สติขั้นฝึกฝน VS สติปัญญาขั้นอัตโนมัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 30 พฤศจิกายน 2012.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    บางส่วนจาก สติปัฏฐาน ๔


    พระอาจารย์ มหาบัว ญาณสัมปันโ


    การบำเพ็ญเพียรที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระพุทธเจ้าและพระสัทธรรม คือความจงใจใคร่ต่อการประพฤติดีจริง ๆ ธุระหน้าที่ที่ตนจะพึงทำทุกอย่าง ควรทำด้วยความจงใจ การประกอบการงานทุกประเภทถ้าขาดความจงใจแล้ว แม้จะเป็นงานเล็กน้อย ย่อมไม่สำเร็จลงได้ด้วยความเรียบร้อยและน่าดูเลย เพราะ ความจงใจเป็นเรื่องของสติและหลักใจ ที่จะยังงานนั้น ๆ ให้สำเร็จ ได้ขาดไปจากตัวและวงงาน ผู้มีสติและหลักใจประจำตัวและงานจึงชื่อว่าผู้มีความเพียรไปในตัว

    ทั้งกิจนอกการในถ้าขาดความจงใจเป็นเครื่องจดจ่อต่องานแล้ว แม้ผู้เป็นนายช่างทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมีความฉลาดอยู่บ้าง ทำอะไรมีความสวยงามและแน่นหนามั่นคง แต่ถ้าขาดความจงใจใคร่ต่องานแล้ว แม้งานนั้นจะสำเร็จก็ย่อมลดคุณภาพและความสวยงาม ฉะนั้นความตั้งใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้มุ่งต่อผลของงานอันสมบูรณ์จึงไม่ควรมองข้ามไป

    เราเป็นนักบวชและนักปฏิบัติ ควรเห็นความตั้งใจจดจ่อต่อธุระหน้าที่ที่ตนจะพึงทำทุกประเภท โดยมีความรู้สึกอยู่กับงานนั้น ๆ

    แม้ที่สุดปัดกวาดลานวัด เช็ดถูกุฎีและศาลา ปูอาสนะ ตั้งน้ำใช้น้ำฉัน ตลอดการเคลื่อนไหวไปมา เหลือบซ้ายแลขวา ควรมีสติประจำอยู่ทุก ๆ ขณะ ชื่อว่าผู้มีความเพียรประจำตน

    การฝึกหัดนิสัยเพื่อเป็นคนมีสติอันเคยชิน จำต้องอาศัยการงานเป็นเครื่องฝึกหัด

    การประกอบการงานภายนอกแต่ละประเภทเป็นธุระชิ้นหนึ่ง ๆ

    การเดินจงกรมและนั่งสมาธิภาวนาเป็นธุระชิ้นหนึ่ง ๆ

    ทั้งนี้ถ้ามีสติจดจ่อกับงานที่ทำ ชื่อว่ามีความเพียรไม่ขาดวรรคขาดตอน การฝึกหัดนิสัยของผู้ใคร่ต่อธรรมชั้นสูง จึงควรเริ่มและรีบเร่งฝึกหัดสติไปกับงานทุกประเภทแต่ต้นมือ
    เพื่อความแน่นอนและมั่นคงในอนาคตของเรา โปรดฝึกหัดนิสัยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกลายเป็นคนมีสติประจำตนทั้งขณะที่ทำและขณะอยู่เฉย ๆ ถึงเวลาจะทำความสงบภายในใจ สติจะกลายเป็นธรรมติดแนบอยู่กับใจ และตั้งขึ้นพร้อมกับความเพียรได้อย่างใจหมาย ทั้งมีกำลังพอจะบังคับจิตใจให้หยั่งลงสู่ความสงบได้ตามต้องการ

    ส่วนมากที่พยายามให้จิตเข้าสู่ความสงบไม่ได้ตามใจหวังนั้น เนื่องจากสติที่เป็นแม่แรงไม่มีกำลังพอ จิตจึงมีโอกาสเล็ดลอดออกไปสู่อารมณ์ได้อย่างง่ายดาย เหมือนเด็กซนซึ่งปราศจากพี่เลี้ยงผู้ตามดูแล เด็กอาจได้รับอันตรายในเวลาใดก็ได้

    จิตที่มีความเพลินประจำตนโดยปราศจากสติตามรักษา จึงมีสิ่งรบกวนตลอดเวลาจนหาความสงบสุขไม่ได้ พี่เลี้ยงของจิตคือสติกับปัญญา คอยให้ความปลอดภัยแก่จิตตลอดสาย ที่จิตคิดไปตามอารมณ์ต่าง ๆ คอยพยายามปลดเปลื้องอารมณ์ที่มาเกี่ยวข้องกับใจ และพยายามแสดงเหตุผลให้จิตรับทราบเสมอ ใจที่ได้รับเหตุผลจากปัญญาพร่ำสอนอยู่เป็นนิจ จะฝืนคิดและติดอารมณ์ที่เคยเป็นข้าศึกต่อไปอีกไม่ได้ การฝึกหัดสติและปัญญา เพื่อให้มีกำลังคืบหน้าไม่ล่าถอยเสื่อมโทรม โปรดฝึกหัดตามวิธีที่กล่าวมา

    สติขั้นฝึกฝน VS สติปัญญาขั้นอัตโนมัติ : ศาลาธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤศจิกายน 2012
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อธิศีลสิกขา

    - ที่สุดของอธิศีลสิกขา คือ ความจงใจ


    อธิจิตสิกขา โยนเข้าป่าไปนู้น จิตตั้งมั่นต่อการพิจารณาเหตุ โยนเข้าป่าไปนู้น

    อธิปัญญาสิกขา โยนเข้าป่าไปนู้น ไม่เห็นตามความเป็นจริง มีแต่ความจงใจ
    เอาปัญญาโยนเข้าป่าไปนู้น

    ลำพัง ศีลสิกขา นำพาเข้า มรรคผลนิพพานได้หรือเปล่า !?

    ก็แล้วแต่ ทางสะดวก แค่นั้น !
     
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    สติ ตัวจริง ทำให้เราลดการวิพากย์ วิจารณ์คนอื่นได้
    ลดตัวตนได้ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม แต่เข้าใจสิ่งแวดล้อม
    ทุกอย่างก็ลงตัวด้วย ตัวของมันเอง
    ไม่สนใจว่า สิ่งแวดล้อมจะมองยังไง
    เพราะสิ่งแวดล้อม ชอบตัดสินเราอยู่แล้ว
     
  4. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ทาน ทำให้ รวย
    ศีล ทำให้สวย
    ภาวนา ทำให้ฉลาด

    ทำครบแล้ว ก็ สวย รวย และฉลาด
     
  5. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    มีความเห็นตามจริงว่ารวย สวย ฉลาด แม้ว่าจะเป็นฝั่งสุขนั้นเองก็ไม่เที่ยง ทำให้เบื่อหน่ายคลายกำหนัด สิ้นภพจบชาติ แฮร์คัทตัดหนี้ปิดบัญชีกันไปเล้ย
     
  6. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    แล้วยังไงต่อล่ะ..หลบภัย
     
  7. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123

    ต่อจากส่วนไหน

    หากต่อจากคน ก็ต้องมีศีล เรามาหวนนึกถึงว่า พระโสดาบันมีสติเพียงเล็กน้อย
    ตรงนี้ก็จะมาพิจารณาได้

    ศีลจะช่วยทำให้เรามีสติได้ การทำสติปัฐฐาน คือทางเอก
    สติปัฐฐาน คือ สติจงใจ การจงใจ ถามว่ามันอัตโมมัติไหม ก็ไม่ใช่ ใช่ไหมเพราะมันเป็นการเจตนาที่จะกระทำ มีตัวเราเข้าไปกระทำ

    การทำสมาธิ เพราะทำให้เรามีสติที่เป็นอัตโนมัิติ นั้นคือการแยกรูป แยกนาม
    เพื่อการเข้าถึงไตรลักษณ์ นั้นคือ ตัวตนของเราค่อยๆ ลดน้อยลงไป
    เหลือแค่ทำซ้ำๆ เท่านั้นเอง


    ข้อสังเกตุ หากเราเห็นอะไร ที่เราไม่จงใจ ไร้เจตนา นั้นแระ เริ่มมีสติอัตโนมัติ
    เล็กๆน้อยๆ ค่อยๆ ทำไป เหนือความคิด เหนือการคาดเดา
     
  8. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ข้อสังเกตุ หากเราเห็นอะไร ที่เราไม่จงใจ ไร้เจตนา นั้นแระ เริ่มมีสติอัตโนมัติ
    เล็กๆน้อยๆ ค่อยๆ ทำไป เหนือความคิด เหนือการคาดเดา
    __________________
    ..ตรงนี้แหละมีปัญหา..ไหนใครสอนยกมาดูหน่อยซิ..
     
  9. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    จากนั้นจึงอัพเดทสถานะจาก หลบภัย เป็น หลบพ้น เบาเลยทีนี้ :cool:
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ฟันธงเลยนะ..ฟังมาผิดหรือคนสอนผิด100เปอรืเซ็นต์ ยกมาดูอยากเห็นครับ .หลบภัย พี่ปราบ รึสี มาเลยมาคุยกันให้ชัดสักที ..มา อิอิ
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เดี๋ยวจะหาว่าไม่กล้าฟันธง..คนเคยผ่านมา หรือเคยเกิดสติ..ผมนี่แหละเคยผ่านของจริงมาเลยจะรอ อย่าช้าไปเอาต้นตอมาดูหน่อย ผมจะเถียงมา
    ..สติอัตโนมัติ..นี่มาเลย อิอิ
     
  12. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ผิดตรงไหน ช่วยยกมาให้ดูด้วย ใครบอกว่าผิด ถ้าสับสนบอกก็ ok นะ
     
  13. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    บทสวดอภิธรรม

    กรรมให้ผลตามเจตนา กุศลาธรรมา สิ่งนี้กุศลเจริญ มีเจตนา อกุศลาธรรมา บอกว่าอกุศลให้ผลไม่ดีพึงเลี่ยง

    กรรมไม่มีเจตนาจะดีจะชั่ว ไม่มีกุศล ไม่มีกุศล ทำสักว่าทำด้วยเหตุตามกลไกธรรมชาติ

    ถ้าฝึกเอาสติจับตัวเจตนาก็ได้ตอนก่อนจะทำอะไร
    ที่จริงมีสติเห็นรูปนามก็เป็นทางไปที่ตรงทางแนวพระสอนอยู่แล้วครับ
     
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไปเอามาจากไหน กรรม คือ การกระทำ ไม่มีเจตนาได้ยังไง
     
  15. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    ไหนพี่เกิดว่าผิดตรงไหน
     
  16. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ข้อสังเกตุ หากเราเห็นอะไร ที่เราไม่จงใจ ไร้เจตนา นั้นแระ เริ่มมีสติอัตโนมัติ..
    ตรงนี้ไง..สติอัตโนมัติ..มันผิด ที่คุณยกมานี่ผมฟันธงมันผิด สอนผิดๆ..!
    ................................................................................................
    คุยกันตรงๆนะครับ คนที่จะมีสติอัตโนมัติได้นั้น..เขาต้องเกิดสติก่อนแล้วแน่นในใจเขาแล้ว..เกิดสติแล้วเน้นตรงนี้ครับ..สติเขาเกิดแล้วเป็นสมาธิจิตแล้ว เพราะเขาอัญญะมัญญะซึ่งกันและกัน..
    เห็นเวลาคนตกใจ สำหรับคนที่เกิดสติแล้ว ตามกำลังสติของเขานะ หากสติเต็มที่เขาไม่สะเทือนเลยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..เอาปืนมายิงข้างหูก็ยังเฉย ไม่มีสะดุ้งแม้ความตาย แม้ในฝันยังเป็นอาการแบบนี้เลยผมจะบอกให้
    หากคนที่เกิดสติแบบยังไม่แน่นพอ หรือเพิ่งเกิดสติต่อเนื่องได้ไม่นาน แต่เขามีสติเป็นเครื่องอยู่ในใจเขาตลอดเวลาที่ภาวนา เมื่อเกิดเหตุใดที่ทำให้เขาตกใจจิตเขา..จะวิ่งเข้าหาพุทธโธหรือเครื่องอยู่อย่างอื่นในใจ ที่เขาภาวนาทันที ..
    ตรงนี้แหละ..ที่มีสมี..บางตัว มันเอาไปสอนว่าเป็นสติอัตโนมัตเพื่อหาเงินเข้าบัญชีตนเอง แต่ตัวมันเองไม่เคยผ่านสติจริงๆมาสักครั้งเลย
    .. ใครจะคัดค้านก็เชิญแลกเปลี่ยนสนทนากันได้เลยครับ..จะได้เข้าใจ สติอัตโนมัติสักที ไม่ใช่ถึงขนาดเป็นสติของพระอริยะเจ้าหรอกครับ..แค่คุณเกิดต่อเนื่องและทรงสติได้แนบแน่นแค่ไหนเท่านั้น..จิตคุณจะมีเขาเป็นเครื่องอยู่แล้วครับ เพราะสมาธิจิตจะเกิดพร้อมกันแบบแนบแน่นไปทีละนิดละหน่อยตามขั้น ลำดับ ความแรงของสติ ของผู้ฝึกเองครับ เอ้าว่ามาครับ
     
  17. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    มันเป็นยังไง เล่ามาซิ อยากชม

    เคยเกิดสติ แล้วเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย
     
  18. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ^รู้เฉยๆเหมือนที่ปู่ยกมาวันก่อนหรือเปล่า
     
  19. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245


    เล่า มาซิ ก่อนสติพี่เกิดจะเกิด พี่เกิดทำยังไง มันถึงเกิดสติ
     
  20. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ไม่ใช่คนธรรมดา..ที่ไม่เคยฝึกสติ-สมาธิ มาก่อนเลยแต่ทำอะไรโดยไม่เจตนา ไม่เพ่ง ไม่จ้อง แต่ทำไปโดยสัญชาตญาณนั่นคือ..สติอัตโนมัติ
    ..เพี้ยนแล้วครับ..พี่ปราบ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...