ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์"
    จากบันทึกของชาวพุทธ

    [​IMG]

    เป็นกรรมของสัตว์โลกน่ะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ ปลายปี 47 (ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรเกิดแล้ว จิตเกือบจะเผลอปรามาสครูบาอาจารย์เข้าแล้วเชียว) แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและ อุบัติภัยสงคราม และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระเจ้าจักรพรรดิ์ลงมา ภัยพิบัติจึงจะสงบ

    ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้" ท่านว่า "ปู่ยี เว้า ก็ปานพระเจ้า เว้า นั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้" เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น

    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯ ก็มิใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม. เขาเริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะเป็นแก่งทั้งหมด ครูบาอาจารย์ท่านว่า ท่านจะเอาแค่เพชรบุรีขึ้นมา

    เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้ เป็นสัญญาณของยุคจักรพรรดิ์ที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องของเฉพาะบุคคล เช่นเรื่อง ธาตุแก้วเจ็ดประการ ที่เริ่มมาปรากฎเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่นๆอีกหลายอย่าง ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น

    ผู้ที่ไม่มีหน้าที่และเข้าไม่ถึงระบบธาตุเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าใครมีจิตที่เอ็กเรย์ธาตุได้ ก็จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร อย่างแก้วมังกร และแก้ววิเศษของเทวดา ก็อาจจะเป็นของไร้ค่าในโลกมนุษย์ เพราะความไม่รู้

    ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่า แค่นาคโก่งหลังขึ้นมา มนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไปบางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ นี่ยังไม่นับภัยพิบัติจากท้าวกกนาก แถวลพบุรี ที่ในไม่ช้า(ช่วงท้ายๆของภัยพิบัติ)จะลุกขึ้นมา(ภายใน)เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ์ ขณะที่ทหารลิง 18 กองพลที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อยู่ เขาก็ถอนกำลังไปอยู่ที่อื่นแล้วเมื่อตอนออกพรรษาที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์ท่านว่ายักษ์กกนากตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัวได้ พิษของยักษ์จะทำให้เกิดโรคระบาด้ายแรง มนุษย์จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีลธรรมก็ไม่เป็นไร

    เราค่อนข้างมั่นใจว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง(ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียร รักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงจะต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง

    ขออย่ามากังวลกับสิ่งที่เราเล่า หากท่านเดินตามทางบุญ ทางกุศล ที่ครูบาอาจารย์ของตนเองสอนได้แล้ว ก็คงจะเอาตัวรอดได้ ครับ และไม่มีใครเตือนใครได้ดีเท่ากับ การเตือนตนด้วยตนเอง ครับ

    ศาสนาอื่นนั้นไม่เหลือหรอกครับ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายกันมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมดครับ เท่าที่ทราบต่อไปมหาอำนาจ อย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย ศูนย์กลางโลกศูนย์กลางศาสนาอยู่ในเขตประเทศไทยนี่แหละ ซึ่งต่อไปที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนาในยุคจักรพรรดิ์ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดยสามร่มโพธิ์ศรี อัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิ์จะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลก อย่างที่พวกยิวเขาคิดจะครองโลกกันนั้น ไปไม่ถึงดวงดาวหรอกครับเพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว

    เหตุที่เกิดในภาคใต้ซึ่งเป็นเขตพุทธศาสนายังรุนแรงขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่นๆนั้น จะรุนแรงกว่านี้มากครับและความหายนะที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมากด้วย

    ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่าอย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณ ของพวกนี้เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้นที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าพวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้เขาก็มาเกิดกันมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตไทยและใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีมาในภพภูมิไหนมามาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้นและเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ

    และบางครั้งการทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก แต่คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ที่เห็นก็คือผลที่แสดงออกมาภายนอก และพยายามอธิบายกันด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการรู้นอกแต่ไม่รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก แต่ไม่เข้าใจถึงเรื่องกฏแห่งกรรมซึ่งเป็นเหตุภายใน เป็นต้น นี่คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆ ก็เลยเกิดความ "ประมาท" กันต่อไป ครับ

    ต่อไปจะมีพระจักรพรรดิ์เป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมมิกราชจะเป็นคล้ายพระสังฆราช และจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง จะทำหน้าที่คล้ายนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา นั่นเอง

    เอาเป็นว่า มีผู้ที่เขาลงมาทำหน้าที่นี้กันครับ และก็มีเหล่าอัญญาสิทธิ์ อัญญาธรรม ที่ตามลงมาทำหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง บางคนก็รู้ตัวเองแล้ว บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ตัวเองครับ ถึงเวลาแล้วก็คงจะได้เห็นว่าของจริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านบางคน บางท่าน จะมีชื่อเสียงในหมู่ของเทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ ฤษี มุนี ดาบส ฯลฯ และพวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมมิกราชนี่แหละ แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จักเพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบๆและลี้ลับ เป็นต้น ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรยๆให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง" ครับ


    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนดและยุคพระยาธรรมฯ ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในกึ่งกลางพระพุทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อย่างในยุคพระเวสสันดร(ซึ่งเป็นช่วงประมาณกึ่งกลางศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) หลังจากพระเวสสันดรได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดยุคพระยาธรรมฯหรือยุคพระจักรพรรดิ์ขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าลูกชายพระเวสสันดรจะเป็นพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น

    และในยุคร่วมสมัยในปัจจุบันนี้ มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมีจนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกัน ดังนั้นผมก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมฯ นั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้วครับ ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำกันได้เลยครับ หากเมื่อใดผู้ที่ได้พรพระอินทร์เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา(ซึ่งเป็นประเพณีส่วนหนึ่งของการปรารถนาพุทธภูมิ) ระบบที่ทำหน้าที่ภายในเขาก็จะทำงาน ตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีลห้า ศีลแปด ของบุญบารมีที่แต่ละท่าน บำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ครับ

    ให้ลองนึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะเป็นแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่เขาทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นได้แค่ระดับนาคใหญ่เขาโก่งหลัง หรือสะดุ้งเพียงเล็กน้อย ลองจินตนาการดูว่าหากพวกนาคบางพวกเขามีหน้าที่ทำฤทธิ์เพื่อล้างผู้ที่มีศีลธรรมไม่เพียงพอสำหรับการอยู่ในยุคพระยาธรรม บนโลกนี้ก็จะเหลือคนไม่มาก อย่างที่พระสูตรบอกไว้ครับ

    จากคุณ คนไกล เมื่อวันที่ 30/12/2547 8:42:27<!-- google_ad_section_end -->

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน20จว.เหนือ-อีสานระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนผู้ที่อาศัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก


    อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวันได้พัฒนาตัวขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ฟานาปี”( FANAPI)แล้ว กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไต้หวันและประเทศจีนตอนใต้ ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา

    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พิจิตรน้ำท่วมขังเริ่มเน่าเหม็น-ชาวบ้านป่วย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พิจิตร 16 ก.ย. - ชาว จ.พิจิตร ซึ่งบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังนานประมาณ 1 เดือน เริ่มป่วยเป็นโรค และน้ำเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ขณะที่ จ.เชียงราย จัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากตลอด 24 ชั่วโมง

    เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย

    จัดเวรยามเตรียมพร้อมเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เพื่อให้สามารถออกช่วยเหลือชาวบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่น่าไว้วางใจ หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนัก รวมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มริมแม่น้ำ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม อ.สามง่าม จ.พิจิตร ยังขยายวงกว้าง ชาวบ้านกว่า 1,000 ครอบครัว เริ่มได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมขังเริ่มเน่าเหม็น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เกิดเฮอริเคน2ลูกพร้อมกันครั้งแรกในรอบ10ปี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>โดยพายุเฮอริเคนดังกล่าว คือ อิกอร์ กับจูเลีย ซึ่งมีกำลังแรงลมอยู่ในระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ


    เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศสหรัฐ เปิดเผยว่า เกิดพายุเฮอริเคน 2 ลูก ในเวลาใกล้เคียงกันที่มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2542 โดยพายุเฮอริเคนดังกล่าว คือ อิกอร์ กับจูเลีย ซึ่งมีกำลังแรงลมอยู่ในระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ โดยพายุอิกอร์กำลังคุกคามภูมิภาคแคริบเบี้ยน ขณะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังเบอร์มิวด้า ด้วยกำลังลม 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจพัดกระหน่ำเปอร์โตริโกกับหมู่เกาะเวอร์จิ้นในเร็ว ๆ นี้

    ส่วนพายุเฮอริเคนจูเลีย มีกำลังลมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้า ๆ นอกจากนี้ มีพายุก่อตัวอีกลูกในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเป็นพายุโซนร้อนคาร์ล ซึ่งอิทธิพลของพายุจะทำให้มีฝนตกชุกที่คาบสมุทรยูคาตัน ในเม็กซิโก

    ด้าน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริด้า เปิดเผยว่า พายุโซนร้อนคาร์ลอาจทำให้ชายฝั่งน้ำท่วม และมีฝนตกหนักในเม็กซิโกด้วยปริมาณความสูง 8 นิ้ว

    ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พายุโซนร้อนเฮอร์ไมน์พัดถล่มด้านตะวันออกเฉียงเหนือสุดของเม็กซิโก

    จากนั้น เข้ากระหน่ำสหรัฐ ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักในบริเวณพรมแดนของสองประเทศ อย่างไรก็ตาม สำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ เอ็นโอเอเอ รายงานว่า ในปีนี้จะมีพายุเกิดขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่าง 14 ถึง 23 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้ จะเป็นเฮอริเคนระหว่าง 8 ลูกถึง 14 ลูก และ 3 ถึง 7 ลูก จะเป็นพายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรง ด้วยกำลังลมไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ศึกสวนสันติธรรมซัดกันเละ!พระปราโมทย์แฉไฮโซสาวผิดหวัง-เสียปย.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ความคืบหน้ากรณีกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา (พรศ.)

    ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบพฤติการณ์พระปราโมทย์ ปาโมชโช(สันตยากร)เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยตั้งข้อสงสัยในเรื่องทรัพย์สินที่ยักย้ายถ่ายเทให้ นางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยา และพฤติกรรมอื่นๆ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ทางฝ่ายพระปราโมทย์มีกำหนดที่จะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 16 กันยายนนี้ที่สวนสันติธรรม จ.ชลบุรี

    ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานว่า นายธนเดธ พ่วงพูล ทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจากพระปราโมทย์ ให้เป็นผู้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนนั้น

    จะชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสวนสันติธรรม ความเป็นมาของการจัดซื้อที่ดิน การก่อสร้างสวนสันติธรรม ระบบการทำบัญชีเงินบริจาค ความสัมพันธ์กับนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง ไฮโซนักเขียนชื่อดังผู้ออกมายื่นโนติสให้พระปราโมทย์คืนเงินบริจาคกว่า 4 ล้านบาท และชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่กลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา นำโดยดร.เทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบธุรกรรมและพฤติกรรมของ

    พระโมทย์ด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นความสัมพันธ์กับนางสาวฐิตินาถนั้น ฝ่ายพระปราโมทย์ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่นักเขียนชื่อดังออกมาร้องเรียนเพราะผิดหวังและเสียประโยชน์จากการที่ไม่ได้เป็นผู้ใกล้ชิด เนื่องจากพระปราโมทย์เห็นว่าในระยะหลังนางสาวฐิตินาถเอาชื่อพระปราโมทย์ไปรับบริจาคเงินหลายครั้ง ซึ่งพระปราโมทย์เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงกันตัวนางสาวฐิตินาถออกมา โดยจะชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 16 กันยายนนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีรณัฐ โรจนประภา ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์

    เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า มูลนิธิบ้านอารีย์ ได้ติดตามพฤติกรรมของพระปราโมทย์มาระยะหนึ่งแล้ว เห็นว่ามีพฤติกรรมอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา จึงขอให้ตรวจสอบ ดังนี้


    1.พระปราโมทย์ได้ทำการอวดอุตริมนุสสธรรม คือ การพูด บรรยาย เขียนบทความ สื่อให้ผู้ฟัง ผู้อ่าน เข้าใจได้ว่าสำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว อันอาจเป็นเหตุนำมาซึ่งลาภสักการะ

    2.ใช้การแสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ คือ การดักทายใจของผู้ร่วมอบรมธรรมอย่างจงใจแทบทุกครั้ง อันนำมาซึ่งความเสื่อมถอยในการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน และ

    3.ได้เทศน์เกี่ยวกับไสยศาสตร์ อันอาจก่อให้เกิดการปิดกั้นทางปัญญาแก่พุทธศาสนิกชน และอาจก่อให้เกิดความหวาดกลัว ความเกลียดชัง ขึ้นในหมู่ชาวพุทธ อันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ดำรงอยู่ในสมณเพศ

    "ผมเคยเป็นกรรมการของสวนสันติธรรม แต่ได้ลาออกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าพระปราโมทย์มีลูกศิษย์ส่วนใหญ่มีชื่อเสียงในสังคม" นายวีรณัฐกล่าว

    นายนพรัตน์กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งการไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ชลบุรี

    ตรวจสอบทรัพย์สินที่มีการบริจาคให้กับสวนสันติธรรมแล้ว ขณะเดียวกันจากการสอบถามกรณีการโอนที่ดินให้เป็นชื่อของอดีตภรรยาที่เป็นแม่ชีอยู่ที่เดียวกันนั้น ผู้อำนวยการ พศจ.ชลบุรีรายงานว่าพระปราโมทย์เคยชี้แจงเจ้าคณะจังหวัดชลบุรีแล้ว ยอมรับว่าโอนจริง เพราะอยู่ในช่วงการทำเรื่องขอสร้างวัด หากสร้างวัดเสร็จแล้วจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นของวัด


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อของกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา ที่ยื่นเรื่องต่อดีเอสไอให้ตรวจสอบพระปราโมทย์ นอกจากดร.เทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร ผู้ประสานงานแล้วยังมีบุคคลอื่นอีก 21 คน ได้แก่ อาร์ม นาครทรรพ ผู้ประสานงาน , สมยศ อนันต์นาคินทร์ ,สมภพ ไกรกาบแก้ว ,กฤตกร ไกรกาบแก้ว ,อภิชาติ ศิริรัตนพิทยากุล ,วิมล ลิ้มวิลัย,วงศ์ดุษฎี รัศมินทราทิพย์ ,วรพร ลิ้มพรภักดี ,เสาวลักษณ์ สุขเจริญโชค , โกศล โสฬสรุ่งเรือง , วราภรณ์ กาญจนวนิชกุล ,ภพกฤต ธีระกฤตานนท์ , ผณินทร อินยาสม ,ฉัตรดนัย อำภา , สมยศ ศิริล้น , พุทธชาติ ศิริล้น , มะลิ ศิริล้น , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นิลุบล เปสี ,อ้อยพร จึงวิวัฒนาภรณ์, สุดารัตน์ อินยาสม และ ไตรเทพ เลิศวิริยะวิทย์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนาอ้างว่าการร้องเรียนครั้งนี้ มิได้มีวัตถุประสงค์ในการทำลายศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนา หรือทำลายชื่อเสียงของบุคคลหนึ่งบุคคลใด เพื่อให้ได้มาซึ่ง ผลประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใด การออกมาดำเนินการทั้งหมดนี้ เป็นไปตามหน้าที่อันพึงกระทำของพุทธบริษัทสี่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพฤหัสบดี ที่ 16 กันยายน 2553 เวลา 07:37 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เปิดคำแถลงพระปราโมทย์ให้อดีตเมียคุมบัญชีเพราะธรรมยุติฯ จับเงินไม่ได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันที่ 16 กันยายน 2553 นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความของพระปราโมทย์ ปาโมชโช(สันตยากร)เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดแถลงข่าวที่สวนสันติธรรม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และถูกนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง ไฮโซนักเขียนดัง ร้องเรียนพฤติกรรมและการทำธุรกรรมทางการเงินของสวนสันติธรรมและนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยา


    "มติชนออนไลน์"นำคำแถลงของพระปราโมทย์มานำเสนอดังนี้

    ข้อเท็จจริงกรณีของหลวงพ่อปราโมทย์ และสวนสันติธรรม

    การแถลงข่าวในครั้งนี้กระทำโดยตัวแทนของผู้มาปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรม มิใช่เกิดจากเจตนารมย์โดยตรงของหลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยเหตุว่าปัจจุบันมีกลุ่มของผู้ไม่หวังดีที่ได้กระทำการโดยมีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงอันดีงามของหลวงพ่อปราโมทย์ และของสวนสันติธรรม ทางสวนสันติธรรมจึงได้มอบหมายให้ตัวแทนดำเนินการจัดให้มีการแถลงข้อเท็จจริงในวันนี้ให้กับสวนสันติธรรมวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสวนสันติธรรม นั้น ได้จัดตั้งขึ้นมาตามความประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อปราโมทย์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และศึกษาธรรมของผู้ที่มีจิตศรัทธา และความประสงค์จะเข้ามาศึกษาธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ โดยในช่วงแรกได้จัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรมซึ่งไม่ใช่นิติบุคคล ในการดำเนินการจัดสร้างนั้นเริ่มต้นด้วยการจัดซื้อที่ดิน ในช่วงของการซื้อที่ดินคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินบางส่วน ได้ร้องขอเป็นผู้ซื้อที่ดิน แต่ทางหลวงพ่อขอให้ใช้ชื่อของแม่ชีอรนุชเนื่องจากว่าไว้วางใจมากกว่า จึงทำให้มีชื่อของแม่ชีอรนุช เป็นเจ้าของที่ดินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 มิใช่การโอนถ่ายให้แก่แม่ชีอรนุชในภายหลังแต่อย่างใด

    ในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการก่อสร้าง และตลอดจนการดำเนินงานของสวนสันติธรรมได้กระทำอย่างโปร่งใส มีบุคคลต่างๆ ที่มีชื่อเสียง ได้เข้ามารับรู้และทราบเรื่องเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสันติธรรมก็ไม่เคยมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หรือไม่เคยมีเรื่องการยักย้ายทรัพย์สินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

    และในการบริหารเงินที่ได้รับบริจาคมาของสวนสันติธรรม ท่านแม่ชีอรนุชไม่ใช่ผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นในช่วงแรกที่คุณฐิตินาถวางมือก่อนสร้างสวนสันติธรรมเสร็จ โดยบัญชีเงินรับบริจาคของสวนสันติธรรม มีพัฒนาการเป็น 3 ระยะคือ

    1. ระยะก่อสร้างสวนสันติธรรม เบื้องต้นมีการเปิดบัญชีเพื่อสร้างสวนสันติธรรมในนามของท่านแม่ชีอรนุชร่วมกับคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งการลงนามเบิกเงินจะต้องลงนามร่วมกัน โดยคุณฐิตินาถจะเป็นผู้ขอเบิกจ่ายเนื่องจากเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และคุณธนา รุจิพัฒนกุล เป็นผู้ถือสมุดบัญชีเงินฝากและตรวจสอบรายรับรายจ่าย และในช่วงที่สวนสันติธรรมเปิดการแสดงธรรมแล้ว มีการเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่งในนามของท่านแม่ชีอรนุชและคุณฐิตินาถร่วมกัน เพื่อดูแลเงินที่สาธุชนถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม

    2. ระยะหลังการก่อสร้าง ในช่วงท้ายของการก่อสร้างคุณฐิตินาถวางมือเนื่องจากมีภาระส่วนตัว ท่านแม่ชีอรนุชจึงต้องรับภาระดูแลบัญชีตามลำพัง ในช่วงธันวาคม 2549 เป็นต้นมา โดยปิดบัญชีสร้างสวนสันติธรรมเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และปิดบัญชีบำรุงสวนสันติธรรมเดิมโดยถ่ายโอนเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในนามของท่านแม่ชีอรนุชตามลำพัง เนื่องจากคุณฐิตินาถไม่ได้อยู่ในสวนสันติธรรมแล้ว แต่การใช้จ่ายทุกอย่างมีหลักฐานการเบิกจ่ายทั้งสิ้น และต่อมาเมื่อมีเงินในบัญชีมากขึ้น สวนสันติธรรมจึงได้เปิดบัญชีธนาคารใหม่เมื่อ 22 สิงหาคม 2551 ในนามของท่านแม่ชีอรนุช คุณอภิชาติ อัศวเรืองชัย และคุณชยาทร เตชะไพบูลย์ และทุกสิ้นเดือน ท่านแม่ชีอรนุชจะทำบัญชีส่งให้คุณอภิชาติเป็นหลักฐานด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่คุณอภิชาติลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรมเมื่อ 15 มกราคม 2553 ก็ไม่มีการเบิกเงินจากบัญชีนี้แต่อย่างใด

    1.1.3 ระยะปัจจุบัน เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 มีการเปิดบัญชีใหม่ ในนามของคุณสุรพล สายพานิช คุณธนา รุจิพัฒนกุล และคุณกนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ทั้งนี้ท่านแม่ชีอรนุชทำหน้าที่เพียงการควบคุมการเบิกจ่ายเงินสดย่อย และสรุปยอดบัญชีรายเดือนส่งให้คุณสุรพล ซึ่งได้จ้างนักบัญชีตรวจสอบบัญชีอีกชั้นหนึ่งด้วย


    เงินบริจาคของสวนสันติธรรมจะมาจาก 2 ทาง คือ ส่วนที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีโดยตรง และจากญาติโยมที่เข้ามาฟังธรรมและได้บริจาคแด่สงฆ์ที่อยู่ในสวนสันติธรรมเพื่อบำรุงสวนสันติธรรม ซึ่งเงินในส่วนที่สองนี้จะมีอาสาสมัครคอยดูแล และตรวจนับ มีการลงรายการรับไว้ครบถ้วน และทางสวนสันติธรรมจะมีการใช้เงินอย่างมีระบบเอกสารการเบิกจ่ายครบถ้วนตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อนึ่งการที่หลวงพ่อปราโมทย์ได้มอบหมายให้ท่านแม่ชี อรนุช รับมอบอำนาจดำเนินการควบคุมการเบิกจ่ายเงินของสวนสันติธรรมแทนหลวงพ่อปราโมทย์

    และดูแลบัญชีเป็นบางคราว นั้น เนื่องจากท่านหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเป็นพระในสายของธรรมยุตินิกาย ซึ่งจะไม่มีสามารถจับต้องหรือเก็บเงินทอง หรือซื้อทรัพย์สินใดๆ เองได้ ทั้งสิ้น และในสวนสันติธรรมไม่มีอุบาสกอยู่ประจำ จึงจำเป็นที่จะต้องให้ท่านแม่ชี อรนุชดูแลแทน และที่ผ่านมาท่านแม่ชีก็ได้ร้องขอต่อหลวงพ่อปราโมทย์บ่อยครั้ง ที่จะให้หาคนมาทำงานแทน เพื่อท่านแม่ชีจะได้บำเพ็ญภาวนาได้เต็มที่ต่อไป

    และนอกจากนี้เกี่ยวกับที่ดินของสวนสันติธรรมตามที่เป็นข่าว ภายหลังจากที่จัดสร้างสวนสันติธรรมแล้วเสร็จ

    ในช่วงแรกมีผู้เห็นว่าการตั้งเป็นวัดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก และในตอนนั้นยังไม่เหมาะสมจึงยังไม่ดำเนินการ และต่อมาในเดือนมกราคม 2553 เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวและพร้อมแล้ว หลวงพ่อปราโมทย์ก็ได้ให้ท่านแม่ชีอรนุช ยื่นเรื่องขอยกที่ดินแปลงที่เป็นที่ตั้งของสวนสันติธรรมให้มีการจัดตั้งเป็นวัดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 โดยทำสัญญากับท่านนายอำเภอศรีราชา และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอนุญาตต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่
    เกี่ยวข้องให้สวนสันติธรรมมีฐานะเป็นวัดต่อไป


    ประเด็นข้อร้องเรียนของนายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ

    ข้อร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้สวนสันติธรรม เพราะพบว่า

    1.พระปราโมทย์มอบอำนาจให้แม่ชีอรนุชเป็นผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการตั้งคณะกรรมการดูแล
    2.ที่ดินเปลี่ยนชื่อเป็นของแม่ชีอรนุช


    ข้อเท็จจริง
    1. ระบบการเงินและบัญชีของสวนสันติธรรม

    1.1 บัญชีสวนสันติธรรม แม่ชีอรนุชไม่ใช่ผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว โดยบัญชีเงินรับบริจาคของสวนสันติธรรม มีพัฒนาการเป็น 3 ระยะคือ

    1.1.1 ระยะก่อสร้างสวนสันติธรรม เบื้องต้นมีการเปิดบัญชีเพื่อสร้างสวนสันติธรรมในนามของแม่ชีอรนุชร่วมกับคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งการลงนามเบิกเงินจะต้องลงนามร่วมกัน โดยคุณฐิตินาถจะเป็นผู้ขอเบิกจ่ายเนื่องจากเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และคุณธนา รุจิพัฒนกุลเป็นผู้ถือถือสมุดบัญชีเงินฝากและตรวจสอบรายรับรายจ่าย และในช่วงที่สวนสันติธรรมเปิดการแสดงธรรมแล้ว มีการเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่งในนามของแม่ชีอรนุชและคุณฐิตินาถร่วมกัน เพื่อดูแลเงินที่สาธุชนถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม

    1.1.2 ระยะหลังการก่อสร้าง ในช่วงท้ายของการก่อสร้างคุณฐิตินาถวางมือเนื่องจากมีภาระส่วนตัว แม่ชีอรนุชจึงรับภาระดูแลบัญชีตามลำพังในช่วงธันวาคม 2549 เป็นต้นมา โดยปิดบัญชีสร้างสวนสันติธรรมเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และปิดบัญชีบำรุงสวนสันติธรรมเดิมโดยถ่ายโอนเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในนามของแม่ชีอรนุชตามลำพัง เนื่องจากคุณฐิตินาถไม่ได้อยู่ในสวนสันติธรรมแล้ว แต่การใช้จ่ายทุกอย่างมีหลักฐานการเบิกจ่ายทั้งสิ้น และต่อมาเมื่อมีเงินในบัญชีมากขึ้น สวนสันติธรรมจึงได้เปิดบัญชีธนาคารใหม่เมื่อ 22 สิงหาคม 2551 ในนามของแม่ชีอรนุช คุณอภิชาติ อัศวเรืองชัย
    และคุณชยาทร เตชะไพบูลย์ และทุกสิ้นเดือน แม่ชีอรนุชจะทำบัญชีส่งให้คุณอภิชาติเป็นหลักฐานด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่คุณอภิชาติลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรมเมื่อ 15 มกราคม 2553 ก็ไม่มีการเบิกเงินจากบัญชีนี้แต่อย่างใด

    1.1.3 ระยะปัจจุบัน เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 มีการเปิดบัญชีใหม่ ในนามของคุณสุรพล สายพานิช คุณธนา รุจิพัฒนกุล และคุณกนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ทั้งนี้แม่ชีอรนุชไม่ได้ดูแลเรื่องบัญชีของสวนสันติธรรมอีกต่อไป

    1.2 ระบบการเงินของสวนสันติธรรม ที่มาของรายได้ของสวนสันติธรรมมี 2 ส่วนคือ (1) ส่วนที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีของสวนสันติธรรม และ (2) ส่วนที่ญาติโยมที่มาฟังธรรมถวายปัจจัยแด่สงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม


    เงินส่วนแรกคนในสวนสันติธรรมไม่ได้แตะต้อง แต่เงินบริจาคใส่ตู้ถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรมนั้น จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้คือ
    (1) มีการตรวจนับหน้าตู้ทุกวันที่เปิดสวนสันติธรรม โดยทีมงานอาสาสมัครซึ่งก็คือผู้ที่มาฟังธรรมนั่นเอง เมื่อตรวจนับแล้วจะลงยอดรายรับในแต่ละวันแล้วส่งยอดพร้อมตัวเงินให้แม่ชีอรนุช (2) แม่ชีอรนุชจะรวมยอดรายรับแต่ละวันไว้ (3) เมื่อมีผู้เบิกค่าใช้จ่ายภายในสวนสันติธรรม จะต้องนำหลักฐานการเบิกจ่ายไปแสดงต่อแม่ชีอรนุชเพื่อขอรับเงิน (4) เมื่อมีเงินสดคงเหลือจำนวนหนึ่ง แม่ชีอรนุชจะนำเข้าฝากในบัญชีของสวนสันติธรรมเป็นระยะๆ (เงินในบัญชีแทบไม่เคยเบิกจ่ายเลย) (5) เมื่อถึงสิ้นเดือน แม่ชีอรนุชจะต้องส่งรายการรายรับรายจ่ายทั้งเดือนให้คุณสุรพล สายพานิช เพื่อลงบัญชี
    และมีผู้ตรวจสอบบัญชีอย่างเป็นระบบ

    สำหรับเหตุผลที่ต้องให้ฆราวาสดูแลการเบิกจ่ายเงินนั้น ก็เนื่องจากสวนสันติธรรมเป็นที่พักสงฆ์ของพระธรรมยุติ ซึ่งพระจะดูแลเงินเองไม่ได้เพราะผิดพระวินัย และในสวนสันติธรรมมีผู้ที่ไม่ใช่พระซึ่งอยู่ประจำเพียง 2 คน คือแม่ชีอรนุชกับคุณชยาทร เตชะไพบูลย์เท่านั้น ซึ่งทั้งสองคนจำเป็นต้องแบ่งงานกันทำ อย่างไรก็ตามเมื่อสวนสันติธรรมได้ขอตั้งเป็นวัดแล้ว จะต้องหาไวยาวัจกรใหม่ซึ่งจะเป็นผู้ชาย ขณะนี้ได้ทาบทามผู้ที่สงฆ์ไว้วางใจได้ไว้แล้ว


    2.การซื้อที่ดินของสวนสันติธรรม

    2.1 เดิมหลวงพ่อปราโมทย์จำพรรษาอยู่ที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ต่อมาในปี 2548 คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ได้พยายามขอสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ถวาย โดยตกลงกันว่าคุณฐิตินาถและครอบครัวจะรับภาระค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ชอบการเรี่ยไร

    2.2 ต่อมาคุณฐิตินาถได้แจ้งให้หลวงพ่อปราโมทย์ทราบว่า จำเป็นต้องขอเรี่ยไรเงินค่าซื้อที่ดินประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คุณฐิตินาถและครอบครัวจะรับผิดชอบเอง หลวงพ่อปราโมทย์จึงยินยอม (แต่ต่อมาก็มีการเรี่ยไรค่าก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง) และในขั้นตอนการซื้อที่ดินนั้น เกิดปัญหาว่าจะใช้ชื่อผู้ใดเป็นผู้ซื้อที่ดิน เพราะหลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระ จะไปซื้อที่ดินด้วยตนเองไม่ได้ ชั้นแรกคุณฐิตินาถขอให้ใช้ชื่อตนเอง แต่หลวงพ่อปราโมทย์ขอให้ใช้ชื่อแม่ชีอรนุชแทนเพราะไว้วางใจมากกว่า ดังนั้นที่ดินของสวนสันติธรรมจึงเป็นชื่อของแม่ชีอรนุชมาตั้งแต่ต้นคือเมื่อ 18 ตุลาคม 2548 ไม่ใช่การโอนให้แม่ชีอรนุชในภายหลังแต่อย่างใด

    2.3 นับตั้งแต่กรรมการสวนสันติธรรมส่วนหนึ่งลาออกเมื่อกลางเดือนมกราคม 2553 หลวงพ่อปราโมทย์พร้อมด้วยสงฆ์และกรรมการสวนสันติธรรม เห็นพร้อมกันว่าน่าจะขอตั้งสวนสันติธรรมให้เป็นวัด เพื่อให้มีสถานะที่ชัดเจนในทางกฏหมาย (ที่ผ่านมาได้รับคำแนะนำจากหลายท่านว่า การตั้งเป็นวัดอาจทำให้ขาดความคล่องตัวในการทำงานเผยแผ่พระศาสนา) จึงดำเนินเรื่องขอตั้งวัดมาตามลำดับ โดยแม่ชีอรนุชได้ลงนามในสัญญากับนายอำเภอศรีราชาเมื่อ 23 มีนาคม 2553 ยกที่ดินให้สร้างวัด ดังนั้นที่ดินของสวนสันติธรรมในขณะนี้ จึงเป็นที่ดินที่ติดสัญญา และจัดว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ม่สามารถดำเนินการอื่นใดได้อีกแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    10 อันดับวัดสวยที่สุดในโลก

    1 - Tiger's Nest Monastery, Phutan

    [​IMG]

    ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร
    จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร
    จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า
    ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava - Guru Rinpoche)
    ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ
    และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน
    หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น

    2 - Wat Rong Khun in Chiang Rai
    |
    [​IMG]

    วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย
    อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด
    ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540
    จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ
    คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่


    3 - Prambanan : Hindu temple, Indonesia
    [​IMG]

    วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple
    พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า
    ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน
    ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนัก
    วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า
    น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan
    จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์
    Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya
    ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่


    4 - The Shwedagon Paya (or Pagoda), Myanmar

    [​IMG]

    พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ
    เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ
    พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น
    ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว
    แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10
    สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง
    พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง
    ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง
    จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู
    ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร
    พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบัน
    บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ
    ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด

    5 - Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing

    [​IMG]

    หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
    ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่
    และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง
    มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง
    และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว
    ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ
    พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม

    6 - Chion-in Temple : Kyoto, Japan

    [​IMG]

    วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ
    แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก
    วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง
    ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen

    7 - Borobudur, Indonesia

    [​IMG]

    บุโรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์
    ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร
    ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง
    ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
    ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่
    และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย
    และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต
    เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา
    หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและอินโดนีเซีย
    ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

    8 - The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab

    [​IMG]

    วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด
    ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ
    แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

    9 - The Temple of Srirangam
    ( Sri Ranganathaswamy Temple)


    [​IMG]

    วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli
    หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    10 - Ankor Wat : the largest temple in history

    [​IMG]

    ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย
    ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
    เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย
    แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง
    ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว
    ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์
    จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ

    ติดตามเรื่องดีมีไว้ที่นี่อีกเพียบ..คลิ๊กเลย
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก

    [​IMG] <INPUT id=get_var value=&cate_id=29&post_id=417149 type=hidden> <SELECT style="WIDTH: 40px" onchange="search(this.value,'/view_picpost.php')" name=page> <OPTION label=1 selected value=1>1</OPTION> <OPTION label=2 value=2>2</OPTION></SELECT> / 2 [​IMG] [​IMG]<SCRIPT>function search(value,page){ window.location=page+'?page='+value+document.getElementById("get_var").value;}</SCRIPT>
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 441 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 600 x 360 pixel
    Ice Flowers เป็นอีก 1 ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สร้างความตกตลึงให้แก่ผู้พบเห็น เนื่องจากมันจะเกิดขึ้นบนทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง และเกิดมีเกร็ดน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นช่อดอกไม้สีขาวกลีบบางผุดขึ้นมาเต็มพื้นน้ำแข็ง
    Tags : ธรรมชาติ


    ความคิดเห็นที่ 3 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:20 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 600 x 389 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 620 x 424 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 620 x 415 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หินเดินได้
    ปรากฏการณ์ ดินเดินได้ เกิดจากมนุษญ์ หรือ สัตว์ หรือไม่

    จาก ลักษณะรูปร่างของร่องรอยการไถลของหินนั้นบ่งบอกได้ว่ าหินก้อนนั้นต้อง เคลื่อนที่ในช่วงที่พื้นของเรซแทรค พลาย่านั้นถูกปกคลุมด้วยดินเหนียวอ่อนนุ่ม ถ้าเป็นฝีมือของคนหรือสัตว์จะต้อง มีร่องรอยของการเหยียบย่ำรบกวนชั้นดิน เหนียวด้วย แต่ในบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานร่องรอยจากคนหรือ สัตว์ที่จะช่วยให้หิน เคลื่อนที่เลย มีเพียงร่องรอยการไถลของหินเท่านั้น
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 4 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:27 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 459 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 446 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไอส์เซอร์เคิ้ล ( Ice Circle )
    ce Circle ไอส์เซอร์เคิ้ล เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่พบเห็นได้ยาก และสมมุติฐานที่เป็นที่ยอมรับกันถึงสาเหตุการเกิดปรา กฏการณ์ธรรมชาติ ไอส์เซอร์เคิ้ล นี้เกิดจากการที่ ผิวน้ำเริ่มก่อตัวเป็น น้ำแข็งจากบริเวณกึ่งกลางของผิวน้ำ แล้วค่อยๆก่อตัวตามขอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้องประกอบกับแหล่งน้ำจะต้องไหลเอื่อยๆ เพื่อให้เกิด น้ำแข็ง สามารถก่อ ตัวบริเวณขอบ ขณะหมุนขยายตัวออกมาเรื่อยๆ จนไปชนกับขอบน้ำแข็งแผ่นอื่นๆ ไอส์เซอร์เคิ้ล บางแผ่นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 150 เมตร อาจจะพบอยู่เดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่มก็ได้
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 5 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:31 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 466 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 480 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆจานบิน
    เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ แสนประหลาด และสวยงาม มันช่างดูคล้าย จานบิน ไม่มีผลิต และหากปรากฏการณ์ เมฆรูปทรงเลนส์ ก็ขึ้นในสมัยก่อน รูปภาพวัตถุบินลึกลับ ต่างที่มีการจารึกไว้ก็อาดเป็น ปรากฏการณ์นี้ก็เป็นไปได้
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 6 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:35 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 701 x 526 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆสวยที่สุดในโลก
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่จะทำให้เมฆเกิด เป็นเซล เป็นปุ่มเล็กปุ่มน้อย คล้ายถุงห้อยลงมาจากท้องฟ้า โดยคำว่า “mammatus” มาจากภาษาลาติน mamma แปลว่าเต้านม ซี่งมาจากการที่ก้อนเมฆมีลักษณะคล้าย เต้านมของวัว โดยแต่ละปุ่มมีขนาดใหญ่ 1 – 3 กิโลเมตร ยืนยาวลงมาประมาณ 0.5 กิโลเมตร เรียงรายยาวหลายร้อยกิโลเมตร ปรากฏการณ์ นี้อาดเกิดขึ้น 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ปรากฏการณ์ เมฆ แมมมะทูส มีส่วนเชื่อมโยงกับ การเกิดพายุใหญ่ หรือก่อนเกิดพายุ ทอร์นาโด
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 7 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:39 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 467 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 462 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 495 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สายฟ้าแห่งภูเขาไฟสวยที่สุดในโลก
    Volcanic Lightning เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ อันมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเกิด ภูเขาไฟระเบิด จะเกิด พายุสายฟ้า ขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือ ภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสาเหตุ ของ ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง (Volcanic Lightning) โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่า ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง นั้นน่าจะคล้ายการเกิด พายุสายฟ้า ( Thunderstorms ) และในการสัมนาเกี่ยวกับสภาวะอากาศ TPOD เมื่อ 17 กันยายน 2004 เหล่านักวิทยาศาสตร์ ได้สัมนากันว่าปรากฏการณ์นี้ อาดเกิดจากการที่อนุภาคของเถ้าภูเขาไฟเกิดการพุ่งชนก ัน ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ขึ้นในอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟ และเป็นเหตุให้เกิดฟ้าผ่าขี้น ขณะเกิดภูเขาไฟระเบิด และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีสมมุติฐานใหม่ ว่าอาดเกิดจากที่เม็กม่า ได้ปลดปล่อยความชื้นออกมา
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 8 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:42 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 418 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 460 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 404 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ รุ้งกินน้ำสวยที่สุดในโลก
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการที่แสง ได้เกิดการหักเหของแสงที่เกิดขึ้นในระอองน้ำ สะท้อนออกมาทำให้เห็นสีของแสงทั้ง 7 สี คือ สี ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 9 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:45 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 525 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 366 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 471 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ กองทัพคลื่นแห่งแม่น้ำอเมซอน ( Pororoca )คือ ปรากฏการ์ณธรรมชาติ ที่จะเกิดประมาณ สองปีครั้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม จากการที่น้ำจากมหาสมุทรแอตแลนติก ( Atlantic Ocean ) ไหลย้อนขึ้นมาใน แม่น้ำอเมซอน ประเทศบราซิล และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ คลื่นน้ำที่วิ่งต่อๆกันมา ยาวที่สุดในโลก บริเวณปากแม่น้ำ

    ลักษณะ ของ กองทัพคลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน โดยปรากฏการณ์นี้ได้ชื่อว่า ” Pororoca ” ซึ่งมาจากภาษาพื้นนเมืองของชนเผ่า Tupi ที่แปลว่า มหาเสียงกัมปนาท “great destructive noise” เนื่องจากเสียงจากการเกิดคลื่นนี้สามารถได้ยินล่วงหน้ากว่า 30 นาที ก่อนที่คลื่นจะเคลื่อนตัวมาถึง และมันยังทรงไปด้วยอนุภาพในการทำลายล้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ บ้านชาวพื้นเมือง รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่หาญกล้าท้าทายมัน แต่ก็ยังมีมนุษย์ที่ไม่ยำเกรงมัน กับหลงไหลในพลกำลัง รวมตัวกันโต้คลื่นโดยเริ่มตั้งแต่ปี 1999 แต่นั้นก็เต็มไปด้วยอันตราย เนื่องจากคลื่นน้ำนั้น เต็มไปด้วย เศษไม้ ซุง ซึ่งพร้อมจะเข้ามากระแทรกนักโต้คลื่นได้ทุกเวลา จากการบันทึก นักโต้คลื่นชาวบราซิลเรี่ยน ชื่อว่า Picuruta Salazar สามารถโต้คลื่นได้เป็นระยะทางกว่า 12.5 กิโลเมตร เป็นเวลากว่า 37 นาที
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
    <HR color=#b0ad27>



    ความคิดเห็นที่ 10 : ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาของโลก 12 Sep 2010, 14:48 [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 448 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 700 x 394 pixel
    [​IMG] รูปขนาด 760 x 1169 pixel
    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )ป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งทางเหนือของ เมืองซิดนี่ย์ ( Sydney ) ที่ยัมบา ( Yamba ) ของ นิวเซาธ์เวลส์ ( New South Wales ) และได้แปรเปลี่ยนชายฝั่งเป็น คาปูชิโนใน ( Cappuccino Coast ) ฟองโฟนได้ กลืนกินทั้งหาด และอาคารสิ่งก่อสร้างไปกว่าครึ่งหลังที่ก่อสร้างอยู่ ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์หน่วยกู้ภัยชายหาดท้องถิ่น ฟองโฟนนี้นกินอาณาบริเวณออกไป กว่า 30 ไมล์จากชายฝั่ง

    โดยนักวิทยา ศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้ไว้ว่าเกิดจาก ความบังเอิญหลายอย่างที่ลงตัว ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง สวยงาม แต่มันเกิดจาก สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเลสกปรก , เกิดจากเกลือ , เกิดจากปฎิกริยาทางเคมี , การเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำให้เกิดฟ อง และเมื่อคลื่นได้เคลื่อนมากระทบฝั่งจะคลายฟอง ออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาดสะสมตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
    prame9 [​IMG] โพสไปแล้ว 2079 ครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ตะลึง! ซากปลามหาศาล ลอยอืดเหนือผิวน้ำ
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ภาพซากปลาจำนวนมหาศาลในแม่น้้ำามิสซิสซิปปี หลุยส์เซียนา ทางตอนกลางของสหรัฐ ลอยตายเหนือผิวน้ำ ไม่เพียงแต่กลุ่มของปลาเท่านั้น แต่สัตว์ทุกชนิดอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ที่อาศัยอยู่ในน้ำก็ตายเช่นเดียวกัน
    ด้านนักชีววิทยา ผู้ดูแลในพื้นที่ ชี้แจงว่า สาเหตุเกิดจากภาวะออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อย และปลาก็ตายในที่สุด ซึ่งทางนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเกิดจากน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่แม่น้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจนมีน้อย
    ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณนั้นกล่าวว่า นับว่าเป็นการตายของสัตว์น้ำจำนวนมหาศาลเท่าที่เคยเห็นมา พร้อมทั้งส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วบริเวณ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    โดย ทีมข่าว Mthai
     
  7. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    น้ำจืดท่วมบ่อบาดาล ชาวบ้านชนบทบางส่วน ไม่มีน้ำใช้ นี่ก็เดือดร้อน ถ้าน้ำทะเลท่วมคลองประปาล่ะ




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหนือ-อีสานไม่มีน้ำใช้ หลังน้ำท่วมบ่อบาดาลกว่า 3 หมื่นบ่อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กันยายน 2553 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ฝนตกน้ำท่วมในภาคเหนือและอีสานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีบ่อน้ำบาดาลถูกน้ำท่วมถึง 33,980 บ่อ

    เป็นบ่อที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วมถาวรแล้ว 1,277 บ่อ และมีประชาชน 93 อำเภอ 25 จังหวัด กว่า 506,000 คน กำลังเดือดร้อนไม่มีแหล่งน้ำสะอาดใช้

    ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงเร่งออกแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดกว่า 30,000 ขวด และนำรถเคลื่อนที่ออกแจกจ่ายน้ำใช้ให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันเร่งซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า เป่าล้างทำความสะอาดบ่อ ซ่อมแซมระบบน้ำประปา บาดาลหมู่บ้านในพื้นที่ที่น้ำลด เพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อน

    โดยเดือนนี้สามารถเป่าล้างบ่อได้เพิ่มอีก 19 บ่อ ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าบ่อลึกเพิ่มอีก 24 บ่อ ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านได้อย่างเต็มรูปแบบเพิ่มอีก 2 แห่งด้วย

    http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000130204&Keyword=%b9%e9%d3%b7%e8%c7%c1]Manager
    </TR></TBODY></TABLE></TR></TBODY>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

    .
    หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา รายงานข่าวว่า ในสัปดาห์นี้ รถถังรุ่น T55 จำนวน 50 คัน และ ยานยนต์หุ้มเกราะ อีก 44 คัน ที่ทางกองทัพสั่งเข้ามาจากยุโรปตะวันออก จะมาถึงประเทศกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่กองทัพกัมพูชาปฏิเสธ ที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
    ด้านนายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กัมพูชาได้จัดซื้อยุทโธปกรณ์ดังกล่าวจริง ซึ่งจะถูกจัดส่งสินค้ามาทางเรือ และจะมาถึงในไม่ช้านี้ โดยมีจำนวน 94 คัน
    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ยังกล่าวว่า การที่กองทัพสั่งซื้อยุทโธปกรณ์ในครั้งนี้ กัมพูชาไม่ได้ต้องการที่จะคุกคามใคร ถึงแม้จะมีปัญหาขัดแย้งตามแนวชายแดนกับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตไปแล้วหลายนาย
    แต่การเสริมยุทโธปกรณ์ของกัมพูชาในครั้งนี้ เป็นการสร้างศักยภาพทางการทหารของกัมพูชา และเพื่อป้องกันการรุกราน จากประเทศอื่น
    ด้านสำนักข่าวเอพีและเอเอฟพี เปิดเผยว่า การเสริมเขี้ยวเล็บของกัมพูชามีขึ้นขณะที่กรณีพิพาทบริเวณชายแดนระหว่าง ไทย-กัมพูชายังคุกรุ่นยืดเยื้อ หลังเกิดการปะทะกันหลายครั้งจนทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width=227 align=left><TBODY><TR><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>เตรียมอพยพชาวบ้านเชียงใหม่หนีน้ำท่วม
    น้ำป่าไหลหลากเชียงใหม่สะพานขาดหลาย ทหารเร่งช่วยเหลือ เตือนประชาชนเตรียมอพยพชาวบ้านหนี
    เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พ.อ.สุพจน์ มาลานิยม ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 (นพค.32) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้จัดส่งกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ รถบรรทุก รถแบ็คโฮ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่ใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ หลังจากมีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วม ทำให้ได้รับความเสียหาย 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลโหล่งขอด และตำบลแม่ปั๋งรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลโหล่งขอด เสียหายมากถึง 9 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่บ้านทุ่งแดง บ้านป่าแต้ว บ้านนาเม็ง บ้านแม่บอน บ้านป่าห้า บ้านหลวง บ้านแม่สายป่าเมี้ยง บ้านฮ่างต่ำ บ้านแม่สายนาเลา มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 400 กว่าครัวเรือน ดินโคลนทะลักเข้าท่วมนาข้าว 400 ไร่ สวน 100 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา และบ่อเก็บน้ำเพื่อการเกษตร 10 บ่อ และคอสะพานขาด 4 แห่ง ถนนขาด 6 สาย ฝาย 15 แห่ง ท่อระบายน้ำข้ามถนน 2 แห่ง ค่าความเสียหายประมาณ 6 ล้านบาท

    พ.อ.สุพจน์ ผบ.นพค.32 เปิดเผยว่า การช่วยเหลือเร่งด่วนนี้ทาง นพค 32 จะจัดทำให้ทุกอย่างใช้ได้ในลักษณะชั่วคราวไปก่อนเพราะจะทำพร้อมกันนั้นคงไม่ทันเพราะเกิดความเสียหายมากในหลายพื้นที่ โดยช่วงแรกก็จะจัดทำถนนและคอสะพานให้ประชาชนและรถยนต์ สัญจรไปมาได้ก่อนส่วนทางหน่วยงาน อบต.และทางอำเภอก็ต้องจัดสรรงบประมาณจากทางจังหวัดเข้ามาช่วยอีกด้านหนึ่ง ถึงจะช่วยแก้สถานการณ์ได้เร็วขึ้น

    ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดผยว่า จากเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ ก็ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ประสานงาน นพค.32 เชียงใหม่ ในการช่วยเหลือซ่อมแซมสะพานและขนดินโคลนที่กีดขวางออก สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่นั้นที่ อำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ อยู่ในสภาพวิกฤติ โดยระดับน้ำแม่ทาซึ่งไหลไปจังหวัดลำพูนขึ้นสูงจนพ้นริมตลิ่งแล้ว ตลอดจนฝนที่ตกลงมาอย่างหนักถึง 102 มิลลิเมตร เบื้องต้นได้แจ้งให้ทางฝ่ายปกครอง ได้เตือนประชาชนที่อาศัยในที่ราบลุ่มได้ขนย้ายอพยพออกจากพื้นที่เสียงภัยต่างๆแล้ว หากยังมีการตกอย่างต่อเนื่องอีก คงเกิดน้ำท่วมอย่างหนักแน่นอน

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width=227 align=left><TBODY><TR><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>วธ.จัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมชวนประชาชนเข้าวัดทำบุญทุกวันพระ
    กรุงเทพฯ 16 ก.ย.- นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม เข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ (วันพระ) ซึ่งจัดโดยกรมการศาสนา ที่วัดราษฎร์บำรุง เขตบางแค มีข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นทุกวันพระ หมุนเวียนไปตามวัดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ โดยครั้งต่อไปจะจัดในวันที่ 23 กันยายน ที่วัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษาหลักคำสอนของพุทธศาสนา การเข้าวัดฟังธรรมเพื่อนำหลักธรรมคำสอนไปใช้ในชีวิตประจำวัน โครงการนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2549 เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีการนำร่องในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือวัดต่าง ๆ จัดงานนี้ขึ้น และปีหน้าจะขยายไปยังวัดทั่วประเทศ แต่หากมีวันพระตรงกับวันทำงานปกติ ประชาชนอาจจะไม่สะดวกในการเข้าวัดทำบุญ จึงจะเตรียมโครงการให้เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ ซึ่งจะแถลงข่าวเปิดตัวโครงการในเดือนหน้า ทั้งนี้ วธ.ได้ตั้งเป้าให้แต่ละตำบลมีวัดอย่างน้อย 1 แห่ง เข้าร่วมโครงการ.-สำนักข่าวไทย
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    เหตุการณ์นี้มีนัยยะที่ไม่ธรรมดามากๆครับ ช่วงนี้เริ่มเป็นช่วงเก็บกวาดล้างชีวิตแบบเป็นจำนวนมากแล้วครับ

    เร่งสร้างกุศลกันเอาไว้ให้มากๆ

    พระอาจารย์เล็กท่านเมตตาเตือนว่า โลกนี้ มีคนทำดี เพียง 5เปอร์เซนต์แต่คนที่สร้างบาปอกุศลมากมายถึง 95 เปอร์เซนต์

    แต่คนดีและความดี 5เปอร์เซนต์ นั้นเป็นแรงพลังที่ช่วยเยื้อยุดให้ภัยพิบัติบรรเทาลงไปบ้าง ถ่วงดุลลงไปบ้างอย่างน่าอัศจรรย์

    ท่านเมตตาให้กำลังใจให้ทุกคนทำความดีให้มั่นคงให้สม่ำเสมอ ให้ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวครับ


    เพราะ

    ถ้าเราไม่คิดเพื่อเป็นกุศลส่วนตนเอง แต่เราทำให้ส่วนรวมเพื่อ "บุญมวลรวมประชาชาติ" จะได้ถ่วงดุลผลกรรมฝ่ายอกุศล ที่มีมากมายให้บรรเทาลง

    ผลแห่งความดีย่อมเกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ครับ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พบแล้ว ดัจญาล คือ Illuminati จอมลวงโลก

    [​IMG]


    คำทำนายสัญญาณวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)จากศาสนาอิสลาม สัญญาณใหญ่ได้แก่

    1. อิหม่ามมะฮุดีย์จะปรากฏตัว
    2. ดัจญาลเผยโฉม
    3. ท่านศาสดาอีซา(เยซู)จะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
    4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
    5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
    6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
    8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
    9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
    10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย

    ปฐมกาลวันสิ้นโลกตามคำทำนายในคัมภีร์อัลกุรอาน ดัจญาล = "Illuminati eye"

    1. ดัจญาลเป็นสิ่งมีชีวิต เป็นเพศชาย เป็นจอมโกหกตัวยง (Illuminati ผู้ก่อตั้งเป็นเพศชาย)

    2. ดัจญาลเป็นผู้ชายตาบอด ตาข้างหนึ่งของมันบอด ไม่มีแวว ไม่โปนบวม และยื่นออกมา (สัญลักษณ์ของ Illuminati คือดวงตา 1 ดวง)

    3. จะสังเกตุดัจญาลได้อย่างไร ดัจญาลเป็นคนตาบอดข้างหนึ่ง กลางหน้าผากของเขา จะมีอักษาว่า กาฟ ฟาอ.รออ (อาหรับ) ซึ่งหมายถึงผู้ปฏิเสธพระเจ้า "กาฟิร" ที่หน้าผาก แปลว่า ตัวแทนแห่งความชั่วร้าย และอำนาจแห่งความชั่วร้าย (มาจากการนับถือเทพ Lucifer)

    4. จะสังเกตุสัญลักษณ์ของดัจญาลได้อย่างไร สัญลักษณ์อิลลูมินาติเบื้องต้น จะมีรูปพีรามิด และถัดจากนั้นสัญลักษณ์ต่อมา คือรูปดวงตา ซึ่งเรียกว่า “ดวงตารู้แจ้ง” (Seeing Eye) เป็นการบูชาลูซิเฟอร์ (ซาตาน) เนื่องจากอิลลูมินาติเชื่อว่ามนุษย์นั้น ถูกพระเจ้าครอบงำและกดขี่ ส่วนซาตานคือผู้ให้แสงสว่างแก่มนุษย์ (ให้รับประทาน ผลแอ๊ปเปิ๊ล แห่งความรู้)

    5. ดัจญาลมาจากไหน ดัจญาลเป็นชาวยิว เกิดแถบชาม และ อิรัก (อิหร่าน) รูปร่างเตี้ย เดินขาถ่าง ผมหยิก (Illuminati ผู้ก่อตั้งเป็นชาวยิว)

    6. ดัจญาลมาเพื่ออะไร ดัจญาลมาประกาศตนเป็นพระเจ้า (จากความสามารถที่หลากหลายที่ตนทำได้) บ้างก็ว่ามาประกาศตนเป็นพระเยซู Illuminati เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังอำนาจอย่างลับๆทั่วโลก(new world order) โดยการควบคุมเหตุการณ์ ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆ คล้ายกับว่าเป็นการฟื้นคืนชีพ หรือการสืบทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องของบาวาเรียน อิลลูมินาติ สิ่งที่เขาควบคุมโลกคือ สื่อประเภทต่างๆ TV บันเทิง อินเตอร์เน็ต ข้อมูล ข่าวสาร Hollywood ธุรกิจอาหาร, ยา, การธนาคาร, ทหาร,การเมืองแทบทุกประเทศ บ้างก็ว่าเขาใช้ Harrp เพื่อสามารถควบคุมสภาพอากาศได้ เหมือนที่พระเจ้าทรงหลั่งน้ำฝนออกมา

    7. จำนวนของดัจญาล ดัจญาลมีจำนวน 30 ตน กระจายไปทุกประเทศทั่วโลก

    8. จำนวนคนเชื่อในดัจญาล จะมีผู้ติดตามดัจญาลจากกลุ่มยิว อัศบะฮาน (เมืองในประเทศอิหร่าน) จำนวน 70,000 คน,และกลุ่ม นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก

    9. การป้องกันดัจญาล อัลลอฮุมมะ อินนีย์ อะอูซุบิกะ มินอะซาบิ ญะฮันนะมะ วะมินอะซาบิลก็อบริ วะมิน ฟิตนะคิลมะฮฺยา วัลมะมาติ วะมิน ฟิตนะติล มะซีฮิดดัจญาล ความว่า ข้าแต่อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจากการทรมานจากนรก ญะฮัมนัม และขอให้พ้นจากการทรมานในหลุมฝังศพ และขอให้พ้นจากความวุ่นวาย (ฟิตนะฮฺ) ของการดำรงชีวิต และความวุ่นวาย (ฟิตนะฮฺ)ของการตาย และขอให้พ้นจากการก่อกวนของมะซีฮิดดัจจญาลด้วยเถิด

    10. ดัจญาลเป็นจอมโกหก เขาหลอกอะไรเรา ส่วนมากพวกกลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) จะชักจูงชาวโลกโดยผ่านภาพยนต์จากสื่อ Hollywood การโฆษณาเพื่อให้มนุษย์เกิดความหวาดกลัว, ความโกรธ, ความแค้น, ชิงชัง,(เป็นผู้ทำความจริงเป็นความเท็จ) และกิเลสต่างๆ มีทัศนะคติในด้านลบ และเพื่อให้มนุษย์เป็นทาสของเงินตรา เมื่อเราตามเขา เราก็จะโดนชักจูงได้ง่าย เขาพูดอะไรก็เชื่อไปหมด

    กลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) สร้างระบบเงินกระดาษขึ้นมาเพื่อมอมเมาชาวโลก ให้หลงให้ในโลกที่เขาจำลองขึ้น มนุษย์ก็จะมีชีวิตอยู่ในโลกที่ถูกกลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) จำลองขึ้น (โลกแห่งความฝัน) โดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่า กำลังโดนใครบางคนบังคับอยู่เบื้องหลัง พวกเรามัวหลงเพลิดเพลินอยู่กับ กิเลส, ตัณหา, เงินตรา, ที่ถูกกลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) นั้นสร้างขึ้นมามอมเมา ทั้งๆที่ในความเป็นจริงพวกเขากำลังหลอกมอมเมาเรา เรากำลังตกเป็นทาสของเขาอยู่โดยไม่รู้ตัวเลย และกลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) มองพวกเราไม่ต่างกับพวกทาสหน้าโง่ตัวนึง

    ลองนึกถึงตอนที่เราเด็กๆ เราถูกหลอกมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตั้งแต่เรื่อง การเข้าโรงเรียน, ประถม, มัธยม, มหาวิทยาลัย,จบมาก็หางานทำ, จากนั้นก็ซื้อรถ, ซื้อบ้าน, ฯลฯ ซึ่งมันเป็นระบบที่ กลุ่มอิลูมินาติ (Illuminati) นั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่แรกแล้ว (ประมาณ 100 กว่าปีที่แล้ว) เพื่อมอมเมามนุษย์ ให้อยู่ในระบบที่ถูกจำลองขึ้น (คล้ายอยู่ในความฝัน) ไม่สามารถขัดขืนได้ ต้องเป็นทาสพวกมันโดยปริยายตลอดชีวิต

    11. กลุ่มองค์กรที่ดัจญาลควบคุมโลกมาแล้ว คือกลุ่มอะไรบ้าง Download 1,2

    12. สิ่งที่ดัจญาลทำให้โลกเกิดภัยพิบัติ ได้แก่ผู้ทำลาย สร้างความหายนะไปทั่วแผ่นดิน ดัจญาลจะออกมาปรากฏตัว ณ สถานที่หนึ่งที่อยู่ระหว่างประเทศชามกับประเทศอิรัก มันจะใช้เทคโนโลยี สร้างความสูญเสียอย่างรวดเร็วให้แก่ท้องถิ่นนั้น ไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือด้านขวา Illuminati คงจะเป็นการใช้เครื่อง Harrp ทำให้เกิดภัยพิบัติ, ฝนตก ,แผ่นดินไหว,ความแห้งแล้ง,สึนามิ

    13. ดัจญาลมาเมื่อไหร่ จะเกิดหมอกควัน ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก นบีอีซาลงมาจากฟ้า ยะญูจญ์และมะญูจญ์ เกิดแผ่นดินทรุดสามแห่ง แห่งหนึ่งที่ตะวันออก แห่งหนึ่งที่ตะวันตก และอีกแห่งหนึ่งที่คาบสมุทรอาหรับ และสุดท้ายที่สุดจะมีไฟออกทางประเทศเยเมน ไล่ต้อนมนุษย์สู่สนามมะหฺชัร

    14. สิ่งที่ดัจยาลทำได้เทียบพระเจ้า ทำให้คนจนเป็นคนรวย,รักษาโรคได้ รักษาคนตาบอดให้หายขาด,ทำให้สิ่งที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมา (การโคลนนิ่งดอลลี่,Hydroponic พืช) ,Illuminati อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส

    15. สิ่งที่ดัจญาลทำได้โดยทั่วไป พวกเขาสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกราวกับสวนสวรรค์บนโลกได้ และมันสามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆ ได้ตามต้องการ มันมีภูเขาขนมปัง มีแม่นํ้า มันสามารถสั่งฟ้าให้หลั่งนํ้าฝน สามารถสั่งพื้นดินให้พืชพันธุ์งอกเงยได้ ทรัพยากรมีค่าในดินก็ทำตามมัน (อำนาจเยอะมาก) Illuminati ซึ่งปรากฏให้เห็นในรูปของโรงแรมและสวนต่างๆ, เงิน ทอง ปัจจัยในการดำรงค์ชีพ

    16. การครองโลกของดัจญาล ดัจญาล(ยิว)จะมีอำนาจปกครองโลกนานถึง 40 ปี เนื่องจากโลกได้ผ่านสงครามมาอย่างหนักจนแทบเสียสมดุล ความรู้สึกวันแรกจะเท่ากับหนึ่งปี วันที่สองจะเท่ากับหนึ่งเดือน วันที่สามจะเท่ากับหนึ่งสัปดาห์ (วันแห่งความย่ำแย่)

    17. ผู้ช่วยของ ดัจญาลที่สำคัญ ยะห์ยู-มะยูดห์ คือสัตว์ร้ายชนิดหนึ่งที่คอยจะขุดภูเขา เพื่อที่จะออกมาหน้าแผ่นดิน แต่ด้วยความเจตนาของอัลลอฮ ตอนนี้ยังไม่ไห้ออกมา มันก็ได้แค่เห็นแสงรอดรอดเข้าไปแล้ว มันไปพักเพื่อจะมาขุดต่ออีกวัน อัลลอฮก็ปิดไว้เช่นเดิมจนกว่าจะถึงวันที่จะปล่อยออกมาจริงๆ ลักษณะมันก็มีบอกในดารุสซามีน โดยละเอียด ลักษณะของ ยห์ยู-มะยูดห์ เช่นตัวใหญ่ มีขนหนา หูกว้าง มีความเร็ว บางตัวก็สูง บางตัวเตี้ยแต่กว้าง

    18. ยะห์ยู-มะห์ยู อยู่ที่ไหน ยะห์ยู-มะห์ยูนี้ ถูกกษัตริย์ที่มีนามว่า ซุลก็อรนัย ขังพวกเขาไว้ โดยการสร้างกำแพงเหล็กที่ผสมกับทองแดง กั้นระหว่างหุบเขาสองลูก ไม่มีผู้ใดทราบตำแหน่งที่กักขัง

    แหล่งที่มาอื่นๆ

    - ดัจญาล มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า ดะ-ญะ-ละ แปลว่า " เขาได้ปกปิด...หรือปิดบัง" อีกความหมายก็คือ "พูดเท็จ ผู้หลอกลวง"

    - สำหรับคริสเตียนแล้ว "ดัจญาล"คำนี้ถูกเรียกว่า "แอนตี้ไครสต์" หรือผู้ที่ต่อต้าน ขัดขวางพระคริสต์ ซึ่งก็คือ Lusifer,กลุ่ม ไซออนิค,กลุ่ม Illuminati

    การถอดรหัส The Code อื่นๆ

    * 666(รหัสโลก) = Computer = Cern
    * 666(รหัสซาตาน) = Lucifer = ศาสนา Illuminati

    โพสต์โดย Pmadee เมื่อ 27-5-2010 09:54

    ที่มา http://www.mythland.org/v3/thread-3001-1-1.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  12. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE borderColor=blue cellSpacing=0 cellPadding=5 width=600 bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=blue>Typhoon FANAPI (12W) cat1 # 09 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 1” ฉบั </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE width=590 align=center border=0><TBODY><TR><TD>Typhoon FANAPI (12W) cat1 # 09 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 1” ฉบับที่ 9
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 01.00น.
    ประจำวันที่ 17 กันยายน 2553 ออกประกาศเวลา 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 17 กันยายน 2553 / 03.32 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 0 ลูก
    1)Typhoon FANAPI (12W,22.1N 128.2E,70kts) : เมื่อเวลา 19.00น.วานนี้(16ก.ย.2553) พายุโซนร้อน FANAPI (ฟานาปี/12W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลฟิลิปปินส์ ได้ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(17ก.ย.53) อยู่ที่ละติจูด 22.1องศาเหนือ ลองจิจูด 128.2 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศใต้จากเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ 463 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกแล็กน้อยด้วยความเร็ว 2 นอต(4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างช้าๆและเกือบไม่เคลื่อนที่ . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 นอต(130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 85นอต(158 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 970 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 5 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด ไต้ฝุ่น FANAPI (ฟานาปี/12W) ระดับ 1 จะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกมากขึ้นในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยพายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ… คาดหมายในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 01.00น.(18ก.ย.53)พายุจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือต่อไป ก่อนทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 . โดยพายุนี้มีแนวโน้มเคลื่อนตัวผ่านเกาะไต้หวันในอีก 72 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 01.00น.( 20ก.ย.53) ก่อนทีจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและเลยเข้าสู่ประเทศจีนด้านตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงประมาณ 20-21 ก.ย.53 นี้ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    <เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าไทย / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
     
  13. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <CENTER>ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ <TABLE width="100%" border=0><FORM name=form1 action=/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.php method=post><TBODY><TR><TD align=right>วันที่ก่อนหน้านี้ <TD align=middle>วันที่ <INPUT class=text id=sdate size=10 value=2010-09-16 name=sdate> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> Calendar.setup({ inputField : "sdate", ifFormat : "%Y-%m-%d", // format of the input field showsTime : false, // will display a time selector button : "sdate_c" // trigger for the calendar (button ID) }); </SCRIPT> <INPUT class=button type=submit value=แสดงข้อมูล name=submit> <TD>วันที่ถัดไป </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=1><TBODY><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle rowSpan=3>ภาค
    อ่างเก็บน้ำ เขื่อน </TD><TD class=td align=middle rowSpan=3>ความจุ
    ที่
    รนก.
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td align=middle colSpan=5>ปริมาตรน้ำในอ่างฯ</TD><TD class=td align=middle colSpan=4>ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ</TD><TD class=td align=middle colSpan=2>ปริมาณน้ำระบาย</TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle rowSpan=2>ปี 2552

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle colSpan=2>ปัจจุบัน</TD><TD class=td align=middle colSpan=2>ใช้การได้จริง</TD><TD class=td align=middle rowSpan=2>ค่าเฉลี่ย
    รวมทั้งปี
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle rowSpan=2>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle colSpan=2>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53 </TD><TD class=td align=middle rowSpan=2>วันนี้
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle rowSpan=2>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53
    ม.(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบ
    รนก.
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ใช้ได้ทั้งอ่างฯ
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตร
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ค่าเฉลี่ยทั้งปี
    </TD></TR><TR><TD class=td>ภาคเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ภูมิพล (2) <TD class=td align=right> 13,462 <TD class=td align=right> 6,715 <TD class=td align=right> 5,586 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 1,786 <TD class=td align=right> 13 <TD class=td align=right> 5,602 <TD class=td align=right> 52.65 <TD class=td align=right> 1,965.04 <TD class=td align=right> 35.08 <TD class=td align=right> 2.00 <TD class=td align=right> 4,321.48 <TR><TD class=td>สิริกิติ์ (2) <TD class=td align=right> 9,510 <TD class=td align=right> 5,481 <TD class=td align=right> 6,609 <TD class=td align=right> 69 <TD class=td align=right> 3,759 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 5,391 <TD class=td align=right> 91.84 <TD class=td align=right> 4,506.00 <TD class=td align=right> 83.58 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 3,108.45 <TR><TD class=td>แม่งัด <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 146 <TD class=td align=right> 222 <TD class=td align=right> 84 <TD class=td align=right> 200 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 332 <TD class=td align=right> 4.34 <TD class=td align=right> 223.68 <TD class=td align=right> 67.37 <TD class=td align=right> 1.73 <TD class=td align=right> 99.39 <TR><TD class=td>กิ่วลม <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 80 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 281 <TD class=td align=right> 14.55 <TD class=td align=right> 444.03 <TD class=td align=right> 158.02 <TD class=td align=right> 8.46 <TD class=td align=right> 466.96 <TR><TD class=td>แม่กวง <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 108 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 186 <TD class=td align=right> 1.80 <TD class=td align=right> 113.62 <TD class=td align=right> 61.09 <TD class=td align=right> 0.03 <TD class=td align=right> 78.87 <TR><TD class=td>กิ่วคอหมา <TD class=td align=right> 170 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 150 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 144 <TD class=td align=right> 85 <TD class=td align=right> 297 <TD class=td align=right> 12.28 <TD class=td align=right> 140.37 <TD class=td align=right> 47.26 <TD class=td align=right> 6.56 <TD class=td align=right> 97.84 <TR><TD class=td>แควน้อย <TD class=td align=right> 769 <TD class=td align=right> 232 <TD class=td align=right> 581 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 545 <TD class=td align=right> 71 <TD class=td align=right> 1,653 <TD class=td align=right> 16.99 <TD class=td align=right> 688.30 <TD class=td align=right> 41.64 <TD class=td align=right> 6.05 <TD class=td align=right> 712.11 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคเหนือ <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 24,551 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 12,814 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 13,318 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 54 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 6,586 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 74 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 13,742 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 194.45 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 8,081.04 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 59.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 24.83 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 8,885.10 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ลำปาว <TD class=td align=right> 1,430 <TD class=td align=right> 1,106 <TD class=td align=right> 1,352 <TD class=td align=right> 95 <TD class=td align=right> 1,267 <TD class=td align=right> 89 <TD class=td align=right> 1,985 <TD class=td align=right> 34.96 <TD class=td align=right> 1,603.29 <TD class=td align=right> 80.77 <TD class=td align=right> 21.16 <TD class=td align=right> 1,317.78 <TR><TD class=td>ลำตะคอง <TD class=td align=right> 314 <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 135 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 108 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 2.51 <TD class=td align=right> 115.48 <TD class=td align=right> 42.77 <TD class=td align=right> 0.17 <TD class=td align=right> 121.10 <TR><TD class=td>ลำพระเพลิง <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 74 <TD class=td align=right> 67 <TD class=td align=right> 184 <TD class=td align=right> 2.04 <TD class=td align=right> 80.78 <TD class=td align=right> 43.90 <TD class=td align=right> 0.48 <TD class=td align=right> 57.96 <TR><TD class=td>น้ำอูน <TD class=td align=right> 520 <TD class=td align=right> 255 <TD class=td align=right> 351 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 308 <TD class=td align=right> 59 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 5.17 <TD class=td align=right> 250.17 <TD class=td align=right> 56.47 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 78.00 <TR><TD class=td>อุบลรัตน์ (2) <TD class=td align=right> 2,432 <TD class=td align=right> 714 <TD class=td align=right> 1,702 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 1,121 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 2,271 <TD class=td align=right> 43.50 <TD class=td align=right> 1,883.52 <TD class=td align=right> 82.94 <TD class=td align=right> 23.54 <TD class=td align=right> 1,082.93 <TR><TD class=td>สิรินธร (2) <TD class=td align=right> 1,966 <TD class=td align=right> 1,560 <TD class=td align=right> 1,187 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 356 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 1,664 <TD class=td align=right> 9.21 <TD class=td align=right> 608.69 <TD class=td align=right> 36.58 <TD class=td align=right> 2.23 <TD class=td align=right> 542.54 <TR><TD class=td>จุฬาภรณ์ (2) <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 86 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 1.26 <TD class=td align=right> 91.54 <TD class=td align=right> 55.48 <TD class=td align=right> 0.96 <TD class=td align=right> 93.40 <TR><TD class=td>ห้วยหลวง <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 111 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 106 <TD class=td align=right> 90 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 1.22 <TD class=td align=right> 113.01 <TD class=td align=right> 70.19 <TD class=td align=right> 1.39 <TD class=td align=right> 39.32 <TR><TD class=td>ลำนางรอง <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0.28 <TD class=td align=right> 17.02 <TD class=td align=right> 56.74 <TD class=td align=right> 0.27 <TD class=td align=right> 15.39 <TR><TD class=td>มูลบน <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 69 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 0.43 <TD class=td align=right> 24.83 <TD class=td align=right> 30.28 <TD class=td align=right> 0.43 <TD class=td align=right> 52.99 <TR><TD class=td>น้ำพุง (2) <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 119 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 67 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 3.16 <TD class=td align=right> 110.19 <TD class=td align=right> 106.98 <TD class=td align=right> 0.11 <TD class=td align=right> 51.96 <TR><TD class=td>ลำแซะ <TD class=td align=right> 275 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 144 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 137 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 2.15 <TD class=td align=right> 84.58 <TD class=td align=right> 43.82 <TD class=td align=right> 0.54 <TD class=td align=right> 131.91 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 7,756 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 4,303 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 5,374 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 69 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 3,731 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 104 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 7,551 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 105.89 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 4,983.10 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 66.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 51.28 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 3,585.28 <TR><TD class=td>ภาคกลาง <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ป่าสักฯ <TD class=td align=right> 960 <TD class=td align=right> 521 <TD class=td align=right> 624 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 621 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 2,200 <TD class=td align=right> 39.10 <TD class=td align=right> 1,057.51 <TD class=td align=right> 48.07 <TD class=td align=right> 26.07 <TD class=td align=right> 1,073.32 <TR><TD class=td>กระเสียว <TD class=td align=right> 240 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 178 <TD class=td align=right> 74 <TD class=td align=right> 138 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 6.21 <TD class=td align=right> 210.77 <TD class=td align=right> 82.33 <TD class=td align=right> 0.06 <TD class=td align=right> 196.21 <TR><TD class=td>ทับเสลา <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 81 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 2.42 <TD class=td align=right> 62.63 <TD class=td align=right> 50.51 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 45.31 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคกลาง <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1,360 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 649 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 883 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 65 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 832 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 63 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 2,580 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 47.73 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1,330.91 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 52.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 26.13 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1,314.84 <TR><TD class=td>ภาคตะวันตก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ศรีนครินทร์ (2) <TD class=td align=right> 17,745 <TD class=td align=right> 15,080 <TD class=td align=right> 13,005 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 2,740 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 4,339 <TD class=td align=right> 23.73 <TD class=td align=right> 1,609.39 <TD class=td align=right> 37.09 <TD class=td align=right> 12.55 <TD class=td align=right> 4,027.39 <TR><TD class=td>วชิราลงกรณ (2) <TD class=td align=right> 8,860 <TD class=td align=right> 7,637 <TD class=td align=right> 4,402 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 1,390 <TD class=td align=right> 16 <TD class=td align=right> 5,369 <TD class=td align=right> 30.64 <TD class=td align=right> 1,603.29 <TD class=td align=right> 29.86 <TD class=td align=right> 1.99 <TD class=td align=right> 3,810.70 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันตก <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 26,605 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 22,717 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 17,407 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 65 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 4,130 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 53 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 9,708 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 54.37 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 3,212.68 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 33.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 14.54 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 7,838.09 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>บางพระ <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0.32 <TD class=td align=right> 29.21 <TD class=td align=right> 66.38 <TD class=td align=right> 0.10 <TD class=td align=right> 31.27 <TR><TD class=td>หนองปลาไหล <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 149 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 135 <TD class=td align=right> 83 <TD class=td align=right> 203 <TD class=td align=right> 2.45 <TD class=td align=right> 96.25 <TD class=td align=right> 47.41 <TD class=td align=right> 0.92 <TD class=td align=right> 129.97 <TR><TD class=td>คลองสียัด <TD class=td align=right> 420 <TD class=td align=right> 195 <TD class=td align=right> 284 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 254 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 204 <TD class=td align=right> 4.62 <TD class=td align=right> 222.90 <TD class=td align=right> 109.26 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 166.83 <TR><TD class=td>คลองท่าด่าน <TD class=td align=right> 224 <TD class=td align=right> 154 <TD class=td align=right> 145 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 140 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 337 <TD class=td align=right> 2.09 <TD class=td align=right> 163.17 <TD class=td align=right> 48.42 <TD class=td align=right> 0.06 <TD class=td align=right> 188.41 <TR><TD class=td>ประแสร์ <TD class=td align=right> 248 <TD class=td align=right> 185 <TD class=td align=right> 208 <TD class=td align=right> 84 <TD class=td align=right> 188 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 295 <TD class=td align=right> 2.35 <TD class=td align=right> 165.12 <TD class=td align=right> 55.97 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 127.90 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออก <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1,173 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 698 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 846 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 72 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 765 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 119 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1,083 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 11.83 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 676.65 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 62.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 1.20 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 644.38 <TR><TD class=td>ภาคใต้ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>แก่งกระจาน <TD class=td align=right> 710 <TD class=td align=right> 569 <TD class=td align=right> 202 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 135 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 929 <TD class=td align=right> 1.48 <TD class=td align=right> 315.17 <TD class=td align=right> 33.93 <TD class=td align=right> 1.43 <TD class=td align=right> 482.39 <TR><TD class=td>ปราณบุรี <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 264 <TD class=td align=right> 92 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 9 <TD class=td align=right> 436 <TD class=td align=right> 0.75 <TD class=td align=right> 71.07 <TD class=td align=right> 16.30 <TD class=td align=right> 1.56 <TD class=td align=right> 264.34 <TR><TD class=td>รัชชประภา (2) <TD class=td align=right> 5,639 <TD class=td align=right> 4,873 <TD class=td align=right> 3,541 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 2,189 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 2,598 <TD class=td align=right> 6.87 <TD class=td align=right> 1,174.77 <TD class=td align=right> 45.22 <TD class=td align=right> 2.46 <TD class=td align=right> 2,297.24 <TR><TD class=td>บางลาง (2) <TD class=td align=right> 1,454 <TD class=td align=right> 877 <TD class=td align=right> 703 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 5.32 <TD class=td align=right> 729.84 <TD class=td align=right> 47.24 <TD class=td align=right> 4.49 <TD class=td align=right> 1,174.01 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคใต้ <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 8,150 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 6,583 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 4,538 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 56 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 2,799 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 66 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 5,508 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 14.42 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 2,290.85 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 42.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 9.94 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 4,217.98 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมทั้งประเทศ <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 69,595 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 47,764 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 42,366 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 61 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 18,843 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 71 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 40,172 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 428.69 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 20,575.23 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 51.00 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 127.92 <TD class=td align=right bgColor=#dcdcdc> 26,485.67 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ</TD><TD>รนก. หมายถึง ระดับน้ำเก็บกักของอ่างฯ </TD><TD>ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเกษตรในฤดูแล้ง กรมชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรที่ระดับน้ำสูงสุด </TD><TD>โทร./โทรสาร 0-2243-6956,0-2241-3350 </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างฯ ขนาดกลาง ปรับปรุงทุกวันจันทร์ </TD><TD>www.rid.go.th</TD></TR><TR><TD> </TD><TD><TABLE border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>% เทียบกับ รนก. </TD></TR><TR><TD bgColor=red> </TD><TD>> 80</TD></TR><TR><TD bgColor=blue> </TD><TD>51 - 80</TD></TR><TR><TD bgColor=green> </TD><TD>31 - 50</TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9900> </TD><TD><= 30</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <TABLE border=0><TBODY><TR><TD>จัดทำโดย : <TD>สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT src="http://cdn1.predictad.com/scripts/publishers/suggestmeyes/predictadme.js?si=7148" type=text/javascript></SCRIPT>
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    ขอเชิญทำบุญใส่บาตรพระกรรมฐาน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๓

    ณ วัดบรมนิวาส
    กรุงเทพมหานคร‏


    เวลา ๗.๐๐ - ๑๐.๐๐ น.
    [​IMG]

    ทำ บุญตักบาตรพระกัมมัฏฐาน ๒๕ รูป ณ ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท วัดบรมนิวาส ซ ๑๕ ถนนพระราม ๖ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตามวันเวลาดังต่อไปนี้

    เวลา ๐๗.๐๐ น. ตักบาตรพระกัมมัฏฐาน ๒๕ รูป
    เวลา ๐๗.๓๐ น. ประธานจุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย สมาธานศีล
    เวลา ๐๘.๐๐ น. พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์
    เวลา ๐๘.๓๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ เสร็จแล้งรับประทานอาหารร่วมกัน
    เวลา ๐๙.๓๐ น. เชิญทุกท่านถวายและเครื่องไทยธรรมที่ท่านนำมา พระสงฆ์อนุโมทนา
    จึงขอเชิญชวนคณะศิษยานุศิษย์ และศัทธาสาธุชนทั้งหลาย มาร่วมงานในครั้งนี้ ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว


    รายนามครูบาอาจารย์

    ๑.พระโสภณวิสุทธิคุณ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    ๒.พระราชวรคุณ วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
    ๓.หลวงพ่อคำบ่อ ฐิคปญฺโญ วัดป่าบ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ๔.พระครูอุดมธรรมสุนทร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    ๕.พระราชภาวนาพินิจ วัดพุทธบูชา กรุงเทพมหานคร
    ๖.พระครูวีรญาณโสภณ วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
    ๗.พระครูกิตติปัญญาคุณ วัดโป่งจันทร์ อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี
    ๘.พระราชญาณเวที วัดราชผาติการาม กรุงเทพมหานคร
    ๙.พระมงคลมุณี วัดพิมพาวาส อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
    ๑๐.พระราชวิสุทธินายก วัดเทพนิมิต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    ๑๑.พระราชสุเมธี วัดภูตูมวนาราม จ.เลย
    ๑๒.พระครูวิมลภาวนาคุณ วัดป่าภูทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    ๑๓.พระวิมลศีลาจาร วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร
    ๑๔.พระครูเกษมวรกิจ วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    ๑๕.พระครูธรรมมานุจารี วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ๑๖.พระบูรพาคณาจารย์ วัดบ้านโง้ง จ.ปราจีนบุรี
    ๑๗.พระอาจารย์รุ้ง รุจฺจโน วัดหนองบำหรุ จ.อุทัยธานี
    ๑๘.พระครูบรรพตสมานคุณ วัดป่าภูหายหลง จ.นครราชสีมา
    ๑๙.พระครูสังฆกิจโสภณ วัดหนองจะเข้ จ.ปราจีนบุรี
    ๒๐.พระครูสุนทรธรรมโฆษิต วัดป่าเลิงจาร จ.มหาสารคาม
    ๒๑.พระอาจารย์คิด ญาณทีโป วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
    ๒๒.พระครูปลัด วัดราชผาติการาม กรุงเทพมหานคร
    ๒๓.พระครูธรรมธร ไพรัตน์ วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา

    เวลา ๐๗.๐๐ น. ตักบาตรพระกรรมฐาน ๒๕ รูป
    เวลา ๐๗.๓๐ น. ประธานจุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย สมาธานศีล
    เวลา ๐๘.๐๐ น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
    เวลา ๐๘.๓๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ เสร็จแล้งรับประทานอาหารร่วมกัน
    เวลา ๐๙.๓๐ น. เชิญทุกท่านถวายและเครื่องไทยธรรมที่ท่านนำมา พระสงฆ์อนุโมทนา

     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยะอญูจญ์และมะอญูจญ์ จะพังกำแพงทะลุออกมาได้ !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    อัลลอฮ (ซ.บ)ตรัสไว้เกี่ยวกับ ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ ว่า

    (حَتّى إذَا فُتِحَتْ يَأجُوجُ وَمَأْجُوجُ وَهُمْ مِنْ كُلّ حَدْبٍ يَنْسِلُون) [الأنبياء: 96].

    This means: “Until, when Ya'juj and Ma'juj (Gog and Magog) are let loose (from their barrier), and they swiftly swarm from every mound.”
    (21, Al-Anbiya’: 96)

    96. จนกระทั่งเมื่อยะอ์ญูจญ์ และมะอ์ญูจญ์ถูกปล่อยออกมาจากกำแพง และพวกเขาจะหลั่งไหลกันลงมาจากทุกทิศทาง(*1*)

    (1) เพราะความมากมายของพวกนี้ ได้หลั่งไหลกันมาเพื่อบ่อนทำลายในแผ่นดิน

    พวกยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ออกมาภายหลังจากท่านนบีอีซาอะลัยฮิสสลาม ลงมายังแผ่นดิน และภายหลังจากที่ท่านได้สังหารดัจญาล อัลลอฮจะทรงให้ยะอญูจญ์(เป็นชื่อของประชาชาติกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันออกไกลของโลก) จะหลั่งไหลออกมาและกระจายกันออกไปทัวทุกสารทิศ ในสภาพที่เร่งรีบเพื่อก่อความพินาศในแผ่นดิน กลุ่มหน้าของพวกมะอญูจญ์-ยะอญูจญ์ จะเดินผ่านทะเลสาปฏาบารียะฮ (TIBERIADEE) เป็นทะเลสาปที่ติดอยู่กับภูเขาฏูร)กลุ่มนี้จะดื่มน้ำในทะเลสาปจนเหือดแห้ง และเมื่อกลุ่มหลังมาถึงทะเลสาปนี้พวกเขาจะกล่าวว่า"ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำอยู่ในทะเลสาปนี้"

    - หะดิษเนาวาซ บิน ซัมอาน บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิมและอิหม่ามอบูดาวูด - วารสารสายสัมพันธ์ อันดับที่ 322-323 /2539

    قَالُوا يَا ذَا الْقَرْنَيْنِ إِنَّ يَأْجُوجَ وَمَأْجُوجَ مُفْسِدُونَ فِي اْلأَرْضِ فَهَلْ نَجْعَلُ لَكَ خَرْجاً عَلَى أَنْ تَجْعَلَ بَيْنَنَا وَبَيْنَهُمْ سَدّاً) [الكهف: 94]

    94. พวกเขากล่าวว่า “โอ้ซุลก็อรนัย แท้จริง ยะอญูจญ์และมะอญูจญ์ (ซึ่งอยู่ด้านหนึ่งของภูเขา)นั้นเป็นผู้บ่อนทำลายในแผ่นดินนี้ ดังนั้นเราขอให้เราถวายบรรณาการแก่ท่านเถิด เพื่อท่านจะได้สร้างกำแพงกั้นระหว่างพวกเรากับพวกเขา”(*1*)

    (1) ซุลก็อรนัยมีความเห็นว่า วิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการสร้างกำแพงนั้นคือ ปิดทางผ่านระหว่างภูเขาทั้งสองลูก

    وأصل يأجوج ومأجوج من البشر من ذرية آدم وحواء عليهما السلام . وهما من ذرية يافث أبي الترك ، ويافث من ولد نوح عليه السلام . والذي يدل على أنهم من ذرية آدم عليه السلام ما رواه البخاري عن أبي سعيد الخدري رضي الله عنه عن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال ( يقول الله تعالى : يا آدم ! فيقول لبيك وسعديك ، والخير في يديك . فيقول اخرج بعث النار . قال : وما بعث النار ؟ قال : من كل ألف تسع مئة وتسعة وتسعين . فعنده يشيب الصغير وتضع كل ذات حمل حملها، وترى الناس سكارى وما هم بسكارى ، ولكن عذاب الله شديد ). قالوا : وأينا ذلك الواحد ؟ قال : ( ابشروا فإن منكم رجلا ومن يأجوج ومأجوج ألف) رواه البخاري

    ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ มาจากเชื้อสายของมนุษย์ จากลูกหลานของอาดัม และนางเฮาวา มันทั้งสองมาจากลูกหลานของ ยาฝิษ บรรพบุรุษของชนเชื้อสายตุรกี และยาฝิษ เป็นบุตรชายของ โนอา(นุห) หลักฐานที่แสดงว่า พวกมันเป็นลูกหลานอาดัมก็คือหะดิษ รายงานโดยอิหม่ามบุคอรี (ตามที่ระบุข้างต้น)

    เรื่อง ของยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ เป็นส่วนหนึ่ง จาก 10 สัญญานใหญ่ก่อนวันกิยามะฮ(วันพิพากษาโลก)จะเกิดขึ้น ดังระบุในหะดิษต่อไปนี้

    عن حذيفة بن أسيد أبي سريحة قال اطلع رسول الله صلى الله عليه وسلم من غرفة ونحن نتذاكر الساعة فقال لا تقوم الساعة حتى تكون عشر آيات طلوع الشمس من مغربها والدجال والدخان والدابة ويأجوج ومأجوج وخروج عيسى ابن مريم عليه السلام وثلاث خسوف خسف بالمشرق وخسف بالمغرب وخسف بجزيرة العرب ونار تخرج من قعر عدن أبين تسوق الناس إلى المحشر تبيت معهم إذا باتوا وتقيل معهم إذا قالوا * ( صحيح ) _ وأخرجه مسلم

    รายงานจากหะซัยฟะฮ บินอะซีด อบีสะรีหะฮ กล่าวว่า"ครั้งหนึ่งท่านเราะซูลุ้ลลอฮ ศอลฯออกมาจากห้อง ในขณะทีพวกเรากำลังคุยกันถึงเรื่องราววันกิยามะฮ แล้วท่านได้กล่าวว่า"แท้จริงวันกิยามะฮจะยังคงไม่เกิดขึ้น จนกว่า สัญญาน 10 ประการจะปรากฏคือ

    1. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    2. ดัจญาลจะปรากฏ
    3. อัดดุคอน(ไอหมอก)
    4. อัดดาบบะฮ(สัตว์ตัวหนึ่งจะออกมาจากแผ่นดินและพูดคุยกับมนุษย์)
    5. ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์ (ปรากฏตัว)
    6. ท่านนบีอีซา บุตร มัรยัม อะลัยฮิสสลาม ออกมาปรากฏตัว
    7. จะมีจันทร์คราส ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นสามครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นทางทิศตะวันออก
    8. ครั้งที่สองจะเกิดทางทิศตะวันตก
    9. ครั้งที่สามจะเกิดที่คาบสมุทรอาหรับ
    10. จะมีไฟออกมาจากเมื่องเอเดน(เมื่องหนึ่งของประเทศเยเมน)ไล่ต้อนผู้คนให้ไปยังมะหชัร มันจะพักแรมพร้อมกับพวกเขา เมื่อพวกเขาพักแรม และมันจะพูดกับพวกเขา เมื่อพวกเขาพูด "

    ที่มา http://www.azsunnah.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=22

    คำทำนายของนอสตราดามุส ที่สอดคล้องกับเรื่อง ยะอญูจญ์-มะอญูจญ์

    [​IMG]

    คำพยากรณ์ที่ 30 : จีนบุกทางใต้ของฝรั่งเศส

    Du pont Euxine, et la grand Tartarie,
    Un roi sera qui viendra voir la Gaule,
    Transpercera Alane et lžArmenie,
    Et dedans Bisance lairra sanglante Gaule. (V,54)

    คำแปล

    จะมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งเสด็จจากทะเลดำและมองโกเลีย มุ่งหน้าไปทางฝรั่งเศส พระองค์จะเสด็จผ่านอลาเนียและอาร์เมเนีย (ภาคใต้ของรัสเซีย) และที่ประเทศตุรกี กษัตริย์พระองค์นี้จะทรงฝากรอยจารึกของคทาเลือดของพระองค์เอาไว้

    ตีความและวิเคราะห์

    ในระหว่างที่อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเชื้อโรคของกองกำลังฝ่ายตะวันออก ซึ่งมีจีนเป็นหัวหน้ากำลังมีผลทำลายล้างในขั้วโลกเหนืออยู่นั้น ในช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่นาน กองกำลังฝ่ายตะวันออกก็จะวางแผนโจมตีทวีปยุโรป โดยเริ่มบุกเข้าทางฝรั่งเศสตอนใต้ ในชั้นแรกผู้บัญชาการกองกำลังของฝ่ายตะวันออก จะโจมตีทางภาคใต้ของประเทศรัสเซีย และสามารถปราบปรามกำลังของฝ่ายต่อต้านได้เด็ดขาด หลังจากนั้นก็จะยกกำลังพลมุ่งไปทางประเทศตุรกี เพื่อเชื่อมกับกองกำลังของฝ่ายอาหรับ โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมตัวกันโจมตีที่มั่นต่าง ๆ ของฝ่ายพันธมิตรตะวันตก นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า ผู้บัญชาการรบของกองกำลังฝ่ายตะวันออกผู้นี้ จะติดอาวุธที่มีลักษณะเหมือน คทาหรือไม้เท้า ซึ่งอาวุธชนิดนี้มีสมรรถนะในการทำลายล้างอย่างมหาศาล

    คำพยากรณ์ที่ 31 : กองกำลังอาหรับและจีนร่วมกันโจมตีประเทศตุรกี

    Au calme Duc en arrachant l’esponce
    Voile Araesque voir, subit decouverte :
    Tripolis, Chio, et ceux de Trapesconce,
    Duc pris, Marnegro et la cite deserte. (VI,55)

    คำแปล

    ท่านดยุคจะได้รับการปลุกปลอบใจ และมีการตระเตรียมร่างสนธิสัญญาสันติภาพขึ้น แต่ในบัดดลนั้นกองกำลังทางเรือของอาหรับจะปรากฏทั่วท้องทะเล กองกำลังเหล่านี้ยกมาจากกรุงทริโปลีประเทศลิเบีย มุ่งหน้ามาที่เกาะคิออส (ในแถบทะเลเอเจียน) ในขณะเดียวกับที่กองกำลังอีกฝ่ายหนึ่งจะปรากฏที่เมืองทรับซอน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี) ท่านดยุคจะถูกจับ และทะเลดำกับเมืองทรับซอนจะถูกเปลี่ยนให้เป็นทะเลทราย

    ตีความและวิเคราะห์

    เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะต้องรับศึกทั้งสองด้าน ผู้นำตุรกีก็จะตกลงใจทำสัญญาสันติภาพกับกองกำลังของฝ่ายรุกราน แต่เหตุการณ์ที่เป็นไปก็คือ จะไม่มีสันติภาพใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะกองกำลังทางเรือของฝ่ายอาหรับจากกรุงทริโปลี จะระดมโจมตีชายฝั่งตะวันตกของประเทศตุรกี ส่วนกองทัพจีนก็จะเข้าประสานกับการเคลื่อนไหวของกองทัพฝ่ายอาหรับ โดยกระทำการเข้าโจมตีดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ในการทำยุทธนาวีกันครั้งนี้ ฝ่ายอาหรับจะสามารถทำลายกองกำลังทางเรือของตุรกีในทะเลดำจนย่อยยับ ส่วนกองทัพของฝ่ายตะวันออกโดยการนำของจีน ก็จะสามารถทำลายเมือง ทรับซอนซึ่งเป็นเมืองชายทะเลของตุรกีได้เช่นเดียวกัน ในการปฏิบัติการทางทหารต่อตุรกีในครั้งนี้ กองกำลังร่วมของฝ่ายอาหรับกับตะวันออกไกลจะใช้อาวุธนิวเคลียร์สนับสนุนด้วย

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/Nostradamus/2007/09/08/entry-6
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05_China60th.jpg
      05_China60th.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      2,300
    • china1.jpg
      china1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.9 KB
      เปิดดู:
      2,291
    • 36635.jpg
      36635.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      2,286
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** กรรมปรากฏชัด ****

    กรรมเริ่มปรากฏส่วนหนึ่งทิศทางหนึ่ง
    คนในพื้นที่เริ่มคิดจัดกระเป๋า
    ศึกประลัยกัลป์ ชนวนถูกจุดแล้วโดยผู้หนึ่ง
    หมดเวลาแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขอะไรได้
    ไม่รอดยี่สิบกว่าล้าน ผู้มีสัจจะรอดพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    [​IMG]
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักวิทยาศาสตร์เป็นงง แมวน้ำขั้วโลกโผล่ในอ่าวเวียดนาม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 กันยายน 2553 04:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) เจ้าหนูตัวนี้พลัดหลงจากถิ่นฐานไปหลายพันกิโลเมตร ไปติดอวนในอ่าวภาคกลางเวียดนาม แต่เนื่องจากเป็นสัตว์สงวนในบัญชีของ CITES อาจจะไม่มีทางปฏิบัติอย่างอื่น นอกจากปล่อยกลับลงทะเลให้ไปตามยถากรรม

    [​IMG]
    ภาพจาก www.animaldiversity.ummez.umich.edu แมวน้ำเฟอร์ซีลดำผุดดำว่ายกันเป็นฝูง นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนทำให้กระแสน้ำเย็นเปลี่ยนทางไหล และนำแมวน้ำจำนวนหนึ่งพลัดหลงไปจนถึงทะเลแถบศูนย์สูตร เจ้าตัวที่พบในอ่าวเวียดนามอาจจะเป็นไปตามสมมติฐานนี้ก็ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญพากันแปลกใจไม่หายว่า แมวน้ำขนปุย (Fur Seal) ซึ่งเป็นสัตว์ในทะเลเขตหนาวใกล้ขั้วโลกไปโผล่ในอ่าว ในจังหวัดภาคกลางเวียดนามได้อย่างไร หลายคนลงความเห็นว่าเป็นเพราะลมฟ้าอากาศวิปริตอันเกิดจากโลกร้อน จึงทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้หลงทิศหลงทางรอนแรมมาไกลหลายพันกิโลเมตร

    ชาวประมงใน จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) พบสัตว์ใหญ่ชนิดหนึ่งติดอวนขึ้นมา ขณะลากกุ้งในทะเลสาบเติ่มซยาง (Tam Giang) อ.หว่างจา (Hoang Tra) เมื่อวันอังคาร และ พบว่ามันคือ แมวน้ำซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าเป็นพังผืด

    เจ้าตัวประหลาดวัดตลอดลำตัวยาว 70 ซม น้ำหนักประมาณ 25 กิโลกรัม เข้าใจว่า จะเป็นตัวที่ยังไม่โตเต็มที่และยังไม่ทราบเพศ

    นายหว่างวันเลือง (Hoang Van Luong) วัย 38 ปีกล่าวว่า กำลังลากอวนจับกุ้งอยู่ดี ก็รู้สึกว่ามีปลาตัวโตๆ เข้าไปอยู่ในอวน ตอนแรกคิดว่าเป็นฉลาม เพราะก่อนหน้านั้นมีคนเห็นฉลามเข้าไปป้วนเปี้ยนในทะเลสาบ ซึ่งไม่เคยพบเห็นที่นั่นมาก่อน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า ฉลามตามแมวน้ำเข้าไป

    นายเหวียนกวางบี่ง (Nguyen Quang Binh) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลประจำจังหวัดดังกล่าวว่า แมวน้ำที่ติดอวนขึ้นมาเป็นพันธุ์เฟอร์ซีล ซึ่งเป็นสัตว์น้ำคุ้มครอง เพราะจำนวนลดลงอย่างมากจากการไล่ล่าของมนุษย์ เพื่อนำเอาหนังของมันไปทำเสื้อขนสัตว์

    เจ้าแมวน้ำขนปุยถูกขังเอาไว้ในกรงที่ส่วนหนึ่งแช่ในน้ำทะเล ราษฎรในท้องถิ่นเริ่มทยอยกันไปดูของประหลาด หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กล่าว

    นายจูแองแข็ง (Chu Anh Khanh) เจ้าหน้าที่สถาบันสมุทรศาสตร์ แห่งเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮวา (Khanh Hoa) ที่อยู่ใต้ลงไปกล่าวว่า ภาวะโลกร้อนได้ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทางไหล นำแมวน้ำเหล่านี้ไปจนถึงฝั่งทะเลเวียดนาม สถาบันฯ กำลังจะเจรจากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อนำไปเพาะเลี้ยงและศึกษาหาข้อมูล

    เฟอร์ซีลอาศัยในเขตอากาศหนาวเย็น ส่วนใหญ่พบในดินแดนทางซีกโลกภาคใต้ รวมทั้งหมู่เกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ และตอนใต้ของทวีปออสเตรเลียด้วย

    อย่างไรก็ตาม CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) ซึ่งเวียดนามร่วมเป็นภาคีอยู่ด้วย ได้บรรจุแมวน้ำเฟอร์ซีลไว้ในบัญชีสัตว์คุ้มครองห้ามเพาะเลี้ยงและห้ามจำหน่าย ซึ่งนายกวางบี่งกล่าวว่า อาจจะต้องปล่อยลงทะเลไปเหมือนเดิม

    หลายเดือนมานี้ มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในทะเลเวียดนามหลายอย่าง รวมทั้งการมีปลาแสงอาทิตย์ (Sunfish) ที่อาศัยในน้ำลึกในมหาสมุทรไปติดอวน และมีปลาฉลามยักษ์ น้ำหนักถึง 1 ตัน เข้าไปหากินในอ่าวท่องเที่ยว ติดอวนขณะอยู่ได้ห่างจากชายฝั่งเพียง 10 เมตรเศษ

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000130650
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กำแพงเพชร-น้ำท่วมพรานกระต่าย 1,500 ครัวเรือนขาดแคลนน้ำดื่ม

    [​IMG]

    สำรวจความเสียหายเบื้องต้นเหตุน้ำท่วมอำเภอพรานกระต่าย ได้รับความเดือดร้อน 1,500 ครอบครัว สั่งปิดโรงเรียนในเขตเทศบาลแล้ว 4 โรง เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำ

    หลังจากที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันโดยเฉพาะเมื่อคืนนี้ ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตระกร้าในเขต อ.พรานกระต่าย ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย จากการออกสำรวจพื้นที่พบว่า ระดับน้ำท่วมถนนสายกำแพงเพชร-สุโขทัย ลดระดับลงบ้างแล้ว แต่รถยังสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ส่วนถนนสายหลักในตัวอำเภอพรานกระต่าย ยังมีน้ำท่วมขัง ทำให้บางช่วงต้องนำรถและแผงกั้นจราจรปิดถนน งดใช้งานชั่วคราว

    สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ติดถนนต้องนำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำ บางรายต้องใช้เครื่องสูบน้ำออกจากบ้าน นอกจากนี้ทหารพรานที่ 35 นำกำลังออกให้ความช่วยเหลือประชาชนขนกระสอบทรายเพื่อทำทำนบกั้นน้ำบริเวณบ้านเรือน

    ขณะที่ความเสียหายเบื้องต้น ได้รับรายงานมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมจำนวน 1,500 ครัวเรือน ในพื้นที่ 10 หมู่บ้าน นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขังอีกจำนวนมาก อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย

    ทางด้านโรงเรียนในเขตเทศบาลพรานกระต่าย สั่งหยุดเรียนแล้ว 4 โรง เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตรายจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่

    ความเดือนร้อนในเบื้องต้นชาวบ้านต้องการน้ำดื่ม เนื่องจากน้ำป่าได้ท่วมบ่อน้ำดื่ม ที่เป็นบ่อน้ำตื้น ไม่สามารถนำน้ำมาดื่มได้ จากปัญหาดังกล่าวทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัส ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

    ลำพูน-น้ำยังท่วมหนักบ้านจมน้ำกว่า 300 หลัง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ยังน่าเป็นห่วง น้ำจากแม่น้ำกวงเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลัง รวมทั้งสวนผัก สวนลำไย กว่า 3,000 ไร่จมน้ำเป็นวันที่ 3

    ระดับน้ำในน้ำแม่กวงที่ไหลผ่านอำเภอเมือง และอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอยู่ระดับ 5 เมตร ณ จุดวัดระดับน้ำที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนทั้งสองฝั่ง และล่าสุดวันนี้ขยายเป็นวงกว้างกว่า 300 หลังคาเรือน สวนลำไย สวนผัก ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ และที่เดือดร้อนมากที่สุดเริ่มตั้งแต่ ต.อุโมงค์ ต.เหมืองง่า ต.เวียงยอง ต.ต้นธง และ ต. บ้านแป้น ชาวบ้านต้องพากันขนข้าวของเครื่องใช้ขึ้นไปอยู่บนที่สูง ขณะที่ชาวบ้านที่ต้องย่ำน้ำเริ่มมีอาการคันที่ผิวหนัง

    นอกจากนี้ที่บริเวณ หมู่ 6 บ้านศรีเมืองยู้ ,หมู่ 7 บ้านวังไฮ , หมู่ 8 บ้านไหม่วังไฮ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน และตำบลป่าซางหมู่ที่ 6-7-8 ต้องพากันขนย้ายสิ่งของขึ้นอยู่ที่สูงอีกครั้ง ก่อนที่น้ำเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่ และน้ำจากเทือกเขาดอยขุนตาล จะไหลเข้ามาสมบทอีก

    นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือพร้อมประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำกวง และแม่น้ำปิง ให้รีบขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ทางการเกษตรขึ้นไปอยู่บนที่สูง และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงวันนี้ รวมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน และเร่งสำรวจความเสียหายเป็นการด่วน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

    อ่างทอง-น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วม อ.ป่าโมก รอบ 2

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เขื่อนชัยนาทเริ่มปล่อยน้ำปริมาณมากทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเข้าท่วมตำบลโผงเผงเป็นรอบสอง ถนนคันดินกั้นน้ำยาวกว่า 1 กม.ทรุดตัว ต้องเร่งตอกเสาเข็มกั้นน้ำป้องกันคันกั้นน้ำพังเข้าท่วมประชาชนในหมู่ที่ 7-8

    เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ นายวิโรจน์ ดำสนิท นายกอบต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง แจ้งว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกครั้ง หลังจากน้ำลดลงไปแล้วทำให้น้ำกลับมาท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนคันดินทรุดตัวกว่า 1 กม. ล่าสุดบ้านเรือนที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมได้รับความเดือนร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันอีกครั้ง นอกจากนี้ริเวณหมู่ที่ 8 ต.โผงเผง ถนนคันดินเกิดทรุดตัวเป็นทางยาวประมาณ 1,200 เมตร ชาวบ้าน และทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่รักษาพระองค์ที่ 11 จ.ลพบุรี ต้องระดมกำลังช่วยกันตอกเข็มและถมดินเพื่อป้องกันถนนขาด และนำกระสอบทรายเตรียมพร้อมไว้กว่า 50,000 ลูก

    นายวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพืชผลการเกษตร เสียหายจำนวนมาก ชาวบ้าน 4 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง จนกระทั่งน้ำลดลงไปกว่า 2 อาทิตย์ ชาวบ้านต่างนำของที่เก็บไว้ลงมาอยู่ตามปกติคิดว่าน้ำจะไม่ท่วมอีก แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำออกเป็นจำนวนมากทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกครั้ง

    ด้านนายฉัตรณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดอ่างทองตอนนี้ต้องเฝ้าระวังอย่างมากโดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาหลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มจากเมื่อวานนี้ถึง 100 ลูกบาตก์เมตร/วินาที และคาดว่าน่าจะปล่อยน้ำที่ปริมาณสูงกว่านี้

    สำหรับจุดวิกฤตระดับน้ำในจังหวัดอ่างทองที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับตลิ่ง 7.50 เมตร วันนี้ระดับน้ำสูง 6.21 เมตร ที่หน้าเทศบาลตำบลป่าโมก ระดับตลิ่ง 6 เมตร ระดับน้ำวันนี้สูง 5.64 เมตร ซึ่งใน อ.ป่าโมกเหลืออีกเพียง 36 ซ.ม.เท่านั้นน้ำก็จะสูงกว่าตลิ่ง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)นั้นมีอะไรบ้าง ?

    [​IMG]
    อัลกะอฺบะฮฺ


    คำถาม : สัญญาณวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)นั้นมีอะไรบ้าง ?

    คำตอบ : ท่านเชค อาลี อาลี มุฮำหมัด ได้กล่าวถึง สัญญาณวันกิยามะห์(วันสิ้นโลก)ไว้ในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า " อัชร็อต อัซซาอะห์ " ดังต่อไปนี้


    สัญญาณใหญ่ ได้แก่

    1. อิหม่ามมะฮุดีจะปรากฏตัว
    2. ดัจญาลเผยโฉม
    3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
    4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
    5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
    6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
    8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
    9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
    10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย

    สัญญาณเล็ก ได้แก่:

    1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
    2. ลมพายุจะรุนแรง
    3. ความตายจะดาษดื่น(จากโรคร้าย) และความตายโดยฉับพลัน
    4. มนุษย์จะแข่งกันประดับประดา มัสยิด
    5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
    6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจกลับถูกบิดพลิ้ว
    7. การผิดประเวณี(ซีนา)จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย
    8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
    9. ในมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก
    10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
    11. ความวุ่นวายจะเกิดทุกหัวระแหง
    12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
    13. อุตริกรรม(บิดอะห์)จะปรากฏชัด
    14. ความอายจะน้อยลง
    15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือสตรี
    16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
    17. ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
    18. ผู้คนจะอ่านอัลกรุอานอย่างไพเราะ (ขาดการปฏิบัติตาม)
    19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
    20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺจะมีมาก
    21. การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
    22. ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด
    23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์ กิเลสและตัณหา
    24. บุรุษจะถูกทำลายเพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
    25. มนุษย์จะตัดญาติขาดมิตร
    26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
    27. ประชาชาติจะแตกแยกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
    28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งปีหนึ่งเหมือนหนึ่งเดือน และเดือนหนึ่ง เหมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน
    29. การแต่งงานมีขึ้นเพราะสมบัติเป็นเหตุ
    30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
    31. การตลาดจะฝืดเคือง
    32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
    33. ความรับผิดชอบจะหายไป
    34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก(ดุนยา)
    35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
    36. ทานบังคับ(ซะกาต)ถูกนำมาจ่ายเป็นค่าแรง
    37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
    38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม(บนมิมบัร)
    39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
    40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
    41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
    42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
    43. ความบริสุทธิ์ใจจะหายไปจากการงาน
    44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
    45. การพนันจะมีมาก
    46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น(ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
    47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรกและหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮฺ

    ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=narok&date=01-10-2006&group=5&gblog=2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มหันตภัยในนครนิวยอร์ค

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    คำพยากรณ์ที่ 183-184 : นครนิวยอร์คเกิดแผ่นดินไหว

    Ennosigee feu du centre de terre,
    Fera tremler autour de cite neuve,
    Deux grands rochers longtemps feront la guerre,
    Puis Arethuse rongira nouveau fleuve. (I,85)
    Jardin du monde aupres de cite neuve,
    Dans le chemin des montagnes cavees,
    Sera saisi et plonge dans la Cuve,
    uvant par force eaux soufre envenimees.(X,49)

    คำแปล

    ภูเขาไฟที่จุดศูนย์กลางของโลกจะเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณรอบ ๆ นครใหม่ (นครนิวยอร์ค) หินใหญ่สองก้อนจะกระทบกันเป็นเวลานาน แม่น้ำทั้งหลายกลายเป็นสีแดงดั่งสีเลือด

    ส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้นครใหม่ และบริเวณต่าง ๆ ตามเส้นทางไปสู่ภูเขาที่มนุษย์สร้างขึ้น (ตึกระฟ้า) จะพังทลายลงสู่อ่าว ส่วนประชาชนที่อยู่ในนครแห่งนี้ก็ต้องดื่มน้ำเน่าเหม็นที่เป็นพิษ

    ตีความและวิเคราะห์

    ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดแผ่นดินไหวในนครนิวยอร์กครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับที่จีน ใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีที่บริเวณเส้นขนานที่ 45 ซึ่งทำให้เกิดพายุเพลิงลุกลามมาที่นครนิวยอร์คดังได้กล่าวมาแล้วนั้นหรือไม่ แต่คำพยากรณ์สองบทนี้ ได้กล่าวถึงความหายนะที่เกิดจากแผ่นดินไหว อันเนื่องมาจากแรงระเบิดของนิวเคลียร์ โดยนครนิวยอร์กและสถานที่ใกล้เคียงจะถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง จากผลของแผ่นดินไหวในครั้งนี้ แผ่นดินไหวจะมีความรุนแรงมากในบางพื้นที่ เช่น ที่ย่านแมนฮัตตันถึงกับทำให้ตึกระฟ้าพังทลายลงไปในอ่าวนิวยอร์คเลยทีเดียว นอกจากนั้น ผลของแผ่นดินไหวจะทำให้ท่อ เมนน้ำประปาหลายต่อหลายท่อแตก ส่วนน้ำดื่มที่ยังเหลืออยู่จะมีสิ่งที่เป็นมลพิษจือปนอยู่ ซึ่งเมื่อดื่มไปแล้วจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน

    การที่นครนิวยอร์กจะประสพกับภัยพิบัตินี้ นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้กว่า 400 ปีมาแล้ว แม้แต่โหรในยุคปัจจุบันก็ได้พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกัน โหรหลายคนเคยพยากรณ์ไว้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เองว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับชั้นหินที่อยู่ใต้มหานครนิวยอร์ก

    นายคริสเวลล์ หมอดูชาวอเมริกัน ในรัฐคาลิฟอร์เนียพยากรณ์ไว้ว่า นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงไปในน้ำ ในระหว่างปี พ.ศ. 2423-2533 ทั้งนี้เพราะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา นายคริสเวลล์ กล่าวว่า ลองไอส์แลนด์จะจมน้ำและหลังจากนั้นอีกไม่นานนัก บริเวณย่านแมนฮัตตันจะกลายเป็น เมืองเวนิชของสหรัฐอเมริกา กล่าวคือจะเป็นเมืองที่มีลำคลองเกิดขึ้นหลายแห่ง นครนิวยอร์กจะทรุดลงไปมาก ถึงขนาดที่ประชาชนต้องอพยพจากที่พักอาศัยภายในเมืองออกไปอยู่ในที่ที่สูงพ้นจากน้ำท่วม

    เมื่อไม่กี่ปีมานี้ นายจิม กาวิน โหรชาวไอริช ก็ได้พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกันว่า นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงไปในน้ำ โดยเขากล่าวว่า สตาเต็นไอส์แลนด์ จะจมน้ำ เหมือนกับแพที่ถูกน้ำดูดจมหายลงใต้น้ำ นอกจากนั้น ย่านแมนฮัตตันที่อยู่ในที่ต่ำก็จะจมหายไปในอ่าว น้ำจะท่วมไปจนถึงถนนเลขที่ 59

    พวกนักธรณีวิทยาต่างทราบกันมานานหลายปีแล้วว่า นิวยอร์คมีฐานรองรับใต้ดินที่ไม่มั่นคงนักแม้ว่าจะมีหินรองรับอยู่ก็ตาม นายฮิว อัลเลน เคยเขียนไว้ในหนังสือ Window in Providence ว่า นครนิวยอร์กมีฐานรองรับเบื้องล่างไม่ค่อยดี ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว เกาะแมนฮัตตันจะ แตกออกเป็นสามส่วน ซึ่งจะทำลายบริเวณต่าง ๆ ในนครนิวยอร์ก และมีผลกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรงต่อประชาชนหลายล้านคนที่อยู่ในนครแห่งนี้

    ที่กล่าวกันว่า นครนิวยอร์กมีฐานรองรับเกิดผิดปกตินั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเนื่องมาจากมีรอยแยกของพื้นดินขนาดใหญ่ ซึ่งกินอาณาบริเวณนับตั้งแต่มลรัฐเมน ตัดผ่านบริเวณเมืองบอสตันและเมืองฟิลาเดลเฟีย ในบรรทัดที่สามของคำพยากรณ์บทแรกนั้น นอสตราดามุสได้พยากรณ์ว่า หินใหญ่สองก้อนจะกระทบกระแทกกันอยู่เป็นเวลานาน คำว่า หินสองก้อน ก็น่าจะหมายถึงแนวแตกของหินที่ตัดผ่านบริเวณนิวอิงแลนด์ ซึ่งแนวแตกนี้เกิดการกระแทกกระทั้นกันอย่างรุนแรง

    ส่วน เอ็ดการ์ เคย์ซี เป็นผู้ให้ความกระจ่างยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากแผ่นดินไหวในนครนิวยอร์ก โดยในปี พ.ศ. 2475 เมื่อมีผู้ถามว่าในอนาคตจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในสหรัฐอเมริกาที่ใดบ้าง เอ็ดการ์ เคย์ซี นั่งทางในอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตอบว่าจะเกิดแผ่นดินไหวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยจะมีความรุนแรงมากตามบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เอ็ดการ์ เคย์ซี ระบุแน่ชัดยิ่งขึ้นว่าพื้นที่ในนครนิวยอร์ก และคอนเนคติคัตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเนื่องจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นครนิวยอร์กจะจมหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ นอกจากนั้นเขายังพยากรณ์ไว้ด้วยว่า ดินแดนในทางภาคใต้ของรัฐนอร์ทคาโรไลนา รัฐเซาท์คาโรไลนา และรัฐจอร์เจีย จะเกิดภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง

    โหรอีกผู้หนึ่งที่ทำนายไว้ในทำนองเดียวกัน ได้แก่ นายจอห์น เพนดรากอน โหรชาวอังกฤษพยากรณ์ไว้ก่อนจะเสียชีวิตไม่นานว่า พื้นที่ทุกหนทุกแห่งตามชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก นับตั้งแต่เมืองบอสตันไปจนถึงเมืองบัลติมอร์ จะพบความวิบัติอย่างย่อยยับ ความวิบัติครั้งนี้จะมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่นครนิวยอร์ก และจะส่งผลทำลายล้างออกไปภายในรัศมี 500 ไมล์ เมืองที่จะถูกทำลายในครั้งนี้รวมทั้งเมืองพิตต์สเบิร์กและเมืองฟิลาเดลเฟีย เมืองเหล่านี้จะถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลย นอกจากผืนแผ่นดินอันเป็นที่ตั้งของเมืองเท่านั้น

    ที่มา http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/7/nostradamus/180-198/index183-184.htm<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --><!--mstheme-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...