+ + + + + + + + เปิดรังมาเล่า + + + + + + + + พระเครื่องของขลัง โดย พรพรต

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ๑พรพรต๑, 14 ตุลาคม 2012.

  1. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    รอ...ติดตามข้อมูลครับ...ขอบคุณ "คุณพรพรต"
     
  2. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระบูชานาคปรก วัดสุปัฎวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    [​IMG]

    พระบูชานาคปรก วัดสุปัฎวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สร้างขึ้นในปี 2495 ในคราวทำบุญฉลองอายุให้กับท่านเจ้าพระคุณสมเด็จวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) ซึ่งท่านเกิดวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2410 ท่านเป็นชาวอีสานชาวอุบลราชธานีโดยกำเนิด ซึ่งขณะนั้น ท่านเจ้าประคุณสมเด็จวีรวงศ์ มีอาการอาพาธ พิธีนี้จึงคล้ายกับพิธีสืบต่อชะตาให้กับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ในพิธีนี้ได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลหลายแบบ เช่น พระบูชานาคปรก พระหล่อปางนาคปรก ขนาดบูชา เล็ก กลาง ใหญ่ พระหล่อบูชาแบบมีหู และไม่มีหูในตัว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านมีตำแหน่งในการคณะสงฆ์ดูแลพระสายธรรมยุตสายอีสานในสมัยนั้น ซึ่งท่านมีความเกี่ยวข้องกับพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพระนาคปรกนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้ที่นำไปบูชาแล้วพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้่า ประสบความสำเร็จต่าง ๆเป็นอย่างยิ่ง
    [​IMG]
     
  3. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงปู่เทียนวัดโบสถ์

    [​IMG]

    เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นประสบการณ์ของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ สร้างปี 2506 เดิมเจ้าของเหรียญนี้เป็นนายทหารอากาศ ซึ่งเข้าไปกราบหลวงปู่เทียน เมื่อปี2506 ปัจจุบันนายทหารผู้นี้อายุเกือบ90ปีแล้ว หลวงปู่เทียนท่านชอบทหาร ตำรวจ เพราะช่วยปกป้องบ้านเมือง นายทหารผู้นี้ได้บูชาเหรียญจากวัดแล้วเข้าไปหาหลวงปู่ ได้บอกกล่าวท่านว่า กลัวเค้ายิงเครื่องบินตก เวลาออกราชการทหาร ท่านว่า ให้เอาเหรียญนี้มา แล้วท่านก็จารเพิ่มให้ เป็นยันต์มอญ ด้านหนึ่งเป็นยันต์มหาอุด อีกด้านเป็นยันต์ป้องกันภัย เป็นยันต์ที่ท่านชอบลงในผ้ายันต์และรูปถ่ายของท่าน แล้วท่านบอกว่า ”ต่อไปจะไม่มีใครยิงเครื่องบินมึงตก มึงจำคำพูดกูไว้” เหรียญนี้ที่มาดีมาก เพราะได้รับจากเจ้าของโดยตรง
    [​IMG]
     
  4. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อเรือง วัดใหม่พิณสุวรรณ
    ท่านเกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.2425 ต่อมาอุปสมบทเมื่อประมาณปี 2466 ณ พัทธสีมา วัดแก้วตะเคียนทอง อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี หลังจากอุปสมบท ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและจำพรรษาอยู่ที่วัดแก้วตะเคียนทอง ต่อมาได้ศึกษาต่อที่วัดเจ้าเจ็ด จ.อยุธยา ต่อมาปี 2450 ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่พิณสุวรรณ ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และแพทย์แผนโบราณกับหลวงพ่อปิ่น เจ้าอาวาสในขณะนั้น ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปิ่นมรณภาพ หลวงพ่อเรืองท่านได้ขึ้นรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา

    [​IMG]


    หลวงพ่อเรืองว่ากันว่าท่านเป็นพระอรหันต์ เดิมทีท่านเปรียบเหมือน ช้างเผือกในป่าใหญ่ ผู้คนไม่รู้ว่าท่านเป็นพระดี อีกประการหนึ่งคือ ตัวท่านเคยต้องอธิกร มีคนเอาสตรีวิกลจริตมาไว้ที่กุฏิท่าน ผู้ที่ทำคือศิษย์ของท่านเองสมรู้ร่วมคิดกับคนที่เกลียดท่าน ซึ่งเพื่อต้องการยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะว่าหลวงพ่อเรืองท่านเป็นพระที่ถึงพร้อมด้วยกาลพรรษา คุณวุฒิ วัยวุฒิ ท่านก็จะได้รับแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งคนที่เกลียดท่านไม่ต้องการให้ท่านได้รับตำแหน่งนั้น ภายหลังท่านพ้นอธิกร คนที่กล่าวหาท่านต่างมีอันเป็นไปทั้งสิ้น หลวงพ่อเรือง สมัยก่อนท่านเคยไปตัดเหล็กไหลกับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ เป็นสหธรรมิกกัน มีความสนิทสนมกันมาก ตามประวัติของทางวัดเคยมีการตีพิมพ์ไว้ในสมัยปี 2518 ว่า ท่านนัดกับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ด้วยกันทางจิต ชวนศิษย์ของท่านติดตามกันไปตัดเหล็กไหลในเขตอุทัยธานี ป่าห้วยขาแข้ง ท่านทั้งสอง นัดพบกันทางจิตพบกันกลางทาง พอตัดเหล็กไหลเสร็จท่านก็แยกย้ายกันกลับ ซึ่งหลวงพ่อเรืองไม่ทราบว่าท่านได้มามากน้อยประการใด หลวงพ่อเรืองท่านเป็นอาจารย์องค์หนึ่งที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำให้ความเคารพนับถือมาก จะเห็นได้ในประวัติหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านจะกล่าวถึงพระคณาจารย์ที่มีคุณวุฒิและคุณวิเศษทางจิตสูง และเป็นอาจารย์ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่นาค วัดระฆัง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และอีกองค์คือ หลวงพ่อเรือง วัดใหม่พิณสุวรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านระบุไว้เลยว่า หลวงพ่อเรือง ท่านเป็นพระอรหันต์ และอีกองค์ที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านได้กล่าวไว้เลยว่าท่านเป็นพระดีน่าเคารพนับถือและเป็นพระอรหันต์ คือ หลวงพ่อสร้อย วัดภูเขาแก้ว ซึ่งเป็นพระผู้ทรงอภิญญา เป็นผู้ทรงคุณธรรม บรรลุธรรมขั้นสูงทั้งสิ้น หลวงพ่อเรือง นั้น หลวงพ่อฤๅษีลิงดำให้ความเคารพนับถือมาก ท่านว่าเป็นพระบริสุทธิ์ กราบได้อย่างสนิทใจ

    [​IMG]

    หลวงพ่อเรืองท่านเป็นผู้เรืองอาคมสมชื่อ พระยอดธงเป็นพระเนื้อแร่ผสมโลหะ เป็นโลหะที่หล่อหุงผสม ปั้นหุ่นและขึ้นช่อเองในวัด ถือว่าเป็นพระที่มีเจตนาสร้างบริสุทธิ์ สร้างไว้เพื่อแจกญาติโยม และสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นพระดีที่น้อยคนจะรู้จัก นอกจากสายตรงหรือคนในพื้นที่ ที่จะรู้จักพระพิมพ์ต่าง ๆของหลวงพ่อเรืองนี้
     
  5. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    แผ่นยันต์หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด

    [​IMG]
    [​IMG]

    แผ่นยันต์นี้เป็นยันต์ซึ่งจารึกมาจากคาถา “อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา ภูมเทวา นะมามิหัง” เป็นคาถาประจำตัวของหลวงพ่อโอภาสี ซึ่งใช้ได้ทุกๆ ทาง ถ้าติดตัวจะเป็นที่รักและเมตตา เทพเทวดาจะช่วยเหลือ ยันต์นี้มีทั้งเป็นแบบกระดาษและแผ่นทองแดง ยันต์นี้ว่ากันว่าทำแจกกันตั้งแต่สมัยสงคราม และมีการแจกมาเรื่อย ๆ และท่านมักจะให้ผู้คนที่นับถือในตัวท่าน ท่องคาถานี้เป็นประจำ ว่ากันว่าผู้ที่ท่องคาถานี้แล้วพกวัตถุมงคลของท่านติดตัวเป็นประจำสมัยก่อนลูกระเบิดตกลงมาไม่แตกไม่ระเบิด แม้กระทั่งที่ที่หลวงพ่อท่านภาวนาคาถานี้เป็นประจำก็ไม่ระเบิด คาถานี้เป็นคาถาที่ใช้ได้ทั้งเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ ท่านจะให้ใช้คาถานี้ ท่านว่าเทวดาจะปกปักษ์รักษาคุ้มครอง ไปถ่ายหนักถ่ายเบาตามสถานที่ต่าง ๆให้ท่องคาถานี้ไว้เทวดารู้ก็จะไม่ลงโทษทัณฑ์ คาถานี้เป็นแผ่นยันต์ทองแดงของหลวงพ่อโอภาสี พกติดตัวก็ได้ หรือติดพาหนะ บ้านเรือน ไว้คุ้มครองป้องกันภัยได้
     
  6. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระรอดหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก พิมพ์เล็ก
    สมัยก่อนที่ท่านจะทำเหรียญต่าง ๆ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยที่ญี่ปุ่นขึ้นหาด พระรอดนี้เป็นพระที่หลวงพ่อเปี่ยมท่านตั้งใจทำเป็นอย่างยิ่ง อุตส่าห์ดั้นด้นไปถึงวัดมหาวัน เพื่อที่จะไปขอเศษพระรอดกรุมหาวันเก่า ๆ แท้ ๆที่แตกหัก พร้อมดินก้นกรุ นำเอามาผสมสร้างเป็นพระรอด ท่านเรียกว่าพระพิรอด คือรอดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง พระรอดหรือพระพิรอดของหลวงพ่อเปี่ยม หาคนที่จะเห็นตัวจริง ๆ คนที่รู้จริงน้อยมาก

    [​IMG]


    องค์นี้ เป็นพระรอดพิมพ์เล็กของหลวงพ่อเปี่ยม พระกรรณขององค์พระย้อยลงมาถึงหัวไหล่ขององค์พระ ดูไปคล้ายหมวกนักรบสมัยก่อน และองค์นี้ยิ่งดูง่าย ตรงรอยกะเทาะขององค์พระคือ ความเก่าของดินที่เซ็ตอยู่ตัวแล้ว พระองค์นี้ท่านตั้งองค์พระมาเก่าแต่เดิมด้วยปากกา และหลวงพ่อเปี่ยมท่านเคยพูดกับลูกศิษย์เสมอๆ ว่า การเสกพระเสกของใด ๆ ตัวเราจะเก่งคนเดียวไม่ได้ คือท่านเสกคล้าย ๆ หลวงพ่อปาน การจะเสกของใด ๆ ต้องอัญเชิญเทวดาฟ้าดิน อัญเชิญบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รวมถึงองค์พรหม องค์เทพเทวดาต่าง ๆ อีกทั้งครูบาอาจารย์ผู้รู้ไสยศาสตร์ ทุก ๆด้าน ทุก ๆทาง เพื่อมาประสิทธิ์ประสาทวัตถุมงคลเหล่านั้น ท่านบอกว่าตัวเราเสกให้ตายร้อยปี ยังไม่สู้ครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสกเพียงวันเดียวหรือเพียงอึดใจเดียวได้ ท่านว่าพระที่เสกด้วยครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีวันเสื่อมสูญสลาย ไม่ว่าจะไปอยู่นานเพียงใดจะไม่มีวันเสื่อมสูญสลาย และพระรอดของหลวงพ่อเปี่ยมเป็นที่ต้องการของผู้ที่ทราบที่รู้ถึงประวัติ รู้กิตติศัพท์ของท่าน หรือหน่วยทหารหน่วยรบต่าง ๆ จะขึ้นชื่อลือนามมานานแล้วว่าพระรอดของหลวงพ่อเปี่ยม พระรอดเมืองใต้ จัดว่าเป็นพระรอดที่หาได้ยากและเป็นที่ต้องการอย่างสูง แต่หาตัวจริงยาก

    [​IMG]


    สมัยก่อนที่ญี่ปุ่นขึ้นหาดแถบ จ.ประจวบฯ พวกลูกศิษย์ของหลวงพ่อเปี่ยม ซึ่งแขวนพระรอด บางคนก็ห่อผ้าคาดแขนไป บางคนก็อมในปาก ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น ทุกคนไม่มีใครได้รับอันตรายเลย ทุกคนปลอดภัย ส่วนใหญ่ลูกปืนที่ยิงออกมาจะยิงไม่ถูก ที่ถูกจัง ๆ อย่างมากก็แค่จุก คือมีชาตรีอยู่ด้วย คือกระดูกไม่แตกไม่หัก ถือว่าเป็นพระดีของหายากเหมือนอย่างเหรียญของท่านก็ตาม แต่ถือว่าเป็นของดีของหายาก ในชุดของหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก
     
  7. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160


    เมื่อก่อนเคยได้มาองค์นึงตอนนี้ท่านไม่ได้อยู่กับผมแล้ว คิดแล้วยังเสียดายเหมือนกัน

    ขอบคุณคุณพรพรตที่เสนอสิ่งดี ๆ มาให้อ่านกันครับ
    คอยติดตามอยู่นะครับ ถ้าเป็นไปได้ขอให้แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับพระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต มาก ๆ ผมแขวนบูชาพระรุ่นสุดท้ายพิมพ์นางพญาของท่านอยู่
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  8. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ปรมาจารย์ผู้แก่กล้าวิชาอาคม ผู้เป็นปฐมอาจารย์ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

    หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ท่านเป็นเกจิอาจารย์ยุคเก่า เป็นพระผู้อาวุโส ท่านเป็นพระอาจารย์ที่หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ให้ความเคารพมาก สมัยก่อน คุณพ่อพรหม ซึ่งท่านเป็นบิดาของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้นำหลวงพ่อเงินมาบวชกับหลวงพ่อรุ่งเนื่องด้วยความเคารพนับถือในอำนาจจิตของหลวงพ่อรุ่งอยู่ก่อนแล้ว คุณพ่อพรหมท่านเป็นผู้คงแก่เรียน ท่านมีวิชาอาคมมาก ว่ากันว่าท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดตุ๊กตา มีวิชามาก ท่านทำนาโดยที่ไม่ต้องเฝ้านาเลย ท่านเสกหุ่นพยนต์ด้วยฟางข้าว ให้เฝ้านาแทนท่าน ได้ ท่านเนรมิตเสกเครื่องบินให้บินมาลงกลางนาข้าวให้เด็ก ๆ ดู ภายหลังหลวงพ่อเงินท่านว่า เป็นวิชามายาศาสตร์อย่างหนึ่ง คือเสกให้เห็นเป็นเครื่องบิน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องบินไม่ได้ลงมาจริง สมัยที่หลวงพ่อเงินบวช คุณพ่อพรหมท่านได้ทดสอบจิตของหลวงพ่อเงินโดยให้หลวงพ่อเงินใช้จิต ฉุดกอสวะ ไม่ให้ไหลไปตามน้ำ คุณพ่อพรหมท่านว่า “คุณเงิน คุณทำได้หรือยัง” หลวงพ่อเงิน ถ้ายังฝึกไม่ได้ ยังไงก็ไม่สำเร็จ หลวงพ่อเงินปรากฏว่าท่านทำได้ ฉุดกอสวะไม่ให้ไหลไปตามน้ำ คุณพ่อพรหมท่านว่า “อันนี้พอใช้ได้ ถ้าให้เก่งจริง ต้องใช้จิตบังคับให้กอสวะลอยทวนน้ำได้” ภายหลังหลวงพ่อเงินท่านก็ทำได้เช่นนั้นจริง และเมื่อทำได้เช่นนั้น คุณพ่อพรหมท่านได้ถ่ายทอดวิชาที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้นให้หลวงพ่อเงิน และได้ให้หลวงพ่อเงินมาปรนนิบัติรับใช้และเรียนวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่ท่านเคารพรัก แม้แต่หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว ยังเคยมาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงพ่อรุ่งวัดดอนยายหอมนี้

    [​IMG]

    หลวงพ่อเงินท่านเป็นอาจารย์ที่เก่งกล้า แม้แต่เสือผาด ทับสายทอง ขุนโจรนามกระเดื่องแห่งทุ่งนครปฐม ยังให้ความเคารพนับถือจนหมดใจ คือ ถือว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพระผู้ที่มีความเมตตาเป็นพระผู้มีแต่ให้ ลูกศิษย์ของท่านมีทุกชั้นวรรณะ แม้แต่พลโท พลเรือโท พลอากาศโท พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ยังเคยได้มากราบหลวงพ่อเงิน ให้หยุดการสัก เพราะการสักของท่านมีชื่อมาก การสักตัว “นะ” ของท่าน ท่านจะลงด้วยหัวใจพระแม่ธรณี คือตราบใดที่ฝ่าเท้ายังยืนอยู่บนพื้นดินธรณี จะไม่มีอาวุธ หอก แหลม หลาว หรืออาวุธใด ๆ ทำอันตรายได้เลย หลวงพ่อเงิน ภายหลังท่านได้เลิกสัก เพราะพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ท่านได้มาด้วยพระองค์เอง หลวงพ่อเงินท่านก็ได้นำของทั้งหมดไปจำเริญ คือไปทิ้งน้ำ หลวงพ่อเงินแม้ตัวท่านเองจะเก่งขนาดนี้ แต่ในอังสะของท่านว่ากันว่าท่านพกพระเนื้อดินของหลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ติดตัวตลอดเวลา

    [​IMG]

    ด้วยอภินิหารสมัยที่ท่านธุดงค์ หลังจากออกพรรษาแล้ว ท่านจะธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ คราวหนึ่งว่ากันว่าท่านธุดงค์ไปยังแถบลพบุรีผ่านศูนย์ฝึกทหารที่ลพบุรี ท่านไม่ทราบหรอกว่าเขาลูกที่ที่ท่านธุดงค์ผ่านนั้น เป็นที่ทดสอบทดลองอาวุธ ปืนสั้น ปืนยาว อาวุธสงครามต่าง ๆ เมื่อท่านธุดงค์ผ่านมา ระหว่างการทดสอบ ทหารได้ยิงปืนครกตกลงมายังท่านมากมาย ท่านก็เดินเฉย ท่านรู้เพียงว่า ตอนที่ท่านเดินผ่านมีวัตถุตกลงมาข้าง ๆตัวท่าน คือมีลูกปืน มาตกอยู่ข้าง ๆ ตัวท่านเต็มไปหมด แต่ท่านก็เดินผ่านไป จนท่านมารู้เอาจริงจังก็ตอนที่นายทหารขับรถจิ๊ปเข้ามาถึงตัวท่านด้วยอาการตกใจ และนิมนต์ท่านให้ออกจากสถานที่นี้ ว่าท่านเข้ามาได้อย่างไร มันเป็นสนามฝึกอาวุธ ทดลองทดสอบอาวุธ ท่านว่าท่านรอดจากภยันตรายต่าง ๆครานั้นได้ด้วยก็เพราะอานุภาพของพระเนื้อดินของหลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอมนี่เอง
     
  9. ICE 007

    ICE 007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +70
    คุณพรพรตพอจะทราบประวัติพระเครื่องวัดหนองปลิงไหมขอรับช่วยแชร์
    ข้อมูลหน่อยนะครับ
     
  10. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หวายลูกนิมิต หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

    [​IMG]

    อุปเท่ห์ของการสร้างหวายของอาจารย์ในสมัยก่อนคือ หวายมีความเหนียว ถือว่าเป็นคำดี เป็นเคล็ดแล้วเมื่อเค้าสร้างหวายลูกนิมิต คือเอาหวายที่โยงเป็นสาแหรก ผูกกับลูกนิมิตก่อนที่จะตัดลงหลุม ในสมัยก่อนเค้าถือว่าภายในเขตลูกนิมิต เป็นเขตพุทธาวาส เป็นเขตของพระพุทธเจ้า การจะสร้างโบสถ์สำคัญคือมีพัทธสีมา คือมีแนวเขต โดยมีลูกนิมิตเป็นแนวเขตของโบสถ์ เป็นแนวป้องกัน หากมีอมนุษย์หรือสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามากร่ำกราย สมัยก่อนเวลาฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมา จะมีการเสกคาถาผูกสีมา เพื่อเป็นแนวกำแพงแก้วป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาได้ ในสมัยก่อนในการฝังลูกนิมิต ครูบาอาจารย์ที่ทรงอภิญญา มีฤทธิ์มาก หากโบสถ์หลังนั้นเคยมีลูกนิมิตอยู่ ท่านก็จะถอนโดยใช้คาถาถอนโบสถ์ถอนเสมา ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนที่พลังจิตดีๆ ไม่ว่าหลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หรือว่าจะเป็นอาจารย์ในสายใต้ ท่านจะเรียกลูกนิมิตขึ้นจากหลุมหรือการถอนเสมา คือลูกนิมิตที่ฝังอยู่ในดินจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเลย คือเสกภายในไม่กี่วันลูกนิมิตก็จะค่อย ๆโผล่ขึ้นมาที่ผิวดิน ให้เห็น แล้วครูบาอาจารย์สมัยก่อนที่มีฤทธิ์มาก เมื่อเสกคาถาตัดลูกนิมิต พอตัดเสร็จลูกนิมิตก็จะวิ่งลงหลุมทันที ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนที่ทราบว่าทำเช่นนี้ได้ก็มี หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลยก์ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า
    หวายลูกนิมิตในทิศต่าง ๆก็จะมีความสำคัญ โดยในทิศต่าง ๆก็จะมีพระอรหันต์สาวกองค์ต่าง ๆรักษาอยู่ ส่วนลูกนิมิตหลุมกลางหรือลูกเอก ก็จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านก็ถือเคล็ดว่าหวายลูกนิมิตนี้เหนียว คง และเป็นของสูง เวลาเอามาเสกสามารถกันภูตผีปิศาจได้ชะงักแล และหวายลูกนิมิตนี้ ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนจะบอกเลยว่าดีทางกันอาวุธ กันปืน ปิดทิศต่าง ๆ โดยเฉพาะลูกเอกจะปิดทุกทิศเลย มีพุทธคุณทางมหาอุดหยุดปืนสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และครูบาอาจารย์หลาย ๆองค์ เมื่อมีคนเอาหวายลูกนิมิตถวายท่าน ท่านก็จะลงคาถาให้ หวายพวกนี้จะมีฤทธิ์ทางมหาอำนาจมหาอุดสูงมาก หวายของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมัยก่อนขึ้นชื่อมาก เอาไปลองยิงพอถึงนัดที่3 ปืนเป็นต้องแตกทุกกระบอก

    [​IMG]

    หวายนี้เป็นของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ที่มาของหวายอันนี้ดีมาก และเป็นหวายที่จารลายมือของหลวงพ่อมุ่ยซึ่งในหมู่ศิษย์สายตรงทราบกันดี แล้วยิ่งลงยันต์และเสกด้วยยันต์เฉลียวเพ็ชร ปิดทั้งหน้าและหลัง เป็นมหาอุดหยุดปืน หวายนี้เป็นของดี ของศักดิ์สิทธิ์ทางด้านมหาอุด

    แม้แต่หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ก็ได้นำหวายลูกนิมิตของวัดหนงอีดุกมาจารแล้วก็แจกลูกศิษย์ มีผลทางมหาอุดสูงมาก ใครลอบทำร้าย ลอบยิงปืนก็จะแตก ส่วนใหญ่ท่านจะเอาหวายลูกนิมิตมาจารตามสูตรต่าง ๆ ของครูบาอาจารย์ แล้วท่านจะเสกด้วยคาถาพระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ คือ ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านเผชิญกับนายขมังธนู “สัตถา ธะนุง อากัฑฒิตุง ทัตวา วิสสัชเชตุง นาทาสิ” คือถ้าจะยกอาวุธขึ้นมายิง จะยกไม่ขึ้น ถ้ายกขึ้น ก็จะยิงไม่ได้ คือยิงไม่ออก ถ้าอาวุธมาก ยิงออกมาเป็นห่าฝน ก็จะไม่ถูกต้องกายาเลย ถือว่าเป็นของดีของวิเศษ หาได้น้อย และส่วนใหญ่จะต้องดูความเก่าและที่มาเป็นสำคัญ จึงนำมาเสนอไว้เป็นวิทยาทานให้ท่านทั้งหลายได้ชม
     
  11. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ เนื้อทองคำ รุ่นแรก
    พระหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ องค์นี้น้ำหนักทอง ประมาณบาทกว่า สร้างโดยหลวงปู่สอ พันธุโล วัดป่าบ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ผู้ที่ประสานงานและสร้าง คือ คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่สอ และให้ความรักความเคารพหลวงปู่สอมาก หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมากในสายพระอาจารย์ทางสายอีสานรวมถึงหลวงปู่สอได้ให้ความเคารพนับถือและเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เป็นพระที่มีอายุเก่านับพันปี การมาของพระหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์นั้นมาอย่างอภินิหาร คือมีโยมนำมาถวาย ซึ่งหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์เป็นพระที่ทางโยมที่นำมาถวายนั้นเก็บรักษามาหลายชั่วอายุคน จนวันหนึ่งพระท่านบอกว่าให้นำมาถวายหลวงปู่สอ ซึ่งหลวงปู่สอท่านได้นิมิตเห็นว่ามีพระมากับพญานาค

    [​IMG]

    แม้แต่หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพลง หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัญโณ ก็ต่างให้การยืนยันเอ่ยชมว่าหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก อย่างหลวงปู่ขาว อนาลโย ตอนที่ท่านยืมไปที่วัดยืมไปพิจารณาดูนั้น ท่านบอกว่าแสงสว่างของหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์นั้นสว่างมาก สว่างเหมือนพระอาทิตย์เลย สว่างไปทั่วกุฎิท่านเลย เทวดาต่างมาไหว้มาเคารพบูชากันมากมาย
    จะสังเกตได้ว่าเขื่อนใหญ่ ๆ แทบจะทุกเขื่อนในประเทศไทย ต้องมีรูปของหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ คุมเขื่อนรักษาเขื่อนอยู่ เพราะท่านเป็นพระที่มีพญานาค ในความหมายคือน้ำ ดูแลสายน้ำ พญานาคให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์มาก ในรูปท่านมีพญานาคอยู่ถือว่ามีพญานาคคอยคุ้มครองไม่ให้เขื่อนแตก หรือไม่ให้มีอันตรายเกิดขึ้น เป็นพระที่เทวดาอารักษ์คอยคุ้มครองรักษาและให้ความสำคัญมาก แม้เจ้าใหญ่นายโตของบ้านเราหลาย ๆ ท่านก็ให้ความเคารพนับถือ ซึ่งถ้าเป็นพระที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่มีผู้คนเคารพนับถือก็คงไม่ให้สร้างให้คอยรักษาอยู่ประจำเขื่อนหลาย ๆแห่ง
    หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์เคยแสดงอภินิหารที่บ้านของคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต มีการถ่ายภาพติดว่าท่านยิ้มได้ ซึ่งภาพหนึ่งเป็นภาพที่ท่านหน้าบึ้งธรรมดา ส่วนอีกภาพนั้นท่านยิ้มได้ หลวงปู่สอท่านพูดหลาย ๆ ครั้ง ว่าหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์นี้ให้พิจารณาให้ดีเป็นพระที่ยิ้มได้ แม้แต่พระองค์จำลองที่เป็นพระบูชา ท่านก็ยิ้มได้ เคยแสดงอภินิหารให้ถ่ายรูปออกมาเป็นกายสีคล้ายเนื้อคนก็เคย

    [​IMG]

    หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ถ้าอยู่ที่บ้านใครก็จะนำความสงบร่มเย็นนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ คุ้มครองบ้านเรือน ป้องกันสัตว์อสรพิษเขี้ยวงาต่าง ๆไม่ให้เข้ามารบกวนมาทำอันตรายคนในบ้าน ซึ่งก็มีเหตุมีผลแสดงให้เห็นอยู่หลาย ๆครั้ง บางคนสวดมนต์มาก ๆ ก็มีพระธาตุเสด็จมาเกาะติดองค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์หรือมาเกาะที่ฐานก็มีบ่อยครั้งให้ได้เห็น หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์องค์นี้ เป็นรุ่นแรก สร้างเมื่อปี 2537 เนื้อทองคำนั้นสร้างจำนวนสิบกว่าองค์ สร้างเพื่อทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวง และกรรมการผู้ใหญ่ องค์นี้เดิมเป็นของคุณชลัย เรืองวิเศษ ซึ่งติดตามทำบุญกับคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต และเป็นผู้ที่ถ่ายภาพคู่กับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร(รูปในหนังสือประวัติหลวงปู่ฝั้น อาจาโร) ท่านเป็นเจ้าของพระองค์นี้และเอื้อเฟื้อให้ถ่ายรูปมาเป็นวิทยาทาน
     
  12. ae2202

    ae2202 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    :cool: ตามหามานานอยากได้มากๆขอบคุณที่ให้รับชมครับ สาธุ
     
  13. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    หลวงพ่อสร้อย วัดภูเขาแก้ว พระอรหันต์ผู้ลึกลับ

    หลวงพ่อสร้อย วัดภูเขาแก้ว ท่านเป็นพระผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยแตะต้องอิสตรีเลยตลอดชีวิตของท่าน ท่านบวชเณรตั้งแต่ท่านยังเล็กๆ ประมาณ6-7-ขวบ ปรนนิบัติอาจารย์ของท่านอยู่ในถ้ำ ไม่เคยไปข้องและมัวเมาในกามรมณ์ใดๆ เลย บวชจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

    [​IMG]
    [​IMG]

    หลวงพ่อสร้อยท่านเป็นพระอรหันต์ที่มีปฏิปทาแปลกประหลาด ตามนิสัยของพระอริยเจ้าที่พ้นเกินกว่าปุถุชนอย่างเราจะเข้าใจได้คือ ท่านสามารถพูดได้หลายๆ ภาษา รู้หลายๆ ภาษา รู้ภาษาใจ สามารถสื่อกับสัตว์รู้ได้ว่าพวกมันพูดอะไรกันคิดอะไรกัน เป็นเรื่องปรกติของท่าน ท่านสามารถบิณฑบาตกับเทวดาได้ แม้นแต่แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งหลายๆ คนบูชานับถือว่าเป็นอุบาสิกาที่มีฤิทธิ์มีอภิญญาในยุครัตนโกสินทร์ แม่ชีท่านยังให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อสร้อยเป็นอาจารย์ใหญ่ ท่านจะเรียกว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ของท่าน ซึ่งสมัยก่อนจะมีรูปถ่ายมีหนวดยาว มีบาตรใหญ่มาก ๆ คือหลวงพ่อสร้อย วิจาโร แห่งวัดถ้ำสบก หรือวัดภูเขาแก้ว ท่านมีอภินิหารมาก ท่านออกวัตถุมงคลเหรียญเสมารุ่นแรก เหรียญสี่เหลี่ยมรุ่นสอง พระเนื้อดินต่าง ๆ พระสมเด็จ ผ้ายันต์ อย่างพระเนื้อดินท่านถอดแบบจากเหรียญเสมารุ่นแรกกดทำเป็นพระเนื้อดินออกมา ถือว่าเป็นของดีราคาเยาว์ของเก่าราคาถูก คือของผู้ที่ต้องการแขวนพระที่ไม่ใช่ตามกระแสหรือแขวนไว้อวดไว้โชว์ แต่ถ้าคิดจะแขวนไว้คุ้มครองชีวิตหรือคิดว่าจะแขวนพระดีๆสักองค์ที่แขวนแล้วไม่ตายโหงหรือตายก่อนวัยอันควรหรือถูกกรรมตัดรอนมาทำลายอันตรายได้ นอกจากว่าหมดอายุขัยก็ไม่สามารถห้ามได้ปกป้องได้ ก็ขอแนะนำพระหลวงพ่อสร้อย วิจาโร แห่งวัดภูเขาแก้ว พระอรหันต์ผู้ถือบริสุทธิ์มาตลอดชีวิต พระผู้มีวาจาสิทธิ์ พูดน้อย ปฎิปทาท่านปฏิบัติสวดมนต์ภาวนาตลอด แม้แต่เทวดาจำต้องมาใส่บาตรท่าน ไม่ว่าท่านอยู่ที่ใดเทวดาจะทำการอุปการะอุปัฏฐากดูแลท่านเสมอ อย่างที่ว่าพระอรหันต์ไม่ว่าอยู่ที่ใด กลิ่นของศีลของท่านจะตลบอบอวลทั่วทุกทิศทุกทาง เหมือนดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า "กลิ่นหอมใดนั้น ก็ไม่เกินกลิ่นหอมของศีล หอมใดๆในโลกหอมตามลม แต่กลิ่นหอมของศีลหอมตามลม หอมทวนลม หอมไปทั่วทุกทิศทุกแดน สรรพสัตว์ไม่ว่าอยู่ในภพใดภูมิใด หากอยู่ในวิสัยสามารถรับรูู้ได้ ไม่อยู่ในอเวจีมหานรกหรือนรกขั้นต่ำ ก็จะสามารถรับรู้กลิ่นศีลของพระอริยะเจ้าได้ ฉันใดก็ฉันนั้น ไม่ว่าพระอริยะเจ้าไปอยู่ในสถานที่แห่งใด ไม่ว่าวิญญาณก็ดี อมนุษย์ก็ดี ต่างก็อยากที่จะมาทำนุบำรุงอุปัฏฐากรับใช้ ได้มาทำบุญกับท่าน และหลวงพ่อสร้อย วิจาโร คือพระอรหันต์อีกหนึ่งรูปในนั้น ท่านมีฤทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย เพียงแต่ว่าปฎิปทาของท่านคือ ซ่อนตัวหลบเร้นซุกซ่อน เปรียบเหมือนช้างเผือกในป่าใหญ่ ไม่ได้ยุ่งสุงสิงกับใคร หากใครหาพระที่มีพลังวิเศษ พลังศักดิ์สิทธิ์ พระของหลวงพ่อสร้อยเนี่ยแน่นอน ท่านเสกเดี่ยว ประจุจนท่านมั่นใจ ท่านจึงแจกแก่ศิษย์ และท่านว่าการสร้างพระแต่ละอย่างแจกใครก็ตาม จะเสกส่งเดชทำเล่นไม่ได้ เสียชื่อครูบาอาจารย์ เพราะคนที่จะมาเป็นครูบาอาจารย์ คนที่เป็นลูกศิษย์เค้าเคารพนับถือคือมอบกายถวายชีวิตแขวนพระท่านด้วยความเคารพนับถือและศรัทธา หากทำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์จริงไม่ขลังจริงเค้าเอาไปแขวนเอาไปตายเป็นอะไรไปท่านก็ว่าจะเป็นบาป ของของท่านเชื่อได้จริงขอให้มั่นใจได้ว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงทำจริง ดีจริง ทั้งนอกและใจ เจตนาก็บริสุทธิ์
     
  14. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    รูปโอมกะลาตาเดียว หลวงพ่อเอิบ วัดจตุรมิตรประดิษฐาราม(วัดสามจีน)

    [​IMG]
    [​IMG]


    หลวงพ่อเอิบ เดิมว่ากันว่าท่านเป็นพระเขมร ธุดงค์มาจากที่อื่น เป็นผู้ที่มีวิชาอาคมมาก สามารถรักษาคนที่โดนผีเจ้าเข้าสิง เป็นหมอน้ำมนต์รักษาอาการต่าง ๆได้ วัตถุมงคลต่าง ๆที่ท่านสร้างมีไม่มาก ส่วนใหญ่ท่านจะสร้างของที่เป็นรูปเทพเทวา ซึ่งของต่าง ๆที่ท่านสร้างไม่มากนั้นเพราะพิธีกรรมต่าง ๆ มากมายหลายขั้นตอน และของส่วนใหญ่ที่ท่านนำมาสร้างวัตถุมงคล จะเป็นกะลาตาเดียว เพราะท่านถือว่าเป็นของดี เป็นของทนสิทธิ์ในตัว ของที่ท่านสร้างไว้ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็จะเป็น ราหูอมจันทร์ สร้างจากกะลาตาเดียว ราหูของท่านมีฤทธิ์มาก แต่มีข้อถือเยอะและก็ถือยาก เช่น ราหูของท่านห้ามให้ผู้หญิงจับต้องโดยเด็ดขาด ถ้าให้ดีก็ต้องเซ่นไหว้บอกกล่าวจะมีตัวมีตน สมัยก่อนมีคนโดนรถชนก็ปรากฎว่ามีเงาคนรูปร่างใหญ่โตมาบังมากัน จากหนักเป็นเบา โดนชนจนกระเด็นไปแต่ไม่เป็นอะไรมาก หรือว่าสามารถเฝ้าบ้านเฝ้ารถได้ คือท่านสามารถเสกจนเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา ลักษณะจะตัวใหญ่แต่จะมีครึ่งตัว แต่ว่าอย่างหนึ่งคือ ราหูนี้ถ้าผู้หญิงจับต้อง จะเสื่อมทันที ไม่มีตัวตนอีก เหลือแต่ความคงกระพัน เพราะท่านถือว่าของของท่านจะต้องบริสุทธิ์ ไม่ถูกผู้หญิงจับต้อง หลวงพ่อเอิบท่านเก่งเรื่องการบูชาเทพเทวดาผีเจ้าเข้าสิงมาก และท่านก็ได้สร้างรูปโอม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพราหมณ์ฮินดู ซึ่งเป็นการบูชาเทพเทวดา ซึ่งเป็นอัขระสำคัญ ท่านสร้างไว้สำหรับผู้ที่นับถือบูชาพระพรหม เจ้าแม่อุมาเทวี พระพิฆเนศ ตลอดจนองค์เทพต่าง ๆ สมควรที่จะมีไว้บูชา เพราะถือว่าของที่ท่านเสกนั้นจะหนุนดวงชะตาสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชายก็ดีที่ไม่สามารถถือรูปราหูนั้นได้ จะให้แขวนรูปโอมนี้ เวลาท่านเสก ท่านจะประจุดวงจิตขององค์เทพเทวาในลัทธิของพราหมณ์ฮินดู ไม่ว่าจะเป็นพระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวร พระพิฆเนศ เป็นต้น คนที่บูชารูปโอมนี้จะถือว่ามีของศักดิ์สิทธิ์ที่เทพประสิทธิ์ให้ คือท่านได้เชิญและบอกกล่าวให้องค์เทพมาประสิทธิ์ให้ เป็นของที่เหล่าศิลปิน นักดนตรี นักแสดง หรือคนที่ต้องการบูชาเทพเทวาต่าง ๆควรมีติดตัวไว้ สามารถหนุนดวง อธิษฐานบอกกล่าว หรือเข้าฝันบอกให้ทราบเหตุการณ์ร้ายดีล่วงหน้าได้ เป็นของดีที่น้อยคนที่จะรับรู้รับทราบ เป็นของดีที่มีไม่มาก เพราะท่านทำเอง จารเอง ตลอดทุกขั้นตอน ปลุกเสกเอง เลือกกะลาตาเดียวเอง ขั้นตอนในการทำต้องบริสุทธิ์ทุกขั้นตอน จะไปลักไปขโมยมาก็ไม่ได้ ผู้ที่แกะสลักต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ถือว่าเป็นของดีของเก่าที่คนไม่รู้ และราคาจับต้องได้ สมควรที่คนรุ่นใหม่ควรจะมีไว้บูชา
     
  15. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ปิดตาเนื้อประคำพระธรรมราช หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน ปี2511อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี


    [​IMG]
    [​IMG]

    ปิดตาชุดนี้เป็นเนื้อพิเศษในการทำ โดยใช้เนื้อจากการทำประคำพระธรรมราช ประคำพระธรรมราชถือว่าเป็นของสูงของศักดิ์สิทธิ์ของสำคัญให้เฉพาะศิษย์ครอบครู ครอบมือถือว่าเป็นคนที่อาจารย์ได้ประสิทธิให้แล้ว สามารถถ่ายทอดวิชาและเรียนวิชาได้ เป็นคนที่มีความสำคัญเท่านั้นถึงจะได้รับประคำพระธรรมราชนี้ ซึ่งประคำพระธรรมราชนี้เป็นตำราดั้งเดิมของปู่คง วัดตาล ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน และเป็นคาถาซึ่งในตำราถือว่าเหนือกว่าคาถาใด ๆทั้งปวง ดีเด่นทางด้านคุ้มภัย สามารถใช้สวดภาวนาคุ้มบ้านคุ้มเรือน หรือคุ้มคณะที่เดินทางก็ได้ อุปเท่ห์ใช้ได้ร้อยแปดแล้วแต่อธิษฐาน ประคำพระธรรมราชหรือเนื้อพระธรรมราช ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมมาตามตำราของปู่คง วัดตาล คาถาพระธรรมราชนี้ปู่คง วัดตาล ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผนแห่งเมืองสุพรรณขรัวเฒ่าผู้เรืองฤทธิ์เดชผู้ซึ่งสอนวิชาให้ขุนแผนถึงขนาดมีฤทธิ์ว่าเสกใบมะขามเป็นต่อเป็นแตนแปลงร่างกลายเป็นมด ทำให้เป็นยอดขุนศึก ปราบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ เป็นผู้ให้กำเนิดพระยอดขุนพล ซึ่งถือว่าเป็นพระที่สูงสุดและสำคัญที่สุดของสำนักอาจารย์ชุม ไชยคีรี เลยก็ว่าได้ ปู่คงท่านจะให้สวดและเสกด้วยคาถาพระธรรมราชอยู่เสมอ พระปิดตาชุดนี้ถือว่าเป็นเนื้อที่สำคัญมาก กดนำฤกษ์และทำพิธีอย่างประณีต สำคัญคือพระชุดนี้ต่างกับพระชุดอื่นคือ คนที่เล่นมาบางคนเล่นมา20-30ปี ผู้ที่เคยทันอาจารย์ชุมก็ยังไม่เคยเห็น พระชุดนี้เป็นพระที่ทั่วไปจะไม่ปรากฎเลยว่ามีจาร “พุทโธ” ด้านหลังขององค์พระ แต่ชุดนี้เป็นชุดพิเศษที่ได้มาจากผู้ที่มีความใกล้ชิดผูกพันกับท่านอาจารย์ชุม โดยตรง เป็นพระที่มีจารยันต์ข้างหลังว่า “พุทโธ” ซึ่งเป็นคำย่อถึงพระพุทธองค์ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คาถาพุทโธ นี้โบราณเรียกกันว่าคาถาพญาหงส์ทองคู่ คือ ตัวหนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ดีทางคุ้มครองป้องกันภัย คุ้มกันภยันตรายทั้งปวง โชคลาภเมตตา ถือว่าพุทโธ เหนือกว่าคาถาใดๆในโลกทั้งหมด คือหมายถึงพระพุทธองค์โดยตรง ปิดตาพิมพ์นี้ ดีทางคุ้มภัย มหาอุด และเจริญทางโภคทรัพย์ พระปิดตาของอาจารย์ชุม ไม่ใช่ว่าจะดีทางมหาอุดอย่างเดียว คือของท่านอุดมด้วยโภคทรัพย์ดีทางโชคลาภและคุ้มกันภัย และมีลายมือจาร โดยปกติแล้วอาจารย์ชุม ท่านจะไม่ค่อยจารของเพราะท่านจะบอกเสมอว่าของทุกอย่างที่ท่านทำนั้นดีแล้ว สมบูรณ์แล้ว ครบแล้ว ท่านเคยบอกกับศิษย์ไว้เสมอว่าการที่ท่านจะจารอะไรอาจารย์จะตรวจด้วยจิตตรวจด้วยสมาธิแล้วว่าสิ่งนั้นมีพลังด้อยในทางใดแล้วท่านถึงลงมือจารเพิ่มวิชาทางนั้นไป แต่ก็น้อยมากที่ท่านจะจารเพิ่มให้แก่ศิษย์ เพราะการที่จะจารนั้น ต้องมีการเรียกจิต ตั้งธาตุ หนุนธาตุ จารและเรียกขึ้นมาเป็นองค์ การจารเป็นตัวอักขระพุทโธเฉย ๆ นั้น ไม่ใช่ข้อสำคัญ แต่สำคัญที่การจารเสร็จแล้วนั้นต้องตั้งธาตุ เรียกธาตุ เดินธาตุ เห็นธาตุ และเรียกคำว่า “พุทโธ” ให้ขึ้นมาเป็นองค์พระ ให้เป็นในอุคคหนิมิต เป็นองค์พระขึ้นมา จนเกิดแสงโอภาสสว่างไสวไปทั้ว จึงถือว่าสำเร็จ ไม่ใช่ว่าอักขระสองตัวเห็นว่าเป็นของง่าย ผู้ที่สำเร็จอภิญญาเป็นอย่างต่ำถึงจะทำได้สมบูรณ์ อย่างอาจารย์ชุม ไชยคีรี ถือว่าเป็นฆราวาสอภิญญาแม้แต่เมื่อละสังขารไปแล้ว ก็ไม่เน่าไม่เปื่อยแห้งแข็งเป็นหิน พระชุดนี้ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ไม่ธรรมดา ผู้ที่รักและเคารพศรัทธาพระสายใต้สายอาจารย์ชุม ไชยคีรี ควรมีสะสมเก็บไว้บูชาเพราะว่าเป็นพระที่มีความสำคัญทั้งเนื้อหาและพิธีการและมีการจารพิเศษด้วยลายมือของอาจารย์ชุม ด้วย ถือว่าเป็นของสำคัญ
     
  16. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ตะกรุดสังวาล หรือตะกรุด10ดอก อาจารย์หนู วัดทุ่งแหลม อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี

    imagejpg2_zpsbbc7ef89.jpg

    อาจารย์หนู เดิมท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง และหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ตัวท่านเองเคยบอกไว้ว่า ตัวท่านเองท่านใช้หนุมานอย่างเดียว ท่านบอกว่าคนเราไม่ต้องเป็นอะไรเยอะหรอก เป็นให้มันเก่งแค่อย่างสองอย่าง แต่ทำให้ได้จริงทำให้ได้ครบทุกอย่างในวิชานั้น ๆ ก็พอแล้ว ตำราหนุมานของท่าน ท่านเรียนมาจากหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ท่านใช้หนุมานตัวที่9 ในการปลุกเสก ตะกรุดสังวาลหรือตะกรุด10ดอกนี้ เป็นตะกรุดที่ใช้แขวนสะพายแล่ง ไม่ได้ใช้คาดเอว สมัยก่อนที่อาจารย์หนูยังมีชีวิตอยู่ มีนายแดงหัวสาม ที่เรียกกันว่านายแดงหัวสามเพราะว่านายแดง อาศัยอยู่ที่บ้านหัวสาม อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี เป็นคนขับรถเหมืองแร่ซึ่งชอบลองพระลองเครื่องรางเป็นชีวิตจิตใจ ได้พระของอาจารย์หนูไปกี่องค์ต่อกี่องค์ก็นำไปลองหมดทุกองค์ ภายหลังได้พบอาจารย์หนูท่านก็ได้ตักเตือนไปหลายครั้งจนท่านรำคาญ ครั้งหนึ่งนายแดงกับพวกไปพบท่านที่วัด ท่านก็เอาตะกรุดชุด10ดอกนี้ให้ ท่านว่า”มึงชอบลองใช่มั๊ย ใส่สะพายแล่งแล้วไปยืนกลางแจ้งเลย พวกที่มาด้วยกันใครพกปืนมากันกี่กระบอกยิงไปเลย ถ้ายิงออกแม้แต่นัดเดียว กูยอมสึก” ปรากฏว่ากลุ่มพวกที่มากับนายแดงหัวสาม ไม่มีใครกล้าลองยิง แต่เคยมีคนเอาตะกรุดสังวาลหรือตะกรุดชุด10ดอกนี้ ไปลองกับไก่ ปรากฏว่ายิงไม่ออกเช่นกัน แต่มีเรื่องที่แปลกคือ ใครก็ตามที่เอาพระท่านไปลอง เอาเหรียญรูปท่านไปลอง แล้วมาพบท่านกราบท่าน ท่านจะถามว่า”มึงโกรธอะไรกู” คือไม่ต้องบอกว่าเอาเหรียญของท่านไปลองมา ท่านถามก่อนเลย”เอากูไปยิงทำไม มึงทำแบบนี้มึงลบหลู่ครูบาอาจารย์กันนี่ ถ้าเกิดไก่มันตายไปใครจะรับผิดชอบ มันเป็นบาปนะ”คือท่านรู้ด้วยว่าคนที่นำไปลองเอาไปผูกคอไก่แล้วยิงอาจารย์หนูท่านเวลาเสกของ ของนั้นต้องเคลื่อนไหวขยับได้ อาจารย์หนู ท่านเป็นพระที่อยู่ห่างไกลความเจริญ แต่ในหลวงและพระราชินีเคยเสด็จไปหาท่าน และพระบรมวงศานุวงศ์ก็ยังเคยเสด็จไปหาท่านเช่นกัน

    imagejpg1_zps0209c574.jpg

    ครั้งหนึ่งคณะครูโรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลไปออกค่ายอาสาฯ รถเกิดเสียท่านก็ให้พักในวัด และท่านก็มอบพระของท่านให้แต่ทีนี้ครูของโรงเรียนฯก็เป็นชาวคริสต์ รับไว้เพราะนับถือท่านเหมือนเป็นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็นำพระของท่านใส่กระเป๋าเสื้อไว้ วันหนึ่งอาจารย์ท่านนี้ขณะกำลังโกนหนวด ซึ่งที่โกนหนวดที่ใช้เป็นที่โกนหนวดไฟฟ้า เปลี่ยนใบมีดใหม่ แต่ลืมปิดฝาครอบใบมีด ก็เปิดสวิทแล้วเอาที่โกนหนวดไฟฟ้าไถทั้ง ๆที่ไม่ได้ปิดที่ครอบใบมีดนั้น เสียงดังครืดๆ อาจารย์ท่านก็สงสัยว่าทำไมเจ็บ ก็ดูที่ที่โกนหนวดปรากฏว่าไม่ได้ปิดฝาครอบ แต่ก็ไม่ได้มีบาดแผลหรือมีเลือดออกสักหยดเดียว ภายหลังอาจารย์ท่านนี้ได้นำเหรียญนี้ไปให้ลูกชายใส่ไว้ ซึ่งคนเราเมื่อถึงคราวตายอะไรก็ช่วยไม่ได้ ลูกของท่านได้ตกรถไฟ ถูกรถไฟทับ กระดูกแหลกเหลวไปทั้งตัว เลือดออกทั้งทางปาก หู จมูก แต่ตามเนื้อตัวไม่มีบาดแผลเลยสักนิดเดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...