1.เคยมีธุระเกี่ยวกับความเป็นความตายของคนในบ้านค่ะ และได้ขออาศัยรถของคนรู้จักเพื่อทำธุระนั้น โดยเมื่อวันเวลาผ่านไป...ดิฉันก็ยังสำนึกในการช่วยเหลือของเขามาตลอด คอยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ไปไหนมาไหนก็ซื้อของฝากมาเสมอ แต่ดูเหมือนว่าหนี้บุญคุณนั้นมันจะเป็นสลักติดตัวเรามาตลอดเลยค่ะ พอเขาไม่พอใจอะไรนิดหน่อย ก็จะพูดกล่าวอ้างถึงหนี้บุญคุณในครั้งนั้น มันเหมือนบ่วงผูกคอเลยค่ะ 2.เคยมีปัญหาเกี่ยวกับสมุดธนาคาร ทำให้จำเป็นต้องยืมเงินญาติสนิท 1 ครั้ง และได้ใช้ครบตามจำนวน+ดอกเบี้ย ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ก็ยังมีปัญหาเหมือนข้อ 1. คือ เขาก็ยังพูดให้ดิฉันรำลึกถึงบุญคุณนั้นตลอดเวลา ซ้ำร้ายยังเอาไปพูดให้คนอื่นๆ ฟังด้วย เวลาขอให้เราทำอะไรแล้วไม่ทำเขาก็จะพูดเรื่องเหล่านี้ทันที 3.เพื่อนของน้องชายเคยฝากงานให้น้องชาย ผ่านมาแล้วเกือบ 10 ปี คนงานเข้า-ออกกี่คน เพื่อนคนนี้ก็ยังตามเล่าเรื่องที่เขาฝากงานให้น้องชายอยู่ร่ำไป จนล่าสุด นำไปพูดอวดอ้างให้เพื่อนบ้านฟัง โดยไม่ทราบว่าเขามีเจตนาอะไรกันแน่ ทั้งๆ ที่ได้เลี้ยงขอบคุณเขาไปแล้ว ทุกข์เหล่านี้ จะมีหนทางแก้หรือทำให้ทุเลาลงบ้างไหมคะ เข็ดจริงๆ เลยค่ะ กับการช่วยเหลือแบบหว่านพืชหวังผลอย่างนี้ ปัจจุบัน พอเจอใครอาสามาช่วยอะไร เราเองก็จะระหวาดระแวง ทำให้คนอื่นๆ มองว่า เราหยิ่งหรือเปล่า อวดดีหรือเปล่า? เคยได้ยินมาว่า...หนี้ที่ใช้ไม่หมดหรือใช้ให้หมดได้ยาก ก็คือ "หนี้บุญคุณ" จริงเท็จประการใดค่ะ ขอผู้รู้แนะนำทางสว่างให้ด้วยค่ะ
คุณ nouk ช่วยเมตตาขยายความให้ชัดๆ ได้ไหมคะ "มองกลับมุม" หมายถึงให้เราลองมองในมุมของเจ้าหนี้ทั้ง 3 คนนั้นหรือคะ คงจะมองได้ทางเดียวว่าเขาหว่านพืชแต่หวังผลเกินกำลังที่หว่านค่ะ มองไม่ออกจริงๆ ว่าจะให้วางลงอย่างไร ขอความกรุณาด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ทำความดีต่อใคร ถ้าไปคอยนับแต้ม กลัวได้เปรียบเสียเปรียบ ก็จะเป็นอย่างนี้ เขาทำดีกับเรา 1 แต้ม ต้องตอบแทน 2 แต้ม ทำไปทำมา--รู้สึกจะเสียมากกว่าได้เลย เลยกลุ้มใจ ทำตัวเป็นปกติดีกว่าครับ คนไหนดีกับเราเราก็ดีกับเขา มีน้ำใจกับทุกๆคน โดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่นับแต้ม แบบนี้สบายใจกว่าครับ
ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็น เชิงคําตอบให้คุณด้วยคนนะครับ คําว่าบุญคุณแปลว่า สิ่งดีหรือเกื้อกุล ซึ่งก็มีลักษณะตามข้างต้นที่คุณ ได้บรรยายไว้ทั้งหมด มันเป็นกรรมเก่าครับ! ผมต้องขออภัยที่ต้องอธิบายอย่างนี้ เพราะทุกท่านที่คุณขอความช่วยเหลือมา ก็คือคนที่คุณเคยให้ความช่วยเหลือ ในอดีตชาติมาแล้วทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะคุณไปยึดติดในการทําดี ทวงถาม ย้ำเตือนให้ท่านเหล่านั้น ต้องระลึกถึงหนี้บุญคุณบ่อยๆ ในชาติปัจจุบันท่านเหล่านั้น จึงได้กระทําต่อคุณอย่างนี้เช่นกันครับ! ดังนั้นการทําความดี ต้องประกอบด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ที่เป็นอุเบกขาจริงๆ จึงจะได้รับอานิสงค์อันสูงสุด แต่คุณก็ทําดีที่สุดแล้วครับ ผมขออนุโมทนาบุญ จาก สิริ ศรีสมบัติ (ฅนมีกรรม)ยินดีให้คําปรึกษาโดยใช้ธรรมะ ดูกรรมในอดีตชาติ ที่ส่งผลกระทบ ต่อการดํารงค์ชีวิตประจําวัน ทั้งที่เป็นผลบวกและทางด้านลบฟรี ทางโทรศัพท์ เพื่อหาหนทางในการแก้ไข บรรเทากรรม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น 089-8504337<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ธรรมสวัสดีทุกๆ ท่านค่ะ^-^ คุณjiab_pink ... คือ ต้องหันกลับมาแก้ที่ตัวเองใช่ไหมคะ คุณnouk ... พอจะคิดออกแล้วค่ะ นั่งทบทวนมาหลายชั่วโมงเลยว่าแท้จริงแล้ว ทุกข์เพราะคำพูดของพวกเขา ที่มากระทบหูของเราไม่จบไม่สิ้น แต่ในส่วนของการกระทำคงไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ติดอะไรก็ใช้แล้วจนหมด+ดอกเบี้ย อีกทั้งในปัจจุบันก็ยังซื้อของฝากให้กันเรื่อยๆ(พวกเขาต่างหากที่ไม่พอ)... ต่อไป ถ้าได้ยินได้ฟังในสิ่งที่เขาพูด จะเลี่ยงเดินหนีออกห่างๆ และไม่เอามาใส่ใจแล้วค่ะ คุณpasit_ok ... ตัวเองไม่เคยนับเลยค่ะ แต่กำลังถูกเขานับ ^_^ ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน...ธรรมรักษานะคะ^-^
ธรรมสวัสดีค่ะ คุณsirisrisombat ^-^ เพราะเราเคยไปทำลักษณะนี้กับเขาไว้ก่อน เขาจึงย้อนกลับมากระทำเราหรือคะ ถ้าเช่นนั้น อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้เราไปทำกับเขาก่อน ถ้าเขาเองก็ไม่เคยมาทำกับเราเอาไว้ก่อนเหมือนกัน ^-^ใครทำใครมาก่อน ? ถ้าหาคำตอบไปก็ไม่จบสิ้นแน่ๆ เลยค่ะ ตอนนี้เลือกจบที่ตัวเองดีกว่า ขอบคุณคุณsirisrisombat นะคะ ... ธรรมรักษาค่ะ
คุณnouk ... พอจะคิดออกแล้วค่ะ นั่งทบทวนมาหลายชั่วโมงเลยว่าแท้จริงแล้ว ทุกข์เพราะคำพูดของพวกเขา ที่มากระทบหูของเราไม่จบไม่สิ้น แต่ในส่วนของการกระทำคงไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ติดอะไรก็ใช้แล้วจนหมด+ดอกเบี้ย อีกทั้งในปัจจุบันก็ยังซื้อของฝากให้กันเรื่อยๆ(พวกเขาต่างหากที่ไม่พอ)... ต่อไป ถ้าได้ยินได้ฟังในสิ่งที่เขาพูด จะเลี่ยงเดินหนีออกห่างๆ และไม่เอามาใส่ใจแล้วค่ะ ใช่ค่ะ ยินดีด้วยนะคะ ที่คิดได้แล้ว นั่นเป็นเพราะความหวั่นไหวกับผัสสะเมื่อถูกกระทบ โดยลืมใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ต่อไปคงจะหนักแน่นกว่านี้นะคะ ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
ปล่อยวางและแผ่เมตตาให้เขาบ่อยๆนิ่งเสีย คำพูดของคนอาจจะทำลายและทำร้ายจิตใจเราได้อย่าเอามาเป็นทุกข์เลยครับ สิ่งที่คุณได้ทำได้ตอบแทนเค้าไปหมดแล้ว ทำดีได้ดีครับ หนักแน่นเข้าไว้ ทุกอย่างจะดีขึ้น ขอให้พ้นทุกข์นะครับ
คุณเป็นหนี้บุญคุณเขาเหรอครับ ถ้าคิดอย่างคุณ คุณก็เป็นหนี้เขาทั้งชาติครับ เปรียบกับ คุณไปกู้เงินเจ้าหนี้หน้าเลือดมา 100 บาท แต่เขาต้องการให้คุณใช้หนี้ให้ 10 บาททุกวันตลอดไป อะไรที่เป็นทุกข์ ก็ปล่อยวางไปซะ แค่คำด่าเสียดแทงใจ คำนินทาว่าร้าย เขาจะเอาคุณไปประจานแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้าไม่สนใจซะอย่างก็ไม่ทุกข์ คุณกับเขาหมดหนี้บุญคุณกันตั้งแต่เขามาทวงบุญคุณกับคุณแล้วครับ
^-^ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เมตตาเตือนสติและชี้ทางสว่างให้นะคะ ตอนนี้มีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ จะหนักแน่น เมตตาเขา และเมตตาตัวเองด้วย ไม่คิดให้ตัวเองต้องทุกข์อีกต่อไป แค่วางลง...ก็หลุดจากพันธนาการความคิดจิตปรุงแต่งของตัวเองได้ เบาสบายขึ้นจริงๆ ค่ะ เพราะเอาคำพูดของเขามาใส่ใจ ไปยึดคำพูดของเขามาเป็นใหญ่ ใจเลยทุกข์อยู่ร่ำไป ต่อไปนี้...คิดใหม่ทำใหม่ ทำในสิ่งที่ถูก ทำในสิ่งที่จิตใจผ่องใส ขอบคุณนะคะ...ขอให้ธรรมรักษาทุกท่านด้วยค่ะ
เรารู้แล้วว่านั่นมีกลิ่นเหม็น น่าเกลียด น่ารังเกียจ ก็พยายามหนีไปให้ไกล อย่าเดินวน หรืออยู่ใกล้ ก็จะไม่ได้เหม็น คือ ไม่สนอดีต ไม่สนใจคำที่เขาพูด อย่าสนใจเอามาคิด ฯ ไม่คิดอนาคต คืออย่ากลัวว่าจะโดนเขาว่าอีก ให้คิดว่าเขาจะพูดอีกก็ห้ามไม่ได้ ปล่อยให้เขาพูดไป เขาเหนื่อยก็จะหยุดไปเอง ฯ กำหนดปัจจุบัน ทำหน้าที่ของเรา ให้ดีที่สุด คือถ้าเป็นหนี้ก็พยายามใช้ให้หมด แล้วแผ่เมตตาให้เขาว่า ถ้าทำอย่างนั้นเป็นสุข ก็ทำต่อไปเถิด จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด อย่าได้เบียดเบียฬกันเลย ฯ ดังนี้ ก็จะสามารถ เอาชนะปัญหาได้ ฯ ไม่สนอดีต ไม่คิดอนาคต กำหนดปัจจุบัน ปัญหา (นั้น) จะลดลง ลองดูนะครับ สู้ สู้ นะครับ
คุณ LungKoZone ยกตัวอย่างเปรียบเทียบแบบเห็นภาพเลยค่ะ ของไม่ดี ของเน่า ของเหม็น อยู่ใกล้ๆ สิ่งเหล่านี้เมื่อไหร่ เราก็พลอยเหม็นไปด้วย ธรรมรักษานะคะคุณ LungKoZone^-^
คุณใจเอ่ยคำตอบอยู่ที่ชื่อคุณนั้นหละครับ อิอิ ลองไปหาอ่านหนัง เรื่องพรหมวิหารสี่ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำดูนะครับ ราคาถูกๆ ไม่ถึง20บาทมั้งเล่มหนึ่ง
คนดีจริงทำอะไรให้ใครก็ไม่น่าจะทวงบุญคุณ แต่ถ้ามีอะไรจะช่วยเขาได้ก็ช่วยตามความเหมาะสม ให้ใจสงบร่มเย็นเป็นพอ