ประสบการณ์ระทึก ! กับ "หมอทราย" นักมายากรรม

พบกันอีกแล้วครับกับ “รักไร้พ่าย”

เรื่องราวของคนมีญาณที่ผมได้นำเสนอผ่านสายตาของคุณนั้น
มีหลากหลายอรรถรส แต่ในบรรดาผู้มีญาณที่ผมได้ไปพบ
และตรวจกรรมมา ไม่เคยมีใครที่ทำให้ผมรู้สึก อึ้ง แปลกประหลาดใจ
ขนหัวลุก และเฮี้ยนที่สุด ( เอ๊า เอาเข้าไป )
เท่ากับคนผู้นี้มาก่อนเลย ซึ่งคุณจะได้อ่านต่อไปนี้

แต่ก่อนจะเริ่มบรรเลงงานเขียนนี้ มาตกลงกันก่อนนะครับ
ว่าผมเสนอเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ประสบการณ์ความเชื่อ
ส่วนตัวของผมเท่านั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่จะนำไปอ้างอิงอะไรได้

ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่าน และที่สำคัญผมไม่ได้นำเสนอเรื่องนิ้
เพื่อให้คุณไปหาคนผู้นี้ แต่เพื่อเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้อ่านเท่านั้น
ดังนั้นผมจึงไม่ขอบอก เบอร์ติดต่อนะครับ หากอยากได้ก็ต้องไปหากันเอง

อะแอ้ม... ขอเริ่มเล่าแล้วนะครับ

หลายคนที่พอจะรู้จักผม ก็พอจะเดาออกว่าผมเป็นคนที่สนใจ
และศึกษาเรื่องคนมีญาณ และปกติผมจะเที่ยวสืบเสาะ
ตามแหล่งข้อมูลต่างๆที่พอจะให้ผมได้เก็บเกี่ยวข้อมูล
เกี่ยวกับคนมีญาณไม่ว่าจะเป็นในเนท ตามหนังสือ หรือ ที่ต่างๆ

วัหนึ่งผมได้ไปดูแว็บดูดวง ซึ่งมีผู้คนได้มา
ให้ความเห็นเกี่ยวกับหมอดูกันหลากหลาย
และมีการวิจารณ์หมอดูกันอย่างเข้มข้น ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

เมื่อผมทอดสายตาอ่านมาเรื่อยๆ จนสายตามาหยุด
ณ ชื่อหมอดูคนหนึ่งที่มีกระแสเสียงวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ทั้งที่ชื่นชมและต่อต้านหมอดูคนนี้

บางคนก็ว่าหมอดูคนนี้ ดูแม่นเหมือนตาเห็น บางคนก็ว่า
คนนี้จิตวิทยาเก่งมาก บางคนก็เล่าว่า
ไปดูกับหมอคนนี้แล้วร้องไห้เลย คนที่ร้องไห้เป็นผู้ชายด้วยนะ
บางคนก็ว่าหลอกลวง

อันที่จริง ผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากเป็นพิเสษ
เพราะหมอดูท่านนี้เขาดูด้วยไพ่ยิปซี ซึ่งไม่ตรงเป้า
หมายของผมที่ต้องการรู้จักคนมีญาณเท่านั้น

แต่ผมก็ไม่วายที่จะจดรายละอียดเบอร์โทรและสถานที่ดูดวงของเขา
เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างผลักดันผมให้ต้องทำแบบนี้
เมื่อผมได้มองที่ชื่อของเขาอีกครั้ง ชื่อนั้นอ่านว่า

“คุณทราย”

เช้าวันหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุดทำงานของผม และเป็นวัน
ที่ผมจะได้ออกไปโบยบินเพื่อไปพบปะคนผู้มีญาณ
ตามที่ต่างๆ แต่ก็กำลังครุ่นคิดว่า จะไปหาคนมีญาณคนไหนดี
ขณะที่ผมกำลัง
นอนคิดและเรียงลำดับชื่อคนมีญาณในสมองอยู่นั้น
ชื่อของ คุณทราย ดันแทรกผุดขึ้นมาในหัวเลย

แต่ผมเองก็ค้านความคิดนั้นทันที เพราะคนชื่อทราย
เป็นหมอดูด้วยไพ่ยิปซี ซึ่งผมไม่ได้อยากไปดูดวงแบบนี้
แต่ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจให้ชื่อนั้นชัดเจนในหัวมากยิ่งขึ้น
เหมือนจะบอกว่า “ เจ้าต้องไปหาเขาคนนี้”

ในที่สุดผมก็ยอมจำนนต่อเสียงในใจจนได้ และได้หยิบกระดาษ
ที่จดที่อยู่คุณทรายออกมา และผมจึงได้เดินทางไปยัง
จุดหมายปลายทางซึ่งก็คือ บางรักพลาซ่า
เป็นตลาดนัดขายสินค้าอยู่ข้างห้างโรงบินสัน บางรัก

ผมต้องเดินตามหาร้านของคุณทราย อยู่นาน ต้องเดินวนไปมา
เพราะไม่ค่อยได้มาแถวนั้นบ่อยนัก ได้ถามเอากับแม่ค้าแถวนั้น
จนที่สุดก็ได้พบกับสถานที่
เป้าหมาย ซึ่งใจจริงไม่ค่อยอยากดูเลย

ร้านนั้นตกแต่งอย่างแปลกตากว่าร้านทั่วไป จัดแบบเป็นซุ้มกระโจม
ภายในมีภาพเทพฮินดูมากมาย

เมื่อผมรู้ว่ามาถึงที่หมายแล้ว ก็ลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปดีไหม
ผมสอดส่องสายตาเข้าไปในร้านเพื่อนำทาง และความหาคนชื่อทราย
ซึ่งก็ได้เจอ เขากำลังนั่งดูดวงให้กับลูกค้าผู้หญิงอยู่

และในร้านนั้นก็ยังมีลูกค้าอีกคนเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว
นั่งรออีกคิวหนึ่ง

ผมก็ลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม จากประสบการกณ์ดูดวงมา
อย่างโชคโชนก็พอจะรู้ว่าต้องรอนานแน่ๆ
เพราะลูกค้าเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่มีเรื่องถามเยอะ

แต่อีกใจหนึ่งก็ท้วงว่า where where is where where
ไหนๆก็ไหนๆ มาแล้วก็เข้ารอคิวเลยไม่เห็นเป็นไร
รอเงินเดือนขึ้นยังนานกว่านี้เลย

ในที่สุดสองเท้าของผมก็ย่างเข้าไปยังร้านกระโจมของ
คุณทราย ผมได้เข้าไปนั่งต่อคิวจากน้องผู้หญิงเสื้อขาว
บรรยากาศในร้านนั้นดูแปลกๆ หวิวๆ ชอบกล
หลังจากนี้เป็นต้นไป วินาทีแห่งความตื่นตะลึงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว !!

เมื่อผมได้นั่งลง คุณทราย ผู้ชายวัยประมาณ 30 ใส่เสื้อขาวได้
(หน้าตาไม่เหมือนหมอดู ออกแนวพวกศิลปิน หรือ พวกเด็กช่างกล )
หยุดดูดวงให้กับลูกค้าตรงหน้าเขาชั่วครู่
แล้วจ้องมายังผมด้วยสายตาขึงขัง แล้วเอ่ยถามผมขึ้นว่า

“พี่ได้นัดคิวไว้หรือเปล่า”

ผมตอบกลับไปทันคว้นว่า

“เปล่า”

จากนั้นคุณทรายก็บอกกับลูกค้าว่า

“เห็นมั๊ย เมื่อกี้ที่พี่พูด ตรงมั๊ย”

ผมฟังก็งงๆอยู่ว่าหมายถึงอะไร

คุณทรายได้หันกลับมาบอกผมว่า

".เมื่อกี้ผมบอกกับน้องคนนี้ว่า เดี๋ยวจะมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในร้าน
ผมจะดูให้ผู้ชายคนนี้เป็นคนสุดท้ายแล้วจะปิดร้านเลย”

ผมฟังแล้วก็ยัง งงๆ ยังจับใจความไม่ได้

น้องผู้หญิงที่ใส่ชุดขาวทีนั่งต่อคิวผม ได้หันมาบอกผมว่า

“เมื่อกี้ก่อนที่พี่จะเข้ามา พี่ทรายได้บอกว่า เดี๋ยวจะมีผู้ชายเข้ามาในร้าน”


ผมก็อึ้งไปพักหนึ่งเลย

เมื่อ คุณทรายดูให้ลูกค้าเสร็จ ก็แป็นคิวน้องผู้หญิงเสื้อขาว
ผมจึงขอตัวไปเดินเล่นข้างนอก เพราะในร้านเขารู้สึกอึดอัด
จนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง น้องผู้หญิงเดินมออกมา
ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า ถึงคิวของผมแล้ว

ผมได้ไปนั่งอยู่ตรงหน้าของ คุณทราย หรือ หมอทราย
เขาได้เปิดเพลงแนววัยรุ่นไปด้วย และได้ยื่นรายการ
ราคาค่าดูให้ผม ซึ่งเป็นแผ่นกระดาษคล้ายๆเมนูอาหาร

ผมได้กวาดสายตาอ่านดู ถึงกลับตกใจ เพราะมีราคาค่าดูหลายระดับ
ซึ่งมีตั้งแต่ 199 จนไปถึง สองหมื่นห้า !

และที่แปลกกว่านั้น คือ แต่ละระดับราคาได้ระบุความแนยำไว้ด้วย
เช่น ระดับที่ 9 ราคา 199 แม่นยำ 40 เปอร์เซ็นต์
ทายของหาย ห้ามถามด้วย

ระดับ 7 ราคา 499 แม่นยำ 50 เปอร์เซนต์
ไม่สามารถถามได้ ฟังคำทำนายได้อย่างเดียว

แปลกมากครับ ผมไม่เคยเห็นการดูดวงที่ไหนที่ระบุราคาแปลกขนาดนี้
ผมลองถามรายละเอียดกับ คุณทราย
แต่ถูกปฎิเสธที่จะให้รายละเอียดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยมากๆ

ดูเหมือนเขาจะไม่แคร์ลูกค้าเลย ทั้งสายตาและน้ำเสียง
ที่ปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า เรียกว่า unfriendly เลยหละ

หรืออาจเรียกว่า หยิ่งๆ กวนๆ ก็ได้

ในที่สุดผมก็บอกเขาว่าผมเลือกดูในราคา
499 ซึ่งเป็นระดับ ที่ 7
( ถ้าเป็นระดับที่ 1 ราคา สองหมื่นห้า )

ขณะนั้นเองผมก็กำลังจะหยิบเครื่องบันทึกเสียงในกระเป๋า
สะพายซึ่งผมมักจะพกไปด้วยเสมอเวลาไปดูดวง
กับหมอดูหรือคนมีญาณที่ไหนก็ตาม
แต่ไมทันที่ผมจะล้วงเข้าไปหยิบ

เสียงของชายที่นั่งหน้าผมได้ เปล่งออกมาด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า

“ห้ามอัดเทปครับ จะอัดเทปได้ต้องเป็นราคาระดับที่ห้าขึ้นไป”

ตอนนั้นผมก็ยัง งง ๆ ว่า ทำไมบังเอิญขนาดนี้ที่เขาทักได้ถูก
ทั้งๆที่ผมยังไมไห้หยิบเทปออกมาให้เขาเห็นเลย
มันอยู่ในก้นกระเป๋าสะพายของผมที่ต้องควานหา
เพราะของในกระเป๋าผมเยอะ แต่ผมยังคิดว่าอาจ
เป็นความบังเอิญมากกว่า อาจเป็นการบอกกฎการดูของเขา
แล้วเผอิญมาตรงกับขณะที่ผมกำลังหยิบเทปนั้น
ผมจึงได้ล้วงไปหยิบเครื่องอัดเสียงอีกครั้ง
คราวนี้เสียงของเขาดังขึ้นกึ่งตะคอกว่า

"ผมบอกแล้วไงว่า ห้ามอัดเทป "!!

คราวนั้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

เอาว่ะ ไม่อัดก็ไม่อัด

ผมเริ่มรู้แล้วว่า คนๆนี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ
เขาต้องเป็นอะไรมากกว่าแค่หมอดูไพ่ยิปซี

จากนั้น คุณทรายได้หยิบสำรับไพ่ขึ้นมา 1 ชุด
จากเก๊ะที่บรรจุไพ่ต่างๆมากมาย มีทั้งไพ่อียิปต์ ไพ่โบราณ
ไพ่พรหมญาณ

ก่อนที่จะเริ่มดู เขาได้บอกว่า ผมจะมาดูกับเขาได้
แค่ครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิต
เพราะผมได้เลือกไพ่ชุดนี้แล้ว

เป็นเรื่องที่น่าแปลกเพราะปรกติหมอดูทั่วไปต้องการให้ลูกค้า
ของตัวเองกลับมาดูบ่อยๆ แต่คนนี้กลับให้ดูได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต
หากจะกลับมาดูใหม่ต้องเป็นลูกค้า VIP นั่นคือ
ต้องเลือกไพ่ระดับที่หนึ่ง คือ ราคา 2 หมื่นห้า

และตลอดการทำนาย ผมสังเกตุว่า เขามักจะพูดคำว่า

“ ดวงชะตาฟ้าลิขิต”

เริ่มการทำนาย เขาได้คลี่ไพ่และเริ่มทำนายเหมือนการดู
ไพ่ปกติทั่วไปใบแรกที่ผมหยิบมาเมื่อเปิดดูก็มีรูปหัวใจและมีดาบเสียบอยู่
แค่เดาก็รู้แล้วว่าหมายถึงอะไร

การทำนายต่างๆก็เป็นไปตามการดูดวงทั่วไป ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที
คุณทรายได้รวบไพ่บนโต๊ะเก็บเข้าเป็นกอง ผมเห็นแล้วก็ งงๆ
เหมือนจะบอกว่าการดูดวงได้จบแล้ว ผมก็ถามเขาไปแบบที่คิด

คุณทรายตอบกลับมาว่า

“ใช่ครับ ดูไพ่จบแล้ว เพราะพี่ก็ไม่อยากมาดูด้วย
ไพ่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

ผมก็แปลกใจว่าเขารู้ได้ยังไง ไม่ทันถามคำถามนี้ออกไป
คุณทรายได้ชิงพูดก่อนว่า

“พี่ต้องการดูด้วยญาณไม่ใช่เหรอ ต่อไปนี้ผมจะดูให้พี่ด้วยญาณ”

เอาแล้วไง ทีเด็ดมาแล้ว อย่างนี้สิเรียกว่าไม่เสียเที่ยว
มิน่าหละ สิ่งที่ดลใจผมให้มาที่นี่ เพราะเขาคนนี้มีอะไร
ที่ผมอยากรู้นี่เอง
ก่อนที่ผมจะได้ถามไถ่ประวัติความเป็นมาของเขา
ซึงเป็นปกติที่ผมมักไถ่ถามคนมีญาณทุกคน

แต่เขาบอกว่าขอเขาดูให้ผมจบก่อนแล้วค่อยถาม

สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ ทำให้ผมต้องอึ้งที่สุด และจะจดจำไปอีกนานเลย
คุณทรายได้หยิบกล้องดิจิตอลขึ้นมา และบอกว่าขอถ่ายรูป
ผมหน่อย ผมก็ งงๆ แต่ก็ตอบตกลงไป
เมื่อเขาถ่ายเสร็จ ก็ได้ดูในภาพนั้น และบอกกับผมว่า

“พี่อยากรู้มั๊ยว่า คนที่คอยคุ้มครองพี่ หน้าตาเป็นยังไง”

ผมฟังแล้วก็อึ้งไปเลย ใจหนึ่งผมรู้ว่าเขาหมายถึงใคร
แต่อีกใจก็ยังสับสนในสิ่งที่เขาพูดอยู่
ไม่ทันที่ผมจะตอบกลับไป
เขาได้ยื่นกล้องนั้นมาให้ผมดู แล้วถามผมว่า

“นี่หน้าพี่ใช้มั๊ย”

ผมเห็นหน้าตัวเองในกล้องก็ตอบว่า ใช่
จากนั้นเขาได้ซุมภาพนั้นให้ใหญ่ขึ้นๆเรื่อยๆ และเลื่อนไปทาง
ซ้ายเหนือหูของผม ขณะนั้นผมก็ดูตามไปด้วย
เมื่อกล้องมาหยุด ตรงเหนือหูของผม สิ่งที่ผมเห็น
ทำให้ผมแทบช๊อคเลย !!!
คุณทรายบอกผมว่า

“นี่ไงครับผู้ที่คุ้มครองพี่ เห็นแล้ว ใช่มั๊ย”

ตอนนั้น ผมแทบทรุดเลย ผมเห็นจริงๆ ผมเคยได้รับฟัง
มามากมายเกี่ยวกับผู้คุ้มครองผม แต่ผมแค่ได้ฟัง

แต่มาวันนี้ผมได้เห็นกับตา ด้วยตาเนื้อของผม
สำหรับผมนะไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะเขาถ่ายรูปผมสดๆตรง
นั้นไม่ได้ถ่ายออกมาแล้วไปตัดต่อที่ไหน ถ่ายแล้วให้ผมดูตรงนั้นเลย

ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ไม่ใช่กลัวคนในรูป
แต่กลัวคนชื่อทรายคนนี้ เขาทำให้ผมใจกระเจิงไปหมด

ผมไม่รู้ว่าเขาใช้จิตวิทยากับผมไปเพื่ออะไร ซึ่งตามที่ได้ข่าวมา
คนอื่นที่มาดูกับเขาก็เจออะไรคล้ายๆแบบนี้ คือ
ทำให้คนมาดูตะลึงอยู่เรื่อยๆ
ผมถามเขาว่า ทำไมถึงถ่ายได้
เขาตอบว่า

“เพราะท่านต้องการให้พี่เห็น ผมก็เลยถ่ายให้เห็น”

ผมถามว่าแล้วปกติ ถ่ายให้คนอื่นๆบ้างไหม
เขาตอบว่า แล้วแต่ บางทีก็ถ่ายได้ บางทีก็ไม่ได้
ฟังๆดูเหมือนเรื่อง ชัตเตอร์กดติดวิญญาณเลย

สิ่งที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับตัวเขานั้นยิ่งมีมากขึ้นไปอีก

ผมได้ถามในสิ่งที่ผมสงสัยตอนที่ผมเข้ามาในร้านเขาว่าทำไม
ตอนที่ผมเข้ามาในร้าน เขาบอกผมว่าเขาจะดูให้ผม
เป็นคนสุดท้ายของวันนี้แล้วเขาจะปิดร้านทันที
เหมือนเขาจงใจมีอะไรจะบอกผมเป็นพิเศษ

เขาตอบว่า เพราะผมต้องการเรียนรู้ ตามหาผู้มีญาณ
และมันถึงวาระที่ผมกับคุณทรายต้องมาเจอกัน
ผมยิ่งฟังไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนยิ่งลี้ลับซับซ้อน
มีเงื่อนปมมากมายเกี่ยวกับตัวผมเองกับเขา

เขาบอกผมว่า ผมมีไฝตรงที่ลับใช่มั๊ย
( จริงๆ เขาไมได้พูดคำว่าที่ลับ เขาพูดว่าไอ้นั่นเลย )

ผมก็ตอบว่า ใช่ เขาบอกว่าเขาก็มี

บอกแล้วว่าคนๆนี้ พูดตรงมากๆ พูดไม่ไว้หน้าใครเลย
มิน่าหละ คนที่มาดูกับเขาหลายคนร้องไห้กลับไปมากมาย
คนนี้บอกได้เลยว่า จิตวิทยาของเขาสุดๆไปเลย

เขาบอกว่า เขาเปิดร้านนี้เพื่อรอให้ผมมาหาเขา

ผมก็คิดว่า ตอนแรกผมไมได้ตั้งใจมาหาเขาเลย
แต่เหมือนมีอะไรดลใจให้มา
จากนั้นได้ถามเรื่องอยาคตของผม เขาได้ทำนายได้
ตรงกับคนมีญาณอื่นที่เคยทำนายผม

อันนี้ไมได้เรื่องแปลกใหม่สำหรับผม และเขสบอกว่าต่อไป
ผมก็จะต้องมาช่วยเหลือคนเหมือนเขา

เพราะคุณทราย นอกจากเป็นหมอดูแล้ว ยังทำงานการกุศล
เป็นหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ หรือวชิรพยาบาล ที่คอยช่วย
เหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุ คล้ายๆพวกร่วมกตัญญู หรือปอเต๊กตึ้ง

ชีวิตของคนๆนี้มีหลาหลายรสชาติมากๆ

ผมได้ถามประวัติของเขา และคราวนี้ได้รับอนุญาติให้อีดเสียงได้

คุณทรายคนนี้ แต่ก่อนเป็นเด็กเกเรมาก เคยเรียนช่างกล
และเข้าแก๊งค์นักเลงระดับหัวโจกเลย ชีวิตของเขาเรียกว่า
เข้าขั้นอันธพาลเลย มักมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นเป็นว่าเล่น
และเคยติดยาเสพติดด้วย

จนวันหนึ่งเขาได้ไปเดินเล่นสนามหลวง เห็นหมอดูคนหนึ่งตาบอด
ซึ่งมีญาณได้ทักเขาว่าจะมีอุบัติเหตุเกือบตาย และต่อมาเขาก็เป็นตามคำทำนายนั้น

ต่อมาหมอดูนั้นเสียชีวิตในสนามหลวง ไม่มีญาติมิตรเลย
คุณทรายได้ไปบวชหน้าไฟให้เขา
และอธิษฐานขอให้ได้ญาณเพื่อช่วยคน

เพราะชีวิตของเขาเกือบตายมาแล้วหลายครั้ง
และหมอดูคนนั้นได้เข้ามาในฝันของเขาและได้บอกว่า

“ข้าให้ตามที่เอ็งขอ”

จากนั้นมา คุณทรายคนนี้ก็มีญาณ สามารถเห็นกรรมคนอื่นได้
แต่กลัวคนจะหาว่างมงายเรื่องญาณ จึงได้ยึดอาชีพหมอดูไพ่ยิปซี
จนชื่อเสียงโด่งดัง จนได้ถูกบันทึกลงในหนังสือ 44 หมอดูดัง
และอยู่คนแรกของหนังสือเลย

จากนั้นมีคนแห่กันมาดูเยอะ ต้องรอคิวกันยาวเหยียด
ทั้ง นักการเมือง นักแสดง นักศึกษา เรียกว่าคนทุกระดับ
คุณทรายบอกว่า บางคนรอนาน เลยบ่นในใจ
เขาก็รู้และเชิญคนนั้นออกไปเลย เพราะเขาไม่แคร์ ไม่ง้อลูกค้า

ผมได้ถามว่า ทำไมต้องเก็บเงินเป็นหมื่นๆ เขาบอกว่า

“เพราะเป็นธุรกิจ”

โอ้โห ตอบโครตตรงเลย ไม่มีเชิงเลย แต่ก็ดี จริงใจดี

เขาก็หยิบสมุดบันทึกคนที่มาดูกับเขาราคาเป็นหมื่นๆ
เขาบอกว่า ถ้าดูเป็นหมื่นเรียกว่า ลูกค้า VIP
คือ สามารถมาดูกับเขาได้ฟรี 5 ปี และพาญาติพี่น้องมาดูฟรีได้ด้วย

ผมได้สนทนากับเขาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ จนห้างปิด

ขณะที่ผมจะจ่ายเงินค่าดูราคา 499
เขาบอกว่า ในกระเป๋าตังค์ผมจะมีแบงค์ 500 1 ใบ
และผมต้องจ่ายแบงค์นั้นเป็นค่าดูและในแบงค์นั้นมีเลข
ตรอง 5 ด้วย
คือ 555

ผมก็ไม่เชื่อและหยิบงินจากกระเป๋า มีแบงค์ 500 1 ใบ
ผมได้ดูในเลขแบงค์

โอ้โห !! เหลือเชื่อครับ เป็นเลขตรอง 5 จริง ๆด้วย
และผมก็ใช้แบงค์นั้นจ่ายเป็นค่าดู เพราะแบงค์อื่นในกระเป๋า
เป็นแบงค์ร้อย 4 ใบ แต่ค่าดู 499 จึงต้องจ่ายด้วยแบงค์ 500

ผมนึกถึงหมอดู อีทีของพม่าเลย ที่ทายแบงค์ในกระเป๋าคนได้ถูก

ก่อนกลับ เขาได้มอบสิ่งหนึ่งให้ผมและบอกว่า

“ สิ่งนี้พี่หามานานใช่มั๊ย”

แล้วเขาได้ส่งรูปปั้นพระพิฆเณศให้ผม ผมไม่ได้บอกเขาว่า
ผมนับถือองค์ท่าน
ยังมีอีกเยอะมากๆที่ทำให้ผมอึ้ง แต่ขอเล่าแค่นี้

สิ่งที่ผมเล่ามานี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นความเชื่อส่วนตัว และไม่มีจตนา
จะมาโฆษณาโปรโมทให้คุณทรายนะครับ ขอให้อ่านเชิงบันเทิงก็แล้วกัน

 

ยอดเยี่ยมมากค่ะคุณรักไร้พ่ายช่างสรรหาจริงอนุโมทนาค่ะ

 

ไปเจอมาอีกแล้ว คนนี้นี่ท่าจะแรงงงง และเฮี้ยนอย่างคุณรักฯว่าจริงๆ บรื๋อออออ...

 

โหดไปไหน นับถือความตรงไปตรงมาและความสามารถครับ

 

-*- สงสัยค่ะสงสัย รูปที่ถ่ายออกมาให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดคุ้มครองอยู่ ใช่องค์พระพิฆเนศหรือป่าวคะ

ง่า แค่อ่านก็อึ้งค่ะ ... แต่คงไม่ได้ไปดู รออ่านดีกว่า อิอิ แบบว่าคุยกะคุณต้นแล้วรู้สึกเองว่าสุดท้ายอยู่ที่ตัวเราเอง

ว่าแล้วไปสวดมนต์ก่อนที่ความขี้เกียจจะเข้าครอบงำดีกว่า ... ฝันดีนะคะทุกคน

 

ลูกค้าเก่าติดตามตลอดค่ะ กำลังสนุกเชียวค่ะกลับมาเล่าต่อนะคะ เคยฟังแต่รสชาติแบบเมตตาตอนนี้มาฟังรสชาติเข็มข้นบ้างสนุกดีค่ะ อนุโมทนาด้วยค่ะ

 

สงสัยครั้งนี้จะตื่นเต้นจริงๆนะเนี่ย เห็นพิมพ์ผิดๆถูกๆ
แต่คงไปกล้าไปดูหรอกค่ะ ...กลัว...

 

สุดยอดค่ะ! อ่านแล้วระทึกตาม
แต่ในท่ามกลางความระทึก ก็ยังมี where where is where where นี่สิเด็ดสุด

 

บอกหน่อยครับคุณรักไร้พ่าย ตกลงว่าที่หูที่ถ่ายติดอะไรมานี่ถ่ายติดอะไรมาครับ อยากรู้มากครับ ด้วยความเคารพครับ

 

เจ๋งอ่ะ..นู๋ชอบนะมันส์ดี!!

 

พี่ Lucky จังซี่ต้องลองสิครับ 5555 ยุใหญ่ๆ

 

ขออนุญาติ อึ่ง นะครับ
ตามอ่านงานของคุณรักไร้พ่ายมานาน มีอันนี้ทำเอาผมอึ๊งสุดๆเลยครับ

 

คิดว่าหมอดูคนนี้มีวิธีการหลายขั้นตอนในการหาเงิน ไม่ใช่ธรรมดา อย่าเชื่อโดยไม่มีเหตุผล

 

ไม่กล้าดูหรอกคะ น่ากลัวเกิน.5++ แต่ก็ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังคะ

 

อึ้ง...กันไป

 

มีต่อไหมค่ะ กำลังเค้มข้น ขอบคุณนะค่ะ

 

ผมเองไม่เคยเจอหมอดูท่านนี้ครับ
เเต่ว่ารู้สึกชื่นชอบเพราะติดตามอ่านในหนังสือ 44 หมอดูเเม่นมาก
เเละนอกจากนั้นยังเจอเว็บหมอทรายอีกด้วย

เเต่นึกไม่ถึงว่าราคาสุงสุดจะโหดขนาดนี้

 

อ่านแล้วแปลกใจดีค่ะ น่าติดตาม

 

มันส์มากเลยคะ แต่โหดไปหน่อยนะคะ ไปคนเดียวคงสยองน่าดู จะติดตามอ่านเรื่องต่อไปนะคะคุณรักไร้พ่าย เป็นแฟนประจำคุณรักไร้พ่ายอีกคนคะ

 

แล้วความแม่นแค่ 50% หรือเกินกว่านั้นครับ สำหรับ 499 บาท ของคุณรักฯ ?