ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 18 มกราคม 2010.

  1. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    เมือคืนเพลียมากๆ ฝนก็ตกตลอด ถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่ม ทำธุระส่วนตัวเสร็จ กว่าจะได้สวดมนต์ก็ 4 ทุ่ม สวดแทบไม่จบแต่ก็แปลกที่แม้เพลีย แต่ใจไม่ค่อยฟุ้งซ่านเหมือนสวดมนต์ตอนหัวค่ำ หรือสวดตอนขับรถ....

    ...อ่านหนังสือรวมคำสอนหลวงพ่อ....ไปเจอถอดเทปการเทศน์ในงานศพคู่กับพระครูวิชาญชัยคุณ(หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
    .
    ...ก็ไม่ทราบว่าหลายๆท่านทราบกันเรื่องวัตถุมงคล ปี 2508 ที่หลวงพ่อฯ ท่านร่วมสร้างพระพิมพ์ต่างเนื้อผง+ดิน และร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วย ถือว่าเป็น"สมบัติพ่อให้" นอกวัดท่าซุงเหมือนกัน ผมไปวัดท่าซุงก็มักจะแวะวัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย....ใครมีโอกาสก็ไปทางนั้นก็แวะดูนะครับ

    ....หลวงพ่อสำราญท่านก็เป็นพระสุปฏิปันโนเหมือนกัน ท่านเคยนิมนต์หลวงพ่อพระมหาวีระ ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ช่วงปี 2508-2510 และก็เทศน์คู่กันบ่อยๆ...ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อสำราญท่านก็ไม่เน่าเปื่อย ยังอยู่ที่วัด.....

    สมบัติพ่อให้ ปี 2508 พระพิมพ์ต่างๆที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านร่วมปลุกเสกตอนอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยังคงมีตกค้างอยู่บ้างที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    รายชื่อพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
    1.หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตกปิฏฐารามจ.อุทัยธานี
    2.หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
    3.หลวงพ่อชม วัดตลุกจ.ชัยนาท
    4.หลวงพ่อบุญวัดตลุก จ.ชัยนาท
    5.หลวงพ่อสำเภา วัดสะพาน จ.ชัยนาท
    6.หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์จ.ชัยนาท
    7.หลวงพ่อสำราญวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท<O:p</O:p
    8.หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงจ.อุทัยธานี<O:p</O:p
    9.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร
    10.หลวงพ่อฉ่อง วัดมหาธาตุจ.ชัยนาท
    ***
    วันนี้เรื่องวัตถุมงคลล้วนๆ

    อนุโมทนาครับ:cool:
     
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    สาธุๆ สำหรับข้อมูลครับ

    ถ้าไผมาภาพลงให้ดูด้วยเด้ออ
     
  3. IEC

    IEC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,155
    ผมไปมาวัดปากคลองมะขามเฒ่ามาเมื่อปีที่แล้ว... ตอนนั้นคุณแม่บูชาพระผง ที่สร้างปี 2508 มาด้วยจำนวนนึง ไว้ขอไปค้นห้องพระก่อน ... ถ้ามีโอกาสจะถ่ายภาพมาให้ชมครับ
     
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    เรื่องวัตถุมงคลบ้างด้วยคนครับ พึ่งเลี่ยมเสร็จจะเอามาใช้ตอนสวดมนต์ทำกรรมฐาน ภาวนาคาถาเงินล้านครับ หุหุ

    แก้วมณีรัตนะ รุ่น ๑
    (แก้วเกลียวมะเฟือง)

    [​IMG]

    คัดลอกแบบย่อๆจากหนังสือสมบัติพ่อให้

    หลวงพ่อได้เมตตาทำแก้วมณีรัตนะให้ลูกหลานได้บูชาครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗ โดยพระเดชพระคุณท่านไปหาซื้อเองจากตลาดจังหวัดชัยนาท ลูกแก้วที่ท่านได้มาเป็นลูกแก้วใสที่มีรูปเกลียวมะเฟืองด้านใน หลวงพ่อได้เล่าประวัติและอานุภาพของลูกแก้วที่ทำ ในครั้งนั้นไว้ดังนี้

    ...ถอยหลังไปเมื่อคราวต้นปี (มกราคม ปี ๒๕๑๗) ตอนนั้นปรากฏว่าน้ำมันเขากำลังจะขึ้นราคา และเวลาเจริญพระกรรมฐานพบสมเด็จท่าน ท่านตรัสว่าบริษัทของเราไม่ควรจะจน ท่านว่าอย่างนั้นนะ จึงมีพระบัญชาให้ทำลูกแก้วขึ้น แต่ว่าคาถาทำลูกแก้วนี่ไม่มีในตำรา และก็เป็นเวลากระทันหัน อาตมากลับไปวัดเหลืออีก ๒ วัน ก็จะถึงวันเสาร์ห้า ก็ต้องขึ้นไปศึกษาวิธีการทำกับท่าน ๒ คืน เพราะว่ามีแก้วอยู่ลูกหนึ่งที่อาตมามีอยู่ ท่านบอกว่าแก้วลูกนี้เป็นแก้วลูกยอดของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ให้ใช้ลูกแก้วที่มีอยู่เป็นประธาน และก็ทำให้แก่บรรดาพุทธบริษัท ผลประโยชน์ที่จะพึงได้รับ ท่านบอกว่าไม่ควรประกาศผล ทั้งนี้เพราะท่านทำทุกอย่างสุดแต่ผู้ใช้จะอธิษฐาน และความมุ่งหมายของท่านก็มีว่าต้องการให้เป็นนิมิตของกสิณ เป็นนิมิตกรรมฐานแต่ว่าต้องใช้คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นคาถาภาวนา

    ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนาว่า พุทโธ หรือ นะมะพะธะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกกสิณนี้เป็นพื้นฐานของ ทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ ความหลังเราไม่มองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติ อย่างนี้ท่านเรียก อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็นอุปจารสมาธิเป็นผลของทิพจักขุญาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิษฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิษฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็สูง ให้อยู่ต่ำก็ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่ข้างหลังก็ได้ตามใจชอบ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง

    [​IMG]

    ในเมื่อเห็นลุกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิษฐานให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิษฐานให้พระองค์โตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึงที่สุดของ มโนมยิทธิ ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไปสุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็มีสภาพไปนั่งคุยกันได้สบาย เหมือนกับเรานั่งคุยอยู่ที่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่เราศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาพุทธบริษัท ว่าทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน

    ฉะนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานเป็นที่พอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไหร่ คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของบรรดาท่านพุทธบริษัทก็จะมีความคล่องตัวมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ เห็นภาพชัดจริง ให้สังเกตดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติ ลาภสักการะจะเกิด การเงินจะไม่ฝืดเคือง ถ้ายิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว เงินเดือนที่มันไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันขังตัวแน่นะ รวมความว่ามันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆนะ และวิธีใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งได้เคยกล่าวไว้แล้ว

    ก็เป็นอันว่าแก้วนี้ถ้ารับไปเพื่อใช้ให้ทำเป็นกรรมฐานทุกวัน และทุกวันที่บูชา ใช้บูชาด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า และควรอธิษฐานว่า

    "ขอความปราถนาทุกอย่างจงสำเร็จทุกประการ" เท่านั้นแหละ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.3 KB
      เปิดดู:
      4,551
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.3 KB
      เปิดดู:
      4,355
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2010
  5. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ว่างๆผมจะถ่ายรูปให้ดูนะครับ อาจจะไม่ชัด เพราะกล้องตัวนี้ มาโคร ไม่ค่อยดีสู้กล้องเก่าที่ถูกขโมยไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้บูชามาทุกพิมพ์ บูชามา 2-3 องค์ เป็นพิมพ์สมเด็จ 1 องค์, เป็นเนื้อว่านหลวงพ่อสำราญ 1 องค์, พิมพ์ขุนแผน 1 องค์
    .....จริงๆแล้วยังมีพิมพ์อื่น เช่น รูปหลวงปู่ศุข, ปางลีลา พิมพ์เม็ดขนุน...และบล็อคพิมพ์ทั้งหมดยังอยู่ที่ตู้กระจก(พิพิธภัณฑ์)ที่ศาลาหลวงปู่ศุข พระพิมพ์ต่างๆจะเป็นลักษณะคล้ายๆเนื้อดินดิบ ผสมผง(ดอกไม้, ธูป,เทียน)
    .....หลวงพี่ที่วัดเล่าให้ฟังว่า พระรุ่นปี 2508 นี้มีดินก้นสระหลวงปู่ศุข(ปัจจุบันถมไปแล้ว)ที่ท่านใช้อาคมทำให้ทหารของกรมหลวงชุมพรฯ กลายเป็นจรเข้ด้วย....และก็มีจากดินท่าน้ำวัดปากคลองมะขามเฒ่า....

    ....ส่วนกรมหลวงชุมพร(ทหารเรือเรียกท่านว่า"เสด็จเตี่ย)ท่านเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อพระราชพรหมยานอย่างไร(อดีตชาติ) หลายๆท่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ โดยเฉพาะท่านที่ได้มโนมยิทธิ(ผมไม่ได้... ขออนุญาตไม่กล่าวถึงก็แล้วกันนะครับ)

    ...อนุโมทนาครับ:cool:
     
  6. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ลูกแก้วของคุณบอยเลี่ยมได้สวยมาก....ผมมีรุ่น 1 และ 2 อย่างละลูก เลี่ยมพลาสติกจากวัด หลังๆต้องแขวนหลบในเสื้อ....พวกคะนองปากมีเยอะ กลัวเขาจะลงข้างล่างกันน่ะ....:mad: เพราะเหมือนลูกแก้วเด็กเล่น แต่อานุภาพไม่ใช่เล่นๆ

    ...ผมไม่ถือ แต่กลัวเพื่อนๆ ปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่ตั้งใจนะครับ

    ...ขอบคุณๆบอยนะครับที่นำข้อความเรื่องลูกแก้วมาพรีเซนต์ในรูปแบบที่น่าสนใจ....ส่วนใหญ่ผมโพสต์แต่ข้อมูล แต่ไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าคุณบอย และ พี่หมอ
    ...อนุโมทนาครับ:cool:
     
  7. เด็กบางแค

    เด็กบางแค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,989
  8. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    ช่วยๆกันครับ เชื่อว่ามีลูกหลานหลวงพ่อที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็แวะมาอ่านเงียบๆ ถือว่าเราช่วยกลุ่มหลักในห้องพระเครื่องเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อครับ หุหุ

    ส่วนเรื่องลูกแก้วผมก็ไม่ค่อยกล้าแขวนโชว์เหมือนกันครับ มีคราวหนึ่งผมแขวนพระคำข้าว และ พระหางหมากในตลับเงินเดียวกัน ไปนั่งกินหมูกระทะเพื่อนมันทักเลยเฮ้ย พระทูโทน น่ารักดีว่ะ แล้วก็หัวเราะกันใหญ่ นับจากวันนั้นผมไม่แขวนพระคำข้าวและหางหมากในตลับเดียวกันออกนอกเสื้ออีกเลย กลัวจะทำเพื่อนลงด้านล่างซะหมด
     
  9. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ***
    เคยเห็นแว๊บๆ พระหางหมาก กับพระคำข้าว ที่คุณบอยใส่ตลับเดียวกันทรงสูงๆ...

    ...ลูกแก้วของหลวงพ่อนี่ผมจะคล้องเชือกร่มครับ เพราะเข้าที่ทำงานบางโซน สร้อย, แหวน , นาฬิกา หรือโลหะอื่นได้นี่ต้องถอดทั้งหมด ยอมได้แค่หัวปากกาลูกลื่น....ห่วงเล็กๆที่ยึดลูกแก้วกับเชือกร่มก็ไม่เป็นไร ก็อุ่นใจหน่อย ดีกว่าไม่มีอะไรติดตัว....พกผ้ายันต์หรือรูปถ่ายติดกระเป๋าเสื้อก็ดีตรงนี้ครับ ไม่เป็นโลหะ....กำลังใจยังไม่ค่อยทรงตัว....ต้องพึ่งวัตถุมงคลไปก่อน แล้วค่อยๆสร้างกำลังใจขึ้นมา
    ....ขออนุญาตทำงานก่อนนะครับ แล้วจะหาข้อมูล+ธรรมะของหลวงพ่อมาฝาก
    อนุโมทนาครับ:cool:
     
  10. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    โอ้ ทำเกี่ยวกับอะไรครับนี่ต้องถอดพวกโลหะด้วยหรือครับ

    ขออนุญาติถามเป็นความรู้นะครับ ^^
     
  11. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    เคยฟังเทปจริต 6 ประการที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ อัดเทป ถวายในหลวง ผมก็โหลดจากเว็บพลังจิตนี่เอง ...ให้เราพิจารณาตัวเองว่ามีจริตในตัวแบบไหนมากที่สุด แล้วก็เลือกทำกรรมฐานในแต่ละกองให้เหมาะสมกับจริตของตัวเอง....รายละเอียดผมไม่ได้พิมพ์ลง....ยังไม่ค่อยว่าง....จริงๆแล้วในหนังสือ กรรมฐาน 40 ก็จะมีแนวทางอยู่แล้วถ้าใครมีก็ลองอ่านแล้วเลือกปฏิบัติกันดู....หรือจะอธิษฐานเสี่ยงทายดูก็ได้นะครับว่าควรจะปฏิบัติกรรมฐานกองไหน

    อนุโมทนาครับ:cool:
     
  12. เพพัง

    เพพัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +8,250
    รอชมภาพครับ
    อยากทราบค่าบูชา และทางวัดมีการให้บูชาทางไปรษณีย์ไหมครับ
     
  13. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ***
    วัตถุมงคลปี 2508 ราคาไม่สูงครับ พิมพ์ขุนแผน,พิมพ์ลีลา, เม็ดขนุน เนื้อดินดิบ+ผง 200-300 บาท, เนื้อว่านรูปหลวงพ่อสำราญผมบูชามา 500 นะครับถ้าจำไม่ผิด , เนื้อว่านหลวงปู่ศุข 900 (ไม่แน่ใจ) พิมพ์สมเด็จ องค์ใหญ่เกือบๆเท่าปรกโพธิ์หลวงพ่อกวย ก็มี 1,9xx บาท ที่ไม่แน่ใจนี่ผมไม่ได้บูชามาครับ....รูปถ่ายถ้าว่างวัน 2 วันนี้จะถ่ายรูปให้ดูครับ....ไม่มีบริการส่งทางไปรษณีย์
    ....ขอตัวไปสวดมนต์ก่อน พึ่งจะกลับถึงบ้านครับ
     
  14. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    แก้วมณีรัตนะ รุ่น ๒

    แก้วรุ่น ๒ เป็นแก้วกลมสีเขียวอ่อน
    ปลุกเสก เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๔
    ข้อมูลจากหนังสือสมบัติพ่อให้

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.2 KB
      เปิดดู:
      2,003
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.4 KB
      เปิดดู:
      2,061
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    แก้วมณีรัตนะ

    [​IMG]

    ใน จักกวัตติสูตร อังคุตตรนิกาย กล่าวถึง สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ว่าประกอบด้วย แก้ว ๗ ประการ คือ

    ๑. จักกรัตนะ (จักรแก้ว) ๒. อิตถิรัตนะ (นางแก้ว) ๓. มณีรัตนะ (ดวงแก้ว) ๔. ปรินายกรัตนะ (ขุนพลแก้ว) ๕. คหปติรัตนะ (ขุนคลังแก้ว) ๖. หัตถิรัตนะ (ช้างแก้ว) ๗. อัสสรัตนะ (ม้าแก้ว)

    จักรแก้ว เป็นเครื่องหมายประกาศความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ อานุภาพแห่งจักรแก้วนั้น ยามปรากฏขึ้น จะดึงดูดเอามหาสมบัติทั้งหมดในสะดือทะเล (อยู่แถว ๆ ท้องทะเล แฮ่...) มาไว้ในท้องพระคลังหลวง และเป็นพาหนะให้ขุนพลแก้ว พาทหารทั้ง ๔ เหล่าทัพ เหาะไปปราบปรามในทวีปทั้งสี่ (เหมือนยานขนส่งอวกาศเลย...)

    นางแก้ว เป็นอัครมเหสีคู่บารมีพระเจ้าจักรพรรดิ กลิ่นกายหอมเหมือนดอกอุบล หน้าหนาวเนื้อจะอุ่น หน้าร้อนเนื้อจะเย็น งามพร้อมด้วยเบญจกัลยาณีอิตถีลักษณ์ทุกประการ จะมีเทวดานำจาก อุตรกุรุทวีปมาถวาย (ขอข้อยจั๊กคนแหน่...!)

    ดวงแก้วมณีโชติ จะปรากฎผุดขึ้นใจกลางมหานคร แล้วเคลื่อนไปอยู่ในท้องพระคลัง ทำหน้าที่รักษาสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ให้มีเพียงพอเลี้ยงดูประชากรทั้งโลก ส่องสว่างอยู่ชั่วกาลนาน (เป็นทั้งยาม ทั้งนายบัญชีเลยนิ...)

    ขุนพลแก้ว ผู้ประกาศบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ให้ปรากฏไปตลอดทวีปทั้ง ๔ ใครไม่ยอมสวามิภักดิ์ ก็เป็นหน้าที่ของขุนพลแก้ว ที่จะปราบปรามให้ราบคาบ รบกับใครไม่มีคำว่าแพ้ ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิสละราชสมบัติ ขุนพลแก้วก็จะขึ้นเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแทน...

    ขุนคลังแก้ว เป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ หากยามใดที่ทรัพย์สมบัติมีทีท่าว่าจะไม่พอเพียง ขุนคลังแก้วก็จะใช้ทิพจักขุญาณ มองหาขุมทรัพย์ใต้ดิน แล้วขุดขึ้นมาเก็บไว้ในท้องพระคลัง บ้านเมืองใดขัดสน ก็ขุดขึ้นมาให้เขาใช้จ่าย (ขอมั่งฮี่...)

    ช้างแก้ว เป็นช้างเผือกตัวประเสริฐ สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยคชลักษณ์อันอุดมมงคล จะมาสู่โรงช้างต้นด้วยตนเอง ยามออกรบแค่ช้างศึกฝ่ายตรงข้ามได้กลิ่น ก็แตกพ่ายไปเอง (แบบว่ามันเก่งมาตั้งแต่เกิดน่ะ...ฮิ...ฮิ...)

    ม้าแก้ว เป็นม้าอาชาไนยแห่งลุ่มน้ำสินธุ เกิดมาผ่าเหล่าผ่ากอ (เอ๊ะ..ชมหรือด่ากันแน่หว่า...?) ปรากฎเป็นลักษณะอันประเสริฐ มีฝีเท้าจัด ยามวิ่งเหมือนเดินบนที่ราบ (นี่มันอัสดรพันลี้ในกำลังภายในละมั้ง...?) จะเดินมาเข้ากรง เอ๊ย...โรงม้าด้วยตนเองเช่นกัน...

    ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะมณีรัตนะเท่านั้น เรื่องมีอยู่ว่า หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก แห่ง วัดไชยมงคล (วัดวังมุย) จังหวัดลำพูน ท่านเป็นหนึ่งในพระสุปฏิปันโน ที่หลวงพ่อแนะนำให้ลูก ๆ ไปทำบุญด้วย ท่านมีวิชา ปรอทสำเร็จ...

    คือท่านสามารถนำปรอทมาเสกเป็นตัว เพื่อทำตะกรุดปรอทได้ อาตมาเคยได้มาดอกหนึ่ง (ได้ให้ลูกปุ๊ก (สุมาลี ตีรเลิศพานิช) ไปแล้ว) อันวิชาปรอทสำเร็จนั้น สุดจะยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้ว และความสามารถของหลวงปู่นั้น หลวงพ่อเล่าว่า...

    หลวงปู่ชุ่มสามารถ เข้านิโรธสมาบัติด้วยอิริยาบถทั้ง ๔ (ปกติผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติ จะเข้าได้เฉพาะอิริยาบถใดอิริยาบถหนึ่ง ส่วนใหญ่ไม่นั่งก็นอน) ซึ่งหลวงพ่อเล่าว่าในชีวิตของท่าน ไม่เคยได้ยินว่ามีใครทำได้อย่างนี้มาก่อนเลย...

    แต่ความสามารถระดับนี้ของหลวงปู่ชุ่ม ท่านทำได้แค่เสกปรอทเป็นตัวเท่านั้น หลวงปู่บอกว่า ครูบาอาจารย์ของท่าน สามารถเสกปรอทเป็นแก้ว ได้ ปรอทนั้นมีทั้งตัวผู้ตัวเมีย ถ้าเสกปรอทตัวเมียจะเป็น แก้วราหู ถ้าเสกปรอทตัวผู้จะเป็น แก้วจักรพรรดิ...!

    หลวงปู่ท่านไม่ใช่มีแต่ราคาคุยเท่านั้น ลูกศิษย์ใกล้ชิดบางท่านที่โชคดี ก็ได้รับแก้วราหูจากมือหลวงปู่ไปบูชา ส่วนแก้วจักรพรรดินั้นหลวงปู่ได้รับมาแค่องค์เดียว วันหนึ่งหลวงปู่ซึ่งทราบวาระของท่านเอง ก็ไปหาหลวงพ่อถึงวัดท่าซุง...

    หลวงปู่ชุ่มได้มอบลูกแก้วจักรพรรดิแก่หลวงพ่อ พลางบอกว่า “หลวงพี่แก่แล้ว งานที่จะต้องทำไม่มีอีกแล้ว หลวงพี่ขอมอบแก้วจักรพรรดินี้ให้แก่หลวงน้องไว้ ต่อไปหลวงน้องต้องปกครองบริวารเป็นจำนวนมาก ลูกแก้วจักรพรรดินี้จะช่วยหลวงน้องได้มาก...”

    หลวงพ่อสนองความเมตตาของหลวงพี่ (อดีตชาติท่านเป็นพี่จริง ๆ) รับเอาลูกแก้วจักรพรรดิไว้ หลังจากนั้นไม่นาน หลวงปู่ชุ่มก็มรณภาพ (เฮ้อ...ไม่น่ารับเล้ย รับแล้วหนีเลย) ส่วนหลวงพ่อก็พกแก้วจักรพรรดิติดองค์เรื่อยมา...

    ต่อมา... “พระ” ท่านเสด็จมาบอกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อจะต้องทำงานใหญ่ในกาลข้างหน้า ถ้าลูก ๆ ไม่มีความคล่องตัวในการเป็นอยู่จะสนับสนุนหลวงพ่อได้ไม่เต็มที่ ขอให้ไปหาลูกแก้วมา ท่านจะช่วยเสกให้ ผู้ที่ได้ไปจะเหมือนกับมีแก้วสารพัดนึกไว้ทีเดียว...

    หลวงพ่อท่านขึ้นไปที่ดาวดึงส์ ขอดูลูกแก้วจักรพรรดิของท่านปู่พระอินทร์ ปรากฏว่ามีลักษณะเหมือนของหลวงปู่ชุ่มเปี๊ยบเลย กระทั่งสีสรรพ์ก็แทบไม่แตกต่างกัน ท่านปู่บอกด้วยว่า ขอให้หลวงพ่อทำตามที่พระท่านบอก ท่านปู่จะมาช่วยอีกแรงหนึ่ง...

    หลวงพ่อให้ลูกศิษย์ไปหาลูกแก้วมา ลูกศิษย์ตัวดีก็เหลือเกิน ไปเหมาลูกแก้วเด็กเล่นที่บางลำพูมาทั้งกระจาด (จะให้ดีกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้) หลวงพ่อก็เมตตาทำพิธีให้โดยมีแก้วจักรพรรดิเป็นองค์ประธาน แล้วแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์เป็นการภายใน ๒ วาระ ปรากฏว่าผู้ที่รับไปต่างก็มีผลทางด้านลาภเป็นที่น่าอัศจรรย์...

    ต่อมาจึงทำแจกเป็นการสาธารณะ โดยใช้แก้วคริสตัลของออสเตรียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้ที่ได้ไปก็ประสพผลในด้านต่าง ๆ ทั้งลาภผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นสารพัดนึกจริง ๆ หลวงพ่อจึงเรียกว่า “แก้วมณีรัตนะ” คือ เหมือนกับมีแก้วจักรพรรดิไว้ในครอบครองนั่นเอง...

    หลวงพ่อเองก็ออกปากว่า ตั้งแต่ได้แก้วจักรพรรดิมา การงานการเงินมีความคล่องตัวมาก ในองค์หลวงพ่อพกของมงคลอยู่เพียง ๒ อย่าง คือพระบรมสารีริกธาตุ และลูกแก้วจักรพรรดินี้เอง การพุทธาภิเษกทุกครั้ง หลวงพ่อต้องนำแก้วจักรพรรดิมาเป็นองค์ประธาน

    ลูกแก้วจักรพรรดิที่หลวงปู่ชุ่มมอบให้ เป็นลูกแก้วขนาดเขื่องกว่าลูกปิงปองเล็กน้อย มีลวดลายคล้ายสีทองในเนื้อแก้ว เปล่งแสงสีม่วงอ่อน เหลือบรุ้งสวยงามยิ่งนัก ต่อมางานของหลวงพ่อมากขึ้นทุกที “ท่านย่า” จึงมอบแก้วให้อีก ๑ องค์ บอกว่าเป็นองค์น้อง มีขนาดเล็กกว่านิดหน่อย หลวงพ่อก็ใช้ควบคู่กันเรื่อยมา...

    อาตมาพบปาฏิหาริย์ของแก้วมณีรัตนะ อย่างชัดเจนที่สุดวาระหนึ่ง คือ อาตมาตีเช็คล่วงหน้าไป ถึงเวลาหาเงินเข้าบัญชีไม่ทัน ถ้าหากเงินสองแสนบาทไม่ได้ภายในสองวัน ก็คงติดคุกหัวโตกันบ้าง หันหน้าไปพึ่งใครเข้าก็เบือนเป็นแถว (อีตอนพึ่งเราละวิ่งเข้าใส่...)

    หมดท่าเข้าจริง ๆ อาตมาก็พึ่งลูกแก้วของหลวงพ่อ นำลูกแก้วมาตั้งเฉพาะหน้า แล้วอธิษฐานขอเอาดื้อ ๆ จากนั้นก็ตั้งอกตั้งใจภาวนา ผลที่ออกมาเหลือเชื่อ คือมีผู้ให้ยืมเงินจำนวนสองแสนบาท โดยที่คนให้ยืมนั้น เคยเห็นหน้าอาตมาครั้งเดียวเท่านั้นเอง...!

    ผู้ที่ได้แก้วมณีรัตนะรุ่นแรก (แก้วเด็กเล่น) ไป ถึงได้หวงกันเป็นนักหนา ถึงลักษณะเป็นลูกแก้วเด็กเล่น แต่อานุภาพไม่ได้ล้อเล่นด้วย ท่านปู่พระอินทร์บอกว่าอานุภาพเกือบเท่าของจริงเลยทีเดียว (มิน่าล่ะ...ขออะไรได้อย่างนั้นเลย...)

    แก้วมณีรัตนะรุ่นแรกนั้น อาตมาได้รับจาก หลวงปู่มหาอำพัน โดยที่ผู้ได้รับพร้อมกันมี พี่มุกดา (คุณมุกดา เพชรชื่นสกุล) เกียง (มาลินี ตีรเลิศพานิช) ลูกปุ๊ก (สุมาลี ตีรเลิศพานิช) ต่างคนต่างรักษายิ่งกว่าชีวิต เพราะของดีของมงคลที่รับจากมือครูบาอาจารย์แบบนี้ ใช่ว่ามีกันทุกบ่อยเสียเมื่อไร รับจากคนอื่นอาจเป็นของปลอมก็ได้ใครจะรู้...!

    ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๓
    พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    จากเวบกระโถนข้างธรรมาสน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.4 KB
      เปิดดู:
      2,112
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2010
  16. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    สวดมนต์เสร็จแล้วครับ....

    วัตถุมงคลปี 2508 นั้นก็ทำพร้อมกับ พระของหลวงพ่อรุ่นไฟลวกมือ ในหนังสือสมบัติพ่อให้นั่นเอง ซึ่งเป็นช่วงที่หลวงพ่อเริ่มสร้างพระครั้งแรกๆ

    ในการสนทนาธรรม หรือเรื่องเล่าของหลวงพ่อหลายๆที่ จะกล่าวถึงหลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่าอยู่เสมอ และก็กล่าวถึงพระมหาประทวน ซึ่งอยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อสำราญด้วย(ปัจจุบันคือหลวงพ่อประทวน เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท และเจ้าอาวาสวัดปากคลองฯ กราบขออภัยที่จำสมณศักดิ์ท่านไม่ได้).....ผมมีมีดเทพศาสตราของหลวงพ่อสำราญอยู่ 1 เล่ม ยาวประมาณ 9 นิ้ว ทราบแต่เพียงว่าสร้างในปี 2535 ตามตำรับหลวงปู่ศุข....ซึ่งในช่วงนั้นหลวงพ่อฯก็สร้างมีดหมอชาตรีด้วย....แต่จะมีการฝากเข้าร่วมพิธีฯ กันหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ เพราะหลวงพ่อท่านทั้งสองต่างก็เคารพคุ้นเคยและไปมาหาสู่กันเสมอๆ
    ...และจากการที่ได้อ่านการถอดเทปที่หลวงพ่อทั้งสองเทศน์ด้วยกัน....ส่วนตัวผมเชื่อว่าหลวงพ่อสำราญท่านก็มีภูมิธรรมขั้นสูง(เท่าหลวงพ่อพระราชพรหมยาน) เพราะหลวงพ่อสำราญก็ได้กล่าวถึงเมืองแก้ว(นิพพาน)อยู่เหมือนกัน ลีลาการเทศน์ก็คล้ายๆกับหลวงพ่อพระราชพรหมยานด้วย....และถ้าใครได้อ่านหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 ...คุณบุญถึง เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสำราญมาก่อน และหลวงพ่อสำราญท่านก็แนะนำคุณบุญถึงให้ไปหาหลวงพ่อมหาวีระ จนคุณบุญถึงฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อฯด้วยและก็เป็นศิษย์คนสำคัญท่านหนึ่งของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเลยทีเดียว....
    ....จะเห็นได้ว่า พระอริยสงฆ์ในสมัยก่อนท่านจะไม่หวงศิษย์ และจะแนะนำให้ลูกศิษย์ไปกราบครูบาอาจารย์ที่ดีๆ เป็น 1 ในมงคลชีวิต 38 ประการ
    ...อนุโมทนาครับ
     
  17. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    ข้อมูลแน่นมากๆครับ สาธุ :cool:
     
  18. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ....คุณบอยนี่ไม่ธรรมดาจริง คลังย่อยๆของสมบัติพ่อให้เลยนะเนี่ย:cool:

    ...ลูกแก้วรุ่น 2 ปี 2524 นี่ข้างตู้ที่วัดท่าซุงก็ระบุไว้ตรงกับในหนังสือสมบัติพ่อให้..

    ...จากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า 51 (ปกเขียวเล่มเก่า)ในวันเสาร์ 5 วันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ 2525 ก็มีพิธีพุทธาภิเษก แหนบทอง พระรอดเนื้อว่าน 108 และแก้ว หลวงพ่อบอกว่าเป็นแก้ว ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นแก้วอะไร หรือว่าเป็นลูกแก้ว....ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ใครพอทราบช่วยบอกที....

    อนุโมทนาครับ
     
  19. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    ไม่หรอกครับ มีเท่าที่เห็นนี่แหละครับ หุหุ

    เคยคุยกับพี่แก้ว (กระพี้) เขาว่าในหนังสือบางจุดก็ลงรายละเอียดวันปลุกเสกผิดหลายจุดนะครับ เหมือน สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 2 ในหนังสือก็ลงวันที่ปลุกเสกผิด ที่ถูกคือเข้าพิธีเป่ายันต์น่ะครับ ผมก็ งงๆ วันเหมือนกัน
     
  20. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,155
    ***
    เรื่องวันพิธีนี่...จริงๆแล้วสำหรับผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร....ขอเพียงเป็นของหลวงพ่อฯก็ดีใจแล้ว....แต่ความซุกซนก็ไปหาข้อมูลมา....อย่างพิธี 27 ก.พ.2525 นี่ก็เป็นข้อความที่ถอดเทปคำพูดของหลวงพ่อ(ผมเคยนำมาโพสต์ลงในกระทู้นี้แล้ว) ....อย่างพิธีฯ สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 2 นั่นที่ผมเคยดูไฟล์ดีวีดีแล้วมาโพสต์ลง ก็ลืมดูในหนังสือสมบัติพ่อให้ว่าระบุวันตรงกันหรือไม่....ลองตรวจสอบย้อนหลังกันดูนะครับ...แฮ่ะๆๆ
    ...สำหรับผม ความผิดพลาดแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา....หรืออย่างพระหางหมาก รุ่นพิเศษ ที่ข้างตู้ที่วัด ระบุ 8 ก.พ.2534 ตรวจดูปฏิทินแล้วก็ไม่ใช่วันเสาร์ 5 และหาข้อมูลดูแล้ววันนั้นที่วัดก็ไม่น่าจะมีพิธีอะไร มาชัดแจ้งก็เมื่อดูดีวีดีอีกเหมือนกันว่าเข้าพิธีพร้อมสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 2 จำนวน 100,000 องค์......สนุกและมีความสุขที่ได้ค้นคว้าข้อมูล และท่านใดจะมีข้อมูลเพิ่มเติมก็มาบอกกันนะครับ ช่วยๆกันจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ศิษย์รุ่นใหม่ๆจะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องกันไปด้วย หลายๆอย่างผมก็แวบไปดูกระทู้พี่แก้วเหมือนกัน ก็ค้นคว้าไปเรื่อยๆ....
    ...อนุโมทนาครับ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...