คำสอนหลวงปู่ดูลย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 12 มีนาคม 2012.

  1. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    คุณโอ ความสงบกับสมาธิต่างกันยังไงครับ รบกวนอธิบายให้ฟังนิดนึงครับ
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ความสงบที่ผมรู้ มีอยู่สองอย่างครับ

    ๑.สงบแบบไม่รับรู้อะไรเลย เรียกว่าตกภวังค์

    ๒.สงบแบบแน่วแน่ มั่นคงต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานเท่านานครับ

    แบบที่ ๒ จึงเรียกว่าสมาธิครับ และ แบบนี้จะไม่หลับครับ ไม่ง่วงนอนครับ

    สาธุครับ
     
  3. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    ขอบคุณครับ แล้วสงบแบบรับรู้ไม่มีเหรอครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แบบที่ ๒ ครับ แต่รับรู้แค่สิ่งที่เราตั้งมั่น แน่วแน่อยู่อย่างนั้นครับ

    และ เมื่อเราจำอารมณ์นั้นได้จนสนิทใจ เมื่อ ออกจากการนั่งกรรมฐานแล้ว

    ยังนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงครับ เพราะจิตจะแยก สติ และ สัมปชัญญะ ชัดเจนครับ

    จะเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนครับ แม้แต่การนึกคิดที่เกิดขึ้นมา

    เราก็จะเห็น เห็นไปจนถึงต้นตอแห่งการนึกคิดด้วยครับ แต่ต้องทรงอารมณ์

    ให้นิ่งสงบอยู่เช่นนั้นน่ะครับ จึงจะเป็นอย่างที่ผมบอกกล่าวอยู่ครับ

    สาธุครับ
     
  5. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    k.oatthidet
    เป็นผู้ที่มีปัญญาคนหนึ่งๆ แต่ชอบมีผู้ร้ท่านอื่นมาลองภูมิ ลองปัญญาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งผู้รู้ท่านอื่นก้ใช่จะรู้มากไปกว่าเขา เลยมาทดสอบถามอยู่เปนประำจำ เปนแบบนี้มาหลายกท. แล้ว

    k.oatthidet คุณไม่คิดเปลี่ยนรุปประำจำตัวบ้างหรอ ผมกำลังจะบอกว่าที่คนส่วนใหญ่ถามแบบนี้ ก้เพราะว่าเขาคิดว่าคุนอวดเก่ง หรือรู้ไม่จริง ต่างหากครับ ดังนั้นจะตอบอะไร คนเขาก้หาเรื่องมาโต้แย้งคุนจนได้นั่นแหละ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ขอบคุณที่เข้ามาเตือนครับ

    สาธุครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,021
    อืมๆ..งั้นผมขออนุญาติถามคุณ oatthidet ได้ไหมครับ..ว่าในทางภพภูมิเนี่ย คุณนับถือท่านใดๆ..เป็นอาจารย์ของคุณครับ..หรือว่ามีท่านใดเป็นอาจารย์สอนธรรมคุณอยู่ครับ..จุดนี้จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้นะครับถ้าเห็นว่าเป็นการเสียมารยาท... ส่วนทางธรรมคำสั่งสอนเนี่ย ผมคาดเดาจาก การที่คุณนำธรรมคำสอนของพระอริยะหลายท่านมาเผยแพร่..
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    อย่าว่าเลยนะว่าลองอะไร ไม่ได้ลองหรอกนะ แค่อยากทราบว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นแสดงว่า เมื่อเราสงบแล้วเราจะรู้เฉพาะในสิ่งที่เราแน่แน่ว คือ แน่แน่วในสิ่งใดก็จะรู้แต่สิ่งนั้น แบบนี้มันไม่เป็นการดัดมันหรือบังคับมันเหรอครับ มันทำได้อยู่ก็จริงแต่มันจะสงบได้ยังไง ถ้ารู้อยู่แบบนั้นอย่างเดียว ผมก็ถามแบบสงสัยนะครับ คือ ลองนึกๆดูแล้ว เรานั่งสมาธิพอเราบอกว่ารู้อยู่ที่อารมณ์เดียวแล้วเป็นอย่างนั้นตลอดจริง ถ้าทำได้จริงเราจะได้อะไรกับการรู้เพียงเท่านั้น เราจะเห็นอะไรมันละครับ คือ เห็นไตรลักษณ์ได้จริงๆเหรอครับ แค่เพียงสงสัยนะครับ
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมมีพระอาจารย์ท่านเดียวครับ คือรูปที่ผมนำมาขึ้นไว้ครับ

    ผมศัทธาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

    "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต"

    ขอบคุณครับ สำหรับความปราถนาดีครับ

    สาธุครับ
     
  10. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    อีกเรื่องหนึ่ง อาจเขียนสลับกันอยู่ เพราะสติแยกจิตออกจากกัน ออกจากความนึกคิด ออกจากขันธ์ ออกจากกิเลส ได้ชั่วคราว รึเปล่า ที่หมายถึง แต่สมาธิที่มีสติเป็นตัวนำนี่ มันจะมีการสัมผัสกับขันธ์ กับความนึกคิด และก็กิเลสอยู่ตลอดเวลา จึงจะเกิดเป็นปัญญา หรือเปล่าไม่รู้ครับ คือ เพียงแค่นึกสงสัยครับ
     
  11. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ครับ สอบถามได้ครับ ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด พอมีสมาธิแล้ว

    ก็จะไปนึกสิ่งนั้น นึกสิ่งนี้มาคิด ผลที่สุดแล้วก็ไม่ก้าวหน้าต่อ

    เพราะกลับมาติดที่การนึกคิดอยู่เช่นเดิม

    แต่หากเราสามารถควบคุมจิต ให้สงบนิ่งอยู่ได้ในระยะเวลาที่นานขึ้น

    จิตของเราจะเห็นแม้แต่การนึกคิด ว่าเริ่มต้มมาจากไหน

    หรือ จะเรียกว่า การทำงานของจิตครับ จะเห็นจิตชัดเจน

    และ จะเห็นใจชัดเจน จึงเข้าใจถึงการปรุงแต่งที่มีขึ้น

    ตั้งแต่การกระทบของกายเนื้อ ตั้งแต่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย

    และ ใจนี้มีหน้าที่รู้สึก ในการกระทบนั้นๆ ส่วนจิตจะเข้ามารับรู้

    ความรู้สึกที่มีเกิดขึ้นเมื่อเกิดการกระทบครับ หากเราทำให้มันว่าง

    ไม่มีการรับรู้ความรู้สึกได้ และ ทำได้บ่อยๆ ความรู้สึกจะค่อยๆหายไปครับ

    เมื่อความรู้สึกหายไป อารมณ์จะไม่เกิดขึ้นครับ และ หากทำได้ตลอดทั้งชีวิต

    ความอาลัยอาวรณ์ จะไม่มีเกิดขึ้นครับ เมื่อเหตุแห่งการเกิดไม่มีแล้ว

    ยังจะมีตัวตนอยู่ ณ หนใด นิพพานคือ ความว่างเปล่าจากการปรุงแต่งโดยสิ้นเชิงครับ

    สาธุครับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,021
    สำหรับคุณ oatthidet นะครับ...

    ๑๒. จำเป็นมากแค่ไหนว่าต้องมีพระสุปฏิปันโนเป็นอาจารย์สอน


    คำตอบ
    ถ้าเรามีผู้รู้จริง ตามคำสอนพระพุทธเจ้าก็จะแน่นอนถูกต้อง สมัยพุทธกาลเราต้องเข้าหาพระพุทธเจ้า เพราะว่าท่านสอนโดยตรง พระองค์ไม่มีสอนผิดเพี้ยนจากความจริงแต่เมื่อไม่มีพระพุทธเจ้า ก็มีพระพุทธสาวกระดับรองลงมาที่เป็นพระอรหันต์รองลงมาก็อนาคามี สกทาคามี โสดาบัน ถ้าหาไม่ได้ ก็หาผู้ที่มีความเข้าใจในหลักคำสอนของพระพุทธองค์ ในปัจจุบันต้องถือหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักสำคัญ
    หลวงพ่อสุรศักดิ์ ตอบคำถาม
    วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ที่ ม.ธรรมศาสตร์
    ถ้าคุณมีปัญญาพอที่จะเข้าใจ..ผมบอกคุณแล้วที่ว่าคุณไม่เหมาะสมจะใช้ Avatar รูปนี้..ลองอ่าน 3 บรรทัดแรกที่ผมเขียนใน rep แรกให้ดีๆนะครับ..ให้เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อจริงๆ..ผมอนุโมทนาสาธุล่วงหน้า..นะครับหากปัญญาที่คุณมีจะมาพร้อมกับความสามารถพิเศษในการรับรู้สิ่งที่ผมพยายามสื่อบอกคุณนะครับ.แล้วคุณจะเข้าใจจริงๆว่าผมเจตนาดีหรือไม่..
    อนุโมทนาสาธุครับ...
     
  13. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากคุณเจตนาดี คุณควรที่จะนำคำสั่งสอนที่มีประโยชน์มาเผยแผ่ครับ

    อย่าได้สนใจในตัวบุคคลเพียงคนเดียว และ ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนนั้น

    คือการปฎิบัติ ที่มีสอนกันมากมายอยู่ในปัจจุบันครับ เพียงแค่ปฎิบัติภาวนาด้วยใจจริง

    จะได้พบกับหนทางที่เป็นจริงครับ หากผมไม่ได้เห็นจิตมาก่อนหน้านี้แล้ว

    ผมคงไม่สามารถอธิบายการทำงานของจิตได้ครับ

    ขอบคุณครับที่เจตนาดีกับผม แต่ควรที่จะสร้างให้เกิดประโยชน์ดีกว่าครับ

    สนทนาธรรมกันในบางโอกาส สรรค์สร้างประโยชน์เพื่อมนุษย์โดยทั่ว

    สาธุครับ
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คือ มัน ไม่มี รูปร่าง และ ปรากฎการณ์ ใด ๆ เลย

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,021
    อนุโมทนาสาธุครับ

    ถ้าเป็นดังเช่นที่คุณกล่าวอ้างจริง...เหตุอันใดถึงไม่เค้าใจที่ผมเตือน.ทั้งที่พูดไปแล้วถึง 3 ครั้ง...และผมก็ยืนยันได้ว่าที่คุณปฎิบัตินี้ไม่ได้เป็นแนวทางปฎิบัติที่มาจากคำสอนจากผู้เป็นเลิศทั้งสามภพท่านนี้แน่นอน...

    ปล. อาจารย์คือที่คุณทำตามคำแนะนำท่าน..หรือ..ท่านลงมาสอนคุณด้วยตัวเอง..หรือคุณศรัทธาในตัวอาจารย์ท่านนั้นๆ..คิดดีๆและค่อยๆคิดนะครับ ที่ผมกล่าว..​

    ปล.แม้แต่ตัวท่านเองหรือศิษย์ท่านเองจริงๆที่กิเลสเบาบางลง..มักจะไม่อ้างตัวเองในการสอนธรรมใดกับผู้ใดทั้งสิ้น..และผู้เป็นเลิศท่านนี้จะมีเอกลักษณ์ในการพูดและการสอนที่ไม่เหมือนใคร..คิดดีๆนะครับ.ลองกลับไปมองตัวเองนะครับ..และกลับไปอ่าน 3 บรรทัดแรกที่ผมได้เขียนไว้ใน Rep ก่อนๆให้ดีๆ เตือนด้วยความหวังดีนะครับ....​

    อนุโมทนาสาธุครับ..
    หมายเหตุคุณไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้นะครับ..ฝากอีกรอบ..คิดให้ดีๆนะครับ..
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมว่าคุณนี่นะ คิดไม่เป็น หรือ ไม่เข้าใจจริงๆครับ คุณจะเตือนผมให้ได้อะไรครับ

    หากเป็นคนอื่นคุณบอกว่าจะไม่ต่อว่าเลย แต่เป็นผมจึงได้ต่อว่า

    นี่เจตนาดีหรือครับ ผมว่าจะเปลี่ยนรูปแล้ว สงสัยต้องกลับไปใช้รูปเดิม

    จะรอดูว่าคุณจะมีอัตตามากแค่ไหน ถามใจคุณเองดูว่ามันหนักส่วนไหนของคุณครับ

    เมื่อคุยกันดีดี ไม่รู้เรื่อง อยากทะเลาะ ผมจะทะเลาะด้วยครับ อยากเล่นก็มาเลยครับ

    ผมบอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าคนทำใครได้ ตนมีกรรมเป็นของตน

    ผมปฎิบัติอยู่บ้านคนเดียว ผมเห็นจิตก็ด้วยตัวผมเอง ผมไม่ได้ไปเรียนจากที่ไหน

    ถ้ายังฟังไม่เข้าใจ ผมจะทะเลาะด้วยครับ คุณมาเตือนผม งั้นผมก็เตือนคุณ

    และ ผมก็เตือนไปหลายครั้งแล้ว คุณต้องถามตัวคุณเองว่ามีปัญหาอะไร

    ครั้งนี้ผมจะไม่สาธุกับคุณ เพราะคุณมีอาการที่ไม่คงที่ วันดี วันร้าย

    อะไรของคุณ เป็นอะไรมากไหม เรื่องแค่เพียงเศษผง ร้อนรนทนอยู่ไม่ได้
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,021
    กฏกติกา สำหรับห้องนี้
    เพียงบางส่วน
    ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ในหมวดพุทธศาสนา ​

    ชื่อ ว่าห้อง อภิญญาและกรรมฐานเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาในเชิงเกี่ยวข้องกับการขั้นตอนการฝึกพลังจิต และการฝึกสมาธิทุกรูปแบบ วิชาสาม มโนมยิทธิ อภิญญาตั้งแต่กรรมฐาน๔๐กองถึงวิปัสสนาสติปัฎฐาน ๔ เพื่อมรรคผลนิพพาน.
    ตั้งแต่ beginner - advance




    แนะนำครับไปที่เวปนี้ครับ
    3world.oatthidet.com โดย Webmaster นาย Oatthidet

    ศูยน์รวม สำหรับผู้ที่กล่าวข้อความ ''ผมปฎิบัติอยู่บ้านคนเดียว ผมเห็นจิตก็ด้วยตัวผมเอง ผมไม่ได้ไปเรียนจากที่ไหน''
    และก็กลุ่มบุคคลผู้มีอัธยาศัยดังเช่น คุณ Oatthidet WebMaster ผู้ปฎิบัติอยู่บ้านเอง เห็นจิตเอง(ในนี้บางคนไม่ต้องฝึกเค้าก็เห็นแบบคุณแล้วครับ) บอกว่านับถือผู้เป็นเลิศทั้งสามภพ แต่ใช้ปัญญาทางสมมุติตนเองในการอธิบายธรรม..
    อนุโมทนาสาธครับ..
     
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมเข้ามาแสดงความคิดเห็นตามที่เข้าใจ ผมปฎิบัติอยู่บ้านเอง

    แต่ก็ปฎิบัตด้วยการภาวนาตามที่มีสั่งสอนกันไว้ ไม่ได้ไปบัญญัติขึ้นมาเอง

    การรู้ด้วยตนเอง ก็เป็นปกติอยู่แล้ว จะให้ผู้อื่นมารู้แทน เป็นไปไม่ได้

    แค่เพียงรูปที่นำมาขึ้นนี้ คุณก็อคติกับผมเหลือนเกิน ผมไม่เข้าใจจริงๆ

    คุณชอบศึกษาพระธรรม ทำไมคุณไม่ลองทดลองดูด้วยตัวคุณเองครับ

    คุณจะปฎิบัติสายไหน ทางไหนก็ได้ แล้วลองเปรียบเทียบดูเอง

    ว่าที่ผมปฎิบัติอยู่นี้แตกต่างตรงไหน ทุกสาขาวิชชา ก็มารวมกันอยู่

    ที่การดูจิตทั้งนั้น ผมไม่ได้ไปบัญญัติขึ้นมาแม้แต่น้อย หากคุณมีอคติด้วยเรื่อง

    เพียงแค่นี้ ก็บ่งบอกว่าคุณใจแคบเกินไป สิ่งไหนที่ผมไม่ได้กล่าวถึงการปฎิบัติ

    มีแต่คุณที่คอยเข้ามาหาเรื่องผม ทั้งที่ผมก็บอกไปแล้วว่า

    หากเจตนาดี ก็นำธรรมะที่มีค่ามาเผยแผ่ เพื่อประโยชน์แก่ผู้คนโดยทั่วไป

    เพียงแค่นี้ ผมก็ได้ประโยชน์ คุณก็ได้ประโยชน์ ผู้ที่เข้ามาอ่านก็ได้ประโยชน์

    ดีกว่าคุณมาคอยหาเรื่องผมมากมาย มานะทิฎฐิที่มีน่ะ วางลงดีกว่า

    มัวมาถืออะไรก็ไม่รู้ หากผมทำผิดจริง กรรมก็ตามผมคนเดียว

    ไม่ได้ไปตามคุณซะที่ไหน แล้วอีกอย่าง คุณเป็นใครผมจึงต้องเชื่อที่คุณบอกครับ

    คุณชี้ซ้าย ผมต้องไปซ้ายเหรอครับ แล้วถ้าผมบอกคุณแบบที่คุณทำอยู่นี่แหละ

    ผมชั้ซ้าย คุณจะไปทางซ้ายตามที่ผมบอกไหมครับ ถ้าหากทนต่ออารมณ์ไม่ไหว

    คุณควรถามตนเองดีกว่า ว่าที่เข้ามานี่ ทนต่ออารมณ์ไม่ไหวรึเปล่า
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณ nopphakan หากคุณอยากรู้เรื่องฤทธิ์ ผมจะเล่าให้คุณฟัง แต่จะเล่าทาง pm

    เพราะผมไม่อยากให้เกิดความงมงาย และ ที่ผมเล่านั้นเป็นเรื่องจริงครับ

    มีพยายานยืนยันหลายคน ส่วนใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ตายไปแล้วก็มี

    ผมจะรอคุณเสมอ และ จะบอกว่าคุณควรเอาเวลาที่มีไปปฎิบัติภาวนาให้มากๆดีกว่า
     
  20. วัชรวงศ์

    วัชรวงศ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +7
    กระผมจะพยายามตอบตามความรู้ที่มีแต่โดยสัมมาทิฏฐินะครับ

    จิตของเรา นั้น ถ้า เราทำความสงบเงียบ อยู่จริง ๆ เว้นขาด จาก การคิดนึก ซึ่งเป็น การเคลื่อนไหว ของ จิต แม้แต่ น้อยที่สุด เสียให้ได้จริง ๆ ตัวแท้ของมัน จะปรากฏออกมา เป็น ความว่าง แล้วเราจะได้พบ ว่า มัน เป็น สิ่งที่ปราศจากรูป มันไม่ได้กิน เนื้อที่ อะไร ๆ ที่ไหน แม้แต่จุดเดียว มันไม่ได้ ตกลงสู่การบัญญัติ ว่า เป็นพวกที่มีความเป็นอยู่ หรือ ไม่มีความเป็นอยู่ แม้แต่ประการใด เลย เพราะเหตุที่ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เรารู้สึกไม่ได้ โดยทาง อายตนะ

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    จะพยายามอธิบายโดยสัมมาทิฏฐินะครับ
    1.เราทำความสงบเงียบ(จากกิเลส) เว้นขาดจากการนึกคิด(ปรุงแต่งในกิเลสกองอกุศลกรรม) ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของจิตแม้แต่น้อยที่สุด เสียให้ได้จริงๆ(เว้นจากการส่งกระแสจิตไปในกองอกุศลกรรมให้ได้แม้แต่ละจากการส่งจิตไปในกิเลสให้เหลือน้อยที่สุด)เสียให้ได้จริงๆ ตัวแท้ของมันจะปรากฎออกมา (ตัวแท้ฐีติภูตังจิตดั่งเดิมที่ใสสอาดที่เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ประภัสสร) เป็นความว่างจากกิเลส แล้วเราจะได้พบว่ามันเป็นสิ่งที่ปราศจากรูป(เป็นอนัตตา) โดยสรุป เป็นสิ่งที่เรารู้สึกไม่ได้ทางอายตนะ (หากปล่อยให้กิเลสมากระทบกับผัสสะทั้ง6อายตนะทั้ง12จนทำให้กิเลสกองอกุศลในจิต เราก็จะไม่สามารถรับรู้ความเป็นอนัตตา ในจิตที่เป็นประภัสสร ใสสอาดบริสุทธิ์ได้)
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...