ครั้งนั้น โอรสเจ้าลิจฉวีชื่อสุนักขัตตะ ได้เข้าไปหาโกรักขัตติยอเจลก แล้วจึงบอกว่า ดูกรโกรักขัตติยะผู้มีอายุ ท่านถูกพระสมณโคดมทรงพยากรณ์ว่า อีก 7 วัน โกรักขัตติยอเจลก จักตายด้วยโรคอลสกะ แล้วจักบังเกิดในเหล่าอสูร ชื่อกาลกัญชิกา ซึ่งเลวกว่าอสุรกายทั้งปวง และจักถูกเขานำไปทิ้งที่ป่าช้าชื่อ วีรณัตถัมภกะ ฉะนั้น ท่านจงกินอาหารและดื่มน้ำแต่พอสมควร จงให้คำพูดของ พระสมณโคดมเป็นผิด ครั้งนั้น โอรสเจ้าลิจฉวีชื่อสุนักขัตตะ ได้นับวันตั้งแต่ วันที่ ๑ ที่ ๒ ตลอดไปจนครบ ๗ วัน เพราะเขาไม่เชื่อต่อพระตถาคต ครั้งนั้นโกรักขัตติยอเจลก ได้ตายด้วยโรคอลสกะในวันที่ ๗ แล้วได้ไปบังเกิดใน เหล่า อสูรชื่อกาลกัญชิกา ซึ่งเลวกว่าอสุรกายทั้งปวง และถูกเขานำไปทิ้งไว้ที่ป่าช้าชื่อวีรณัตถัมภกะ โอรสเจ้าลิจฉวีชื่อสุนักขัตตะ ได้ทราบข่าวว่า โกรักขัตติยอเจลก ได้ตายด้วยโรคอลสกะ ได้ถูกเขานำไปทิ้งไว้ที่ป่าช้าชื่อวีรณัตถัมภกะ ครั้นแล้ว จึงเข้าไปหาศพโกรักขัตติยอเจลกที่ป่าช้าชื่อ วีรณัตถัมภกะ แล้วจึงเอามือตบซากศพ เขาถึง ๓ ครั้ง แล้วถามว่า ดูกรโกรักขัตติยะ ท่านทราบ คติของตนหรือ ครั้งนั้น ซากศพโกรักขัตติยอเจลกได้ลุกขึ้นยืนพลางเอามือลูบหลังตนเอง ตอบว่า ดูกรสุนัก ขัตตะผู้มีอายุ ข้าพเจ้าทราบคติของตนอยู่ คือข้าพเจ้าไปบังเกิดในเหล่าอสูรชื่อ กาล กัญชิกา ซึ่งเลวกว่าอสุรกายทั้งปวง ดังนี้ แล้วล้มลงนอนหงายอยู่ ณ ที่นั้นเอง ดูกรภัคควะ ครั้งนั้น โอรสเจ้าลิจฉวีชื่อสุนักขัตตะได้เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ถวายอภิวาท แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เราได้กล่าวกะเขาผู้นั่งเรียบร้อยแล้วว่า สุนักขัตตะ เธอจะสำคัญ ความข้อนั้นเป็นไฉน วิบากนั้นได้มีแล้ว เหมือนดังที่เราได้พยากรณ์โกรักขัตติยอเจลกไว้แก่เธอ มิใช่โดยประการอื่น ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วิบากนั้นได้มีแล้ว เหมือนดังที่พระผู้มีพระภาค ได้ทรงพยากรณ์ โกรักขัตติยอเจลกไว้แก่ข้าพระองค์ มิใช่โดยประการอื่น ฯ ดูกรสุนักขัตตะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เมื่อเป็นเช่นนี้ อิทธิปาฏิหาริย์ ที่เป็นธรรมยอดเยี่ยมของมนุษย์ ชื่อว่าเป็นคุณอันเราได้แสดงไว้แล้วหรือไม่ได้แสดงไว้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นอันทรงแสดงไว้แล้ว แน่นอน มิใช่ไม่ได้ ทรงแสดงไว้ ฯ ดูกรโมฆบุรุษ แม้เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอยังจะกล่าวกะเราผู้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ที่เป็นธรรม ยอดเยี่ยมของมนุษย์อย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคมิได้ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ที่เป็น ธรรมยอดเยี่ยมของมนุษย์ แก่ข้าพระองค์ ดังนี้ ดูกรโมฆบุรุษ เธอจงเห็นว่า ข้อนี้ เป็นความผิด ของเธอเท่านั้น ดูกรภัคควะ โอรสเจ้าลิจฉวีชื่อว่าสุนักขัตตะ ถูกเรากล่าวอยู่อย่างนี้ ได้หนีไปจาก พระธรรมวินัย นี้ เหมือนสัตว์ผู้ควรเกิดในอบาย เหมือนสัตว์ผู้ควรเกิดในนรก ฉะนั้น ฯ <O</O [music]http://palungjit.org/attachments/a.175256/[/music] </PRE>
ขออนุโมทนาค่ะ...(ตามมาโมทนากะคุณ pooh ทุกกระทู้เลยจ้า..)...คุณ pooh ขยันจังเลยค่ะ....คุณ*9*ขอตัวก่อนสัก 1 เดือนนะคะ...แล้วจะกลับมาใหม่....กลับมาคราวหน้าจะมาชวนคุณ pooh อ่านอีกค่ะ...คุณ*9*คงจะไม่ได้เข้าเนตอีกนานเลยค่ะ....ฮื่อ ๆ เศร้า..ฮ่ะ ฮ่ะ...(กะลังสับสนว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ดีค่ะ...)....
คุณ Poohchi อ่านยาว ๆ ได้เก่งจังครับ แพท อ่านยาว ๆ ทีไร ติดทุกที ขยันอ่านดีจัง ขออนุโมนาด้วยครับ แล้วคุณ*9* จาไปพิทักษ์โลกที่ไหนหรอครับ เห็นบอกจะหายไปเดือนนึง ไปซุ่มทำเทปหรือ่ป่าวครับ กลับมาก้อมาอ่านพระไตรกันอีกนะครับ
ป่าวจะไปพิทักษ์โลกที่ไหนหรอกค่ะ...จะไปนิวยอร์คน่ะค่ะ...ที่โน้นเทคโนโลยี่ล้าสมัยมั่ก ๆ ..อิอิ...มีคอมฯ ก็ไม่สามารถใช้ได้ค่ะ...เวลามันไม่มีให้ใช้น่ะค่ะ...ต้องเหนื่อยทุก ๆ วันแน่ ๆ เลย... ส่วนเรื่องทำเทปนั้น...จุ๊ ๆ อย่าไปบอกใครเชียวนะคะ..กะลังแอบ ๆ ซุ่มอัดเสียงโหยยย...หวลลล...เอาไว้เปิดวันพระจันทร์เต็มดวงค่ะ....(ขอเน้นว่า..ต้องวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้นนะค่ะ..)...ไม่งั้นมันไม่ขลังค่ะ...หุหุ...รับรองว่า..หอนนนนน...รับกันเป็นทอด ๆ ๆ แน่ ๆ ๆ เลย...ฮ่ะ ฮ่ะ