พุทธภูมิ: ปรารถนาแรงกล้า ก็อาจไม่ได้ดังฝัน...

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย พลายนิล, 6 กันยายน 2007.

  1. ~!ปราบไตรจักร!~

    ~!ปราบไตรจักร!~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +265
    ทั้งหมดจะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่"ใจ"ครับ แม้แต่"ฟ้า"(พวกเทวดาหรือคนข้างบน)ก็ยังอยู่ใต้กฏแห่งกรรม...
     
  2. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    <center>
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑
    <center>สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค</center></pre>

    นิพพุตสูตร
    </center><center>เจริญอิทธิบาท ๔ เพื่อความหน่าย
    </center> [๑๑๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อิทธิบาท ๔ เหล่านี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้
    มากแล้ว
    ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับ เพื่อความสงบ
    เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน อิทธิบาท ๔ เป็นไฉน? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญอิทธิบาท
    ประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร ... วิริยสมาธิ ... จิตตสมาธิ ... วิมังสาสมาธิและปธาน-
    *สังขาร ดูกรภิกษุทั้งหลาย อิทธิบาท ๔ เหล่านี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
    ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว ... เพื่อนิพพาน.
    <center>จบ สูตรที่ ๔
    </center>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  3. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค</pre> <table align="center" background="" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="90%"> <tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>


    [๒๘๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ กระทำ
    ให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า สติปัฏฐาน ๔ จึงถึงความเจริญบริบูรณ์บ้าง
    สัมมัปปทาน ๔ ... อิทธิบาท ๔ ... อินทรีย์ ๕ ... พละ ๕ ... โพชฌงค์ ๗ จึงถึงความเจริญบริบูรณ์
    บ้าง? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
    อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัย
    นิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
    กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล สติปัฏฐาน ๔ ย่อมถึงความเจริญ
    บริบูรณ์บ้าง สัมมัปปธาน ๔ ... อิทธิบาท ๔ ... อินทรีย์ ๕ ... พละ ๕ ... โพชฌงค์ ๗ ย่อมถึง
    ความบริบูรณ์บ้าง.
    <center>จบ สูตรที่ ๑๐
    </center></pre>
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    ผมไม่รู้นะ เเต่ความเห็นผม ถ้าผิดไปก็ขออภัยในที่นี้ก่อนเลยเเล้วกันครับ ทุกคนมีสิทธิ์จะสําเร็จได้นอกเสียจากไปก่อกรรมใหญ่เช่น ฆ่าบิดามารดาหรือพระสงฆ์ ( อาจมีมากกว่านี้ เเต่ผมรู้เพียงเท่านี้ ) คือถ้าไม่มีกรรมใหญ่ที่ติดตัวเกินไปจนเกินเยี่ยวยา ทุกคนน่าจะมีศักยภาพพอที่จะสําเร็จได้ครับ
     
  5. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337

    โมทนาคะ เห็นด้วยกับพี่ทุกประการ
     
  6. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    ผู้ที่อ้างฟ้ากำหนด พรหมลิขิต ไม่ใช่คำสอนของพุทธครับท่าน พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า บุคคลเป็นผู้ลิขิตวิถีชีวิตตนเอง ครับผม
     
  7. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    ได้ก็ไม่สนใจ ไม่ได้ก็ไม่สนใจ เดินไปข้างหน้าทำประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน
     
  8. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,642
    เห็นด้วยกับพี่อรรถ
    สงสัยหนังสือเล่มนี้เป็นของมหายานแน่ๆ มหายานมักจะอ้างหรือกล่าวถึงฟ้าดินอยู่เสมอ และมีอะไรที่ไม่ตรงกับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้หลายเรื่องเสมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2009
  9. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    หากผมบารมีเต็มเปี่ยมแล้วด้วยกำลัง 30 ทัศ แล้วฟ้า (...)ไม่ให้บรรลุ พระโพธิญาน ด้วยเหตุผลไม่เห็นสมควร ผมคงทำแบบนิยาย ซุนหงอคง ในเรื่องไซอิ๋ว บุกอาละวาดฟ้ายึดเป็นเง็กเซียนซะเลย 555+

    จริงๆแล้ว คำว่า "ฟ้าดิน " เป็นคำที่ใช่ในลัทธิเต๋า ซึ่งพุทธศาสนาไม่เชื่อว่าฟ้าและดิน กำหนดวิถีชีวิตมนุษย์ มันเข้าทำนอง พระเจ้าหนึ่งเดียวของหลายๆศาสนานั่นหละ

    คนเขียนเอาคำนี้มาเขียนคงไม่มีความรู้และตีความ สั่วๆ เพราะฉะนั้น เผาบทความทิ้งเลยครับ สัทธรรมปฏิรูป แค่หลวงพี่อ่าน กำลังใจก็ลดลง บทความนี้ถือว่าไม่ช่วยให้คนเรามุ่งมั่น กลับปล่อยให้ชีวิตอยู่ตามยถากรรมตาม อำนาจ ฟ้าดิน เผาทิ้ง ไม่ให้ ใครอ่านอีก ดีที่สุด
    ........
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    นับเป็นการยากมาก ถ้าผู้เป็นโพธิสัตว์ที่ยังไม่มีลำดับในการตรัสรู้ตามลำดับไหล่ เกิดท้อแท้มองเห็นภัยในวัฏฏะความเนินนานในการตรัสรู้ด้วยตนเอง ก็จะเข้าไปอธิฐานต่อหน้าพระประธานที่เป็นเสมือนองค์แทนของพระพุทธเจ้าตามที่โลกเค้าสมมติกันมาช้านาน ขอถอนความปราถนาซึ่งพุทธภูมิ

    ขอตั้งอยู่ที่พระสาวก สำเร็จพระนิพพานเสียแต่ในชาติปัจจุบันนี้เถิดเมื่อสิ้นคำอธิษฐานลงเข้าสมาธิใหม่ก็จะได้พบความมหัศจรรย์ จิตที่เคยฟุ้งซ่านไปในโลกนี้ และ โลกหน้า

    ก็จะรวมลงเป็นธรรมในปัจจุบัน เป็นมรรคสมังคีร่วมกันทำหน้าที่เป็นแสงสว่างกำจัดความมืด ของอวิชชา

    ส่วนพระโพธิสัตว์ที่ไม่ท้อถอยก็ขอให้สู้ๆต่อไปแล้วกาลนั้นก็จะมาถึงท่านทั้งหลาย
    จะได้รับคำพยากรณ์ในสำนักของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอย่างแน่นอน
    เพื่อเป็นหลักประกันว่าท่านจะมีอันไม่ตกต่ำถึงแม้ท่านยังไม่บรรลุตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    กรณีนิตยโพธิสัตว์ทั้งสิบนั้นแน่นอนและเที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้

    ท่านเหล่านี้จะถอน และ กลับคำไปเป็นพระสาวกของใครไม่ได้ สายไปแล้ว
    ท่านจะต้องตรัสรู้ด้วยตนเองเท่านั้น
    ตามคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนคือพระสมณโคดม
    เพราะไม่มีใครที่บารมีแก่รอบทำการตรัสรู้แทนท่านได้
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ทุกพระองค์เหมือนกับไก่ตัวแรกทะลุออกจากเปลือกไข่ของอวิชชาออกมา

    เมื่อพระองค์เพียรพยายามจนเต็มขีดพุทธภูมิก็จะรวมลงเป็นธรรมในปัจจุบัน เป็นมรรคสมังคีร่วมกันทำหน้าที่เป็นแสงสว่างกำจัดความมืด ของอวิชชา
    จนพบสัมโภคกายของท่าน

    เรียกว่าเกิดแล้วในชาติอริยะ
    หากตัญหา ๓ ยังมิได้ปหานให้สิ้นแล้วไชร์จึงชื่อยังไม่บรรลุพุทธะแต่หากรู้แจ้งซึ่งความเป็น
    พระสาวก และ พระปัจเจกโพธิ
    ตลอดถึงความเป็น พระพุทธเจ้า
    ก็มิอาจดำรงค์อยู่ซึ่งโพธิสัตว์วิสัย

    จะต้องดำรงค์ถานะถึงซึ่งพุทธภูมิ เป็นชั้นภูมิของพระพุทธเจ้าทั้งหลายตามวาสนาบารมีที่ได้สั่งสมมาดีแล้ว
     
  11. ustharos

    ustharos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    เรียนหนังสือทางโลก ไม่มีปริญญาบัตรให้ จะมีใครอยากเรียนไหม ?
    เรียนบาลี ไม่มีคำว่า "มหา" นำหน้า จะมีใครอยากเรียนไหมนี่ ?

    ดูๆ ไปแล้วชาวโลกยังข้องอยู่กับชื่อเรียกขานกัน...

    ดูๆ พระอาจารย์อยากจะเป็นพระพุทธเจ้า มากกว่า การช่วยสัตว์โลกไปพระนิพพาน
    ไม่ได้ชื่อว่าเป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้ว จะมีใครปรารถนาช่วยสัตว์โลกบ้าง ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2009
  12. NatAndaman

    NatAndaman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +605
    ผู้ที่ปรารถนา ใช่ว่าจะสำเร็จทุกคน แต่ไม่ใช่เพราะฟ้ากำหนด หากเพราะ เปลี่ยนใจเอง ย่อท้อเอง อุปสรรคที่ขวางกั้น เป็นตัวกลั่นกรอง เป็นตัวเลือก หากเราตั้งใจปรารถนา เพื่อช่วยผู้อื่น จริงๆ ไม่ย่อท้อ วันหนึ่งถึงจะนาแสนนานก็มาถึง หากเราย่อท้อ หยุด เมื่อไหร่ ใครจะมากำหนด ให้บรรลุพระโพธิญาณก็หาได้ไม่
     
  13. NatAndaman

    NatAndaman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +605
    สิ่งที่ปรารถนาอาจไม่สมหวัง ไม่ใช่เพราะลิขิตฟ้า หาก เพราะ เปลี่ยนใจเอง อุปสรรคที่ขวางกั้น เป็นตัวกรอง ผู้ที่ไม่ท้อถอย บำเพ็ญไป ก็จะถึงจุดหมาย
     
  14. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    กระทู้่เก่ากระทู้นี้ยังมีคนให้ความสนใจเยอะใช่เล่นเน๊าะ เหอๆ

    ผมขออุตตริแสดงความเห็นอีกสักความเห็นนึงนะครับ ตามประสงค์ของท่านเจ้าของกระทู้ว่า เป็นความเห็นรูปแบบไหนก็ได้

    ถึงแม้ว่า ความเห็นนี้มันจะไม่เหมือนความเห็นของคนอื่นๆสักเท่าไรและต่างกันอย่างมากกับความเห็นเหล่านั้น แต่ขอให้ท่านทั้งหลายเสพธรรมในข้อความนี้ด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ

    ในคำว่าฟ้า ของเขาคนนั้น คนใดคนหนึ่งที่กำลังหมายประสงค์(ตามความคาดหมายของผมเอง) เอานั้น คือจะหมายถึงพระพุทธเจ้า แต่ทะว่าจะประกาศออกไปแล้ว พระพุทธเจ้าก็จะกลายเป็นเจ้าลัทธิ เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว เหมือนทุกๆลัทธิไป เพราะพระพุทธเจ้าไม่ใช่เจ้าลัทธิ ไม่ใช่เทพพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แต่เพียงผุ้เดียวที่จะสามารถกำหนดชี้เป็นชี้ตายให้ใครได้ และพระองค์ก็ต้องตกอยุ่ในไตรลักษณะธรรมคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามธรรมชาติ แต่พระพุทธองค์ผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ ได้เป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้นในสากลโลกธาตุทั้งปวงที่นำเอาธรรมที่ไม่มีใครค้นพบออกมาประกาศเปิดเผย ให้สัตว์ใหญ่น้อยได้ตรัสรู้ธรรม อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ...สาธุ ด้วยเจตนานี้จึงตั้งบัญญัติคำว่า ฟ้า เป็นแทนตัวพระพุทธเจ้าครับ


    ส่วนพระโพธิสัตว์องค์ใด จะได้ตรัสรู้นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับพระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสพยากรณ์เลือกเอง ไม่ใช่ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตามใจตัวเองหรือเป็นสาธารณะบุคคลได้กันทุกๆองค์ไป ถึงแม้ว่าจะมีบารมีเต็มสมบูรณ์ถือกำเนิดได้เพียงอีกชาติเดียวก็จะตรัสรู้แล้วก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้ตามใจ (บางคนคิดว่าทำบารมีเต็มแล้วก็จะไ้ด้เป็นพระพุทธเจ้านั้นข้อนี้เห็นจะเป็นสาวกทิฏฐิ และปัจเจกทิฏฐิ ถ้าอ้างแหล่งที่มาผมเองไม่เคยเห็นว่าประโยคในพระไตรปิฏกทั้งฝ่ายเถรวาท และมหายานกล่าวเอาไว้สักประโยค จะกล่าวเอาไว้แต่เพียงว่า หากใครพากเพียรปฏิบัติในธรรมของตถาคตแล้วจะได้ตรัสรู้ธรรมเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงความเป็นพระพุทธเจ้าเลย) นี้เป็นเงื่อนไขประการหนึ่งที่ท่านทั้งหลายยังไม่รู้ ในอัตตภาพความเป็นมนุษย์นี้ พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มแล้ว พร้อมที่จะได้ตรัสรู้นั้น แค่จักรวาลเราจักรวาลเดียวมีมากกว่า 10,000 องค์ (จำนวนสมมุติิอาจจะมีมากกว่านั้น) แล้วเขตที่พระพุทธเจ้าก็มี แสนโกฏิจักรวาลเป็นพุทธเขต พระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีเต็มสมบูรณ์นอกจักรวาลเราอีกแสนโกฏิจักรวาลละนับประมาณไม่ได้เลย แต่มันมีเหตุผลอีกว่า ถ้าหากเป็นพระโพธิสัตว์ได้รับคำพยากรณ์แล้วว่าจะได้ตรัสรู้ในกาลอันใกล้ๆนี้ ก็จะต้องอยู่ในเเดนที่พระพุทธศาสนาเกิดหรือกำเนิดในมงคลจักรวาลนี้เพื่อเรียนเอาพุทธศาสตร์ของพระพุทธเจ้า เรียกว่า สืบทอดพุทธวงศ์ ข้อนี้เป็นประเพณีของคนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าครับ

    ตามธรรมดาบุรุษผู้ประเสริฐเข้าไป ในหมู่เเหล่งหล้าแห่งเพชรรัตนะชาติอันมากมายจนมีจำนวนนับไม่ถ้วน(เหมืองเพชร)ก็จะเลือกหยิบเอาออกมาเพียงแค่กำมือ1 หรือ 2กำมือ นอกนั้นก็ยังคงรอคอยให้บุรุษผู้ประเสริฐนั้นมาเลือกเก็บเอาออกไปอีก แต่ก็จะยังทรงคุณค่าแห่งเพชรรัตนะชาติอยู่ตามเดิม และเจิดจรัสแสงด้วยคุณของตนอยู่ตามเิดิม และไม่สามารถที่จะนำตนออกมาให้สาธารณะชนได้ชื่นชม ข้อนี้ฉันใดพระโพธิสัตว์เหล่านั้นก็เป็นฉันนั้นเหมือนกัน ด้วยเงื่อนไขนี้พระโพธิสัตว์เหล่านั้นจึงได้เป็นทุกข์ เบื่อหน่าย ตัดใจเป็นสาวกบุคคล หรือ ตรัสรู้เป็นปัจเจกบุคคลไป

    หากท่านใดอยากรู้ว่ามันจะเป็นไปได้หรือ...คงต้องใ้ห้ท่านทั้งหลายเข้าไปพิจารณาปฏิจจสมุปบาทให้ละเอียด เดินให้ละเอียดตามแต่วาสนาของท่านดูเถิด การจะรู้ไม่รู้ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยของท่านว่า ท่านจะมีวิสัยพ้นจากสาวกภูมิ หรือปัจเจกภูมิมากน้อยแค่ไหน โดยมากจะไม่เกินปัจเจกภูมิ

    ถ้าหากว่า ข้อความนี้มันทำให้ท่านผู้บำเพ็ญท่านใดเกิดหดหู่ใจ บันทอนกำลังใจ หรือ เกิดความอึดอัดคับแค้นใจแต่ประการใด ก็ให้ท่านผุ้บำเพ็ญทั้งหลายโปรดอย่าถือสาเอาความผมเลยนะครับ ถือว่าผมเป็นคนไม่รู้จักความ เป็นเด็กซุกซนคนหนึ่งนะครับ

    แต่ตามวิสัยของพระโพธิสัตว์จะต้องไม่หวันไหวด้วยวจีกรรมของคนอื่นอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าหากว่าข้อความของผมนั้นพิจารณาแล้วเป็นจริงก็จะได้วัดผลกันไปเลย ว่าเราเป็นอย่างไร จะได้รู้เจตนารมณ์ของผู้ที่ลาพุทธภูมิด้วยเหตุใด และดำรงอยุ่ด้วยเหตุใด


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2009
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถ้าคิดว่าเป็นผู้ได้รับพรจากสวรรค์

    แล้วนอนรอแต่วาสนา

    ก็คงเป็นได้แต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ

    เคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่ท่านว่า ชอบสร้างวิมานในอากาศก็คงเป็นอย่างนี้กะมัง มันต้องลงมือปฏิบัติ บารมี 30 ทัศคือ บารมี ๑๐ เหล่านี้
    อันไหนมันบกพร่องก็ทำกำลังใจให้มันเต็ม
    ทานะปาระมี
    สีละปาระมี
    เนกขัมมะปาระมี
    ปัญญาปาระมี
    วิริยะปาระมี
    ขันติปาระมี
    สัจจะปาระมี
    อธิษฐานะปาระมี
    เมตตาปาระมี
    อุเบกขาปาระมี
    เมื่อบารมี 30 ทัศเต็มแล้วเป็นยอดแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ทรงบำเพ็ญมาแล้วอย่างเต็มเปี่ยม จึงได้ตรัสรู้
    เพราะ เมื่อกุศลธรรมทั้งหลายเต็มบริบูรณ์ ย่อมมีญาณว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่าชาติ<WBR>สิ้นแล้ว ข้ามโอฆะได้แล้ว เราไม่พักอยู่ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้ว ข้ามโอฆะได้อย่างไร เรายังพักอยู่เมื่อนั้น เรายังจมอยู่โดยแท้ เมื่อใดเราเพียรอยู่เมื่อนั้นเรายังลอยอยู่โดยแท้
    เราข้ามโอฆะได้อย่างนี้
    เราไม่พักอยู่ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้ว
     
  16. ustharos

    ustharos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    ต้องเป็นหน่อพันธุ์ "พุทธรางกูรย์"
    หน่อพันธุ์บางหน่อ ปลูกแล้วได้ร่มเงา
    หน่อพันธุ์บางหน่อ ปลูกแล้วตาย

    ทุกดวงจิตเกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมี ให้ได้บารมีมากขึ้นกว่าเดิม การสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่า ได้บารมีมาก

    ฉะนั้น แต่ละธรรมธาตุจึงถอยธรรมธาตุมาหลายๆ ดวงจิตเพื่อบำเพ็ญบารมี แต่ละดวงจิตสามารถบำเพ็ญบารมีได้สำเร็จความเป็นพระพุทธเจ้า ก็ถือว่า ยิ่งด้วยบารมี

    ทุกๆ ดวงจิตมีสิทธิ (สำเร็จ) สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    แต่ดวงจิตของธรรมธาตุที่เป็นพุทธรางกูรย์นั้น เมื่อมาบำเพ็ญบารมี ยังไงแล้ว ก็แตกหน่อให้ร่มเงา สงบ ร่มเย็น สมเป็นหน่อพันธุ์ พุทธรางกูรย์ เพราะเป็นเม็ดพันธุ์โดยเฉพาะ

    ส่วนดวงจิตของธรรมธาตุที่มิใช่พุทธรางกูรย์ เมื่อมาบำเพ็ญบารมี ยังไงแล้ว ก็คงยังเป็นพันธุ์นั้นอยู่ แต่ก็สามารถเพิ่มพูนบารมีให้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
     
  17. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    ยิ้ม...ม....ม...กริ้ม ! ฮึฮึฮึ
     
  18. ustharos

    ustharos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    เป็นสี เป็นสาย เป็นวงศ์ เป็นองค์
     
  19. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    พูดคุยกันในรูปแบบคนบ้าบิ่น เหอๆ ยิ้ม..ม..กริ้ม 555
     
  20. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    องค์พระโพธิสัตว์ หน่อพุทธภูมิ
    พิจารณาได้ที่ความเสียสละ เป็นผู้นำในการทำงานกุศล
    และความเมตตาเป็นผู้ให้เป็นที่สุด
    การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การให้อภัย
    เป็นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ขององค์พระโพธิสัตว์

    ถ้ายังมีความอิจฉาริษยา อาฆาต เคืองแค้น มายาเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ไม่รู้จักการให้อภัย
    เป็นได้แต่หัวหน้าฝูงสัตว์ กับหน่อไม้
     

แชร์หน้านี้

Loading...