปนั้นลูกช้างมันโง่ กราบขออภัยให้ไอ้ลูกหมา ( เอ๊ย ไอ้หมาลูกคน ) ด้วยเถิดคะร้าบ ไอ๊หยา! น่ากลัวจินๆ เสียงดุค่อยๆ เบาลงๆ จนเงียบแต่ผมก็ไม่ยอมลืมตา ใช้วิธีส่งกระแสจิตอย่างเดียวเท่านั้น รับได้หรือไม่ได้ไม่รู้ แว่วได้ยินเสียงแม่นิดฯ เจรจากับหลวงปู่ฯว่าหลวงพ่อฯให้เอาสังฆาฏิมาแลกแล้วก็เงียบไป สักพักแม่นิดฯสะกิดบอกว่าหลวงปู่ฯเรียก จึงค่อยๆลืมตาขึ้น โอ๋ยโย่ เค้าเป๋ ลุจังโลย ซี้แหงเลี้ยว ท่านจ้องหน้าผมเป๋ง ผมหลับหูหลับตาคลานเข้าไปกราบแล้วพูดโดยไม่ยอมมองหน้าท่านว่า


    "หลวงพ่อฤาษีฯให้เอาสังฆาฏิมาแลกครับ"

    ท่านก็รับสังฆาฏิที่ผมประเคนไปอย่างเสียไม่ได้ไม่เต็มใจเอาเสียเลย แล้วเอาไปคลี่ออก เอาศอกทาบตามความยาววัดไปทีละศอกๆ จนหมดความยาวของสังฆาฏิแล้วร้อง


    "เช๊อะ! ไม่ได้เรื่อง" พลางโยนสังฆาฏิผืนนั้นลงกับพื้นอย่างไม่แยแส ดุเกรี้ยวกราดโขมงโฉงเฉงต่อไปอีก


    "คนสมัยนี้มันแย่ สังฆาฏิพระวินัยให้ยาว ๘ ศอก นี่ยาวเท่าไรเหอ" แล้วท่านก็เอานิ้วจิ้มๆ ลงไปที่สังฆาฏิ ผมสั่นหัวตอบในใจว่า ไม่ทราบครับ ตอนที่ท่านเอาศอกวัดก็ไม่ได้ดู จึงไม่ทราบว่าสั้นหรือยาวเกินไป ตอนเอามาก็ไม่ได้พิถีพิถันจริงๆครับ ยอมรับผิดว่าชุ่ย เบิกมาจากคุณป้านนทาฯแล้วก็แล้วกันไป ไม่นึกว่าจะละเอียดกันขนาดนี้ หลวงปู่ฯเห็นผมไม่พูด ก็เอาสังฆาฏิไปวัดให้ดูอีก อ้อ! ขาดไปหน่อย ผมคิดในใจ


    "แล้วจะเอายังไง" หลวงปู่ฯเค้นถามเสียงเครียด ท่าทางยังเหมือนกับอยากจะกินลาบเลือดและไม่ยอดลดราวาศอกให้เลย


    "ผมขออนุญาตเอาไปเปลี่ยนใหม่ก็แล้วกันครับ"
    ผมอึกๆอักๆ อยู่นานกว่าจะพูดออกไปได้ แล้วทำท่าจะหยิบเอาคืนมาแต่หลวงปู่ฯท่านกลับเอามือกดผ้าไว้กับพื้นเฉยเสียยังงั้นแหละ ผมจึงหดอีก ความอึดอัดใจที่ไดัรับทำให้เกิดความรู้สึกว่านานเหมือนโกฏิปีเชียวครับ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาบุนนาค อยู่ใกล้ป่าใกล้ภูเขาอากาศออกจะเย็นๆ แต่ผมร้อนจี๋เลยครับ เหงื่องี้ออกแฉะทั้งตัว หลวงพี่ฯถลาเข้ามาช่วย


    "ให้โยมเขาแลกไปเถิดครับ เขาจะเอาไปให้คนทำบุญ" ท่านช่วยตะโกนอ้อนวอน แต่หลวงปู่ฯโบกมือห้ามแล้วก้มลงพูดเบาๆ กับผม

    "นี่โยม สังฆาฏิต้องยาว ๘ ศอกนะจำไว้นะ"
    เอ๊ะ ผมหูฝาดหรืออย่างไร ทำไมเสียงหลวงปู่ฯจึงกลับนิ่มนวลอะไรจะปานนั้น ผมค่อยฯเงยหน้าขึ้นจากท่าที่ก้มกราบอยู่ เอามือแคะหูทั้งสองข้างอย่างไม่เชื่อมันและไม่เชื่อมั่นหวาดระแวงเต็มที่เลย เอาไงนี่


    "เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ลูกศิษย์มหาวีระฯต้องละเอียดต้องรอบคอบ จำเอาไว้ให้ดี"


    เสียงนุ่มนวลไม่มีแกมเหน่อลอยมาอีก ผมลุกพรวดขึ้นมานั่งพับเพียบพนมมือแต้เพื่อที่จะมองหลวงปู่ฯให้เต็มตา อะไรกันนี่ เสือกลายเป็นพระไปแล้วและกลายเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาเสียด้วย ไม่มีท่าทางที่แสนจะดุดันหลงเหลืออยู่ต่อไปอีกเลย กลับตาลปัตรไปแล้วเปลี่ยนบทไวยังกะวิกส์ ๐๗ แน่ะ หลวงพี่ฯได้โอกาสรีบตะโกนกราบเรียนเสียเสียงหลงทันที


    "อนุญาตให้โยมแลกไปนะหลวงปู่"

    "เออ พูดเบาๆ ก็ได้ยิน" หลวงปู่ฯบ่นตอบเบาๆ และสั้นๆนิ่มๆ พอให้ได้ยิน เมื่อได้ยินดังนั้น หลวงพี่ฯก็เผ่นผลุงไปที่ราวตากฟ้าตรงชานกุฏีทันที รวบเอาสังฆาฏิที่เราได้หมายตากันเอาไว้ก่อนหน้านั้นมาถวายทันที


    "ไม่ใช่ๆ เอาไปไว้ที่เก่า" หลวงปู่ฯโบกมือห้ามอีก ผมก็ใจหายแว้บอีก เปลี่ยนบทเป็นเสืออีกแล้วหรือไง โยมตามและตั้งตัวไม่ทันเลย หลวงพี่ฯก็หน้าซีดเผือด ทุกคนคิดว่ารายการพลิกล๊อกเกิดขึ้นอีกแล้ว ได้แต่ใจคอตุ๊มๆต่อมๆ ดูเหตุการณ์ต่อไป หลวงปู่ฯค่อยๆ ชันกาย ขึ้นยืนอย่างช้าๆ เดินกระย่องกระแย่งผ่านพวกเราเข้าไปในห้องนอนซึ่งอยู่ติดกัน ได้ยินเสียงรื้อของกุกๆกักๆ อยู่เป็นนานสองนานสลับกับเสียงกระแอมกระไอ ผมหันไปมองหน้าพวกเรา ทุกคนหน้าซีดจ๋อยเหมือนกันหมด แม่นิดฯที่ว่าผิวดำ หน้าขาวจ๋องไม่ต้องทาแป้งเลยครับ พวกเรากระซิบกระซาบกันเบาๆ ว่าไม่รู้หลวงปู่ฯเข้าไปทำอะไร จะกลับออกมาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ พักใหญ่หลวงปู่ฯก็กระย่องกระแย่งออกมา ถือห่อกระดาษเก่าๆ ออกมาด้วยกลับมานั่งท่าเดิมและที่เดิม วางห่อกระดาษลงพื้น แล้วค่อยๆ แก้เชือกห่อออกอย่างช้าๆ พวกเราต่างพากันกลั้นหายใจลุ้นกันโดยไม่รู้สึกตัวด้วยความที่อยากรู้ว่าข้างในเป็นอะไร เป็น"จีวรกับสบงและสังฆาฏิ"ครับ ครบชุดแต่เก่างั่กเลยครับ

    หลวงปู่ฯนำสังฆาฏิสีกลักแสนเก่าผืนนั้นออกมาคลี่ เอาศอกวัดให้ดูอีกครั้งเหมือนกับจะโชว์ให้ดู เพื่อยืนยันคำพูดของท่าน O.K.ครับ ๘ ศอกพอดี ( แต่ศอกของผมสั้นไปหน่อย ) ท่านมองค้อน เอามือลูบคลำอยู่พักหนึ่งแล้วนำสบงกับจีวรออกมาคลี่ให้ดูอีก ปรากฎว่าเป็นสบงกับจีวรที่ทำด้วยผ้าแพรไหมครับ ท่านเล่าอย่างอารมณ์ดีว่าของชุดนี้เศรษฐีจีนสั่งทำและถวายให้ท่านเมื่อท่านบวชได้พรรษาที่ ๔ และท่านได้เก็บไว้ตลอดจนนำติดตัวไปตลอดเวลา หันมาถามผมว่า


    "เอาไหม"
    "สุดแท้แต่หลวงปู่ฯ จะกรุณาเถิดครับ" ผมตอบเบาๆ
    "เอาไหม" ท่านถามย้ำอีก ผมเห็นว่าถ้าพูดให้เยิ่นเย้อต่อไป ต้องอดแน่ๆ จึงตอบไปอย่างม้าไร้พยศว่า
    "เอาครับ"
    "เออ เอาไป" หลวงปู่ฯก็ให้ง่ายๆ
    "แล้วนี่ เอาไหม" ท่านชี้มือไปที่สบงและจีวรแพรไหมนั้น
    "ไม่กล้าครับ" ผมตอบ
    "ทำไมไม่กล้า" หลวงปู่ฯแกล้งสงสัย
    "หลวงพ่อฯท่านใช้ให้มาเอาแต่สังฆาฏิเท่านั้นครับ หลวงปู่ฯจะแถมให้หรือครับ" ตอนนี้พอโล่งใจแล้ว ผมจึงเริ่มทะโมนตามนิสัยเดิม
    "ถ้าเอา ก็ให้" ท่านพูดแล้วก็ผลักออกมาให้ข้างหน้า
    "ไม่เอาละครับ หลวงพ่อฯสั่งมาแค่นี้" ผมกัดฟันตอบอย่างแสนเสียดาย ค่อยๆผลักคืนไปแต่อย่างว่าละครับ ไม่นอกครูไว้ก่อนเป็นดี
    "ไม่เอาก็เก็บ" ว่าแล้วหลวงปู่ฯก็บรรจงพับและห่อเข้าที่แล้วเดินกลับเอาไปเก็บไว้ในห้องตามเดิม เมื่อเสร็จจากการปราบพยศผมจนอยู่หมัดแล้ว หลวงปู่ฯจึงเลิกราแล้วเปิดโอกาสให้พวกเราเข้าไปอ้อนกันได้ตามสบาย ส่วนผมนั้นเก็บปากเข้ากระเป๋าแล้วรูดซิบ ๓ ชั้นฝังดินปิดครั่งเลยครับ ฟังอย่างเดียวไม่กล้าอ้อนไม่กล้าถาม ใจนั้นอยากกลับวัดท่าซุงฯลูกเดียว
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2009
  13. iamnunna

    iamnunna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +147
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขออนุญาตบอกบุญหน่อยนะค่ะ

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างหอระฆัง ทางวัดยังขาดทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก จึงขอเรียนเชิญสร้างบุญร่วมกัน เพื่อสร้างบุญบารมีให้ตัวท่าน และครอบครัวบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ บริวาร ชื่อเสียงคุณงามความดีกระจอนกระจายไปทั่วทุกทิศ และขอให้เป็นหนทางแห่งการรู้แจ้งเห็นจริง เข้าสู่พระนิพพานได้เร็วยิ่งขึ้นในไม่ช้าไม่นานนี้ด้วยกันทุกท่าน เทอญฯ

    ข้อมูลการการสร้างหอระฆัง :

    http://palungjit.org/showthrea...72#post1900972
     
  14. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    โมทนาคับเจ้.......
     
  15. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    สาธุ......อยากไปจังแหะ
     
  16. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    ขบวนการ claverman (มนุษย์ถ้ำอะ...) ออกปฏิบัติการแล้วจ๊ะ
     
  17. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    สงสัยงานนี้ไอ้เสือเม้งต้องฝากฝังไอ้เสือที่เหลือปฏิบัติหน้าที่แทนซะแล้ว
    เพราะติดดดดดด......ญ. เอ๊ย!ติดงานราชงานหลวงไปหมด.......เอิ๊ก ๆ ๆ
    ไอ้เสือทั้งหลายรับทราบ.......
     
  18. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,933
    อนุโมทนาค่ะ คุณยอด



    ขออนุโมทนาและขอบคุณที่แจ้งข่าวค่ะ


    ใครบ้างก็ไม่รู้ ว่าแต่น้องนะเถอะ ทริปนี้พี่ให้เวลาเก็บเงินและเตรียมตัว เตรียมร่างกาย ๕ เดือนเต็มๆ เลยค่ะ



    น้องเจี๊ยบ ทริปถ้ำเพชร- ถ้ำทอง จ.นครสวรรค์ พี่วางโปรแกรมไว้เดือน สค. วันที่ ๘-๙ สค. ให้น้องธีร์ติดต่อประสานงานเรื่องที่พักอยู่ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทริปนี้คณะเราได้นอนริมบึงบอระเพ็ดแน่นอนค่ะ



    อนุโมทนาค่ะ

    พี่จะดำเนินการตามที่น้องนนท์ฝาก คือซื้อ "แผ่นทองคำเปลว" สำหรับให้น้องนนท์เก็บเอาไว้ "แปะส่วนตัว" แบบว่า ถ้าซื้อ "ทอง" แค่ ๕๐๐ บาท พี่กลัวว่าแม้แต่เศษทอง พี่ก็จะคีบติดมือมาให้น้องนนท์ไม่ได้นะซิคะ(smile) ส่วนอีก ๑,๕๐๐ บาท พี่รับทราบและนำไปอัพรายชื่อผู้ร่วมเดินทางทริปเขาฯ ที่ชำระเงินให้แล้วค่ะ


    ส่วนบรรทัดสุดท้าย พี่ก็ยิ่งรับทราบด้วยความเต็มใจ แต่ว่าถ้าเรียกว่า สว. จะดูไพเราะกว่าหรือไม่คะ (แบบว่ายังเป็นคนที่ีตัดกิเลสไม่ขาดน่ะคะ) คริ คริ คริ



    อนุโมทนาค่ะน้องธีร์



    อนุโมทนาสาธุ

    ทริปถ้ำเพชร-ถ้ำทอง ฯลฯ พี่วางกำหนดการเดินทางไว้วันที่ ๘-๙ สค.๕๒ น้องศาลเตรียมตัวไว้นะ เพราะมีแจ้งชื่อเข้ามาหลายคนแล้วค่ะ



    อนุโมทนาค่ะ

    รบกวนคุณ iamnunna ตรวจสอบ Link ที่นำมาวางด้วย เพราะหญิงคลิกเปิดเข้าไปในกระทู้ไม่ได้ค่ะ




    ยัง ยังไม่ได้วาระ วาระทริปนี้ของชาวคณะอยู่ที่เดือน สค. น้องเม้งเตรียมตัวเคลียร์ตารางเวรไว้ดีๆ เลย ถ้าไม่ไป เดี๋ยวมีงอนค่ะ
     
  19. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,933
    ประวัติและรอยพระพุทธบาทวัดเขาบางทราย / ประวัติรอยพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)

    [​IMG]


    วัดเขาพระบาทบางทรายหรือวัดเขาบางทราย

    ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด ห่างประมาณ ๒ กิโลเมตร บริเวณวัดอยู่เชิงเขาพระพุทธบาทบางทรายหรือเขาพระบาทสามยอด กล่าวกันว่าพระเจ้าแผ่นดินผู้ครองกรุงศรีอยุธยา (นักประวัติศาสตร์และโบราณคดีให้ข้อสันนิษฐานว่า คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) ได้เสด็จประพาสทางเรือมาประทับแรมที่ตำบลนี้ ทอดพระเนตรเห็นว่ามีภูมิประเทศที่งดงามมาก จึงโปรดให้สร้างวัดขึ้นที่เชิงเขานี้ (ระหว่าง พ.ศ.๒๒๔๙ - ๒๒๗๕) และได้สร้างปูชนียสถานไว้อีกหลายแห่ง

    ต่อมาพระยาพิชิตชลเขต ผู้กำกับราชการเมืองชลบุรี ได้สร้างวัดพระพุทธบาทบางทรายขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๕ วัดนี้มีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และตึกหลังเล็กภายในมีพระพุทธไสยาสน์ตั้งอยู่บนยอดเขาบริเวณวัดที่ตั้งอยู่เชิงเขามีสิ่งก่อสร้างอาคารต่างๆ เป็นทรงยุโรปสมัยรัชกาลที่ ๕ หลายหลัง มีประเพณีเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทบางทรายในวันสิ้นเดือน ๔ จนถึงวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ รวม ๓ วัน ทุกๆ ปี และยังมีงานประเพณีตักบาตรเทโวเทศกาลออกพรรษาด้วย



    [​IMG]

    รอยพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)

    การพบรอยพระพุทธบาทจันทบุรี ออกจะเป็นบุญญาภินิหารของชาวจังหวัดจันทบุรีมิใช่น้อย นับว่าเป็นโชคของพุทธศาสนิกชน และเป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดจันทบุรี และพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศไทย

    เมื่อ พ.ศ. 2397 โดยมีนายติ่งพร้อมด้วยพวกหลายคนด้วยกัน ได้พากันเดินทางขึ้นไปบนเขา เพื่อหากฤษณากะลำพักมาขายทำที่พักไว้บนเขาหลายวัน ตอนกลางวันต่างคนต่างก็ออกไปแสวงหาโชคลาภ วันหนึ่งพากันกลับที่พักไม่ถูก ต่างพากันขึ้นไปพักเหนื่อย เพื่อนคนหนึ่งของนายติ่งได้ถอนหญ้าเพื่อจะนอนพักก็พบแหวนใหญ่ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้ เมื่อช่วยกันตรวจดูก็ปรากฏว่าเป็นแหวนทำด้วยนาค เมื่อพบโชคลาภเช่นนี้ก็ช่วยกันถอนหญ้าเพื่อแสวงหาโชคกันใหญ่ ตอนนี้ไม่พบอะไร นอกจากหินแผ่นหนึ่งมีพื้นที่เป็นรูปก้นหอย หลังจากนั้นก็กลับบ้านได้อย่างสะดวกง่ายดาย ต่อมานายติ่ง นายนำ นายปลิ่มได้นำบุตรชายไปอุปสมบทที่วัดพลับ อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อบวชลูกชายเรียบร้อยแล้ว จึงกลับบ้านไม่ทัน จึงค้างคืนที่วัดนั้น

    รุ่งขึ้นก็เป็นงานเทศกาลปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง นายติ่งจึงซื้อทองไปปิดรอยพระพุทธบาทจำลองนั้น เมื่อปิดแล้วจึงพูดขึ้นว่า พระพุทธบาทที่เขาเช่นนี้ทางบ้านผมก็มีเหมือนกัน พระได้ยินเช่นนั้นก็จึงเรียนให้เจ้าอาวาสวัดทราบ สมัยนั้น หลวงพ่อเพชรเป็นเจ้าอาวาสวัดพลับ จึงเรียกนายติ่งเข้าไปไต่ถาม นายติ่งจึงเล่าความว่าเป็นความจริงเจ้าคณะจังหวัด จึงให้พระไปพิสูจน์ดู นายติ่งเป็นผู้นำทางเมื่อไปพบเข้าก็เป็นความจริงดังที่นายติ่งบอก จึงได้นำแหวนจากนายติ่งไปถวายเจ้าคณะจังหวัด ต่อมาเจ้าคณะจังหวัดได้ไปดูด้วยตนเองไปดูก็เป็นความจริง จึงได้ตรวจดูตามบริเวณนั้นทั่วไป ก็พบสิ่งแปลกประหลาดและสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง ดังนี้

    พบรอยพระพุทธบาท นั้นท่านทรงเหยียบจารึกไว้ที่ศิลาแผ่นใหญ่ บรรจุคนนั่งได้เป็นร้อยกว่าคน บนยอดเขาสูงสุด กว่าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรอยพระพุทธบาทนั้น ยังมีหินกลมก้อนหนึ่งใหญ่มาก หินก้อนนี้เรียกกันว่า "หินลูกพระบาท" ตั้งขึ้นมามองแล้วน่าแปลกใจและมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก ไม่น่าตั้งอยู่ได้เลย มองดูแล้วคล้าย ๆ ลอยอยู่เฉย ๆ และยิ่งไปกว่านั้นคนก่อน ๆ เล่ากันต่อมาว่า เขาเคยเอาด้าย สายสิญจน์คล้องแล้วหลุดมาได้ พิสูจน์ดูแล้วก็น่าจะเป็นไปได้ ดูโปร่ง ๆ คล้าย ๆ ไม่ติดอะไรเลยและยังมีหินอีกลูกหนึ่งใหญ่มากเหมือนกัน อยู่ตรงกันข้ามกับลูกพระบาทนี้ ก็มีรอยพระหัตถ์นั้น ห่างกันประมาณ 5 เมตร และยิ่งแปลกไปกว่านั้นในก้อนหินนั้นตรงกันข้ามกับรอยพระหัตถ์ ยังมีรูปรอยเท้าใหญ่อันนี้เรียกว่า "รอยเท้าพญามาร" เพียงแหงนหน้าขึ้นไปมองจะเห็นได้ทันที สูงประมาณ 15 เมตร ต่อจากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากหินลูกนี้ไปเพียง 15 วา ก็มีหินลูกข้างบนเป็นลานจะมองเห็นรอยรถหรือรอยเกวียน นี่ก็น่าแปลกมาก ยืนบนหินลูกนั้นมองลงไปทางทิศเหนือจะเห็น ถ้ำเต่า บนหลังถ้ำจะมองเห็นเป็นรูปเต่า ลักษณะคล้าย ๆ เต่าปลวก ต่อจากนั้นก็หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรอยพระพุทธบาท ก็จะพบกับถ้ำช้าง ถ้ามองจากรอยพระพุทธบาทไป จะเห็นหินก้อนหนึ่งมีรูปลักษณะคล้ายช้างจริง ๆ เลยจากช้างไปสูงสุดนั้น เราเรียกว่าห้างฝรั่ง ที่เรียกว่าห้างฝรั่ง ก็เพราะฝรั่งไปตั้งห้างส่องกล้องเพื่อทำแผนที่ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งเรียกันกว่า ถ้ำสำเภา เพราะมีก้อนหินก้อนหนึ่ง ข้างบนถ้ำมีลักษณะคล้าย ๆ เรือสำเภา จึงเรียกว่าถ้ำสำเภา ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งใต้พระบาทนี้เรียกว่าถ้ำตาฤาษี

    ที่ของชื่อเขาคิชฌกูฏนั้น ในตำนานศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่าเขาคิชฌกูฎอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ แปลว่าภูเขาแร้งกระพือปีก มีคันธกุฎีอยู่บนยอดเขา และเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต เป็นความดำริของพระครูธรรมสรคุณซึ่งเป็นกรรมการและเป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวงตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ได้เสนอใช้ชื่อ พระบาทเขาคิชฌกูฎ (พลวง) เหตุผลเพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธที่พุทธศาสนาเจริญกว่าเมืองไหนๆ แม้กระทั่งประเทศอินเดีย จึงน่าจะใช้ชื่อนี้เป็นที่ระลึกถึงพระบรมศาสดา ในทุกๆ ปีจะมีพิธีเปิดและพิธีปิดการขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี


    ขอบคุณที่มา : คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ, 2544:97-99
    ภาพประกอบ จากอินเตอร์เน็ต

     
  20. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    วันเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้จะไปวัดป่ารัตนพรชัย จังหวัด มหาสารคาม อำเภอ วาปีปทุม หลวงพ่อ ดำ อายธ้มโม (ลองหาอ่านประวัติท่านได้นะครับ ในหนังสืออ่านก่อนตาย ก่อนจะเสียดายไม่ได้อ่าน 8 ของ โจ้ พันทกานต์ กิ้มทอง นะครับ )อีกครั้งนะครับพอดีมีงานไว้ครูประจำปีวันที่ 9 มีนาคม นะครับ แต่ขออนุญาติท่านไปวันที่ 8 มีนาแทนนะครับมีภาระกิจพิเศษครับ ก็เลยจะชวนๆๆ ชาวคณะท่านใดสนใจจะร่วมทำบุญสร้างโบถ พระศรีอริยเมตตรัย 9 ชั้น ที่เดียวในโลกครับ หลวงพ่อท่านเป็นคนร้อยเอ็ดครับ แต่ท่านบอกว่าที่ต้องมาที่นี่ก็เพราะว่า ชื่อ อำเภอนี้ วาปี= ดอกบัวม ปทุม=ดอกบัว รวมเป็นมหาดอกบัวมีความหมายถึงพระศรีอริยะเมตตรัย ถ้าผู้ที่ปราถนาพุทธภูมิท่านใดจะทำบารมีต่อก็เป็นที่เหมาะสมนะครับ ผมไม่ได้เปิดlink ที่ไหนนะครับบอกชวนชาวคณะเราๆๆเท่านั้นหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...