จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    โมทนาสาธุ สาธุกันคุณเกษด้วยครับ..

    Very Good.. ดีมากๆเลยครับ.. ใกล้แล้วๆ..
    หมั่นรักษาความเพียรและความดีอันนี้เอาไว้ให้ได้ยาวตลอดต่อเนื่องนะครับ..
    พยายามทรงฌานให้ได้ทั้งวันทั้งคืนนะครับ ฝึกทำไปเรื่อยๆแบบนี้แหล่ะ เดี๋ยวจิตเราจะทำหน้าที่ของมันเองเป็นโหมดออโต้เอง เราก็แค่เอาสติมาแอบดูมัน สติก็จะพบว่าจิตมันทรงฌานของมันอยู่โดนที่เราไม่ต้องไปกำหนดมันแล้ว ส่วนกายก็ทำงานทางโลกไปแบบปกติ(เพียงแต่ว่าเราจะเริ่มพูดน้อยลงสำรวมมากขึ้นระมัดระวังทุกๆเรื่องมากขึ้นเพราะอะไร? ก็เพราะสติมันระลึกรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลานะซิครับ..)
    โดยปกติเวลาเราทำภาระกิจยุ่งๆหน่อยฌานก็จะถอยลงมาที่ฌานขั้นต้น แต่พอว่าเราเริ่มอยู่เฉยๆคนเดียว จิตมันก็จะทรงฌานดิ่งลงไปๆลึกมากขึ้นๆ ถึงขั้น"เมาฌาน"ไปเลยทั้งวันทั้งคืน.. (ข้อควรระวัง.. ถ้าทำภาระกิจอยู่ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ จะต้องระมัดระวังด้วยนะครับเช่น ขับรถหรืออื่นๆใดก็แล้วแต่.. วิธีแก้ให้นำสติมาบอกกับจิตตนเองว่าเรากำลังขับรถอยู่ ห้ามประมาท จิตเราจะต้องไม่ดิ่งจนไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว เอาแค่ประครองฌานไม่ให้ถล่ำลึกลงไปอีก หรือanother wordคือ ให้ถอยฌานลงมาก็แค่ "ให้สูดหายใจเข้า ยาวๆลึกๆแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมา" ถ้ายังไม่ยอมถอยอีกก็ให้ทำซำ้หลายๆรอบ.. เดี๋ยวฌานถอยลงมาเอง)
    เอาเป็นว่า ทำให้ได้ถึงขั้นเมาฌานก่อนแล้วก็เข้ามาupdateใหม่ เดี๋ยวคุณครูหลายๆท่านจะช่วยบอกว่าให้ทำอย่างไรต่อไปนะครับ..

    อย่าลืมเมื่อเราสามารถทรงฌานได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนแล้ว ให้อธิษฐานจิตแผ่บุญกุศลที่เกิดจากการภาวนานี้ให้แก่ เจ้ากรรมนายเวรของตนเองและสรรพดวงจิตที่อยู่รอบๆตัวเรา ไปตลอดทั้งวันทั้งคืนเลย(อภิมหาบุญกุศล) ไม่ว่าเราจะเดินทางไปถึงที่ไหนๆก็จะแผ่บุญออกไปๆตราบเท่าที่เราทรงฌานอยู่ได้.. เป็นการเสริมสร้างทานบารมีอย่างยิ่งยวดชนิดไม่ต้องไปบรรยายและเปรียบเทียบกับการทำบุญภายนอกเลย..
    และที่สำคัญคือ"ทรงความต่อเนือง" เอาไว้ในช่วงนี้อย่าหยุด ทำจนให้จิตเรามันทำงานเป็นอัตโนมัติเลย ภาษาทางธรรมเขาเรียกว่า"ญาณ" คือว่าเริ่มจะมีญาณอ่อนๆขึ้นมาแล้ว.. ดังนั้น.. จะต้องต่อเนื่องและช่วงนี้ต้องหมั่นส่งการบ้านบ่อยๆ หรือให้ส่งเมล์ไปหาครูเพ็ญเพื่อคุณครูจะได้แนะนำการวางกำลังใจให้ถูกต้อง.. สำคัญนะครับ อย่าลืม..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี
     
  2. gibbgubb

    gibbgubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +187
    ***น้องgibbgubb
    จิตเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นรึยัง? ตามทันจิตตนเองบ้างรึยัง?
    เธอต้องเกาะเพื่อนเยอะๆนะ โดยเฉพาะจิตบุญ เกาะขอบกระทู้ไปก่อน
    วาระกรรมไม่ดีของเธอนั้น เริ่มดีแล้วนะ
    นำจิตตนเองอยู่แต่ฝ่ายบุญไปเรื่อยๆนะ
    เดี๋ยวกำลังใจมีมากแล้ว เธอก็จะเริ่มมั่นใจ การทำจิตเกาะพระมากขึ้น

    ว่างๆไปขอขมาคุณพ่อ คุณแม่บ้างนะ
    จิตเธอก็จะนิ่งกว่านี้อีก แต่จิตเธอนิ่งมากกว่านี้ ชีวิตเธอก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีเอง
    เขาเรียกว่า บุญเปลี่ยนทิศไปในทางที่ดี ที่ๆสำเร็จดั่งใจปรารถนาทุกประการ
    โชคดีนะครับ[/QUOTE]

    ขอบคุณค่ะครูภู แอบตกใจอย่างแรง ไม่คิดว่าจะถูกอ้างถึง
    คือว่าไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเลยค่ะ นานมากแล้ว
    ขอขมาผ่านโทรศัพท์ไปก่อนได้ไหมคะ
    ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ
    ตกใจมากจริงๆ ^ ^
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อย่าแปลกใจไปเลยนะ
    พี่ภูคอยติดตามดูจิต โดยเฉพาะจิตผู้ที่กำลังพัฒนาไปทิศทางที่ดี
    แต่จะพูดถึงหรือเปล่าเท่านั้นเอง
    เธออย่าลืมผู้มีพระคุณ หรือผู้ให้กำเนิด คือคุณพ่อคุณแม่
    เพราะท่านทั้งสองก็คือ พระอรหันต์ของเธอ
    ก่อนที่เธอจะไปทำบุญกับใคร หรือทำบุญที่ไหน
    ก็อย่าลืมทำบุญกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอด้วยนะ
    เพราะถ้าไม่มีท่านทั้งสอง ก็จะไม่มีเธอ

    เธอสงสัยตัวเองไหมว่า ทำไมเธอมาทำจิตเกาะพระ ซึ่งเมื่อก่อนศีลก็ละเลย
    หรือยังหลงไปกับทางโลกมากด้วย
    แต่อยู่ดีๆทำไมตัวเองถึงได้เปลี่ยนไป เพราะว่าวาระกรรม วาระบุญของเธอเป็นผู้นำให้เธอมาพบกับคนในนี้ เช่น สมาชิกจิตบุญ แต่ไม่ทราบว่าใคร

    ต่อไปเธอไม่ต้องหวนกลับไปที่อดีต ขอให้เธอกำลังทำสิ่งที่ดีในปัจจุบัน
    เหมือนที่จิตเธอกำลังเป็นอยู่นี้
    คนเราเกิดมานั้น หลงทุกคน ถ้าไม่หลงก็คิดว่า ไม่มาเกิดเป็นแน่
    พี่ภูก็หลงยิ่งกว่าเธออีก

    ต่อไปนี้อย่าน้อยใจ อย่าแอบทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เธอเป็นห่วงอีกนะ
    แต่ตอนนี้เธอเริ่มกลับเข้าที่แล้ว ต่อไปนี้เธอจะทำอะไรขอให้นึกถึงพระ
    แล้วชีวิตเธอจะดีมากกว่าเดิม และการตัดสินใจของตนเองก็จะดีตาม

    โทรศัพท์ขอขมากับท่านไปก่อนก็ได้ แต่เมื่อไหร่เธอมีโอกาสกลับไป
    ขอให้เธอเตรียมพวงดอกมะลิไปกราบขอขมาท่าน และให้เธอกล่าวที่เธอเคยล่วงเกินคุณพ่อ คุณแม่ ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
    และให้ท่านทั้งสองกล่าวกับเธอว่า พ่อแม่ให้อภัยลูกทั้งหมดแล้ว

    รีบทำกันนะ โดยเฉพาะำผู้ที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ครบก็ยิ่งใหญ่
    เพราะถ้าใครไม่ทำ คอยดูชีวิตต่อไปนะ ทำอะไรก็มักจะติดขัด
    สารพัดปัญหา และร้อยละ90 มักจะล่วงเกินบิดามารดาของตน

    พี่ภูจะพูดถึงแต่กรรมหนักกันก่อน และกรรมหนักนอกจากล่วงเกินบิดามารดาแล้ว ก็ยังมีอีก ก็คือ
    กรรมเรื่องทำแท้ง จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม หนักเหมือนกัน กรรมทำแท้งนี้รีบๆแก้ไขให้ถูต้องไวๆนะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์ ปัญหามักจะเกิดตั้งแต่เรื่อง การงาน การเงิน และความรัก
    และกรรมเรื่องล่วงเกินพระรัตนตรัย คนจำพวกนี้มักทำบุญกับคนอื่นไม่ขึ้น
    หรือทำความดีผู้อื่นมักมองไม่เห็น จะเป็นคนขี้น้อยใจ น้อยใจกับชะตาชีวิตตนเอง ทำอะไรก็จะได้ครึ่งๆกลางไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ขาดๆเกินๆตลอด
    เป็นต้น

    การแก้ไข และรีบทำให้ถูกต้องโดยเร็ว ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ก็คือ
    1.กรรมล่วงเกินบิดามารดาของตนเอง แก้ไขโดยให้รีบขอขมาท่าน
    และให้ท่านกล่าว คำว่า ให้อภัยทั้งหมดกับเราแล้ว
    2.กรรมทำแท้ง แก้ไขโดยนำแผ่นทองมาเขียนชื่อลูกที่แท้ง(ชื่อสมมุติ)
    ไปที่เขามีงานพิธีเททองหล่อพระ พร้อมปัจจัย
    หรืออยู่ร่วมงานบวชจนจบ อย่าออกมาข้างนอกเด็ดขาด และกล่าวคำขอขมา และส่งบุญในขณะที่พระอุปัชฌาย์กำลังกล่าวคำสวดกรรมวาจา
    หรือตกบาตรเทโว ส่วนการทำบุญอย่างอื่นนั้นยากจะถึงเด็กที่แท้งไป
    3.กรรมล่วงเกินพระรัตนตรัย ตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน ทางที่ดีผู้ไม่ประมาทควรสวดบทขอขมาพระรัตนตรัยทุกครั้ง หลังที่เราสวดมนต์กัน
    และอย่าลืมอาศัยขณะจิตที่ทรงสามธิ หรือทรงฌานนั้นก็ยิ่งดี แผ่บุญ หรืออุทิศบุญกุศล โดยเฉพาะผู้มีพระคุณ เทวดาประจำตัว เจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นปกติกันด้วย
    พวกเราคอยสังเกตให้ดีๆนะ ขณะหรือแผ่เมตตานั้น เราจะรู้สึกดี
    ยิ่งเราขยันแผ่มากเท่าไหร่ บุญก็จะสะสมอยู่ที่กายและใจของเรา
    เรียกกันว่า ยิ่งให้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รับมากเท่านั้น เป็นเงาตามตัวเลย

    แค่นี้ก่อน
    เดี๋ยวคนอื่นๆ จะเป็นรายต่อไป
    คอยโปรดติดตามชมกัน


    ปล. คนเราเกิดมาแล้ว ไม่มีใครไม่เคยทำผิดกันหรอก มีแต่จะมากหรือน้อย เท่านั้นเอง
    แต่หลักใหญ่ใจความมันอยู่ที่ว่า ใครจะมีสติ หรือระลึกรู้ หรือรู้สึกตัวก่อนกัน
    เพราะกรรมไม่ดีที่ผ่านมาสำคัญน้อยกว่า ในกรรมดีในปัจจุบัน

    เอ๊านะสู้ๆ ทำดีทั้งทีจะไปมัวอายกันทำไม ทีทำชั่วไม่เห็นต้องอายฟ้าดินเลย
    เพราะเห็นคนที่ทำไม่ดีผ่านไปแล้ว และในที่สุดก็ต้องมากล่าว คำขอขมากับฟ้าดิน หรือคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ที่เราล่วงเกินกันทันนั้น
    เมื่อความทุกข์นั้นมาเยือนตนเอง
    ถึงทุกข์ไม่มาเยือน แต่เราก็อยู่กับมันทุกอริยบท นั่นก็คือ ร่างกาย
     
  4. gibbgubb

    gibbgubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +187
    อย่าแปลกใจไปเลยนะ
    พี่ภูคอยติดตามดูจิต โดยเฉพาะจิตผู้ที่กำลังพัฒนาไปทิศทางที่ดี
    แต่จะพูดถึงหรือเปล่าเท่านั้นเอง
    เธออย่าลืมผู้มีพระคุณ หรือผู้ให้กำเนิด คือคุณพ่อคุณแม่
    เพราะท่านทั้งสองก็คือ พระอรหันต์ของเธอ
    ก่อนที่เธอจะไปทำบุญกับใคร หรือทำบุญที่ไหน
    ก็อย่าลืมทำบุญกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอด้วยนะ
    เพราะถ้าไม่มีท่านทั้งสอง ก็จะไม่มีเธอ

    เธอสงสัยตัวเองไหมว่า ทำไมเธอมาทำจิตเกาะพระ ซึ่งเมื่อก่อนศีลก็ละเลย
    หรือยังหลงไปกับทางโลกมากด้วย
    แต่อยู่ดีๆทำไมตัวเองถึงได้เปลี่ยนไป เพราะว่าวาระกรรม วาระบุญของเธอเป็นผู้นำให้เธอมาพบกับคนในนี้ เช่น สมาชิกจิตบุญ แต่ไม่ทราบว่าใคร

    ต่อไปเธอไม่ต้องหวนกลับไปที่อดีต ขอให้เธอกำลังทำสิ่งที่ดีในปัจจุบัน
    เหมือนที่จิตเธอกำลังเป็นอยู่นี้
    คนเราเกิดมานั้น หลงทุกคน ถ้าไม่หลงก็คิดว่า ไม่มาเกิดเป็นแน่
    พี่ภูก็หลงยิ่งกว่าเธออีก

    ต่อไปนี้อย่าน้อยใจ อย่าแอบทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เธอเป็นห่วงอีกนะ
    แต่ตอนนี้เธอเริ่มกลับเข้าที่แล้ว ต่อไปนี้เธอจะทำอะไรขอให้นึกถึงพระ
    แล้วชีวิตเธอจะดีมากกว่าเดิม และการตัดสินใจของตนเองก็จะดีตาม

    โทรศัพท์ขอขมากับท่านไปก่อนก็ได้ แต่เมื่อไหร่เธอมีโอกาสกลับไป
    ขอให้เธอเตรียมพวงดอกมะลิไปกราบขอขมาท่าน และให้เธอกล่าวที่เธอเคยล่วงเกินคุณพ่อ คุณแม่ ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
    และให้ท่านทั้งสองกล่าวกับเธอว่า พ่อแม่ให้อภัยลูกทั้งหมดแล้ว

    รีบทำกันนะ โดยเฉพาะำผู้ที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ครบก็ยิ่งใหญ่
    เพราะถ้าใครไม่ทำ คอยดูชีวิตต่อไปนะ ทำอะไรก็มักจะติดขัด
    สารพัดปัญหา และร้อยละ90 มักจะล่วงเกินบิดามารดาของตน

    ขอบคุณค่ะครูภู อ่านแล้วน้ำตาปลิ้นเลย
    กิ๊บโทรไปขอขมามาเรียบร้อยแล้วค่ะ (เขื่อนแตกเลยทีนี้)
    คุณพ่อแอบตกใจ เห็นโทรไปหาตอนกลางวัน กลัวว่ากิ๊บจะมีปัญหาอะไรอีก
    ขอบคุณมากๆนะคะ
     
  5. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    วันนี้เร่งมากไป ปวดหัวเลยครับ อยากมากจนมึน ฮิๆๆๆๆ สอนไม่จำเลยเรา
     
  6. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    อ่านตรงนี้แล้วชะงัก เป็นหมดทุกข้อเลยครับ ผมเนี่ยเลวได้ใจเลย
     
  7. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    สาธุ เวรกรรม เวรกรรม.. ลูกศิษย์ใครหว๋า..

    เอ้า.. เมื่อระลึกรู้ได้แล้วก็ให้วางลง ไม่ต้องไปพิลั่มพิเทาอะไรกับอดีตอีกต่อไป..
    เพราะว่ามันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมาได้..
    ก็ให้ปฎิบัติตามที่ท่านครูใหญ่พี่ภูแนะนำ.. แล้วก็ขออโหสิกรรม เพื่อตัดเวรตัดกรรมให้จบสิ้นหรือไม่ก็เบาบางลง..
    ให้หมั่นภาวนาและแผ่เมตตาอยู่เนืองๆ ทำบ่อยๆทำไปเรื่อยๆ.. แล้วจะค่อยๆดีขึ้นเอง..

    ในครั้งพุทธกาล พระองคุลีมารท่านก็ได้ก่อกรรมทำเข็นฆ่าผู้คนมามากมาย ด้วยเหตุว่า"หลงผิด" เพียงคำเดียว หลงเชื่อคำอาจารย์ตนเองหลอกให้ไปฆ่าคนมากมาย..
    จนเมื่อมีบุญวาสนา(หรือวาระกรรม)มาถึง จึงมีโอกาสได้พบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    องค์พระศาสดาทรงตรัสพุทธะโอวาทบรรลือโลกว่า "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด"
    จนทำให้ท่านองคุลีมารสามารถระลึกรู้ตั้งสติได้และเข้าบรรพชาเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา
    บำเพ็ญเพียรจนท้ายที่สุดก็สามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ตัดสิ้นซึ่งอาสวะกิเลสทั้งสิ้นทั้งปวงได้
    แต่เมื่อวาระสุดท้ายของท่านมาถึง ขณะออกบิณทบาตก็โดนชาวบ้านที่ยังจำได้ ขว้างปาก้อนอิฐก้อนหินใส่ทำร้าย จนเลือดออกไหลเต็มตัว ท่านก็ยังทรงเดินเฉย เสวยทุกขเวทนาอันสืบเนื่องจากกรรมเก่าปาณาติบาตของต้นเองเพื่อจะได้จบเวรจบกรรมในภพชาตินี้..
    แต่ทว่าอันทุกขเวทนานั้นไม่อาจจะทำร้ายดวงจิตอรหันต์ของท่านได้ ดุจดั่งจิตที่ถูกฝึกมาอย่างดีแล้ว..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    วันแม่กับข้อคิดดีๆ จากพระมหาสมปอง

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=vSeC2zc9AJ4&feature=related]Enconcept ข้อคิดดีๆ จากพระมหาสมปอง - YouTube[/ame]​

    พรีวันแม่
    พี่ภูขอเสนอก่อนใครๆ
    เพราะบางท่านเผื่อว่าจะเปลี่ยนแผนจากจะไปหาแฟน
    ก็อาจจะกลับใจไปกราบคุณพ่อคุณแม่ก่อนดีกว่า ก็ได้ ก็จะดีมากๆ
    เพราะท่าน(อาจจะ)อยู่กับพวกเราไม่นานนะ

    ท่านจะเลือกราบท่านยังมีลมหายใจอยู่ หรือเลือกราบท่านที่ท่าน
    หมดลมหายใจไปแล้ว
    ก็เลือกกันเอาเองนะ คุณลูกๆทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2012
  9. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ขอรับรองครูทั้งหลายว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดอีกในชีวิตผมครับ
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอวิเคราะห์จากเบื้องลึกจากใจ
    ว่า...
    ผู้ที่กล้าหาญตำหนิ ติเตียนว่าตนเอง เลวนี่
    ในความหมายของผม แปลว่า...วันนี้คุณคือ คนดีของโลกแล้ว
    เพราะอะไรถึงกล่าวเช่นนั้น
    เพราะว่า คนที่ยังไม่ยอมรับว่าตนเองเลวนั้น
    ถือว่าตนเองยังประพฤติเลวอยู่ หรือยังคงกระทำชั่วอยู่

    แต่ถ้าบุคคลใดกล้าหาญ ชาญชัยว่าตนเองที่ผ่านมานั้น เลวจริงๆ
    ก็หมายความว่า นับตั้งแต่วินาทีนี้ เป็นคนดีแล้ว
    เพราะที่กล้าพูดว่าตนเองเลวนั้น ก็แปลว่า
    วินาทีนี้ ลมหายใจนี้ ฉันไม่ทำแบบเลวๆนั้นแล้ว

    สรุปแล้ว บุคคลที่กล้าตำหนิตนเองว่าเลวนั้น
    เพราะฉะนั้น ก็แปลว่า เป็นคนดีในเบื้องต้น จิตพร้อมเข้าสู่อริยบุคคลแล้ว
    เพราะจิตเริ่มต้นที่มีศีลอันละเอียด

    ศีลละเอียดนั้น มีแค่เรื่องมโนที่มาเกี่ยวข้องเพียงอย่างเดียว

    และคุณก็มิใช่คนแรกที่เลว หรือรู้สึกว่า ตนเองนั้นเคยเลวหรอก
    ผมก็เหมือนกัน ก็เคยเลวมาก่อน เหมือนกัน
    แต่เลวยังพอคบได้ ยังดีกว่าคนดีคบไม่ได้ นะคุณ
    เมื่อก่อนจิตผมก็เคยไหลลงต่ำ ไปกระแสโลกกับเขาสุดๆเหมือนกัน
    ถามว่ารู้มั๊ย รู้ครับ แต่ยังดีที่ยังยั้งใจได้บ้าง หรือกระทำอะไรแบบไม่ได้ตั้งใจ
    อย่างนี้แหล่ะ! สำหรับคนที่มีสติน้อย
    แต่ถ้ามีสติมากๆกัน จิตก็จะไม่ตกอยู่กับฝ่ายต่ำ หรือฝ่ายบาป อกุศล
    หรือจะไม่ไปตามกระแสโลกมากนัก

    สรุปแล้วคุณยังไม่สาย ตราบใดยังมีลมหายใจอยู่
    ขอให้ตั้งสติ ตั้งจิตอยู่กับฝ่ายบุญกุศล หรือทรงอารมณ์พระนิพพานเข้าไว้เพราะพวกเรารู้แค่วันเกิด แต่ไม่รู้วันตาย
    เพราะโลกหลังความตายนั้นอีกยาวไกล และไม่มีใครช่วยใครได้
    นอกจากตนเอง

    เพราะฉะนั้น พวกเราที่ยังมีลมหายใจกันอยู่
    ขอให้พวกเรากำหนดจุติ หรือการไปของจิตตนเองกันเถิด
    อย่าปล่อยไปตามยถากรรม
    เพราะมันเสี่ยงเกินไป มันน่ากลัวเกินไป
     
  11. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681
    ธรรมสวัสดีครับ คุณwatjojoj

    เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่อย่างนี้แล้ว อดปลื้มไม่ได้
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ สู้ต่อไปอย่าได้ท้อ เพราะนี่ จิตเกาะพระ นี้
    เป็นหนทางที่ลัดที่สุด ที่จะก้าวไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จ และหลุดพ้น

    ขอให้ลองย้อนไปอ่านคำแนะนำต่างๆที่คุณครูท่านได้กล่าวไว้ละเอียดพอสมควร
    ถ้ายังทำไม่ได้หรือไม่เข้าใจตรงไหน ก็เขียนถามเข้ามาใหม่ได้
    อย่าลืมส่งการบ้าน เล่าประสบการณ์การฝึกจิตว่า ไปถึงไหนอย่างไร ติดขัดอะไร
    อย่าได้เกรงใจเป็นอันขาด คำว่า อายครูไม่รู้วิชา ยังใช้ได้เสมอ สู้ต่อไปครับ

    ผมขอตั้งจิตอธิษฐานแผ่เมตตา และอุทิศบุญบารมีที่ได้กระทำมาทั้งหมดทั้งมวล
    ให้กับคุณwatjojoj รวมเจ้ากรรมนายเวร และเทพ เทวดาที่รักษาตัวคุณด้วยนะครับ
    ให้เป็นบาทฐานในการฝึกจิตเกาะพระให้สำเร็จ ในครั้งนี้ สาธุ

    ขอเจริญในธรรม

    นิวเวป จบ.14
     
  12. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    แวะมาเยี่ยม ง่วงนอนจังคะ
    เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนที่จะขอขมาคุณพ่อคุณแม่ครั้งแรกกันนะคะ
    ตอนแรกที่เมิลขอขมาคุณพ่อคุณแม่ ครั้งแรกก็ยังเขิน ๆ อยู่ พูดผิดพูดถูก
    ทำบ่อย ๆ เข้าก็หายเขินละคะ
    อุปกรณ์ที่ควรจะเตรีมให้พร้อม เช่น พวงมาลัย ผ้าวางเท้า น้ำล้างเท้า ปัจจัย ทิชชู่ (อันนี้สำหรับเราเอง เผื่อต่อมน้ำตาทำงานล่วงเวลา)
    อุปกรณ์พร้อม ใจพร้อม ก็เริ่มได้เลยคะ ถ้าจำได้ว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างก็บรรยายไปเลยนะคะ แล้วก็ขอขมาท่านด้วยความรู้สึก สำนึกผิดจากใจ (เคยอ่านในตำราว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องพูดว่าว่าอภัย ให้อภัย อโหสิกรรมยกโทษให้ด้วยนะคะ) ถ้าใครล้างเท้าให้ท่านด้วยก็เอาน้ำล้างเท้ามาอาบน้ำด้วยก็ดีนะคะ (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว ว่าน้ำล้างเท้าพ่อแม่เราก็เหมือนน้ำมนต์ใล่เสนียดได้)
    ระลึกไว้เสมอว่าถึงไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ต้องขอขมาขอโทษต่อกัน เพราะเราอยู่ด้วยกัน คำพูดคำจา กระทบกระทั่งกันได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะพูดเสร็จก็ลืมไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ต้องขอขมาอยู่ดีคะ
    เดือนหน้าฤกษ์ดี 12 สิงหา คะ แต่จริง ๆ แล้ว พร้อมวันไหนก็วันนั้นละคะ ปีหนึ่งขอขมากันได้ไม่จำกัดจำนวนนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  13. sarawut2011

    sarawut2011 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +60
    ข้อมูลทุกอย่างเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขอบพระคุณมากนะครับ ความไม่ประมาท ทุกลมหายใจ
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]

    บนเส้นทางชีวิต

    คุณจะเลือกเดินสุดปลายทางไหน มากกว่ากัน
    ในระหว่างทางโลกแห่งมายา กับโลกแห่งสัจจธรรม


    เราจะไม่ใช้ชีวิตอยู่กับความหลงผิดหรือการกระทำความผิดโดยไม่รู้ ถ้าเรารู้ความลับของการเวียนว่ายตายเกิด รู้ความแตกต่างระหว่างโลกนี้และโลกจริงแท้ รู้ความแตกต่างระหว่างจิตใจที่นำไปสู่สวรรค์และจิตใจที่นำไปสู่นรก ด้วยเหตุนี้การรู้จักความจริงของชีวิตในประเด็นต่อไปนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

    • เนื้อแท้ของมนุษย์ไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นวิญญาณ
    • วิญญาณมีชีวิตนิรันดร์และเวียนว่ายตายเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อการฝึกฝนทางจิตวิญญาณ
    • จักรวาลและทุกสิ่งในจักรวาลเป็นไปตามกฎของเหตุและผล สิ่งที่เราจะเก็บเกี่ยวได้ขึ้นอยู่กับว่าเราดูแลเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านอย่างไร
    • หลังการตายของร่างกาย วิญญาณจะกลับสู่บ้านที่แท้จริง นั่นคือโลกแห่งจิตวิญญาณหรือโลกทิพย์
    • สวรรค์และนรกมีอยู่จริงในโลกจริงแท้ และสภาพจิตใจคือตัวกำหนดว่าวิญญาณจะไปที่ไหนหลังความตาย
    • วิญญาณที่อยู่ในนรกมักจะเข้าสิงหรือครอบงำคนบนโลกเพื่อพยายามหลบหนีความทุกข์ทรมาน

    สัจธรรมนี้ไม่มีสอนในโรงเรียนแต่ทุกคนควรได้รู้จัก การไม่รู้จักสัจธรรมทำให้ผู้คนกระทำความผิดมากมายและสร้างสาเหตุแห่งความทุกข์และสับสน แต่ในทางกลับกันการรู้จักสัจธรรมจะทำให้ผู้คนสามารถทำชีวิตตนเองให้ดีขึ้นและใช้ชีวิตได้อย่างดีที่สุด

    ปล. วันนี้ เดี๋ยวนี้ คุณเริ่มรู้สึกตัวกันบ้างรึยัง?
    ต่อไปนี้คุณจะเลือกทางมายา คือ เส้นทางชีวิตหลอกลวง กับ
    เส้นทางแห่งสัจจธรรม หรือชีวิตจริง

    และพวกเราในที่นี้พร้อมแล้ว พร้อมที่จะนำเสนอชีวิตจริงๆ
    คุณพร้อมรึยัง?

    Let go!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2012
  15. sarawut2011

    sarawut2011 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +60
    ความไม่ประมาท ทุกอย่าง ดีที่สุด ขอบคุณมากนะครับ
     
  16. lookpou

    lookpou Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +34

    สนใจค่ะ แล้วจิตเกาะพระ คืออะไรค่ะ
    ตอนนี้หนู อายุ 19 ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องธรรมะสักเท่าไหร่
    มีคนแนะนำมาทางด้านนี้บอกว่าช่วยได้ดีค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะ
     
  17. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    สวัสดีครับ
    ผมหายไปวิปัสสนามา 3 วัน
    มาอ่านของพี่ภู สะดุ้งเลยคร้าบบบ

    พี่ภูครับ อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยครับ

    ผมขอเป็นเพียงเรือลำเล็กๆลำนึงของทุกคนก้อพอครับ

    ตามที่ท่านพ่อจะให้ทำ ผมจะทำครับ

    สวัสดีครับ

    วิทย์ จบ.11
     
  18. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ผมไม่เห็นคนเลวเลยครับ

    ตอนนี้ผมเห็นแต่บุคคล คนนึงที่กำลังฝึกจิตเกาะพระ และทำได้ดีสะด้วย

    อดีต อนาคต .. วางไว้
    อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับพระ

    ผมขอยกผลบุญของผมทั้งหมดทั้งมวลให้ท่านนะ

    ขอให้ท่านถึงนิพพานในชาตินี้..สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  19. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้รับประโยชน์จากที่แห่งนี้
    ความไม่ประมาท ก้อคือ ต้องเตรียมพร้อม
    คนทั่วไปเตรียมพร้อม ที่จะทำให้ตัวเอง ไม่ตาย ไม่เจ็บ ไม่จน .... แต่ มันไม่เที่ยงนะ ลืมกันไปหรือเปล่า ไม่มีใครหนีได้หรอก แม้แต่ผมที่กำลังพิมพ์ถึงท่านก้อตาม

    คน ที่ ไม่อยากเป็น คน อีก ... เตรียมพร้อม เพื่อให้ดวงจิตนี้ ไม่ต้อง มาเวียนว่ายใน การเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป .ก้อ คือ อยู่เหนือ ตาบ

    .... พร้อมตาย ...เราไม่กลัว ตาย
    เพราะ.... เราจะไม่กลับ มา เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป
     
  20. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917
    คำสอนของ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


    วิปัสสนาแบบธรรมชาติ


    นักวิปัสสนาที่ยังต้องอาศัยเวลาที่สงัด ยังต้องยึดแบบนั้น ท่านว่ายังไกลต่อมรรคผลมาก
    นักวิปัสสนาที่เข้าระดับวิปัสสนาจริง ท่านเอาธรรมชาติที่ปรากฏเฉพาะหน้าเป็นเครื่องพิจารณา
    ขั้นแรกจงเข้าใจคำว่า " วิปัสสนา " เสียก่อน คำว่า " วิปัสสนา แปลว่า รู้แจ้งเห็นจริงตาม
    ความเป็นจริง " วิปัสสนาท่านแปลว่าอย่างนั้น หรือจะพูดเป็นภาษาไทยแท้ก็ได้ความว่ายอมรับ
    นับถือกฎธรรมดา เมื่อได้ความอย่างนี้แล้ว การเจริญวิปัสสนาก็ไม่มีอะไรยาก ความจริงวิปัสสนา
    นี้มีวิธีเจริญง่ายมาก ง่ายกว่าระดับสมาธิมาก คือยกอารมณ์ให้เข้าถึงความเป็นจริงคล้อยตาม
    ความเป็นจริงไม่ฝืนความจริงรับรู้รับทราบตามกฎของความเป็นจริงตลอดเวลาและไม่พยายาม
    ฝ่าฝืนกฎธรรมดาเป็นอันขาด

    กฎธรรมดา


    กฎของธรรมดามีอย่างนี้ไม่ว่าอะไรที่เราได้มาหรือเห็นอยู่ตามกฎที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ก็คือ เมื่อมันเกิดมาใหม่ มันเป็นของใหม่ แต่ต่อไปมันจะค่อย ๆ เก่าลงทุกทีตามวันเวลาที่

    ล่วงไปแล้ว ในที่สุดมันก็จะต้องแตกทำลาย สิ่งที่มีชีวิตต้องตาย สิ่งที่ไม่มีชีวิตต้องผุพัง กฎ

    ธรรมดามีเท่านี้จะเป็นใครก็ตามแม้แต่ตัวเรา ลูกเรา หลานเราไม่ว่าท่านผู้วิเศษที่ไหนเป็น

    อย่างนี้เหมือนกันหมดจำเข้าไว้และคิดคำนึงไว้เป็นปกติ อย่าคิดเฉย พยายามทำอารมณ์จิต

    ให้เข้าระดับจริง ๆ คือคิดแล้วปลงด้วย โดยปลงว่าก็อะไร ๆ มันไม่แน่นอนอย่างนี้เราควรหรือ

    ที่จะยึดจะเกาะสิ่งทั้งหมดที่เห็นที่มีอยู่และกำลังจะมีว่ามันเป็นเราเป็นของเราถ้าคิดอย่างนั้น

    มันก็ผิดถนัด เป็นการหลอกหลอนตัวเอง เพราะมันต้องเก่า ต้องทำลายเมื่อมันมีสภาพอย่างนี้

    ทั้งหมด โลกก็การเกิดในโลกที่เต็มไปด้วยความกลับกลอกหลอกหลอนโกหกมดเท็จอย่างนี้

    มีอะไรเป็นของน่ารัก น่าทะนุถนอม น่าปรารถนาบ้าง พยายามคิด ๆ ให้เห็นว่าความจริงมัน

    น่าเบื่อจริง ๆ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ แม้แต่วัตถุที่ไม่มีวิญญาณ หาอะไรคงสภาพไม่มี พยายาม

    แสวงหา สะสมกันเสียพอแรง แต่แล้วก็ผิดหวัง เมื่อจะหามา เลือกแล้วเลือกอีกเอาสวย ๆ

    งามที่สุดเท่าที่จะหาได้ ดูทนทานแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะมีในโลกนี้ แล้วมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อ

    ได้มาแล้วมันจะค่อย ๆ คลายความสวยลง แล้วก็เริ่มคร่ำคร่าลงทุกวันทุกเวลา ในที่สุดก็พัง

    โลกคือความเกิด เต็มไปด้วยความคร่ำคร่าผุพัง น่าเบื่อหน่ายน่าเอือมระอาเป็นที่สุดต่อเมื่อ

    อาการพังทะลายปรากฎ ทำจิตอย่าให้หวั่นไหว เพราะเราทราบแล้วว่า มันต้องเป็นอย่างนั้น

    ยิ้มรับความสลายตัวของทรัพย์สินด้วยอารมณ์ชื่นบาน และรับทราบมีอารมณ์ปกติเมื่อความ

    ตายมาถึงตน มีความชื่นบานด้วยความคิดว่าดีแล้ว โลกที่ศิวิไลซ์ด้วยความปลิ้นปล้อนตลบ

    ตะแลง เราสิ้นชาติสิ้นภพกันที การสิ้นลมปราณคราวนี้เป็นการสิ้นทุกอย่างเราจะไม่มีทุกข์

    อีก เพราะเราไม่ปรารถนาความเกิดอีก ขึ้นชื่อว่าชาติภพความเกิดจะเกิดในแดนใดเราไม่

    ต้องการ มีสถานเดียวคือพระนิพพานเท่านั้น เป็นสถานที่เราปรารถนาทำอารมณ์พอใจใน

    พระนิพพานให้เป็นปกติ สร้างความรู้สึกตามกฎธรรมดารู้เกิด รู้เสื่อม รู้สลายของของทุก

    ชนิด จนมีอารมณ์ปกติไม่หวั่นไหวในเมื่อมรณภัยมาถึงสมบัติ ญาติ บุตร สามี ภรรยาใน

    ที่สุดแม้แต่ตัวเรา อารมณ์เป็นปกติอย่างนี้ตลอดวัน ไม่ดีใจในเมื่อมีลาภ ได้ยศ รับคำสรร-

    เสริญ มีความสุข ไม่หวั่นไหว ในเมื่อสิ้นลาภสิ้นยศ ถูกนินทามีความทุกข์ เท่านี้น่าภูมิใจ

    ได้แล้ว ท่านสิ้นภาระในทุกขภัยแล้ว ต่อไปท่านมีพระนิพพานเป็นที่ไปแน่นอน นักวิปัสสนา-

    ญาณเจริญอย่างนี้โดยที่เห็นรูปกระทบตลอดวัน ท่านจึงจะนับว่าเป็นนักวิปัสสนาญาณแท้

    และเข้าวิปัสสนาจริง ถ้ายังรอวัน รอเวลาหาที่สงัดอยู่แล้วยังหรอกท่าน ยังไกลคำ

    ว่าวิปัสสนามากนัก ขอยุติวิปัสสนาตามธรรมชาติโดยย่อไว้เพียงเท่านี้


     

แชร์หน้านี้

Loading...