กามคุณ5

ผมอยากทราบว่ากามคุณ5 คืออะไร ช่วยบอกทีคับ

เอาแบบ ย่อๆ เข้าใจง่ายๆนะคับ

 

มีเพื่อนบอกให้ผม มาฝึกน่ะ

แต่ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าคืออะไร

 

1รูป
2รส
3กลิ่น
4เสียง
5สัมผัส
ใช่ไหมคับ

 

ขออนุญาตเข้ามาเรียนรู้แลกเปลี่ยนด้วยนะครับ ผมกำลังตกหลุมท่านพญากิเลสกลุ่มนี้อยู่พอดี

 

มาฝึกอะไร ครับ ละกาม เหรอครับ? กามเป็นหนึ่งในตัณหา คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา

 

ขออนุญาตทบทวนเพื่อรู้นะครับ รูปคือธาตุสี่
รูป สวยขี้เหร่ รูปคู่ ลักษณะต่างๆทางกายภาพ ธาตุปรุงธาตุ
รส อร่อยไม่อร่อย ลักษณะรสชาด รูปคู่ รสปรุงรส ธาตุปรุงธาตุ
กลิ่น หอมเหม็น ลักษณะกลิ่น รูปคู่ ธาตุปรุงธาตุ
เสียง ไพเพราะทรมานหู รูปคู่ของคลื่น ความถี่ แหล่งกำเนิด ธาตุปรุงธาตุ
สัมผัส นุ่มสาก ลักษณะคู่ของสัมผัสทางกายภาพ ธาตุปรุงธาตุ
มโน ความคิด จิต สังขาร ห้วง นาม วิญญาณ ธรรมารมย์ ระลึกได้แค่นี้ครับ

 

กามคุณจัดเป็นคำที่มีความหมายโดยเฉพาะ คือ
ส่วนที่น่าปรารถนาน่าใคร่ 5 ประการ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสทางกายที่น่าใคร่น่าพอใจ
กล่าวคือถ้าเป็นรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทั่วไปก็ไม่จัดเป็นกามคุณ
นับทางความยึดถือแบบโลกๆก็ต้องว่าเป็นของดี ไม่ใช่ของเลว

ถ้าหากเข้าใจคำว่า กาม อย่างดีก็จะไม่สงสัยครับ
เพราะกามแบ่งออกเป็นสองชนิด ชนิดที่เป็นภายในใจเราเอง กับชนิดที่เป็นเครื่องล่อภายนอก
ส่วนที่เป็นภายในเรียกว่า กิเลสกาม
ส่วนที่เป็นภายนอกเรียกว่า วัตถุกาม
ตัววัตถุกามนี้เองที่เรียกอีกอย่างได้ว่า กามคุณ

จากคุณ : ดังตฤณ [ 12 ม.ค. 2545 / 01:38:38 น. ]

[SIZE=-1]<TABLE border=0 width="100%" bgColor=#e4f3f3><TBODY><TR><TD colSpan=2>

ดูกรมหานาม ก็อะไรเล่าเป็นคุณของกามทั้งหลาย? ดูกรมหานาม กามคุณ
​

[/SIZE]

[SIZE=-1]๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน? คือ รูปที่พึงรู้แจ้งด้วยจักษุ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ[/SIZE]
[SIZE=-1]น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด เสียงที่พึงรู้แจ้งด้วยโสต ... กลิ่นที่พึงรู้แจ้ง[/SIZE]
[SIZE=-1]ด้วยฆานะ ... รสที่พึงรู้แจ้งด้วยชิวหา ... โผฏฐัพพะที่พึงรู้แจ้งด้วยกาย น่าปรารถนา น่าใคร่[/SIZE]
[SIZE=-1]น่าพอใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ดูกรมหานาม กามคุณ ๕ ประการ[/SIZE]
[SIZE=-1]เหล่านี้แล [/SIZE]

[SIZE=-1]ความสุข ความโสมนัสใด อาศัยกามคุณ ๕ เหล่านี้เกิดขึ้น นี้เป็นคุณของกามทั้งหลาย -->[/SIZE]
[SIZE=-1]that is why it is called "กามคุณ"[/SIZE]
​

[SIZE=-1][/SIZE]
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>จากคุณ : ... [ 12 ม.ค. 2545 / 04:11:40 น. ]

</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/004060.htm

 

..............ครับพี่ ผมขอรบกวนพี่ๆช่วยชี้แนะเรื่องของกิเลสกามเถอะครับ

 

ยกพระวจนะเรื่องกาม ภิกษุทั้งหลาย นิทานสัมภวะ(เหตุเป็นแดนเกิด)แห่งกามเป็นอย่างไรเล่า? นิทานสัมภวะคือ ผัสสะ ภิกษุทั้งหลาย เวมัตตา(ประมาณต่างต่าง)แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า เวมัตตาแห่งกามคือความใคร่ ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ความใคร่ในคันธารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ความใคร่ในรสารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ความใคร่ในโผฎฐัพพารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม

 

สว่นของกิเลสภายในนี่แหละครับที่เป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้
แต่ยังเหลืออยู่ ในจิต การปรุงยังมีอยู่เป็นยามเผลอ

 

พระวจนะ ภิกษุทั้งหลาย นิโรธ(ความดับ)แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า นิโรธแห่งกามย่อมมีเพราะมีนิโรธแห่งผัสสะ อริยอัฎฐังคิกมรรค(มรรค8)นั้นแลเป็นปฎิทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ปฎิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

 

มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติของจิตที่ติดในสุข พอใจในกามคุณ

ไปห้ามมันก็ยิ่งออกอาการหนัก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

ละกามได้ ก็ต้องระดับพระอนาคามี ที่จิตมีสมาธิบริบูรณ์ กามก็ไม่กำเริบ

ถ้าเป็นระดับต่ำกว่าพระอนาคามี ถ้าทรงอารมณ์ฌาณนิวรณ์ดับ กามก็ไม่กำเริบ

แต่พอออกจากฌาณ กามมันก็กลับมากำเริบเหมือนเดิม

ถ้ารู้จักธรรมชาติของจิตตามจริง ก็รู้ว่าจะต้องทำอะไร ไม่ต้องทำอะไร

อย่าไปฝืนธรรมชาติจิตของเราที่ไม่มีฐานะที่จะทำได้

แต่การรู้คุณและโทษของกามคุณตามจริง

จะทำให้ไม่โดนแว้งกัดจากกิเลสกามภายในของเราเอง

ถ้าเป็นพระก็จะฝึกอสุภะกรรมฐานเพื่อดำริออกจากกาม คลายกำหนัด

อย่างเราฆราวาสก็พินาตามความเหมาะสม ไม่ล่วงศีล5

ใช้ประโยชน์จากกามคุณได้แต่ต้องระวังเรื่องหลง หลงมากก็เป็นโทษ

ก็ต้องอาศัยสติปัญญาประกอบการเสพความสุขจากกามคุณ5 จะได้ไม่หลงติดสุขจนเป็นโทษ

 

............มรรคแปดข้าพเจ้าดำเนินอยู่ ตามกำลังสติ ในส่วนกามราคะ ครองตนไม่ต่อกรรมกับใครทางกาย มาสองปีกว่าแล้ว แต่ยามจิตเผลอ มันทุกข์อยู่หนอ แต่ก็พอระงับได้อยู่บ้าง ในส่วนหยาบ

 

มันจะมีทางกาย และทางใจ
เช่น
1รูป มีมโมภาพ กับมโนทัศ
2รส
3กลิ่น
4เสียง
5สัมผัส นี้ก็มีทั้ง กระทบกาย กับกระทบใจ
2-3คืออะไรนะ มีใหมคับ

เท่าที่รู้ทาง ใจจะยากกว่าทั้งนั่นเลยนี่น่า

 

รส เผ็ดจืด เปรี้ยวเค็ม ขมหวาน ร้อนเย็น กรดด่าง มันไม่มัน
กลิ่น สาปสด หอมเหม็น ลมกระทบ แห้งชื้น สัมผัสกลิ่น
สองเรื่องนี้ผมทราบน้อยครับ
ผมใคร่เห็นเป็นธรรมทานครับ

 

ผมก็แค่ใคร่ อยากมีฤทธิมีเดชกับเขาบ้าง

เบื่อหน่ายกับการอยู่แบบเป็นผู้ไม่รู้

เพื่อนผมเขาได้ญามทิพมา(ก็ไม่รู้ขั้นใหน)

ผมก็อยากได้มั่งเขาบอกให้ไปฝึก กามคุณ5

เขาแม้ยอมบอกว่ามีอะไรบ้าง

ถึงแม่จะไม่ใช้ทางหลุดพ้นเถอะนะ

แต่ผมก็เบื่อกับการ อยู่แบบไม่รู้มานานแล้ว

 

กำลังสงสัยว่าทำไมหลายๆคน ถึงเกิดมาพร้อมญาณพิเศษต่างๆ

แต่เราไม่มี

แล้วที่ดูเคยเห็นคน ที่สามารถ ควบคุมพลังไฟฟ้าในตัวได้

เคยออกราบการตีสิบ

เขาบอกว่าเขาแค่สามารถควบคุมไฟฟ้าในตัวได้
แต่ผมว่าเขาน่าจะเยอะกว่านั้น แต่ไม่บอก

แล้วคิดว่า น่าจะเป็น กษิณหรือ อภิญาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
เขาสามารถปิดตาแล้วเดินข้ามถนนได้
คุม ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้

เขาบอกว่าเขาคุมไฟฟ้าในตัวได้ นั่นหมายความว่าไงกัน

 

พยายามหาคริปอยู่ถ้าเจอเดี่ยวเอามาให้ดูนะคับ

ดังอยู่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันแล้ว

 

วิน นักมายากล นะเหรอ เขาบอกว่าเขาใช้วิธี ของ เทสล่าห์ คุณเก่งวิทย์ น่าจะรู้จัก มันคล้ายคล้ายไฟฟ้าไร้สายใช่ใหม?

 

กล ก็ เป็นกล คุณจะไปสนใจทำไม ฝึก วิปัสนากรรมฐาน ดีกว่าครับ