ถามปัญหาเรื่องภพภูมิสวรรค์และบุญหน่อยครับ

1.ถ้าเทวดาที่มีบุญมากแต่ว่าไม่สามารถไปอยู่ชั้นอื่นได้อาจเพราะไม่ได้บรรลุโสดาบันหรือได้ฌาณ แต่ให้ทานถือศีลเป็นอาจิณ เกิดเขามีบุญเยอะ สมมุติเขาไปอยู่ ยามาภูมิ ซึ่งมีอายุ 2000 ปีทิพย์ หรือ 144 ล้านปี ถ้าเกิดเขาหมดอายุไขตรง 2000 ปีทิพย์แล้ว จะสามารถเกิดที่ยามาที่เดิมได้หรือไม่ ??

2.บนสวรรค์เนี่ยผมเคยอ่านเจอว่ามีการละเล่น ไม่ต้องทำงาน สนุกสนาน ผมสงสัยหลายทีละการละเล่น ละเล่นอะไร สนุกสนานยังไง วิ่งไล่จับ ? ซ่อนแอบ ? หรืออย่างเล่นอะไรก็เล่นกับบริวารของเราได้ ??

3.แล้วถ้าสวรรค์ชั้น 4 ขึ้นไปไม่สามารถบรรลุโสดาบันหรือเกาะติดฌาณ 4 ได้เลย เขาก็ไปไม่ถึงตั้งแต่ชั้น ดุสิต-ปรินิมฯ ใช่ไหมครับ ผมเข้าใจถูกไหม ??

4.ปัจจุบันนี้พระอินทร์ยังเป็นองเดิมกับสมัยพระพุทธเจ้าไหมครับ แล้วพระแม่ธรณีมีชื่อว่าอะไรอยู่สวรรค์ชั้นไหน ??

ขอบคุณมากๆนะครับ

 

มันเป็นนิทานปรัมปราแต่งขึ้นไม่มีจริง อย่าไปคิดอะไรมาก ดูซิ คนตอบยังไม่มีเลยเพระตอบกันไม่ได้เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า

 

ลองหาอ่านจาก พระไตรปิฎก และ หนังสือของ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ดูก่อนครับท่าน บ้านเมืองมีขื่อมีแป นะครับ

เคยได้อ่านมาว่า เทวดาตกสวรรค์ เพราะทำผิดกฎ

ถ้ามีมนุษย์ทำผิดกฎสวรรค์ หรือ ทำเรื่องไม่สมควรทำ แล้วจะเป็นยังไง ใครรู้ช่วยตอบที

ถ้าอยู่ดีๆมีคนมาแอบดูบ้านเรา แล้วเอาเรื่องราวไปป่าวประกาศ คนๆนั้นต้องรับกรรมไหมนะ

แล้วต้องมีเจ้ากรรมนายเวรด้วยไหม ถ้าต้องโดนลงโทษจริงๆคงแย่

ถามก็คงโดน ตอบก็คงโดน สงสัย สงสัย สงสัย เอ มันต้องสงสัยกันขนาดนั้นเลยหรอ

 

เห็นด้วยกับคุณ hastin ครับ

พระไตรปิฏกจะตอบได้ดีที่สุดครับ

ต้องไม่ลืมน๊ะครับ..ศาสนาพุทธ

สืบทอดมา.. ๒๕๐๐ กว่าปีแล้วครับ

อะไรที่ไม่แท้ ไม่จริง ไม่ใช่คงจะสาบสูญ

ไปนานแล้วครับ.

 

ผมลองดูประวัติพระอินทร์ที่สมัยพระพุทธเจ้าเคยจุติแล้วเกิดใหม่เป็นพระอินทร์อีกครั้งนะครับ และของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เคนเขียนไว้ก็มีเรื่องหนึ่ง ที่ตายจากสวรรค์ชั้นนี้ไปอยู่อีกชั้นหนึ่งครับผม

 

1.ถ้าเทวดาที่มีบุญมากแต่ว่าไม่สามารถไปอยู่ชั้นอื่นได้อาจเพราะไม่ได้บรรลุโสดาบันหรือได้ฌาณ แต่ให้ทานถือศีลเป็นอาจิณ เกิดเขามีบุญเยอะ สมมุติเขาไปอยู่ ยามาภูมิ ซึ่งมีอายุ 2000 ปีทิพย์ หรือ 144 ล้านปี ถ้าเกิดเขาหมดอายุไขตรง 2000 ปีทิพย์แล้ว จะสามารถเกิดที่ยามาที่เดิมได้หรือไม่ ??
- สามารถแบบเกือบจะไม่สามารถ

2.บนสวรรค์เนี่ยผมเคยอ่านเจอว่ามีการละเล่น ไม่ต้องทำงาน สนุกสนาน ผมสงสัยหลายทีละการละเล่น ละเล่นอะไร สนุกสนานยังไง วิ่งไล่จับ ? ซ่อนแอบ ? หรืออย่างเล่นอะไรก็เล่นกับบริวารของเราได้ ??
- เล่นรำวง

3.แล้วถ้าสวรรค์ชั้น 4 ขึ้นไปไม่สามารถบรรลุโสดาบันหรือเกาะติดฌาณ 4 ได้เลย เขาก็ไปไม่ถึงตั้งแต่ชั้น ดุสิต-ปรินิมฯ ใช่ไหมครับ ผมเข้าใจถูกไหม ??
- อ่านไม่รู้เรื่อง

4.ปัจจุบันนี้พระอินทร์ยังเป็นองเดิมกับสมัยพระพุทธเจ้าไหมครับ แล้วพระแม่ธรณีมีชื่อว่าอะไรอยู่สวรรค์ชั้นไหน ??
- พระอินทร์คนละองค์ เรื่องของพระแม่ธาตุถามเองโดนเองดีกว่า

 

1.สามารถเกือบจะไม่สามารถคืออะไรอ่ะครับ ?
3.จะไปสวรรค์ชั้นดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี ได้ไหม ถ้าเป็นแค่ปุถุชนธรรมดา
4.- พระอินทร์คนละองค์ เรื่องของพระแม่ธาตุถามเองโดนเองดีกว่า <<< ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ

ขอบคุณครับ

 

ข้อที่ 1
อานิสงส์ การบวชพระ
ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนสวรรค์ได้ถึง 30 กัป ถ้าหากว่าทำจิตของตนเกือบเป็นฌาน ได้ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคนจะเกิดเป็นพรหม มีอายุอยู่ถึง 30 กัปเช่นเดียวกันอายุเทวดาหรือพรหมย่อมมีกำหนดไม่ถึง 30 กัป ก็หมายความว่า เมื่อหมดอายุแล้วก็จะเกิดเป็นเทวดาใหม่ เกิดเป็นพรหมใหม่อยู่บนนั้นไปจนกว่าจะถึง 30 กัปหรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้าพระนิพพานก่อน


สรุป จุติไปเรื่อยจนกว่าจะหมดบุญนั่นแหล่ะ อายุเทวดาเป็นแค่เศษเสี้ยวกัป ถ้าบุญมากไม่อยากไปนิพานก็ นั่งเล่น นอนเล่น เป็นกัปๆ

 

3.แล้วถ้าสวรรค์ชั้น 4 ขึ้นไปไม่สามารถบรรลุโสดาบันหรือเกาะติดฌาณ 4 ได้เลย เขาก็ไปไม่ถึงตั้งแต่ชั้น ดุสิต-ปรินิมฯ ใช่ไหมครับ ผมเข้าใจถูกไหม ??

คำถามนี้คำถามผิดน่ะ ถ้าได้ฌาณ เพียงแค่ปฐมฌาณก็ได้พรหมแล้ว
แต่ถ้าได้ฌาณ แต่ตอนตายไม่ได้เข้าฌาณ ก็เลือกเอาครับอยากไปอยู่ชั้นไหนก็ได้ เช่น

พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสารท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว


คนปุถุชนธรรมดา ไปสวรรค์ชั้นดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี ได้ไหม
ได้ครับ แต่ต้องทำบุญสั่งสมบารมีอย่างมาก เพราะบุญที่เกิดจากทานและศีลน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเจริญภาวนา
จำไว้ครับ อธิษฐานบารมีช่วยได้ ทำบุญทุกครั้งจะมากจะน้อย อธิษฐานบารมีตลอด เช่นกรณีนางปฏิปูชิกา(บูชาผัว) ภรรยาของ มาลาภารีเทพบุตร

 

ขอบคุณท่าน pongio มากๆเลยครับได้ความรู้เยอะจริงๆ

แล้วข้อ 2. เทวดาเขาไม่ได้มีความสุขด้วยการรำวงกันใช่ไหมครับ ท่าน ?

 

ถ้าจะเปรียบเทียบความสุขในมนุษยโลก กับความสุขบนสรวงสวรรค์ในเทวภูมิแล้ว ห่างไกล กันเหมือนฟ้ากับดิน พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ในวิตถตสูตร คัมภีร์อังคุตตรนิกาย อัฏฐนิบาต ว่า “ ราชสมบัติของมนุษย์ เป็นเหมือนสมบัติของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ในสรวงสวรรค์ ” หมายความว่า ถึงจะเกิดเป็นราชาพระมหากษัตริย์ หรือพระเจ้าจักรพรรดิ เสวยสุขอยู่ในราชสมบัติ เมื่อเทียบความสุขในเทวภูมิแล้ว ก็เทียบได้กับสมบัติของคนกำพร้า ซึ่งแทบจะไม่มีสมบัติอะไรติดตัวเลย ความพิเศษของเทวโลก เทวภูมิ หรือ เทวดานั้น มีอะไรที่ไม่เหมือนกับมนุษย์มี เช่น เทพบุตรเทพธิดาทุกคนในสรวงสวรรค์ ไม่มีคนแก่อย่างเมืองมนุษย์ มีแต่หนุ่มสาวเหมือนกันหมด เทพธิดาจะมีอายุราว ๑๖ ปี ส่วนเทพบุตรก็จะมีอายุราว ๒๐ ปี เหมือนกันหมดทุกคน จึงไม่มีคนแก่ในสรวงสวรรค์ ทุกอย่างจะเป็นทิพย์หมด เช่น อาหาร วิมาน ร่างกาย ซึ่งเราจะมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ เรียกว่า อทิสสมานกาย การเกิดขึ้นของเทวดาในสรวงสวรรค์ ไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ หรือครรภ์ของมารดาอย่างมนุษย์ เป็นการลักษณะของ โอปปาติกกำเนิด เมื่อเกิดขึ้นจะโตเป็นหนุ่มเป็นสาวทันที

 

1.สามารถเกือบจะไม่สามารถคืออะไรอ่ะครับ ?
หมายความว่าใครจะสวดมนต์ต่อเนื่องขนาดไปเกิดชั้นยายามสองชาติรวด
3.จะไปสวรรค์ชั้นดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี ได้ไหม ถ้าเป็นแค่ปุถุชนธรรมดา
ได้ แต่วิธีไปชั้นปรนิมไม่บอกเด็ดขาด
4.- พระอินทร์คนละองค์ เรื่องของพระแม่ธาตุถามเองโดนเองดีกว่า <<< ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ

ก็พระอินทร์องค์ปัจจุบันเป็นคนละองค์กับสมัยพุทธกาล แล้วก็การถามชื่อผู้ใหญ่ มันเสียมารยาทมาก อยากรู้ถามเอาเองเถอะ

 

ไม่ได้มีความสุขด้วยการรำวง แต่คุณถามว่ามีการละเล่นอะไร มีสติหน่อย

 

ปรนิมมิตวสวัตดีภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ ๖ ที่มีความสุขความสำราญ มีความเพลิดเพลินในกามคุณทั้ง ๖ เป็นอย่างยิ่ง เมื่อปรารถนาเสวยกามคุณเมื่อใด เทวดาองค์อื่นรู้ใจคอยปรนนิบัติ โดยเนรมิตให้ตามความต้องการ

เทวดาในชั้นปรนิมมิตวสวัตดีภูมินี้ ทั้งเทวดาที่เป็นเทพบุตรและเทพธิดา เวลาใดที่ปรารถนาจะเสวยในกามคุณ ก็มีเทวดาที่รู้ใจเนรมิตให้ เมื่อได้เสวยกามคุณสมความปรารถนาแล้ว สิ่งที่เนรมิตมาก็จะสิ้นไป เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี จึงไม่มีคู่ครองประจำเหมือนกับเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ ดาวดึงส์ ยามา และ ดุสิตา

กล่าวโดยสรุปน่ะ ถ้าคุณมีความสุขกับสิ่งต่างๆ โดยมีระยะเวลาที่แทบจะเรียกว่าไม่จำกัด คุณมีอาหารอร่อย มีเครื่องแต่งกายสวยๆ มีข้าทาส ไม่มีโรคภัย มีแต่หน้าตาที่งดงาม ด้วยวันเวลาที่ว่าง คุณก็จะหาอะไรเล่นไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งนั้นเขาก็เรียกโดยรวมว่าการละเล่น เช่นการเก็บดอกไม้ (คุณอย่าคิดว่าไม่มีความสุขน่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นสุขหมดแล้ว ดอกไม้ก็หอมมาก เมียก็สุดสวย ดังนี้

เรื่องมีอยู่ว่า นางปติปูชิกา(แปลว่า หญิงผู้บูชาสามี) อยู่ที่กรุงสาวัตถี นางแต่งงานเมื่ออายุ 16 ปี และมีบุตร 4 คน นางเป็นหญิงที่มีคุณธรรม ใจบุญใจกุศล ชอบถวายภัตตาหารและปัจจัยอย่างอื่นๆแก่พระภิกษุสงฆ์ นางมักจะเข้าไปในวัดและช่วยทำความสะอาดบริเวณวัด ตักน้ำใส่ตุ่ม ทำหน้าที่ให้บริการแก่พระภิกษุสงฆ์ นางมีพรสวรรค์พิเศษที่ติดตัวมาแต่กำเนิดอย่างหนึ่งคือ สามารถระลึกชาติได้ว่า ในชาติก่อนนางเคยเป็นนางเทพธิดา เป็นภรรยาคนหนึ่งของมาลาภารีเทพบุตร ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นางระลึกได้ว่านางจุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อนางเทพธิดาผู้เป็นบริวารของเทพองค์ดังกล่าวมาเที่ยวกันอยู่ในสวน และสนุกสนานอยู่กับการหักกิ่งไม้และเด็ดดอกไม้ เป็นต้น ดังนั้นทุกครั้งที่นางถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์นางก็ได้อธิษฐานจิตขอให้ไปเกิดเป็นนางเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และได้กลับไปเป็นภรรยาของมาลาภารีเทพบุตรอดีตสามีของนางดังเดิม

 

สติผมไม่ได้หายไปไหนซะหน่อย ><

ก็แค่มาถาม เพราะอยากรู้ แค่ถามอะไรที่มันลึกๆลงไป อย่านอยสิครับ

 

ขออนุญาติใช้กระทู้ท่า Sir-Pai หน่อยนะครับ

ท่าน samnido ครับ พออธิบายการเข้าถึง อากิญจัญญายตนะ กับ เนวสัญญานาสัญญา

ยตนะ ได้ไหมครับ ถ้าตอบที่นี่ไม่สะดวก ขอเป็น pm ก็ได้ครับ

ขอบคุณครับ

 

ในกระทู้นี่แหละครับท่าน

ผมเคยฝึกถอดจิต เพ่งกสิณแทบตาย บอกตรงๆยากมาก

ช่วยอธิบายหน่อยทำยังไง แล้วเห็นอะไรบ้างครับ

 

ตอบสะดวกมากครับ
ทำไม่เป็นครับ จบ

 

เวลาไม่จำกัดมีที่พระนิพพานแห่งเดียว

 

ทำให้มันสบาย ทำให้มันเป็นกิจวัตร แค่นั้นแหละ
เพ่งแทบตายนั่นเอาลูกกะตาเพ่งแล้วมั้ง
เห็นอะไรก็แล้วแต่คน แต่คุณน่ะ เห็นพระแม่ธาตุชัวร์
เวลาฝึกอย่าไปอยากมากก็แล้วกัน
ก่อนฝึกอยากซะให้พอเลย