เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

Welcome

(bb-flower ขอต้อนรับคุณ obniti คุณ mamboo คุณ userx สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ

 

พี่จิตต์ปภัสสรโชคดีมากเลยค่ะ ได้ถ่ายภาพสมเด็จพระสังฆราชระยะใกล้ ๆ แบบนี้ เก็บภาพไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานดูน่าปลาบปลื้มใจอย่างที่สุดเลย[/quote]

น้องนกคะ ส่งที่อยู่มาทาง PM สิคะแล้วพี่จะส่งภาพให้ค่ะ พี่อยากจะมอบให้กับคนที่อยากไว้บูชาค่ะ (เอ!รู้สึกว่าพี่จิตต์กับน้องนกจะอยู่ไม่ไกลกันนะ)
**ในเรื่องของการลดน้ำหนัก โดยส่วนตัวกว่าจะลดน้ำหนักได้ก็นานอยู่เหมือนกัน สิ่งจูงใจที่ลดน้ำหนักได้ก็คือ เอาอาหารที่ซื้อมาสำหรับมื้อเช้าและกลางวัน มาวางรวมกันแล้วพลันคิดไปว่า อาหารมากมายขนาดนี้
ไปอยู่ในท้องของเรา ช่างน่าสงสารท้องจริง ๆ ที่ต้องย่อยอาหารเหล่านี้
ยิ่งเราคิดว่าเราหิว เราก็จะกินไปเรื่อย ๆ (จะสนุกสนานกับการกินมาก) เมื่อ 2 ปีที่แล้วน้ำหนักถึงจุดอิ่มตัวคือ 70 กิโลกรัม (ปัจจุบันคือ 60 กว่า ๆ)
ผลที่มากระทบก็คือ เหนื่อยง่าย อึดอัด เปลืองเงินที่จะซื้อเสื้อผ้าไซด์ปกติ 99 -199 แต่ถ้าไซด์ใหญ่ก็จะ 299 ขึ้นไป เปลี่ยนพฤติกรรมการกินจะไม่กินตามใจตนเอง (ฮิ ฮิ!ตามใจตนเองแล้วเหลิง อ้วนอีกตะหาก) อาหารที่เรากินเข้าไปแล้วย่อยยากก็หลีกเลี่ยง แล้วเราจะได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา และความงามที่เรามีเราก็งามยิ่งขึ้น ไม่ต้องอดนะคะจะไม่ดีกับสุขภาพ
(ในปัจจุบันความงามของน้องนกยังไปเตะตา เป็นที่ประทับใจของสมาชิกบางท่านในเวบ) พี่จิตต์จะเอาใจช่วยนะคะ

 

จากการอ่านและวิเคราะห์ดูแล้วแนวคล้ายกันค่ะ เพียงแต่คำนิยามหรือภาษาที่ใช้อาจจะต่างกัน อาจารย์ปริญญาท่านเรียนจบด้านจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์และใช้ภาษาในแนววิทยาศาสตร์ แต่ไม่ต้องนำมาเปรียบเทียบกันหรอกนะคะ เพราะหน้าที่ของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน อาจารย์ปริญญาเคยกล่าวว่าท่านเหล่านี้จะไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกัน เท่าที่สัมผัสและเรียนรู้มาก็มีอาจารย์ที่สอนในแนวนี้อยู่ 3 ท่านแล้ว แต่วิธีการสอนจะไม่เหมือนกัน ทำให้ทราบเลยว่าสิ่งใดที่เป็นความจริงหรือสัจธรรมไม่ว่าจะเอื้อยเอ่ยจากท่านใดสิ่งนั้นก็ย่อมเป็นความจริงเสมอ..

อย่างเช่นเรื่องของเวลาทางจิตอาจารย์ปริญญาก็พูดอยู่บ่อย ๆ ว่า เวลาทางจิตเป็นหนึ่งเดียว ส่วนท่านอาจารย์อนาลัยใช้คำว่าอดีต - ปัจจุบัน - อนาคต ดำเนินไปพร้อม ๆ กันเป็นปัจจุบัน เมื่อวานก็ลองถามอาจารย์ปริญญาเหมือนกันค่ะว่าทำไมอาจารย์ไม่บรรยายเรื่องเวลาทางจิตที่เป็นหนึ่งเดียว อาจารย์ท่านกล่าวว่าใจเย็น ๆ ตอนนี้ให้ไปอ่านและศึกษาไปก่อน ถึงเวลาอาจารย์ก็จะบรรยายให้ฟังเองค่ะ..

ถือว่าพวกเราโชคดีมาก ๆ เลยนะคะที่ได้มีโอกาสได้เจอะเจอผู้ที่มาถ่ายทอดความรู้ทางจิตวิญญาณมาให้ศึกษาและเรียนรู้ เป็นการเรียนทางลัดวิธีหนึ่งเลยล่ะค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกให้ปวดหัวเล่น จริงมั้ยคะ..ชาวห้องวิทย์..
(b-smile)

 

เมื่อวานได้คุยกับคุณเฉลยแปล๊บเดียวไม่รู้ว่าคุณเฉลยไปถอยหนังสือของอาจารย์มากี่เล่มก็ไม่รู้ค่ะ ฟังอาจารย์บรรยายไปก็นึกถึงคุณเฉลยตลอดเวลาเลยค่ะ เลยได้สิ่งที่ติดค้างคาใจด้วยกันทั้งสองคน ของขจรวรรณก็เจอเรื่องของการติดกับความสุขความสงบจากการทำสมาธิหรือที่อาจารย์ใช้คำว่าเทคนิคสมาธินั่นเองค่ะเข้ากับหัวข้อบรรยายที่ว่า บวชนานทำไมไปนิพพานไม่ได้ ส่วนการฝึกโยคะนี่อาจารย์จะใช้คำว่าธรรมชาติสมาธิ เพื่อฝึกสมาธิและสติโดยวิธีลืมตานั่นเอง.. ไว้ถ้าอาจารย์เปิดคอร์สไซโคร์โชว์ หรือการใช้สมองซีกขวาเมื่อไหร่ไปเข้าคอร์สด้วยกันค่ะคุณเฉลย..
(b-inlove)

 

ขอยืนยันตามที่พี่นักเขียนกล่าวค่ะ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่อเราอยู่กับสมาธิเราก็จะมีความสุขสงบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรากลับเข้ามาสู่สังคมปกติแล้วเนื่องจากจิตของเรามีสมาธิ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรหรือกระทำอะไรในแง่ลบจิตของเราจะรับเข้ามาในจิตของเราหมด เหมือนคนกำลังมีสมาธิแล้วอ่านหนังสือก็จะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เราอ่านได้เร็วขึ้นนั่นเองค่ะ.. เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนความเชื่อในทางที่ผิดเป็นความรู้ โดยพยายามคิดบวกให้กับชีวิตของเราดีที่สุดค่ะ..
(bb-flower (bb-flower (bb-flower

 

น้องนกคะ ส่งที่อยู่มาทาง PM สิคะแล้วพี่จะส่งภาพให้ค่ะ พี่อยากจะมอบให้กับคนที่อยากไว้บูชาค่ะ (เอ!รู้สึกว่าพี่จิตต์กับน้องนกจะอยู่ไม่ไกลกันนะ)
**ในเรื่องของการลดน้ำหนัก โดยส่วนตัวกว่าจะลดน้ำหนักได้ก็นานอยู่เหมือนกัน สิ่งจูงใจที่ลดน้ำหนักได้ก็คือ เอาอาหารที่ซื้อมาสำหรับมื้อเช้าและกลางวัน มาวางรวมกันแล้วพลันคิดไปว่า อาหารมากมายขนาดนี้
ไปอยู่ในท้องของเรา ช่างน่าสงสารท้องจริง ๆ ที่ต้องย่อยอาหารเหล่านี้
ยิ่งเราคิดว่าเราหิว เราก็จะกินไปเรื่อย ๆ (จะสนุกสนานกับการกินมาก) เมื่อ 2 ปีที่แล้วน้ำหนักถึงจุดอิ่มตัวคือ 70 กิโลกรัม (ปัจจุบันคือ 60 กว่า ๆ)
ผลที่มากระทบก็คือ เหนื่อยง่าย อึดอัด เปลืองเงินที่จะซื้อเสื้อผ้าไซด์ปกติ 99 -199 แต่ถ้าไซด์ใหญ่ก็จะ 299 ขึ้นไป เปลี่ยนพฤติกรรมการกินจะไม่กินตามใจตนเอง (ฮิ ฮิ!ตามใจตนเองแล้วเหลิง อ้วนอีกตะหาก) อาหารที่เรากินเข้าไปแล้วย่อยยากก็หลีกเลี่ยง แล้วเราจะได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา และความงามที่เรามีเราก็งามยิ่งขึ้น ไม่ต้องอดนะคะจะไม่ดีกับสุขภาพ
(ในปัจจุบันความงามของน้องนกยังไปเตะตา เป็นที่ประทับใจของสมาชิกบางท่านในเวบ) พี่จิตต์จะเอาใจช่วยนะคะ[/quote]

ขอขอบคุณคุณจิตต์อีกครั้งค่ะ รางวัลที่ส่งมาให้ได้รับแล้วนะคะถูกใจมากเลยค่ะ.. ส่วนวิธีการลดความอ้วนของคุณจิตต์ก็น่าสนใจดีนะคะจะได้ไม่อึดอัด ไม่รู้คนในเวปแถวนี้มีแมวมองบ้างรึปล่าวคะ เผื่อน้องเราจะได้เป็นดารงดารากับเค้ามั่ง.. อิอิ.. สู้สู้ค่ะน้องนก..
(b-deejai)

 

พอดีวันก่อนอ่านหนังสือความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ เกี่ยวกับจิตใต้สำนึกจึงเอามาให้อ่านด้วยกันค่ะ..

บทที่ 3 เครื่องพรางของโลกและจักรวาลทางกายภาพ

หน้า 24 จิตใต้สำนึกเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นอิสระจากเครื่องพราง ในขณะที่บางส่วนของจิตใต้สำนึกต้องรับมือกับเครื่องพราง ส่วนลึกของจิตใต้สำนึกเชื่อมต่อกับพื้นฐานของพลังชีวิตของจักรวาลโดยตรง เธออาจคิดว่าข้อมูลในหนังสือเล่มนี้มาจากจิตใต้สำนึกของนักเขียนผู้หนึ่ง เธอคิดเอาโดยปริยายว่า จิตใต้สำนึกเป็นของส่วนบุคคล จิตใต้สำนึกบรรจุด้วยข้อมูลของจิตวิญญาณที่ปราศจากความบิดเบือน จิตใต้สำนึกปราศจากเครื่องพราง จิตใต้สำนึกทำหน้าที่ระหว่างมิติโดยปราศจากการแบ่งแยกพรมแดน ปราศจากการแบ่งแยกเป็นตัวตน เรา - เขา

หน้า 27 จิตใต้สำนึกเชื่อมต่อระหว่างจิตวิญญาณกับสมอง หรือระหว่างประสาทสัมผัสภายในกับภายนอก บางส่วนของจิตใต้สำนึกรับมือกับแบบแผนของเครื่องพราง เช่น อดีตของร่างกายตัวตนและความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ ส่วนใหญ่ของจิตใต้สำนึกเกี่ยวพันกับโลกภายใน เมื่อข้อมูลจากโลกภายในมาถึงจิตใต้สำนึก จิตใต้สำนึกก็เข้าถึงโลกภายในอย่างฉับพลัน
(b-inlove)

 

ขอบคุณพี่จิตต์มากค่ะ นกส่งที่อยู่ไปทางPMแล้วนะคะ
เรื่องลดความอ้วน ต้องบอกว่ายากจริง ๆ ยิ่งสำหรับคนรักการกินอย่างนกนี่
ต้องบอกว่าแต่แรกเลย น้ำหนักนกก็เท่าตอนนี้แหล่ะค่ะ 60
ตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยยาลดความอ้วน น้ำหนักลงไป10กิโล ผอมแต่โทรม
แล้วน้ำหนักก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่อย่างนี้ พอ55เมื่อไหร่ก็จะเครียดต้องไปซื้อยามากินอีก
เป็นอย่างนี้มา 5 - 6 ปี จนตอนนี้น้ำหนักกลับมาเท่าเดิม ลดไม่ค่อยลงแล้ว
ความจริงถ้าเอาชนะใจตัวเองได้ แล้วอดทนใจเย็น ๆ ก็ทำได้แหล่ะค่ะ
แต่ด้วยความที่เคยกินยาแล้วมันลงเร็ว เดือน2เดือนก็ลดแล้ว
พอใช้วิธีธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไปเลยไม่ทันใจ ทำให้หงุดหงิด
แต่ตอนนี้ตั้งใจใหม่แล้ว อยากกินของอร่อยก็กินแต่ลดปริมาณลงครึ่งนึง
หลีกเลี่ยงการไปกินบุฟเฟต์ เพราะนกจะกินแบบว่าคุ้มจนเกินคุ้มเลย
ก่อนนอนsit upวันละ 20 ที และจินตนาการว่าตัวเองจะหุ่นดีขึ้นในเร็ววัน
เอาเป็นว่าเดือนหน้านกจะมาเล่าให้ฟังว่าน้ำหนักลดลงไปเท่าไหร่แล้ว
จะได้สุขภาพดีและงามขึ้นใช่ไหมคะพี่จิตต์ (b-smile)
ตอนนี้ขอแค่55เท่าในรูปให้ได้ก่อนก็ยังดีเนอะ

 

พี่ขจรวรรณจ๋า ในเว็บไม่มีแมวไม่เป็นไร แต่ที่บ้านนกมีแมวมองแล้วล่ะ เจ้าโชคดีไง อิอิ

 

พี่นกน้อยลองเต้นแอโรบิกดูซิครับ up n down! up n down!
ถ้าพี่นกน้อยน้ำหนักเกินก็แบ่งมาให้ผมมั่ง ตอนนี้ผมหนัก 48.5 กก. เอง
อยากได้อีก 10-15 กก. กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนครับ

 

น้องนาคาจ๋า งั้นพี่แบ่งให้ไปเลย 10 กิโล โอเคม่ะ อิอิ

danceเพลงBeyonceซะหนึ่งเพลงก่อนนอน ได้เหงื่อเลย (deejai)

 

การฝึกในบทเรียนในหนังสือเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และได้ผลดีเกินคาด ดิฉันได้ฝึกโดยการหลับตาและจินตนาการว่าตัวเองเป็นส่วนหนึงของดินฟ้าอากาศ เรื่อย จนไปถึงดวงดาว จักรวาล ทุกครั้งจะได้ความรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนและเป็นส่วนหนึ่งกับมันจริงๆ เมื่อจินตนการต่อว่า ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ระเบิด ส่งผ่านพลังงานในตัวเอง จะรู้สึกร้อนวูบวาบ เหมือนมีพลังงานเพิ่มขึ้นจริง ๆ ดิฉันเหมือนมีพลังพิเศษในตัวสามารถรับรู้หรือได้ยินเสียงที่คนไม่ได้ยิน ตอนแรกคิดว่าเกิดเนื่องจากการเปิดจักระ แต่เมื่อตรวจสอบดูแล้วมันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ได้เริ่มอ่านหนังสือชุดนี้และฝึกฝนตาม (ทั้งที่ไม่ได้ฝึกสมาธิใด ๆ เลย) ซึ่งเกิดก่อนการเปิดจักระเสียอีก โดยเฉพาะเมื่ออ่านอิสระความปรารถนาบทการนำเอาสติสัมปชัญญะเข้าไปในความฝัน คุณเชื่อไหม มันเป็นไปได้จริง ๆ และมันยอดมาก ๆ

 

น่ายินดีจริงๆครับนำไปฝึกแล้วได้ผลน่าทึ่ง..เร็วมาก
ขนาดคุณ JINTAWADEEไม่ค่อยได้ฝึกสมาธิยังทำได้ขนาดนี้ คงเป็นไปตามธรรมชาติของจิตอย่างแท้จริงครับ..ผมว่าความคิดที่เปลื่ยนไปจากการอ่านหนังสือของอาจารย์อนาลัยและจินตนาการของแต่ละคนคงมีส่วนสำคัญมากๆ เห็นหลายๆคนก้าวหน้าก็ดีใจแทนพี่นักเขียนนะครับ..เหมือนเราเห็นผลงานที่ประสบความสำเร็จเป็นภาพที่สมบูรณ์เป็นจริงขึ้นมาแล้ว..


อ้างอิง: nova_analai
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">การติดสุข ติดความสงบในสมาธิบนเบาะสมาธินั้นเป็นการเปล่าประโยชน์ เพราะเป็นการหลบทุกข์ระยะสั้น การฝึกสมาธิที่แท้จริงคือ การค้นพบความเชื่อที่ผิด และสามารถเปลี่ยนความเชื่อเหล่านั้นเป็นความรู้ เปลี่ยนมุมมองใหม่ เปลี่ยนทัศนคติใหม่

การทำสมาธิไม่ใช่การแสวงหาความสุขความสงบ แต่การทำสมาธิที่แท้จริงคือการแสวงหาความจริง แสวงหาความรู้ เพื่อทำให้เรารู้จักตนเอง การทำสมาธิเป็นภาวะของการวิเคราะห์หรือ analyze ความคิดของเราว่าเรามีแบบแผนหรือ pattern การใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอย่างไร
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรื่องของความเชื่อในการหลับตาทำสมาธิที่พี่นักเขียนบอกมานี่ชัดเจนมากๆ เหมือนการนั่งทับต้นหญ้าหรือปัญหาเอาไว้ พอลุกขึ้นยืนต้นหญ้าก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่ได้รับการดูแล หรือไปเจอปัญหาเข้าก็รักษาอารมณ์ไว้ไม่ได้ การนำสติและสมาธิมาใช้ในชิวิตประจำวันยามลีมตาตื่นก็ยิ่งสำคัญเข้าไปอีก..เพราะความเป็นมนุษย์ปุถุชนยังต้องพบต้องเจออะไรมากมายกว่ากว่าทีคิด
เราไม่ได้บวชเป็นพระ อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบพระ..การใช้เวลาเพื่อฝึกนั่งสมาธินานๆจึงใช่เรื่องที่เราต้องไปเลียนแบบพระสงฆ์เสมอไป..การฝึกสติในยามตื่นกลับมีความจำเป็นมากกว่าในของแนวทางฆราวาสอย่างเราๆครับ ไม่ไปเบียดเบียนให้ใครเดือดร้อน หรือขุ่นข้องใจไงครับ ก็ไม่เกิดผลกรรมใหม่ๆแล้ว
เรื่องฝึกสมาธินี้เห็นด้วยพี่นักเขียนครับทำให้กระจ่างอีกมากโขเลยครับ เพี่อแสวงหาความจริงและเปลื่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ ถูกต้องที่สุดครับ

 

ว่าแต่ทำไมยังไม่ได้ของที่คุณจิตต์ส่งมาเลยครับ..
สงสัยอยู่ระหว่างทาง คนอื่นเค้าได้รับกันหมดแล้วนี่ครับ

วันก่อนไม่ได้ไปฟังบรรยายอ.ปริญญาครับ
เตรียมจะไปแต่ติดเรื่องสุนัขทีบ้านเค้าป่วยหมอนัดไปให้น้ำเกลือ
เลยต้องอยู่ดูใจเค้าก่อน ตัวเค้าใหญ่ต้องเอารถไปส่งหมอครับ
เลยไม่ได้พบกันสักที แต่อยู่ๆก็มีโทรศัพท์ลึกลับ อิอิ
พี่เฉลยกับคุณขจรวรรณก็โทรมาคุยด้วย...พี่เฉลยเสียงเด็กมากๆ คุณขจรวรรณก็เสียงเล็กๆน่ารักครับ
อีกไม่นานคงได้พบกันสักวันล่ะครับ

 

อย่ากลับไปหายาลดความอ้วนอีกนะคะ.. เป็นห่วง เดี๋ยวเกิดมีผลข้างเคียงกับร่างกายเราในอนาคตแล้วจะลำบาก ยังงัยก็ต้องรักตัวเองไว้ก่อนก่อนจะไปรักคนอื่นนะจ๊ะน้องนก..
(b-ng)

 

ยินดีด้วยค่ะคุณJintawadee ที่สามารถค้นพบความเป็นเอกลักษณ์อันลุ่มลึกของตนเองได้ ขอให้พัฒนาต่อไปเพื่อเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ ในอนาคตเราอาจเจอกันในฝันก็เป็นได้ค่ะ.. อิอิ..
(b-smile)

 

ขอบคุณพี่นักเขียนมากๆครับ ขอน้อมรับคำพรของพี่นักเขียน
และนำคำพรนี้สู่พี่นักเขียนให้มีผลร้อยเท่าพันทวีนะครับ
(b-smile) [b-wai] [b-wai]

ชอบแว่นสีม่วงมากเลยครับ..สีม่วงเป็นสีที่โปรดปรานมาก พี่นักเขียนรู้ได้อย่างไรครับเนี่ย
(b-ng)

 

ดีใจครับที่คุณ mead บอกว่าเสียงเด็ก ถ้าเห็นตัวจริง ก็คงเหมือนคุณขจรวรรณรำพึง ว่า ทำไมไม่เห็นเหมือนในรูป ช่วงก่อนที่จะศึกษาหนังสือของอาจารย์อนาลัยคงคิดเเต่เรื่องอายุ เลยทำให้เซลล์มีความจำเรื่องอายุมาด้วย ตอนนี้กำลังเปลี่ยนความจำให้กับเซลล์ใหม่ ให้เหมือนในรูปที่อาจารย์นักเขียนท่านโพสให้ หน้าตาเหมือนตัวจริงตอน 30 เลยครับ

 

สงสัยคุณMead จะให้ที่อยู่ดาวอะไรเอ่ย.. มังคะ ไปรษณีย์เลยหาไม่เจอ ถ้าเอายานไปรับที่บ้านคุณจิตต์ ป่านนี้เอาไปนอนกอดแย้ววววว... อิอิ..
ถ้าคุณMead ได้เจอคุณเฉลยกับขจรวรรณแล้วอาจจะตกใจก็ได้นะคะ ก่อนเจอคุณเฉลยก็คิดประมาณว่าวันนี้ต้องได้เจอเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แน่ ๆ
แต่ปรากฏว่า.. เดี๋ยวให้คุณMead มาเจอเองดีกว่าค่ะ.. อาจมีเฮ.. ( แต่ยืนยันค่ะน้องนกว่าลูกชายหล่อมั่กมาก ๆ..)
ครอบครัวนี้น่ารักนะคะ เค้าทานเจกันทั้งบ้านเลยค่ะ ไม่มีใครน้อยหน้าใคร นับถือค่ะ.. นับถือ..
ฟังบรรยายไปก็รู้สึกตัวเหมือนถูกอาจารย์เน็บแนมอยู่ทุกครั้งเรื่องไม่ทานอาหารเจนี่ละค่ะ.. จะทำงัยดีเนี่ย..
ส่วนขจรวรรณก็.. คุณเฉลยเธอซ๊อก.. ไปเลยค่ะ.. อิอิ..
(b-wow)

 

จริงๆครับคุณ mead และเพื่อนนักเรียน ถ้าเจอคุณขจรวรรณ แล้วก็....ผิวพรรณเนี่ยผ่องสดใสยิ่งกว่าคนกินเจอีก
สงสัยงานสัมนาครั้งหน้ามีเพื่อนนักเรียนมากันตรึมแน่....ดูตัวคุณขจรวรรณ (น่าจะมีผลจากการฝึกสมาธินะ)