เส้นทางนักแสวงหาพระสมเด็จ

อ่านข้อความของคุณภาค622แล้ว...ได้ความรู้เยอะครับสำหรับนักแสวงหาพระสมเด็จขอร่วมทำการบ้านด้วยครับ...มุมมองของผมระหว่างหัวเข่ากับฐานทั้ง3ชั้นแล้วแตกต่างกันครับกล่าวคือทางด้านซ้ายขององค์พระหัวเข่าจะเป็นส่วนที่สูงที่สุดรองลงมาคือหัวฐานชั้นที่2 ลงมาอีกคือฐานชั้นล่างสุดและต่ำสุดคือหัวฐานชั้นที่1ครับ.... ทีนี่มาดูด้านขวามือขององค์พระนะครับส่วนที่สูงที่สุดคือหัวฐานชั้นที่1..รองลงมาคือหัวเข่าขวาขององค์พระ...ถัดมาอีกคือหัวฐานชั้นล่างสุดและที่ต่ำสุดๆคือหัวฐานชั้นที่2ครับ...สรุปแล้วต่างกันอย่างสื้นเชิง...ครับสำหรับมุมมองของผม...

 

ก็ลองพิจารณาดูครับเป็นการบ้านของแต่ละท่านแล้วกัน แต่ที่แน่ๆเห็นเหมือนกันเรื่องเข่าว่าสูงที่สุดและเราสามารถเอามาร่วมพิจารณาได้ และในบางองค์อาจจะฟันทิ้งได้เลยถูกต้องมั้ยครับ

 

พีphak622 และท่านอืนๆช่วยกรุณาชี้แนะให้ผม อีกสักหน่อยครับ คุณ Krajorkman และคุณ huyakornทำให้ผมมีหวังขึ้นมากับพระองค์นี้ ส่วนตัวผมเองดูไม่เป็นจริงๆ ครับและต้องขอโทษพีphak622 ด้วยครับที่ใช้กระทู้พี่ถามเรืองส่วนตัว

 

ขอส่วนฐานไว้ให้ผมทำเชื้อบ้างได้ไหมครับ องค์นี้ ชอบแบบ บอกไม่ถูกจริงๆครับ
ชอบมากๆๆๆๆ

 

พี่ชาย2คนขอชิ้นล่างฐานเหมือนกัน เพื่อนที่รู้จักรักใคร่. 4คนก็ขอ. คุณโทนี่เป็นคนที่7 ตอนแรกที่ได้มากะว่าจะห้อยคอแต่ว่าไม่รู้จะเหลี่ยมยังไงเอามาได้อาทิตย์เดียวได้พระสมเด็จมาห้อยคอดังใจหวัง. บอกตามตรงว่าผมเก็บใว้อย่างดีมาหลายปีมาก. คุณโทนี่เล่นขอครูบาอาจารย์กันเลย. บอกตามตรงอยากให้นักแสวงหาพระสมเด็จมีเชื้อดีๆเหมือนกันสิ่งที่หวังจะได้สมหวัง. แต่ท่านโทนี่ใจร้ายมากๆมาขอองค์นี้จากผม. ผมหวง! เอางี้คุณโทนี่ตอบมาว่าองค์ที่ผมลงถามว่าเป็นพิมพ์อะไรตอบได้เอานายแฉล้มไปเลยเดี๋ยวส่งให้. ไปหาข้อมูลมาเลยครับ

 

ในเรื่อนฐานชั้นแรกนั้นระดับพื้นช่องว่างระว่างหน้าตักพระกับฐานชั้นแรก จากซ้ายไปขวาระดับพื้นไม่เท่ากันเกิดจากมุมฝังซ้ายและขวาของฐานชั้นแรกไม่เท่ากัน ส่วนไม่เท่ากันอย่างไรแบบไหนลองไปศึกษาต่อดูนะครับผม
ส่วนในเรื่องของการตัดขอบของบางขุนพรหม. นั้น. 100%จากประสบการณ์ของผมถ้าต้องพิจารณาจุดนี้นั้นผมก็จะดูว่าตัดจากหน้าไปหลังรึเปล่าครับคือกดตัดทางด้านหน้าองค์พระไปหาด้านหลังครับ แต่ในความรู้ของท่านอื่นๆไม่อาจทราบได้ครับ

 

สนับสนุนตัดจากด้านหน้าไปด้านหลังครับผม

 

ส่วนองค์หนึกของท่านบรูนั้น. ไม่ใช่แค่ฐานหรอกครับที่ผิด. เคยได้ยินเรื่องหูรำไรในเงามืดเงาสว่างรึเปล่าครับ. นอกจากหูจะไม่รำไรแล้วเงามืดกับเงาสว่างนั้นยังผิดฝั่งผิดด้านอีก ตรงนี้เป็นจุดพื้นฐานของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่เลยด้วยซ้ำไป. จุดแบบนี้เอาใว้คัดพระเพื่อไม่ให้ตาเสียตากลับครับ เพราะเราก็ไม่ต้องพิจารณาต่อแล้วเพราะไม่ใช่ ถ้าเราไม่รู้เราก็จะหลงอยู่กับความสวยงามของพระเก๊อยู่อย่างนั้นเพื่อเอาใจช่วยเพื่อลุ้นให้ใช่ทั้งๆที่ไม่ใช่ครับ

พระสมเด็จทีเด็ด. อยู่ที่จุดเบสิกพื้นฐานครับ. พื้นฐานไม่ได้ก็ไม่ต้องพิจารณาต่อครับ

 

ผมว่าผมพอที่จะเห็นปัญหาของเราๆท่านๆนักแสวงหาพระสมเด็จแล้วนะครับ
1.คือเรื่องธรรมชาติ. คือไม่ทราบว่าที่ยุบต้องยุบแบบไหนอะไรประมาณนี้เป็นต้นไม่เข้าใจธรรมชาติในองค์พระ
2.คือเรื่องพิมพ์ รู้เป็นพิมพ์ใหญ่แต่ไม่รู้บล็อกไหน แล้วไม่รู้ว่าแต่ละบล็อกอันไหนเหมือนกัน เมื่อมีพระมาบางทีปรับเข้าเปรียบเทียบกับอีกบล็อก เมื่อเทียบแล้วเกิดข้อผิดพลาดในเรื่องพิมพ์เยอะเพราะบ่งทีคนละบล็อกกัน
3.คือเรื่องจุดพื้นฐาน ที่ต้องรู้. แต่บางท่านก็ไม่รู้ หรือแค่รู้นำมาใช้จริงไม่ถูก

 

ขอบคุณครับ ถ้า้อย่างนั้น เรื่องฐานชั้นแรกผมก็น่าจะเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันใช่ไหมครับ จากที่ได้ตอบไว้ในความเห็นก่อนหน้าว่า "หรือว่าจะต้องดูความลาดชัน ของพื่้นขององค์พระ ระหว่างหน้าตัก กับ ฐานชั้นบนสุด ว่าจะไล่ระดับจากสูงสุด ทางด้านฐานชั้นบนด้านซ้ายมือคนดูลาดลดระดับมาต่ำกว่าด้านขวามือคนดู"

ส่วนการตัดขอบ รบกวนถามว่ามีธรรมชาติตรงไหน ที่เราดูได้จากองค์พระ ที่ทำให้เรารู้ว่า การตัดจากหน้ามาหลัง หรือว่าหลังมาหน้าบ้างครับ ขอทบทวนความรู้หน่อยนะครับ

 

พูดถึงเรื่องการตัดขอบก็ดีครับร่วมศึกษากัน. ถามว่าดูได้จากตรงไหน?
ในการสร้าววัตถุมงคลนั้นคนโบราณเขาถือว่าสร้างแต่สิ่งมลคงอะไรก็มีแต่ของมงคลมาสร้างพอถึงเวลาจะตัดแต่งขอบพระเขาห้ามเอาของมีคมมาตัดของแหลมก็เหมืนกัน. แต่ว่าจะทำยังไงก็เลยเหลาไม้ให้บางมาใช้ตัดจริงๆอาจเหลาทำกันใว้หลายแบบครับไม่ใช่เอาตอกมาตัดหรอกผมว่าเพราะมันจับไม่ถนัดและน้ำหนักการตัดไม่ดีความเห็นส่วนตัว แต่เราก็มาเรียกรวมๆเอาว่าตอกตัด
การตัดนั้นบางขุนพรหมต้องการจำนวนพระตามต้องการบวกเวลาเร่งด่วน. กดพระเสร็จแล้วไม่ได้ตัดขอบพระในบล็อกเลย ต้องเคาะพระให้หลุดออกจากบล็อกก่อนแล้วค่อมาตัดพระก็จะหงายหน้าขึ้น เพราะช่างต้องการบล็อกพิมพ์เอาไปกดองค์ต่อๆไป ทีนี้ผู้ทำหน้าที่ตัดขอบก็จะนำอุปกรณ์ที่กล่าวข้างต้นมากดตัดต่มแนวขอบกระจกอันนี้อยู่ที่ความปราณีตของแต่ละคน กดลงไปแล้วดึงขึ้นเนื้อก็ติดกับอปกรณ์การตัดขอบขึ้นมาทางด้านหน้าขององค์พระเพราะพระหงายหน้าอยู่เรียกว่าขอบปลิ้น. และอุปกรณ์การตัดขอบดังกล่าวนั้นไม่ใช่มีดคมๆเวลากดตัดลงไปจนสุดจุดสุดท้ายจะไม่ขาดไปหมดจะมีร่องรอยให้สังเกตุอีกที่นึง. และเมื่อกดตัดการสังเกตุแนวการสไลด์ตัวของเนื้อพระตามแรงกดของอุปกรณ์การตัดก็สังเกตได้ครับ
อันนี้คือการตัดแบบบางขุนพรหมทั่วๆไปครับ. น่าจะพอทบทวนได้นะครับ

 

คุณphak622 พอดีผมมีข้อสงสัยอย่าหนึ่งครับ เบื้องต้นผมไม่แน่ใจว่าทางคุณได้เขียนบทความตอนนี้รึยัง แต่สงสัยประเด็น ดังนี้ครับ
1. เนื้อพระสมเด็จวัดระฆังจะมีวรรณสีขาวอมน้ำตาล ในสมเด็จวัดระฆังมีใช่ไหมครับ
2. พื้นผิวด้านในเส้นซุ้มข้างองค์พระมีความเหี่ยวย่นเหมือนหนังไก่ อันนี้ใช่รึเปล่าครับ ผิวดูไม่ตรึงเรียบ ในการผ่านกาลเวลา 140 ปีขึ้น ในกระบวนการปลอมพระสามารถทำธรรมชาติได้ไหมครับ
3. ด้านขอบข้างขององค์พระ เกิดการปริแยก มีการยุบตัวธรรมชาติ และมีมวลสารให้เห็นอย่างชัดเจน ตรงนี้การปลอมเก่าสามารถทำได้รึเปล่าครับ
4. องค์พระดูผิวเผินจากสายตาจะมีการเอียงไปทางด้านซ้ายขององค์พระ ตรงนี้ถูกต้องไหมครับ แต่ลำตัวองค์พระดูเอียงๆ ไปทางด้านขวา แต่เกิดจากด้านข้างลำตัวฝั่งซ้ายองค์พระเท่านั้น แต่ด้านข้างขวาองค์พระปกติครับ เวลาดูเลยมีความเห็นแบบนี้ครับ คือชั้นฐานเอียงไปทางฝั่งซ้ายองค์พระ แต่องค์พระดูเอียงไปทางด้านขวาเป็น เพราะด้านข้างลำตัวด้านซ้ายทำให้พิจารณา ออกมาเป็นแบบนี้ครับ
แต่เนื้อหาพิมพ์ทรงในความคิดผมดูดีในระดับหนึ่งครับ แต่ที่คาใจมานานมากที่สุดจะเป็นเรื่องนี้ครับ จะผิดพิมพ์ไม่ถูกต้องก็ด้วยสาเหตุนี้ครับ ตั้งแต่ศึกษาเรื่องพระสมเด็จมามีองค์นี้ครับ ที่มีคำถามมากที่สุดที่หาคำตอบไม่ได้สักที สอบถามคนที่รู้จักให้เค้าดูให้ก็บอกใช่ แต่พอผมถามประเด็นเรื่องนี้ไม่มีคำตอบให้ผมเลยครับ ต้องขอความเห็นจากคุณphak622ด้วยครับ ขอบคุณครับ...

 

ถ้าอย่างนั้นแสงเงามืด กับ สว่าง จะต้องเหมือนองค์นี้เท่านั้น ถึงจะเป็นสมเด็จวัดระฆัง แท้ๆ ใช่ไหมครับ ห้ามผิดไปจากนี้ ผมจะได้เอาไว้เทียบกับองค์อื่นๆ
แล้วการจัดวางไฟในการถ่ายภาพพระจะมีผล ต่อแสงเงาไหมครับ เช่นมีไฟดวงเดียว หรือ สองดวง การวางไว้ด้านบน หรือด้านล่างองค์พระ หรือว่าด้านบนทั้ง ซ้ายและขวา
แล้วเวลาเราหยิบพระขึ้นมาส่อง แล้วเราจะเห็นแสงเงาเป็นอย่างนี้ด้วยไหมครับ หรือว่าจะเป็นจากรูปอย่างเดียว

 

ถามถึงองค์ไหนครับท่านสนธยา. มีรูปรึเปล่าครับเอามาร่วมศึกษากันได้ครับ
แต่วันนี้สดๆร้อนๆครับพี่ชายไปเจอมาพระสมเด็จพิมพ์เจดีย์บล็อกแรกวัดระฆัง ไปแวะเวียนหาอยู่นานปีไม่มีโอกาสสักทีวันนี้มาพาผมไปดู. เขาก็ไม่รู้ว่าใช่หรอกครับรู้แต่ว่าก๋งเขาใช้อยู่ก๋งเสียเลยมาที่เขาแต่เขาไม่เล่นพระเก็บเอาใว้เฉยๆ. เดี๋ยวจะเอารูปลงให้ศึกษาพิมพ์ทรงกันครับ. แต่ที่แน่ๆไม่มีเสียเงินเสียทองอะไรเพราะรู้จักกันอยู่แล้วครับ. พระไม่สวยมากแต่ไม่น่าเกลียดเลย. ตื่นเต้นครับ. เมื่อตะกี้เอาให้อาจารย์พิจารณาอีกทีผ่านฉลุยครับ แต่ของพี่ชายพี่เอาไปเหลี่ยมทองเลย. แกบอกเดี๋ยวกลัวเขามาทวงคืน. ฮาๆๆๆ. เดี๋ยวเอารูปมาให้ศึกษาพิมพ์ครับแต่ตอนนี้คอม เสียเซ็งมาก. สงสัยไวรัสมือเท้าปากจะกิน.

 

ไม่ได้ดูจากรูปหรอกครับองค์นี้ก็พอยึดได้แต่เวลาส่องผมส่องจากด้านบนส่องจากเกศลงมามองที่เศียรพระ ส่องแบบดูขอบพระนั่นแหละแต่ไม่ได้ดูขอบดูเศียรพระเราจะเห็นถึงความแตกต่าง แต่ท่านบรูก็อย่าคิดมากกับการวิจารณ์ของผมหรอกครับ. ผมเพียงพยายามชี้จุดที่เพี้ยนโดยดูจากรูปเพราะบางทีตาผมอาจจะไม่ดีก็ได้องค์จริงอาจจะสวยตำหนิดีก็ได้ครับแต่จากภาพผมมองอย่างนั้นครับแต่อย่าว่ากันนะร่วมศึกษากันมีอะไรสอบถามกันมีอะไรดีๆบอกผมด้วยนะท่าน. แสงมีส่วนแต่ต้องเปรียบเทียบทิศทางแสงด้วย แสงส่องด้านนี้เงาส่วนมากเป็นแบบนี้แสงส่องบริเวณนี้เงาเป็นแบบนี้ไม่ตายตัวเรื่องเงาแต่หูจะรำไร. ไม่รู้เข้าใจรึเปล่า.

 

น่าจะเป็นปัญหา ของผมทั้ง 3 ข้อละครับ
1. ธรรมชาติ หากจะรู้ว่ายุบแบบไหน สมมุติว่า หากผมหรือท่านอื่นๆ ไม่มีองค์ครู แท้ๆดู หรือไม่รู้จักคนที่มีของแท้เอามาให้ดู แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องยุบแบบนี้ แบบนั้น คงจะต้องดูแต่จากรูปในหนังสือ ใน net แล้วมาจินตนาการเอา ว่าตรงนี้นะเนื้อแน่นไม่ยุบ ตรงนี้นะเนื้อยังไม่แน่นจะยุบ เนื้อวัดระฆัง ต้องอย่างนี้นะ เนื้อบางขุนพรหมก็อย่างนี้นะ เนื้อเกศไชโยก็อย่างนี้นะ สรุปผม คงต้องหาองค์ครูมาก่อน แต่ก็มีปัญหาอีก หากผมไม่มีอาจารย์ ไม่มีเซียนที่รู้จัก แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าองค์ครูที่จะเช่า เอามาดูเป็นของแท้กัน
2. พิมพ์พระสมเด็จ มีการแบ่งกันไว้ต่างๆ นานา แล้วแต่จะได้รับการถ่ายทอดมากันแบบไหน หรือจะลงลึกขนาดไหน ผมก็กำลังรอคุณภัค มาเฉลยอยู่นี่ละครับว่า ตกลงสำหรับของ คุณภัคมีกี่แม่พิมพ์แน่ จะได้ขอเรียนรู้ด้วยร่วมกันด้วย แล้วผมจะขอนำเอาภาพสมเด็จที่มีอยู่ในวงการ มาถามด้วยว่าเป็น แม่พิมพ์ไหน
3. พื้นฐาน คนเราก็ไม่เท่ากันครับ แถมบางครั้งยังมาคนละตำรา ก็อาจจะไม่เหมือนกันอีก ดีที่สุดมาแชร์กันครับ ปุจฉา วิสัชนา ว่าถูกและผิด ตรงไหน ยอมรอกัน จะดีมากเลยครับ ท่านเก่งแล้ว ผมไม่เก่ง แต่ท่านบอกจะถ่ายทอดผมก็ติดตาม ตรงไหนผมไม่รู้ หรือผมรู้แล้ว ผมก็จะถาม เพื่อเป็นการปรับพื้นฐาน หรือไม่ก็ Tune บางอย่างที่รู้ แต่อาจไม่แน่ใจ ให้เข้ากันบ้างเป็นธรรมดานะครับ หวังว่าคงจะไม่รำคาญนะครับ ที่เข้ามาถามอยู่เรื่อยๆ

 

ยินดีกับพี่ชายคุณ Phak ด้วยนะครับ ท่านมาโปรดแล้ว

 

เดี๋ยวรอทางน้องก่อนนะครับ พอดีเค้ายืมกล้องไปจะรีบถ่ายแล้วส่งมาให้ดูครับ
อยากชมพระสมเด็จพิมพ์เจดีย์บล็อกแรกวัดระฆัง องค์นี้เป็นของยุคต้นใช่ไหมครับ คุณphak622 น่าสนใจรอชมเก็บเกี่ยวความรู้ครับ

 

ผมไม่รำคราญครับถามได้แต่อยากตอบแล้วเอาภาพมาลงให้ดู แต่คอมมันเสียผมเซ็งมาก.
ไม่รู้ว่าที่เซฟๆใว้ข้อมูลต่างๆจะหายรึเปล่ากลุ้มมากๆครับ ไม่ใช่เรื่องพระอย่างเดียวครับแต่เอกสารต่างๆ ถ้าทำไม่ได้เริ่มใหม่อย่างเดียว แต่ผมบอกหลักคร่าวๆแล้วกันครับ ในการศึกษาของผมวัดระฆังพิมพ์ใหญ่มีทั้งหมด16บล็อก.เยอะมั้ยครับ เป็นบล็อกของหลวงวิจารณ์นะครับไล่มาตั้งแต่ยุคแรกที่เขาเริ่มแกะพิมพ์ แต่ความต่างของแต่ละบล็อกนั้นมันต้องลงลึกครับท่านบรู แต่สิ่งหนึ่งที่เรียกว่าเป็นลายเซ็นหลวงวิจารณ์. ฐานชั้นแรกก็ถืิอว่าใช่หนึ่งจุดแต่ผมอยากให้ท่านบรูไปดูหลายภาพดูละเอียดๆหน่อยนะครับรู้แล้วว่าอันไหนแบบไหนไม่ต้องบอกผมแต่ถ้าไม่เข้าใจ ส่งข้อความมาถามส่วนตัวได้ครับ ผมอยากให้จุดแบบนี้พิเศษเฉพาะสมาชิกพลังจิตและนักแสวงหาอย่างเราครับ
ต่อมาการยุบไม่ต้องดูองค์จริงครับแค่ดูที่องค์นั้นๆแต่ต้องดูให้ออกตรงไหนเนื้อแน่น. ตรงไหนไม่แน่น. แน่นมากยุบน้อยยุบๆ ตรงไหนชอบยุบผสมกันไปได้ทั่วทั้งองค์.พวกตามคอบริเวณที่ๆเมื่อกดให้แน่นแล้วแรงกดทับมักไม่ไปถึงตรงนั้นแหละครับชบยุบด้วย ส่วนเรื่ิองพื้นฐานความรู้อันนี้ค่อยเก็บเล็กผสมน้อยไปครับ. เพิ่มเติม ทุกพิมพ์ส่วนตัวผมมี32บล็อก พิมพ์ใหญ่16เจดีย์5เกศบัวตูม3 ปกโพธิ์3 โพธิ์7,8,9 ส่วนโพธิ์6ละใว้ในฐานที่เข้าใจ(พิเศษ)เท่าไหร่แล้วอ่ะที่เหลือ.......อันนี้ข้อมูลส่วนตัวส่วนใครคิดอย่างไรอันนี้ไม่ผิดไม่ถูก. ไม่มีอะไรมาอ้างอิงข้อมูลนะครับ วิเคราะเองไม่ต้องด่านะว่ามั่วผมถึงเคยบอกว่ามันไกลเกินกว่าที่จะเอามาให้ศึกษากันเพราะไม่อยากเถียงกับใครเพราะผมเป็นนักแสวงหาคนนึงขนาดรู้จำนวนยังรวบรวมไม่ได้เลยหมายถึงรูปภาพนะครับเพราะองค์จริงไปเจอเขาใส่ใว้จะขอถ่ายภาพเขาก็ไม่ให้ก็มีแต่ให้ส่องเฉยๆอย่างองค์ที่ผมถามว่าเป็นพิมพ์อะไรก็หายากเจอน้อยแต่ใช่. แล้วถ้าเจอไม่มีเก๊เลยครับพิมพ์ที่ผมถามคือพิมพ์เจดีย์เกศปลี. มีน้อยแต่ละองค์ที่เจอเนื้อชอบปริแต่เนื้อสวยองค์นี้พระล้างเพราะคนเจ้าของจะแกะทองไปขายเอาไฟรนขี้ผึ่งให้ทองหลุดกว่าจะปรับสภาพได้ขนาดนี้ก็นาน ที่เห็นในเว็ปและแท้แน่นอน. ขออภัยที่เอ่ยชื่อ ของคุณ จ่าดีพระกรุ. ลองค้นดูในกรูเกิ้ลได้ พิมพ์ว่าเจดีย์เกศปลี. อันนี้น้อยคนรู้. แต่ถ้ารู้ก็เจอของดีของแท้เลยเพราะพวกปลอมไม่รู้เรื่องผมรวบรวมมาเพราะ เพื่อจะมาใว้ศึกษาเองทำมาตั้งหลายปี แต่ที่ทำได้ความรู้มากครับเรื่ิองพิมพ์ิอย่างน้อยมีที่ลง แต่มันจะเอามาให้เห็นเป็นภาพให้เข้าใจเลยยาก เพราะบางองค์ไปนั่งส่องอย่างเดียว เป็นหลายๆเดืิอน ก็ไม่มีอะไรมาให้ท่านทั้งหลายดู. บ้างครั้งอยากให้ถามคุยกันมากกว่าเพราะบางที่ต้องนึกว่าเราจะเอามุมมองตรงไหนมาบอกเป็นคำพูดดี ให้เข้าใจด้วย. ค่อยร่วมแสวงหากันไปนะครับผมก็เรียนรู้อยู่ทุกวันๆครับ. แต่ที่แน่. จำคำผมใว้เลยว่า.เนื้อหา. หมายถึงมาจริงๆนะ. พิมพ์จะมาโดยอัตโนมัติครับ. ดังนั้นเริ่มที่เนื้อไปได้ดีกว่า แต่ในนี้นั้นเนื้อพูดคุยกันยากเพราะมองลำบาก. ดูได้แต่ภาพ. ก็เลยเน้นทางพิมพ์ทรง. อภัยกันด้วยผมก็รู้มาน้อยครับ

 

ถูกครับเป็นบล็อกของพิมพ์เจดีย์ที่มีอยู่ก่อนหลวงวิจารณ์ท่านจะเข้ามาอีกครับ ต้อรอคอมผมก่อนะครับไม่รู้จะซ่อมได้มั้ยอาการหนักด้วย.