การถวายชุดปฏิบัติธรรมให้เจ้ากรรมนายเวรต้องปฎิบัติอย่างไร

การถวายชุดปฏิบัติธรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามเราอยู่เพื่อขออโหสิกรรม ต้องถวายเป็นสังฆทานให้พระสงฆ์อย่างน้อย 4 องค์ หรือ ถวายให้พระสงฆ์องค์เดียวได้เลยคะ และ วัน เวลาที่ถวาย มีข้อจำกัดไหมคะ เช่น ห้าม ถวายในวันพระ ห้ามถวายหลังเพล เป็นต้น แล้วกล่าวอุทิศเจาะจงให้เจ้ากรรมนายเวรท่านนี้เลยตอนกรวดน้ำ ถูกต้องหรือไม่อย่างไรคะ ขอความกรุณาผู้รู้เมตตาด้วยค่ะ

 

หมายถึง ชุดขาวใช่ไหมครับ ผมว่าถวายเป็นจีวรไปเลยอานิสงค์เยอะกว่านะครับ และควรมีพระพุทธรูปด้วย หนังสือธรรมมะสักเล่มก็ดีครับ จริงๆแล้วสังฆทาน ก็เป็นตัวบอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นของสงฆ์นำไปใช้คนเดียวไม่ได้ แต่จะให้ดีก็ต้องเลือกเนื้อนาบุญหน่อยนะครับ
ต้องถวายก่อนเพลถูกต้องครับ วันไม่จำกัดแต่วันพระอานิสงค์ก็เยอะหน่อยครับ
การเลี้ยงพระตั้งแต่สี่องค์ขึ้นไปมีพระพุทธเป็นประธาน(พระพุทธรูป)ก็เรียกว่าสังฆทานเหมือนกันครับ
การอุทิศส่วนกุศลกล่าวเจาะจงไปเลยถูกต้องครับว่าจะให้ใคร ระบุชื่อนามสกุลให้ถูกต้อง
แนะนำให้ไป บ้านสายลมครับ พหลโยธิน ซอย 8 ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯนะครับ และขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

 

วิธีการถวายที่ถูกต้องคือ เราต้องใส่เอง...แล้วก็ เข้าวัดไปปฏิบัติธรรมสัก เจ็ดวัน.....โดยที่คณะสงฆ์และคณะดูแลที่วัดอนุญาตให้ปฏิบัติในวัดได้ตามระเบียบของวัด....วันเวลาที่ถวายกำหมดไว้เจ็ดวัน ต้องอยู่วัดทั้งตอนพระฉันจังหัน ฉันเพล ตลอดจนปฏิบัติธรรมอยู่วัดทั้งกลางวันและกลางคืน และถ้าอยู่ถึงวันพระได้ยิ่งดี....การอุทิศส่วนกุศลก็อุทิศโดยตรงเจ้ากรรมนายเวรเลยครับ....

มีอะไรข้องใจจะถามเพิ่มเติมไมครับ.....

 

การถวายชุดปฏิบัติธรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามเราอยู่เพื่อขออโหสิกรรม ต้องถวายเป็นสังฆทานให้พระสงฆ์อย่างน้อย 4 องค์ หรือ ถวายให้พระสงฆ์องค์เดียวได้เลยคะ

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า สังฆทาน คือของกินหรือของใช้ที่เป็นของสงฆ์โดยส่วนรวม การถวายสังฆทานนั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ข้อดังต่อไปนี้

1 เรามีเจตนาที่จะถวายให้เป็นของสงฆ์โดยส่วนรวมหรือไม่ ข้อนี้สำคัญที่สุด
2 เราได้แสดงเจตนาออกมาหรือยัง

ถ้าเรามีเจตนาที่จะถวายให้เป็นของสงฆ์โดยส่วนรวม เราก็ต้องแสดงมโนกรรมนั้นออกมาทางกายกรรมและวจีกรรม ก็จะสมบูรณ์เป็นการถวายสังฆทาน ส่วนกรณีพระสงฆ์ 4 รูปหรือ 1 รูปนั้น เราต้องเข้าใจว่า เป็น "ตัวแทน" ของสงฆ์ทั้งหลาย เมื่อเข้าใจคำว่า "ตัวแทน" จะเป็นสงฆ์กี่รูปก็ได้ที่จะรับสังฆทานนั้น

ส่วนตัวผมเอง เวลาที่ผมจะถวายสังฆทาน ถ้าวัดนั้นไม่มีข้อกำหนดว่าจะต้องกล่าวเป็นภาษาบาลี ผมก็จะกล่าวคำถวายเป็นภาษาไทยดังนี้

ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระสงฆ์ทั้งหลาย ข้าพเ้จ้า (หรือข้าพเ้จ้าทั้งหลาย) ขอน้อมถวายเครื่องภัตตาหารอีกทั้งของบริวารทั้งหลายเหล่านี้ (หรือระบุไปว่าขอถวายธุป เทียน อะไรก็ว่าไปตามชื่อสิ่งของที่นำมาถวาย) แด่พระสงฆ์ทั้งหลาย ขอพระสงฆ์ทั้งหลายจงรับเครื่องภัตตาหารอีกทั้งของบริวารทั้งหลายเหล่านี้เป็นเครื่องสังฆทาน เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขของข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ

เห็นไหมครับว่าเจตนาของผมเป็นอย่างไร ผมตั้งเจตนาไว้ให้เป็นสมบัติของสงฆ์โดยส่วนรวม และเมื่อเราแสดงเจตนานั้นอย่างชัดเจนแล้ว เราก็ต้องหา "ตัวแทน"สงฆ์มารับ คำว่า "ตัวแทน" สงฆ์นั้นจะเป็นกี่รูปก็ได้ แม้จะเป็นรูปเดียวก็ได้

การถวายสังฆทานนั้น ขอให้ระลึกไว้ว่าเราต้องใช้ปัญญา หมายความว่าถ้าของนั้นเป็นสิ่งของที่ถวายด้วยความประณีต เป็นสิ่งของที่พระท่านนำไปใช้เกิดประโยชน์มากมาย อานิสงส์ก็ยิ่งทวีคูณ การที่คุณจะถวายชุดขาวหรือชุดปฏิบัติธรรมนั้น ผมไม่ขัดหรอก เพียงแต่ขอให้ลองทบทวนข้อความที่เมื่อตะกี้ผมพูด เรื่องการถวายของให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลองทบทวนดูว่าพระท่านใช้ชุดขาวมั้ย ?

และ วัน เวลาที่ถวาย มีข้อจำกัดไหมคะ เช่น ห้าม ถวายในวันพระ ห้ามถวายหลังเพล เป็นต้น

ถ้าถวายเป็นอาหาร ควรถวายก่อนเพล ถ้าสิ่งที่ถวายไม่ใ่ช่อาหาร ถวายหลังเพลได้ ไม่มีข้อจำกัดว่าห้ามถวายในวันพระ แต่ควรเลือกช่วงเวลาที่จะไปถวาย อย่าไปถวายในช่วงเวลาที่ท่านไม่สะดวกหรือช่วงเวลาที่ท่านสวดมนต์ปฏิบัติธรรม บางที่จะมีกำหนดว่า ช่วงเวลาเท่านั้นเท่านี้ หลวงปู่ท่านจะไม่รับแขก เราก็ต้องรอให้พ้นช่วงนั้นไปก่อน นั่นแหละถึงเป็นการแสดงความเคารพในตัวพระภิกษุสงฆ์ที่เราจะถวายสังฆทาน ขอให้ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการถวายสิ่งของกับพระภิกษุสงฆ์จากลิงค์นี้
http://www.fungdham.com/download/book/plien/givingpadjai.pdf

แล้วกล่าวอุทิศเจาะจงให้เจ้ากรรมนายเวรท่านนี้เลยตอนกรวดน้ำ ถูกต้องหรือไม่อย่างไรคะ

ก็ถูกต้องแล้ว ควรกล่าวตอนกรวดน้ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้ชิดกับผลบุญที่เราทำมากที่สุด และแม้เราทำบุญเสร็จไปแล้ว ก็ขอให้อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆ ทุกๆวัน นึกในใจนี่แหละว่า "บุญใดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติตราบจนถึงชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเ้จ้าล่วงเกินมาแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติก็ดี ชาตินี้ก็ดี ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายโมทนาในผลบุญของข้าพเจ้า และอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ

อาจสงสัยว่าทำไมต้องอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆ ทุกๆวัน เพราะในชีิวิตของคนเรา เราไม่ได้มีเจ้ากรรมนายเวรคนเดียว เชื่อมั้ยว่า บางคนแม้เจ้ากรรมนายเวรรายหนึ่งเค้าอโหสิกรรมไปแล้ว แต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจยังไม่จบ เพราะมีเจ้ากรรมนายเวรอีกรายหรือหลายๆรายตามมาทวงอีก เป็นบัญชีหางว่าวเลยแหละ ดังนั้นเราต้องอุทิศส่วนกุศลให้ทุกๆวัน วันละหลายๆครั้งก็ยิ่งดี

แ้ม้กระทั่งเจ้ากรรมนายเวรรายเดียว เรา้ต้องส่งบุญให้เค้าบ่อยๆ เพื่อให้เค้าใจอ่อน ยกตัวอย่างเช่น คุณไปตัดแขนเค้า แล้วคุณส่งแค่ช่อดอกไม้ไปให้เ้ค้าช่อเดียว เพียงครั้งเดียวเป็นการขอโทษ แล้วหายจ้อยไปเลย คุณคิดว่าเค้าจะยกโทษให้คุณมั้ยละ ? นั่นแหละถึงบอกว่าให้พยายามส่งผลบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆทุกๆวัน บุญที่ส่งไปเหมือนความเย็นที่ไปทำให้ใจอันร้อนระอุของเค้าลดความร้อนลง เหมือนคุณพยายามไปตื้อเค้านะ ตอนแรกๆเค้าก็ไม่ยอม แต่เห็นว่าคุณสำนึกผิดจริง เค้าก็จะยอมรับบุญที่คุณส่งไปให้ เค้าก็จะยกโทษให้ ดังนั้นในคำกล่าวคำอุทิศส่วนกุศล นอกจากจะบอกให้เค้าโมทนาบุญให้กับคุณแล้ว ต้องบอกให้เค้า "อโหสิกรรม" ให้ักับคุณด้วย จะได้สมบูรณ์

บางกรณีเจ้ากรรมนายเวรจะเจาะจงมาเลยว่า ต้องการบุญอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ต้องไปทำให้เค้า เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่เค้าขอ เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้เรียกว่าอาฆาตหนัก

การให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมนั้น นอกจากจะอุทิศส่วนกุศลให้บ่อยๆ บุญที่ทำ ก็ต้องเป็นบุญใหญ่ บุญใหญ่ที่ผมพอนึกขึ้นได้ก็คือ

1 สร้างพระ แ่บ่งเป็น
สร้างพระที่เป็นคน คือบวช หรือเป็นเจ้าภาพบวชพระ
สร้างพระที่เป็นพระพุทธรูป

2 นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม

นี่แหละบุญใหญ่

 

ลองเลือกทำบุญด้วยวิธีอื่นๆ บ้างก็จะดี อย่าเจาะจงเพียงแค่สังฆทานอย่างเดียว
เวลาที่เขาจะสร้างโรงพยาบาล อาคารเรียน สิ่งอันเป็นสาธารณะประโยชน์ ก็จงร่วมไปทำบุญกับเขา โรงเรียนวัด ที่มีอาคารเรียนไม่สมบูรณ์ สนามเด็กเล่น สถานีอนามัย ก็ไปร่วมกับเขาเถิด

มัวสร้างเจดีย์ สร้างวัตถุ ที่ไม่เกิดประโยชน์เหล่านี้บุญได้แค่หนเดียว
ลองคิดดูสิว่า สร้างโรงเรียน เราจะช่วยคนอีกเท่าไร เราจะช่วยขัดเกลาจิตใจคนได้อีกเท่าไร สร้างสถานีอนามัย ช่วยคนเจ็บไข้ได้อีกเท่าไร......

บุญกุศลแบบนี้ ย่อมส่งผลดีต่อเพื่อนมนุษย์....
เราสร้างศาลาอเนกประสงค์ คนมาศึกษาธรรมะ มาปฏิบัติธรรม ทำให้เขามีดวงตาเห็นธรรม อีกจำนวนมากมาย ย่อมดีกว่า สร้างเจดีย์ หรือ พระพุทธรูป เป็นไหนๆ

 

คนที่ไม่เข้าใจ ก็ว่ากันไป เวลาที่เจ้ากรรมนายเวรเค้าตามถึงตัวนะ และเค้าหมายเอาชีวิต บุญธรรมดาเอาไม่อยู่หรอก

เมื่อเร็วๆนี้ ผมเจอเคสนึง เค้าขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน แล้วขี้เมาที่นั่งกินเหล้าอยู่เนี่ย ขว้างขวดเหล้าลงบนพื้นถนน เศษแก้วตัดเส้นเลือดใหญ่ที่ขาของผู้โชคร้ายคนนี้ แล้วเค้าเสียเลือดมาก เค้าเห็นคนนุ่งโจงกระเบนสีแดงจะลากตัวเค้าไป เค้าไม่ยอม บอกว่า "กูไม่ไปๆ"
ญาติเค้าก็เลยเอาเหรียญหลวงปู่ผ่าน (ที่ท่านเพิ่งมรณภาพนี่แหละ) แขวนคอเด็กผู้โชคร้ายคนนี้ กันไว้ก่อน ตอนแขวนเหรียญ คนที่นั่งใกล้ๆเค้าเนี่ยขนลุกซู่ขึ้นมาเลย สุดท้ายเด็กคนนี้รอดเพราะหลวงปู่ภูพาน หลวงปู่ภูพานท่านให้ไปบวชที่วัดของท่าน ตอนบวชเด็กคนนี้ปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร สุดท้ายเค้าก็รอด

ในชีวิตของผม ผมเจอหลายกรณีที่คนถูกเจ้ากรรมนายเวรตาม แต่โชคดีที่ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรของผม ผมถึงได้เอาประสบการณ์มาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง

สุดท้ายอยากจะบอกว่า การแก้อะไรบางอย่าง จะต้องมีเคล็ด ถ้าคนรู้จักเคล็ด รู้จักวิธี เค้าก็จะแก้ง่าย แ้ก้ได้ตรง ถ้าไม่งั้นก็ทำไปเหอะ ของอย่างนี้มันต้องเจอกับตัวเอง หรือกับคนใกล้ตัว แล้วจะรู้....สึก

 

เจ้ากรรมนายเวร มีหลายประเภทนะครับ มีตั้งแต่พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย คู่ครอง ลูกๆ บริวาร ไปจนถึงศัตรูคู่อาฆาตที่จ้องจะฆ่ากันเลยทีเดียว กรรมบางอย่างเป็นกรรมเล็กน้อย ขัดใจเขาเล็กน้อยแต่เขาจองเวร มันก็เวรเล็กๆ น้อยๆ เช่น เคยไปด่าเขาไว้บ้าง เขาก็ไม่ได้คิดถึงขนาดจะฆ่าจะแกงเราหรอกครับ นอกเสียจากพวกที่เคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจกันมาอย่างแสนสาหัส เคยฆ่ากันมาแล้วอันนั้นถึงจะเป็นกรรมใหญ่แก้ยาก หากวาระมาถึง อีกอย่างแม้จะเคยฆ่าแกงกันมาแล้วแต่ถ้าเขาจิตใจสูงแล้ว เขาก็ไม่เอาบาป แต่เขายังต้องการบุญอยู่ ฉะนั้นเขาก็ขอบุญมาทดแทนแต่ก็ต้องให้มันคุ้มค่าหน่อย

อุปมาเหมือนการเป็นหนี้ มันก็มีทั้งเจ้าหนี้รายเล็ก รายใหญ่ ถึงเวลาต้องใช้เขาก็มาทวง ถ้าพอมีเราก็ชำระให้เขาได้ แต่รายใหญ่ๆ ส่วนมากจะชำระไม่ค่อยได้ หรือชำระยากเพราะมีไม่พอจ่าย

 

ผมชอบวิธีของ แม่ชีทศพร(ที่ท่านได้แสดงไว้เป็นวิทยาทาน) ถวายผ้าไตรจีวร กับพระสุปฏิปันโน ลอกกรรมออกไปเลยครับครึ่งชีวิต รู้สึกว่า มีการจัดถวายอยู่นะครับ ที่วัดพิชัยญาติ หรือจะเป็นที่ วัดโลกโมลี(เขาใหญ่) หมายเหตุ อันนี้เป็นทางเลือกนึง แต่ก็แล้วแต่ความศรัทธาของท่านทั้งหลายนะครับ

 

กำลังเข้าใจผิด จริงๆเจ้ากรรมนายเวร มีเพียงประเภทเดียว ก็คือประเภทเจ้ากรรมนายเวรนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเค้าจะมาเกิดเป็นใคร มาเกิดเป็นคนที่เรารู้จัก มาเกิดเป็นญาติ หรืออยู่ในรูปของภพภูมิอื่น

ส่วนไอ้เรื่องว่าแก้ยากหรือไม่ยากนี้ อยู่ที่ปัจจัย 2 ข้อ
1 ผู้ที่ถูกเจ้ากรรมนายเวรติดตามนั้น รู้หรือปล่าวว่าโดนตาม หรือเป็นผลจากเจ้ากรรมนายเวร
2 ผู้นั้น รู้วิธีทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมหรือเปล่า
และแม้บุญเดิมจะน้อย แต่ในชาตินี้ภพนี้ก็สามารถสร้างบุญใหม่ให้มากพอที่จะไปขอให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมได้

ขอให้สาธุชนทั้งหลายเข้าใจด้วยเทอญ